- Details
- Category: การเมือง
- Published: Wednesday, 30 July 2014 16:23
- Hits: 5222
วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8645 ข่าวสดรายวัน
คสช.โละ! 3 กองทุน-หมื่นล้าน โยกงบให้กยศ. 'ประจิน'รับทอ. ได้สนช.20 ที่นั่ง กกต.ยืด'ปู'แจง ปมทัวร์นกขมิ้น
แนบแน่น - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคสช. จับมือต้อนรับพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯและรมว.กลาโหมกัมพูชา ซึ่งเดินทางเข้าเยี่ยมคำนับที่บก.ทบ. พร้อมยืนยันสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่าง 2 ประเทศ เมื่อวันที่ 29 ก.ค. |
คสช.สั่งยุบ 3 กองทุนเอสเอ็มแอล-ช่วยเหลือผู้ประกอบกำรหมู่บ้าน-โครงการพัฒนาเมือง โยกงบฯเข้า'กยศ.''บิ๊กตู่'แจงที่ประชุมโรดแม็ประยะ 2 ได้ครม.ชุดใหม่เดือนก.ย. โยนรัฐบาลใหม่พิจารณาโยกย้ายข้าราชการ'บิ๊กจิน'เผยเอง ทอ.ได้โควตาสนช. 20 ที่นั่ง ปัดตอบนั่งเก้าอี้รมว.คมนาคม เลขาฯ กกต.ยันสปช. 250 คน ได้ชื่อครบใน 2 ต.ค. กกต.เลื่อนเวลา'ปู-7 รมต.' ชี้แจง'ทัวร์นกขมิ้น'ศาลอุทธรณ์ยกคำร้อง'พุทธอิสระ'ขอถอนหมายจับ จับเพิ่ม 2 มือบึ้มถนนบรรทัดทอง ศาลให้ประกันบ.ก.ลายจุด
คสช.คัดร่างกฎหมายส่งสนช.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคสช.ชุดใหญ่ ครั้งที่ 8/2557 มี ผบ.เหล่าทัพในฐานะรองหัวหน้า คสช. และปลัดกระทรวงกลาโหมซึ่งดูแลเรื่องการปฏิรูป นอกจากนี้ยังมีข้าราชการแต่ละกระทรวงเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
โดยมีวาระพิจารณาเรื่องสำคัญหลายเรื่อง ประกอบด้วย การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) 12 ฉบับที่ฝ่ายกฎหมายเเละกระบวน การยุติธรรม เสนอให้พิจารณาก่อนส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ดำเนินการต่อเพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันที อาทิ ร่างพ.ร.บ.ประกันสังคม ร่างพ.ร.บ.กรมการขนส่งทางบก ร่างพ.ร.บ.คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง การขยายเวลาผ่อนผันให้แรงงานต่างด้าวอยู่ในไทยเพื่อพิสูจน์สัญชาติ การกำหนดนำเข้าสินค้าบางประเภท การให้กระทรวงการต่างประเทศเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มแม่น้ำโขงกับสาธารณรัฐเกาหลี การแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยซ่อมแซมถนนที่ชำรุดในหมู่บ้าน การขยายต่ออายุการให้บริการรถเมล์และรถไฟฟรี
บิ๊กตู่ ชี้เดือนก.ย.มีครม.ใหม่
พล.อ.ประยุทธ์ชี้แจงที่ประชุมถึงภาพรวมการทำงานของ คสช.ว่า กำลังเข้าสู่ระยะที่ 2 ของโรดแม็ป เป็นเรื่องการตั้ง สนช.เพื่อสรรหานายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี เชื่อว่าจะมีรัฐมนตรีเข้าบริหารประเทศในเดือนก.ย.นี้อย่างแน่นอน ส่วนงานด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม รวมถึงงานด้านความมั่นคงถือว่ามีความสำคัญมากที่สุดในขณะนี้ โดยคสช.จะศึกษารายละเอียดของรัฐธรรมนูญชั่วคราวให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ในการวางกรอบแนวทางบริหารราชการแผ่นดินต่อไป และสั่งการให้แต่ละส่วนงานของ คสช.สรุปประเมินผลการดำเนินงานทุกรอบ 3 เดือนเพื่อเตรียมการบูรณาการประเทศทุกด้านในระยะยาวต่อไปด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงการพิจารณา คัดสรรข้าราชการในแต่ละกระทรวงในช่วงนี้ด้วยว่า ขอให้แต่ละกระทรวงอย่ากังวล ขอให้ส่งมาให้พิจารณาตามขั้นตอน จากนั้นจะให้ครม.ใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศพิจารณาอีกครั้ง ยืนยันจะทำด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรมมากที่สุด
หัวหน้า คสช. กล่าวว่า ขอให้เร่งรัดมีการติดตามช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน ซึ่งมีการร้องเรียนผ่าน คสช.กว่า 2 หมื่นเรื่อง คสช.แก้ไขไปแล้วกว่าหมื่นเรื่อง เหลืออีกพียง 2-3 พันเรื่องก็จะเร่งดำเนินการแก้ไขให้ ยืนยันว่า คสช.ใช้หลักในการแก้ไขปัญหาด้วยเหตุและผลเพื่อบรรเทาผลกระทบ
หลังมีนายกฯต้องเร่งสปีดงาน
เวลา 16.00 น. ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก และทีมโฆษกคสช. แถลงผลการประชุมคสช.ว่า พล.อ.ประยุทธ์แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงการขับเคลื่อนงานเมื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งสนช.ทั้ง 220 คนแล้ว กระบวนการจะเดินหน้าตามขั้นตอนที่วางกรอบเวลาไว้แล้วคือ เรียกประชุมสนช.เพื่อเลือกนายกฯ ซึ่งที่ประชุมไม่ได้ลงในรายละเอียดของตัวบุคคลที่จะเข้ามาเป็นนายกฯ ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่โรดแม็ปในระยะที่ 2 มีนายกฯแล้ว หน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละฝ่ายทั้งความมั่นคง ฝ่ายเศรษฐกิจ ฝ่ายสังคมและจิตวิทยา ฝ่ายกฎหมายและกระบวนยุติธรรม จะต้องรวบรวมข้อมูลการทำงานของแต่ละฝ่ายทั้งเรื่องสังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคง ที่ดำเนินการไปแล้ว โดยบางส่วนเป็นเรื่องเร่งด่วน เช่น ปัญหาแรงงาน และส่งต่อข้อมูลเหล่านี้ให้สภาการพัฒนาเศรษฐกิจและการเมือง และสำนักงบประมาณไปพิจารณาเรื่องการใช้งบและเสนอข้อมูลให้รัฐบาลดำเนินการต่อไป
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ กล่าวว่า หัวหน้าคสช.กำชับให้เร่งดำเนินการโดยเร็ว อาทิ กฎหมายที่ปลดล็อกเรื่องการค้าการลงทุนต่างประเทศ เพื่อไม่ให้ประเทศเสียเปรียบในเรื่องการค้ากับต่างประเทศ
ยกเลิกกองทุนเอสเอ็มแอล
ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ ทีมโฆษกคสช. เผยว่า ที่ประชุมคสช.เห็นชอบให้ยกเลิกการดำเนินงานของกองทุนตามนโยบายของรัฐบาล ในปีงบประมาณ 2557 วงเงินรวม 9,925 ล้านบาท คือโครงการพัฒนาศักยภาพของหมู่บ้าน (เอสเอ็มแอล) วงเงิน 5,700 ล้านบาท กองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการในหมู่บ้านและชุมชน วงเงิน 3,000 ล้านบาท และโครงการพัฒนาเมือง วงเงิน 1,225 ล้านบาท โดยกองทุนเอสเอ็มแอลและกองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการฯนั้น ให้นำเงินไปใช้ในกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) แทน
ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า ในส่วนของกองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่ประชุมสั่งให้ชะลอการจัดสรรงบประมาณในปี 2557 จำนวน 596 ล้านบาทไว้ก่อน ให้โยกย้ายเงินให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีแทน ขณะที่กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ให้ย้ายสำนักงานไปอยู่ที่กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย และให้กระทรวงมหาดไทยไปพิจารณาว่าจะดำเนินงานต่อ หรือยุบไปรวมกับภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน เช่นเดียวกับสภาเกษตรกร ซึ่งคสช.ให้ย้ายไปอยู่ที่กระทรวงเกษตรฯ และให้พิจารณาว่าจะดำเนินงานต่อ หรือยุบรวมกับภารกิจของกระทรวงเกษตรฯ โดยให้เสนอข้อสรุปมาให้คสช.เห็นชอบอีกครั้ง
เดินหน้ากองทุนหมู่บ้าน
ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า หัวหน้าคสช.กำชับในที่ประชุมและให้ความสำคัญกับการดำเนินงานกองทุน ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักเลขาธิการนายกฯ โดยเฉพาะเรื่องการใช้เงินในกองทุนต่างๆ จะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่า เกิดประโยชน์ และยังต้องบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์กับประชาชนในระดับรากหญ้าด้วย
ทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า ส่วนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ประชุมเห็นชอบให้ดำเนินงานต่อไป เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ขณะเดียวกันจากผลการประเมินตั้งแต่เริ่มจัดตั้งกองทุนมา 14 ปี พบว่ากองทุนกว่า 30-40 เปอร์เซ็นต์ มีศักยภาพและดำเนินการได้ในระดับดีขณะที่กองทุนฯ อีก 50-60 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในระดับปานกลาง ส่วนกองทุนที่มีปัญหาต้องติดตามแก้ไขมีไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์ จากรายงานของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย พบกองทุนมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไม่เกิน 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
เผยสถานะแต่ละกองทุน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานะกองทุนหมู่บ้านฯ วันที่ 23 มิ.ย.2557 ก่อนปีงบประมาณ 2547 มีงบประมาณสะสมคงเหลือรวม 26,543 ล้านบาท แยกเป็นงบบริหารจัดการ 806 ล้านบาท โครงการเพิ่มทุนกองทุนฯ 25,737 ล้านบาท, ปีงบประมาณ 2557 ได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณบริหารจัดการกองทุนฯ 307 ล้านบาท สุดท้ายเป็นเงินกองทุนสะสมคงเหลือ 34,183 ล้านบาท
โครงการพัฒนาเมือง ข้อมูลล่าสุดในปีงบประมาณ 2555-2557 มีงบประมาณคงเหลือ 966 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2557 ได้รับการจัดสรร 1,900 ล้านบาท แยกเป็นการสนับสนุนงบประมาณให้กับผู้เสนอโครงการ 1,488 ล้านบาท งบบริหารโครงการ 412 ล้านบาท โดยมีโครงการที่เสนอขอรับการจัดสรรเงินรวม 1,067 โครงการ วงเงิน 1,628 ล้านบาท อนุมัติไปแล้ว 41 โครงการ วงเงิน 67 ล้านบาท คงเหลือโครงการที่รอการพิจารณา 1,026 โครงการ วงเงิน 1,560 ล้านบาท
กองทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการ ในปีงบประมาณ 2557 ได้รับการจัดสรรงบ 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบบริหารจัดการ 80 ล้านบาท สนับสนุนอาชีพ และการประกอบการ 320 ล้านบาท และเงินอุดหนุนกลุ่มผู้ประกอบการ 2,600 ล้านบาท, กองทุนส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์โดยก่อนปีงบประมาณ 2557 มีงบประมาณสะสมคงเหลือ 44 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2557 ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 596 ล้านบาทแบ่งเป็น งบบริหารจัดการ 9 ล้านบาท และเงินอุดหนุนผู้ประกอบการ 500 ล้านบาทโดยมีเงินกองทุนสะสมคงเหลือ 641 ล้านบาท
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ก่อนปี งบประมาณ 57 มีงบสะสมคงเหลือ 417 ล้านบาทแบ่งเป็น งบบริหารจัดการ 39 ล้านบาท และดำเนินภารกิจยุทธศาสตร์ 378 ล้านบาท ปีงบประมาณ 57 ได้รับการจัดสรรงบ 2,031 ล้านบาท แบ่งเป็น งบบริหารจัดการ 231 ล้านบาท และดำเนินภารกิจยุทธศาสตร์ 350 ล้านบาท และจัดสรรให้จังหวัดและกรุงเทพฯ 1,450 ล้านบาท และเงินกองทุนสะสมคงเหลือ 2,411 ล้านบาท สุดท้ายเป็นสภาเกษตรกรปีงบประมาณ 56 มีงบคงเหลือ 101 ล้านบาทปีงบประมาณ 57 ได้รับการจัดสรรงบ 488 ล้านบาท
จับอาวุธ - พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชามทภ.3 แถลงผลกวาดล้างอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฎหมายช่วงระหว่างวันที่ 22 พ.ค.- 29 ก.ค. ตามนโยบายคสช. ที่กองทัพภาคที่ 3 เมื่อวันที่ 29 ก.ค. |
มท.ชงแต่งตั้งซี 10
รายงานข่าวจากกระทรวงมหาดไทย แจ้งว่า ภายในสัปดาห์นี้ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย จะนำรายชื่อการแต่งตั้งข้าราชการประเภทบริหารระดับสูง ประ กอบด้วยรองปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ตรวจราชการกระทรวงและผู้ว่าฯ เสนอต่อพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ฐานะหัวหน้า คสช. โดยในปี 2557 มีข้าราชการเกษียณอายุราชการในตำแหน่งดังกล่าว 20 ราย และมีข้าราชการระดับ 10 คือม.ล.ปนัดดา ดิศกุล อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายภาณุ อุทัยรัตน์ อดีตผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ออกไปกินตำแหน่งซี 11 ในตำแหน่งปลัดสำนักนายกฯ และเลขาธิการ ศอ.บต.ตามลำดับ จึงมีตำแหน่งในระดับ 10 ที่ว่างเพิ่มขึ้นอีก 2 ตำแหน่ง ดังนั้น นายวิบูลย์จะนำเสนอรายชื่อ 22 ตำแหน่งดังกล่าวกับ หัวหน้าคสช.เพื่อพิจารณา
'บิ๊กจิน'ไม่รู้นั่งรมว.คมนาคม
ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้าคสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ เผยว่า ในที่ประชุม คสช.เศรษฐกิจ อนุมัติกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่ง แบ่งเป็นกรอบ 5 ด้าน และให้ไปทำรายละเอียดแผนงาน หากมีความชัดเจนให้ประสานกับสำนักงบประมาณ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนผ่านการอนุมัติของแต่ละแผนงานต่อไป ทั้งนี้ การทำงานของฝ่ายเศรษฐกิจช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ แต่ได้จัดทีมงานเพื่อดำเนินการปฏิรูปต่อไป ซึ่งจะดำเนินการในช่วงตั้งครม.เรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องที่จะต้องแก้ไขเฉพาะหน้า จะสรุปให้หัวหน้า คสช.พิจารณาอีกครั้ง
เมื่อถามว่า จำเป็นต้องสานงานต่อใน ตำแหน่งครม.หรือไม่ พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า การดำเนินการต่อเนื่องจะเป็นลักษณะการติดตามผลงาน ถ้าหากทำงานในหน้าที่ คสช.เพื่อเชื่อมโยงเพิ่มเติมข้อมูลที่ได้รับ เพื่อให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องในเรื่องปฏิรูปได้ทำงานต่ออย่างชัดเจน คิดว่าจะเป็นลักษณะประสานงานมากกว่า ส่วนที่มองว่าตนจะได้เป็นรมว.คมนาคม มันอาจเร็วไปและยังไม่ทราบ อยากขอเวลาให้ สนช.ทำหน้าที่ก่อน
ทอ.ได้โควตาสนช. 20 เก้าอี้
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวว่า ขณะนี้ในส่วนของ สนช.ได้เตรียมการขั้นต้นแล้วและยังไม่ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อม ส่วนของกองทัพอากาศแบ่งเป็น 2 ชุด ชุดแรก 10 คน ได้ส่งประวัติไปเรียบร้อย ส่วนชุดที่สองจะมีเพิ่มเติมหรือไม่ให้รออีก 1-2 วัน ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าจะได้กี่คน 10 คนแรกที่ผ่านการพิจารณาจาก คสช. เป็นทหารที่เป็นส่วนที่อยู่ในประจำการของกองทัพอากาศ คุณสมบัติของผู้ที่จะเป็น สนช.นั้น หัวหน้า คสช.พูดชัดเจนแล้วว่าสนช.จะดูในแง่ของสภานิติบัญญัติ และมีความรู้ความเข้าใจ เพราะสนช.เป็นองค์กรที่ทำให้เกิดรัฐบาลและต้องทำงานควบคู่ทั้ง 4 ฝ่าย คือ สนช. รัฐบาล สปช. และ คสช.
เมื่อถามว่า จำนวน สนช. 220 คน จะแบ่งโควตากันอย่างไร พล.อ.อ.ประจินกล่าวว่า เหล่าทัพอื่นตนไม่ทราบ แต่กองทัพอากาศได้โควตา 20 คน ส่งรายชื่อไปแล้วและได้ผ่านการพิจารณาจากหัวหน้า คสช.แล้ว 10 คน ส่วนชุดที่สองอีก 10 คนจะได้หรือไม่ ยังไม่ทราบ ทั้งหมดที่ส่งไปมีความถนัดในเรื่องการบริหารและดูแลในทุกด้าน เกี่ยวกับข้อกฎหมายบ้าง คสช.ร้องขอทุกเหล่าทัพให้จัดส่งนายทหารเข้ามาร่วมคัดเลือกเป็น สนช. รายชื่อที่จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมจะเต็ม 220 คนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับหัวหน้า คสช. แต่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวระบุว่าไม่เกิน 220 คน ส่วนโควตาคนนอกนั้น หัวหน้า คสช.เป็นผู้ดูแล
พล.อ.อ.ประจิน กล่าวถึงกรณีแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารประจำปีของทอ.ว่า ยังเหมือนเดิมคือต้องให้เสร็จก่อน 15 วันที่จะเกษียณอายุราชการ แต่ปีนี้จะมีการนัดพูดคุยกันอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่ได้กำหนดเวลาพูดคุยกันอย่างชัดเจน
ทูลเกล้าฯสนช. 31 ก.ค. -3 ส.ค.
แหล่งข่าว คสช. กล่าวถึงการจัดตั้งสนช.ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เน้นย้ำว่าการแต่งตั้งบุคคลเป็น สนช. ต้องเป็นผู้ที่มีความรู้มีความสามารถ มาจากหลายแขนง ซึ่งโควตาทหารมีจำนวนมากพอสมควร น่าจะประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวน สนช. ทั้งหมด โดยมีทั้งนายทหารที่อยู่ในและนอกราชการ เนื่องจากคนที่จะมาเป็น สนช. ต้องปฏิบัติงานได้ทั้งเป็น ส.ส. ส.ว. และสมาชิกรัฐสภา และทั้ง 3 องค์ประกอบนี้มีหน้าที่พิจารณาผ่านกฎหมายสำคัญ โดยเฉพาะกฎหมายพิเศษ
แหล่งข่าวคสช. กล่าวว่า หัวหน้า คสช.จึงให้ความสำคัญต่อการคัดเลือกตัวบุคคลเข้ามาเป็น สนช.อย่างมาก เพราะการจัดตั้ง สนช. ถือเป็นหัวใจสำคัญ เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะมารองรับสภาปฏิรูปประเทศ จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียดและรอบคอบ คัดจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ จะคาดว่าหัวหน้า คสช.จะนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมในช่วงวันที่ 31 ก.ค. - 3 ส.ค. นี้
ได้ชื่อสปช.ครบใน 2 ต.ค.
เวลา 16.40 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. กล่าวกรณีไปพบ พล.อ. ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช.ว่า มีการหารือซักซ้อมถึงการปฏิบัติในการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่กกต.ทำหน้าที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสรรหา รวมถึงแนวทางประชาสัมพันธ์เพื่อให้องค์กรนิติ บุคคลเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็นสปช.เข้ามาให้มาก โดยกกต.นำเสนอถึงแผนปฏิบัติงาน ซึ่งสำนักงานวางกรอบการทำงานแต่ละขั้นตอนไว้หมดแล้ว เพียงแต่รอร่างพ.ร.ฎ. ว่าด้วยการสรรหาสปช. ประกาศให้มี ผลบังคับใช้
นายภุชงค์กล่าวว่า จากนั้น คสช.จะแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหารวม 11 คณะ และกกต.จะเริ่มเปิดให้องค์กรนิติบุคคลเสนอชื่อ ผู้เหมาะสมเป็นสปช. คาดว่าจะเป็นช่วงกลางเดือนส.ค. และจะใช้เวลา 20 วัน จากนั้นอีก 10 วันจะเป็นการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อ และอีก 10 วันเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสรรหาที่จะสรรหา ก่อนส่งให้คสช.คัดเลือกและแต่งตั้งต่อไป กระบวนการทั้งหมดน่าจะใช้เวลา 55-60 วัน และภายในวันที่ 2 ต.ค. จะได้ชื่อสปช.ทั้ง 250 คน
สิทธิประโยชน์เท่าส.ส.-ส.ว.
นายภุชงค์ กล่าวว่า จากการหารือ คสช.มีเจตนาให้องค์กรนิติบุคคลเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็นสปช.ให้มาก จึงไม่จำกัดว่าองค์กรนิติ บุคคลต้องก่อตั้งมาแล้วกี่ปี เพียงแต่เป็นองค์กรที่จดทะเบียนตามกฎหมายเท่านั้น รวมทั้งผ่อนปรนให้กับพรรคการเมืองเสนอชื่อ ผู้เหมาะสมเป็นสปช. โดยให้หัวหน้าพรรคเสนอชื่อบุคคลได้เลยโดยไม่ต้องจัดประชุมพรรคเหมือนองค์กรนิติบุคคล
นายภุชงค์ กล่าวว่า สิทธิประโยชน์ของ ผู้เป็นสปช. จะเหมือน ส.ส. ส.ว. และสมาชิกสนช.ในอดีต เช่น ได้รับเงินเดือน เงินค่าตอบแทน เครื่องราชอิสริยาภรณ์ สิทธิประโยชน์ในการเดินทางทั้งในและนอกประเทศ รวมทั้งสามารถแต่งตั้งผู้ช่วยปฏิบัติงานได้ โดยสปช.มีเวลาปฏิบัติงาน 1 ปี ส่วนการประชาสัมพันธ์การสมัคร คสช.ให้ กกต.ใช้งบประมาณที่เหลือจากการเลือกตั้งส.ส. ครั้งก่อน และยังสั่งการให้วิทยุแห่งประเทศไทยและวิทยุในเครือข่ายทหารช่วยประชาสัมพันธ์อย่างเต็มที่
กกต.ส่งหนังสือแจ้งปู-8 บิ๊กพท.
นายภุชงค์แถลงหลังการประชุมกกต. ด้วยว่า ที่ประชุมรับทราบกรณีคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนของกกต. มีมติเอกฉันท์แจ้งข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับพวกรวม 9 คน ว่ากระทำการขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้ง จากการไปตรวจราชการในพื้นที่ต่างๆ ระหว่างมีพ.ร.ฎ. เลือกตั้ง 2 ก.พ. มีการใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบในเลือกตั้ง แต่ขณะนี้สำนวนยังอยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมการสืบสวน กกต.จึงเพียงรับทราบถึงความก้าวหน้าเท่านั้น
นายภุชงค์ กล่าวว่า เลขานุการคณะกรรมการแจ้งให้ตนทราบว่า มีหนังสือส่งถึงผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 9 คนแล้วและมี 2-3 คน ซึ่งไม่แน่ใจว่าในจำนวนนี้มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยหรือไม่ ที่ขอขยายเวลาการยื่นเอกสารหลักฐานและการเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ที่กกต.ขยายเวลาไปเบื้องต้น 15 วัน ขณะที่บางรายยังติดต่อไม่ได้ บางรายอ้างว่าหาข้อมูลไม่ทัน ในทางปฏิบัติหากครบ 15 วันแล้วคณะกรรมการสืบสวนจะพิจารณาว่าข้อมูลที่ได้รับเพียงพอหรือไม่ หรือจำเป็นต้องขยายเวลาให้กับผู้ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงให้ครบถ้วน ก็จะอนุญาตให้ขยายเวลาชี้แจงได้เพิ่มอีก แต่คณะกรรมการสืบสวนก็ระวังว่าผู้ถูกกล่าวหาจะใช้เรื่องการชี้แจงมาประวิงเวลา หากพิจารณาแล้วเห็นว่าข้อมูลเพียงพอก็จะสั่งยุติและเริ่มพิจารณาพร้อมมีมติ ก่อนเสนอความเห็นมายังกกต.พิจารณาต่อไป โดยคณะกรรมการสืบสวนจะรอคำชี้แจงของผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดให้ครบถ้วนก่อน เพราะเป็นเรื่องที่อยู่ในสำนวนเดียวกัน ก่อนจะสรุปและมีมติเสนอต่อกกต.
จับอีก - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร.แถลงจับกุมนายณัฐพรรณ์ บางล้า 1 ใน 4 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับในคดีมีอาวุธ สงครามและฝ่าฝืนประกาศคสช. ที่บช.ภ.1 เมื่อวันที่ 29 ก.ค. |
ยิ่งลักษณ์ขอเลื่อนชี้แจง
นายพิชิต ชื่นบาน คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงคณะกรรม การสืบสวน กกต. มีมติดำเนินการทางกฎหมายปมทัวร์นกขมิ้นของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า เรื่องนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมชี้แจง ก่อนหน้านี้ กกต.ทำหนังสือถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาชี้แจงก็ให้ยื่นหนังสือไปชี้แจงได้ หนังสือดังกล่าวมาถึง ก่อนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปต่างประเทศเพียง 1 วัน เมื่อดูจากเรื่องที่กล่าวหาจะต้องตรวจสอบพยานบุคคลและพยานเอกสารจำนวนมาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงทำเรื่องขอเลื่อนการยื่นเอกสารออกไป 15 วัน หลังกลับจากต่างประเทศ ซึ่งกกต.อนุมัติแล้ว
นายพิชิต กล่าวว่า ทั้งนี้ กกต.อย่าเพิ่งด่วนชี้นำความผิดจนนำไปสู่การโยงว่าต้องไปยุบพรรค เพราะต้องทำความเข้าใจว่าฝ่ายบริหารกับฝ่ายการเมืองทำงานแยกกัน น.ส. ยิ่งลักษณ์มีหลักฐานว่าไม่ได้ใช้เงินและ เจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อทัวร์นกขมิ้น และไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ชี้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปหาเสียง หรือไปกล่าวในเชิงหาเสียงที่จังหวัดใดเลย นอกจากนี้ การเลือกตั้งที่ผ่านมาไม่ได้มีบรรยากาศการแข่งขันทางการเมือง เพราะพรรคใหญ่ที่เป็นคู่แข่งไม่ได้ลงสมัคร ขณะที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศจุดยืนตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ช่วยพรรคหาเสียง และพรรคก็ไม่เคยขอให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปช่วยหาเสียง อย่างไรก็ตาม อยากให้ผู้ใหญ่ของกกต. ช่วยปรามกกต.คนหนึ่งที่ออกมาชี้นำให้สงบปากสงบคำด้วย เพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมชี้แจงและแสดงหลักฐานทั้งหมด ขอให้ กกต.คำนึงถึงประกาศของ คสช. ฉบับที่ 63 เรื่อง ให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมทางกฎหมายอย่างเสมอภาคและเท่าเทียมด้วย
ยันปูไม่เลื่อนกลับไทย
นายสิงห์ทอง บัวชุม คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระเเสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอขยายเวลาเดินทางกลับประเทศล่าช้ากว่ากำหนดเดิมคือวันที่ 10 ส.ค.ว่า เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพียงแต่พูดในหลักการว่า ถ้าหากน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีภารกิจจำเป็นก็อาจชี้เเจงเหตุผลแล้วมอบอำนาจให้คนที่อยู่ในประเทศนำไปยื่นต่อคสช. อธิบายตามหลักการ แต่ขณะนี้ยังไม่มีการขอเลื่อนเป็นไปตามกำหนดการเดิม น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเดินทางกลับไทยวันที่ 10 ส.ค. มั่นใจว่ากลับมาสู้คดีแน่นอน
2-3 เดือนสรุปคดี'บุญทรง'
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) นายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้ากรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีตรมช.พาณิชย์ กับพวกที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวในขั้นตอนการระบายข้าวและขั้นตอนส่งออกแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ป.ป.ช.ทำงานอยู่ตลอด ไม่ได้รอข้อมูลใดๆ ไม่ช้า ป.ป.ช.แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องและผู้สนับสนุนไปหลายราย คาด 2-3 เดือนนี้น่าจะสรุปเรื่องได้ โดยนำข้อมูลการตรวจสอบสต๊อกข้าวที่พบข้าวหายมาเป็นข้อมูลประกอบ แต่ไม่ใช่ประเด็นหลักในการไต่สวนคดีนายบุญทรง และพวก เพราะประเด็นข้าวสูญหายจะแยกเรื่องและดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อ.ต.ก. อคส. เซอร์เวเยอร์ หรือเจ้าหน้าที่ควบคุมกำกับและตรวจสอบข้าวต่างๆ ในจุดที่หายไป
มั่นใจพยานหลักฐานชี้มูลได้
เมื่อถามว่าคดีของนายบุญทรงจะสรุปเรื่องได้ในอีก 2-3 เดือนนี้ นายวิทยากล่าวว่า ใช่ ตอนนี้แจ้งข้อกล่าวหาไปหลายรายแล้ว แต่เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหามีจำนวนมากเป็นหลักร้อยคน อาจทำให้ระยะเวลาเนิ่นนานขึ้นแต่พยายามเร่งรัดอยู่ ไม่ได้นิ่งนอนใจ ทำงานกันทุกวันแม้แต่วันหยุด และอยู่ในชั้นที่ผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหามาตรวจเอกสารและครบกำหนดชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หลังจากตรวจเอกสารแล้วก็ทำบันทึกชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาแล้วก็เข้าใจว่าอีกไม่นาน สามารถสรุปข้อเท็จจริงต่างๆ ได้และนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการได้
นายวิทยากล่าวว่า คาดว่าอย่างนั้น เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าหากสรุปข้อมูลเสนอแล้วจะชี้มูลความผิดได้เลย นายวิทยากล่าวว่า ใจว่าอย่างนั้น ข้อมูลที่รวบรวมมาได้ทั้งพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่ได้มานี้จำนวนมากและเชื่อว่าสามารถพิจารณาได้เลย
สอบบัญชี'ปู-รมต.'คืบ90%
นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินเชิงลึก 5 อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่เกี่ยวข้องกับคดีโครงการรับจำนำข้าวว่า ขณะนี้มีความคืบหน้าถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสถาบันการเงินทยอยส่งข้อมูลการทำธุรกรรมมาให้ป.ป.ช. เป็นระยะ แต่ในชั้นนี้ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะใช้กรอบเวลาตรวจสอบนานเท่าใด เป็นเรื่องที่มีรายละเอียด ต้องให้เวลาคณะอนุกรรมการพิจารณาและตรวจสอบให้เกิดความรอบคอบที่สุด
คสช.แถลงจับอบายมุขรอบ1เดือน
เวลา 10.00 น. ที่กองทัพภาคที่ 1 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) แถลงข่าวการจับกุมอาวุธสงคราม ยาเสพติด บ่อนการพนันและการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกคสช. กล่าวว่า ผลการจับกุมอาวุธสงคราม ผู้กระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การลักลอบเล่นการพนันและผู้ลักลอบตัดไม้ทำลายป่าที่ติดตามจับกุมและตรวจยึดมาได้ทั่วประเทศในรอบ 1 เดือน ช่วงวันที่ 26 มิ.ย. - 25 ก.ค. ประกอบด้วยอาวุธสงคราม 30 กระบอก อาวุธปืนยาว 688 กระบอก อาวุธปืนสั้น 911 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 9,295 นัด ระเบิดขว้าง 45 ลูก ระเบิดยิง 19 ลูก และชิ้นส่วนอาวุธปืน 108 รายการ จับกุมผู้ต้องหาแล้ว 2,779 คน
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ในส่วนนี้มีผลการจับกุมที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อเหตุรุนแรง 8 ครั้ง และผู้ต้องหา 12 คน ของกลางมีปืนเล็กยาวและปืนกลชนิดต่างๆ 11 กระบอก ปืนยาวและปืนลูกซอง 3 กระบอก ปืนพกชนิดต่างๆ 21 กระบอก เครื่องยิงจรวดอาร์พีจี 1 เครื่องยิง ลูกระเบิดขว้างชนิดต่างๆ 24 ลูก กระสุนปืนเล็กยาวและปืนกลชนิดต่างๆ 3,765 นัด กระสุนปืนยาวและปืนลูกซอง 58 นัด กระสุนปืนพกชนิดต่างๆ 363 นัด กระสุนระเบิด แบบ เอ็ม-79 จำนวน 19 นัด ลูกจรวดอาร์พีจี 3 ลูก และยุทธภัณฑ์อื่นๆ เช่น เสื้อเกราะ 25 รายการ
คดียาเสพติดผู้ต้องหา 7 หมื่นราย
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า การจับกุมการกระทำผิดเกี่ยวกับบ่อนการพนัน ทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและป่าไม้และการค้ายาเสพติด ช่วงวันที่ 22 พ.ค.-25 ก.ค. ประกอบด้วย จับกุมบ่อนการพนันและการลักลอบเล่นการพนัน 12,872 คดี ผู้ต้องหา 22,752 ราย ของกลางประเภทตู้พนัน (ตู้ม้า ตู้ไฟฟ้า, ตู้ดีดลูกแก้ว) 4,043 ตู้ และของกลางประเภทไพ่ อุปกรณ์การเล่นไฮโล สลากกินรวบจำนวนมาก
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า การจับกุมยาเสพติด 66,657 คดี ผู้ต้องหา 70,635 ราย ของกลางยาบ้า 83,218,736.95 เม็ด ไอซ์ 1,125.59 กิโลกรัม เฮโรอีน 369.11 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 22,644.70 กิโลกรัม พืชกระท่อม 38,738.49 กิโลกรัม ฝิ่น 109.54 กิโลกรัม โคเคน 31.17 กิโลกรัม ซูโดอีเฟดรีน 229,850 เม็ด และยาแก้ไอ 334.32 กิโลกรัม การจับกุมการลักลอบทำลายทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ 987 คดี ของกลางประกอบด้วย ไม้พะยูง 4,197 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) มูลค่า 630,274,642 บาท, ไม้สัก 580 ลบ.ม. มูลค่า 15,953,500 บาท และไม้กระยาเลย 1,904 ลบ.ม. มูลค่า 29,420,197 บาท หัวหน้าคสช.เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและต่อเนื่องเพื่อให้สังคมเกิดความสงบต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรักษาความปลอดภัยที่กองทัพภาคที่ 1 เป็นไปอย่างเข้มงวด มีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารยืนอยู่ตามจุดต่างๆ เพื่อสังเกตสิ่งผิดปกติ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสัมภาระของผู้มาร่วมงานอย่างเข้มงวด ป้องกันผู้ไม่หวังดีเข้ามาสร้างสถานการณ์
จับเพิ่มอีก 2 มือบึ้มบรรทัดทอง
เวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รร.ท.ผบช.ภ.1 และพ.อ.วิจารณ์ จดแตง ผอ.กฎหมาย กอ.รมน. หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานกฎหมายส่วนรักษาความสงบ คสช. ร่วมแถลงจับกุม นายเจริญ หรือชาติ พรมชาติ อายุ 38 ปี ที่อยู่ 87 หมู่ 2 ต.บุ่งมะแลง อ.สว่างวีระวงศ์ จ.อุบลราชธานี และนายณัฐพรรณ์ หรือแอ็ด บางล้า อายุ 40 ปี ที่อยู่ 450/29 ถ.ริมทางรถไฟสายแปดริ้ว แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหารกรุงเทพ ที่ ก.109/2557 และก.110/2557 ตามลำดับ ลงวันที่ 24 ก.ค. 2557 โดยจับกุมตัวได้วันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายอภิชาติ พวงเพ็ชร หรืออัคคี อายุ 42 ปี ข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิดที่ใช้เฉพาะในการสงครามที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนกฎหมาย และฝ่าฝืนประกาศคสช. ฉบับที่ 50/2557 ลงวันที่ 30 พ.ค.2557 การสอบสวนนายอภิชาติ รับสารภาพนำระเบิดชนิดขว้างอาร์จีดี 5 มาแจกให้กับพวกรวม 4 คน ต่อมาเจ้าหน้าที่สอบสวนขยายผลทราบว่านายณัฐพรรณ์ และนายเจริญ 2 ใน 4 ผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ออกหมายจับก่อนหน้านี้ จึงเข้าจับกุมตัวดังกล่าว
อีกหนึ่งกบดานประเทศเพื่อนบ้าน
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า นายณัฐพรรณ์ รับสารภาพอ้างว่าได้รับระเบิดชนิดอาร์จีดี 5 มาจากนายอภิชาติ 4 ลูก โดยนัดให้ตนเองและพวกไปรับระเบิดที่ย่านสำเพ็งสแควร์ แต่ยังไม่เคยนำระเบิดที่ได้มาใช้ก่อเหตุ และยังมีผู้ต้องหาอีกหนึ่งรายที่ยังหลบหนีอยู่ คือ นาย กฤษดา ไชยแค หรือดา ซึ่งได้รับระเบิดชนิดขว้างอาร์ จีดี 5 จากนายอภิชาติ 4 ลูก พร้อมนายณัฐพรรณ์ ก่อนนำไปก่อเหตุพื้นที่ชุมนุมบริเวณถนนบรรทัด ทอง 1 ลูก และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2 ลูก จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขณะนี้นายกฤษดา หลบหนีไปกบดานอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่จะติดตามจับกุมตัวต่อไป
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ส่วนนายเจริญยังไม่ยอมรับสารภาพและไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เท่าที่ควร แต่จากแนวทางการสอบสวนเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งหมดมีส่วนเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย หากสืบสวนแล้วพบว่าใครอยู่เบื้องหลังจะออกหมายจับและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีทันที เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองและฝ่าฝืนประกาศคสช. ฉบับที่ 50/2557 ลงวันที่ 30 พ.ค.2557 ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
'เตียบันห์'ยันเองเขมรหนุนคสช.
เวลา 14.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก(บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ต้อนรับพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา พร้อมคณะ ได้แก่ พล.อ.เนียง พาด รมช.กลาโหม พล.ร.อ.เตีย วิญ ผบ.ทร. พล.อ.อ.เชิง ซอมนาง ผบ.ทอ. รวมทั้งพล.ท.ฮุน มาเน็ต รองผบ.ทบ. และผบ.หน่วยต่อต้านการก่อการร้ายสากล กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่เข้าเยี่ยมคำนับ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ได้เล่าถึงการทำงานของ คสช.ที่ผ่านมาว่าเป็นการส่งเสริมประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ การทำงานของ คสช.เพื่อปลดล็อกปัญหาของประเทศ ลดความขัดแย้งที่เกิดขึ้น และคสช.จะทำให้ทั้ง 2 ประเทศเดินหน้าสู่ประชาคมอาเซียนร่วมกัน ถือเป็นครอบครัวเดียวกันและมีความเป็นมหามิตรกันมายาวนาน และขอบคุณที่กัมพูชาอภัยโทษและส่งตัวนายวีระ สมความคิด กลับไทย ซึ่งขณะนี้ คสช.กำลังเดินหน้าพัฒนาพื้นที่ชายแดนของสองประทศ มุ่งหวังให้ประชาชนปลอดภัย ได้รับการดูแลด้านสิทธิมนุษยชนและเตรียมจัดส่งคณะผู้แทนจากฝ่ายความมั่นคงไปเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เชื่อมความสัมพันธ์ในเร็วๆ นี้
พล.อ.เตีย บันห์ กล่าวว่า เข้าใจถึงความจำเป็นของคสช. และได้เรียนให้ทราบว่าสมเด็จนโรดมสีหมุนี กษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา และสมเด็จฮุนเซน นายกฯ พร้อมด้วยนายทหารระดับสูงของกัมพูชา ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของคสช. ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ขอให้กำลังใจในการทำงานของ คสช.ด้วย
ศาลไม่ถอนหมายจับ'พุทธอิสระ'
เวลา 09.30 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่ห้องพิจารณา 807 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่พุทธอิสระ หรือนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ลงวันที่ 6 ก.พ.2557 คดีขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งในการลงคะแนน ความผิดตามพ.ร.บ.การเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ศ.2551 มาตรา 76 กรณีนำมวลชนไปชุมนุมขัดขวางการเลือกตั้งที่หน้าสำนักงานเขตหลักสี่ ในการเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2557 ที่ได้ยื่นคัดค้านขอให้ศาลอุทธรณ์เพิกถอนหมายจับดังกล่าว
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนแล้วเห็นว่า การยื่นคำร้องของผู้คัดค้านกรณีนี้ไม่สามารถทำได้ เพราะจะทำให้กระบวนการยุติธรรมประสบอุปสรรคและล่าช้า หากมีความจำเป็นเร่งด่วนซึ่งมีเหตุสมควรเชื่อ โดยที่พนักงานสอบสวนไม่อาจจับตัวผู้ต้องหามารายงานตัวต่อศาลได้ และหากภายหลังปรากฏต่อศาลว่ามีการออกหมายจับโดยฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย ศาลอาจมีคำสั่งเพิกถอนหมายจับได้และอาจมีคำสั่งให้แก้ไขเยียวยาในภายหลังได้ แต่กฎหมายไม่ได้ระบุให้สิทธิผู้ต้องหาอุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้น จึงไม่รับคำร้องอุทธรณ์ของผู้คัดค้าน เพราะไม่มีเหตุทำให้คำสั่งของศาลชั้นต้นเปลี่ยนแปลง จึงให้ยกคำร้องอุทธรณ์
ภายหลังนายสุธี วิเชียรรัตนชัย ทนายความพุทธอิสระ กล่าวว่า เมื่อศาลยกคำร้องของเราที่ขอเพิกถอนหมายจับแล้ว เท่ากับหมายจับของศาลอาญายังคงมีผลอยู่ หลังจากนี้จะรายงานให้พุทธอิสระทราบต่อไป
ดันกม.คุมฝูงชน-เพิ่มตำรวจเกณฑ์
วันที่ 29 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รรท.ผบ.ตร. กล่าวว่า การผลักดันพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ ได้ตั้งคณะทำงานปรับปรุงแก้ไขร่างพ.ร.บ.เดิมที่ผ่านสภาแล้ว ครั้งนี้เสนอใหม่โดยปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ยังคงให้สิทธิชุมนุมและรักษาสิทธิประชาชนโดยทั่วไป สาระสำคัญไม่ละเมิดสิทธิผู้ชุมนุม ไม่ได้กำหนดว่าต้องขออนุญาตก่อนชุมนุมแต่ต้องแจ้งก่อนการชุมนุมเพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาสิทธิของประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม และอำนวยความสะดวกด้านจราจร
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า แม้ตร.จะมีหน่วยงานกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชนอยู่แล้วแต่ไม่เพียงพอ จึงเสนอร่างกฎหมายให้มีตำรวจพลประจำการ หรือตำรวจเกณฑ์ คล้ายทหารเกณฑ์ นำมาฝึกเพื่อใช้ในภารกิจรักษาความสงบเรียบร้อยการชุมนุม การรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญ ไม่ต้องมีทักษะงานตำรวจมากแต่ฝึกเป็นกองกำลังที่มีวินัย ดูแลความปลอดภัยได้ หากกฎหมายนี้ผ่านจะหารือคสช.ขอกำลังส่วนนี้ 10,000 นาย ชุดแรกตั้งใจจะส่งไปตามแนวชายแดน ทำงานร่วมกับตชด.รองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตำรวจเกณฑ์จะคล้ายพลตระเวนในสมัยก่อน หลายประเทศก็มี เช่น เกาหลีใต้ อิสราเอล สิงคโปร์
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า นอกจากนี้จะเสนอกฎหมายการรักษาความปลอดภัยเอกชน ฝึกอบรมให้มีมาตรฐานยึดโยงกับการทำงานของตำรวจ และคาดสัปดาห์หน้าจะเสนอร่างพ.ร.ฎ.ตำรวจไม่มียศ เป็นหน่วยงานในสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ อำนวยการ เร็วๆ นี้จะเปิดรับสมัครตำรวจใหม่ 5,000 อัตรา ในจำนวนนี้จะเป็นตำรวจไม่มียศแยกไปทำงานตามจังหวัดต่างๆ อนาคตจะขออนุมัติ ก.ตร.กำหนดให้ตำรวจสายงานอื่นๆ เป็นตำรวจไม่มียศด้วย เช่น งานพิสูจน์หลักฐาน
'ประยุทธ์'ขอทุกฝ่ายร่วมจัดวันแม่
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าการเตรียมจัดงาน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันถวายทั้งตัวและใจในการทำหน้าที่ เพื่อถวายพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพราะพระองค์ทรงทำเพื่อคนไทยมาตลอด เป็นสิ่งเดียวที่ทุกฝ่ายจะร่วมจัดงานเพื่อตอบแทนพระองค์ท่าน รวมทั้งเป็นการตอบแทนแผ่นดินและสถาบันอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทย ต้องร่วมกันจัด งานครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ ถวายกำลังใจแด่พระองค์ท่านในโอกาสมหามงคลครั้งนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดกิจกรรมสำคัญรวม 4 กิจกรรมคือนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติในวันที่ 9-10 ส.ค. บริเวณสวนอัมพร และพระลานพระราชวังดุสิต การฉายภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติฯ การจัดพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 12 ส.ค. บริเวณท้องสนามหลวงและทั่วประเทศ การจัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา
ศาลให้ประกัน'สมบัติ' 6 แสนบาท
วันที่ 29 ก.ค. น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความของนายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด เผยว่า วันนี้พนักงานอัยการศาลทหารได้ทำสำนวนส่งฟ้องศาลทหารกรณีนายสมบัติ ผู้ต้องหาคดีการเมือง หลังครบกำหนดฝากขังผลัดสุดท้าย ฐานกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 โดยทนายได้ยื่นขอประกันตัว 6 แสนบาทและศาลอนุญาตให้ประกันตัว มีเงื่อนไข 1.ห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง 2.ห้ามยุยงปลุกปั่น และ 3.ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ทั้งนี้ กระบวนการต่อไป นายสมบัติต้องรอหนังสือเรียกตัวจากศาล ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมพระธรรมนูญชี้แจงว่ากระบวนการนี้จะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์