- Details
- Category: การเมือง
- Published: Friday, 25 July 2014 16:17
- Hits: 5509
25 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8640 ข่าวสดรายวัน
พรเพชรจ่อ นั่งประธานสนช. สัปดาห์หน้า-เปิด 220 ชื่อ'ประวิตร-อนุพงษ์'ติดรมต. น้องปู-พี่แม้วโผสวมกอด น้ำตาคลอ-สนามบินปารีส
พี่น้อง - พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สวมกอดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ น้องสาว ที่ท่าอากาศยานชาร์ลส์ เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส โดยน.ส. ยิ่งลักษณ์พาลูกชาย ไปร่วมวันเกิดพ.ต.ท. ทักษิณวันที่ 26 ก.ค.นี้ |
วาง 'พรเพชร วิชิตชลชัย'กุนซือฝ่ายกฎหมาย'บิ๊กตู่'นั่งประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ คสช.เตรียมประกาศรายชื่อ 220 สนช.สัปดาห์หน้า ส่วนรายชื่อครม.มีชื่อ'บิ๊กป้อม'พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรมว.กลาโหม และ'บิ๊กป๊อก'พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นั่งมท.1 ด้าน'ยิ่งลักษณ์'บินถึงฝรั่งเศสแล้ว'ทักษิณ' รุดต้อนรับ สองพี่น้องโผเข้าสวมกอดกันน้ำ ตาคลอ
'แม้ว-ปู'น้ำตาซึมโผกอดกันแน่น
วันที่ 24 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพานทองแท้ ชินวัตร โพสต์รูปพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นายกฯ น้องสาวพ.ต.ท.ทักษิณ ที่โผกอดกันที่อากาศยานชาร์ลส์ เดอ โกล ประเทศฝรั่งเศส ลงในอินสตาแกรม
ทั้งคู่สวมกอดกันทันทีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปถึง พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็กของ พ.ต.ท. ทักษิณ เพื่ออวยพรวันเกิดวันที่ 26 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ไปรอรับด้วยใจจดจ่อและเมื่อน.ส. ยิ่งลักษณ์ เดินออกมาก็ได้โผเข้าสวมกอดอย่างแน่นด้วยความยินดี ซึ่งทั้ง 2 คนถึงกับน้ำตาซึมด้วยความคิดถึง ก่อนจะสอบถามถึงสารทุกข์สุกดิบและพากันเข้าที่พัก
นายพานทองแท้ ระบุข้อความพร้อมรูปดังกล่าวว่า "ตัดผมอยู่ดีๆ ก็มีคนส่งรูปพ่อกับสาวมา" โดยทันทีที่โพสต์รูปและข้อความประมาณ 30 นาที มีคนเข้าไปดูและกดไลก์กว่าพันคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายพานทองแท้โพสต์ภาพการสวมกอดกันระหว่างพี่น้องของพ.ต.ท.ทักษิณ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ไม่นาน น.ส.แพทองธาร ซึ่งร่วมคณะไปกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วย ก็ได้โพสต์คลิปการพบกันของทั้งสอง โดยวิ่งเข้าหาและหอมแก้มน้องสาวลงในอินสตาแกรมส่วนตัวด้วย
กลับไทยแน่-โต้ลี้ภัยที่ฝรั่งเศส
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า หลังเกิดกระแสข่าวลือทางสื่อโซเชี่ยลมีเดียว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้เปลี่ยนจุดประสงค์ของการไปพักผ่อนต่างประเทศจากที่เคยขอ คสช.ว่าจะไปพักผ่อนส่วนตัวในประเทศแถบยุโรป เป็นการร้องขอต่อรัฐบาลฝรั่งเศส เพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองนั้น แหล่งข่าวใกล้ชิด น.ส. ยิ่งลักษณ์ระบุว่า เป็นเพียงข่าวลือ ไม่เป็นความจริง ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ดำเนินการอะไร โดยไปพักผ่อนและอวยพรวันคล้ายวันเกิด พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ฝรั่งเศสพร้อมครอบครัวเท่านั้น ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยืนยันจะเดินทางกลับตามกำหนดที่แจ้งต่อ คสช.ไว้ แต่ยังไม่เปิดเผยตารางการเดินทางกลับไทย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้คณะของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทราบว่ามีสื่อจากประเทศไทยถึง 2 ฉบับ ไปสังเกตการณ์อย่างลับๆ ด้วย
เตรียมเปิดชื่อสนช.-"พรเพชร"ปธ.
ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. เปิดเผยว่า ขณะนี้คสช.อยู่ระหว่างพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งสามชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเป็นไปตามกรอบที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ส่วนที่มีข่าวว่าจะมีสนช.ที่มาจากสัดส่วนของทหาร 50 เปอร์เซ็นต์หรือประมาณ 80 คนนั้น อยากถามว่าใครเป็นคนกำหนด และทราบได้อย่างไร ส่วนตัวไม่ได้มองว่าคนที่เป็นสนช.ต้องมีคุณสมบัติพิเศษอะไร แต่จะเลือกจากบุคคลที่เข้าใจการทำ งานของคสช. เพราะคสช.ต้องรับผิดชอบทั้งหมดที่ทำในวันที่ 22 พ.ค. ฉะนั้นจะไม่ให้อะไรคสช.ไว้บ้างเลยหรือ ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่าสนช.ต้องมีครบ 220 คน เพราะเขียนในรัฐธรรมนูญว่าไม่เกิน 220 คน ดังนั้น จะแต่งตั้งแค่ 150 คนก็ได้ ซึ่งไม่ได้เขียนจำนวนตายตัว ถ้าหาคนมาเป็นไม่ได้ก็มีปัญหา จึงตั้งจำนวนไว้กว้างๆ ไว้เท่านั้น
รายงานข่าวเปิดเผยว่ารายชื่อสนช.คาดว่าจะประกาศภายในอาทิตย์หน้า สำหรับบุคคลที่จะมาเป็นประธานสนช.นั้น ได้แก่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ที่ปรึกษากฎหมาย หัวหน้าคสช. ส่วนรายชื่อครม.นั้น มีการเตรียมการไว้บ้างแล้ว โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะมาเป็นรมว.กลาโหม และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะมาเป็นรมว.มหาดไทย
'วีระ'ยันนปช.ไม่ร่วมเป็นสปช.
วันเดียวกัน นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตแกนนำ นปช. กล่าวถึงมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ว่า เมื่อยึดอำนาจแล้วก็จำเป็นต้องรักษาอำนาจ จึงต้องเขียนป้องกันไว้เป็นธรรมดา แต่การมีอำนาจเช่นนี้ผิดหลักการ เพราะเป็นอำนาจที่ไม่มีการตรวจสอบ เป็นอันตราย ผู้ใช้อำนาจนี้จะต้องประมาณตนอย่างยิ่ง เผลอเมื่อไร พังเมื่อนั้น
เมื่อถามว่าจะเข้าร่วมสปช.หรือไม่ หากได้รับการเชิญชวน นายวีระกานต์ กล่าวว่า คงไม่ เราพูดชัดเจนตั้งแต่วันที่เขาปล่อยตัวแล้วว่า เราจะไม่ขัดขวางการทำงาน แต่การจะให้เราร่วมมือถึงขั้นรับตำแหน่งใดๆ ขอความกรุณาอย่าตั้งไม่ว่าฝ่ายไหน นี่เป็นคำขอร้องของพวกเราทุกคนในส่วนคนเสื้อแดง ส่วนพรรคก็คงเห็นในแนวทางเดียวกัน พรรคมีมติเหมือนกันว่าไม่เข้าร่วม
เมื่อถามว่าคู่ขัดแย้งไม่เข้าร่วมแล้วจะปฏิรูปอย่างไร นายวีระกานต์กล่าวว่า เอาคนกลางที่ไม่สังกัดฝ่ายไหน ซึ่งคนกลางที่เหมาะสมมีอีกมาก การที่ไม่เข้าร่วมเพราะเราเห็นว่าการยึดอำนาจเป็นวิธีที่ผิด แต่เราไม่ต่อต้านและเห็นด้วยว่าควรมีสภาปฏิรูปเพื่อปฏิรูปในทุกด้าน ดังนั้นเอาคนที่ไม่ใช่คู่ขัดแย้งมาดำเนินการจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นต่างคนต่างคิดว่าตัวเองสำคัญ
รูปสเกตช์ 2 ผู้ต้องหาที่ศาลออกหมายจับคดียิงไม้หนึ่ง ก.กุนที |
ปลัดกห.ระบุเจ็บปวดการเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม มีการจัดสัมมนา ครั้งที่ 2 "การปฏิรูปประเทศไทย : การเข้าสู่อำนาจของสมาชิกรัฐสภา" โดยสถาบันพระปกเกล้าร่วมกับกระทรวงกลาโหม โดยพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ประเทศชาติมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง อยากฝากให้ทุกคนร่วมออกแบบประเทศไทยให้มีการเมืองที่ดี ที่ผ่านมาพบว่าการเมืองแบบตะวันตกมาใช้กับประเทศ ไทยไม่ได้หลายอย่าง และประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเชื่อว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ ตนเคยไปภาคอีสานรู้สึกว่าประชาชนโชคดีกว่าตนมาก เพราะได้เลือกคนที่รักได้พรรคที่ชอบ แต่ตนไม่ได้เลือกตั้งเพราะชอบ แต่ต้องหย่อนบัตรตามกติกา ซึ่งสุดท้ายคนที่ไม่ชอบก็ได้เข้าไปในสภา
"หวังว่าอีก 20 ปี ตอนผมอายุ 80 ปี เมื่อเดินไปหย่อนบัตรจะตัดสินใจไม่ถูกระหว่าง เลือกดีเลิศกับดีมาก ก่อนผมจะตายคงได้หย่อนบัตรเลือกตั้งแบบนั้นแน่ หย่อนบัตรด้วยความสบายใจแล้วอีก 4 ปีก็มาเลือกตั้งกันใหม่ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะคนที่ผมเลือกไม่ได้เรื่อง ผมเจ็บปวด ซึ่งครั้งนี้ประชาชนมีส่วนร่วมในสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เป็นเรื่องของคนไทยทุกคนออกแบบ เราได้รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถ้าใครมีปัญหาขอให้มาชี้แจงที่กระทรวงกลาโหมได้" พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว
'บวรศักดิ์'หวังปฏิวัติไม่เสียเปล่า
ต่อมานายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ปาฐกถาพิเศษถึงแนวทางการดำเนินงานภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีสมาชิก 220 คน เลือกนายกฯ และให้นายกฯ เลือกรัฐมนตรีอีก 35 คนนั้น ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้รัฐมนตรีมีหน้าที่ 2 ด้าน ทั้งงานบริหารและส่งเสริมให้มีการปฏิรูปและปรองดองในชาติ ตามเจตนารมณ์ของคสช. หวังว่าจะไม่ให้การยึดอำนาจเสียเปล่า
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ประกอบด้วย 250 คน มีหน้าที่ 2 อย่าง คือ จัดทำข้อเสนอด้านปฏิรูปต่างๆ ทั้ง 11 ด้าน และให้ความเห็นกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ สปช.จึงไม่มีอำนาจจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเอง แต่มีสิทธิ์เสนอแนะ อภิปราย ข้อคิดเห็นให้ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ ส่วน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมีสมาชิก 36 คน จะต้องจัดทำร่างรัฐธรรมนูญให้ครอบคลุมใน 10 ประเด็นที่กำหนดไว้ในมาตรา 35 ต้องทำให้ประชาธิปไตยเหมาะสมกับสภาพสังคมไทย ไม่ใช่ลอกฝรั่งมาทั้งหมด จากนี้จะใช้เวลาอีก 11 เดือนหรือประมาณ 325 วัน จะได้เห็นรัฐธรรมนูญใหม่ เว้นแต่ กมธ.จะร่างไม่เสร็จภายใน 120 วัน หรือ สปช.ไม่เห็นชอบ หรือพระมหากษัตริย์ทรงยับยั้ง
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับนี้ มาตรา 35 (4) หากซื้อเสียงแล้วถูกตัดสิน โอกาสจะกลับมาเล่นการเมืองนั้นแทบไม่มี จึงเป็นการสกัดกั้นการซื้อเสียงของนักการเมืองได้ ดังนั้น รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เพื่อป้องกันหุ่นเชิดทางการเมืองจึงเสนอให้ตัดสิทธิ์การเมืองตลอดชีวิตหากซื้อเสียง
ประพันธ์ ชี้ผลดีเขตเดียวเบอร์เดียว
จากนั้นยังมีการอภิปรายถึงแนวทางการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรจากผู้ทรงคุณวุฒิ โดยนายประพันธ์ นัยโกวิท อดีต กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง อภิปรายว่า การเลือกตั้งคือสิ่งหนึ่งที่ต้องปฏิรูป ซึ่งการเข้าสู่อำนาจทางการเมืองนั้นต้องตั้งโจทย์ก่อนว่าจะมีสภาเดียวหรือสองสภา จากประสบการณ์การยกร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 พบว่าวุฒิสภามีความจำเป็นในการแต่งตั้งถอดถอนเพื่อสอดรับต่อการทำหน้าที่ขององค์กรอิสระ ส่วนสภาผู้แทนราษฎรต้องมีอย่างแน่นอน ส่วนจำนวนเท่าใดนั้นรัฐธรรมนูญฉบับเก่าๆ ไม่กำหนดจำนวนตายตัว แต่จะคิดสัดส่วนเทียบจากจำนวนประชากร โดยให้ประชาชน 150,000 คน มีส.ส. 1 คน ตอนนี้เรามีประชากร 65 ล้านคน จะมีสัดส่วนส.ส. 453 คน ซึ่งตนคิดว่าสมเหตุสมผลดี ทั้งนี้ เห็นว่าการจัดสัดส่วนส.ส.แบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อนั้นเหมาะสมอยู่แล้ว
นายประพันธ์ กล่าวว่า จากประสบการณ์พบว่าการเลือกตั้งแบบเขตเดียวเบอร์เดียวจะไม่พบการทุจริตมากเท่ากับเขตเรียงเบอร์ ซึ่งการซอยพื้นที่เล็กทำให้ง่ายต่อการซื้อเสียง ในรัฐธรรมนูญปี 2540 กำหนดไว้เข้มงวดว่า หากข้าราชการทุจริตต่อหน้าที่หรือนักการเมืองกระทำผิดทางอาญาหรือซื้อเสียง จะถูกเพิกถอนสิทธิการลงแข่งขันทางการเมืองตลอดชีวิต หรืออย่างคุณสมบัติ สนช.และ สปช.ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวฉบับนี้ มาตรา 8 ข้อ 8 ห้ามผู้กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด หรือการพนันดำรงตำแหน่ง น่าจะนำมาบังคับใช้ต่อไป ไม่ใช่แค่เพิกถอนสิทธิ 5 ปีแล้วมาเล่นการเมืองใหม่ได้
สมยศ เผยอภิวันท์ยังไม่มอบตัว
ที่บช.น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.ดูแลงานมั่นคง เปิดเผยภายหลังประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงว่า เพื่อหารือกำหนดแนวทางปฏิบัติ หากมีการชุมนุมต่อต้าน คสช.เกิดขึ้น ซึ่งบช.น.ได้ออกแผนไว้ชัดเจนแล้ว ส่วนการจัดงานคืนความสุขสู่ประชาชนนั้น เชื่อว่าจะไม่มีคนที่เห็นต่างมาดำเนินการให้เกิดปัญหา เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ คสช.ทำนั้นเพื่อให้ประชาชนเกิดความสามัคคีและเข้าสู่การปรองดอง ใครที่จะมากระทำการใดให้เกิดปัญหา ประชาชนส่วนใหญ่คงทราบว่ากลุ่มคนเหล่านั้นมีเจตนาที่จะแสดงออกอย่างไร
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับพ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ข้อหากระทำผิดตามมาตรา 112 หลังกล่าวปราศรัยบนเวทีการชุมนุมของกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และเครือข่ายแดงภาคตะวันตก ที่หาดปึกเตียน จ.เพชรบุรี ในวันที่ 29 ม.ค. 2554 มีข้อความเข้าลักษณะความผิด โดยมีผู้กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2557 มีหลักฐานเป็นแผ่นซีดีคำปราศรัย อย่างไรก็ตาม พ.อ.อภิวันท์มีคำสั่ง คสช.ห้ามเดินทางออกนอกประเทศ และยังไม่ได้ติดต่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.ชนะ สงคราม
ออกหมายจับ 2 คน-ยิง'ไม้หนึ่ง'
พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า คดีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายอี๊ด อิสรนาวี หรือนายกมล ดวงผาสุข ไม้หนึ่ง ก.กุนที เสียชีวิต บริเวณลานจอดรถภายในร้านครกไม้ไทยลาว เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 23 เม.ย.นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับตามภาพผู้ต้องหา 2 คน ตามคำบอกเล่าจากพยาน 2 คน เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงและคนขับจักรยานยนต์ ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และจากการสืบสวนมีพยานหลักฐานแน่ชัดยืนยันว่าผู้ตายมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามที่นำมาก่อเหตุความไม่สงบในหลายคดีในเขตพื้นที่ในนครบาล พนักงานสอบสวนจะต้องกล่าวหาผู้ตายไว้ก่อน ซึ่งส่วนจะดำเนินคดีอย่างไรนั้น ต้องสอบถามพล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ. ช่วยราชการบช.น. แต่จะเร่งติดตามผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับทั้ง 2 รายต่อไป
ศาลไต่สวนเผยแพร่หมายจับ
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลได้ไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีมีการแพร่ภาพหมายจับพ.อ.อภิวันท์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ของศาลอาญา เลขที่ 1241/2557 ลงวันที่ 23 ก.ค. ทางสื่อออนไลน์ โดยร.ต.อ.หญิงชมพูนุช อนันตญากุล พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ผู้ขอหมายจับ และพ.ต.อ.ฐิรวิทย์ บุษบัน พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ชนะสงคราม มาให้ถ้อยคำแทนพ.ต.อ.จักรภพ สุคนธราช ผกก.สน.ชนะสงคราม ทั้งสองยืนยันว่าหลังรับหมายจับจากศาลอาญาแล้วได้ดำเนินการตามขั้นตอนปกติ เสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ โดยทราบดีว่าการเผยแพร่สำเนาหมายจับดังกล่าวถือเป็นความลับ และไม่ก่อให้เกิดผลดีแก่ทุกฝ่ายรวมทั้งพนักงานสอบสวนทั้ง 2 คนด้วย
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าเหตุที่สำเนาหมายจับพ.อ.อภิวันท์ไปปรากฏตามสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อสังคมออนไลน์ มีเหตุให้เข้าใจได้ว่าน่าจะออกไปจากบช.น. แต่ไม่แน่ชัดว่าจากสำนักงานของ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รักษาการรอง ผบช.น. หรือจากสำนักงานของ พล.ต.ต.สำเริง สุวรรณพงษ์ รอง ผบช.น. ดังนั้น จึงเห็นควรให้มีหนังสือถึงผบ.ตร. ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย และพล.ต.ต.สำเริง ขอให้กวดขันกำชับตำรวจทั้งประเทศว่าต้องไม่นำหมายจับของศาลไปเผยแพร่ ทั้งการถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือเครื่องมือสื่อสารใดๆ รวมทั้งการนำหมายจับไปเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ไลน์ เฟซบุ๊ก หรือสื่อออนไลน์ใดๆ ทางโซเชี่ยลออนไลน์ หากตรวจพบว่าบุคคลใดกระทำการฝ่าฝืนจะถือว่าเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
กกต.ใบแดงนายกอบต.โขงเจียม
ที่สำนักงานกกต. นายดุษฎี พรสุขสวัสดิ์ รองเลขาธิการกกต.ด้านสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย แถลงว่า ในการประชุมกกต.วันที่ 22-23 ก.ค. กกต.มีมติเสนอศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือให้ใบแดง ผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นรวม 5 แห่งคือ 1.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายสิทธิชัย พันคำ นายกอบต.โขงเจียม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี กรณีมีส่วนรู้เห็นสนับสนุนนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ไปช่วยหาเสียงแล้วแจกข้าวสาร เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเลือกนายสิทธิชัย โดยกกต.เห็นว่าการกระทำของนายชูวิทย์ เอื้อประโยชน์ให้นายสิทธิชัย ได้รับเลือกตั้ง และมีมติให้ดำเนินคดีอาญากับนายชูวิทย์ด้วย
นายดุษฎี กล่าวว่า หากศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนสิทธิฯนายสิทธิชัยตามที่กกต.มีมติ กกต.จะร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนเอาผิดอาญากับนายชูวิทย์ทันที มีโทษตามพ.ร.บว่าด้วยการเลือกตั้งท้องถิ่น มาตรา 57 ประกอบมาตรา 118 จำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 2 หมื่น-2 แสนบาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี แต่หากศาลอุทธรณ์เห็นต่างจากกกต. ที่ประชุมกกต.จะพิจารณาอีกครั้งว่าจะดำเนินคดีอาญากับนายชูวิทย์หรือไม่
เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง-ฟันอาญา
นายดุษฎี กล่าวว่า 2.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญากับนายจิรวัฒน์ ครุฑสังวาล นายกเทศมนตรีตำบลลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา กรณีให้ทรัพย์สินและแจกเสื้อวินจักรยานยนต์ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อจูงใจให้เลือกตนเอง 3.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญานายวุฒิชัย สมวงศ์ นายกอบต.คองปิด อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีสะเกษ กรณีให้ทรัพย์สินหรือผลประโยชน์แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
4.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งและดำเนินคดีอาญานายบุญชัย ทองคำนุช สมาชิกอบต. ท่าลาด เขต 11 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี และนายมนูญ จำปาสา ผู้สมัครสมาชิกอบต. กรณีสัญญาว่าจะให้ทรัพย์สินแก่วัดเพื่อแลกกับการให้นายมนูญ ไม่ลงสมัครเลือกตั้ง โดยกกต.เห็นว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายฮั้วการแข่งขันเลือกตั้ง และ 5.เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนายบุญทนันท์ โต๊ะสิงห์ นายกอบต.โนน อ.โนนนารายณ์ จ.สุรินทร์ กรณีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งในลักษณะสัญญาว่าจะให้ เช่น ปราศรัยจะให้เงินผู้สูงอายุมากกว่าที่รัฐบาลจัดให้ จะให้เงินค่าทำศพกับผู้เสียชีวิตในตำบลรายละ 5,000 บาทมากกว่าที่รัฐจัดให้ โดย กกต.เห็นว่าไม่ใช่การหาเสียงเชิงนโยบาย
ปลัดกห.นั่งหัวโต๊ะสภากลาโหม
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานประชุมสภากลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วม ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ. ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. โดยในส่วนของกองทัพบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มอบให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. เข้าประชุมแทน ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 หลังจากคสช.เข้าบริหารประเทศ
สำหรับการประชุมเป็นวาระปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับการทำงานของคสช. เป็นการรายงานผลการปฏิบัติงานของกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ วาระสำคัญคือการปรับโครงสร้างกองทัพรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมถึงการเสริมสร้างภาพลักษณ์ความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ
จี้ครม.-สนช.ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
วันเดียวกัน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงหลายฝ่ายทักท้วงมาตรา 44 ที่อำนาจ คสช.ที่เหนือนายกฯ และครม.ว่า ตนมองว่ามาตราดังกล่าวไม่น่าเป็นปัญหา เพราะพล.อ.ประยุทธ์ ผบ.ทบ.และเป็นหัวหน้า คสช. เท่ากับมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน จึงไม่น่ากังวล ส่วนที่กังวลว่าอาจทำให้มีอำนาจซ้อนกับนายกฯ นั้น อันที่จริงพล.อ.ประยุทธ์ มีอำนาจเบ็ดเสร็จอยู่แล้ว จะดำรงตำแหน่งนายกฯ ไปจนถึงประธาน สนช.ก็ทำได้ หรือจะเขียนรัฐธรรม นูญฉบับใหม่ก็ยังได้ ไม่ต้องเสียเวลาตั้ง สนช.หรือ สปช.ให้ยุ่งยาก
"แต่หากไม่มีมาตรา 44 กำกับไว้อาจส่งผลให้ฝ่ายการเมืองออกมากระตุก วิจารณ์จนเดินหน้าการแก้ปัญหาไม่ได้ นักการเมืองต้องหัดนิ่งไว้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้มีเวลาเกิดและตายกำกับไว้ เวลาแค่ปีเดียวควรปล่อยให้ คสช.ดำเนินการเต็มที่ แต่ผมยังยืนยันว่าบุคคลที่จะเป็น ครม.หรือสนช. ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สิน เพื่อให้ประชาชนตรวจสอบได้ ยกเว้นกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 36 คน เพราะไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ในเวลา 2 ปี เอาตำแหน่งไปหาผลประโยชน์ไม่ได้" นายเรืองไกรกล่าว
แนะคสช.ลดเข้มงวด-ผ่อนคลาย
นายเรืองไกรกล่าวว่า ตนสนใจมาตรา 4 เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค อยากเสนอให้ คสช.ออกประกาศยกเลิกการเรียกรายงานตัว หรือการเดินทางออกนอกประเทศที่ต้องขออนุญาต คสช. หากยกเลิกตรงนี้ จะทำให้บรรยากาศประเทศผ่อนคลายมากขึ้น
นายเรืองไกร กล่าวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สั่งห้ามลูกพรรคไม่ให้เป็นสนช.และสปช.ว่า สอดคล้องกับพรรคเพื่อไทย แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าตามมาตรา 8 วรรคห้า ก็ทำให้นายอภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติอยู่แล้ว หรือนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็เข้าร่วมเป็น สนช.ไม่ได้เช่นกัน เพราะมีตำแหน่งในพรรค แม้แต่สมาชิกพรรคก็ร่วมไม่ได้ จึงไม่อยากให้ออกมาพูดว่าคนอื่นไม่ควรเข้าร่วม เพราะตัวเองทำไม่ได้ ยิ่งมาบอกว่าใครฝ่าฝืนจะไม่ส่งลงสมัครส.ส.ครั้งต่อไป แบบนี้จะเรียกว่าเป็นประชาธิปไตยตรงไหน
นายเรืองไกร กล่าวว่า ส่วนที่นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชา ธิปัตย์ เสนอ คสช.ว่าคดีของนักการเมืองเกี่ยวกับการทุจริตต้องไม่มีอายุความนั้น ตนเห็นด้วยและอยากเสนอให้คดีหนีทหาร ซึ่งเป็นหน้าที่ของชายไทย ไม่ควรมีอายุความเช่นกัน
'เติ้ง'ออกร.พ.-พักฟื้นที่บ้าน
เย็นวันเดียวกัน นายนิกร จำนง ผอ.พรรคชาติไทยพัฒนา เผยว่า ช่วงเช้าวันเดียวกันนี้นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ออกจากการพักรักษาตัว ด้วยอาการแน่นหน้าอกเนื่องจากโรคภูมิแพ้อากาศ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีแล้ว และกลับเข้าพักที่บ้านศิลปอาชา ย่านจรัญสนิทวงศ์ สุขภาพของนายบรรหารโดยรวมแพทย์ระบุว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติดี เพียงแต่กำชับให้ระมัดระวังและดูแลเรื่องอากาศ ฝุ่นละอองภายในที่พัก เพื่อไม่ให้เกิดอาการภูมิแพ้อากาศกำเริบขึ้นอีก ส่วนการให้ความเห็นทางการเมืองของนายบรรหารช่วงนี้ของดไปก่อน
วันเดียวกัน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงปริมาณข้าวขาดหายจากบัญชีเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่ระบุเหตุผลว่า ผลการตรวจสอบปริมาณข้าวคงเหลือของรัฐ ประจำวันที่ 22 ก.ค. ปัญหาปริมาณข้าวขาดหายจากบัญชีโดยไม่ระบุเหตุผลเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ มีเกิดขึ้นในโกดังหลายพื้นที่ นอกเหนือจากปัญหาอื่นๆ ซึ่งคณะทำงานฯ นำโดยผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯ และกระทรวงต่างๆ ได้รายงานให้ประธานคณะอนุกรรมการทราบ ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา, นครราชสีมา, นครสวรรค์ และเพชรบูรณ์
คสช.วางตัว'พรเพชร'นั่งปธ.สนช. ตั้ง 220 ชื่อสัปดาห์หน้า เปิดประชุมต้นสิงหาฯ โผครม.-บิ๊กป้อมคุมกห. บิ๊กป๊อกรมว.มหาดไทย ปูร่ำไห้พบแม้วที่ฝรั่งเศส
บัวแก้วแจงโรดแมปอียูชี้เข้าใจสถานการณ์มากขึ้น'วีระกานต์'เตือน ม.44 อันตราย
@ สภากห.ถกปรับโครงสร้างกองทัพ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 กรกฎาคม ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม โดยมีผู้บัญชาการเหล่าทัพเข้าร่วม ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมการประชุม ยกเว้นเพียง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ติดภารกิจที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) แต่มอบหมายให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รอง ผบ.ทบ.เข้าร่วมประชุมแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วาระประชุมนอกจากการรายงานผลการปฏิบัติงานของกระทรวงกลาโหมและแต่ละเหล่าทัพ ยังพิจารณาการปรับโครงสร้างกองทัพ เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน รวมถึงการเสริมสร้างภาพลักษณ์ความรัก ความสามัคคีของคนในชาติ พร้อมกันนี้ทางปลัดกระทรวงกลาโหมได้ขอให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมจัดงานวันแม่ 12 สิงหาคม 2557 เพื่อถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา
การประชุมสภากลาโหมวันนี้ ถือเป็นครั้งที่ 2 ภายหลัง คสช.เข้ามาบริหารประเทศ หลังการประชุมแล้วเสร็จ ปลัดกระทรวงกลาโหมและ ผบ.เหล่าทัพได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกันก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับในเวลา 13.00 น. โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนแต่อย่างใด
@ 'บิ๊กเต่า'เผยอีก 20 ปีดีขึ้น
ที่ห้องพินิตประชานาท กระทรวงกลาโหม จัดสัมมนาครั้งที่ 2 "การปฏิรูปประเทศไทย : การเข้าสู่อำนาจของสมาชิกรัฐสภา โดยสถาบันพระปกเกล้าร่วมกับกระทรวงกลาโหมได้จัดโครงการสัมมนาสู่ทศวรรษที่เก้า : ก้าวใหม่ของระบอบประชาธิปไตยไทย" โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ประเทศชาติมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้งหนึ่งให้มีการเมืองที่ดีสำหรับลูกหลานในอนาคต ถามว่าประชาชนส่วนใหญ่คงไม่ค่อยเชื่อว่าการเลือกตั้งจะบริสุทธิ์ เพราะตนไปหย่อนบัตรโดยไม่มีใครมาซื้อเสียง และเคยบอกพี่น้องประชาชนว่าเวลาไปหย่อนบัตรเลือกตั้งหย่อนด้วยน้ำตาเพราะไม่ชอบคนที่เลือก แต่ไม่ชอบอีกคนหนึ่งมากกว่า เพราะมีตัวเลือกให้เท่านี้ก็ต้องเลือก สุดท้ายคนที่ไม่ชอบได้เข้าไปในสภา ไปทำหน้าที่ดีหรือไม่ก็ไม่ทราบ ยืนยันว่าอีก 20 ปีข้างหน้าก่อนที่จะตายคงจะได้หย่อนบัตรด้วยความสบายใจ
@ 'บวรศักดิ์'ชี้ 11 เดือนได้รธน.
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญจะต้องเริ่มต้นภายใน 60 วัน นับตั้งแต่มีการประชุมเสนอความคิดเห็นของสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ซึ่งกรรมาธิการจะต้องยกร่างและร่างให้เสร็จภายใน 120 วัน หมายความว่าร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะต้องเสร็จภายใน 6 เดือน จากนั้น กมธ.ต้องเสนอร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปที่ สปช. ครม. และ คสช. ซึ่ง สปช.จะทำการอภิปรายแสดงความคิดเห็นภายใน 10 วัน หากต้องการแก้ไขเพิ่มเติมสามารถจัดทำได้ภายใน 30 วัน ซึ่งคณะกรรมาธิการจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ก่อนจะนำร่างที่แก้ไขแล้วมาเสนอ สปช.อีกครั้ง เพื่อให้มีการอภิปรายอีก 15 วัน และทำการลงมติรับหรือไม่รับร่าง หาก สปช.เห็นชอบจะนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไปโดยใช้เวลาประมาณ 30 วัน รวม 325 วัน หรือประมาณ 11 เดือน จะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เชื่อว่ารัฐธรรมนูญต้องจัดทำใหม่เพื่อป้องกันหุ่นเชิดทางการเมืองและเสนอให้ตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิตหากซื้อเสียง
@ 'ประพันธ์'ให้สกรีนคนดี
นายประพันธ์ นัยโกวิท อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า ตนคิดว่าในครั้งนี้เป็นโอกาสดีในการวางระบบประเทศ และเป็นโอกาสที่จะแก้กฎหมายได้ ถ้าพ้นตอนนี้คงยากแล้ว จุดใหญ่ในการปฏิรูปอยากให้พิจารณาเรื่องคุณสมบัติของ ส.ส. ถ้ามีการสกรีนคนได้จะทำให้มีการเลือกคนดีได้
@ เผยเปิดประชุมสนช.ต้นส.ค.
ที่รัฐสภา นายจเร พันธุ์เปรื่อง เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ประสานขอความร่วมมือในด้านสถานที่ และบุคลากร โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ด้านการทูต การประชาสัมพันธ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจรัฐสภา เพื่อเตรียมรองรับรัฐพิธีเปิดประชุม สนช. ที่จะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ มีกำหนดการตรวจความพร้อมสถานที่รองรับการประชุม สนช.และ สปช. ที่อาคารรัฐสภา ในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้ด้วย
@ 'พรเพชร'นั่งประธานสนช.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทาง คสช.จะประกาศรายชื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จำนวนไม่เกิน 220 คนในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้มีการวางตัวให้นายพรเพชร วิชิตชลชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นั่งเก้าอี้ประธาน สนช. นอกจากนั้นความคืบหน้าการจัดทำโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่นั้น ทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.จะควบเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอีกตำแหน่งหนึ่ง และวางตัวให้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ.เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
@ 'บิ๊กต๊อก'โต้โควต้าทหารในสนช.
ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. เปิดเผยว่า ขณะนี้ คสช.อยู่ระหว่างพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่จะเข้ามาดำรงตำแหน่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งเป็นไปตามกรอบที่ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) กำหนดไว้ ส่วนกระแสข่าวว่าจะมี สนช.ที่มาจากสัดส่วนของทหาร 50% หรือประมาณ 80 คนนั้น อยากถามว่าใครเป็นคนกำหนดและทราบได้อย่างไร ส่วนตัวไม่ได้มองว่าคนที่ต้องเป็น สนช.ต้องมีคุณสมบัติพิเศษอะไร แต่น่าจะเลือกจากบุคคลที่เข้าใจในการทำงานของ คสช. เพราะ คสช. ต้องรับผิดชอบทั้งหมดที่ทำในวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นจะไม่ให้อะไร คสช.ไว้บ้างเลยหรือ ทั้งนี้รัฐธรรมนูญไม่ได้บอกว่า สนช.ต้องมีครบ 220 คน เพราะเขียนในรัฐธรรมนูญไว้ว่าไม่เกิน 220 คน ดังนั้นจะแต่งตั้งแค่ 150 คนก็ได้ ไม่ได้เขียนจำนวนตายตัว ถ้าหาคนมาเป็นไม่ได้ก็มีปัญหาเป็นการตั้งจำนวนไว้กว้างๆ ไว้เท่านั้น
@ ปชป.ขอเก้าอี้สนช.สตรี 1ใน 3
นางรัชฎาภรณ์ แก้วสนิท อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงบุคคลที่จะเข้าไปเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ว่า ขณะนี้ตนได้ทาบทามตัวแทนเครือข่ายสตรีทุกภาคทั่วประเทศ เพื่อช่วยกันรณรงค์ให้ผู้หญิงได้มีสิทธิเข้าไปนั่งเป็น สนช.และ สปช. เพื่อที่จะได้มีบทบาทในการแสดงความคิดเห็นและเป็นตัวแทนของผู้หญิงทั้งประเทศ โดยเห็นว่าสัดส่วนของผู้หญิงน่าจะมีจำนวน 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดหรือมีจำนวนเท่ากับ สนช. ปี 2540 ก็พอใจแล้ว เพราะเข้าใจว่าการเลือกสมาชิกครั้งนี้ค่อนข้างยากและมีข้อจำกัดและกฎระเบียบมาก แต่ขึ้นอยู่กับ คสช.เป็นผู้พิจารณา
@ 'วีระกานต์'เตือนม.44อันตราย
นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ คณะกรรมการกิจการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า รัฐธรรมนูญ ปี 2557 (ฉบับชั่วคราว) โดยเฉพาะมาตรา 44 การมีอำนาจเช่นนี้ผิดหลักการอย่างยิ่ง เพราะเป็นอำนาจที่ไม่มีการตรวจสอบ เป็นอันตราย ดังนั้น ผู้ใช้อำนาจนี้จะต้องมีความประมาณตนอย่างยิ่งเลย ต้องรู้จักประมาณตน เผลอเมื่อไหร่พังเมื่อนั้น ผู้สื่อข่าวถามว่ามาตราไหนที่เป็นห่วงที่สุด นายวีระกานต์กล่าวว่า จะว่าไปแล้วก็ไม่เห็นด้วยสักมาตรา เพราะกฎหมายใดๆ ที่ออกมาโดยไม่ผ่านสภานิติบัญญัติเป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ทั้งนั้น ส่วนหากมีการติดต่อให้เข้าร่วม สปช.จะเข้าร่วมหรือไม่ นายวีระกานต์กล่าวว่า "ไม่ เราพูดกันชัดเจนตั้งแต่วันที่เขาปล่อยตัวเราแล้ว ด้วยความปรารถนาดีนะ ท่านก็ปล่อยให้พวกเราเป็นอิสระไป เราดีใจ และเราจะไม่ขัดขวางการทำงานของท่าน แต่การจะให้เราร่วมมือถึงขั้นมารับตำแหน่งใดๆ ขอความกรุณาอย่าตั้ง ไม่ว่าฝ่ายไหนทั้งนั้น นี่เป็นคำขอร้องของพวกเราทุกคนในส่วนของคนเสื้อแดง ในส่วนของพรรคก็เห็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยพรรคมีมติเหมือนกันว่าไม่เข้าร่วม ถ้าอยากให้ร่วมมือจะให้พูดคุยปรึกษาหารือกันอย่างไรก็ได้ แต่อย่าตั้ง"
@ จี้ครม.-สนช.แจงทรัพย์สิน
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พท. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์นอกจากเป็นหัวหน้า คสช.แล้ว ยังสามารถดำรงตำแหน่งนายกฯ ไปจนถึงประธาน สนช.ก็ยังทำได้เลย หรือจะเขียนรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เองก็ยังได้ โดยไม่ต้องมาเสียเวลาตั้ง สนช.หรือ สปช.ให้ยุ่งยาก
"ที่สำคัญผมยังยืนยันว่าบุคคลที่จะเข้ามาเป็น ครม.หรือ สนช.ควรจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน เพื่อให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ ยกเว้นกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 36 คน เพราะไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ในภายในเวลา 2 ปี ไม่สามารถเอาตำแหน่งไปหาผลประโยชน์อะไรได้ นอกจากนี้ ผมสนใจมาตรา 4 เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพและความเสมอภาค ดังนั้นอยากเสนอแนะให้ คสช.ออกเป็นประกาศยกเลิกการเรียกรายงานตัว หรือการเดินทางออกนอกประเทศที่ต้องขออนุญาตจากทาง คสช. หาก คสช.ยกเลิกตรงนี้ไปได้ก็จะทำให้บรรยากาศประเทศผ่อนคลายมากขึ้น" นายเรืองไกรกล่าว
@ พท.วอน'บิ๊กตู่'แจงม.44
นายสิงห์ทอง บัวชุม คณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พท. กล่าวว่า หลายฝ่ายมีความกังวลมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 เพราะมองว่าเป็นการให้อำนาจพิเศษแก่หัวหน้า คสช. แบบเบ็ดเสร็จทั้งด้านบริหาร ตุลาการ และนิติบัญญัติเหมือนมาตรา 17 ในสมัยจอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ เมื่อปี 2502 ที่ผ่านมา ทำให้คนยึดอำนาจมีอำนาจเหนือทั้ง 3 ฝ่าย คือ นิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ จะยิ่งทำให้อำนาจไปรวมศูนย์อยู่ที่ คสช.มาก อยากให้หัวหน้า คสช.ออกมาพูดและอธิบายมาตรา 44 ให้ชัดเจนเพื่อไม่ให้ประชาชนคลางแคลงใจ
@ 'นิพิฏฐ์'ถามไม่สูญเปล่าวัดตรงไหน
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การที่ คสช.ตั้ง สปช.และ สนช.ขึ้นมานั้น เพื่อต้องการสร้างองค์กรเหล่านี้ให้เหมือนสถานการณ์ที่ปกติ และสิ่งสำคัญที่ คสช.ระบุมาตลอดคือการยึดอำนาจครั้งนี้จะต้องไม่สูญเปล่า จึงอยากถามว่าการที่จะไม่ให้อะไรเกิดความสูญเปล่านั้น ต้องวัดกันตรงไหน เพราะหาก คสช.อยู่ครบกำหนด 1 ปี ตามโรดแมปแล้ว มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเข้ามาทำงาน แต่ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ คสช.ทำ แล้วเข้ามาแก้ไขทำใหม่ อย่างนี้จะเรียกว่าสูญเปล่าหรือไม่
@ นักวิชาการชี้'นั่งควบ'ลดเครดิต
นายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ กล่าวว่า ในเเง่ความน่าเชื่อถือที่จะได้รับในต่างประเทศจะมีปัญหามากถ้าทำเเบบนั้น คงไม่เหมาะเพราะเหมือนกับการมีอำนาจรัฐซ้อนกัน 2 ศูนย์ ศูนย์หนึ่งจากรัฐบาลที่ถูกเเต่งตั้งโดยรัฐธรรมนูญที่มาจากการรัฐประหาร กับอีกศูนย์หนึ่งคือ คสช.ที่เป็นคนรัฐประหาร จะมีปัญหาว่าความสำคัญของศูนย์อำนาจ 2 ศูนย์นี้จะเป็นอย่างไร ผลที่จะเกิดขึ้นในระยะยาวคือรัฐบาลที่ตั้งมาจากรัฐธรรมนูญชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ไม่มีความน่าเชื่อถือโดยปริยาย เมื่อไม่มีความน่าเชื่อถือ เวลาจะติดต่องานกับต่างประเทศ เจรจาข้อตกลงต่างๆ จะมีความยุ่งยากตามไปด้วย เพราะมีโอกาสถูกคนอื่นมองว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นรัฐบาลที่มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องสูงสุดต่างๆ
นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาสันติวิธีและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ขณะนี้ คสช. คงอำนาจมากมายมหาศาลไว้ลักษณะจะเป็นเปลือกหอยหรือพี่เลี้ยงให้กับรัฐบาล ทีนี้ถ้าพี่เลี้ยงกับคนบริหารกลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไร หาก พล.อ.ประยุทธ์ ควบ 2 ตำแหน่ง ส่วนตัวมองว่าเป็นการรวมอำนาจไว้ที่คนคนเดียวมากไปหรือเปล่า เรื่องนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องที่สภานิติบัญญัติเป็นผู้พิจารณาซึ่งการบริหารอำนาจที่ดีไม่ควรจะกระจุกตัว ควรจะมีการถ่วงดุลเพื่อสร้างดุลยภาพมากกว่าจะกระจุกตัวรวมตัวอยู่ที่บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด
@ บัวแก้วแจงโรดแมปอียู
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ที่สำนักงานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุมได้มีออกแถลงการณ์ภายหลังเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ที่ได้หารือกันมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุถึงสถานการณ์ในไทยว่า ที่ประชุมรับทราบการบรรยายสรุปสถานการณ์การเมืองในไทย หลังเกิดเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม โดยเฉพาะความตั้งใจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่จะนำพาประเทศไทยไปสู่ประชาธิปไตยตามแผนโรดแมป 3 ขั้น ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมการปรองดอง การปฏิรูป และการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรมภายใต้กรอบเวลาที่กำหนดไว้ รัฐมนตรีต่างประเทศอียู ในฐานะพันธมิตรที่ยาวนานของไทยและอาเซียน ได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการทางการเมืองที่เกิดขึ้นในไทย แม้จะรับทราบถึงแผนโรดแมปสามขั้นที่ไทยวางไว้ แต่เน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำพาประเทศกลับคืนสู่ประชาธิปไตยภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญโดยเร็ว รวมถึงการจัดการเลือกตั้งที่น่าเชื่อถือ เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของประชาชนชาวไทย
@ 'สีหศักดิ์'หวัง'อียู'มองอนาคต
นายสีหศักดิ์ให้สัมภาษณ์ว่า ถ้อยแถลงดังกล่าวถือว่ามีความสมดุล ที่สำคัญการระบุถึงโรดแมปของไทยเท่ากับไทยทำให้อียูรับทราบและยอมรับความสำคัญของโรดแมปดังกล่าว หลังจากนี้ไทยและอียูจะมีจุดร่วมกันในการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในไทยอย่างสร้างสรรค์บนพื้นฐานสถานการณ์ที่เป็นจริง ทั้งนี้ระหว่างการประชุม ได้ชี้แจงเกี่ยวกับสถานการณ์ในไทยอย่างตรงไปตรงมาและได้บอกกับอียูว่า ขอให้ผ่านเหตุการณ์นี้โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันไม่ถูกกระทบกระเทือนหรือทำให้แย่ลง ไทยรับฟังทุกข้อห่วงใยและเคารพในท่าทีของเขา แต่เขาก็ต้องเข้าใจและเคารพในความพยายามของไทยที่จะแก้ไขปัญหา และให้การสนับสนุนเท่าที่จะทำได้เพื่อให้ไทยผ่านพ้นช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ หวังว่าหลังการประชุมครั้งนี้อียูจะพยายามมองไปในอนาคตว่าไทยจะกลับสู่การเป็นประชาธิปไตยอย่างไร
@ เผยอังกฤษผ่อนปรนมากขึ้น
"หลังเสร็จการชี้แจงนางแคเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงอียูด้านการต่างประเทศและความมั่นคง ในฐานะประธานร่วมของที่ประชุมได้กล่าวขอบคุณ แสดงความยินดีที่ไทยเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้ และบอกว่าสิ่งที่ชี้แจงทำให้เขามีความเข้าใจสถานการณ์ในไทยดีขึ้นและช่วยตอบสิ่งที่เป็นข้อห่วงกังวลทั้งหลายของเขา ขณะที่อังกฤษซึ่งที่ผ่านมามีท่าทีค่อนข้างแรงก็บอกว่าเข้าใจแล้วว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุขึ้นและมีความจำเป็นอย่างไร แต่ยืนยันว่าต้องการเห็นไทยกลับสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว ซึ่งได้ยืนยันไปว่าไทยก็ยึดมั่นในหนทางประชาธิปไตยอยู่แล้ว" นายสีหศักดิ์กล่าว และว่า ในฐานะที่ไทยจะรับหน้าที่ประเทศผู้ประสานงานอาเซียน-อียูในปีหน้าได้ถือโอกาสยืนยันกับอียูว่า ไทยพร้อมจะต้อนรับรัฐมนตรีต่างประเทศอียูในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-อียูครั้งต่อไปด้วย
@ ย้ายสถานที่แถลงข่าว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า เนื่องจากตึกสันติไมตรีจะปิดซ่อมแซมปรับปรุงเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมเป็นต้นไป จึงจำเป็นต้องย้ายสถานที่แถลงข่าวของทีมโฆษก คสช.ไปยังหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การซ่อมแซมปรับปรุงตึกสันติไมตรีจะแล้วเสร็จในวันที่ 15 กันยายน หรืออย่างช้าประมาณวันที่ 30 กันยายน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้แจกจ่ายเอกสารให้กับข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้ปฏิบัติงานต่างๆ และสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลเพื่อชี้แจงเส้นทางการจราจรและการปิดพื้นที่บางส่วนเพื่อดำเนินการ โดยระบุว่า ด้วยสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) มีโครงการดำเนินการปรับปรุงอาคารตึกไทยคู่ฟ้า ตึกสันติไมตรี ตึกนารีสโมสร และตึกบัญชาการ 1-2 โดยจะเริ่มปรับปรุงอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กรกฎาคมเป็นต้นไป รวมระยะเวลาประมาณ 2 เดือน
@ 'ปู'วิ่งกอด'แม้ว'น้ำตาริน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.20 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ลูกสาวคนเล็กของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว ชื่อ "ingshin21" เป็นคลิปวิดีโอขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เดินทางไปพักผ่อนที่ยุโรป พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่สนามบินประเทศฝรั่งเศส โดย พ.ต.ท.ทักษิณมายืนรอรับน้องสาวและครอบครัวอยู่ก่อนแล้ว และเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์เจอพี่ชาย ได้ยกมือไหว้สวัสดี ก่อนอ้าแขนออกและเดินเกือบวิ่งเข้าไปสวมกอดพี่ชายพร้อมกับร้องไห้ ขณะที่ พ.ต.ท.ทักษิณมีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส โผเข้ากอดน้องสาวเช่นกัน โดย พ.ต.ท.ทักษิณได้หอมแก้มน้องสาวด้วย นอกจากนี้ ในอินสตาแกรมของ น.ส.แพทองธาร ยังมีข้อความระบุด้วยว่า "พี่น้องไม่ได้พบกันมา 3 ปี.. Family is everything"
@ พท.การันตี'ยิ่งลักษณ์'กลับแน่
รายงานข่าวพรรคเพื่อไทย (พท.) แจ้งว่า กรณีที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขนกระเป๋าทัวร์ยุโรป 15 ใบ เชื่อว่าไม่ได้มีนัยยะอะไร และไม่ได้มีจำนวนมากเพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางหลายวัน ทั้งนี้กระเป๋าของอดีตนายกฯมีเพียง 11 ใบ รวมกับนางเยาวเรศ ชินวัตร พี่สาว และ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย ส่วน 4 ใบที่เหลือเป็นของผู้ติดตาม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไม่กลับไทยวันที่ 17 สิงหาคม ตามที่เป็นข่าว เพราะได้ขออนุญาต คสช. ออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม -10 สิงหาคม แต่หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่กลับตามกำหนด จะต้องให้ทนายความหรือผู้รับมอบอำนาจไปชี้แจงและขออนุญาตต่อ คสช.เพิ่มเติม การเดินทางครั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีท่าทีแจ่มใส และเตรียมพาบุตรชายไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเล่นรถไฟเหาะ
ทั้งนี้ยืนยันว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับไทยอย่างแน่นอน
@ พร้อมให้ปากคำอสส.คดีข้าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ขณะนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยังไม่ได้ส่งสำนวนต่ออัยการสูงสุด หาก ป.ป.ช.ส่งฟ้องและอัยการสูงสุดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมเดินทางให้ปากคำ แต่ในระหว่างที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไปทัวร์นอก จะคงมอบหมายให้นายพิชิต ชื่นบาน ที่ปรึกษากฎหมายเป็นผู้รับมอบอำนาจและดำเนินการเรื่องดังกล่าวแทน