- Details
- Category: การเมือง
- Published: Wednesday, 23 July 2014 09:27
- Hits: 4158
วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8638 ข่าวสดรายวัน
รธน.ชั่วคราวมีผลแล้ว 48 มาตรา คสช.ประคองรบ.220 สนช.ตั้งนายก สปร.ปฏิรูป 11 เรื่อง นิรโทษตัวเองด้วย หึ่ง 'ม.44'เลียน'ม.17'ปปช.ปัดโต้'ปู'ถาม
พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เฝ้าฯ รับพระราชทานรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว เมื่อเวลา 16.45 น. วันที่ 22 ก.ค. |
มีผลแล้วรธน. 48 มาตรา คสช.ยังทำหน้าที่พี่เลี้ยงรัฐบาล ให้ 220 สนช.โหวตเลือกนายกฯ ตั้งสปร. 250 คน ปฏิรูป 11 เรื่อง นิรโทษคณะรัฐประหาร คสช.จัดมหกรรมปรองดองคึกคัก ทั้งตักบาตรตอนเช้า-บันเทิงช่วงค่ำ มีตัวแทนทุกฝ่ายร่วม "กัมปนาท รุดดิษฐ์" เผยสภาปฏิรูปจะเป็นผู้พิจารณากรณีนิรโทษ บิ๊กตู่หัวโต๊ะถกคสช.ชุดใหญ่ เร่งรัดเบิกจ่ายงบฯ ป.ป.ช.ปัดโต้ข้อสังเกต "ปู" อ้างพิจารณาจบไปแล้ว
โปรดเกล้าฯรธน.ชั่วคราวแล้ว
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมคสช. ครั้งที่ 7/2557 โดยมีรองหัวหน้าคสช. เลขาธิการ คสช. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมกันโดยพร้อมเพรียง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดประชุมว่า ในวันนี้มีภารกิจสำคัญต้องไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับพระราชทานรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว
"บิ๊กตู่"เผยเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯ
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพิ่มความระมัดระวัง ตั้งศูนย์เตือนภัยและติดตามสถานการณ์ของพายุฝนที่จะเข้าไทย พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำอย่างใกล้ชิด เนื่องจากขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนทั่วประเทศเหลือร้อยละ 30 แต่คาดว่าพายุจะเข้าไทยในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค.
หัวหน้า คสช. กล่าวถึงการประชุมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยว่า คสช.ได้ดำเนินการที่สำคัญ ทั้งการเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณปี 2557 การจัดทำงบประมาณปี 2558 งบฯ ลงทุนของรัฐ รัฐวิสาหกิจ รวมถึงงบฯ อุดหนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนประเทศ ควบคู่กับการตรวจสอบความโปร่งใสโดยคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ส่วนการจัดทำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มอบให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ไปดำเนินการ เพื่อลดข้อจำกัดด้านกฎหมาย เพิ่มประสิทธิภาพของโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค และให้ประชาสัมพันธ์การลงทุนในส่วนของโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม อย่างไรก็ตาม ขอให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการโดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศและประชาชนเป็นหลักเพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วย
คสช.จัดตักบาตรสมานฉันท์
เวลา 07.00 น. ที่ท้องสนามหลวง พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วย ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผอ.ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ผู้แทนกระทรวง ตัวแทนพรรคการเมืองและนักการเมือง อาทิ นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาและอดีตประธานสภา ผู้แทนราษฎร คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช กรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายสนธยา คุณปลื้ม หัวหน้าพรรคพลังชลและอดีตรมว.วัฒนธรรม นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และอดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายสุภรณ์ อัตาถาวงศ์ แกนนำนปช. นาย สาทิตย์ วงศ์หนองเตย แกนนำกปปส. ร่วมตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป โดยมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
การจัดงานครั้งนี้ใช้ชื่อว่า "มหกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้คนในชาติ" จัดขึ้นวันที่ 22-27 ก.ค. ตามนโยบายของคสช. ให้ประชาชนมีความสุข ซื้อสินค้าราคาถูก และให้คู่ขัดแย้ง กลุ่มการเมือง พรรคต่างๆ ร่วมกิจกรรมและพูดคุยกัน โดยตลอดทั้งวันมีกิจกรรมจำหน่ายสินค้าราคาถูก สินค้าโอท็อป ส่วนกิจกรรมบันเทิงบนเวทีจะเริ่มเวลา 17.00-21.00 น. มีการฉายภาพยนตร์กลางแปลงเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 1-4 เรื่องกบฏท้าวศรีสุดาจันทร์และสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ขณะที่ช่วงเย็นแต่ละวันจะจัดกิจกรรมทางศาสนาของทุกศาสนา เริ่มจากวันนี้เป็นกิจกรรมศาสนาพุทธ และอีก 76 จังหวัดจะจัดกิจกรรมเช่นเดียวกัน
สมเด็จรัชมังคลาจารย์ให้รักษาศีล 5
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ให้ธรรมเทศนาโดยให้คำขวัญกับประเทศไทยว่าเราเป็นคนไทยจิตใจบริสุทธิ์ พุทธศาสตร์มั่นคง ดำรงภูมิพล ซึ่งเห็นว่าหัวหน้าคสช.มีความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงในการสร้างปรองดองของคนในชาติ เชื่อว่าคนในชาติจะมีความสุข ความปรองดองจะเกิดขึ้นหากคนไทยรักษาศีล 5 ซึ่งสำนักพุทธศานาจะร่วมขับเคลื่อนการปรองดอง รณรงค์ให้ทุกหมู่บ้านปฏิบัติศีล 5 มีเป้าหมาย 50 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ โดยจะมอบป้ายหมู่บ้านรักษาศีลให้กับหมู่บ้านที่ปฏิบัติได้ตามเป้าหมาย
คุณหญิงกัลยากล่าวถึงบุคคลที่จะเข้าไปเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคยืนยันแล้วว่า จะไม่มีสมาชิกพรรคเข้าไปเป็นสนช.และกรรมการสภาปฏิรูป แม้จะเป็นสิทธิ์ของสมาชิกแต่ต้องขอความเห็นชอบจากนายอภิสิทธิ์ก่อน ที่สำคัญต้องรับเงื่อนไขว่าหากเป็นสนช.แล้วจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งนี้เชื่อว่านายอภิสิทธิ์คงไม่อนุญาต เนื่องจากจะถูกครหาว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับการจัดทำรัฐธรรมนูญครั้งนี้ พรรคคงทำได้เพียงแสดงความคิดเห็นเท่านั้น
ปรองดอง - พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกลาโหม เปิดงานมหกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนไทยในชาติ มีตัวแทนพรรคการเมือง นปช.และกปปส.เข้าร่วม ที่ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 22 ก.ค. |
ชี้สภาปฏิรูปพิจารณา"นิรโทษ"
พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ในฐานะผอ.ศปป. กล่าวว่า สถานการณ์ขณะนี้เรียบร้อย ความขัดแย้งแทบจะหมดไป ซึ่งศปป.ทำงานมาร่วม 2 เดือน ถือว่าจะจบวาระแรกแล้วและอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลที่ได้รับจากพื้นที่ เพื่อเสนอพล.อ.ประยุทธ์ในสิ้นเดือนก.ค.นี้ ทั้งนี้สิ่งที่ประชาชนต้องการให้ขับเคลื่อนมากที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ค่าครองชีพ รองลงมาคือความยุติธรรมที่จะต้องไม่เกิดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งตนพอใจเพราะทุกภาคส่วนตอบรับอย่างดี การดำเนินการดังกล่าวถือเป็นวาระแห่งชาติ
พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า เมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 จะลดกิจกรรมบันเทิงลง แต่จะเน้นการพูดคุยเชิงลึกในแต่ละกลุ่ม สอดคล้องกับประเด็นที่จะปฏิรูป เช่น ปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ ทรัพยากร และอยากให้ คสช.ทำอะไร ให้แม่ทัพภาครับผิดชอบเปิดเวทีและตนจะร่วมกิจกรรมด้วย ส่วนจะนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวกับตน ต้องนำไปพูดคุยในสภาปฏิรูป เพราะบางคนติดคุกมา 2-3 ปี ไปคุยกันว่าถึงเวลาหรือยังที่จะนิรโทษกรรม สำหรับการนิรโทษมี 4 ขั้นตอน คือกระบวนการพิสูจน์หาข้อเท็จจริง การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ สุดท้ายคือการนำไปสู่การนิรโทษกรรม แต่ที่ผ่านมาสังคมไทยมีปัญหาไม่ยอมให้นิรโทษกรรม ซึ่งในสภาปฏิรูปต้องพูดคุยกันเรื่องการยอมรับของคนในสังคม ทั้งนี้ก่อนมีการเลือกตั้ง จะเชิญนักการเมืองและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาเซ็นเอ็มโอยู ทำสัญญาประชาคมว่าจะสานต่อการปฏิรูปประเทศ
มหกรรมปรองดองช่วงค่ำคึกคัก
เมื่อเวลา 18.00 น. ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานมหกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ ยังคงดำเนินกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเช้า อาทิ การแสดงดนตรีออร์ เครสตร้าพลเรือน ตำรวจ ทหาร มีประชาชนมาร่วมงานมากขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงหลังเลิกงาน ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ตามทางเท้าโดยรอบ ให้ความสำคัญกับการเลือกชมสินค้าเครื่องอุปโภคและบริโภคตามซุ้มต่างๆ ตลอดเส้นทาง ขณะที่การจราจรโดยรอบสนามหลวงนั้น มีการปิดการจราจรในบางส่วน และเปิดให้เดินรถทางเดียวในบางเส้นทาง ส่งผลให้รถติดขัดเคลื่อนตัวได้ช้า โดยเฉพาะหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
ต่อมาเวลา 18.30 น. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสร้างความปรองดองฯ ร่วมกับ พล.ท.กัมปนาท ปลัดกระทรวงจากทุกกระทรวง ตัวแทนจากพรรค และจากกลุ่มการเมืองทั้ง กปปส. และนปช. จากนั้น พล.อ.สุรศักดิ์ นำประชาชนที่มาร่วมงานกล่าวคำปฏิญาณ รักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และกล่าวแสดงเจตนารมณ์เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์คนในชาติ ก่อนปล่อยลูกโป่งหลากสี เพื่อแสดงถึงว่าทุกสีไปด้วยกันได้ จากนั้นมีการแสดงโชว์ต่างๆ มากมาย การแสดงดนตรีและการฉายภาพยนตร์ "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรภาค 1" ก่อนปิดงานในเวลา 22.00 น. โดยมีประชาชนจำนวนมาก
เร่งสรุปกม. 400 ฉบับ
รายงานข่าวจากคสช. แจ้งว่า ทีมงานฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของคสช. ซึ่งมีพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. เป็นหัวหน้าฝ่าย ได้จัดทำสรุปข้อมูลกฎหมายค้างพิจารณากว่า 400 ฉบับตามที่หัวหน้าคสช. สั่งการ โดยได้คัดกรองเพื่อเสนอคสช. ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ผ่านครม.ชุดที่แล้วและอยู่ระหว่างการเสนอเข้ารัฐสภา 138 ฉบับ
โดยที่ประชุมคสช.วันนี้ หยิบร่างพ.ร.บ.ที่มีการปรับปรุงหลักการ เหตุผลและบทจำกัด สิทธิและเสรีภาพจำนวน 12 ฉบับมาพิจารณา ได้แก่ ร่างพ.ร.บ.กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัย และสร้างสรรค์ พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ.การรับขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ. ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ..., ร่าง พ.ร.บ. จัดรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ..., ร่าง พ.ร.บ. ประกันชีวิต (ฉบับที่...) พ.ศ..., ร่าง พ.ร.บ.ประกันภัยวินาศกรรม (ฉบับที่...) พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่...) พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปราม สิ่งยั่วยุ พฤติกรรมอันตราย พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ.มาตรา ชั่ง ตวง วัด (ฉบับที่...) พ.ศ..., ร่างพ.ร.บ.สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ...จ่อเสนอ"คสช."สัปดาห์หน้า
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อที่ประชุมคสช.เห็นชอบแล้ว จะนำเสนอสนช.ต่อไป และในสัปดาห์หน้า จะนำเข้าที่ประชุมคสช.อีก 26 ฉบับ ส่วนร่างกฎหมายที่เหลือจะทยอยพิจารณาทุกสัปดาห์จนกว่าจะครบทั้ง 138 ฉบับ โดยทุกวันอังคาร นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาคสช.ฝ่ายกฎหมาย จะประชุมกับฝ่ายกฎหมาย ที่ห้องรับรองบ้านเกษะโกมล เพื่อคัดกรองเรื่องที่ต้องนำมาหารือด้วย ทั้งนี้ คสช.เห็นว่ากฎหมายที่รอการพิจารณาของสนช. ต้องนำเข้าตามขั้นตอนเพื่อความสง่างาม ไม่จำเป็นต้องรวบรัดออกเป็นประกาศ
รายงานข่าวแจ้งว่า ทั้งนี้นายวิษณุ เสนอให้ คสช.ยกร่างกฎหมายฉบับใหม่ที่ยังไม่ผ่าน ครม. โดยให้ สนช.ดำเนินการ ซึ่งเป็นร่างพ.ร.บ.ที่อยู่ในหน่วยงาน 19 กระทรวง และ 1 สำนักนายกฯ ที่ยังไม่ได้เสนอเข้าครม. โดยจะมีการส่งตามขั้นตอนก่อนเข้าสนช. นอกจากนี้นายวิษณุ ยังแจ้งว่าที่ผ่านมามีอีก 3 เรื่องที่เป็นเรื่องเร่งด่วน ให้ใช้คำสั่ง คสช.โดยไม่ต้องผ่าน สนช. เพราะหากรอ สนช. อาจใช้เวลาถึง 1 ปี ได้แก่ การขยายเวลาอัตราการ จัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มไปอีก 1 ปี เงินทดแทนในโครงการเกษียณราชการก่อนครบกำหนด 7-15 เท่า และเงินค่าครองชีพเนื่องจากข้าราชการบางคนมีอายุงานน้อย เมื่อเกษียณมีเงินเดือนไม่ถึง 9,000 บาทก็จะสมทบให้จนครบจำนวนดังกล่าว
เรืองไกรหนุนสอบทรัพย์สินป.ป.ช.
นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับพล.อ.ไพบูลย์ ที่จะยกร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยการพิสูจน์หลักฐานการเงินและบัญชี เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินและสกัดกั้นขบวนการทุจริต แต่เรื่องนี้ไม่สามารถทำได้ในชั้นที่มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส.ส.และส.ว. เพราะคงไม่มีใครยอมออกกฎหมายตรวจสอบทรัพย์สินมาทำร้ายตัวเอง ต้องอาศัยอำนาจคณะปฏิวัติเท่านั้น ทั้งนี้ควรตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกปี ทั้งก่อนหลังและขณะดำรงตำแหน่ง รวมทั้งบังคับใช้กฎหมายนี้กับองค์กรอิสระทุกองค์กรด้วย โดยเริ่มนับหนึ่งใหม่ทั้งหมด
นายเรืองไกรกล่าวว่า เรื่องนี้ควรใช้คำสั่งปฏิวัติออกประกาศแก้ไขเพิ่มเติมในพ.ร.บ.ว่าด้วยป.ป.ช. พ.ศ.2542 ระบุให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ระดับสูง ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินหนี้สิน และเอกสารประกอบพร้อมแบบภาษีทุกครั้งที่เข้ารับตำแหน่ง ทุกรอบปีปฏิทินระหว่างดำรงตำแหน่ง จากนั้นเมื่อแก้ไขพ.ร.บ.ดังกล่าวเสร็จ ให้ป.ป.ช.นำบัญชีมาแสดงให้สาธารณชนทราบ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบว่าทรัพย์สินในขณะที่นักการเมืองดำรงตำแหน่งได้มาโดยชอบหรือไม่ และองค์กรท้องถิ่นก็ควรทำด้วย เชื่อว่าหากทำได้จริงจะแก้ปัญหาทุจริตได้มาก และทำให้ประชาชนรู้ที่มาที่ไปของทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย อยากให้คณะปฏิวัติเห็นชอบ และ กล้าหาญตั้งระบบขึ้นมาเพื่อประเทศชาติจะได้คนดีเข้ามาปกครองประเทศในอนาคต
สิงห์ทองจี้"อสส."ฟ้องกปปส.
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย ได้มายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุด(อสส.) ผ่านนายวันชัย รุจนวงศ์ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้เร่งดำเนินคดีแกนนำกลุ่มกปปส.ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการ 46 คน เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาลอาญาต่อไป
นายสิงห์ทองกล่าวว่า ที่ผ่านมาพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง 50 คน และยื่นฟ้องต่อศาลอาญาแล้ว 4 คน จึงเหลือแกนนำที่ยังไม่ส่งฟ้องอีก 46 คน ซึ่ง 4 คนที่ส่งฟ้องนั้นเป็นแกนนำตัวเล็กๆ ส่วนที่เหลือมีทั้งนายสุเทพ เทือกสุบรรณ นายอิสสระ สมชัย นายถาวร เสนเนียม นายแก้วสรร อติโพธิ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งมีบทบาทเคลื่อนไหวมาก แต่อัยการกลับดำเนินการล่าช้า อาจถูกมองว่าเพิกเฉยไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย จึงขอให้อสส.สั่งพนักงานอัยการรวมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐเร่งนำตัวบุคคลที่เหลือส่งฟ้องต่อศาลอาญา เพื่อให้ประชาชนและนานาประเทศเกิดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทย ตามหลักนิติธรรมโดยไม่เลือกปฏิบัติ
เผยหลังยื่นโดนคสช.เรียกแจง
ส่วนที่นายสุเทพหรือพระสุเทพ ได้บวชอย่างกะทันหันที่จ.สุราษฎร์ธานี นายสิงห์ทองกล่าวว่า อาจมีนัยยะบางอย่าง เป็นไปได้ว่ามีการต่อรองกันภายในว่าขอให้ไปบวชเพื่อไม่ให้เคลื่อนไหวทางการเมือง และอาจไม่ถูกดำเนินคดีในข้อหากบฏ หากเป็นแบบนี้จะทำให้กระบวนการยุติธรรมเกิดความบิดเบือนและไม่มีมาตรฐาน
จากนั้นนายสิงห์ทองยื่นหนังสือถึงหัวหน้าคสช. ผ่านเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกฯ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้คสช.เร่งดำเนินการในเรื่อง ดังกล่าวเช่นกัน โดยนายสิงห์ทองเผยว่า ระหว่างที่ตนยื่นเรื่องต่ออสส. มีโทรศัพท์จากพ.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.ร.11 รอ. เชิญให้ตนเข้าไปพูดคุยและชี้แจงเหตุผลการเดินสายยื่นเรื่องนี้ต่อหน่วยงานต่างๆ ซึ่งตนได้ตอบรับและนัดพูดคุยในเวลา 13.30 น.ที่สำนักงานเขตวังทองหลางเพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ
ปปช.ปัดโต้ข้อสังเกต"ปู"
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีน.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ตั้ง 7 ข้อสังเกต กรณีถูกชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าวว่า ที่ประชุมป.ป.ช.พิจารณาเห็นว่าหน้าที่ของป.ป.ช.สิ้นสุดลงแล้ว จากนี้เป็นหน้าที่ของ อสส.และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ประชุมป.ป.ช.จึงมีมติไม่ขอตอบโต้ข้อสังเกตของน.ส.ยิ่งลักษณ์ทั้ง 7 ข้อ หากป.ป.ช.ไปตอบโต้จะยิ่งสับสน ส่วนที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุป.ป.ช. เร่งรีบรวบรัดและสอบปากคำพยานที่เป็นปฏิปักษ์แต่เพียงฝ่ายเดียวนั้น เป็นสิทธิ์ที่จะสงสัยได้ ใครจะมองอย่างไรก็ได้ ป.ป.ช.ไม่ขอโต้แย้งให้เกิดประเด็น คาดว่าในสัปดาห์หน้าป.ป.ช.จะส่งสำนวนให้อสส.ได้ สุดท้ายแล้วหากอสส.ไม่ส่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลฎีกาฯ ป.ป.ช.จะพิจารณาส่งฟ้องเอง
"การที่ป.ป.ช.ไม่ชี้แจงนั้นไม่ได้จะปล่อยให้เกิดความเข้าใจผิดต่อไป แต่เห็นว่าตามกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป.ป.ช. หากไปชี้แจงหรือตอบโต้คงไม่ถูกเพราะจะยิ่งสับสน ป.ป.ช.จะไม่คัดค้านหรือโต้แย้งให้เกิดประเด็น และหากยังมีการวิจารณ์ป.ป.ช. ในทางเสียหายอีกคงไม่มีมาตรการใดๆ" นายสรรเสริญกล่าว
ยันอสส.ไม่ฟ้องจะฟ้องเอง
เมื่อถามว่ากรณีไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนเกิดความเสียหายมูลค่า 5 แสนล้านบาท จะฟ้องร้องทางแพ่งกับน.ส. ยิ่งลักษณ์หรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ขอไม่ตอบ เมื่อถามย้ำว่าในคดีปกติหากมีมูลค่าความเสียหายเกิดขึ้นเช่นนี้ป.ป.ช.จะดำเนินการอย่างไร นายสรรเสริญกล่าวว่า ปกติจะฟ้องร้องค่าเสียหาย อสส.จะเป็นผู้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ดูว่าเข้าข้อกฎหมายเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเหตุให้ราชการเสียหายหรือไม่ ขณะที่ป.ป.ช.จะแจ้งในสำนวนว่าจากกรณีนี้ได้ทำให้เกิดความเสียหายขึ้นมากน้อยเพียงใด ดังนั้น อยู่ที่อสส.จะพิจารณาถึงความเสียหาย แล้วจึงพิจารณาว่าคดีอาญาดังกล่าวฟ้องแพ่งได้หรือไม่
นายสรรเสริญยังแถลงมติที่ประชุมถึงคดีที่กล่าวหานางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสำนักสนับสนุนและบริการลูกค้า สำนักกลยุทธ์การตลาด บมจ.อสมท กับพวก เรียกรับเงินจากบริษัทไร่ส้ม จำกัด กับพวก ที่ป.ป.ช.เคยมีมติชี้มูลว่า ทางอสส.ยังไม่ฟ้องคดี เนื่องจากเห็นว่ายังมีข้อมูลไม่สมบูรณ์ จึงแต่งตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างอสส.กับป.ป.ช. และมีข้อสรุปไต่สวนพยานบุคคลเพิ่มเติม 3 รายเพื่อให้สำนวนมีความสมบูรณ์ ซึ่งขณะนี้คดีมีความคืบหน้า โดยนัดไต่สวนพยานบุคคลเพิ่มเติมซึ่งปากสุดท้ายจะเสร็จในวันที่ 25 ก.ค.นี้ จากนั้นคณะทำงานร่วมจะพิจารณาหาข้อยุติเกี่ยวกับการพิจารณาคดี หากอสส.เห็นว่าสำนวนมีความสมบูรณ์ อสส.จะเป็นผู้ฟ้องคดีต่อศาลต่อไป แต่หากหาข้อยุติไม่ได้ป.ป.ช.มีอำนาจฟ้องคดีเองหรือแต่งตั้งทนายความให้พิจารณาคดีแทน
คสช.จ่อส่งกม. 12 ฉบับเข้าสนช.
ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคสช. แถลงผลการประชุมคสช.ชุดใหญ่ว่า พล.อ. ประยุทธ์ ไม่ได้พูดเรื่องความพึงพอใจหรือการดำเนินงานของคสช.ในรอบ 2 เดือนที่ผ่านมา เพียงแต่ติดตามงานที่เกี่ยวข้องในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เน้นเรื่องเศรษฐกิจโดยสั่งให้ทุกคณะกรรมการในแต่ละกลุ่มงานทำยุทธศาสตร์ของงานของตัวเองเพื่อให้เห็นภาพทั้งประเทศ นำไปเป็นแนวปฏิบัติงานวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า ที่ประชุมคสช.รับทราบตามที่ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม เสนอเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ. ที่ควรเร่งรัดให้มีผลบังคับใช้ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว 12 ฉบับ ก่อนบรรจุเข้าวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่อไป
รธน.ชั่วคราวมีผลบังคับใช้แล้ว
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ กล่าวถึงขั้นตอนการประกาศรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) ว่า หลังจากพล.อ.ประยุทธ์ เข้าเฝ้าฯ เพื่อรับพระราชทานรัฐธรรมนูญแล้ว ขั้นตอนอยู่ที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ซึ่งนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ ครม.เดินทางร่วมคณะไปด้วย โดยพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผช.ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษากฎหมาย และคณะทำงานด้านกฎหมายแถลงรายละเอียดและตอบคำถามอีกครั้ง ที่ทำเนียบรัฐบาลในเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ก.ค.
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ เผยว่า เมื่อเวลา 19.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับสนองพระบรมราชโองการรัฐธรรมนูญราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 20.00 น. หลังมีการถ่ายทอดพิธีรับสนองพระบรมราชโองการรัฐธรรมนูญฯ ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแล้ว สามารถเปิดราชกิจจานุเบกษาเพื่อดูรายละเอียดได้ทันที
มีทั้งหมด 48 มาตรา
สำหรับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มีทั้งสิ้น 48 มาตรา โดยมีเนื้อหาระบุว่า มาตรา 2 ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ให้บทบัญญัติของหมวด 2 พระมหากษัตริย์ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ซึ่งยังคงมีผลใช้บังคับอยู่ตามประกาศคสช. ฉบับที่ 11/2557 ยังคงใช้บังคับต่อไปเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญนี้ และภายใต้บังคับมาตรา 43 วรรคหนึ่ง ที่ใดในบทบัญญัติดังกล่าวอ้างถึงรัฐสภาหรือประธานรัฐสภา ให้หมายถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามรัฐธรรมนูญนี้ แล้วแต่กรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนั้นในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการตั้งและการทำหน้าที่ของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ 220 คน สภาปฏิรูปการเมือง 250 คน กรรมาธิการร่างรัฐธรรมนูญ รวมถึงนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี นอกจากนั้นยังกำหนดการทำหน้าที่ของคสช.และหัวหน้าคสช. โดยมีสาระสำคัญอยู่ในมาตรา 42-44 โดยเฉพาะมาตรา 44 ถูกวิจารณ์ว่าคล้ายมาตรา 17 ที่เคยบังคับใช้ในรัฐบาลทหาร ซึ่งให้อำนาจนายกฯ แบบเด็ดขาด เพื่อจัดการกับปัญหาที่มีีผลกระทบต่อประเทศ และความมั่นคง
นอกจากนั้นในมาตรา 48 ยังกำหนดด้วยว่า บรรดาการกระทำ ทั้งหลายซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 ของหัวหน้าและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รวมทั้งการกระทำของบุคคลที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำดังกล่าวหรือของผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือของผู้ซึ่งได้รับคำสั่งจากผู้ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหรือ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ อันได้กระทำไปเพื่อการดังกล่าวข้างต้นนั้น การกระทำดังกล่าวมาทั้งหมดนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำเพื่อให้มีผลบังคับในทางรัฐธรรมนูญ ในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ รวมทั้งการลงโทษและการกระทำอันเป็นการบริหารราชการอย่างอื่น ไม่ว่ากระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ให้กระทำ หรือผู้ถูกใช้ให้กระทำ และไม่ว่ากระทำในวันที่กล่าวนั้นหรือก่อนหรือหลังวันที่กล่าวนั้น หากการกระทำนั้นผิดต่อกฎหมาย ให้ผู้กระทำพ้นจากความผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิง (อ่านรายละเอียดรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวทั้ง 48 มาตราได้ที่หน้า 2)
รธน.ชั่วคราวมีผลแล้ว เผยไฮไลต์ สองมาตรา-35 กับ 44 สเปก 10 ข้อร่างรธน.ใหม่ สกัด'โกง-ประชานิยม'ให้อำนาจหัวหน้าคสช. สนช.ตั้ง-ปลดนายกฯ 'บิ๊กตู่'รับพระราชทาน
มติชนออนไลน์ :
พล.อ.ประยุทธ์เฝ้าฯในหลวง รับพระราชทานรัฐธรรมนูญ เผยไฮไลต์มี 2 มาตรา
@ คสช.เปิด"มหกรรมปรองดอง"
งาน "มหกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์คืนความสุขให้คนในชาติ" จัดโดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระหว่างวันที่ 22-27 กรกฎาคม ที่บริเวณท้องสนามหลวง ได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 22 กรกฎาคม พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป และผู้แทนกระทรวงต่างๆ รวมทั้งตัวแทนพรรคการเมือง 11 พรรค อาทิ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช พรรคประชาธิปัตย์ นายยงยุทธ ติยะไพรัช พรรคเพื่อไทย และนายอนุทิน ชาญวีรกูล พรรคภูมิใจไทย เป็นต้น รวมทั้งคู่ขัดแย้งการเมือง เช่น นายวีรกานต์ มุสิกพงศ์ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ร่วมกันตักบาตรพระสงฆ์ 99 รูป ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง มีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานฝ่ายสงฆ์
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ให้ธรรมเทศนา โดยให้คำขวัญว่า เราเป็นคนไทยจิตใจบริสุทธิ์ พุทธศาสตร์มั่นคง ดำรงภูมิพล และเห็นว่าเป็นความมุ่งมั่นอย่างแท้จริงของหัวหน้า คสช.ที่ต้องการสร้างความปรองดองของคนในชาติอย่างแท้จริง เห็นได้จากความร่วมมือทุกภาคส่วน และเชื่อว่า คนในชาติจะมีความสุข ทั้งนี้ความปรองดองจะเกิดขึ้นหากคนไทยร่วมกันรักษาศีล 5
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศช่วงบ่ายของมหกรรมปรองดองฯเริ่มคึกคักภายในงานมีการออกร้านจำหน่ายอาหาร สินค้าราคาถูก สินค้าโอท็อป ฯลฯ รวมถึงการจัดนิทรรศการให้ความรู้แก่ประชาชนด้วย รวมถึงการแสดงดนตรีจากกรมประชาสัมพันธ์ วงดนตรีออเคสตราผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร และศิลปิน จากค่ายเพลงต่างๆ สลับหมุนเวียนมาคืนความสุขให้กับประชาชน
@ ปลัดกห.เปิด"มหกรรมปรองดอง"
ต่อมาเวลา 18.30 น. ที่สนามหลวง พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสร้างความปรองดองฯ ร่วมกับ พล.ท.กัมปนาท ปลัดกระทรวงทุกกระทรวง ตัวแทนจากพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองทั้งแกนนำ กปปส.และแกนนำ นปช.
พล.อ.สุรศักดิ์กล่าวเปิดงานว่า เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ในนาม คสช. ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาร่วมงานมหกรรมปรองดองสมานฉันท์ฯ ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ เป็นความร่วมมือร่วมใจจากทุกภาคส่วน ที่มาเป็นเจ้าภาพร่วมกัน มีวัตถุประสงค์ให้คนไทยเกิดความปรองดองอย่างแท้จริง ถือเป็นสิริมงคลทำบุญใหญ่ประเทศไปในคราวเดียวกัน
@ ลั่นสามัคคีไม่แบ่งฝ่าย
"โดยมีการสวดมนต์ขอพร ให้เกิดความสงบสุข ความประสงค์ของคนไทยทั้งชาติ คือ สร้างมิติความรัก ความสามัคคี ความปรองดองและสมานฉันท์ ไม่แบ่งฝ่าย เพราะประเทศของเราบอบช้ำและเสียโอกาสมาเป็นเวลาเนิ่นนาน จึงขอใช้ช่วงเวลานี้ในการสร้างความสมานฉันท์ปรองดองในสังคมไทย เพื่อเป็นเครื่องยืนยันในการรักชาติ" พล.อ.สุรศักดิ์กล่าว และนำกล่าวแสดงเจตนารมณ์เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์คนในชาติ โดยนำกล่องที่เป็นรูปหัวใจ สีธงชาติไทย นำกระดาษรูปหัวใจขนาดเล็กลายธงชาติมีข้อความว่า "ก้าวเดินไปด้วยกัน ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อชาติไทย" จากนั้นปล่อยลูกโป่งหลากสี เพื่อแสดงถึงว่าทุกสีไปด้วยกันได้ หลังเปิดพิธีมีการจัดการแสดงโชว์ต่างๆ มากมาย มีประชาชนมาร่วมงานจำนวนมาก
@ "บิ๊กโชย"พอใจผลตอบรับดี
พล.ท.กัมปนาท กล่าวหลังเสร็จพิธีสงฆ์ว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือ ความขัดแย้งในปัจจุบันแทบจะหมดไป ซึ่งศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ได้ทำงานมาร่วม 2 เดือนแล้ว และถือว่ากำลังจะจบในวาระแรก
ทั้งนี้ กำลังรวบรวมข้อมูลทั้งหมดส่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ก่อนที่จะเข้าสู่ระยะที่ 2 เรื่องหลักๆ ที่ประชาชนต้องการให้มีการปฏิรูปคือ เรื่องเศรษฐกิจ การครองชีพ ทำอย่างไรให้ประชาชนอยู่ดีกินดี สามารถดำรงชีพได้ในชุมชนของตัวเอง รวมถึงการสร้างความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งด้านสังคม จิตวิทยา จะสรุปข้อมูลทั้งหมดให้ตรงกับความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด เพื่อนำไปถกเถียงกันในสภาปฏิรูป" พล.ท.กัมปนาทกล่าว และว่า รู้สึกพอใจเพราะทุกภาคส่วนให้การตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวถือเป็นวาระแห่งชาติ
"ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ผมจะเชิญนักการเมืองและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมาเซ็นเอ็มโอยู เพื่อทำสัญญาประชาคมว่าจะสานต่อการปฏิรูปประเทศ" พล.ท.กัมปนาทกล่าว
@ โยนสภาปฏิรูปถกนิรโทษฯ
พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า สำหรับการจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ประชาชนจะค่อยๆ ลดความถี่ลงเมื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 เพราะจะเน้นในเนื้อหาสาระมากขึ้น และจะเปิดเวทีให้แต่ละกลุ่มแต่ละฝ่ายมาแสดงความคิดเห็น ว่าอยากให้ คสช.ทำอะไร โดยจะให้มีแม่ทัพภาครับผิดชอบในการเปิดเวที ส่วนจะมีการนิรโทษกรรมหรือไม่นั้น ไม่เกี่ยวข้องกับตน ซึ่งต้องนำไปพูดคุยกันในสภาปฏิรูปว่าต้องการให้นิรโทษกรรมหรือไม่ เพราะบางคนติดคุกมา 2-3 ปี ก็ไปพูดคุยกันว่าถึงเวลาหรือยังที่จะนิรโทษกรรม อย่างเช่น กรณี เนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกจำคุกกว่า 20 ปี ก่อนที่จะได้รับการนิรโทษกรรมในภายหลัง
"ทั้งนี้ การนิรโทษกรรมมี 4 ขั้นตอน ขั้นแรก คือกระบวนการพิสูจน์หาข้อเท็จจริง และเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม การเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ สุดท้ายคือการนำไปสู่การนิรโทษกรรม แต่ที่ผ่านมาในสังคมไทย มีปัญหาไม่ยอมให้นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องไปพูดกันในสภาปฏิรูป" พล.ท.กัมปนาทกล่าว
@ ทุกจว.จัดมหกรรมปรองดอง
ส่วนความเคลื่อนไหวงานมหกรรมปรองดองสมานฉันท์ฯในต่างจังหวัด ปรากฏว่าทุกจังหวัดต่างจัดพิธีกันอย่างพร้อมเพรียง อาทิ เวลา 07.00 น. ที่วัดสวนดอกวรวิหาร (พระอารามหลวง) อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อม พ.อ.โกศล ประทุมชาติ รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 (มทบ.33) ผู้แทนจากหน่วยงานราชการ และพุทธศาสนิกชนในจังหวัดเชียงใหม่ กว่า 200 คน ร่วมตักบาตรปรองดองพระสงฆ์ 99 รูป
ที่บริเวณลานท้าวสุรนารี (ลานย่าโม) เขตเทศบาลนคร (ทน.) นครราชสีมา นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตร "มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ" มี พล.ต.ไชยพร รัตนแพทย์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 หัวหน้าส่วนราชการ ประชาชนกว่า 800 คน รวมทั้งนายจักริน เชิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา อดีตประธาน กปปส.นครราชสีมา, นายอนุวัฒน์ ทินราช อดีตประธาน นปช.นครราชสีมา และนายสุพจน์ พิริยะเกียรติสกุล แกนนำกลุ่มพันธมิตรโคราช ร่วมกิจกรรมด้วย
ที่ลานหน้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นำข้าราชการ ตำรวจ ทหาร และประชาชนจังหวัดเชียงราย ร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป เพื่อสร้างปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ เช่นเดียวกับที่ วัดเมืองยะลา (พระอารามหลวง) เขตเทศบาลนครยะลา นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานพิธีเปิดงาน มหกรรมปรองดองสมานฉันท์ คืนความสุขให้คนในชาติ ทำบุญตักบาตร พระภิกษุสงฆ์ สามเณร 99 รูป
@ บิ๊กตู่เข้าเฝ้ารับพระราชทานรธน.
เวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานประชุม คสช. ครั้งที่ 7/2557 มีรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายต่างๆ พล.อ.อุดมเดช
สีตบุตร รอง ผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการปรองดองและการปฏิรูป เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า มีภารกิจสำคัญที่ต้องไปเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับพระราชทานธรรมนูญปกครอง (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว
เวลา 16.52 น. วันเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ในโอกาสนี้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี และ พ.อ.ณัฐวุฒิ ภาสุวณิชยพงศ์ ฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา ร่วมเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทด้วย
@ เตรียมแถลงทางการ23ก.ค.
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.ให้สัมภาษณ์ถึงรัฐธรรมนูญชั่วคราวว่า รายละเอียดของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจะชัดเจนในวันที่ 23 กรกฎาคม โดย พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. นายวิษณุ เครืองาม ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย คสช. และ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ผู้ตรวจการแผ่นดิน จะทำการแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล เวลาประมาณ 10.00 น.
@ ชี้รธน.ช่วยยันเดินตามโรดแมป
นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ที่จะออกมา จะเป็นสิ่งยืนยันให้ต่างชาติได้เห็นว่า ประเทศไทยได้ดำเนินการตามแผนโรดแมปและทำได้สำเร็จจริงตามกรอบเวลาที่วางไว้ ซึ่งประเทศไทยยังคงเดินหน้าชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างความ
เชื่อมั่นกับต่างประเทศมากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทยภายหลังที่มีการปฏิรูปประเทศแล้ว
"ระหว่างที่มีการปฏิรูปประเทศให้มั่นคงและยั่งยืน ประเทศไทยยังยืนยันการดำเนินนโยบายความสัมพันธ์ทางการทูตกับทุกประเทศเหมือนเดิม จะเข้มข้นมากขึ้น โดยเฉพาะการแสดงบทบาทในเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ" นายเสขกล่าว และว่า ในขณะนี้น่าดีใจที่รัฐบาลของสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย เข้าใจประเทศไทยมากขึ้น โดยประเทศเหล่านี้จะไม่ย้อนกลับไปถามหรือประณามเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคมที่ คสช.เข้าควบคุมการบริหารประเทศ แต่ประเทศเหล่านี้จะสนใจถามถึงรายละเอียดการดำเนินการตามขั้นตอนโรดแมป อาทิ การจัดตั้งสภานิติบัญญัติ (สนช.) ผู้ทำหน้าที่ใน สนช.ทั้ง 200 คน จะมีการสรรหาผู้ทรงคุณวุฒิมาทำหน้าที่ สนช.อย่างไร เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการจัดทำกฎหมายนำไปสู่การเลือกตั้ง
นายเสขกล่าวว่า ในแง่การเมือง ต่างชาติจับตาถึงบทบาทของ คสช. ซึ่งเชื่อว่าหลังจากที่ออกรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวจะเป็นคำตอบให้ต่างชาติได้รู้ว่า คสช.จะมีอำนาจและทำหน้าที่ในส่วนใดบ้าง โดยระหว่างที่ปฏิรูปประเทศจะมีรัฐบาลชั่วคราวขึ้น ทาง คสช.จะเสนอใครเป็นนายกรัฐมนตรี และองค์ประกอบคณะรัฐมนตรีเป็นใครบ้าง
@ แจงคุมสื่อไม่ให้สร้างกระแส
นายเสขกล่าวว่า หลายประเทศค่อนข้างกังวลในเรื่องสิทธิมนุษยชนและการควบคุมจำกัดสิทธิสื่อมวลชน เนื่องจากขณะนี้ยังคงประกาศกฎอัยการศึก ยังมีอยู่ที่มีส่วนเชื่อมโยงกับการทำหน้าที่สื่อมวลชน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเน้นย้ำว่าเป็นเรื่องละเอียดอ่อน การยังคงกฎอัยการศึกก็เพื่อส่งเสริมบรรยากาศในประเทศให้เกิดความปรองดองและสมานฉันท์ ทั้งหมดเป็นเรื่องความเชื่อมั่นระหว่างคนในสังคมไทย โดยความจำเป็นที่ต้องควบคุมสื่อก็ไม่ให้เกิดการสร้างกระแสในสังคม โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียที่เกิดได้รวดเร็วและไกล ได้บั่นทอนความปรองดอง ตามที่ คสช.จะให้เกิดการปฏิรูปประชาธิปไตยอย่างยั่งยืนขึ้น
"ทาง คสช.เข้าใจดีต่อบทบาทของเอ็นจีโอที่จะให้ความสนใจและตรวจสอบสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในไทย และก็เข้าใจว่าประเทศตะวันตกก็ไม่อาจเปลี่ยนค่านิยมประชาธิปไตย แต่เราขอเพียงให้เข้าใจการดำเนินการของไทยและยังคงการมีปฏิสัมพันธ์กับประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง" นายเสขกล่าว
@ ปลัดมท.สั่งเร่งตั้งศูนย์ดำรงธรรม
เวลา 11.00 น. ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมข้อหารือราชการกับผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยว่า สั่งการให้เร่งจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมเพื่อให้บริการประชาชนทุกจังหวัดให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดและสั่งการให้เข้มงวดนโยบายของ คสช. คือ เรื่ององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) มีเรื่องสำคัญ 2 เรื่อง คือ กรณีผู้บริหาร อปท.ที่หมดวาระ ในส่วนนี้กระทรวงฯ จะเร่งการคัดสรรสมาชิก อปท.ให้เสร็จทันตามกำหนด 15 วัน ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและกรรมการคัดสรรทำหน้าที่อย่างดีที่สุดให้สมกับที่ คสช.ได้ให้ความไว้วางใจ
นายวิบูลย์กล่าวว่า ส่วนประกาศ คสช.ที่ให้ผู้ว่าฯ ดูแลโครงการของ อปท. โดยให้ผู้ว่าฯดูแลโครงการต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าฯและนายอำเภอเข้าไปดูแลให้ความเห็นชอบ โดยมีกระบวนการตรวจสอบร่วมกับสมาชิก อปท. การจัดทำงบประมาณของ อปท.ขอให้ทำตามยุทธศาสตร์ของ คสช.และต้องสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่จะเกิดขึ้น การใช้งบประมาณขอให้มีความสมเหตุสมผล
"สิ่งสำคัญที่ต้องดูแลงบท้องถิ่น คือ ต้องมีความโปร่งใสไม่ให้มีการวิ่งเต้นได้ เพราะหัวหน้า คสช.ได้กำชับมาและให้ความสำคัญกับการทำงานที่มีความเป็นธรรมกระจายไปทุก อปท. โดยโครงการที่เสนอมานั้นต้องสามารถตรวจสอบโครงการได้ว่าเป็นโครงการที่ดีและเหมาะสม" นายวิบูลย์กล่าว
@ ป.ป.ช.มีมติไม่แจงคดีข้าว"ปู"
เวลา 14.30 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.เตรียมจะชี้แจงการตั้งข้อสังเกต 7 ข้อของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการชี้มูลความผิดโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่า การพิจารณาคดีของ ป.ป.ช.สิ้นสุดลงแล้ว จากนี้จะเป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุด (อสส.) และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
"ดังนั้นที่ประชุม ป.ป.ช.จึงมีมติไม่ขอตอบโต้ข้อสังเกตของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ทั้ง 7 ข้อ เพราะหากไปตอบโต้จะยิ่งเกิดความสับสน" นายสรรเสริญกล่าว และว่า ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ระบุว่า ป.ป.ช.เร่งรีบ รวบรัด และสอบปากคำพยานที่เป็นปฏิปักษ์ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์แต่เพียงฝ่ายเดียวนั้น เป็นสิทธิที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะสงสัยได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่ชี้แจงข้อสงสัยจะทำให้สังคมเกิดความคลางแคลงใจหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ถือว่า ป.ป.ช.ทำหน้าที่เสร็จแล้ว ไม่เป็นไร ใครจะมองอย่างไรก็แล้วแต่ เรื่องนี้อยู่ที่ อสส.และศาลฎีกาฯ จะพิจารณา ป.ป.ช.ไม่ขอไปโต้แย้งให้เกิดประเด็น คาดว่าสัปดาห์หน้า ป.ป.ช.จะส่งสำนวนให้ อสส.ได้ และสุดท้ายแล้วหาก อสส.ไม่ส่งฟ้องคดีนี้ต่อศาลฎีกาฯ ป.ป.ช.จะพิจารณาส่งฟ้องเอง
@ หวั่นตอบโต้จะทำให้สับสน
"การที่ ป.ป.ช.ไม่ชี้แจงตามข้อสงสัยของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะคณะกรรมการ ป.ป.ช.เดินตามกรอบอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากไปชี้แจงหรือตอบโต้คงไม่ถูก เพราะจะยิ่งทำให้สับสน ในเมื่อทำตามกรอบของกฎหมายและทำงานตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาแล้ว เมื่อจบสิ้นกระบวนการของ ป.ป.ช.ก็ส่งต่อไปยัง อสส.ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย
ไม่ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะตั้งข้อสังเกตอย่างไรถือเป็นสิทธิของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เป็นปัญหา เป็นสิทธิที่ท่านจะพูดได้ ป.ป.ช.ไม่ตอบโต้ทุกกรณี" นายสรรเสริญกล่าว
นายสรรเสิรญกล่าวว่า เมื่อทำตามหน้าที่เสร็จแล้วก็คือจบหน้าที่ ไม่เป็นไร ใครจะมองอย่างไรก็แล้วแต่ จากนี้ต้องแล้วแต่ อสส.และศาลฎีกาฯ ที่จะต้องทำงานในห้วงต่อไป ป.ป.ช.จะไม่คัดค้านหรือโต้แย้งให้เกิดเป็นประเด็น
@ โยนอสส.พิจารณาฟ้องแพ่ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าการชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ กรณีไม่ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวจนทำให้เกิดความเสียหายมูลค่า 5 แสนล้านบาท จะฟ้องร้องทางแพ่งกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ทำให้เกิดความเสียหายหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ขออนุญาตไม่ตอบ เมื่อถามว่าคดีปกติหากมีมูลค่าความเสียหายเกิดขึ้นเช่นนี้แล้ว ป.ป.ช.จะต้องดำเนินการอย่างไร นายสรรเสริญกล่าวว่า หากเกิดความเสียหายปกติจะต้องฟ้องร้องค่าเสียหาย โดย อสส.จะต้องเป็นผู้ฟ้องเรียกค่าเสียหาย ซึ่งจะดูว่าเข้าข้อกฎหมายเรื่องปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการหรือไม่
"ขณะที่ ป.ป.ช.จะต้องแจ้งไปในสำนวนอยู่แล้วว่า จากกรณีนี้ได้ทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นมากน้อยเพียงใด แต่หากจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่ง อสส.จะต้องเป็นผู้พิจารณาและทำสำนวนเพื่อฟ้องแพ่งด้วย" นายสรรเสริญกล่าว
@ สภาทนายฯพร้อมว่าความให้
นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจำนวน 5 แสนล้านบาท โครงการทุจริตรับจำนำข้าวนั้น หากคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเห็นชอบสามารถทำได้ ที่ผ่านมาทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะใช้ทนายความจากสภาทนายความฯ ในลักษณะขอความร่วมมือในการว่าความ ทางนายกสภาทนายความฯ จะรับเรื่องไว้เพื่อพิจารณาว่าจะรับว่าความให้หรือไม่ก็ได้ เป็นดุลพินิจของสภาทนายความฯ
"ที่ผ่านมาสภาทนายความฯ รับว่าความให้ ป.ป.ช.มาแล้วทุกคดีที่ร้องขอมา โดยยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองหลายคดี เช่น คดีทุจริตจัดซื้อรถดับเพลิง คดีหวยบนดิน คดีทุจริตจัดซื้อกล้ายาง เป็นต้น สภาทนายความฯ จะสรรหาทนายความที่มีความรู้ ประสบการณ์สูง และมีความเหมาะสมการว่าความในแต่ละคดี" นายเดชอุดมกล่าว
@ พท.ยื่นคสช.เร่งคดีกบฏกปปส.
เวลา 11.40 น.วันเดียวกัน ที่ศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล นายสิงห์ทอง บัวชุม ทีมกฎหมาย พรรคเพื่อไทย เข้ายื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กรณีขอให้พิจารณาสั่งการเร่งรัดการส่งฟ้องดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาร่วมกันเป็นกบฏ ซึ่งเป็นแกนนำ กปปส. (คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข) จำนวน 46 คน ตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 63/2557 เพื่อให้ประชาชนและนานาประเทศเกิดความเชื่อมั่นว่ากระบวนการยุติธรรมของไทยว่ามีความเท่าเทียม ไม่สองมาตรฐาน มีนายสุขสวัสดิ์ สุวรรณวงศ์ นิติกรชำนาญการ ศูนย์บริการประชาชนเป็นผู้รับเรื่องไว้
นายสิงห์ทองกล่าวว่า เช้าวันเดียวกันได้ไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อยื่นหนังสือเร่งรัดให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีกับแกนนำ กปปส. 46 คน เพราะในขณะนี้มีการส่งฟ้องเพียง 4 คนเท่านั้น ซ้ำยังเป็นบุคคลที่ไม่ค่อยมีบทบาทในการชุมนุมอีกด้วย และไม่ปรากฏว่าพนักงานอัยการหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีจะเร่งรัดใดๆ มีการประวิงเวลา จึงมาเรียกร้องให้ดำเนินการให้เกิดความเท่าเทียม
"อีกประเด็นหนึ่งก็คือ เห็นว่าการที่มีแกนนำ กปปส.ท่านหนึ่งได้ไปอุปสมบท บวชเป็นพระภิกษุ แสดงถึงนัยยะสำคัญว่าจะไม่มีการดำเนินคดีข้อหากบฏ ผมเห็นว่าหากต้องการจะให้เกิดการปรองดอง สมานฉันท์ ควรที่จะต้องมีความตรงไปตรงมา ยุติธรรม เสมอภาคกันสำหรับทุกฝ่าย แต่ขณะนี้บางคดีได้มีการดำเนินการอย่างเร่งด่วน"
นายสิงห์ทองกล่าว และว่า ตัวแทนอัยการที่ออกมารับหนังสือกล่าวว่า เจ้าหน้าที่คดีพิเศษยังไม่ส่งเรื่องมา จึงยังไม่สามารถส่งฟ้องศาลอาญาได้
@ "มาร์ค"ห้ามลูกพรรคเป็นสนช.
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงบุคคลที่จะเข้าไปเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และคณะกรรมการปฏิรูป ว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ยืนยันแล้วว่าจะไม่มีสมาชิกพรรคเข้าไปเป็น สนช.และกรรมการปฏิรูป ซึ่งหากสมาชิกพรรคคนไหนต้องการที่จะเข้าไปเป็น สนช.ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ต้องมีการขอความเห็นชอบจากนายอภิสิทธิ์ก่อน
"ที่สำคัญต้องรับเงื่อนไขว่าหากเข้าไปเป็น สนช.แล้ว จะต้องไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง และเชื่อว่านายอภิสิทธิ์คงไม่อนุญาต เนื่องจากจะถูกครหาว่ามีส่วนได้ส่วนเสียกับการจัดทำรัฐธรรมนูญ ซึ่งในส่วนของพรรค ปชป.คงทำได้เพียงแสดงความคิดเห็นเท่านั้น" คุณหญิงกัลยากล่าว
@ ชายนิรนามบุกถามหาปลัดสธ.
เวลา 14.48 น.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุน่าสงสัยบริเวณหน้าอาคารสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) แจ้งว่าพบเห็นรถเก๋งสีดำขับมาจอดบริเวณด้านหน้าอาคาร มีชายวัยกลางคน 2 คน เปิดกระจกรถสอบถามว่า นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อยู่ในประเทศไทยหรือไปต่างประเทศ และทำงานอยู่บริเวณชั้นไหน พร้อมทั้งยังขอเบอร์ติดต่อเลขานุการหน้าห้องด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ รปภ.ไม่ได้ตอบ ขณะที่ชายอีกคนกลับจดบันทึกการสอบถามไว้ทั้งหมด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ รปภ.ยังสังเกตว่า
ชายคนดังกล่าวพกปืนสั้นด้วย และด้านหลังรถยนต์มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ 3 ใบ และกระเป๋าทรงยาวอีก 1 ใบ ทั้งนี้ เมื่อ รปภ.ได้ปฏิเสธที่จะตอบคำถามต่างๆ ทางชายนิรนามดังกล่าวได้นำหน้ากากสีขาวมาสวมทันที และขับรถออกไป
จากนั้นเจ้าหน้าที่ รปภ.แจ้งไปยังผู้ดูแลตึก และแจ้งไปยัง นพ.บัญชา ค้าของ ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง ซึ่งดูแลอาคารสถานที่ต่างๆ พร้อมแจ้งไปยัง สภ.เมืองนนทบุรี
@ เผยไฮไลต์รธน.ฉบับชั่วคราว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.45 น. วันเดียวกัน มีประกาศราชกิจจานุเบกษา เล่ม 131 ตอนที่ 55 ก ว่าด้วยเรื่องรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 จำนวน 48 มาตรา โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ไฮไลท์ของรัฐธรรมนูญอยู่ที่ มาตรา 35 วางกรอบรัฐธรรมนูญใหม่ต้องมีเนื้อหาครอบคลุม 10 ข้อ อาทิ ไม่ให้ผู้เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งว่าทุจริตหรือประพฤติมิชอบ โกงเลือกตั้ง เข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง ป้องกันการบริหารที่มุ่งสร้างคะแนนนิยม ที่อาจก่อความเสียหายในระยะยาว และให้พิจารณาความจำเป็น ความคุ้มค่าที่ต้องมีองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และมาตรา 44 ที่ให้อำนาจหัวหน้าคสช.ในการสั่งการกรณีมีความจำเป็น ไม่ว่าจะมีผลบังคับทางนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ
มาตราที่น่าสนใจ ยังได้แก่ มาตรา 6 ให้มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ประกอบด้วยสมาชิก
ไม่เกินสองร้อยยี่สิบคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปี ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติถวายคำแนะนำ
มาตรา 19 พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งตามมติของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และรัฐมนตรีอื่นอีกจำนวนไม่เกินสามสิบห้าคน ตามที่นายกรัฐมนตรีถวายคำแนะนำ ประกอบเป็นคณะรัฐมนตรีมีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน ดำเนินการให้มีการปฏิรูปด้านต่างๆ และส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ
มาตรา 27 ให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติมีหน้าที่ศึกษาและเสนอแนะเพื่อให้ปฏิรูปด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้ 1.การเมือง 2.การบริหารราชการแผ่นดิน 3.กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 4.การปกครองท้องถิ่น 5.การศึกษา 6.เศรษฐกิจ 7.พลังงาน 8.สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม 9.สื่อสารมวลชน 10.สังคม และ 11.อื่นๆ
มาตรา 28 กำหนดให้มีสภาปฏิรูปแห่งชาติประกอบด้วยสมาชิกจำนวนไม่เกินสองร้อยห้าสิบคน พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งจากผู้มีสัญชาติไทยโดยการเกิดและมีอายุไม่ต่ำกว่าสามสิบห้าปี ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติถวายคำแนะนำ
มาตรา 32 กำหนดรายละเอียดคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
@ แม้วขอส.ส.อย่าร่วมงานวันเกิด
รายงานข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จัดงานฉลองวันเกิดครบ 65 ปี ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยขอความเป็นส่วนตัว ขอร้องไม่ให้อดีตรัฐมนตรี ส.ส. และคนเสื้อแดงไปร่วมงาน มีเพียงคนในตระกูลชินวัตรไม่กี่คน เชื่อว่าคงจะใช้โอกาสนี้หารือเรื่องสำคัญกับคนในครอบครัว คงนำบทเรียนหลังการยึดอำนาจ 19 กันยายน 2549 มาพูดคุย อย่างไรก็ตามท่าที พ.ต.ท.ทักษิณต่อการยึดอำนาจวันที่ 22 พฤษภาคม กลับนิ่งผิดปกติ อาจเป็นผลมาจากการเจรจาและต่อรองอะไรบางอย่าง จึงไม่มีความเคลื่อนไหว
"ลึกๆ พ.ต.ท.ทักษิณคงอยากให้เกิดการเซตซีโร่ หรือกลับไปเริ่มต้นกันใหม่ทั้งหมด ซึ่งทำได้โดยการออกกฎหมายนิรโทษกรรม แต่ต้องดูว่าผู้ยึดอำนาจจะกล้าออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับทุกฝ่ายหรือไม่ หัวหน้า คสช.ยืนยันตลอดอยากให้ประเทศกลับสู่ภาวะสงบ เดินหน้าไปได้ การจะทำได้ต้องเริ่มจากการให้อภัย ทำให้ทุกฝ่ายเกิดความสามัคคี ไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน" แหล่งข่าวระบุ
@ เผย"แม้ว"ส่อเลิกเล่นการเมือง
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งว่า หากการทำงานของ คสช.สำเร็จ กติกาใหม่ที่ออกมารับได้ ประชาชนขานรับการทำงาน คสช.มากขึ้น พรรคเพื่อไทยถึงแม้ไม่ถูกยุบก็เหมือนถูกยุบไปในตัว เชื่อว่าหากการเจรจารอบนี้สำเร็จ พ.ต.ท.ทักษิณคงจะไม่กลับมาเล่นการเมืองอีกแล้ว อาจจะทำตามที่พระชั้นผู้ใหญ่บางรูปแนะนำ หากได้กลับมาต้องทำงานทางศาสนาขนานใหญ่เพียงอย่างเดียว
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยแจ้งอีกว่า สำหรับคดีรับจำนำข้าวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะกลับมาสู้คดีแน่นอน เพียงแต่ช่วงนี้ขอเวลาไปพักผ่อนเป็นการส่วนตัวสักระยะ การอนุญาตจากหัวหน้า คสช.ให้ออกนอกประเทศก็ถือเป็นการซื้อใจระหว่างกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทราบดีหากไม่กลับมาจะเกิดผลเสียทางคดีมากกว่าผลดี