- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 27 July 2014 21:16
- Hits: 4661
'บิ๊กต๊อก'ชงชื่อ 220 สนช. เช็กประวัติ เร่งสกรีนก่อนประกาศ มีทั้งทหาร-ธุรกิจ-อจ. 40 สว.มั่นใจได้เก้าอี้ เบรกวุ่น'วันเกิดแม้ว'คสช.จี้สอบ'ผู้จัดการ'
มติชนออนไลน์ :
'ประยุทธ์'เซ็นคำสั่งฉบับที่ 108 ตักเตือนหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ตีพิมพ์ข้อความทำลายความน่าเชื่อถือ ยื่นให้องค์กรวิชาชีพทำการสอบสวนทางจริยธรรม
@ 'ประยุทธ์'เช็กรายชื่อ'สนช.'
เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 26 กรกฎาคม ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางเข้ามา บก.ทบ. เพื่อทำงานตามปกติ พร้อมได้ตรวจสอบเนื้อหาบทความทั้งภาพและเสียงเกี่ยวกับผลงานของ คสช. ในรอบสองเดือนที่ผ่านมา เพื่อนำมาเผยแพร่ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ให้ประชาชนได้รับทราบถึงภารกิจของ คสช. ในช่วงที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ยังได้ตรวจสอบประวัติและสกรีนบุคคลตามรายชื่อที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนยุติธรรม ที่เสนอบุคคลเพื่อคัดเลือกเข้ารับตำแหน่งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวน 220 คน คาดว่าจะมีประกาศรายชื่อ สนช.ภายในสัปดาห์หน้า หรืออย่างช้าไม่เกินวันที่ 31 กรกฎาคมนี้
@ โผ"บิ๊กทหาร"ตบเท้าร่วมขบวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่คาดว่าจะได้รับการพิจารณาแต่งตั้งเป็น สนช. มีทั้งนักวิชาการ กลุ่มเอ็นจีโอ นักธุรกิจและจากหลากหลายอาชีพ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และนายทหาร ในจำนวน 220 คน ชัดเจนว่าจะมีนายทหารในราชการเข้าร่วมเป็น สนช.ไม่ต่ำกว่า 100 นาย ไล่เรียงตั้งแต่ตำแหน่ง ผู้บัญชาการเหล่าทัพ นายทหารระดับคุมกำลัง และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงของแต่ละเหล่าทัพ อาทิ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ตามด้วย รองปลัดกระทรวงกลาโหมอีก 3 คน ในส่วนของกองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรอง หัวหน้า คสช.ฝ่ายความมั่นคง ตามด้วย รอง ผบ.สส. เสนาธิการทหาร ประธานที่ปรึกษากองบัญชาการกองทัพไทย และ ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา (นทพ.)
@ "บิ๊กโด่ง-บิ๊กโบ้-มทภ."มีชื่อร่วม
ในส่วนรายชื่อของนายทหารจากกองทัพบกจะมีจำนวนมากกว่าปกติ เพราะเป็นหน่วยหลักในการเข้ามาควบคุมสถานการณ์ยึดอำนาจการปกครองประเทศร่วมกับ คสช. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 อาทิ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผู้บัญชาการทหารบก (รอง ผบ.ทบ.) พล.อ.อักษรา เกิดผล เสนาธิการทหารบก ไปจนถึงรองเสนาธิการทหารบก ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบกฝ่ายต่างๆ ที่ปรึกษาพิเศษ ทบ. รวมถึงนายทหารระดับแม่ทัพกองทัพภาคต่างๆ ทั้ง 4 กองทัพภาค และรองแม่ทัพภาค นอกจากนี้ยังมีนายทหารระดับคุมกำลัง ตั้งแต่ระดับผู้บัญชาการกองพลทั้ง 20 กองพล, ผบ.หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) ผบ.หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (นปอ.) ผบ.ศูนย์บัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ (ศปภอ.ทบ.) ผบ.มณฑลทหารบก (มทบ.) ในแต่ละกองทัพภาคต่างๆ อีก 13 หน่วย
สำหรับ นายทหารกองทัพเรือ อาทิ รองผู้บัญชาการทหารเรือ (รอง ผบ.ทร.) ผู้ช่วย ผบ.ทร. เสนาธิการทหารเรือ และที่ปรึกษา ผบ.ทร. ผู้บัญชาการกองเรือภาคต่างๆ ส่วนกองทัพอากาศ อาทิ รองผู้บัญชาการทหารอากาศ (รอง ผบ.ทอ.) ผู้ช่วย ผบ.ทอ. เสนาธิการทหารอากาศ และที่ปรึกษาผบ.ทอ. ตลอดจนผู้บังคับการกองบินต่างๆ ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนายตำรวจระดับสูงอีกไม่ต่ำกว่า 10 นาย อาทิ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช.
@ "บิ๊กจิน-บิ๊กเข้-บิ๊กต๊อก"ลุ้นรมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.)ในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. และ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะรองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ จะอยู่ในบัญชีรายชื่อที่จะได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ภายหลัง พล.อ.ประยุทธ์นั่งควบตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งในเบื้องต้น เมื่อมีการประกาศรายชื่อ สนช.แล้ว จะมีการเลือกประธาน สนช.ก่อนจะเรียกประชุมครั้งแรก เพื่อเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีในโอกาสต่อไป คาดว่าขั้นตอนทั้งหมดไม่เกินเดือนสิงหาคม 2557
@ "วีรวิท"เชื่ออดีตส.ว.ร่วมนั่งสนช.
พล.อ.อ.วีรวิท คงศักดิ์ อดีต ส.ว.สรรหา แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว. กล่าวถึงกระแสข่าวจะมีอดีต ส.ว.เข้าร่วมเป็น สนช. ว่า ไม่ทราบว่าจะมีใครบ้าง คิดว่าน่าจะมีแน่นอน เพราะการเป็นสมาชิกรัฐสภามีกฎกติกาในระหว่างการประชุมมาก ต้องใช้เวลาในการศึกษา หากมีผู้ที่มีประสบการณ์อย่าง อดีต ส.ว.มาเข้าร่วมบ้างก็จะช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้กับคนอื่นๆ ได้ ไม่ใช่เฉพาะ ส.ว.ชุดที่ผ่านมา แต่รวมถึง ส.ว.ชุดอื่นที่ด้วย เพราะถือว่าเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ทั้งสิ้น อย่าง สนช.เมื่อปี 2549 ก็มีอดีต ส.ว.หลายชุดเข้าร่วม
"ผมเชื่อว่า คสช.จะเลือก อดีต ส.ว.ที่ทำงานสภาเก่ง เป็นคนที่มีบทบาทที่ดีในสภา โดยเลือกเข้ามาให้เป็นตัวอย่าง หรือเป็นพี่เลี้ยงให้กับสมาชิกใหม่ โดยเฉพาะในช่วงแรกๆ เพราะมีความจำเป็น ถ้าใหม่มาทั้งหมด การประชุมก็อาจจะติดขัดได้ เห็นได้ชัดเมื่อตอน ส.ว.เลือกตั้งชุดใหม่เข้าทำหน้าที่ที่ยังมี ส.ว.สรรหา คอยเป็นพี่เลี้ยง การประชุมก็ยังดำเนินไปได้โดยไม่ติดขัด" พล.อ.อ.วีรวิทกล่าว และว่า คิดว่า สนช.มาจากไหนคงไม่สำคัญเท่ากับการทำหน้าที่ให้จริงจัง และกลับมาสู่หลักของการใช้เหตุผลมากขึ้น มีมารยาทที่ดีต่อกัน เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับสมาชิกรัฐสภาไทยในอนาคต
@ สนง.วุฒิฯพร้อมรับรายงานตัว
นางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการวุฒิสภา กล่าวถึงการเตรียมรับการรายงานตัวของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ต้องรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง สนช.ก่อน แต่ทางสำนักงานเตรียมความพร้อมไว้แล้ว หากมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้ง วุฒิสภาก็พร้อมรับรายงานตัวได้ทันที สถานที่รายงานตัวจัดไว้ที่บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 เมื่อสมาชิกมารายงานตัว ก็จะให้ทำบัตรประจำตัวสมาชิกชั่วคราว และแจกเอกสารคู่มือให้กับสมาชิก เช่น รัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ.2557 ข้อบังคับการประชุม สนช. ปี 2549 สิทธิประโยชน์ รวมถึงให้เตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าร่วมรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาครั้งแรกด้วย
@ เริ่มปรับปรุงทำเนียบรัฐบาล
ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปรับปรุงอาคารภายในทำเนียบรัฐบาลอย่างเต็มรูปแบบ ภายหลังจาก คสช.ได้อนุมัติงบประมาณ 252 ล้านบาท ในการปรับปรุงปรับทัศนียภาพและอาคารสถานที่ภายในทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรก เจ้าหน้าที่ได้เปิดให้รถที่มีบัตรอนุญาต สื่อมวลชน และรถคนงานที่เข้าขนย้ายของทางประตู 5 ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่เริ่มนำเอกสารออกจากตึกสำนักงาน คนงานบางส่วนทยอยขนย้ายโต๊ะเก้าอี้และอุปกรณ์สำนักงานออกจากตึกบัญชาการ 1-2 ตึกนารีสโมสร และอาคารอื่นๆ โดยเฉพาะตึกบัญชาการ 1 ที่จะมีการปรับปรุงห้อง 501 เพื่อใช้เป็นห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) แทนห้องประชุมเดิมที่ตึกเลขาธิการ ครม. ส่วนที่ตึกสันติไมตรี คนงานเข้ามารื้อพรมและเริ่มทาสีภายในตัวตึกบางส่วนแล้ว โดยมีกำหนดแล้วเสร็จตามกรอบเวลา 2 เดือน หรือภายในวันที่ 15 กันยายนนี้
@ พท.ตั้งคำถามถึงรธน.ชั่วคราว
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี คสช.ชะลอการจ่ายเงินกองทุนฟื้นฟูเพื่อผู้เคยเป็นสมาชิกรัฐสภาว่า คงไม่ขอแสดงความเห็นต่อคำถามดังกล่าวเพราะการชะลอการสั่งจ่ายคงอยู่ในขั้นตอนเพื่อหาข้อมูลให้รอบด้าน ขณะเดียวกันคนเป็น ส.ส. เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ เป็น 1 ใน 3 อำนาจอธิปไตย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประชาชนเลือกให้มาเป็นตัวแทน ย่อมมีศักดิ์ศรีเหมือนกับบุคลากรในภาคส่วนอื่นๆ เช่นกัน
นายชวลิตกล่าวต่อว่า ประเด็นที่ให้ความสำคัญขณะนี้ คือ จากการได้เห็นรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวและได้ฟังผู้เกี่ยวข้องอธิบายถึงรายละเอียดทำให้เกิดกังวลว่า รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นจะเป็นประชาธิปไตยมากน้อยแค่ไหน อย่างไร เพราะผู้เกี่ยวข้องเน้นประเด็นมุ่งจัดการกับนักการเมืองและพรรคการเมืองเป็นหลัก โดยข้อเท็จจริงแล้วปัญหาอยู่ที่นักการเมืองและพรรคการเมืองเป็นส่วนใหญ่จริงหรือ ลองมองกลับไปอีกมุมหนึ่งอาจได้ข้อคิดในอันที่จะร่วมกันสร้างระบอบประชาธิปไตยให้มั่นคงและยั่งยืน
@ หวังรธน.ใหม่ไม่อคตินักการเมือง
นายชวลิต กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นข้าราชการและมาเป็นนักการเมือง เห็นว่า นักการเมืองก็เหมือนกับบุคลากรภาคส่วนอื่นๆ มีทั้งคนดีและคนไม่ดี แต่คนดีต้องมีมากกว่าคนไม่ดีแน่นอนเช่นเดียวกับบุคลากรภาคส่วนอื่นๆ หากจะให้ความเป็นธรรมกับนักการเมืองบ้าง ลองมองย้อนดูประวัติศาสตร์การเมืองของเมืองไทย ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 ลุล่วงมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 82 ปี แต่นักการเมืองมีโอกาสบริหารประเทศครบเทอมเพียง 1 สมัย หรือวาระ 4 ปี เท่านั้นจริงๆ ส่วนใหญ่การเมืองของเมืองไทยบริหารภายใต้ระบอบอำนาจนิยมบ้าง ประชาธิปไตยครึ่งใบบ้าง อยู่ในระบอบประชาธิปไตยเป็นเวลาเล็กน้อย ไม่ต่อเนื่อง ล้มลุกคลุกคลาน ตรงข้ามกับญี่ปุ่นเปลี่ยนแปลงการปกครองใกล้เคียงกับไทยในสมัยราชวงศ์เมจิ แต่การเมืองญี่ปุ่นเข้มแข็งต่อเนื่องในระบอบประชาธิปไตย บ้านเมืองจึงเจริญมั่นคงเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกในปัจจุบัน
"ขอสะท้อนความเห็นอีกมุมมองหนึ่งเพื่อร่วมกันสร้างให้การเมืองเข้มแข็ง ต่อเนื่อง มั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอนาคต ให้ปัญหาการเมืองแก้ด้วยการเมือง ยิ่งในยุคโลกาภิวัตน์ โลกไร้พรมแดน และไทยเป็นหนึ่งในประชาคมโลก ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์และมั่นคงเท่านั้นที่จะทำให้ไทยยืนอยู่บนเวทีโลกอย่างสง่างาม หวังที่จะเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของเราถูกกำหนดโดยไม่มีอคติกับนักการเมือง ประการสำคัญโครงสร้างของภาคส่วนต่างๆ ควรจะเอื้อให้ประชาธิปไตยของเรามั่นคงและยั่งยืน" นายชวลิตกล่าว
@ "สาธิต"หนุนตัดสิทธิโกงเลือกตั้ง
นายสาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า เสนอแนวคิดตัดสิทธิทางการเมืองนักการเมืองที่โกงซื้อเสียงเลือกตั้งตลอดชีวิตชนิดตอกฝาโลงว่า เห็นด้วยอย่างยิ่ง การเสนอโทษให้นักการเมืองซื้อเสียงให้แรงที่สุดและให้มีความเกรงกลัวเป็นเรื่องป้องปราม ที่ผ่านมาเหตุผลและการทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่เด็ดขาดและน้อยมากที่จะตัดสินให้ผิด ถึงผิดก็ช้ามาก เรื่องที่ไปศาลส่วนใหญ่ก็หลุดคดีหมด ที่สำคัญความคิดของสังคมมักจะคิดว่าผู้แพ้มาร้องเรียนไม่มีน้ำใจนักกีฬา เขาชนะแล้วไม่ยอมรับ ไม่คำนึงถึงข้อเท็จจริงว่าคนที่ชนะได้รับคะแนนมาจากการซื้อเสียง ทำให้กระบวนการเอาผิดเพื่อลงโทษคนโกงซื้อเสียงไม่ศักดิ์สิทธิ์ คนไม่กลัว
"เมื่อกฎหมายให้อำนาจแล้วบอกว่า แค่เชื่อว่าไม่สุจริตเที่ยงธรรมก็จัดการให้เด็ดขาดตามหลักที่ กกต.ชุดแรกเคยทำได้ ผลคือแค่เชื่อได้ว่าผ่านการสืบสวนสอบสวนแล้ว ทั้งนี้เพื่อเป็นการคัดกรองคนที่จะเข้าสู่อำนาจมาบริหารและทำหน้าที่นิติบัญญัติจะได้มีคุณภาพ มีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่เละอย่างที่ผ่านมา โดยสรุป คือ 1.โทษหนัก 2.เด็ดขาดและปฏิรูป กกต. ที่สำคัญคือ ไม่ให้มีการวิ่งเต้นในกระบวนการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการทำคดีซื้อสิทธิ ขายเสียง เร่งทำคดีเลือกตั้ง และ 3.การปลุกจิตสำนึกของสังคมว่า คนชนะจากการโกงต้องถูกตรวจสอบและเอาออกจากตำแหน่งได้ ไม่ใช่ใช้โวหารสำนวนว่า ขี้แพ้ชวนตี" นายสาธิตกล่าว
@ โอ๊คเฟซถึงพ่อขอให้มีความสุข
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ลงเฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra เมื่อเวลา 14.39 น. เพื่ออวยพรวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณตรงกับวันที่ 26 กรกฎาคม มีอายุครบ 65 ปีในปีนี้ ด้วยข้อความว่า "Happy Birthday ครับพ่อ ขอให้พ่อมีความสุขมากๆ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ แม่ โอ๊ค เอม พงศ์ รวมถึงญาติพี่น้องและคนไทยอีกหลายล้านคนที่รักพ่อ ทุกคนอยากไปร่วมงานวันเกิดพ่อ แต่ไม่สามารถจะไปได้ เนื่องจากสภาวะปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย"
นายพานทองแท้ ยังโพสต์ต่อว่า "อวยพรพ่อผ่านตัวหนังสือมา 7-8 ปีแล้ว หวังมาทุกปีว่าครั้งต่อไปน่าจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งครอบครัว พวกเราทุกคนต่างก็รอวันนั้นครับ เรายังยืนยันคำเดิม หากได้พ่อกลับคืนมาเป็นครอบครัวที่อบอุ่นดังเดิม พวกเราทุกคน (รวมถึง "หลานตา" สมาชิกใหม่ในอนาคต) จะดึงพ่อให้ออกไปให้ไกลๆ ไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลย ขอความสุขที่แท้จริงจงกลับคืนมาสู่พ่อ ครอบครัว และพี่น้องไทยทุกคนครับ"
@ "เอม"อวยพรพ่อจิตใจเข้มแข็ง
ด้าน น.ส.พินทองทา ชินวัตร น้องสาวของนายพานทองแท้ ได้โพสต์ข้อความผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว aimpintongta ถึง พ.ต.ท.ทักษิณเช่นกันว่า "ปีนี้ไม่ได้อยู่กับพ่อในวันเกิดและไม่ได้เจอคุณพ่อมาหลายเดือนแล้ว คิดถึงพ่อ อยากกอดพ่อมากๆ วันเกิดปีนี้ลูกขอพรเหมือนเดิม ขอให้คุณพ่อมีสุขภาพแข็งแรง มีจิตใจที่เข้มแข็งเหมือนเดิมอย่างนี้ตลอดไป เพื่อคนที่รักคุณพ่อ รอคุณพ่อ อีกมากมาย อย่างน้อยๆ ก็ครอบครัวของเรานะคะ ลูกรักคุณพ่อและภูมิใจทุกวินาทีที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อค่ะ Happy Birthday to our most terrific daddy"
@ "เหยียนปิน"โต้โผจัดงานให้แม้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การจัดงานวันเกิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในกลุ่มครอบครัวและญาติสนิทที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะเริ่มตามเวลาท้องถิ่นที่ปารีสในเวลา 19.00 น. ที่โรงแรมโฟรซีซั่นส์ ห้อง Salon Auteuil เป็นงานแบบค๊อกเทล จากนั้นเวลา 20.00 น. จะเลี้ยงอาหารค่ำที่ห้อง Salon Vendome ซึ่งคนที่จะมางานวันเกิดของ พ.ต.ท.ทักษิณจะต้องติดริบบิ้นสีม่วงตามที่แนบไว้ในการ์ดเชิญเพื่อแสดงว่าได้รับเชิญเข้างานวันเกิดในครั้งนี้ นอกจากนี้ขอให้บุคคลที่ร่วมเข้างานต้องแต่งกายโดยชุดสูทสำหรับสุภาพบุรุษ และชุดราตรีสำหรับสุภาพสตรี
สำหรับ ผู้ที่จัดงานวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณในครั้งนี้ คือ นายชาญชัย รวยรุ่งเรือง หรือ "เหยียน ปิน" นักธุรกิจชาวจีนเพื่อนสนิทของ พ.ต.ท.ทักษิณ และมีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภริยาของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่ได้เดินทางไปร่วมงานที่ประเทศฝรั่งเศสแต่อย่างใด
@ ทหารยกเลิกจัดงานวันเกิดแม้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว มีการจัดทำบุญวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยนายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กลุ่มคนเสื้อแดงที่ทำงานในตึกศูนย์การค้า อิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว ได้รวมตัวจัดงานวันเกิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีการทำบุญเลี้ยงพระ ซึ่งในงานได้มีการขึ้นป้ายรูป พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. มีกลุ่มนายทหารได้เข้ามาขอให้ปลดป้ายภาพดังกล่าวออก พร้อมกับขอให้เลิกจัดงานด้วย ซึ่งทางผู้จัดงานได้ยกเลิกการจัดงานในเวลาต่อมา
@ โฆษกคสช.บอกขอความร่วมมือ
ด้าน พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวกรณีดังกล่าวว่า ทางทหารทราบว่าจะมีการจัดงานที่ศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว เกรงว่าจะมีการจัดการชุมนุมทางการเมือง จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 12 รักษาพระองค์ (ร.12 พัน 3) ที่ทำหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณดังกล่าวเข้าไปร่วมสังเกตการณ์ ยืนยันว่าทหารไม่ได้เป็นผู้ปลดป้ายภาพดังกล่าว แต่มีการพูดขอร้องกับผู้จัดงานว่าขอให้เลิกจัดงานดังกล่าวซึ่งทางผู้จัดงานก็เข้าใจและให้ความร่วมมือโดยดี
@ 2 จว.เหนือจัดงานบุญให้ทักษิณ
ที่ จ.เชียงใหม่ กลุ่มรักคนทักษิณกว่า 50 คน นำโดยนายองอาจ ตันธนสิน นายศรีวรรณ จันทร์ผง กลุ่มแนวร่วม นปช.แดงเชียงใหม่ ได้ทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์ 9 รูป เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครบรอบอายุ 65 ปี ที่วัดโรงธรรม
สามัคคี ต.สันกำแพง อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ โดยมีการทำพิธีอย่างเรียบง่าย พระครูจิตตภัทรา ภรณ์ เจ้าอาวาสวัดโรงธรรมสามัคคี กล่าวให้ศีลให้พร พร้อมอวยพรให้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขความเจริญ ทั้งนี้ ไม่มีนักการเมืองระดับชาติและท้องถิ่นร่วมงานอย่างใด โดยได้ตั้งโรงทานเลี้ยงอาหารแก่ผู้ร่วมงาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง มาดูแลความสงบเรียบร้อย 3-4 นาย อีกทั้งในงานไม่มีการติดภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อมิให้เป็นที่จับจ้องของเจ้าหน้าที่
ที่ จ.พิษณุโลก นายอนิรุจน์ ดีสงวน แกนนำกลุ่มเสื้อแดงพิษณุโลก ที่เคยถูก คสช.เรียกรายงานตัว ได้นัดพรรคพวก 30 คน รวมตัวที่วัดธรรมจักร อ.เมือง จ.พิษณุโลก เพื่อทำบุญเลี้ยงเพลพระสงฆ์ โดยพยายามไม่ให้มีการใส่เสื้อ
สีแดงปรากฏเป็นสัญลักษณ์ เพื่อจัดงานบุญในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ โดยตลอดงานไม่มีการเอ่ยชื่อของ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่อย่างใด แม้กระทั่งพระโสภณปริยัติธรรม เจ้าอาวาสวัดธรรมจักร เป็นผู้นำสวด ยังบอกเพียงว่า "ทำบุญแด่ผู้มีพระคุณ" ก่อนจะกล่าวต่อมาว่า การทำบุญครั้งนี้ใครๆ ก็ทำบุญกันได้ ไม่ได้ผิดอะไร ใครจะมาจับพระก็มา เขาทำบุญกับผู้มีพระคุณ
@ "ขวัญชัย"พาเมียไปที่วัดป่าอุ่มเม่า
ที่ จ.อุดรธานี นายขวัญชัย สาราคำ หรือไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า ตนพร้อมด้วยนางอาภรณ์ สาราคำ ภรรยา ร่วมกับสมาชิกคนเสื้อแดงและชาวบ้านได้ไปทำบุญถวายอาหารเพล ที่วัดป่าอุ่มเม่า ต.โนนสูง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมกับถวายจตุปัจจัยให้กับพระครูวิไล วิริโย เจ้าอาวาสวัดจำนวน 6,000 บาท เนื่องในวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ
"ก่อนหน้านี้ แกนนำเสื้อแดงหลายคนได้ขออนุญาตศาลเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งศาลก็อนุญาต แต่ คสช.ไม่อนุญาต แกนนำจึงไม่ได้ไปร่วมงานและอวยพรวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศฝรั่งเศส ผมจึงชวนภรรยาและลูกน้องคนสนิทมาทำบุญถวายอาหารและเงินที่วัดบ้านอุ่มเม่าให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งมีสมาชิกชมรมคนรักอุดร แจ้งความประสงค์จะมาร่วมทำบุญด้วย แต่ผมเห็นว่าไม่สมควร จึงห้ามไว้ และไปทำบุญกับภรรยาและลูกน้องคนสนิทไม่กี่คน" นายขวัญชัย กล่าว
@ บิ๊กตู่ส่งแจกันดอกไม้อวยพรชวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ได้มอบหมายให้ พ.ท.สิโรตม์ ทศานนท์ สำนักเลขานุการกองทัพบก เป็นผู้แทนเข้ามอบแจกันดอกไม้อวยพรนายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปี ที่อาคารมูลนิธิควง อภัยวงศ์ โดยนายชวนเกิดเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2481
@ "การุณ"บวชได้ฉายา"กิตฺติธโร"
เมื่อเวลา 08.00 น. นายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. เขตดอนเมือง พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้เข้าพิธีอุปสมบท ที่วัดดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. โดยมีนายสมพรรษา โหสกุล บิดา นางสุบรรณ ถนัดทาง มารดา นางพิมพ์ชนา ภรรยา ญาติและเพื่อนนักการเมือง อาทิ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร นายสุรชาติ เทียนทอง อดีต ส.ส.พท. รวมทั้งกลุ่ม ส.ก.-ส.ข.เขตดอนเมือง และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วม
นายการุณได้รับฉายาทางธรรมว่า "กิตฺติธโร"แปลว่า ผู้ทรงไว้ซึ่ง (ชื่อเสียง-เกียรติยศ) โดยพระเก่ง การุณ จะปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดดอนเมือง เป็นเวลา 9 วัน เพื่อทดแทนคุณบิดา-มารดา ซึ่งการอุปสมบทของพระการุณตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ พ.ต.ท.ชินวัตร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในโอกาสอายุครบ 65 ปีด้วย
@ คสช.ออกคำสั่งตักเตือนสื่อ
เมื่อเวลา 18.15 น. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งฉบับที่ 108/2557 เรื่อง การตักเตือนสื่อสิ่งพิมพ์ ซึ่งฝ่าฝืนข้อห้ามว่า เพื่อให้การรักษาความสงบและการแก้ไขปัญหาบ้านเมืองเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดย คสช.ได้ออกประกาศ คสช. ฉบับที่ 97/2557 ลงวันที่ 18 กรกฎาคม และฉบับที่ 103/2557 ลงวันที่ 21 กรกฎาคม 2557 ห้ามมิให้ผู้ประกอบกิจการหรือผู้ให้บริการด้านสื่อมวลชนทุกชนิด นำเสนอหรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไปสู่ประชาชนด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ อันส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ปรากฏว่าหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 253 วันที่ 26 กรกฎาคม-1 สิงหาคม 2557 ตีพิมพ์ข้อความหลายเรื่อง ด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยมีเจตนาไม่สุจริต เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของ คสช. ถือเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของ คสช.ดังกล่าว ในชั้นนี้เห็นสมควรตักเตือนผู้เขียนบทความ บรรณาธิการ ผู้พิมพ์ ผู้โฆษณา ของหนังสือพิมพ์ดังกล่าว หากฝ่าฝืนอีกจะดำเนินการตามกฎอัยการศึก ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา และส่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายด้วย ทั้งนี้ ให้องค์กรวิชาชีพ ที่ผู้ฝ่าฝืนดังกล่าวข้างต้นที่เป็นสมาชิกดำเนินการสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพกับบุคคลเหล่านั้นแล้วรายงานผลการดำเนินการให้ คสช.ทราบโดยเร็ว
@ "ประดิษฐ์"โยนสภาการฯสอบ
ด้านนายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กรณี คสช. ฉบับที่ 108/2557 เรื่อง การตักเตือนสื่อสิ่งพิมพ์ซึ่งฝ่าฝืนข้อห้าม โดยให้องค์กรวิชาชีพดำเนินการสอบสวนทางจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพกับหนังสือพิมพ์ผู้จัดการสุดสัปดาห์ว่า เรื่องการสอบสวนตามคำสั่งของ คสช.ที่ 108 ไม่ใช่หน้าที่ของสมาคมนักข่าวฯ แต่เป็นอำนาจหน้าที่ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ที่มีนายจักร์กฤษ เพิ่มพูล ที่ดำรงตำแหน่งประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ อยู่ในขณะนี้เป็นผู้สอบสวนในส่วนของเรื่องจริยธรรมแห่งการประกอบวิชาชีพ
นายจักร์กฤษ กล่าวว่า ได้ทราบเรื่องที่ คสช.มีประกาศแล้ว เบื้องต้นเมื่อมีการกล่าวหาต้องมีการสอบสวน โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ได้พบปลัดกระทรวงกลาโหม จึงได้บอกว่า เรามีองค์กรวิชาชีพที่จำกัดเรื่องจริยธรรมอยู่แล้ว เมื่อมีอยู่แล้วทาง คสช.ก็ควรให้เราทำหน้าที่นั้น กรณีนี้เป็นเรื่องการกล่าวหา ดังนั้นต้องทำอย่างละเอียดพอสมควร ซึ่งหนังสือพิมพ์ผู้จัดการที่ถูกกล่าวอ้างว่ากระทำผิด แต่จากที่อ่านประกาศยังไม่ชัดมีความผิดเรื่องใดประเด็นใด จึงอยากขอให้ คสช.มีหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาละเมิดข้อใด ทางสภาการฯจะได้สืบสวนต่อไป โดยมีขั้นตอนต้องส่งเรื่องให้กรรมการรับเรื่องร้องทุกข์เป็นผู้พิจารณา อาจจะมีการเรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบสวน แต่กรณีนี้อาจจะพิเศษ เพราะเป็นช่วงมีข้อขัดแย้ง คำสั่ง คสช.ฉบับที่ 97 โดยทางสภาการฯ รับร้องไปว่าไม่จำเป็นต้องใช้กฎหมายปิดสื่อ เพราะเรามีองค์กรที่ดูแล้วอยู่แล้ว เมื่อเรายืนยันหลักการนี้ไป เรื่องนี้ก็ต้องมาดูต่อว่าเร่งด่วนหรือไม่