'สุเทพ'แถลงออกฟรีทีวีให้ว่าที่ ปธ.วุฒิสภาหารือกับ ปธ. 3 ศาลหานายกฯคนใหม่ 'นปช.'โต้กลับพร้อมยกระดับการชุมนุมหากมีนายกฯเถื่อนเกิดขึ้น 'ประยุทธ์'ยันทำรัฐประหารเหตุการณ์ก็ไม่จบ สังคมต้องหาทางออกด้วยกฎหมาย

@ 'ประยุทธ์'ชี้ทำปฏิวัติก็ไม่จบ
   เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองที่มีความพยายามเรียกร้องให้ทหารทำรัฐประหาร ว่า ยืนยันกองทัพตัองหนักแน่น จะทำตามใครเรียกร้องไม่ได้ ต้องใจเย็น ขอให้เชื่อมั่นในทหาร ซึ่งจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประเทศชาติและประชาชนได้ในทุกโอกาส ให้เก็บทหารไว้เป็นที่พึ่งสุดท้าย เชื่อว่าการรัฐประหารทำไปก็ไม่จบ ขอให้เข้าใจทหาร เพราะทหารทำหรือไม่ทำก็โดนตำหนิ สังคมต้องหาทางออกตามกฎหมาย แต่อย่าเอากฎหมายมาสู้กัน ตนมีหน้าที่ดูแลประชาชนทุกฝ่าย และลูกน้องทำหน้าที่อย่างปลอดภัย
     "ไม่ต้องไปพูดถึงมีหรือไม่มี ให้กระบวนการเขาทำงาน ทหารจะไม่พูดอะไรอีกเพราะต้องรับผิดชอบคำพูด ผมเคยเตือนหลายคนที่พูดโดยไม่รับผิดชอบหรือไม่มีหน้าที่ ดังนั้นหากพูดแล้วเกิดปัญหาต้องรับผิดชอบด้วยไม่ว่าใครก็ตาม บทบาทของกองทัพในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้ คือทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) เพื่อให้กระบวนการต่างๆ ดำเนินการต่อไป ขอให้ทุกฝ่ายต้องไม่ใช้ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม กองทัพพร้อมทุกอย่างในการรับมือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว 

@ ทหารมีอำนาจใช้กฎอัยการศึก
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 มีทั้งหมด 17 มาตรา เป็นกฎหมายที่ได้ตราขึ้นไว้สำหรับประกาศใช้เมื่อมีเหตุจำเป็นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง มีเนื้อหาสำคัญคือ มาตรา 3 ถ้าไม่ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ในประกาศนั้นจะได้แสดงให้ปรากฏว่า "มณฑลใด ตำบลใด หรือเขตใดใช้กฎอัยการศึก" มาตรา 4 เมื่อมีสงครามหรือจลาจลขึ้น ณ แห่งใดให้ผู้บังคับบัญชาทหาร ณ ที่นั้น ซึ่งมีกำลังอยู่ใต้บังคับไม่น้อยกว่าหนึ่งกองพัน หรือเป็นผู้บังคับบัญชาในป้อมหรือที่มั่นอย่างใดๆ ของทหารมีอำนาจประกาศใช้กฎอัยการศึก เฉพาะในเขตอำนาจหน้าที่ของกองทหารนั้นได้ แต่จะต้องรีบรายงานให้รัฐบาลทราบโดยเร็วที่สุด ส่วนการยกเลิกในส่วนมาตรา 5 การที่จะเลิกใช้กฎอัยการศึกแห่งใดนั้น จะเป็นไปได้ต่อเมื่อมีประกาศกระแสพระบรมราชโองการเสมอ โดยที่มาตรา 6 ในเขตที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำนาจเหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนในส่วนที่เกี่ยวกับการยุทธ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร 

@ 'คณะรัฐบุคคล'ขอพึ่งพระบารมี 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ปฏิเสธทำตามคำร้องขอของ พล.อ.สายหยุด เกิดผล อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ที่เป็นหนึ่งในคณะรัฐบุคคลเพื่อแสวงหาทางออกให้กับประเทศไทย ด้วยการพึ่งพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ล่าสุด พล.อ.สายหยุดได้ร่วมประชุมกับคณะรัฐบุคคล อาทิ พล.อ.วิมล วงศ์วานิช อดีต ผบ.ทบ. พล.อ.อ.กันต์ พิมานทิพย์ อดีต ผบ.ทอ. พล.ร.อ.วิเชษฐ การุณยวนิช อดีต ผบ.ทร. พล.ร.อ.สุรวุฒิ มหารมณ์ อดีต เสธ.ทร. พล.อ.อ.เทอดศักดิ์ สัจจะรักษ์ อดีต เสธ.ทอ. โดยมีนายเกรียงศักดิ์ เหล็กกล้า เป็นผู้ประสานงาน ผลการหารือของคณะรัฐบุคคลได้ข้อสรุปคือ คณะรัฐบุคคลจะเดินหน้าในการแสวงหาทางออกให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ด้วยการพึ่งพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

@ เดินสายขอเสียงผบ.เหล่าทัพ
     พล.อ.สายหยุด เกิดผล ให้สัมภาษณ์ว่า ที่ประชุมคณะรัฐบุคคลได้สรุปว่าจะเดินหน้าขอพึ่งพระบารมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางผู้บัญชาการเหล่าทัพ เพราะเห็นว่าแนวทางดังกล่าวดีที่สุดกับสถานการณ์ในปัจจุบัน ในวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม ทางคณะรัฐบุคคลมอบหมายให้นายเกรียงศักดิ์นำหนังสือไปยื่นต่อผู้บัญชาการเหล่าทัพ ร่วมกันหาทางออก เริ่มจากเวลา 09.30 น. จะไปพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) เวลา 11.15 น. จะเข้าพบ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ต่อด้วยเวลา 13.30 น. จะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) และ ในเวลา 15.00 น. จะเข้าพบ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือ (บก.ทร.)
    "ทางผู้บัญชาการเหล่าทัพได้ตอบรับทั้งหมดแล้ว ส่วนจะทันกับสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่คงต้องติดตาม"พล.อ.สายหยุดกล่าว

@ ศอ.รส.ประณามคุกคามสื่อ
     เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ภายในสโมสรตำรวจ น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงานศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ได้อ่านแถลงการณ์ ศอ.รส. ฉบับที่ 6 เรื่องห้ามการช่วยเหลือแก่แกนนำ กปปส.ที่กระทำผิด ว่า ศอ.รส.ขอประณามการกระทำของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับแกนนำ กปปส. ตั้งแต่เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นำมวลชนบุกไปยังสถานที่ต่างๆ ได้แก่ สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ทำเนียบรัฐบาล และกระทำการเจรจาและขู่บังคับผู้บริหาร หรือผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 ช่อง 9 และช่องเอ็นบีที ไม่ให้ถ่ายทอดสัญญาณที่เกี่ยวกับแถลงการณ์หรือเสนอข่าวอย่างหนึ่งอย่างใดของรัฐบาลและ ศอ.รส. แต่ให้ถ่ายทอดสัญญาณการแถลงการณ์หรือเสนอข่าวการชุมนุมของ กปปส. ถือเป็นการคุกคามสื่อมวลชน สร้างความวุ่นวายในบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง

@ พท.หนุนทีวีแจ้งความเอาผิด
     เมื่อเวลา 10.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษก พท. แถลงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุ การที่ กปปส.เข้าปิดล้อมสถานีโทรทัศน์หลายแห่งและทำเนียบรัฐบาลไม่มีการทำผิดกฎหมาย และยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ว่า พท.ขอประณามการคุกคามสื่อที่เป็นการทำลายรากเหง้าของประชาธิปไตย สงครามกลางเมืองจะเกิดก็เพราะแนวคิดยั่วยุลักษณะนี้ ทั้งที่สิ่งที่นายสุเทพและพวกทำยิ่งกว่าสิ่งที่ ปชป.ระบุ ผิดกฎหมายแน่นอน ไม่มีพรรคการเมืองที่ไหนให้ท้ายม็อบไปคุกคามข่มขู่สื่อมวลชนที่เป็นฐานันดรที่ 4 ในสังคม 
     "ผมขอเรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์ต่างๆ ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน ใครที่ไม่แจ้งจะได้รู้ว่าสถานีใดยินดีให้ปิดล้อมหรือรู้เห็นเป็นใจสนับสนุนให้คุกคามสื่อได้" รองโฆษก พท.กล่าว 

@ ปชป.กังวลจนท.ใช้แก๊สน้ำตา
      เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ ปชป. นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้า ปชป. แถลงถึงการที่ศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ใช้ความรุนแรงกับกลุ่ม กปปส. นำโดยพระพุทธะอิสระ ว่า เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ปชป.วิตกกังวลการใช้ความรุนแรงไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม การตัดสินใจใช้อาวุธแก๊สน้ำตา อาจนำไปสู่ความรุนแรงและไม่ถูกต้องเหมาะสม อยากให้รัฐบาลนำเป็นบทเรียนว่าการรักษาความสงบเรียบร้อย ไม่ควรให้หน่วยงานใดๆ ก็ตามใช้อำนาจกำลังเกินกว่าเหตุ ควรดำเนินการตามกรอบรัฐธรรมนูญ ใช้วิธีการเจรจาต่อรองจะดีกว่า

@ พุทธะอิสระเข้าแจ้งความ
     ที่ สน.ทุ่งสองห้อง พระพุทธะอิสระ แกนนำ กปปส. พร้อมผู้ชุมนุมจากเวทีแจ้งวัฒนะจำนวนหนึ่ง เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ให้ดำเนินคดีนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะเลขานุการ ศอ.รส. รวมทั้ง ศอ.รส. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาละเมิดสิทธิในการเข้าถึงรัฐธรรมนูญ พยายามฆ่า ทำร้ายร่างกาย และเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณีเจ้าหน้าที่ยิงแก๊สน้ำตาและฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้ชุมนุม กปปส.ที่พยายามเข้าไปใน ศอ.รส. เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ได้จัดโต๊ะรับแจ้งความบริเวณทางเข้า สน.ทุ่งสองห้อง
     พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า จะให้เวลา 1 สัปดาห์ในการติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี รวมทั้งให้เร่งรัดติดตามคดีค้างเก่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง เช่น คดียิงเอ็ม 79 ใส่อาคาร รพ.จุฬาภรณ์ด้วย

@ ตร.ทุ่งสองห้องคืนเงิน 5 หมื่น
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังพระพุทธะอิสระแจ้งความเสร็จสิ้น ทางพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ได้นำเงินจำนวน 50,000 บาท มอบคืนให้พระพุทธะอิสระ เป็นเงินที่พระพุทธะอิสระเคยมอบเป็นค่าทำขวัญให้กับ พ.อ.วิทวัส วัฒนกุล รอง ผอ.กองวิเทศสัมพันธ์ สำนักวิเทศสัมพันธ์ กรมข่าวทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ที่ถูกกลุ่มการ์ด กปปส.แจ้งวัฒนะใช้อาวุธปืนยิงใส่และรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา แต่ครอบครัว พ.อ.วิทวัส ไม่ประสงค์จะรับเงินจำนวนดังกล่าวต้องการให้ดำเนินคดีกับการ์ดตามกฎหมาย

@ พระพุทธะฯให้ตำรวจขอขมา
     เมื่อเวลา 11.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพุทธะอิสระได้นำผู้ชุมนุมมาปิดล้อมด้านหน้าสโมสรตำรวจ ที่ตั้งของ ศอ.รส. เพื่อให้ตำรวจส่งตัวแทนขอขมากรณีกลุ่ม กปปส.ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาสกัดกั้นจนแตกกระเจิง เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา
     พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า อยากให้ตำรวจ ออกมาขอขมา หากมีคนออกมาเจรจาและขอขมาโดยดีก็พร้อมจะเดินทางกลับ และถอนแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้องด้วย
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมเวทีแจ้งวัฒนะได้พังแนวแบริเออร์ 1 แนว และประตูเหล็กบริเวณด้านหน้าสโมสรตำรวจ เพื่อเรียกร้องเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ออกมาขอขมาพระพุทธะอิสระ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอหารือกับผู้บังคับบัญชา ทำให้ผู้ชุมนุมยอมถอยออกมาเพื่อรอคำตอบ 
     ต่อมาเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.ภาคภูมิ สัจจพันธุ์ รองผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (รอง ผบช.สยศ.) พร้อมชุดเจรจาของ ศอ.รส. เข้าเจรจากับตัวแทน กปปส. 5 คน ผู้ชุมนุมยืนยันให้ตำรวจขอขมา เพราะถือเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมกับพระสงฆ์ โดยชุดเจรจาขอเวลา 10 นาทีเพื่อนำข้อเรียกร้องไปนำเรียนต่อผู้บังคับบัญชา 
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังการหารือกับผู้บังคับบัญชา ฝ่ายตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดกองบังคับการอารักขาและควบคุมฝูงชน (อคฝ.) เป็นตัวแทนนำพวงมาลัยดอกดาวเรืองมาแสดงความเสียใจต่อพระพุทธะอิสระ ทำให้พระพุทธะอิสระยอมถอนแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง ก่อนเดินทางกลับเวทีแจ้งวัฒนะ 

@ เร่งขอภาพวงจรปิดเอาผิดม็อบ
    กรณีนางอาวรณ์ พรมมารินทร์ อายุ 54 ปี เข้าแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง หลังนายสุรศักดิ์ โสวัฒนางกูร อายุ 27 ปี ลูกชาย นักบินฝึกหัด สถาบันวิทยุการบินพลเรือน ถูกกลุ่มการ์ด กปปส.แจ้งวัฒนะรุมทำร้ายบนทางยกระดับโทลล์เวย์ฝั่งขาออก บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ขณะขับรถบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 525 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฐย 3922 กรุงเทพมหานคร ไปฟังผลสอบที่สนามบินดอนเมือง แต่มีกรวยกั้นไว้ จึงลงมายกกรวยออก เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมนั้น 
    พ.ต.ท.สำอาง ขาวสอาด สว.สส.สน.ทุ่งสองห้อง กล่าวว่า ได้ขอภาพกล้องวงจรปิดจากโทลล์เวย์ รวมทั้งคลิปที่มีการแชร์ต่อๆ กันในโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว ในคลิปไม่เห็นใบหน้าคนกระทำผิดชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะนำประวัติที่มีอยู่มาเปรียบเทียบกับใบหน้าบุคคลในคลิปวิดีโอและภาพจากกล้องวงจรปิดที่โทลล์เวย์ จากนั้นจะนำส่งต่อให้ผู้เสียหายยืนยันตัวผู้กระทำความผิดอีกครั้ง ก่อนจะเร่งรัดจับกุมมาดำเนินต่อไป
    ด้านพระพุทธะอิสระกล่าวกรณีการ์ด กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะทำร้ายร่างกายชายในรถยนต์บนโทลล์เวย์และถูกเผยแพร่ไปนั้นว่า เป็นคลิปจริง เหตุการณ์ช่วงนั้นเกิดความวุ่นวายและชายในรถได้ยกกรวยที่กั้นออก ก่อนมีปากเสียงจนเกิดเหตุการณ์ตามคลิป ตนขอโทษบุคคลที่ถูกทำร้ายและยินดีชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด และหลังเสร็จสิ้นภารกิจจะนำการ์ดที่ทำร้ายไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป 

@ บิ๊กโทลล์เวย์พร้อมร่วมมือตร.
     นายสมบัติ พานิชชีวะ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ กล่าวว่า เวลานี้เราคงทำอะไรไม่ได้มากเนื่องจากเป็นเรื่องทางการเมือง ต้องดูว่าเหตุเกิดอย่างไร ขณะนี้คิดอะไรล่วงหน้าลำบาก แต่เราก็จะต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ใช้บริการของเราด้วย
     นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความแล้ว ส่วนบริษัทไม่ได้ดำเนินการอะไร เพราะไม่มีทรัพย์สินเสียหาย แต่หากเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องการภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อสอบสวนหาข้อเท็จจริง ทางบริษัทก็พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้หลายจุด

@ ชาวเน็ตรุมจวกไล่ต่างชาติลงรถ
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ยังมีการเผยแพร่ภาพและคลิปการ์ด กปปส.ที่เข้าปิดทางยกระดับบนโทลล์เวย์ ตรงสโมสรตำรวจ ไม่ให้รถยนต์สัญจรไปมา รวมถึงรถแท็กซี่ที่มีผู้โดยสารชาวต่างชาติที่กำลังเดินทางไปสนามบินดอนเมือง ต้องปล่อยให้ผู้โดยสารเดินเท้าต่อไปแทน ซึ่งต้องเดินผ่านโรงแรมมิราเคิล แกรนด์ เพื่อจะเดินลงช่วงทางลงโทลล์เวย์บริเวณแยกหลักสี่ ทำให้มีการวิพากษ์วิจารย์อย่างหนักในโซเชียลเน็ตเวิร์กว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง มีผลกระทบกับภาพลักษณ์ประเทศชาติ

@ ดอนเมืองสั่งเปลี่ยนเที่ยวบิน 
     ว่าที่ ร.ท.จตุรงคพล สดมณี ผู้อำนวยการท่าอากาศยานดอนเมือง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยถึงการชุมนุมบนถนนวิภาวดีรังสิตจนทำให้จราจรติดขัด และผู้โดยสารบางส่วนเดินทางไปไม่ทันขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมืองว่า ยอดผู้โดยสารตกเครื่องในช่วงบ่ายยังมีไม่มาก แต่ช่วงเย็นจะมีเที่ยวบินออกมาก จึงประสานไปยังสายการบินหลัก อย่างสายการบินไทยแอร์เอเชีย นกแอร์ และไทย
     ไลอ้อนแอร์ ให้เปลี่ยนเที่ยวบินให้ผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องไม่ทัน ผู้โดยสารที่เกรงว่าจะเดินทางมาไม่ทันสามารถติดต่อไปยังสายการบินที่จองไว้เพื่อเปลี่ยนเที่ยวบินได้ นอกจากนี้ขอให้ผู้โดยสารเผื่อเวลาเดินทางมาสนามบินดอนเมืองล่วงหน้าเพิ่มขึ้นเป็น 3 ชั่วโมง รวมถึงแนะนำให้ใช้เส้นทางทางด่วนศรีสมาน เข้าถนนสรงประภา หรือใช้เส้นทางวงแหวนรอบนอก ลำลูกกา ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางถนนวิภาวดีรังสิต

@ ตร.เรียกประชุมสรุป'ปาบึ้ม'
      เมื่อเวลา 17.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. มีคำสั่งเรียก พ.ต.อ.อธิป พงษ์ศิวาไพ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว ผกก.สน.สุทธิสาร พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน และ พ.ต.อ.กำธร อุ่ยเจริญ ผกก.กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์ระเบิด หรืออีโอดี ประชุมชี้แจงความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบยิงเอ็ม 79 เข้าใส่อาคาร รพ.จุฬาภรณ์ ภายในสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ถนนกำแพงเพชร 6 และธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ ถนนรัชดาภิเษก ตลอดจนคดีคนร้ายขว้างระเบิดเอ็ม 67 ใส่บ้านพักเลขที่ 26 และ 26/2 ซอยลาดพร้าว 34 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง ของนายสุพจน์ ไข่มุกด์ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
     พล.ต.อ.เอก เปิดเผยว่า กรณีคนร้ายใช้เครื่องยิงชนิดเอ็ม 79 ลูกระเบิดขนาด 40 มม. 2 ลูก ยิงมาจากถนนรัชดาภิเษก ขาออก จุดแรกถูกอาคารธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ และลูกที่ 2 ตกลงห่างจากจุดแรก 60 เมตร ส่วนที่สถาบันจุฬาภรณ์ ถนนกำแพงเพชร 6 ถูกคนร้ายใช้เครื่องยิงชนิดเอ็ม 79 ลูกระเบิดขนาด 40 มม. 2 ลูกเช่นกัน ลูกแรกตกที่สวนหย่อมหน้าตัวอาคาร และลูกที่สองตกในห้องพักแพทย์ชั้นที่ 9 ของตัวโรงพยาบาล จากแนวทางการสืบสวนสอบสวนสันนิษฐานคนร้ายเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากก่อเหตุไล่เลี่ยกัน แต่ต้องตรวจพิสูจน์ทราบ รวมทั้งสอบปากคำพยานที่เกิดเหตุ และวัตถุพยานยืนยันก่อนจะสรุปว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่อีกครั้ง
     รอง ผบ.ตร. กล่าวอีกว่า ส่วนคนร้ายขว้างระเบิดชนิดเอ็ม 67 ใส่บ้านพักนายสุพจน์ ที่เกิดเหตุมีทางเข้าออกหลายทาง โดยจุดที่คนร้ายก่อเหตุเป็นจุดอับทำให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี สูงประมาณ 170 เซนติเมตร สวมหมวกแก๊ป แต่งกายมิดชิดขณะก่อเหตุได้
      "นอกจากนี้อีโอดี ระบุว่าระเบิดชนิด เอ็ม 67 เป็นชนิดเดียวกับคนร้ายปาใส่บ้านของนายสำราญ รอดเพชร แกนนำ กปปส.ในพื้นที่ สน.คันนายาว เมื่อกลางดึกวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดอีกครั้งว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันหรือไม่

@ 'สุเทพ'รอดูท่าทีปธ.วุฒิฯชงม.7 
     เมื่อเวลา 09.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ยังรอดูท่าทีของวุฒิสภา ถึงแม้ว่า นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภาจะยังไม่ได้รับการทูลเกล้าฯ ก็สามารถดำเนินการในการเสนอนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 7 ได้ เพราะรองประธานวุฒิสภาได้ผ่านการทูลเกล้าฯมาแล้ว และถึงจะมีการปิดสมัยประชุมวุฒิสภาลงแล้ว แต่ในฐานะประธานวุฒิสภาก็สามารถทำได้ อีกทั้งการดำเนินการเพื่อร่วมแก้ปัญหา หากประธานวุฒิสภาและประธานศาลฎีกามีความเห็นตรงกันก็ทำงานได้ทันทีเช่นกัน จากสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน กับสมัยช่วง 14 ตุลาคม 2516 ที่จอมพลถนอม กิตติขจร อดีตนายกฯ ลาออก แล้วเกิดสุญญากาศทางการเมือง ในขณะนั้นประธานวุฒิสภาก็เสนอนายกฯ มาตรา 7 มาแก้ปัญหาบ้านเมืองได้ 

@ ม็อบกปปส.ยังชุมนุมที่ช่อง 3-9
      ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือโมเดิร์นไนน์ทีวี เป็นวันที่สอง ว่า การชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก นายชุมพล จุลใส แกนนำ กปปส. ขึ้นเวทีปราศรัยว่า ขอขอบคุณผู้บริหารช่อง 9 ที่เข้าใจและไม่รังเกียจผู้ชุมนุม ตนเข้าใจการทำงานของผู้บริหาร เพราะ อสมท อยู่ในการดูแลของรัฐ ยืนยันว่ากลุ่มผู้ชุมนุมไม่มีเจตนาขัดขวางการทำงานของสื่อ แต่อยากให้เห็นใจผู้ชุมนุมที่ต่อสู้เพื่อประเทศชาติ และจะขอผู้บริหารอสมท ให้ผู้ชุมนุมเข้ามานอนในอาคารจอดรถ เนื่องจากมีฝนตก ผู้ชุมนุมต้องนอนตากฝนทั้งคืน 
    ด้านนายณัฏฐพล และนางทยา ทีปสุวรรณ สามีภรรยาแกนนำ กปปส. นำผู้ชุมนุมปักหลักหน้าสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 ทั้งสองขึ้นปราศรัยเรียกร้องทางช่อง 3 ทำหน้าที่สื่อเป็นกลาง ไม่บิดเบือน พร้อมแสดงความหวังว่าจะได้รับชัยชนะภายใน 2 วันนี้ ต่อมาในช่วงบ่าย มีแกนนำขึ้นกล่าวระบุว่า การที่ กปปส.เดินทางมายังสถานีโทรทัศน์เพื่อปกป้องสื่อ ไม่ให้รัฐบาลเข้าแทรกแซง และครอบงำบังคับรายงานข้อเท็จจริงที่ผิดๆ จนประชาชนเข้าใจผิด โดยเฉพาะการที่มีสื่อบิดเบือนว่า กปปส.บุกยึดสถานีโทรทัศน์ ตามข้อเท็จจริงแล้วเรามาปกป้องสื่อให้รายงานข่าวที่ถูกต้อง

@ โฆษกกปปส.ปัดคุกคามสื่อ
     นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษก กปปส. กล่าวว่า หลังจากยื่นหนังสือต่อนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา ก็ได้รับการยืนยันว่าภายใน 2 วันนี้จะประสานไปยังตุลาการศาลต่างๆ เพื่อให้ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาประเทศ และยืนยันด้วยว่า กปปส.ไม่ได้คุกคาม สื่อมวลชนเองก็มีอิสระที่จะตัดสินใจว่าจะเห็นด้วยหรือไม่

@ 'สุเทพ'ออกแถลงการณ์ครั้งที่1 
     เมื่อเวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณเวทีการชุมนุมแยกมิสกวัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ได้อ่านแถลงการณ์ทางออกของประเทศไทย ครั้งที่ 1 โดยมีสถานีโทรทัศน์ ช่อง 3, 5, 7 และโมเดิร์นไนน์ทีวี นำเสนอถ่ายทอดสดในช่วงรายงานข่าวต้นชั่วโมง ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมที่ยังเฝ้าอยู่ตามสถานีโทรทัศน์ต่างใจจดใจจ่อเฝ้าดูการถ่ายทอดสดสัญญาณของนายสุเทพ 
     นายสุเทพอ่านแถลงการณ์ว่า การต่อสู้ของมวลมหาประชาชนในช่วงตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา ทำให้ระบอบทักษิณล่มสลาย ซึ่งการทุจริตและการแทรกแซงนิติบัญญัติ กระบวนการยุติธรรม รวมทั้งการใช้สมุนบริวารมาคุกคามองค์กรอิสระ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ผู้พิพากษา สื่อมวลชน และประชาชน จนทำให้ประชาชนไม่สามารถอดทนได้อีกต่อไป ในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วินิจฉัยชี้มูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และ คณะรัฐมนตรี (ครม.) จนสิ้นสภาพ ทำให้ประเทศไทยอยู่ในสภาพไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศ เพราะไม่มีนายกฯหรือรักษาการ
     นายกฯ คงมีแต่รักษาการรองนายกฯ และรักษาการ ครม.เท่านั้น ซึ่งรักษาการรองนายกฯไม่มีฐานะที่จะเป็นหัวหน้ารัฐบาล ไม่สามารถใช้อำนาจนายกฯได้ ประเทศไทยในขณะนี้ไม่มีนายกฯ หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯได้โดยชอบด้วยกฎหมาย

@ ชง 3 ศาล-องค์กรอิสระตั้งนายกฯ
      นายสุเทพ อ่านแถลงการณ์ต่อว่า ในกรณีที่สิ้นสภาพ หากในสถานการณ์ปกติ สภาผู้แทนราษฎรจะทำหน้าที่เลือกนายกฯคนใหม่ทันที ทว่าตอนนี้ไม่มีสภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภาจึงเป็นองค์กรเดียวที่เหลืออยู่ มวลมหาประชาชนขอวิงวอนให้ประธานวุฒิสภาช่วยปรึกษา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ดำเนินการหารือให้มีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ทันที ทั้งนี้มวลมหาประชาชนจะชุมนุมต่อไปอย่างสันติ อหิงสา จนกว่าจะมีนายกฯมาบริหารประเทศปฏิบัติตามเจตนารมณ์ต่อไป
     "ในฐานตัวแทนมวลมหาประชาชน ผมได้ทำหนังสือถึงประวุฒิสภา ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานกรรมการการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว ผมยืนยันว่า มวลมหาประชาชนทั้งหลายมีความรักชาติรักแผ่นดิน อยากเห็นบ้านเมืองสงบ มีการปฏิรูปประเทศ เพื่ออนาคตของลูกหลานไทยทุกคน ผมขอใช้โอกาสนี้ให้ทุกฝ่าย และคนเสื้อแดงได้ร่วมใจกันทำงานเพื่อชาติและแผ่นดินทุกคน ขอขอบคุณครับ" นายสุเทพอ่านแถลงการณ์
    ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมที่ช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ ถนนเพชรบุรี เมื่อเวลา 16.00 น. เป็นช่วงที่นายสุเทพอ่านแถลงการณ์ โดยช่อง 11 ไม่ได้ถ่ายทอดสดแต่อย่างใด ขณะที่ผู้ชุมนุมอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวไม่ได้แสดงอาการโวยวายหรือไม่พอใจ ส่วนผู้ชุมนุมที่เฝ้าอยู่ตามสถานีทีวีช่อง 3, 5, 7 และโมเดิร์นไนน์ทีวี ต่างส่งเสียงโห่ร้องด้วยความดีใจที่ได้ชมการถ่ายทอดสดสัญญาณของนายสุเทพ

@ 'ตู่'เย้ยข้อเสนอสุเทพเป็นไปไม่ได้
     ต่อมาในเวลา 16.15 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีแถลงการณ์ของนายสุเทพที่เวทีชุมนุม นปช. ถนนอักษะ ว่า ตามที่นายสุเทพแถลงการณ์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจ จึงจะเสนอให้ประธานศาลฎีกา ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานศาลรัฐธรรมนูญ หารือกันให้สามารถเสนอแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีได้ นปช.มองว่า ข้อเสนอนายสุเทพเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าที่ประธานวุฒิสภายังไม่ได้รับพระบรมราชโองการแต่งตั้ง จึงไม่สามารถทำหน้าที่ทูลเกล้าฯเสนอชื่อนายกฯได้ อีกทั้งตามรัฐธรรมนูญประเทศไทย มี
     ผู้สนองพระบรมราชโอการแต่งตั้งประธานวุฒิสภาได้คนเดียว คือ นายกรัฐมนตรี อีกทั้งการเลือกประธานวุฒิสภาเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย เลือกประธานในการประชุมสมัยวิสามัญ ไม่เคยมีมาก่อน ถ้ามีผู้ร้องการตั้งประธานวุฒิสภามิชอบ กระบวนการเสนอโปรดเกล้าฯก็จะล่าช้าไปด้วย
    ที่สำคัญกรณีที่นายสุเทพ บอกว่า รักษาการรองนายกรัฐมนตรีไม่มีอำนาจ หมายความว่าจะไม่มีใครทำหน้าที่รับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯได้ ข้อเสนอไปยังประธานศาล 3 องค์กร เพื่อแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี มาตรา 7 ไม่ได้มีในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ทางการข่าวทราบมาว่าจะมีการหารือกันในวันที่ 12 พฤษภาคม ทาง นปช.จึงขอเรียกร้องให้เสียงนี้ไปถึงประธานศาล 3 องค์กร ให้พิจารณาว่าการประชุมเพื่อจะตั้งใครเป็นนายกรัฐมนตรี ยิ่งจะสร้างวิกฤตให้เกิดขึ้นในชาติ เพราะขณะนี้ยังไม่มีสุญญากาศทางการเมือง"นายจตุพรกล่าว

@ นปช.ยอมรับไม่ได้นายกฯคนกลาง
     นายจตุพร กล่าวต่อว่า หากประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด โดยเฉพาะประธานศาลฎีกาที่ยังไม่ถูกข้อครหาใดๆ หากลงมาทำตามคำเรียกร้องของนายสุเทพ จะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้าย ประมุขตุลาการจะถูกลากมาแปดเปื้อน ทั้งจะทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญเสียเอง ดังนั้น การประชุมในวันที่ 12 พฤษภาคม นปช.คาดหวังว่าจะไม่เกิด และขอบอกไปยังประธานวุฒิสภาว่า นปช.มิอาจยอมรับการแต่งตั้งนายกรัฐมตรีที่ไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตย เพราะประเทศไทยยังไม่มีสุญญากาศ ประมุขฝ่ายตุลาการต้องคลี่คลายปัญหาให้ประเทศ ไม่ใช่สร้างวิกฤตให้ประเทศ
       "สิ่งที่จะเกิดจะสร้างวิกฤตอันใหญ่หลวงอันจะนำไปสู่การเกิดสงครามกลางเมือง นายสุเทพถูกอัยการสั่งฟ้องแล้วในข้อหากบฏ ถ้าท่านทำตามก็เท่ากับทำตามผู้ต้องหากบฏ และหากมีการขับเคลื่อน นปช.จะเป็นผู้ดำเนินคดีกับท่านใน มาตรา 157 เพราะเราถือเป็นผู้เสียหายโดยตรง ส่วนการชุมนุมใหญ่ครั้งนี้ จะยืดเยื้อยาวนาน จนกว่าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย จะยึดตามหลักสันติวิธี ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ยืนยันนายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้งเท่านั้น"นายจตุพรกล่าว

@ ย้ำไม่ร่วมปฏิรูปประเทศกับเทือก
      เมื่อเวลา 18.05 น. นายจตุพรขึ้นกล่าวบนเวทีชุมนุม นปช. "รวมพลปราบกบฏ" ถนนอักษะ อีกครั้งว่า ขณะนี้นายสุเทพได้บุกยึดทำเนียบรัฐบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งการให้ประธานทั้ง 3 ศาล และว่าที่ประธานวุฒิสภารีบเลือกนายกฯ ตามมาตรา 7 เชื่อว่าคนไทยอยากได้ยินเสียงปฏิเสธจากประธานทั้ง 3 ศาล อย่าได้ไปตามใจพวกกบฏ อีกทั้งนายสุเทพชอบอ้างมาตรา 3 ที่ระบุว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย แต่ชอบพูดวรรคนี้วรรคเดียว ก่อนหน้านี้นายสุเทพประกาศเป็นรัฏฐาธิปัตย์ และวันนี้เอาประธานทั้ง 3 ศาลมาให้เดือดร้อนด้วย พร้อมยังอ่านแถลงทิ้งท้ายให้เชิญชวนคนเสื้อแดงมาร่วมปฏิรูปประเทศด้วย ขอบอกเลยว่า คนเสื้อแดงจะไม่ร่วมกับนายสุเทพอย่างแน่นอน และให้คนเสื้อแดงช่วยกันส่งเสียงไปถึงประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด อย่าได้ทำตามใจนายสุเทพเด็ดขาด มิฉะนั้นบ้านเมืองจะเกิดวิกฤต สุ่มเสี่ยงเกิดสงครามกลางเมือง

@ 'เต้น'พร้อมยกระดับการชุมนุม
      ต่อมาเวลา 18.17 น. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. ขึ้นกล่าวว่า เมื่อองค์กรอิสระอย่างศาลรัฐธรรมนูญปิดเกมไม่ลง ทางฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ยืนยันการรัฐประหารไม่ใช่ทางออก นายสุเทพจึงใช้วิธีการเจาะอุโมงค์ไปกดดันให้การประชุมวุฒิสภาเลือกประธานคนใหม่ และยังกล่าวกดดันไปยังประธาน 3 ศาล 
    "ใครก็ตามที่เข้าประชุมหารือเสนอชื่อนายกฯคนกลาง เท่ากับสมคบคิดฉีกรัฐธรรมนูญ ทำลายกฎหมาย วันนี้ประเทศไทยไม่ใช่ไม่มีทางออก ทางออกคือเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งวันที่ 20 กรกฎาคม ถ้าผิดไปจากนี้ บอกได้เลยว่า การชุมนุมของคนเสื้อแดงที่ถนนอักษะอาจมีกิจกรรมเคลื่อนไหวบ้าง และถ้ามีการเสนอชื่อนายกฯมาตรา 7 นปช.จะยกระดับการต่อสู้ถึงที่สุดทันที

@ ทนายโรเบิร์ตขึ้นกล่าวซัดปชป.
      เวลา 18.30 น. นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความ นปช. ขึ้นกล่าวปราศรัยว่าขอแสดงความเสียใจต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และขอแสดงความยินดีต่อคนเสื้อแดงที่ยังอดกลั้น อดทนเพื่อต่อสู้ ขณะนี้เชื่อว่าถึงเวลาสมควรแล้วที่ทางรัฐบาลจะเซ็นรับอำนาจการตัดสินจากศาลอาญาระหว่างประเทศหรือไอซีซีเพื่อให้ศาลนำคนผิดไปลงโทษ ส่วนทางฝ่ายอำมาตย์นั้นได้แสดงตัวชัดเจนที่ไม่เอาระบอบประชาธิปไตย แต่จะเอาระบอบเผด็จการ ต้องการความเป็น 2 มาตรฐาน 
      "ปัจจุบันพรรคประชาธิปัตย์ถือเป็นแก๊งอันธพาลของนายสุเทพนั่นเอง เป็นโรคกลัวทักษิณ โดยกลุ่มคนพวกนี้ต้องการจะให้ไทยกลับสู่อดีต แต่คนเสื้อแดงต้องพาประเทศไทยไปสู่อนาคต ด้วยการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม" นายโรเบิร์ตกล่าว

@ 'ตู่'ซัดกปปส.คุกคามสื่อทีวี
      เมื่อเวลา 20.35 น. นายจตุพร ขึ้นปราศรัยที่เวทีอักษะว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. รักษาคำพูดที่ทหารจะไม่ออกมาปฏิวัติ มิเช่นนั้นจะเจอ นปช.แน่นอน และหากกลุ่มอำมาตย์และนายสุเทพจะแต่งตั้งนายกฯ คนกลางขึ้นมาจริงก็ขอท้าอำมาตย์เลยว่า จะเอาประเทศเป็นเดิมพันได้เลย ไม่มีวันเอาชนะประชาชนเด็ดขาด และขอบอกศาลฎีกาอีกครั้งว่า หากตอบรับข้อเสนอนายสุเทพ คุณกำลังทำผิดกฎหมาย ส่วนทางฝั่งศาลรัฐธรรมนูญและว่าที่ประธานวุฒิสภาขอให้ใช้ดุลพินิจคิดเอาเอง เพราะไม่อยากเตือนอะไรไปกว่านี้แล้ว
     "อยากจะตั้งนายกฯ มาตรา 7 ก็ตั้งไม่ได้ เลยกลั่นแกล้งนายกฯยิ่งลักษณ์ ดังนั้นเราดูกันว่าอำมาตย์