'สุเทพ'ลั่นต้องหานายกฯใน 3 วัน ให้'สุรชัย'ปธ.วุฒิฯทูลเกล้าฯชื่อคนกลาง 'ตู่'แฉเหตุ กปปส.เคลื่อนขบวนดาวกระจายล้อมสื่อโทรทัศน์ ให้เกี่ยวสัญญาณถ่ายทอด ม็อบพุทธะฯบุก ศอ.รส.
กปปส.เคลื่อนบุก7ขบวน
เมื่อเวลา 09.09 น. วันที่ 9 พฤษภาคม ที่สวนลุมพินี วันนัดชุมนุมใหญ่กลุ่มผู้ชุมนุมของคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำ กปปส. ได้ขึ้นประกาศบนเวทีปราศรัยว่า จะแบ่งมวลชนออกเป็น 6 ขบวน ขบวนที่ 1 นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. เคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล ขบวนที่ 2 นำโดนายอิสสระ สมชัย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เคลื่อนขบวนไปสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ขบวนที่ 3 นำโดยนายถาวร เสนเนียม เคลื่อนขบวนไปช่อง 11 ถนนวิภาวดีรังสิต ขบวนที่ 4 นำโดยนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เคลื่อนขบวนไปช่อง 3 ขบวนที่ 5 นำโดยนายชุมพล จุลใส เคลื่อนขบวนไปช่อง 9 ขบวนที่ 6 นำโดยนายวิทยา แก้ว
ภราดัย เคลื่อนขบวนด้วยการเดิน ไปช่อง 11 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ และขบวนที่ 7 ของกองทัพธรรมนำโดย ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ นำขบวนไปช่อง 5 ส่วนพื้นที่ชุมนุมเบื้องต้นจะมีเวทีเพิ่มเติม ที่แยกราชดำริและราชประสงค์ แต่เวทีหลักยังอยู่ที่สวนลุมพินี โดยจะมีตนประจำเวทีสวนลุมฯ เพื่อเติมคนและส่งเสบียง
บุกสื่อทีวีจี้เกี่ยวสัญญาณ
นายสุเทพ กล่าวว่า นปช.จะบำเพ็ญเพียรครั้งสุดท้าย จะไปยังสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เพื่อให้เลิกนำเสนอข่าวของพวกทรราชเพราะมีการบิดเบือนความจริง สถานีโทรทัศน์ทุกช่องยังคงสามารถดำเนินรายการได้ปกติ และเมื่อไปถึงจะประกาศขอความร่วมมือกับทุกช่องมาเกี่ยวสัญญาณ ครั้งนี้ไม่ใช่การเผด็จศึก แต่เป็นการบำเพ็ญเพียรขั้นแรกเท่านั้น ขอความกรุณาคนกรุงเทพฯ ว่าหากเห็นรถตำรวจที่ไหนให้ล้อมไว้ อย่าให้ไปปราบปรามประชาชนได้ แต่อย่าทำร้ายตำรวจเด็ดขาด ส่วนขบวนของเวทีแจ้งวัฒนะจะไปปิดล้อม ศอ.รส.
"เรายังไม่เผด็จศึก จึงยังไม่มีการบุกสถานที่ใดๆ เพียงปักหลักรอมวลชนจากต่างจังหวัด หากเราต้องนอนกินกลางถนนก็ต้องทำ เพื่อเรียกร้องให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อาทิ ประธานศาลฎีกา ให้หารือกันเพื่อให้การขจัดระบอบทักษิณและการมีรัฐบาลใหม่เป็นไปอย่างราบรื่นภายใน 3 วัน แต่หากทำโดยราบรื่นไม่ได้ ประชาชนก็จะใช้วิธีของประชาชน ใครพบนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการนายกรัฐมนตรีให้เชิญตัวมาพบผมที่ทำเนียบรัฐบาล ผมจะคุยกับเขาเพื่อขอให้เลิกสวมหัวโขนคณะรัฐมนตรีหลอกๆ ได้แล้ว" นายสุเทพกล่าว
ปราศรัยช่อง 3 ชวนร่วมม็อบ
จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังสถานที่นัดหมายตามการแบ่งงานโดยคนของ นายณัฏฐพลเมื่อเดินทางถึงหน้าอาคารมาลีนนท์ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3 นายณัฏฐพลขึ้นปราศรัยบนรถขยายเสียงว่า มาช่อง 3 เพื่อไม่ให้รายงานข่าวรัฐบาล วันนี้ถือว่าช่อง 3 เปิดโอกาส ให้ความร่วมมือกับ กปปส.มากเพราะว่าปกติจะมีเจ้าหน้าที่มาดูแล แต่วันนี้ไม่มีแสดงว่าเห็นด้วย ส่วนจะปักหลักนานแค่ไหนแล้วแต่นายสุเทพ เพราะนายสุเทพเป็นร่างทรงประชาชน จะให้อยู่นานแค่ไหนพวกก็จะสู้ เชื่อว่าพนักงานช่อง 3 ก็ต้องการจะร่วมกับมวลมหาประชาชน
กปปส.ตั้งเวทีหน้าช่อง7
ที่ด้านหน้าสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7 ซอยพหลโยธิน 18/1 กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.เคลื่อนขบวนมาปิดถนนบริเวณด้านหน้า นำโดยแกนนำ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายสกลธี ภัททิยกุลและนายอิสสระ สมชัย ภายหลังจากแกนนำผู้ชุมนุมเข้าเจรจากับผู้บริหารของสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 นายอิสสระได้ขึ้นรถกระจายเสียงชี้แจงว่า การออกอากาศของช่อง 7 จะยังเหมือนเดิมตามปกติ แต่หากมีการแถลงข่าวด่วนจากทาง กปปส.หรือจากกองทัพ ขอให้ช่อง 7 เกี่ยวสัญญาณการออกอากาศมาเข้าการแถลงข่าวทันที และการเจรจาขอเข้าใช้พื้นที่นั้นเป็นไปด้วยดี ทางช่อง 7 ยอมให้กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.เข้ามาใช้พื้นที่บริเวณด้านหน้าตึกของสถานีได้ แต่ห้ามเข้าไปยังตัวอาคารโดยเด็ดขาด โดยจะปักหลักอยู่ที่นี่จนกว่าจะชนะรัฐบาล คาดว่าจะไม่เกิน 2-3 วัน จะตั้งเวทีปราศรัยย่อยที่ด้านหน้าตึกสถานีช่อง 7
จำลองโผล่ร่วมม็อบปิดช่อง 5
ที่บริเวณหน้าสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 (ททบ.5) ถนนพหลโยธิน กลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณหรือ กปท. นำโดย พล.ต.จำลอง ศรีเมือง เรือตรีแซมดิน เลิศบุศย์ พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ พร้อมด้วยมวลชนผู้ชุมนุม กปท. เดินทางมาชุมนุมที่บริเวณหน้าสถานี โดยขอเข้าพบผู้บริหารเพื่อให้นำเสนอข่าวอย่างเป็นกลาง ทางกลุ่ม กปท.ได้ใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ติดเครื่องขยายเสียงตั้งเป็นเวทีปราศรัยด้านหน้า มีการปิดการจราจรถนนพหลโยธินทุกช่องทาง ตั้งแต่บีทีเอสสนามเป้าถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ ต่อมาตัวแทนผู้บริหารช่อง 5 นำโดย พล.ต.บุญญฤทธิ์ วิสมล ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายและแผน ได้เข้าพูดคุยกับทางแกนนำ หลังจากนั้น พล.ต.จำลองพร้อมด้วย พล.อ.ปรีชากล่าวว่า การเจรจากับผู้บริหาร ททบ.5 เป็นไปอย่างราบรื่น ส่วนใหญ่เป็นรุ่นพี่ที่รู้จักกันในวงการทหาร ทางกลุ่ม กปท.ไม่ได้เรียกร้องอะไร เพียงแต่ต้องการมาปกป้องสื่อไม่ให้ถูกโจมตี ไม่ได้มีเจตนาก่อความวุ่นวายใดๆ อาจจะอยู่ปักหลักประมาณ 3 วัน
บุกช่อง 9 ขู่ควบคุมออกอากาศ
ที่ประตูด้านหน้าของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) หรือช่อง 9 ถนนพระราม 9 นายชุมพล จุลใส และ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำ กปปส. ได้นำผู้ชุมนุม กปปส.เดินทางมาถึง นายสมจิตร ชินสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักบริหารกลาง อสมท ได้ออกมาเจรจา และให้แกนนำเข้าไปพูดคุยภายในห้องรับรอง โดยมี พ.อ.เอกรัตน์ ชาญแก้ว ผบ.ร.1 รอ. พร้อมด้วย พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ แสงสว่าง ผกก.สน.ห้วยขวาง และนายสุวิช สุทธิประภา บรรณาธิการบริหารฝ่ายข่าวในประเทศ อสมท ร่วมหารือ นายชุมพลได้ยื่นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 1.ขอให้กลุ่มมวลชนเข้ามาภายในพื้นที่ห้องโถงอาคาร เบื้องต้น 5 วัน 2.ขอเชื่อมสัญญาณถ่ายทอดสดจากบลูสกายขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.ปราศรัย เเละ 3.ขอให้ อสมท ยกเลิกการเสนอข่าวของ ศอ.รส.และรัฐบาล
นายชุมพล กล่าวภายหลังเข้าเจรจาว่า ขณะนี้ผู้บริหารได้ให้การตอบรับกับข้อเสนอทั้งหมดแล้ว ผู้ชุมนุมจะยอมให้ทหารรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ แต่ตำรวจขอให้ออกนอกพื้นที่ภายในเวลา 18.00 น. เพราะไม่ไว้ใจตำรวจ เเละจะมีการลิงก์สัญญาณถ่ายทอดสดการปราศรัยของนายสุเทพให้มวลชนได้ชมการปราศรัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาประมาณ 15.30 น.มีการถ่ายทอดสดแถลงการณ์ ศอ.รส. ทำให้นายชุมพลไม่พอใจเป็นอย่างมาก จึงเรียกผู้บริหาร อสมท มาไถ่ถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่าหาก อสมท ยังจะถ่ายทอดสด ศอ.รส. กปปส.จะเข้าไปควบคุมการออกอากาศทั้งหมด ทำให้ผู้บริหาร อสมท ชุดเจรจา เริ่มมีสีหน้าเคร่งเครียด เเต่ก็รับปากว่าจะประสานให้ใหม่ จะไม่ผิดพลาดอีกเป็นครั้งที่ 2
บุกช่อง 11 เตรียมตัดสัญญาณ
ที่สถานีโทรทัศน์ ช่อง 11 กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส.ทยอยเข้ามาชุมนุมหน้าทางเข้า นายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส.ได้เข้าหารือกับหัวหน้าฝ่ายเทคนิคช่อง 11 ประจำสำนักงานข่าว จากนั้นได้ออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า กลุ่มผู้ชุมนุมจะยังเฝ้าชุมนุมอยู่ที่นี่จนกว่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ส่วนจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรนั้น อยากให้ติดตามต่อไป แม้ว่าที่แห่งนี้จะเป็นการส่งสัญญาณไปยังต่างประเทศ แต่เป้าหมายก็เพื่อตัดสัญญาณหรือตรวจสอบสัญญาณว่าหากมีข่าวใดที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล จะไม่ให้มีการนำเสนอโดยเด็ดขาด และมีความเป็นไปได้หากมีการเชื่อมสัญญาณกับช่องบลูสกายได้ก็จะทำทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณช่อง 11 นี้มีทหารรักษาความปลอดภัยทั้งหมด 170 นาย ต่อมาตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมได้หารือกับทหารที่เฝ้าประตูทางเข้าหน้าอาคาร เพื่อขอเข้าไปในอาคารประมาณ 10-20 คน หากมีกรณีฉุกเฉินหรือมีข่าวเกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพื่อจะตัดสัญญาณ ทางทหารก็ยินยอมเปิดประตูให้
ม็อบพุทธะบุก-เจอแก๊สน้ำตา
ที่บริเวณสโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต ที่ตั้งของศูนย์อำนวยการรักษาความสงบ (ศอ.รส.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระพุทธะอิสระนำมวลชน กปปส.ประมาณ 400 คน ชุมนุมปิดบริเวณทางเข้าสโมสรตำรวจ โดย ศอ.รส.ได้วางกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน ตั้งแนวลวดหนาม แท่งปูนวางไว้หลายชั้น ขณะที่มีการ์ด กปปส.ส่วนหนึ่งเฝ้าดูเหตุการณ์บริเวณทางยกระดับโทลล์เวย์ หน้าสโมสรตำรวจ ขณะที่อีกส่วนตระเวนในบริเวณโดยรอบสโมสรตำรวจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากผู้ชุมนุมพักรับประทานอาหารเสร็จ ได้เข้ารื้อแนวรั้วลวดหนามฝ่าแนวกั้นเข้ามาจนถึงแท่งแบริเออร์ ระหว่างนั้นตำรวจพยายามเจรจา เมื่อไม่เป็นผลตำรวจได้ฉีดน้ำด้วยรถติดตั้งเครื่องยิงแรงดันน้ำ และแก๊สน้ำตาประมาณ 3-4 ลูกเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม เกิดการชุลมุนกันก่อนผู้ชุมนุมจะถอยร่นไป มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยนำส่งโรงพยาบาล จากนั้นตำรวจพูดผ่านเครื่องขยายเสียงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบ ชุมนุมโดยสันติ ต่อมาแกนนำผู้ชุมนุมได้เข้าเจรจากับ พล.ต.ต.ภาคภูมิ สัจจพันธุ์ รอง ผบช.สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ (สยศ.ตร.) ตัวแทนของ ศอ.รส. ภายในสโมสรตำรวจ โดยพูดคุยกันประมาณ 5 นาที ก่อนกลับออกไปโดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ขณะที่ด้านหลังสโมสรตำรวจมีการ์ดนำผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งประมาณ 50 คน ยังคงพยายามฝ่าแนวกั้นตำรวจ
การ์ดไล่จับตำรวจรอบศอ.รส.
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะ ศอ.รส.ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่และวางแนวรั้วลวดหนามปิดทางเข้าออกสโมสรตำรวจ ที่ตั้ง ศอ.รส.ทุกทาง เนื่องจากมีผู้ชุมนุม กปปส.นำโดยพระพุทธะอิสระปิดทุกทางเข้าออก ระหว่างนั้นเองที่ทางเข้าออกด้านหลัง มีการ์ด กปปส.นำมวลชนและขับรถตระเวนโดยรอบซอยวิภาวดี 60, 62 และ 64 ได้พบกับรถตำรวจ และตำรวจในเครื่องแบบควบคุมฝูงชน เกิดเหตุชุลมุนกลุ่มการ์ดไล่จับรองผู้บังคับการ จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่นั่งรถมากับพลขับ มีการวิ่งไล่ตำรวจ โดยการ์ดจับพลขับคนหนึ่งไว้ได้ และยึดปืนได้ทั้งสิ้น 4 กระบอก ต่อมามีการเจรจาปล่อยตัวตำรวจ และพระพุทธะอิสระได้คืนปืนทั้ง 4 กระบอก นอกจากนี้ ขณะที่ พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผบ.ตร. ดูแล ศอ.รส. เดินทางเข้าพื้นที่ ศอ.รส.มาในเครื่องแบบสีกากีพร้อมกับพลขับ พบกับการ์ด กปปส.ที่ดักไว้ ทำให้ต้องวิ่งหนีหลบเข้าไปในบ้านประชาชนและเปลี่ยนเป็นสวมเสื้อเชิ้ตพรางตัว โดยเกิดการไล่กวดกันชุลมุน แต่ พล.ต.ท.โสภณและพลขับสามารถหนีปีนกำแพงเข้ามาใน ศอ.รส.ได้ แต่รถยนต์ที่นั่งมาถูกทุบเสียหาย
รีบกลับแจ้งวัฒนะหวั่นแดงยึด
พล.ต.ต.ภาคภูมิกล่าวว่า ตอนแรกพระพุทธะอิสระแจ้งว่าจะขอเข้ายื่นหนังสือกับ ศอ.รส.เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีต่างๆ โดยเฉพาะกรณียิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าไปยัง รพ.จุฬาภรณ์ แต่เมื่อตัวแทน ศอ.รส.ไปพบก็ไม่มีการยื่นหนังสือแต่อย่างใด เพียงแต่แกนนำแจ้งว่าพระพุทธะอิสระต้องการเข้าแจ้งความกับตำรวจกรณีชาวนา แต่ตำรวจไม่สะดวกพบพระพุทธะอิสระ เนื่องจากเป็นผู้มีหมายจับ หากเผชิญหน้าแล้วไม่จับกุมตำรวจจะเข้าข่ายละเว้น จึงเจรจาให้ตัวแทนแกนนำผู้ชุมนุมเป็น กต.ตร.สน.ทุ่งสองห้อง ประสานงานและเดินทางไปรับพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง เข้ามาในพื้นที่เพื่อรับแจ้งความ ระหว่างนั้นผู้ชุมนุมพยายามฝ่าแนวกั้น เกิดการฉีดน้ำและแก๊สน้ำตา ทำให้พระพุทธะอิสระเปลี่ยนความประสงค์ ต้องการแจ้งความข้อหาพยายามฆ่า จากการที่ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาแทน จึงมีการเจรจากันและให้พนักงานสอบสวนไปรอรับแจ้งความที่เต็นท์ด้านหน้าสโมสรตำรวจ ทั้งนี้ตำรวจจะปฏิบัติตามขั้นตอน เจรจาเป็นหลัก และไม่กระทำรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมาผู้ชุมนุมได้สลายตัว เนื่องจากพระพุทธะอิสระได้รับแจ้งว่าเสื้อแดงนนทบุรีจะบุกยึดที่ตั้งเวทีแจ้งวัฒนะจึงต้องรีบกลับ ทั้งนี้ ศูนย์เอราวัณแจ้งว่าเหตุยิงแก๊สน้ำตามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน ชาย 2 คน หญิง 2 คน นำส่งโรงพยาบาลวิภาวดี
พุทธะฯเล็งแจ้งความเอาผิดตร.
พระพุทธะอิสระ กล่าวว่า จะพามวลชนเดินทางไป สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดีกับตำรวจที่ปฏิบัติการเกินกว่าเหตุ ฉีดน้ำสกัดและยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุม ได้รวบรวมหลักฐานไปประกอบการแจ้งความดำเนินคดีด้วย
"ขณะนี้ยังมีอาการหายใจไม่สะดวก เจ็บที่หน้าอกเนื่องจากถูกฉีดน้ำใส่เข้าลำตัว การที่รีบนำมวลชนกลับที่ตั้งเพราะผู้การ ปตอ.แจ้งว่าคนเสื้อแดงระดมมวลชนมาแจ้งวัฒนะ ให้รีบกลับที่ตั้งก่อนเสื้อแดงจะผ่านด่านสกัดของทหารเข้ามาได้" พระพุทธอิสระกล่าว
สุเทพ ลั่นปักหลักค้างคืนทุกที่
สำหรับขบวนนายสุเทพนั้นผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้นำผู้ชุมนุม กปปส. เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล ได้โดยสำรวจสถานที่บริเวณทำเนียบรัฐบาล ประตูทางเข้าที่ 5 ฝั่งกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ได้เข้าไปสำรวจภายในพื้นที่ทำเนียบรัฐบาลโดยไม่ให้สื่อมวลชนตามเข้าไปแต่อย่างใด
ต่อมาที่เวทีเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) บริเวณสะพานชมัยมรุเชฐ นายสุเทพขึ้นเวทีประกาศว่า จะปักหลักชุมนุมค้างคืนรอบทำเนียบรัฐบาล โดยในช่วงบ่ายจะนำมวลชนไปยังรัฐสภา เพื่อติดตามการคัดเลือกประธานวุฒิสภา หากเป็นคนของระบอบทักษิณก็จะมีปฏิบัติการบางอย่างต่อไป เเต่หากได้ประธานวุฒิสภาที่ไม่ใช่คนของระบอบทักษิณ จะให้ประธานวุฒิสภา และประธานศาลฎีกา หารือกันว่าจะร่วมมือกับ กปปส. เพื่อตั้งนายกรัฐมนตรีได้อย่างไรหากไม่สามราถดำเนินการได้ก็จะมีวิธีปฏิบัติของ กปปส.เอง
บก.จร.เผยม็อบปิดติดหนึบ
กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) ประชาสัมพันธ์การจราจร หลังกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนขบวนไปยังจุดต่างๆ ว่า สภาพการจราจรในภาพรวม มีปัญหาในจุดที่มีการชุมนุม บริเวณที่มีปัญหามากคือใน ถนนรัชดาภิเษก รวมทั้งกรณีกลุ่ม กปปส.แจ้งวัฒนะมีการปิดการจราจรถนนวิภาวดีฯขาเข้าทั้งช่องทางด่วน คู่ขนาน และบนโทลล์เวย์ พอเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตาทำให้มวลชนวิ่งหนีไปในช่องทางด่วน ทำให้ติดขัดทั้งขาเข้าและขาออก เวลา 15.00 น. ได้เลิกชุมนุม เดินทางกลับแจ้งวัฒนะ การจราจรจึงเปิดเป็นปกติ
ม็อบปักหลักปิดจราจร 7 จุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) แจ้งว่า ผู้ชุมนุมได้ปักหลักตั้งเวทีทำให้ปิดการจราจร 7 จุด ดังนี้ 1.บริเวณด้านหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 ปิดการจราจรถนนพระราม 4 ขาออกทุกช่องทาง รถไม่สามารถผ่านได้ ด้านขาเข้าเปิดการจราจร 1 ช่องเท่านั้น 2.บริเวณสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ถนนพหลโยธิน ปิดการจราจรตั้งแต่จุดกลับรถใต้สถานีรถไฟฟ้าสนามเป้าจนถึงหน้าสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 เจ้าหน้าที่เปิดการจราจรช่องพิเศษขาเข้า 1 ช่องจราจร ที่จะมุ่งหน้าไปอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ด้านขาออกสามารถใช้การได้ปกติ 3.บริเวณสถานีโทรทัศน์ช่อง 9 ถนนพระราม 9 ผู้ชุมนุมเข้าไปปักหลักด้านในสถานีจึงไม่ได้มีการปิดถนน บริเวณสถานีโทรทัศน์ช่อง 11 4.ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้าผู้ชุมนุมปิดการจราจรช่องคู่ขนานทุกช่องทาง ด้านช่องทางด่วนสามารถใช้การได้ปกติ 5.ถนนเพชรบุรีปิดการจราจรถนนกำแพงเพชร 7 ตั้งแต่แยกเพชรอุทัย-อาร์ซีเอ ทุกช่องทาง 6.สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ปิดการจราจรถนนพหลโยธินขาเข้าตั้งแต่ธนาคารทหารไทยถึงซอยเฉยพ่วง 7.ทำเนียบรัฐบาลผู้ชุมนุมได้ตั้งเวทีบริเวณประตู 5 ด้านกระทรวงศึกษาธิการ และ กปปส.ได้เดินทางไปยังอาคารรัฐสภาถนนอู่ทองใน ทำให้มีการปิดการจราจร
ศอ.รส.ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4
ที่ ศอ.รส.มีการออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 ระบุว่า ขอประณามการกระทำผิดของ กปปส.และขอให้ประชาชนอย่ากระทำผิดว่า บัดนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. และแกนนำ ร่วมกันกระทำความผิดอย่างต่อเนื่อง ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดแถลงผลการสั่งคดีนาย
สุเทพ และแกนนำ กปปส.รวม 43 คน เห็นสมควรให้สั่งฟ้องในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ ยุยงให้ร่วมการหยุดงาน เพื่อขับไล่รัฐบาลและบุกรุกสถานที่ราชการ ที่ผ่านมา กปปส.มีข้อเรียกร้องตลอดเวลา อย่างการยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่ กปปส.ก็ขัดขวางการเลือกตั้งจนทำให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการเลือกตั้งเป็นโมฆะ ข้อเรียกร้องของ กปปส.ก็ได้รับการตอบสนองแล้ว รวมไปถึงศาลรัฐธรรมนูญก็ได้วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีที่มีส่วนในการโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี สิ้นสุดลงจำนวนทั้งหมด 10 คน และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี กรณีโครงการรับจำนำข้าว แต่ก็ยังระดมมวลชนบุกยึดสถานีโทรทัศน์หลายแห่งและสถานที่ราชการ ศอ.รส.ขอประณามการกระทำและขอให้ประชาชนไม่ร่วมกระทำผิด หากประชาชนเข้าร่วมจะต้องรับโทษเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เป็นแถลงการณ์นี้เป็นความเห็นของฝ่ายบริหาร ศอ.รส.เท่านั้น
ศอ.รส.ห้ามบิ๊กทีวีเชื่อคำขู่กปปส.
ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ และ น.ส.สิริมา สุนาวิน คณะทำงาน ศอ.รส. ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 5 เรื่องห้ามการถ่ายทอดสัญญาณหรือให้ความช่วยเหลือแก่แกนนำ กปปส. โดย น.ส.สิริมากล่าวว่า กรณีแกนนำ กปปส.ได้เข้าเจรจาและขู่บังคับผู้บริหารหรือผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง 3, ช่อง 5, ช่อง 7, ช่อง 9 และช่องเอ็นบีที (ช่อง 11) ไม่ให้ถ่ายทอดสัญญาณแถลงการณ์หรือเสนอข่าวของรัฐบาลและ ศอ.รส. แต่ให้ถ่ายทอดสัญญาณการแถลงการณ์หรือเสนอข่าวการชุมนุมของ กปปส. จึงเห็นควรออกคำสั่งห้ามผู้บริหาร ผู้อำนวยการ และเจ้าหน้าที่ของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกสถานีถ่ายทอดสัญญาณหรือให้ความช่วยเหลืออย่างหนึ่งอย่างใดกับแกนนำ กปปส. เว้นแต่การเสนอข่าวสารตามปกติ เพื่อไม่ให้เป็นการสนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดฐานกบฏ หรือก่อการร้ายดังกล่าว ศอ.รส.จึงแถลงการณ์มาเพื่อสั่งการให้ผู้บริหารสถานีวิทยุและโทรทัศน์ทุกแห่งงดเว้นหรือยุติการให้การสนับสนุนตามที่ กปปส.เรียกร้องโดยเด็ดขาด มิฉะนั้นจะต้องรับผิดทางอาญาและทางแพ่ง
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า การออกคำสั่งห้ามผู้บริหารสื่อฯนั้น เป็นเพียงการห้ามทำตามคำสั่งคำขู่ของ กปปส. แต่ไม่ห้ามการนำเสนอข่าวสารของ กปปส. ผู้บริหารสื่อฯมีสิทธิตัดสินใจในการนำเสนอข่าวสาร
สมาพันธ์นสพ.ประณามคุกคามสื่อ
สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ว่า ตามที่ กปปส.ปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ และกดดันให้ออกอากาศเผยแพร่เฉพาะข่าวสารและข้อมูลของ กปปส. ห้ามนำเสนอข่าวสารและข้อมูลของหน่วยงานรัฐบาล สมาพันธ์ขอประณามการกระทำดังกล่าว และขอเรียกร้องให้ กปปส.ยุติการกระทำดังกล่าวโดยเร็ว เพราะถือเป็นการคุกคามสิทธิและเสรีภาพของสื่อมวลชน และขัดแย้งต่อเจตนารมณ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพสื่อมวลชน นอกจากนี้ขอให้ผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ทุกช่องกำชับให้ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องนำเสนอข่าวสารและข้อมูลอย่างรอบด้าน ไม่เอนเอียงเข้าข้างฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการยั่วยุผ่านการนำเสนอข่าวสารและข้อมูลแก่ทุกฝ่ายในสังคมไทยต่อไป
สมาคมนักข่าวจี้กปปส.หยุดคุกคาม
สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ เช่นกันเนื้อหาระบุว่าตามที่ กปปส. ได้เคลื่อนขบวนมวลชนไปตั้งเวทีชุมนุมที่หน้าสถานีวิทยุและโทรทัศน์ โดยให้เหตุผลว่า เพื่อให้สถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ถ่ายทอดสัญญาณการเคลื่อนไหวและคำแถลงของ กปปส. และห้ามนำเสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาลนั้น สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย และสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งต่อการกระทำที่เข้าข่ายการคุกคามสิทธิ เสรีภาพสื่อมวลชนหรือขัดขวางการทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชน ขัดแย้งต่อเจตนารมณ์การปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่ให้ความสำคัญกับเสรีภาพสื่อมวลชน จึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้ 1.ขอให้ กปปส. หยุดกระทำการดังกล่าวทันทีหรือทบทวนท่าทีในการปิดล้อมสถานีโทรทัศน์ต่างๆ โดยด่วน 2.ต้องไม่ไปกดดันให้กองบรรณาธิการข่าวของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ นำเสนอข่าวของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพียงฝ่ายเดียวและควรเคารพความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการในการใช้ดุลพินิจในการนำเสนอข่าวสาร จะต้องไม่ทำให้ทรัพย์สินของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ ต้องให้ความปลอดภัยและความสะดวกแก่พนักงานและผู้สื่อข่าวทุกคนของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ 3.สถานีโทรทัศน์ในสังกัดหน่วยงานรัฐต้องไม่ยอมรับการถูกแทรกแซงหรือสั่งการจากฝ่ายรัฐบาล ให้นำเสนอข่าวสารเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นปช.จับตาหวังให้รัฐประหาร
ที่อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) แถลงว่า การขับเคลื่อนขบวนของนายสุเทพในวันนี้ แสดงให้เห็นว่าเป็นการต่อสู้ที่ดิ้นรนเฮือกสุดท้าย หลังศาลรัฐธรรมนูญและ ป.ป.ช.ไม่สามารถสร้างสุญญากาศทางการเมืองตามที่ต้องการได้ องค์กรอิสระทำไม่สำเร็จ จะเป็นการเดินเกมสู่ปฏิวัติ จึงขอเรียนผู้นำเหล่าทัพว่า นปช.จะปกป้องประชาธิปไตยถึงที่สุด ยึดหลักแนวทางสันติปราศจากอาวุธ หากกองทัพปฏิบัติตามคำของนายสุเทพ จะได้รับการต่อต้านจาก นปช.
อย่างถึงที่สุด และต้องการเตือนทุกฝ่ายให้เคร่งครัดต่อระเบียบวินัยการต่อสู้ ขอให้พี่น้องสู้กันเป็นทีม หากแยกกันสู้จะพาให้ นปช.พ่ายแพ้ คาดว่าคงมีการสร้างสถานการณ์ในกรุงเทพฯ เพื่อประกาศใช้กฎอัยการศึก สร้างเงื่อนไขเพื่อทำการรัฐประหาร ดังนั้นจำเป็นต้องมีการแถลงการณ์ต่างๆ โดยอาศัยช่องเอเชียอัพเดต สื่อต่างๆ เป็นระยะ
ยัน 10 พ.ค.ชุมนุมใหญ่อักษะ
นายจตุพรกล่าวว่า ยืนยันตามเป้าหมายเดิม จะมีการชุมนุมที่ถนนอักษะ วันที่ 10 พฤษภาคม แน่นอน การเคลื่อนพลของ กปปส. ไม่ใช่เรื่องใหม่ วันนี้มวลชนจำนวนน้อยถ้าเทียบกับครั้งที่ผ่านมาด้วยซ้ำ ต่อให้มีมากกว่านี้ก็ล้มประชาธิปไตยไม่ได้ วิธีเดียวที่ทำได้คือรัฐประหาร จึงขอให้พี่น้องอย่าทำอะไรให้เกิดการสร้างเงื่อนไขได้ ยิ่งการกระทำของนายสุเทพที่ยึดสื่อ จะยิ่งโดนประณามจากสังคมเอง วันนี้การเคลื่อนขบวน กปปส.จะไม่มีวันสำเร็จ
เต้นเบรกแดงเผชิญหน้า
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.กล่าวว่า สถานการณ์ตอนนี้ไม่ได้อยู่เหนือการคาดการณ์ กปปส.จะใช้เกมแรงเพื่อยั่วยุปลุกปั่นนำไปสู่การเปิดทางให้เกิดการรัฐประหาร ขออย่าให้คนเสื้อแดงเคลื่อนพลไปเผชิญหน้ากับ กปปส. เพราะเป็นสิ่งที่เขาต้องการ และขอเรียน ไปยังข้าราชการที่อ้างว่าวันนี้หยุดราชการจึงแสดงออกทางการเมือง ขอให้เข้าใจว่าได้รู้เห็นเป็นใจก่อกบฏ มีความผิดทางวินัยและอาญา เพราะสุเทพเป็นผู้ต้องหากบฏ การที่นายสุเทพยึดสถานีโทรทัศน์บังคับให้ถ่ายทอดแถลงการณ์ ขอเรียกร้องให้สื่อมวลชนแสดงจุดยืนให้ชัดเจน นี่คือการคุกคามสื่ออย่างรุนแรง เวลานี้เชื่อว่าคนไทยจะส่งความระลึกถึง 2 องค์กร หนึ่งคือศาลรัฐธรรมนูญที่วินิจฉัยว่าการชุมนุม กปปส.เป็นไปตามกฎหมายสันติวิธี และสองศาลแพ่งที่ออกคำคุ้มครอง กปปส.ว่าชุมนุมโดยสงบ และห้ามสลายการชุมนุมกลุ่มนี้
อพปช.ชุมนุมประท้วงกปปส.
ผู้สื่อข่าวรายงาน กลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ประชาธิปไตยหรือ อพปช.ในพื้นที่จังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ได้รวมตัวชุมนุมปราศรัยโจมตีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่กดดันรัฐบาลรวมทั้งไปปิดสถานีทีวีต่างๆ ในกรุงเทพฯ และยังมีคำแถลงการณ์ที่ต่างร่างขึ้นมา วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึง ป.ป.ช. ที่มีมติชี้มูลถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และคณะรัฐมนตรี พ้นหน้าที่ โดยกลุ่มผู้ชุมนุมแต่ละแห่งยังนำโลงศพจำลองเป็น
กลุ่มองค์กรอิสระมาตั้งวาง ก่อนวางดอกไม้จันทน์ ทำพิธีสาปแช่ง และทำการเผาทิ้ง ทั้งนี้ กลุ่มต่างๆ ที่ดำเนินกิจกรรมประท้วงนี้ อาทิ อพปช.อุดรธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด นครราชสีมา อุบลราชธานี สิงห์บุรี พระนครศรีอยุธยา พิษณุโลก กำแพงเพชร และเชียงราย เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการชุมนุมของเครือข่ายประชาชนคนรักประชาธิปไตย จ.พิจิตร นปช.ลำปาง นปช.แม่ฮ่องสอน กลุ่มภาคี นปช.ภาคเหนือ จ.สุโขทัย กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสระแก้ว กลุ่มคนเสื้อแดงสมุทรปราการ และชมรมแดงรักประชาธิปไตย จ.ปทุมธานี ทั้งนี้กลุ่มต่างๆ หลังทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์เสร็จ ต่างพากันออกเดินทางโดยรถยนต์เพื่อมายังถนนอักษะ จ.นครปฐม ตามนัดหมายการชุมนุมใหญ่ของ นปช.ในวันที่ 10 พฤษภาคมนี้
นิวัฒน์ธำรง หวังเรียบร้อย
ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.และ กปปส.เดินทางเป็นดาวกระจายไปยังสถานีโทรทัศน์ ทำเนียบรัฐบาล และ ศอ.รส.เพียงสั้นๆ ว่า หวังว่าทุกอย่างคงเรียบร้อย
พท.อัดสุเทพเริ่มรัฏฐาธิปัตย์
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่ม กปปส.ว่า เป็นการทำผิดกฎหมายซ้ำซาก แม้แต่ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ศอ.รส. ส่งฟ้องนายสุเทพกับพวกรวม 51 คน ข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาแล้ว ทว่าพวกนายสุเทพก็ยังไม่เกรงกลัวกฎหมาย ยังเดินทางไปยังสื่อมวลชนต่างๆ เพื่อกดดันว่าอย่าเสนอข่าวของรัฐบาล ให้เสนอเกี่ยวสัญญาณของ กปปส.แทน เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายอาญา ลุแก่อำนาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย นายสุเทพยังประกาศว่าให้เวลาประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา และประธาน กกต. 3 วัน ในการหาทางออกให้ประเทศ ไม่เช่นนั้นจะจัดการด้วยวิธีของตัวเอง เป็นลักษณะของการก่อการกบฏในแผ่นดิน เป็นภัยต่อความมั่นคง
"ผมและทีมกฎหมายจะรวบรวมหลักฐาน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุเทพและพวก ข้อหาเป็นกบฏต่อแผ่นดิน และขอเรียกร้อง ผบ.เหล่าทัพเอาผิดนายสุเทพ และแสดงจุดยืนของกองทัพในเรื่องนี้ วันนี้นายสุเทพแสดงธาตุแท้ให้เห็นแล้วว่าอยากเป็นองค์รัฏฐาธิปัตย์ ใครที่เห็นว่าการกระทำไม่ชอบให้ไปแจ้งความที่โรงพักทั่วประเทศ และในส่วนของทีมกฎหมายพรรคจะดำเนินการเรื่องนี้แน่นอน" นายพร้อมพงศ์กล่าว
ปชป.ป้องกปปส.ปิดทีวี
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พรรครู้สึกเป็นห่วงว่าสุดสัปดาห์นี้จะเกิดการเผชิญหน้าจากผู้ไม่หวังดีที่แฝงตัวเข้ามา โดยมีการอำนวยความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ของรัฐให้เข้ามาสร้างสถานการณ์และรัฐบาลก็ไม่ระงับเหตุใดๆ อย่างไรก็ตาม การที่ กปปส.เคลื่อนปิดสถานีโทรทัศน์และทำเนียบรัฐบาลยังไม่มีการทำผิดกฎหมาย เพราะยังไม่ได้บุกรุกอาคารสถานที่ภายใน ยังไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญ ยังอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ แต่วันนี้เกรงว่ารัฐบาลปล่อยให้แต่ละฝ่ายใช้กำลังตามอำเภอใจ จากนั้นจะใช้กำลังแฝงที่มีการใช้อาวุธโดยมีผู้ชุมนุมเป็นเป้าหมายนำสู่สงครามกลางเมือง ถ้ารัฐบาลทำอย่างนี้ก็จะกลายเป็นทรราชทันที พรรคจะคอยจับตาดู เพราะไม่ต้องการให้เกิดการเผชิญหน้า ไม่ต้องการให้ประชาชนถูกหลอกมาเป็นเกราะกำบังของรัฐบาลอีกแล้ว
สุเทพนำบุกสภายื่นหนังสือ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาก่อนการเปิดประชุมวุฒิสภาว่าถึงการรักษาความปลอดภัยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อย จำนวน 150 คน จากสถานีตำรวจภูธร จ.ฉะเชิงเทรา เข้ามาปักหลักดูแลความเรียบร้อยร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภาและเจ้าหน้าที่ทหารประจำการในรัฐสภามาก่อนหน้านี้ เนื่องจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.จะนำมวลชนมาเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ ขณะที่บรรยากาศโดยทั่วไปยังคงเป็นปกติ โดยเจ้าหน้าที่และข้าราชการวุฒิสภาที่เกี่ยวข้องเข้ามาปฏิบัติหน้าที่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมวุฒิสภาในเวลา 13.30 น.
ต่อมาเมื่อเวลา 14.45 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. พร้อมด้วยผู้ชุมนุม เป็นตัวแทนเข้ายื่นหนังสือถึงนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รักษาการประธานวุฒิสภา เพื่อขอความร่วมมือให้สมาชิกวุฒิสภาออกมาร่วมกันแก้ไขปัญหาวิกฤตประเทศในขณะนี้ โดยจะเสนอให้ที่ประชุมวุฒิสภาร่วมกันหารือเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 7
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการเจรจาเจ้าหน้าที่ประจำรัฐสภาขอเป็นตัวแทนรับหนังสือ เนื่องจากอยู่ระหว่างการประชุมวุฒิสภา แต่นายสุเทพยืนยันว่าจะรอยื่นหนังสือด้วยตนเอง ทำให้แกนนำ กปปส.ขอเข้าไปในสภา เพื่อรอยื่นหนังสือระหว่างพักการประชุม โดยมีนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา