- Details
- Category: การเมือง
- Published: Tuesday, 29 July 2014 15:39
- Hits: 4333
วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8644 ข่าวสดรายวัน
บิ๊กตู่เร่งสปช.10 สค. คิกออฟ โปรดเกล้าสนช. ภายในสิ้นกค.นี้ 6 สิงหาเปิดสภา กกต.ฮึ่มฟันปูอีก คดีทัวร์นกขมิ้น
 ลอนดอน - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมด้วยน้องไปป์ บุตรชาย ไปเที่ยวชม "ลอนดอน อาย" สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังกลางกรุงลอนดอน และมีคนไทยในอังกฤษมาขอถ่ายรูปร่วมกันด้วย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. |
'บิ๊กตู่'ลุยจัด คิกออฟสปช. ก่อน 10 ส.ค. สิ้นเดือนนี้โปรดเกล้าฯ สนช. เตรียมเปิดสภา 6 สิงหาฯ กกต.ฮึ่มฟันทัวร์นกขมิ้น เรียกสอบอดุลย์- 8 รมต. เอาผิด'ปู'ลั่น 2 เดือนรู้ผล ป.ป.ช.เผยต้องระงับไต่สวนคดีถอดถอน เพราะ รธน.ชั่วคราวไม่ให้อำนาจ ปัดไม่ได้มีแค่คดีมาร์ค เพื่อไทยห่วง 2 มาตรฐาน-อคติ ยิ่งทำสังคมแตกแยก 'ปู-ไปป์'ทัวร์ลอนดอน
'บิ๊กตู่'คาดสิ้นเดือนนี้มีสนช.
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมติดตามสถานการณ์ประจำวัน มีผู้แทนจากส่วนงานด้านต่างๆ เข้าร่วมประชุมเพื่อรายงานสถานการณ์และการปฏิบัติงานที่สำคัญ
โดยก่อนเข้าสู่วาระ พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวถวายพระพรสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พร้อมกันนั้นได้ระบุถึงการจัดงานเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนม พรรษา วันที่ 8-13 ส.ค. จะจัดงานขึ้นที่ลานพระบรมรูปทรงม้า รูปแบบการจัดงานคล้ายที่ท้องสนามหลวง เพื่อให้ประชาชนเที่ยวชมงานเฉลิมพระเกียรติ ขอให้ทุกหน่วยงานจัดกิจกรรมอย่างดีที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สำหรับการเดินหน้าทำงานตามโรดแม็ประยะที่ 2 ของ คสช. หลังมีการพระราชทานรัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้ว คาดว่าไม่เกินสิ้นเดือนก.ค.นี้จะมีการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ก่อนที่สนช.จะเริ่มต้นปฏิบัติงาน เปิดประชุมได้ในช่วงกลางเดือนส.ค. จากนั้นจะดำเนินการสรรหานายกรัฐมนตรีเพื่อจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) แล้วมีการรับสมัครสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.)
ส่วนสปช.ไม่เกิน 10 สค.
หัวหน้า คสช.ระบุว่า ก่อนจะมี สปช.ได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหมจัดงานคิกออฟ เปิดตัวสปช.แล้ว ที่สโมสรทหารบก วิภาวดีฯ คาดว่าจะดำเนินการได้ไม่เกินวันที่ 10 ส.ค.นี้ เพื่อชี้แจงสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย เพื่อทำการปฏิรูปประเทศให้เสร็จในเวลา 10 เดือน รวมถึงยังมอบหมายงานให้เร่งจัดทำคำแถลงนโยบายรัฐบาล และคำแถลงงบประมาณ ให้เสร็จภายในวันที่ 15 ส.ค.นี้
หัวหน้า คสช.ยังขอให้หัวหน้างาน 5 กลุ่มงานจัดทำโรดแม็ปการทำงานตลอดระยะเวลา พร้อมสรุปการปฏิบัติงานทุกไตรมาส ซึ่งทุกไตรมาสจะต้องเห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม ส่วนการจัดทำบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการประจำปี ขอให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) ตรวจสอบคุณสมบัติให้เรียบร้อย ก่อนส่งรายชื่อทั้งหมดมาให้ภายในวันที่ 15 ส.ค. โดยจะยึดระบบการแต่งตั้งเช่นเดียวกับของข้าราชการทหาร
พล.อ.ประยุทธ์ ได้ชี้แจงถึงการปรับปรุงอาคารทำเนียบรัฐบาลด้วยว่า ไม่ได้ดำเนินการเพื่อต้อนรับหัวหน้า คสช. หรือใครคนใดคนหนึ่ง แต่เพื่อหน้าตาของประเทศ ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไปปฏิบัติข้าราชการได้ ซึ่งขอให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส ขณะที่สื่อบางส่วนยังมีการละเมิดประกาศของ คสช.อยู่ ได้ขอให้สมาคมสื่อได้ไปกำกับดูแลกันเอง เพื่อให้การทำงานของทั้งสื่อและคสช.สามารถเดินหน้าไปด้วยกันได้
'ฉัตรชัย'ขอบคุณเร่งตรวจข้าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า พล.อ. ประยุทธ์ได้แวะทักทายและกล่าวกับผู้เข้าประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ว่า ขณะนี้มีการจัดตั้งศูนย์รับซื้อผลผลิตทางการเกษตร อยู่ตามพื้นที่ชายแดน ซึ่งการจัดทำศูนย์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเขตเศรษฐกิจพิเศษและเป็นการป้องกันการลักลอบนำเข้าจากต่างประเทศ เมื่อจัดซื้อผลผลิตมารวมกันแล้วจะมีการปรับปรุงคุณภาพผลผลิตพื่อจำหน่ายไปยังต่างประเทศ เพื่อสร้างรายได้ให้คนในพื้นที่ จึงอยากให้คณะกรรมการนำเรื่องข้าวเข้าไปในส่วนนี้ด้วย พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอความเห็นในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวว่าจะจัดตั้งเป็นระบบสหกรณ์เพื่อให้มีความเข้มแข็งได้หรือไม่ รวมถึงแนวทางการระบายข้าวต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร
ด้านพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ในฐานะประธาน นบข. กล่าวเปิดการประชุม นบข. ครั้งที่ 2/57 โดยกล่าวขอบคุณคณะกรรมการที่ร่วมทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการตรวจสอบการจัดเก็บข้าวในโกดังและสรุปผลการปิดบัญชี ซึ่งขณะนี้ตรวจสอบไปแล้วกว่าครึ่ง และขอให้ตรวจสอบเสร็จสิ้นโดยเร็ว และขอให้ดำเนินการยุทธ ศาสตร์การระบายข้าวต่อไป
เผยร้อยละ 80 เป็นข้าวคุณภาพดี
พล.อ.ฉัตรชัย ให้สัมภาษณ์หลังการประชุม ว่า คณะอนุกรรมการกำหนดนโยบายได้เสนอยุทธศาสตร์เพิ่มเติมในการผลิตข้าวของไทย ซึ่งประกอบด้วยยุทธศาสตร์ด้านการผลิตและด้านการตลาด โดยมุ่งหวังให้เกษตรกรผลิตข้าวคุณภาพดี และขายได้ในราคาเหมาะสม ส่วนคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณข้าว รายงานผลให้ทราบว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบข้าวทั่วประเทศไปแล้ว 1,290 แห่ง จากที่มีทั้งหมด 1,787 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 72 และพบว่าร้อยละ 80 เป็นข้าวที่มีคุณภาพดีและถูกต้อง มีเพียงร้อยละ 10 ที่ไม่ตรงกับที่แจ้งไว้และเสื่อมคุณภาพ ซึ่งต้องตรวจสอบในรายละเอียดต่อไป ขณะนี้ไม่จำเป็นต้องมีการเร่งระบายข้าว แต่ต้องดูตามกลไกตลาด ไม่ให้มีผลกระทบต่อราคาข้าว และต้องดูว่ามีโอกาสมากน้อยแค่ไหนที่จะสามารถระบายข้าวได้
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวด้วยว่า ในอนาคตเรื่องของประกันราคาข้าวและการจำนำข้าว จะไม่พิจารณาใช้กับระบบของไทย แต่จะเน้นให้เกษตรกรปลูกข้าวที่มีคุณภาพ รวมถึงปลูกพืชอื่นๆ ทดแทนด้วย และได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามความคืบหน้าและตรวจสอบผลสำเร็จของมาตรการต่างๆ ที่ คสช. กำหนดไว้ในการช่วยเหลือเกษตรกรในช่วง ที่ผ่านมา รวมทั้งการสร้างความเข้าใจกับชาวนาและผู้ที่เกี่ยวข้อง ในแนวทางการแก้ปัญหาของเกษตรกรอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ได้ย้ำให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับการเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรมีรายได้มากขึ้น พร้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการกำหนดยุทธศาสตร์ทางการเกษตร
พิษณุโลกตรวจเสร็จ-ไม่มีปัญหา
 กระชับไมตรี - พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ต้อนรับพล.อ.เตีย บันห์ รองนายกฯ และรมว.กลาโหมกัมพูชา ที่นำคณะนายทหารระดับสูงเข้าพบกระชับความสัมพันธ์และความร่วมมือกับทหารไทย ที่กองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. |
ด้านนายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าชุดตรวจสอบปริมาณคงเหลือข้าวในสต๊อกของรัฐบาลชุดที่ 52 กล่าวว่า การดำเนินการลง พื้นที่ตรวจสต๊อกข้าวในพื้นที่ จ.พิษณุโลก 11 โกดัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ตนรับผิดชอบได้ตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ในเรื่องของปริมาณข้าวไม่พบว่าในพื้นที่มีข้าวหายไปจากโกดังหรือข้าวเกินกว่าปริมาณที่แจ้งไว้กับกระทรวงพาณิชย์เกินกว่าร้อยละ 5 ดังนั้นในพื้นที่นี้จึงไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของโกดังที่เป็นสต๊อกข้าวของรัฐบาล อย่างไรก็ตามปัญหา ที่พบในพื้นที่คือโกดังบางแห่งมีการรั่วของหลังคาทำให้น้ำฝนเข้ามาในโกดังทำให้ข้าว ที่เก็บไว้มีความชื้น ซึ่งได้สั่งการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) จังหวัดดำเนินการแก้ไขร่วมกับเอกชนเจ้าของโกดังแล้ว
นายจิรชัย กล่าวว่า ผู้ตรวจราชการทุกคนที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตรวจสต๊อกข้าวในพื้นที่จะทยอยส่งผลการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวในโกดังให้กับ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวในสต๊อกของรัฐบาลทราบ โดยคาดว่าผลตรวจสอบสต๊อกข้าวทั่วประเทศทั้งในเรื่องของคุณภาพและปริมาณของข้าวภายในเดือน ก.ย.ซึ่งจะมีการสรุปผลการตรวจสอบรายงานให้หัวหน้า คสช.ทราบต่อไป
คาดเปิดสภา'สนช.'6 ส.ค.นี้
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้าคสช.ฝ่ายกิจการพิเศษ กล่าวว่า วันที่ 30 ก.ค. เวลา 09.00 น. จะไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของสำนักงานสภาผู้แทนราษฎร ที่รัฐสภา ในฐานะกำกับดูแล ถือโอกาสไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานและดูความพร้อมต่างๆ โดยเฉพาะเมื่อมีสนช.เข้ามาทำหน้าที่ รวมทั้งสถานที่ประชุมต่างๆ ส่วนที่มีรายงานข่าวว่าจะมีการเปิดประชุมสภาเพื่อให้สนช.ได้ทำหน้าที่ในต้นเดือนส.ค.นั้น พล.ต.อ.อดุลย์ ไม่ตอบโดยกล่าวเลี่ยงว่ายังไม่ทราบ
รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า เบื้องต้นได้กำหนดรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะเป็นวันที่ 6 ส.ค. ส่วนรายชื่อสนช.จะโปรดเกล้าฯ ภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้ จากนั้นสนช.จะเดินหน้าทำงานทันที เนื่องจากมีกฎหมายที่สำคัญต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วน ขณะนี้คสช.ได้เตรียมเสนอกฎหมายที่สำคัญเข้าสู่การพิจารณาถึง 10 ฉบับ อาทิ ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ร่างพ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงแนวทางการหยิบยกกฎหมายที่มีความสำคัญและจำเป็นค้างอยู่ในการพิจารณาสภาว่า สนช.มีอำนาจหยิบยกขึ้นมาพิจารณาต่อไปได้ทันทีหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญชั่วคราว มาตรา 6
หึ่งชื่ออดีตส.ว.โผล่สนช.พรึ่บ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับรายชื่อ สนช. นอกจาก คสช.เป็นผู้จัดทำบัญชีแล้ว ยังมี รายชื่อที่เสนอโดยผู้ที่เกี่ยวข้องกับ คสช. เสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมาหลายบัญชี ให้พล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้เลือกขั้นสุดท้าย ทั้งนี้ในบัญชีรายชื่อ มีอดีต ส.ว.ที่คาดว่าจะ ได้รับการเสนอชื่อเป็น สนช.ด้วย อาทิ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม นายคำนูณ สิทธิสมาน
พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ อดีตส.ว.สรรหา กล่าวถึงกรณีมีรายชื่อเป็นสนช.ว่า ยังไม่ได้รับการทาบทาม ไม่มีใครมาทาบทาม ซึ่งการได้มา สนช.น่าจะเป็นลักษณะเดียวกับปี 2549 ที่เปิดรายชื่อสนช.ในวันโปรดเกล้าฯเลย หากใครไม่พร้อมก็ยื่นหนังสือลาออก เชื่อว่าการพิจารณารายชื่อ สนช.ของพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวน การยุติธรรม คสช. จะให้ความสำคัญกับบุคคลที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าความใกล้ชิดสนิทสนมส่วนตัว
เมื่อถามถึงข่าวอดีต ส.ว.สรรหาหลายคนในชุดที่ผ่านมาจะได้รับเลือกเป็นสนช.ด้วย พล.อ.อ.วีรวิทกล่าวว่า อย่างนายสุรชัย ก็เป็นบุคคลที่มีความเหมาะสม อีกทั้งเป็น อดีตส.ส.ร.ปี 2540 และ2550 ด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้
วิษณุปัดนั่งประธานสภา
พล.อ.ต.เฉลิมชัย เครืองาม อดีตส.ว.สรรหา กล่าวว่า ขณะนี้ข่าวลือเรื่องบุคคลที่จะเป็นสนช.มีมาก ตนไม่อยากแสดงความคิดเห็น ขอให้รอดูประกาศรายชื่ออย่างทางการดีกว่า ส่วนตนไม่ได้รับทาบทามแต่อย่างใด
ด้านนายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช.ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกระแสข่าวระบุมีรายชื่อเหมาะสมเป็นประธาน สนช. ว่า ไม่ทราบและไม่รู้เรื่องเลย ส่วนรายชื่อสนช.ทั้ง 220 รายชื่อที่มีข่าวว่ามีการนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมนั้น ตนไม่ทราบ เพราะเป็นเรื่องของทหารที่เป็นผู้คัดเลือกสมาชิกสนช.เอง ตนมีหน้าที่เพียงร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) เท่านั้น ไม่ได้มีหน้าที่คัดเลือกรายชื่อ ถ้าจะให้ตนเป็นสมาชิกสนช. ตนก็ยินดี
ปลัดกห.ยันคัดทหารชั้นดีเข้าสภา
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงข่าวมีชื่อเป็นประธานสนช. ว่า ตนไม่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย คนที่มาเป็นประธานสนช.ควรชำนาญด้านกฎหมายโดยเฉพาะ หากให้ตนทำก็ทำได้ แต่ควรให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทำจะดีกว่าเพราะเป็นกฎหมายที่สำคัญของประเทศ ใครก็ได้ที่ทำให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด ส่วนที่วิจารณ์ว่าทหารเข้ามาเป็นสนช.จำนวนมากนั้น เรื่องนี้ต้องยอมรับเพราะบ้านเมืองไม่อยู่ในภาวะปกติ คนที่เข้ามาใน สนช.ได้รับการคัดเลือกอย่างดี กองทัพจะส่งใครก็ต้องกลัวเสียชื่อ
ดังนั้น คนที่ส่งเข้ามาต้องทำการบ้านอย่างหนักและเป็นคนที่มีความรู้ หลายคนจบปริญญาโทและเอกด้านรัฐศาสตร์ ส่วนรายชื่อที่ออกมานั้น อยู่ที่สังคมตัดสินว่าจะมองมุมไหน ยืนยันว่านายทหารที่คัดเลือกมา มีคุณสมบัติและประสบการณ์การทำงาน เราคัดนายทหารชั้นดีของกองทัพ
พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารประจำปี 2557 ว่า แต่ละหน่วยกำลังจัดทำ แต่ละเหล่าทัพจะเสนอมาที่กระทรวงกลาโหม ชื่อใครเหมาะสมตรงไหน ผบ.เหล่าทัพจะเป็นผู้ดูแล สุดท้ายแล้วคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลซึ่งมีรมว.กลาโหมเป็นประธานจะเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งคาดจะประชุมกันในราวปลายเดือนส.ค. ทั้งนี้การปรับย้ายนายทหารทุกอย่างทำตามปกติ ทุกหน่วยทำตามกำหนดการเดิม ไม่มีปัญหา
กกต.จ่อเอาผิด'ปู'ทัวร์นกขมิ้น
นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า คณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวน กกต. มีมติเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับพวกรวม 9 คน กรณีใช้ทรัพยากรของรัฐเพื่อให้เกิดความได้เปรียบและเสียเปรียบในการเลือกตั้ง กรณีทัวร์นกขมิ้นช่วงเดือนธ.ค. 56 - ม.ค. 57 ในพื้นที่ภาคอีสานกับภาคเหนือ โดยสั่งให้ผู้ว่าฯ เกณฑ์ผู้คนออกมาต้อนรับ มีป้ายสนับสนุนในพื้นที่ 11 จังหวัด คือเชียงใหม่ ลำปาง เพชรบูรณ์ ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ กาฬสินธุ์ เลย ยโสธร กรุงเทพฯ
นายสมชัย กล่าวต่อว่า โดยบุคคลเกี่ยวข้องประกอบด้วย นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทย นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรมว.คมนาคม นายสันติ พร้อมพัฒน์ อดีตรมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีตรมช.ศึกษาฯ นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ อดีตรมช.มหาดไทย นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย อดีตรมช.คลัง และพล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว อดีตผบ.ตร. โดยในส่วนของพล.ต.อ.อดุลย์ เป็นกรณีมอบเงินของน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้แก่ญาติตำรวจผู้เสียชีวิตจากเหตุที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง
คาดสรุปคดีได้ใน 2 เดือน
นายสมชัยกล่าวอีกว่า ทั้งนี้เตรียมเชิญ ทั้ง 9 มารับทราบข้อกล่าวหาและให้แสดงหลักฐานโต้แย้งก่อนสรุปความเห็นส่ง กกต.วินิจฉัยต่อไป คาดว่าคดีจะเสร็จภายใน 2 เดือน
สำหรับ กรณีใช้ทรัพยากรของรัฐไปหาเสียง เข้าข่ายผิดพ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ฝ่าฝืนมาตรา 57 ของพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ห้ามมิให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่โดยมิชอบเพื่อเป็นคุณเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หากพบกระทำผิดจริงจะมีโทษตามมาตรา 137 ของพ.ร.บ.เดียวกัน ระวางโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 -200,000 บาท เพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้ง 10 ปี และเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองมาตรา 94 (2) มีผลให้ยุบพรรค เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 184 (4) คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่ง ต้องไม่ใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้งและไม่กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนข้อห้ามตามระเบียบที่กกต.กำหนด
ป.ป.ช.ถกคืนเก้าอี้'พัชรวาท'
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษกป.ป.ช.ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คสช.อ้างคำสั่งศาลปกครองกลาง คืนตำแหน่งผบ.ตร. ให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ว่า จะนำเข้าหารือกันในที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในสัปดาห์หน้า ส่วนจะมีความเห็นอย่างไร อย่าเพิ่งไปพูดถึงเรื่องอนาคต เอาเรื่องปัจจุบันให้เรียบร้อยก่อน
สำหรับ กรณีของพล.ต.อ.พัชรวาทเริ่มจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมในวันที่ 7 ต.ค. 2551 โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พร้อมสมาชิกพรรค ยื่นร้องต่อ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2551 และป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง ฐานไม่ระงับยับยั้ง ปล่อยให้เหตุการณ์บานปลาย ในวันที่ 7 ก.ย. 2552 และต่อมานายอภิสิทธิ์ได้มีคำสั่งปลดพล.ต.อ.พัชรวาทจากตำแหน่งผบ.ตร. พล.ต.อ.พัชรวาทได้ ยื่นอุทธรณ์ต่อก.ตร.หรือคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ต่อมาก.ตร.ได้มีมติให้ยกเลิก คำสั่งปลดพล.ต.อ.พัชรวาท แต่นายอภิสิทธิ์ไม่มีคำสั่งคืนตำแหน่ง จึงได้ร้องต่อศาลปกครองจนกระทั่งมีคำสั่งให้คืนตำแหน่งในที่สุด นอกจากนั้นพล.ต.อ.พัชรวาทได้ยื่นฟ้องกรรมการป.ป.ช.ต่อศาลอาญาด้วย
แจงคดีถอดถอนต้องรอสนช.
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะ กรรมการป.ป.ช. กล่าวถึงหลายฝ่ายกังวลเกี่ยวกับการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่เกรงจะดำเนินการต่อไม่ได้ หลังจากรัฐธรรม นูญปี 50 ไม่มีผลบังคับใช้และในรัฐธรรมนูญชั่วคราว ไม่มีบทบัญญัติรองรับเกี่ยวกับการถอดถอนว่า คดีถอดถอนที่ค้างอยู่ในป.ป.ช. ที่ยังไม่ได้วินิจฉัยก็ต้องหยุดไปก่อน ยกเว้นคดีอาญายังดำเนินการต่อไป แต่ถ้าเป็นเรื่องถอดถอนที่ป.ป.ช.ชี้มูลแล้วและส่งให้วุฒิสภาแล้วนั้น ต้องรอสนช.ซึ่งทำหน้าที่เป็นส.ว.ดำเนินการว่าจะหยิบขึ้นมาหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการชี้มูลความผิดและให้ถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของป.ป.ช.ต้องเสียของใช่หรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ไม่เสียของแต่เสียเวลา เพราะต้องรอสนช.พิจารณา ส่วนจะส่งผล กระทบเรื่องการถูกตัดสิทธิการเมือง 5 ปีสำหรับผู้ที่เตรียมตัวลงสมัครส.ส.หากมีการเลือกตั้งหรือไม่นั้น ถ้าวินิจฉัยได้ก่อนและมีการตัดสิทธิจะมีผลไม่สามารถลงรับเลือกตั้งได้ แต่ถ้าช้าแล้วรัฐธรรมนูญประกาศให้มีการเลือกตั้ง บุคคลเหล่านั้นก็ลงได้ อย่างไรก็ตามคดีที่อยู่ในป.ป.ช.มี 2 ส่วนคือเรื่องถอดถอนอย่างเดียวกับคดีอาญา เช่น คดี 308 ส.ว.ที่ถูกชี้มูลถอดถอนและส่งเรื่องไปที่ส.ว.แล้วจำนวนหนึ่งก็รอสนช. ส่วนคดีอาญายังไต่สวนต่อไป ซึ่งก็มีอดีตส.ว.ทยอยเข้าให้ถ้อยคำอยู่ตลอด
ส่วนคดีที่ไต่สวนต้องระงับก่อน
เมื่อถามว่า คดีถอดถอนนายอภิสิทธิ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ ร่วมกันอนุมัติให้ความเห็นชอบขายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลในราคาต่ำกว่าตลาด และเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผู้ส่งออกบางราย ก็ต้องหยุดหรือชะลอไปด้วยใช่หรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ใช่ กระบวนการตรงนี้ต้องหยุดหรือชะลอการดำเนินการ แต่ไม่เฉพาะคดีนี้ ทุกคดีถอดถอนที่ค้างอยู่ใน ป.ป.ช.ต้องหยุดด้วย และรอสนช. หรือรอ สปช. ว่าจะยกร่างเรื่องนี้อย่างไร ซึ่งตามที่กรอบสปช. ต้องรอเป็นปี แต่เชื่อว่ายังไม่มี การกำหนดการเลือกตั้ง ฉะนั้นกระบวนการถอด ถอนจะต้องมาก่อนกระบวนการเลือกตั้งแน่ เพราะเลือกตั้งต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญใหม่
ยังไม่ชี้'สนช.-สปช.'แสดงทรัพย์สิน
ด้านนายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษกป.ป.ช. ให้สัมภาษณ์ถึงการเสนอแผนปฏิรูปเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นต่อคสช.ว่า เสนอต่อคสช.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งป.ป.ช.เป็นองค์กรกลาง สามารถขับเคลื่อนได้ทันทีตามแผนงานงบประมาณของแต่ละกระทรวง โดยมีส่วนเข้าไปดูการขับเคลื่อนทั้งหมด ส่วนข้อกังวลของหลายฝ่ายเกี่ยวกับการถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น ขณะนี้ป.ป.ช.ทำงานอย่างเต็มที่ แต่เมื่อเกิดสนช.ขึ้นมาแล้ว ป.ป.ช.ก็ต้องส่งเรื่องที่พิจารณาแล้วไปให้สนช. แต่ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวระบุว่าหากเกิดข้อขัดแย้ง เป็นเรื่องของการตีความโดยสนช.ต้องทำหน้าที่ ส่วนคดีอาญา ป.ป.ช.ยังคงดำเนินคดีไปตามปกติ
นายวิชา กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้าจะนำเรื่องสนช.และสปช.ต้องยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินหรือไม่ มาพูดคุยกันในที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ต้องหารือทั้งเรื่องการทำงาน การตรวจสอบ รวมถึงการแสดงบัญชีทรัพย์ สิน เมื่อถึงเวลาแล้วค่อยว่ากัน ส่วนป.ป.ช.จะเสนอบุคลเข้ารับสรรหาเป็นสปช.หรือไม่ ต้องปรึกษาหารือกันอีกครั้งหนึ่ง สำหรับข้อเสนอบุคคลที่มีคดีเกี่ยวกับการทุจริตไม่ควรมีสิทธิ์ลงรับสมัครส.ส. เรื่องนี้อยู่ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งเขียนไว้เป็นแนวทาง ดังนั้นใครมีหน้าที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ ต้องไปว่ากันตรงนั้น เมื่อเขียนไว้เป็นแนวทางแล้วก็ต้องทำ
พท.ห่วงอคติ-2 มาตรฐานทำวุ่น
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวคิดการตัดสิทธิทางการเมืองของนักการเมืองตลอดชีวิตที่โกงหรือทุจริตการเลือกตั้งว่า เห็นด้วยในหลักการ แต่การลงโทษถึงขั้นตัดสิทธิตลอดชีวิตนั้น ควรดำเนินการเมื่อปรับปรุงหรือพัฒนาองค์กรตรวจสอบการทุจริต หรือองค์กรตามรัฐธรรมนูญให้ได้รับความเชื่อถือทั้งในและต่างประเทศ เพราะความขัดแย้งที่ผ่านมา
ส่วนหนึ่งมาจากองค์กรตรวจสอบไม่ยุติธรรม สองมาตรฐานและเลือกปฏิบัติ ซึ่งการเขียนกติกากลางของบ้านเมือง อย่าตั้งเป้าหมายโดยมีอคติกับส่วนใดส่วนหนึ่ง จะทำให้ล้มเหลวและไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน แต่ควรมององค์รวมทั้งหมดของทุกภาคส่วนอย่างสมดุล ถ่วงดุลกัน โดยเฉพาะอำนาจอธิปไตย
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้ฟังอดีตส.ว.บางคนจะผลักดันให้ สนช.ถอดถอนอดีต ส.ส.และส.ว.ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาของส.ว. โดยใช้เสียง สนช. 3 ใน 5 ทั้งที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 2557 มิได้กำหนดเรื่องถอดถอนไว้ โดยอ้างว่าต้องการกวาดล้างนักการเมืองขยะออกไปนั้น แนวคิดเช่นนี้นับเป็นอันตรายมากๆ พยายามตีความกฎหมายเข้าข้างตนเองเหมือนในอดีต ถ้าทำเช่นนั้นได้จริงเท่ากับกำจัดนักการเมืองที่คิดเอาเองว่าเป็นนักการเมืองขยะร่วม 400 คน ให้ออกจากสังคมการเมืองไทย ใช้เสียง 3 ใน 5 ของสนช.ที่มาจากการแต่งตั้งโดยคสช.ทั้งหมด ตีความกันเองว่าทำได้ ซึ่งจะตอกย้ำและขยายความแตกแยก ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด
"ปู-ลูก"ทัวร์ลอนดอน
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เข้าใจแล้วว่าคนที่มีความคิดว่าผู้ที่แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ส.ว.มาจากการเลือกตั้งโดยประชาชนเหมือนตอนใช้รัฐธรรมนูญปี 2540 เป็นนักการเมืองขยะ ผู้ที่มาจากการสรรหาโดยคนเพียง 7 คนเป็นนักการเมืองคนดี ดังนั้น อยากฝากถึง คสช.ว่าหากบุคคลประเภทนี้ได้รับการแต่งตั้งเข้าไปดำรงตำแหน่งใดในองค์กรตามรัฐธรรม นูญชั่วคราว เหมือนที่เคยได้รับแต่งตั้งสมัยรัฐประหารปี 2549 ถือเป็นความสูญเปล่า เสียของอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 28 ก.ค. น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมด้วยดช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร ลูกชาย ได้เดินทางถึงกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เรียบร้อยแล้ว หลังจากอยู่ร่วมงานฉลองวันคล้ายวันเกิดครบ 65 ปีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยวันเดียวกันนี้อดีตนายกฯใช้เวลาพักผ่อนส่วนตัว ซึ่งปรากฏว่ามีคนไทยในกรุงลอนดอน ได้เข้ามาขอถ่ายรูปพร้อมให้กำลังใจเป็นระยะ
คนอีสานยก'ปู'นักบริหารแห่งปี
เมื่อวันที่ 28 ก.ค. นางกัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม ผอ.ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน หรืออีสานโพล เผยผลสำรวจความเห็นของคนอีสานเกี่ยวกับบุคคล องค์กรและผลงานที่มีความโดดเด่นที่สุดในรอบครึ่งปีแรกของปี 2557 ในสาขาต่างๆ จากกลุ่มตัวอย่าง 1,055 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด พบว่าคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรก แยกเป็นนักการเมืองผู้บริหารภาครัฐฝ่ายหญิงแห่งปี เป็นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ด้วยคะแนนร้อยละ 42.56 นางปวีณา หงสกุล ร้อยละ 3.03 และคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ร้อยละ 1.42 สำหรับฝ่ายชาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคสช. ร้อยละ 21.90 พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 19.91 และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ร้อยละ 6.92
ละครจอแก้วแห่งปี อันดับ 1 เรื่องสามีตีตรา ร้อยละ 16.79 เสน่หาสัญญาแค้น ช่อง 3 ร้อยละ 6.73 และอย่าลืมฉัน ร้อยละ 6.07 รางวัลพระเอกแห่งปี "โป๊ป"นายธนวรรธน์ วรรธนะภูติ ร้อยละ 14.60 นางเอกแห่งปี "พลอย"น.ส.เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ ร้อยละ 11.28 ส่วนเจนี่ อัศวเหม เป็นอันดับ 2 ร้อยละ 6.54
นักร้องชายแห่งปี "ไผ่ พงศธร" ร้อยละ 8.72 นักร้องหญิงแห่งปี "หญิงลี ศรีจุมพล" ร้อยละ 21.42 เพลงดังแห่งปี คือ ขอใจเธอแลกเบอร์โทร ที่ร้อยละ 14.88
ผู้ประกาศข่าวแห่งปีฝ่ายชาย นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ร้อยละ 51.09 ฝ่ายหญิง'ไบร์ท'น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ ร้อยละ 20.19 และพิธีกรข่าวเศรษฐกิจแห่งปี นายบัญชา ชุมชัยเวทย์ ร้อยละ 16.87
สำหรับผลสำรวจดังกล่าวให้ผู้ตอบแบบสำรวจเสนอชื่อ บุคคลหรือองค์กรหรือผลงานที่สมควรได้รับรางวัลแห่งปี โดยไม่มีตัวเลือกให้ และพบว่า หลายรางวัลยังไม่มีผู้เหมาะสมจะได้รับเนื่องจากงดออกเสียงหรือไม่ให้คะแนนจำนวนมาก
