วันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8633 ข่าวสดรายวัน


คสช.อนุญาต'ปู'บินยุโรป ยันไม่ได้หนี ปปช.
ที่ลงมติฟัน'อาญา'ข้าว ส่งอัยการฟ้องศาลฎีกา 'บิ๊กตู่'คงแวต 7% อีกปี กกต.หนุนสรรหาอปท.


แจ้งหมิ่น - นายอารีย์ ไกรนรา หัวหน้าการ์ดนปช. แจ้งความกองปราบฯ ให้ดำเนินคดีหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ ในข้อหาหมิ่นประมาท จากกรณีเสนอข่าวพาดพิงคดียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ม็อบกปปส. โดยยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 

       ทีมโฆษกคสช.เผย'บิ๊กตู่'อนุญาต 'ปู'ให้บินไปต่างประเทศได้ คนใกล้ชิดระบุไปสหรัฐ อังกฤษ และฝรั่งเศสพักผ่อนกับ'น้องไปป์'คาดพบกับ'ทักษิณ'พี่ชายช่วงวันเกิด 26 ก.ค.ที่ฝรั่งเศส ด้านป.ป.ช.สายฟ้าแลบมติเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ชี้'ยิ่งลักษณ์'มีความ ผิดในโครงการจำนำข้าว ระบุผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ กับกฎหมายป.ป.ช.มาตรา 123/1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจโดยมิชอบ 'วิชา มหาคุณ'อ้างเป็นความบังเอิญที่ชี้มูลช่วงผู้ถูกกล่าวหาขอเดินทางออกนอกประเทศพอดี คสช.ออกประกาศต่ออายุแวต 7 เปอร์เซ็นต์ต่ออีก 1 ปี จากนั้นก็จะใช้อัตราใหม่ 10 เปอร์เซ็นต์

คสช.อนุญาตให้"ปู"บินไปตปท.

       เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 ก.ค. พ.อ. วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. กล่าวถึงข่าวน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำหนังสือถึงพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคสช. เพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อไปพักผ่อนที่ประเทศแถบยุโรป วันที่ 20 ก.ค.-10 ส.ค. พร้อมกับด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย ว่า คสช.อนุญาตให้น.ส. ยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศตามที่ร้องขอ หลังจากติดต่อประสานมายัง คสช.เพื่อขออนุญาต โดยระบุว่าไปภารกิจส่วนตัวในประเทศแถบยุโรป 

      พ.อ.วินธัย กล่าวว่า คสช.เห็นว่าน.ส. ยิ่งลักษณ์ขอมาตามขั้นตอน และที่ผ่านมาไม่เคยขัดคำสั่งของคสช. หรือฝ่าฝืนคำสั่งที่ตกลงกันก่อนหน้านี้ ทั้งห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด จึงเห็นชอบอนุญาตให้เดินทางไปได้ ยืนยันว่า คสช.ไม่ได้ลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล ส่วนคำขอของบุคคลอื่นนั้นยังไม่เห็นว่ามียื่นเข้ามาอีกหรือไม่ หากมีก็ต้องพิจารณาจากหลายองค์ประกอบ 

แวะฝรั่งเศส-คาดพบกับทักษิณ

      รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์เผยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ส่งผู้แทนเข้ายื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. เพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ มีด.ช. ศุภเสกข์ร่วมเดินทางไปด้วย ส่วนที่มีข่าวว่านางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวของน.ส. ยิ่งลักษณ์ ยื่นหนังสือถึง คสช.ขอเดินทางออกนอกประเทศในช่วงเดียวกันนั้นไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ ในหนังสือขออนุญาตน.ส.ยิ่งลักษณ์ให้เหตุผลว่าพาบุตรชายไปพักผ่อนในช่วงปิดเทอม ออกเดินทางวันที่ 23 ก.ค.ประมาณ 10-15 วัน ประเทศที่ไปคือ ฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์อนุมัติแล้วโดยไม่มีเงื่อนไขหรือต้องรายงานตัวที่สถานทูตในประเทศที่ไป เนื่องจากมีการระบุชัดเจนถึงแผนการเดินทาง

      "อดีตนายกฯ จะไปกับบุตรชายเท่านั้น นางเยาวภาไม่ได้ร่วมคณะไปด้วย ทั้งสองจะถือโอกาสพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ คาดว่าจะเป็นวันที่ 26 ก.ค.ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 65 ปีพอดี ทั้งนี้ อดีต นายกฯ ได้ขอวีซ่าในประเทศที่จะไปแล้ว ซึ่งได้รับการอำนวยความสะดวกอย่างดี" แหล่งข่าวใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยหลายคนยื่นหนังสือต่อ คสช.เพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศในช่วงเวลาเดียวกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ด้วยเช่นกัน อาจไปพบกับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ว่าจะจัดงานวันคล้ายวันเกิดครบ 65 ปี ที่ประเทศฝรั่งเศส ในวันที่ 26 ก.ค.

จัดเลี้ยงเฉพาะญาติ-เพื่อนสนิท

       วันเดียวกัน นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มเสรีไทยในต่างประเทศว่า กระทรวงยังคงติดตามอยู่ แต่ไม่ได้ให้ค่าหรือสถานะใดๆ เพราะการเคลื่อนไหวของกลุ่มนี้อยู่ในกลุ่มประเทศที่เป็นมิตรกับไทย จึงเชื่อว่าประเทศเหล่านั้นคงไม่ยอมให้ใช้ประเทศเป็นฐานเพื่อเคลื่อนไหวแทรกแซงกิจการภายในไทย 

         รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทยเปิดเผยว่า การจัดงานวันคล้ายวันเกิดของพ.ต.ท.ทักษิณจะมีขึ้นที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งจะจัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้เฉพาะครอบครัว ญาติและคนสนิทเท่านั้น มีนักการเมืองหรือแกนนำพรรคเพื่อไทยไปร่วมงานน้อยมาก เนื่องจากไม่ต้องการให้เป็นประเด็นการเมือง และอยู่ในช่วงบรรยากาศที่ คสช.ยังควบคุมความเคลื่อนไหวต่างๆ ของนักการเมืองอยู่ ตามเงื่อนไข 3 ข้อของการปล่อยตัว จึงไม่สะดวกในการเดินทาง

        รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ขณะนี้พ.ต.ท. ทักษิณอยู่ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จนกว่าจะใกล้ถึงงานวันเกิดวันที่ 26 ก.ค.จึงจะเดินทางไปฝรั่งเศส ส่วนที่มีกระแสข่าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปยุโรปเพื่อหลบหนีหลังถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิดอาญากรณีจำนำข้าวนั้นไม่เป็นความจริง เพราะยังมีขั้นตอนในส่วนของอัยการสูงสุดอยู่ 

ทนายยันไม่หลบหนีคดีจำนำข้าว

         ด้านนายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ซึ่งรับผิดชอบคดีโครง การรับจำนำข้าว กล่าวถึงกระแสวิจารณ์น.ส. ยิ่งลักษณ์อาจหลบหนีคดี หลังได้รับอนุญาตจากคสช.ให้เดินทางไปต่างประเทศได้ระหว่างวันที่ 20 ก.ค.-10 ส.ค.ว่า น.ส. ยิ่งลักษณ์ไปพักผ่อนส่วนตัว เพราะ 2 ปีที่เป็นนายกฯ น.ส.ยิ่งลักษณ์เหนื่อยในการทำงานพอสมควร จึงขอเดินทางไปพักผ่อน แต่ไม่ทราบว่าจะไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่ฝรั่งเศสหรือไม่ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการหลบหนีคดีรับจำนำข้าวที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของป.ป.ช. แน่นอน เพราะคดียังไม่สิ้นสุด ยังมีกระบวน การที่ต้องสู้กันอีกพอสมควร แม้ป.ป.ช.บอกว่าจะตัดสินคดีในเดือนก.ย. หากป.ป.ช.ตัดสินว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ผิด ก็ต้องสู้คดีต่อในชั้นอัยการและศาล ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมต่อสู้คดีในชั้นกระบวนการยุติธรรมทุกเรื่อง ยังมั่นใจในหลักฐานต่างๆ ว่าบริสุทธิ์ ไม่ได้กระทำผิดตามที่กล่าวหา 

       "น.ส.ยิ่งลักษณ์มีใจเต็มร้อยต่อสู้คดี ไม่คิดหลบหนี การไปต่างประเทศเพื่อพักผ่อนจริงๆ เพราะทำงานมา 2 ปีกว่าก็ทำเต็มที่ไม่ได้หยุดพักผ่อน ช่วงนี้จึงถือเป็นโอกาสที่จะได้หยุดพักผ่อน ที่มีข่าวว่าหลบหนีไปอยู่เมืองนอกนั้นเป็นข่าวปล่อย" นายนรวิชญ์กล่าว 

"จารุพงศ์"ติงหยุดเลือกตั้งท้องถิ่น

       วันเดียวกัน นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทย ฐานะเลขาธิการองค์การเสรีไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีคสช.ออกประกาศฉบับที่ 85-86 เรื่อง การยกเลิกการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นทั้งระบบว่า คำสั่งดังกล่าวทำลายระบอบประชาธิปไตยในระดับพื้นฐานของประเทศ เพราะหลักการกระจายอำนาจ เพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นเลือกตัวแทนขึ้นมา บริหาร ซึ่งความเจริญในระดับภูมิภาคทั้งการพัฒนาถนนและสาธารณูปโภคพื้นฐาน เป็นผลลัพธ์จากการกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นจัดการตนเอง การบริหารและการมีส่วนร่วมจากผู้แทนของท้องถิ่น ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้ประโยชน์จากการแก้ปัญหาที่ตรงกับความต้องการของชุมชน ทำให้ทุกระดับตื่นตัวเรื่องการมีส่วนร่วมในระบอบประชาธิปไตยอีกด้วย 

       นายจารุพงศ์ กล่าวว่า หากเปลี่ยนให้ผู้ว่าฯเป็นคนแต่งตั้งผู้บริหารท้องถิ่น เท่ากับทำลายหลักการประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง แม้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าประกาศดังกล่าวจะบังคับใช้ชั่วคราวแค่ปีกว่าเท่านั้น ตนเชื่อว่าเป็นเหตุผลที่คสช.ยกมานั้นฟังไม่ขึ้น เพราะการบริหารราชการส่วนท้องถิ่นที่ผ่านมาไม่ได้มีปัญหา แต่ปัญหาขัดแย้งอยู่ในส่วนกลางมากกว่า และเป็นความขัดแย้งของอำนาจส่วนบน 

       นายจารุพงศ์กล่าวต่อว่า การยกเลิกการเลือกตั้งผู้บริหารส่วนท้องถิ่นดังกล่าว สะท้อนถึงความไม่จริงใจของคสช. และไม่ต้องการให้มีระบบการเลือกตั้ง ทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นอีกต่อไป ดังนั้น คำยืนยันของ คสช.ว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนต.ค.2558 อาจเป็นการโกหก

มท.เผยสิ้นปี 57 ครบวาระ 213 คน

       ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และนายวัลลภ พริ้งพงษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครอง ท้องถิ่น แถลงกรณีประกาศคสช.ให้ชะลอการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ครบวาระไปก่อน และเมื่อหมดวาระให้ผู้ว่าฯเป็นผู้คัดสรร 

       นายวิบูลย์กล่าวว่า หลักการเรื่องนี้สรุปได้ 5 ข้อคือ 1.ประเทศไทยต้องการความปรองดอง ซึ่งการเลือกตั้งอาจมีส่วนทำให้เกิดความเห็นที่ไม่ตรงกัน 2.ทำให้การทำงานของ อปท.ตอบสนองท้องถิ่นตามหลักสากล 3.กรรมการสรรหาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและทุกคนมีอิสระในการแสดงความเห็น 4.บุคคลที่เข้ารับการสรรหาซึ่งจะคัดเลือกคนที่มีความรู้เข้ามาพัฒนาท้องถิ่นได้ 5.เมื่อดูหลักการคัดสรรแล้ว เชื่อว่าบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่จะเป็นคนที่ชุมชนต้องการ

       เมื่อถามว่า มีข้อครหาว่าอาจเป็นการรวมศูนย์อำนาจกลับมาที่กระทรวงมหาดไทย และไม่มีหลักประกันในเรื่องการเอื้อประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง นายวิบูลย์กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น ผู้ว่าฯมีอำนาจดูแลการสรรหาเท่านั้น ซึ่งการสรรหามีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้ว่าฯคงไม่มีอภิสิทธิ์สั่งการใดๆ ได้ ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำผู้ว่าฯให้ดำเนินการตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในประกาศคสช. การคัดเลือกกรรมการสรรหาให้ได้คนที่มีความรู้ ให้ใช้มติเสียงส่วนใหญ่ ซึ่งประชาชนตรวจสอบได้หากการคัดเลือกพื้นที่ใดมีปัญหา ประชาชนจะทราบได้ทันที

       ด้านนายวัลลภกล่าวว่า ในปี 2557 จะมี ผู้บริหารอปท.ที่ครบวาระ 213 คน จากสภา 126 แห่ง แต่ยังมีสภาอีก 7,000 แห่งที่ดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหา 

กกต.สั่งให้กกต.จังหวัดร่วมมือ

      ที่สำนักงานกกต. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. แถลงหลังการประชุม กกต.ว่า ที่ประชุม กกต.รับทราบประกาศ คสช. ฉบับที่ 85 และ 86 ให้งดการเลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่น และให้ใช้การสรรหาโดยคณะกรรมการสรรหาแทน โดย กกต.เชื่อว่า คสช.พิจารณารอบคอบแล้ว ซึ่งสำนักงาน กกต.มีหนังสือแจ้ง ผอ.กต.จังหวัดทั้ง 77 จังหวัดที่จะต้องเป็นกรรมการสรรหา ส่วนของกรุงเทพมหานคร ที่ส.ก.จะหมดวาระ 30 เขตในวันที่ 28 ส.ค.นั้น เลขาธิการ กกต.ซึ่งร่วมเป็นกรรมการสรรหาด้วยนั้น พร้อมร่วมมือกับปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสรรหาอย่างเต็มที่ 

      เลขาธิการ กกต.กล่าวว่า วันเดียวกันนี้ กกต.พิจารณาคำร้องเรียนก่อนการประกาศรับรองผลเลือกตั้งที่น.ส.อรอนงค์ เผือกเล็ก ได้รับเลือกตั้งเป็นนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลนาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดย กกต.พิจารณาหลักฐานแล้วเห็นว่าน.ส.อรอนงค์ให้หัวคะแนนจ่ายเงินซื้อเสียงให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 1,200 บาทจริง จึงมีมติสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 1 ปี และสั่งเลือกตั้งใหม่ พร้อมดำเนินคดีอาญากับน.ส.อรอนงค์ และให้ชดใช้ค่าเสียหายในการจัดเลือกตั้ง แต่เมื่อมีประกาศ คสช.ดังกล่าว กกต.จึงสั่งให้งดการเลือกตั้ง รวมทั้งให้งดการเรียกค่าเสียหายในการจัดเลือกตั้งใหม่ แต่ยังคงดำเนินการคดีอาญาไว้

       นายภุชงค์ กล่าวว่า กรณีมีกระแสข่าวว่าพนักงาน กกต.วิตกกังวลว่า กกต.อาจถูกยุบหลังมีประกาศดังกล่าวนั้น ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่ตนทำหนังสือเวียนภายในชี้แจงทำความเข้าใจว่าเราต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด

       "เมื่อองค์รัฏฐาธิปัตย์ให้กฎหมายมาอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น คิดว่ายังมีงานอีกเยอะที่ คสช.จะมอบให้ทำ คิดว่าหัวหน้า คสช.เป็นนักประชาธิปไตยอยู่แล้ว เมื่อสถานการณ์คลี่คลายก็เชื่อว่าท่านมีแนวทางที่ชัดเจนในเรื่องการเลือกตั้งท้องถิ่น" เลขาธิการ กกต.กล่าว 

"บิ๊กจิน"เชิญคลัง-แบงก์รัฐหารือ

       เวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ที่บก.ทบ. พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก (ศปก.ทบ.) เพื่อติดตามเร่งรัดการดำเนินงานนโยบายสำคัญที่ได้มอบหมายให้คณะทำงานแต่ละฝ่ายดูแลรับผิดชอบ รวมถึงสถานการณ์ต่างๆ

        ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. เปิดเผยว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. ในฐานะรองหัวหน้า คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจ ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กระทรวงการคลัง ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และตำรวจกองบังคับการปราบปราม เข้าร่วมหารือ เนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ก.ค. นายโฆสิต สุวินิจจิต ในนามเครือข่ายกรุงเทพ 24 ช.ม. นำลูกหนี้นอกระบบที่อยู่ในเครือข่ายกว่า 100 คน มายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือ 1.ขอให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบในการกู้เงิน เนื่องจากลูกหนี้เหล่านี้ติดเงื่อนไขบางอย่างที่ไม่สามารถขอรับการช่วยเหลือกับธนาคารได้ จึงอยากให้ไปช่วยเจรจาให้ 2.ให้ตำรวจดูแลประชาชนที่เป็นลูกหนี้ด้วย เนื่องจากถูกคุกคามหรือลูกหนี้บางรายก็ถูกทำร้าย 

รับปาก-ดูแลลูกหนี้นอกระบบ

      พล.อ.ท.มณฑลกล่าวว่า ในวันนี้จึงนัดทั้ง 4 หน่วยงานมาพูดคุยว่าจะมีวิธีช่วยเหลือกลุ่มผู้เดือดร้อนนี้อย่างไร หากมีรูปแบบการช่วยเหลือที่ดีก็อาจขยายความช่วยเหลือไปยังกลุ่มลูกหนี้นอกระบบกลุ่มต่างๆ ได้ ซึ่งกระทรวงการคลังแจ้งว่าได้ดำเนินการเรื่องนี้มาเป็นระยะอยู่แล้ว ขณะนี้มีมาตรการช่วยเหลือในการออกพ.ร.บ.ช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ ในส่วนของธนาคารออมสินแจ้งว่าได้พูดคุยกับเครือข่ายของนายโฆษิตแล้ว และได้ช่วยเหลือลูกหนี้ไปแล้วกว่า 300 ราย ซึ่งธนาคารออมสินมีคำแนะนำสำหรับลูกหนี้ลักษณะนี้ว่าถ้ามีผู้ดูแลรวมกลุ่มกันมาหาธนาคารออมสินก็ยินดีให้การดูแลช่วยเหลือ ให้คำแนะนำอยู่แล้ว โดยธนาคารออมสินมีสาขาอยู่ทั่วประเทศ สามารถติดต่อได้ทุกสาขา

       ที่ปรึกษาหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจกล่าวว่า ส่วนธ.ก.ส.แจ้งว่าลูกหนี้ของกลุ่มนี้เป็นเกษตรกรก็มี ซึ่งธ.ก.ส.พร้อมช่วยเหลือดูแลลูกหนี้ส่วนที่เป็นเกษตรกร โดยมีมาตรการดูแลอยู่แล้ว และจะไปดูเงื่อนไขต่างๆ ที่จะช่วยเหลือได้มากขึ้น และในส่วนของกองปราบฯ แจ้งว่าการดูแลประชาชนเป็นหน้าที่ของตำรวจทุกพื้นที่อยู่แล้ว แต่ทางกองปราบฯ จะรับเรื่องไปดำเนินการเข้มงวดกวดขันในส่วนผู้มีอิทธิพลไปข่มขู่ลูกหนี้ 

        "หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจขอให้หน่วยงานทั้งหมดหากช่วยเหลืออะไรได้ก็ขอให้ช่วยเหลือ ซึ่งประชาชนเหล่านี้น่าเห็นใจ ซึ่งอาจมีปัญหาการใช้ชีวิต และเรื่องของเงินใช้จ่าย เพราะแต่ละคนมีค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันมากน้อยไม่เท่ากัน และทางฝ่ายเศรษฐกิจจะรวบรวมข้อมูล และข้อคิดเห็นต่างๆ รวบรวมส่งหัวหน้า คสช.ให้รับทราบต่อไป" พล.อ.ท. มณฑลกล่าว 

"ทูตคริสตี้"เข้าพบหารือ"ปนัดดา"

       เมื่อเวลา 14.00 น. ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐ อเมริกาประจำประเทศไทย โดยใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 30 นาที ซึ่งการหารือครั้งนี้ ทูตสหรัฐติดต่อเพื่อขอเข้าพบส่วนตัว

       ม.ล.ปนัดดา ให้สัมภาษณ์ว่า ทูตสหรัฐให้กำลังใจประเทศไทยเพราะอยากเห็นคนไทยสามัคคี สหรัฐถือเป็นมิตรประเทศที่เก่าแก่ จึงอยากให้ความสัมพันธ์ยืนยาวต่อไป โดยไม่ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องใดเป็นพิเศษ นอก จากนี้ยังพูดถึงเรื่องกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจัดลำดับการค้ามนุษย์ของไทยไปอยู่ในลำดับต่ำสุดหรือเทียร์ 3 ซึ่งทูตสหรัฐชี้แจงว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวพันกับการรัฐประหาร ไม่ใช่ประเด็นการเมือง เพราะสหรัฐได้ประเมินไว้ก่อนแล้ว ซึ่งประเมินของแต่ละปี ก่อนเกิดรัฐประหารในเดือนพ.ค. จึงเลยช่วงเวลาจัดอันดับไปแล้ว 

       เมื่อถามว่าทูตสหรัฐสอบถามเรื่องประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้นกับไทยต่อจากนี้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ทูตสหรัฐให้กำลังใจพี่น้องชาวไทย ฝ่ายบริหารและข้าราช การเพราะอยากเห็นคนไทยเจริญรุ่งเรือง กลับมารักใคร่สามัคคีเหมือนเมื่อก่อน 

       ด้านนางคริสตี้ กล่าวว่า การพบกันครั้งนี้ในฐานะเพื่อน ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ เมื่อถามถึงความคืบหน้าการย้ายสถานที่ฝึกร่วมระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพสหรัฐหรือการฝึกคอบร้าโกลด์ ไปที่ประเทศออสเตรเลีย ทูตสหรัฐ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกองทัพสหรัฐ ซึ่งจะต้องพูดคุยระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพสหรัฐอีกครั้ง

น้องเทือกโต้พี่ชายบวชหนีคดี

      วันเดียวกัน นายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ น้องชายพระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการกปปส. เปิดเผยว่า ช่วงเช้าตนเข้าเยี่ยมพระสุเทพ ที่วัดธารน้ำไหล หรือสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ ธานี นำปลาทูต้มเค็มไปถวายด้วย ซึ่งพระ สุเทพ มีอาการปวดแขนเนื่องจากบิณฑบาตวันแรก โดยไม่ได้ใส่เฝือกที่พยุงแขนเนื่องจากการผ่าตัดเอ็นที่หัวไหล่ แต่พอได้พักผ่อนก็อาการดีขึ้น

       นายธานี กล่าวว่า ส่วนข้อครหาพระสุเทพบวชหนีคดีนั้น ยืนยันว่าการบวชครั้งนี้เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตในการชุมนุมของกลุ่มกปปส. ไม่เกี่ยวกับการหนีคดี อีกทั้งที่ผ่านมา พระสุเทพให้ความร่วมมือกับกระบวนการยุติธรรม และจะให้ความร่วมมือตลอดไป ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี การที่มีอดีตส.ส.กล่าวหาพระสุเทพว่าหนีคดี ถือว่าเป็นพวกหาเรื่อง

หน.การ์ดนปช.แจ้งจับมือยิงเอ็ม79

        เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการกองปราบปราม นายอารีย์ ไกรนรา อดีตเลขานุการรมว.มหาดไทย และหัวหน้าการ์ดแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) พร้อมทีมทนาย เข้าพบพ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ควบคุมดูแล เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายชัชวาล ปราบบำรุง ผู้ต้องหาคดียิงเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. ที่หน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี ราชดำริ กทม.ซึ่งถูกตำรวจจับกุมตัว และให้การพาดพิงว่าเป็นผู้จ้างวานโดยแจ้งดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

       นายอารีย์ กล่าวว่า ตนไม่รู้จักไม่เคยเห็นหน้าผู้ต้องหาทั้ง 7 ราย การที่นายชัชวาล อ้างว่ามีลูกน้องของตนมาจ้างวานด้วยปืน 2 กระบอกให้ก่อเหตุนั้น ไม่เป็นความจริง ซึ่งทีมทนายของนปช.แล้วมีมติให้แจ้งความดำเนินคดีคนที่กล่าวหาใส่ร้าย และสำนักข่าวที่เผยแพร่ข่าวเพราะทำให้ตนเสียหาย จำเป็นต้องปกป้องสิทธิ์และขอความเป็นธรรม

        พ.ต.อ.ประสพโชค กล่าวว่า เบื้องต้นรับเรื่องไว้ และมอบให้พนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป.สอบปากคำผู้ร้องและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งแสวงหาข้อเท็จจริงตามขั้นตอนการดำเนินคดี ก่อนนำเรื่องเสนอ ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

บ.ก.ลายจุดรายงานตัวศาลทหาร

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าวันเดียวนี้ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ผู้ต้องหาคดีการเมือง ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งและต่อต้านคสช. เข้ารายงานตัวต่อกรมพระธรรมนูญทหาร ตามกำหนดฝากขังที่ศาลกำหนดไว้ ซึ่งนายสมบัติไม่มีอาการวิตกกังวล พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กลับมาทำงานด้านองค์กรพัฒนาเอกชนเป็นหลักแล้ว ส่วนคดีที่ถูกฟ้องในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่จ.ร้อยเอ็ดนั้น จะไปให้ปากคำต่อเจ้าพนักงานสืบสวนอีกครั้งในวันที่ 1 ส.ค.นี้ โดยจะขอให้เจ้าพนักงานนำตัวผู้แจ้งความคือ บุคคลที่ใช้ชื่อในสื่อโซเชี่ยลมีเดียว่า PAD มาให้ปากคำต่อเจ้าพนักงานด้วยว่าตนมีการกล่าวถ้อยความที่เป็นการหมิ่นสถาบันอย่างไร

       น.ส.ภาวิณี ชุมศรี ทนายความของนายสมบัติ กล่าวว่า ขั้นตอนวันนี้ เป็นเพียงการลงนามรับเอกสารและขอยื่นประกันตัวตามกำหนดขอผลัดฝากขังตามปกติ นายสมบัติจะต้องมารายงานตัวอีกครั้งในกำหนดขอฝากขังผลัดสุดท้ายวันที่ 29 ก.ค. หากอัยการไม่ส่งฟ้องก็ไม่ต้องขอยื่นประกันตัวอีก ส่วนการต่อสู้คดีนั้น จะต่อสู้ในรายละเอียดถ้อยความที่นายสมบัติโพสต์และถูกกล่าวหาว่ายุยงปลุกปั่น ซึ่งจากการตีความไม่ได้ยุยงปลุกปั่นด้วยเจตนาให้เกิดความวุ่นวาย

ปปช.ฟ้าแลบเชือด"ปู"จำนำข้าว

      เมื่อเวลา 17.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ จ.นนทบุรี นายวิชา มหาคุณ กรรมการและโฆษกป.ป.ช. นายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการและรองโฆษกป.ป.ช. และนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. แถลงผลการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีกล่าวหาน.ส.ยิ่งลักษณ์ กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว

      นายวิชากล่าวว่า ในการไต่สวนข้อเท็จจริง ให้โอกาสผู้ถูกกล่าวหาและไต่สวนพยานบุคคลของผู้ถูกกล่าวหาเสร็จสิ้นแล้ว เห็นว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่ได้ระงับยับยั้งโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ซึ่งกำหนดราคารับจำนำสูงกว่าราคาตลาด เมื่อมีการระบายข้าวที่รับจำนำ ทำให้เกิดผลขาดทุนสะสมเพิ่มมากขึ้นจำนวนมาก รวมทั้งปล่อยให้มีการกระทำทุจริต คณะกรรมการป.ป.ช.มีมติเป็นเอกฉันท์ 7 ต่อ 0 ว่าการกระทำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ มีมูลความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 123/1 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้อำนาจโดย มิชอบ ให้รายงานเอกสารพร้อมความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินการฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 70

อ้างบังเอิญชี้มูลช่วงขอไปตปท.

      เมื่อถามว่ามูลค่าความเสียหายของโครงการที่เกิดขึ้นมีจำนวนเท่าไร นายวิชากล่าวว่า ไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาท เป็นไปตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวยืนยันมาตลอด ทั้งนี้ เลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช.จะจัดทำเอกสารให้เสร็จเพื่อส่งให้อัยการสูงสุดในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตาม การมาแถลงข่าวครั้งนี้ไม่ใช่มาจาก กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางไปต่างประเทศ และป.ป.ช.ก็ไม่ได้ขอให้ระงับยับยั้งเพราะกรณีการขอไปต่างประเทศนั้นเป็นดุลยพินิจของคสช.

        "เป็นความบังเอิญที่ป.ป.ช.ตัดสินตรงกับช่วงที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอเดินทางไปต่างประเทศพอดี ซึ่งยังเดินทางไปต่างประเทศได้หากคสช.อนุญาต แต่อาจเที่ยวไม่สนุกเท่านั้น และอย่าไปคาดเดาว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเดินทางกลับมาหรือไม่" นายวิชากล่าว

กะทันหัน-ทั้งที่จะลงมติก.ย.

        เมื่อถามว่าเหตุใดจึงมีการชี้มูลกะทันหัน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ระบุจะชี้มูลได้ในเดือนก.ย. นายวิชากล่าวว่า ที่พูดถึงเดือนก.ย.หมายถึงคดีจำนำข้าวทั้งหมดที่มีชื่อนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ และหลายคนเกี่ยวข้อง ซึ่งขณะนี้ป.ป.ช.กำลังตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน และจะสรุปได้ในเดือนก.ย. แต่ครั้งนี้พิจารณาคดีของน.ส. ยิ่งลักษณ์คนเดียว และจากนี้เป็นหน้าที่ของอัยการสูงสุด ยืนยันป.ป.ช.ทำเรื่องนี้อย่างดีที่สุดแล้ว ส่วนความเห็นของอัยการสูงสุดจะเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งคาดการณ์ล่วงหน้า เมื่อถามว่าขณะนี้มีคดีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อยู่ในการตรวจสอบของป.ป.ช.มีกี่คดี นายวิชากล่าวว่า มีทั้งหมด 35 เรื่อง

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงมติชี้มูลความผิดคดีอาญาจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในวันนี้ถือเป็นการลงมติแบบสายฟ้าแลบ ไม่มีใครทราบล่วงหน้า และยังแจ้งผู้สื่อข่าวทราบว่าจะมีการแถลงข่าวอย่างกะทันหันเพียง 40 นาทีเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้นายวิชาเคยระบุว่า จะลงมติโครงการรับจำนำข้าวได้ในเดือนก.ย. โดยนายวิชาให้เหตุผลกับผู้สื่อข่าวว่า การชี้มูลความผิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ในครั้งนี้ เนื่องจากไต่สวนข้อมูลข้อเท็จจริง และมีหลักฐานครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว

"อัมมาร"ค้านสธ.ชงร่วมจ่าย

       วันเดียวกัน นายอัมมาร สยามวาลา นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ กล่าวถึงการร่วมจ่ายในระบบประกันสุขภาพแห่งชาติว่า การให้ผู้มีสิทธิในกองทุนหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทองร่วมจ่าย โดยระบุว่าเงินมีไม่พอนั้น เป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น หากบอกว่าถ้าไม่มีการร่วมจ่ายแล้วผู้ให้บริการอยู่ไม่ได้ ก็ต้องชี้แจงไปยังรัฐว่าต้นทุนสูงกว่าที่รัฐจัดสรรงบประมาณ หากรัฐไม่อยากจัดสรรเงินให้เพิ่มแล้วต้องการให้ร่วมจ่ายก็ว่ากันไป ซึ่งการร่วมจ่ายมีหลายรูปแบบ ที่ดีที่สุดคือรูปแบบของประกันสังคมที่ให้จ่ายล่วงหน้าเป็นรายเดือน ไม่เกี่ยวกับสุขภาพหรืออายุ และหากปรับให้เสียตามรายได้ยิ่งดีมากขึ้น

       "ถ้าเป็นการร่วมจ่ายเมื่อป่วยแล้วผมไม่เห็นด้วย ยิ่งร่วมจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์เป็นเรื่องสุดซอยรับไม่ได้ แม้ 1-2 เปอร์เซ็นต์ก็ไม่ได้ เพราะเมื่อประชาชนป่วยแล้วต้องมาควักกระเป๋าจ่ายอีก ขณะที่เดือดร้อนอยู่แล้วการร่วมจ่ายจึงไม่ควรมี ส่วนการจะให้ผู้ใช้สิทธิบัตรทองมาร่วมจ่ายในรูปแบบรายเดือนเหมือนประกันสังคมถ้าทำได้ก็ดี แต่ทำยาก เพราะเก็บเงินลำบาก ไม่มีนายจ้างหักเงินเดือนส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบทุกเดือนเหมือนสิทธิประกันสังคม ดังนั้น ในเมื่อรัฐใช้เงินจากภาษีที่ทุกคนจ่ายรัฐก็ต้องรับผิดชอบเรื่องค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาล รัฐสัญญาอะไรไว้ต้องทำตามนั้น แต่หากจะให้ร่วมจ่ายต้องเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ปรับพฤติกรรมของผู้ป่วย" นายอัมมารกล่าว

       นายอัมมารกล่าวว่า แม้สังคมไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุก็ไม่ควรกระทบต่อการใช้งบฯ ในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับประชาชน หากไม่ฟุ่มเฟือยหรือไม่พอเพียงในเรื่องอื่นๆ จึงอยู่ในวิสัยที่รัฐจะดำเนินการได้ 

ตร.ทำเนียบทวงถามเบี้ยเลี้ยง

        ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า วันเดียวกันนี้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานบนตึกบัญชาการ 2 ซึ่งส่วนใหญ่สังกัดสำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ต่างทยอยเก็บข้าวของและเอกสารสำคัญออกจากตึก โดยย้ายไปนั่งทำงานชั่วคราวที่ตึกผู้แทนการค้า เป็นเวลา 2 เดือน เพื่อคืนพื้นที่ให้มีการบูรณะตึกบัญชาการ 2 ซึ่งในอนาคตจะใช้เป็นศูนย์แถลงข่าวแห่งใหม่แทนที่ตึกนารีสโมสร 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจสันติบาลประจำทำเนียบกลุ่มหนึ่งร้องเรียนต่อผู้สื่อข่าว ถึงกรณีมีคำสั่งให้เข้าเวรรักษาการณ์เป็นกรณีพิเศษในช่วงประกาศใช้พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในช่วงชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ขณะนั้นพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รองหัวหน้า คสช.ฝ่ายกิจการพิเศษ ยังดำรงตำแหน่งผบ.ตร. ปรากฏว่าเบี้ยเลี้ยงจากการเข้าเวรช่วงเดือนก.พ.-ปัจจุบันยังออกไม่ครบ จึงอยากให้พล.ต.อ.อดุลย์ช่วยติดตามเบี้ยเลี้ยงส่วนนี้ด้วย 

      แหล่งข่าวระดับสูงของทำเนียบระบุว่า ช่วงสิ้นเดือนก.ค.หรือต้นเดือนส.ค.นี้เบี้ยเลี้ยงช่วงพ.ร.บ.ความมั่นคง 2 รอบจะจ่ายให้ตำรวจทำเนียบทุกราย เพราะงบประมาณมาถึงแล้วแต่ยังติดเรื่องเอกสารบางส่วนเท่านั้นเนื่องจากติดขัดช่วงยึดอำนาจ อย่างไรก็ตาม เบี้ยเลี้ยง 2 รอบจะครอบคลุมตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ.-30 เม.ย.2557 รวมแล้วจะได้สูงสุดคนละ 34,000 บาท (13,000 + 21,000 บาท) ดังนั้น ขอให้สบายใจได้

ฝากขังทีมยิงเอ็ม 79-ค้านประกัน

        เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง พ.ต.อ.เดชา พรหมสุวรรณ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ สน.ลุมพินี นำตัวนายทวีชัย หรือวี วิชาคำ อายุ 39 ปี, นายสุนทร หรือทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี, นายสมศรี หรือเยอะ มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี และนายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาที่ 1-4 คดีลอบยิงเครื่องยิงระเบิดเอ็ม 79 ไปที่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บจำนวนมาก มายื่นขออำนาจศาลฝากขังผลัดแรก เนื่องจากยังสอบสวนผู้ต้องหาไม่เสร็จ ต้องสอบพยานบุคคลอีกจำนวนมาก รอผลตรวจรอยพิมพ์มือผู้ต้องหา รอผลตรวจพิสูจน์ของกลางและอื่นๆ จึงขอฝากขังผู้ต้องหา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 ก.ค. และพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ มีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปข่มขู่พยานได้

      ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการควบคุมผู้ต้องหามาศาลเพื่อฝากขังวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยอรินทราช 26 จำนวน 5 นาย พร้อมอาวุธครบมือ และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

สั่งคงแวต-กระตุ้นการจับจ่าย

       เมื่อเวลา 20.30 น. คสช.ออกประกาศฉบับที่ 92/2557 เรื่องการลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยที่ คสช.เห็นสมควรลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อผลักดันกระตุ้นกลไกภาษี กระตุ้นการใช้จ่าย จึงให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มดังนี้

      ให้ยกเลิกพ.ร.ฎ.ออกตามความในประมวลรัษฎากร 2.ให้ลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 80 ให้คงจัดเก็บในอัตราดังนี้ ร้อยละ 6.3 สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ การนำเข้าทุกกรณี ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ 1 ต.ค.57-30 ก.ย.58 และร้อยละ 9 สำหรับการขายสินค้า การให้บริการ การนำเข้าทุกกรณี ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2558 เป็นต้นไป โดยให้ประกาศของ คสช.ฉบับนี้มีผลใช้บังคับเช่นเดียวกับพ.ร.ฎ. ออกตามความในประมวลรัษฎากร แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ให้ รมว.คลังรักษาการตามประกาศของ คสช.ฉบับนี้ โดยประกาศ คสช.ฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่ 1 ต.ค.2557 เป็นต้นไป

      รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า การประกาศลดภาษีของ คสช.ดังกล่าวมีผลทำให้ภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) อยู่ที่ 7% อีก 1 ปี มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2557 ถึงวันที่ 30 ก.ย.2558 ซึ่งประกาศระบุว่า 6.3% เนื่องจากต้องรวมภาษีของท้องถิ่นอีก 0.7% จากนั้นหลังวันที่ 1 ต.ค.2558 จะเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 9% และต้องรวมภาษีของท้องถิ่นอีก 1% ทำให้ประชาชนต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มเป็น 10% อย่างไรก็ตาม ภาษีมูลค่าเพิ่มมีการต่ออายุมาแล้วหลายครั้ง ครั้งละประมาณ 2 ปี แต่ครั้งนี้เสนอให้ต่ออายุเพียง 1 ปี เนื่องจากต้องรอให้รัฐบาลใหม่มาตัดสินใจ

สรรพากรเผยขยายแวต 7% ต่ออีกปี

        ด้านนายประสงค์ พูลธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวกรณี คสช.ออกประกาศปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) นั้น เป็นการให้ขยายเวลาการจัดเก็บภาษีดังกล่าวที่อัตรา 7% ออกไปอีก 1 ปี คือในปีงบประมาณ 2558 (1 ต.ค. 2557-30 ก.ย. 2558) ทั้งนี้ ในส่วนที่ประกาศให้มีการลดภาษีแวตเหลือ 6.3% นั้นยังไม่รวมการเรียกเก็บภาษีแวตแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในอัตรา 1 ใน 9 ของอัตราภาษีที่จัดเก็บอยู่ หรืออัตรา 0.7% ดังนั้น หากรวมในส่วนของ อปท.แล้วอัตราภาษีแวตจะยังคงอยู่ที่ระดับ 7% เช่นเดิม สำหรับการจัดเก็บภาษีแวตในปีงบประมาณ 2559 (1 ต.ค.2558-30 ก.ย.2559) หากพิจารณาตามประกาศแล้วจะพบว่าอัตราการจัดเก็บภาษีแวตจะอยู่ที่ 10% ซึ่งเป็นอัตราการจัดเก็บปกติตามกฎหมายของกรมสรรพากร

      "ปีงบประมาณ 2559 หรือตั้งแต่ 1 ต.ค.2558 ตามประกาศของ คสช.ที่ให้เก็บภาษีแวตที่ 9% นั้นก็ยังไม่ได้คำนวณการเรียกเก็บภาษีแทน อปท. ที่อัตรา 1 ใน 9 ของอัตราที่จัดเก็บเช่นกัน โดยในปีงบฯ 2559 กรมอาจต้องดูแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศอีกครั้ง ถ้าการจัดเก็บที่อัตราปกติเป็นภาระประชาชน ก็อาจประกาศอัตราการจัดเก็บใหม่ที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ เช่น อัตรา 8%" นายประสงค์กล่าว และว่า การปรับขึ้นอัตราภาษีแวต 1% จะทำให้กรมสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น 6-7 หมื่นล้านบาท

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกฎหมายการจัดเก็บภาษีมูลค่าของกรมสรรพากรได้กำหนดเพดานแวตไว้ที่ 10% แต่มีการออกประกาศเพื่อลดการจัดการจัดเก็บเหลือ 7% ตั้งแต่วิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ซึ่งประกาศดังกล่าวจะมีผลถึงวันที่ 30 ก.ย. 2557 และจะต้องขึ้นภาษีเต็มเพดานคือ 10% แต่ทาง คสช.ได้คงไว้ที่ 7% อีก 1 ปี

"ปู"นัดหารือทีมทนายสู้คดีปปช.

       เมื่อเวลา 20.30 น. พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษก คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี คสช.จะทบทวนการเดินทางไปต่างประเทศของน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังจากป.ป.ช.ชี้มูลความผิดหรือไม่ว่า ข้อมูลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง การตัดสินดังกล่าวถือเป็นเรื่องของป.ป.ช. ถือเป็นคนละส่วนกัน ส่วนของคดีนั้น คสช.จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่ถ้าป.ป.ช.ต้องการหารือกับ คสช.เพื่อให้ระงับหรืออะไรก็ตาม เป็นเรื่องของผู้ใหญ่ใน คสช.จะดำเนินการต่อไป แต่ยืนยันอีกครั้งว่า คสช.จะดูแลในเรื่องความสงบเรียบร้อย ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขอะไร

       แหล่งข่าวใกล้ชิดน.ส.ยิ่งลักษณ์เปิดเผยว่า เวลา 09.00 น.วันที่ 18 ก.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ นัดหารือกับทีมกฎหมาย หลังจากป.ป.ช.ตัดสินคดีรับจำนำข้าว ส่วนการเดินทางไปต่างประเทศนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์วางแผนว่าในช่วงที่ไปอังกฤษอาจจะดูสถานศึกษาเผื่อไว้ให้ลูกชายด้วย

โหวตฟ้าแลบ'คดีข้าว' ปปช.ฟัน'ปู'มติ 7-0 ผิดอาญาม.157 ส่งอัยการฟ้องศาล หลังคสช.ไฟเขียว พา'ไปป์'ทัวร์ยุโรป อธิบดีพละยื่นออก 

ฟัน"ปู" - นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. แถลงผลการประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ ซึ่งมีมติ 7 ต่อ 0 ให้แจ้งข้อกล่าวหาต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ข้อหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวและระบายข้าว เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม


ทูตพบปลัด - นางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย เข้าพบ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกฯ ยืนยันความเป็นมิตรประเทศ รวมถึงกรณีไทยถูกลดอันดับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการรัฐประหารแต่อย่างใด ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม


มติชนออนไลน์ :

      "คสช."ไฟเขียว"ปู-ลูกชาย"ทัวร์ยุโรป ชี้ทำตามเงื่อนไข ปปช.มติเอกฉันท์ฟัน"ปู"คดีจำนำข้าว 

คสช.ไฟเขียว"ปู"ทัวร์ยุโรป 

      เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. เพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ โดยให้เหตุผลว่าจะเดินทางไปพักผ่อนที่ประเทศแถบยุโรประหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม - 10 สิงหาคม โดยจะเดินทางไปพร้อมกับ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชายนั้น ทาง คสช.อนุญาตให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เดินทางออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 20 กรกฎาคม -10 สิงหาคมนี้ตามที่มีการร้องขอ หลังจากที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ติดต่อประสานงานมายัง คสช.เพื่อขออนุญาต โดยระบุว่าไปทำภารกิจส่วนตัวในประเทศแถบยุโรป ซึ่งทาง คสช.ได้พิจารณาเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ขอมาตามขั้นตอน และช่วงที่ผ่านมาไม่เคยขัดคำสั่งของ คสช. หรือฝืนคำสั่งที่ได้มีการตกลงกันไว้และให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด จึงเห็นชอบอนุญาตให้เดินทางไปได้ 

      อย่างไรก็ตาม ยืนยัน คสช.ไม่ได้ลิดรอนสิทธิส่วนบุคคล 

ขอพาลูกชายเที่ยวปิดเทอม

        รายงานข่าวจากคนใกล้ชิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ เปิดเผยว่า อดีตนายกฯได้ส่งผู้แทนเข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม เพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ หรือน้องไปป์ บุตรชาย เหตุผลว่าเป็นการพาบุตรชายไปพักผ่อนในช่วงปิดเทอม โดยออกเดินทางประมาณวันที่ 22 กรกฎาคม ระยะเวลา 10-15 วัน โดยจะเดินไปฝรั่งเศส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ซึ่งการเดินทางในครั้งนี้นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ได้ร่วมคณะไปด้วย ทั้งนี้คาดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์และบุตรชายจะถือโอกาสพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในเป็นวันที่ 26 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 65 ปีด้วย 

กต.เชื่อไม่คิดลี้ภัยการเมือง 

      นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึง การเคลื่อนไหวของกลุ่มเสรีไทยในต่างประเทศว่า กระทรวงยังคงติดตามอยู่ แต่ไม่ได้ให้ค่าหรือสถานะใดๆ เพราะการเคลื่อนไหวในต่างประเทศของกลุ่มนี้อยู่ในกลุ่มประเทศที่เป็นมิตรกับไทย จึงเชื่อว่าประเทศเหล่านั้นคงไม่ยอมให้ใช้ประเทศเป็นฐานเพื่อเคลื่อนไหวแทรกแซงกิจการภายในประเทศไทย เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขออนุญาตเดินทางไปยุโรป นายเสขกล่าวว่า ไม่มีอะไรนอกเหนือจากความคาดหมาย และถือเป็นการร้องขอตามขั้นตอนปกติ และไม่คิดว่าจะเป็นการลี้ภัยทางการเมือง 

"บิ๊กต๊อก"ติดงาน-ไม่ตอบปมรธน.

      ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถนนราชดำเนิน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก (ผช.ผบ.ทบ.) และหัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ คสช.ได้เป็นประธานในพิธีรับมอบเงินสนับสนุนปรับปรุงซ่อมแซมบ้านพักกำลังพลและครอบครัวแล้วเสร็จ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกเดินทางไปต่างประเทศ รวมถึงกรณีความคืบหน้าการนำร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย โดย พล.อ.ไพบูลย์ระบุเพียงสั้นๆ ว่ามีประชุมต่อ และขอตัวขึ้นตึกบัญชาการกองทัพบกทันที

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้น พล.อ. ประยุทธ์ได้ขอร้องนายทหารระดับสูงของกองทัพโดยเฉพาะเรื่องการให้ข่าวร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้รอฟังตนเองพูดเพื่อจะได้ไม่เกิดความสับสน เนื่องจากเป็นเรื่องที่ต้องรอการโปรดเกล้าฯ

ปชป.โวยปล่อย"ปู"ทัวร์นอก 

        นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขอยกคำสอนโบราณฝากถึงหัวหน้า คสช. ว่า ประเพณีตีงูให้หลังหัก มันก็มักทำร้ายเมื่อภายหลัง จระเข้ใหญ่ไปถึงน้ำมีกำลัง เหมือนเสือขังเข้าถึงดงก็คงร้าย อันแม่ทัพจับได้แล้วไม่ฆ่า ไปข้างหน้าศึกจะใหญ่ขึ้นใจหาย ต้องตำรับจับให้มั่นคั้นให้ตาย จะทำภายหลังยากลำบากครัน ซึ่งกวีเอกสุนทรภู่ได้แต่งไว้สอนคนรุ่นหลังว่าอย่าประมาทในการกระทำการใดๆ และถ้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ออกนอกประเทศไปแล้วไม่กลับมายังประเทศไทยซ้ำรอยเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณแล้วใครจะรับผิดชอบเพราะคดีการทุจริตจำนำข้าวก็งวดเข้ามาทุกขณะ

"ทนายปู"ป้องไม่คิดหนี

นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้รับผิดชอบคดีโครงการรับจำนำข้าว กล่าวว่า การขออนุญาตเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นการไปพักผ่อนส่วนตัว 

      ไม่เกี่ยวกับการหลบหนีคดีรับจำนำข้าวที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของ ป.ป.ช. แน่นอน เพราะคดีดังกล่าวยังไม่สิ้นสุด ยังมีกระบวนการที่ต้องสู้กันอีกพอสมควร แม้ ป.ป.ช.บอกว่าจะตัดสินคดีในเดือนกันยายน หาก ป.ป.ช.ตัดสินว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ผิดก็ต้องไปสู้คดีต่อในชั้นอัยการและศาล ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์พร้อมต่อสู้คดีในชั้นกระบวนการยุติธรรมทุกเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์มีใจเต็มร้อยในการต่อสู้คดี ไม่คิดหลบหนี การเดินทางไปต่างประเทศถือเป็นการไปพักผ่อนจริงๆ 

"คริสตี้"จิบชาแลกเปลี่ยน"ปนัดดา" 

       ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีให้การต้อนรับนางคริสตี้ เคนนีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ที่เดินทางเข้าพบเพื่อดื่มน้ำชายามบ่ายพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ในปัจจุบันและยังระลึกถึงความทรงจำที่ดีเมื่อครั้งพบกันในขณะที่ ม.ล.ปนัดดาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่อีกด้วย ทั้งนี้ ม.ล.ปนัดดาได้มอบหนังสือพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ฉบับภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นที่ระลึก 

นางคริสตี้กล่าวภายหลังว่า การย้ายที่ฝึกรบร่วมกองทัพไทยกับกองทัพสหรัฐ หรือการฝึกคอบร้าโกลด์ไปประเทศออสเตรเลียนั้นอยู่กับการตัดสินใจของกองทัพสหรัฐ และต้องมีการพูดคุยกันระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพสหรัฐอีกครั้ง ส่วนการพบกันครั้งนี้ไม่มีอะไรพิเศษ เพียงพบกันในฐานะเพื่อนสมัย ม.ล.ปนัดดาเป็นผู้ว่าฯเชียงใหม่

เผยให้กำลังใจประเทศไทย 

       ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า เอกอัครราชทูตอเมริกามาให้กำลังใจกับประเทศไทย อยากจะเห็นความรักความสามัคคีของประชาชนชาวไทย และสหรัฐอเมริกาถือว่าเป็นมิตรประเทศเก่าแก่ที่สุดประเทศหนึ่งจึงอยากที่จะให้ความสัมพันธไมตรีประการนี้ดำเนินยืนยงต่อไป ยังได้พูดถึงปัญหาการค้ามนุษย์ของประเทศไทย ที่ทางประเทศไทยถูกลดอันดับการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์อยู่ในระดับ เทียร์ 3 ทางทูตคริสตี้กล่าวว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการรัฐประหารแต่อย่างใด เมื่อถามว่า ทูตคริสตี้จะมีการเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ไม่ทราบ ขณะนี้นักท่องเที่ยวชาวสหรัฐอเมริกามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น โดยไม่มีความตกอกตกใจในเรื่องรัฐประหารและมีความเข้าใจมากขึ้น

ปัด"บิ๊กตู่"รื้อรังนกกระจอก

      ม.ล.ปนัดดาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับกรณีเรื่องการซ่อมแซมทำเนียบรัฐบาล โดยมีข้อความระบุว่า "ท่านหัวหน้า คสช.ไม่ได้รับทราบถึงเรื่องการโยกย้ายรื้อถอนอาคารรังนกกระจอกแต่ประการใด ซึ่งท่านก็ได้มีข้อสั่งการว่าไม่ให้มีการรื้อถอน แต่ให้เจ้าหน้าที่ทำเนียบดูแลรักษาให้มีความสวยงามและเกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้สอยของพี่น้องสื่อมวลชน ใคร่เรียนว่าตัวกระผมเองไม่เคยได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมเรื่องการซ่อมแซมและการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์ของทำเนียบรัฐบาลแต่ประการใด จึงกราบเรียนมาด้วยความเคารพ"

จนท.เคลียร์ตึกบัญชาการ2

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวการปรับปรุงภูมิทัศน์ทำเนียบรัฐบาลโดยบรรดาข้าราชการและเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานภายในตึกบัญชาการ 2 ที่ส่วนใหญ่สังกัดสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) และกองโฆษกประจำทำเนียบรัฐบาลต่างพากันทยอยเก็บข้าวของและเอกสารสำคัญออกจากตึก ย้ายไปที่ทำงานชั่วคราวที่ตึกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะใช้เป็นที่ทำงานชั่วคราวเป็นเวลา 2 เดือน ส่วนภายหลังปรับปรุงตึกบัญชาการ 2 จะใช้เป็นศูนย์แถลงข่าวแห่งใหม่

"ธานี"แจงแทน"พระสุเทพ"

       นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) น้องชายพระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. เปิดเผยว่า ได้เข้าเยี่ยมพระสุเทพที่วัดธารน้ำไหล หรือสวนโมกขพลาราม อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พบว่าพระสุเทพมีอาการปวดแขน เนื่องจากในวันแรกของการบิณฑบาต พระสุเทพไม่ได้ใส่เฝือกที่พยุงแขนเนื่องจากการผ่าตัดเอ็นที่หัวไหล่ แต่พอได้พักผ่อนมีอาการดีขึ้น

       "พระสุเทพมีจิตใจผ่องใส ขอฝากไปยังญาติโยมและประชาชนทั่วไปด้วยว่า หากจะมาเยี่ยมพระสุเทพ สามารถมาร่วมใส่บาตรได้ทุกเช้า" นายธานีกล่าว และว่า ขอยืนยันว่าการบวชครั้งนี้เพราะต้องการอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ไม่เกี่ยวกับการหนีคดีแต่อย่างใด การที่มีอดีต ส.ส.กล่าวหาถือว่าเป็นพวกหาเรื่อง ต้องการโหนกระแสมากกว่า

คสช.เด้ง-อธิบดีพละไขก๊อกทันที

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวครึกโครมระบุว่า คสช.มีคำสั่งปลดนางแสงจันทร์ วรสุมันต์ พ้นจากตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษา โดยให้โยกไปดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ขณะเดียวกันให้โยก "ดร.แพท" นายพัฒนาชาติ กฤดิบวร จากตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มาดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพลศึกษาคนใหม่

      นางแสงจันทร์ วรสุมันต์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทำหนังสือลาออกส่งไปยังนายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาแล้ว ได้รับหนังสือลับจาก คสช.เมื่อช่วงเย็นวันที่ 16 กรกฎาคม พอวันรุ่งขึ้นก็ทำหนังสือยื่นลาออกทันที โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป 

ปลัดมท.ปัดลิดรอนสิทธิ 

       ที่กระทรวงมหาดไทย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมาหดไทย และนายวัลลภ พริ้งพงษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) แถลงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกประกาศฉบับที่ 85/2557 เรื่องให้ชะลอการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นที่ครบวาระไปก่อน โดยนายวิบูลย์กล่าวว่า หลักการของคำสั่งคือ เมื่อผู้บริหารท้องถิ่นหมดวาระ จะให้ปลัดขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้รักษาการแทน ส่วนสมาชิกเมื่อหมดวาระจะมีกรรมการคัดสรรสมาชิกโดยยึดหลักการตามที่ คสช.กำหนด เช่น กรุงเทพมหานครจะมีปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้คัดสรร ส่วนต่างจังหวัดจะมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจะเป็นผู้คัดสรร แนวทางนี้ไม่ได้ไปลิดรอนการบริหารงานของท้องถิ่นเพียงแต่เป็นการปรับให้เข้ากับสถานการณ์ของบ้านเมือง เพราะกรรมการที่มาเป็นผู้คัดสรรเป็นบุคคลที่มีความน่าเชื่อถือได้รับการยอมรับ ทั้งภาครัฐ องค์กรอิสระและภาคเอกชน ขณะที่ผู้มารับการสรรหามีการกำหนดคุณสมบัติไว้อย่างเหมาะสม

โบ้ยรวมศูนย์อำนาจกลับมท. 

       นายวิบูลย์ กล่าวว่า โดยหลักการสรุปได้ 5 ข้อ คือ 1.ประเทศไทยต้องการความปรองดอง การเลือกตั้งอาจจะก่อให้เกิดความเห็นที่ไม่ตรงกัน ดังนั้นจึงยังไม่มีการเลือกตั้งในเวลานี้ 2.ประกาศของ คสช.จะทำให้งานของ อปท.สามารถตอบสนองท้องถิ่นตามหลักสากล 3.กรรมการสรรหาเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ทุกคนมีเอกภาพ มีอิสระในการแสดงความคิดเห็น 4.บุคคลที่เข้ามารับการสรรหาได้คัดสรรคนที่มีความรู้ที่จะเข้ามาพัฒนาท้องถิ่นได้ และ 5.เมื่อดูถึงหลักในการคัดสรรแล้ว เชื่อว่าบุคคลที่เข้ามาทำหน้าที่จะเป็นคนที่ชุมชนมีความต้องการ เมื่อถามว่า มีข้อครหาว่าการให้กำหนดวิธีสรรหาผู้บริหารท้องถิ่นอาจเป็นการรวมศูนย์อำนาจมาที่มหาดไทย นายวิบูลย์กล่าวว่า คงไม่เป็นเช่นนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจในการกำกับดูแลการสรรหาเท่านั้น การสรรหามีกรรมการซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งผู้ว่าฯคงไม่มีอภิสิทธิ์เข้าไปสั่งการใดๆ ได้ 

อ้างอปท.7พันแห่งไร้ปัญหา

      ด้านนายวัลลภกล่าวว่า ก่อนจะมีการประกาศ คสช.ฉบับที่ 85 ได้มีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปแล้วครั้งหนึ่ง จึงมีผลกระทบกับการจัดทำงบประมาณของท้องถิ่น สภาท้องถิ่นจะต้องพิจารณาในช่วงเดือนสิงหาคม เพราะหากไม่มีสภาท้องถิ่นจะไม่สามารถพิจารณางบพัฒนาท้องถิ่นได้ ประกาศ คสช.ได้กำหนดให้มีสภาท้องถิ่นขึ้นมา เพื่อให้สามารถพิจารณางบประมาณที่สมาชิกเสนอได้ ทั้งนี้ตัวเลขของมหาดไทยมี อปท.ประมาณ 100 แห่ง (ผู้บริหาร 44 คน สภา 31 แห่ง) โดยในปี 2557 จะมีผู้บริหารที่ควบวาระ 213 คน จากสภา 126 แห่ง ทั้งนี้ยังมีสภาอีก 7,000 แห่งที่สามารถดำเนินการได้โดยไม่มีปัญหา

"จารุพงศ์"ซัดทำลายปชต. 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะเลขาธิการองค์กรเสรีไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เรื่องการยกเลิกการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นว่า คำประกาศ คสช.ดังกล่าวนี้เป็นการทำลายระบอบประชาธิปไตยในระดับพื้นฐานของประเทศ เพราะหลักการกระจายอำนาจนั้นเป็นไปเพื่อให้ประชาชนในท้องถิ่นเลือกตัวแทนขึ้นมาบริหาร หากเปลี่ยนให้การได้มาซึ่งผู้บริหารท้องถิ่นมาจากการแต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เท่ากับเป็นการทำลายหลักการประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง

       นายจารุพงศ์ ระบุว่า คำสั่งดังกล่าว คสช.สะท้อนให้เห็นถึงความไม่จริงใจที่จะปฏิรูปประเทศให้เป็นประชาธิปไตย แต่กำลังจะเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศให้ถอยหลังไปสู่การรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ส่วนกลาง การอ้างเหตุผลว่าการเลือกตั้งในระดับท้องถิ่นที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องทุจริต อิทธิพลท้องถิ่น การซื้อสิทธิขายเสียงกันมาก แต่หากเปลี่ยนให้ผู้บริหารท้องถิ่นมาโดยการแต่งตั้งจะยิ่งทำให้เกิดการทุจริตมากขึ้นไปอีก เพราะจะมีการวิ่งเต้น ติดสินบาดคาดสินบนเพื่อขอซื้อตำแหน่งกับผู้ว่าราชการจังหวัด ปัญหาการซื้อขายตำแหน่งอาจจะเพิ่มขึ้น แถมตรวจสอบไม่ได้ ที่สำคัญมากคือ ผู้บริหารท้องถิ่นจะคอยไปรับใช้ผู้ว่าฯ และกอบโกยตักตวงผลประโยชน์มากกว่าที่จะทำงานรับใช้ประชาชน ในนามขององค์การเสรีไทยขอเรียกร้องให้คนไทยผู้รักประชาธิปไตยทั้งประเทศลุกขึ้นมาต่อสู้และคัดค้านคำสั่งดังกล่าว 

กกต.พร้อมร่วมสรรหาท้องถิ่น

       ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. แถลงว่า จากกรณีที่ คสช.ได้มีประกาศฉบับที่ 85 และ 86 /2557 ให้งดการเลือกตั้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น โดยให้ใช้การสรรหาโดยคณะกรรมการสรรหาแทนว่า เชื่อว่าทาง คสช.ได้พิจารณาด้วยความรอบคอบ โดยเห็นว่าสถานการณ์การเมืองขณะนี้มีความเหมาะสมที่จะช่วยทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย สำนักงาน กกต.นำประกาศ แจ้งให้ กกต.ทั้ง 5 คนได้รับทราบแล้ว เบื้องต้นทางสำนักงาน กกต.ได้ทำหนังสือและประสานไปยัง กกต.จังหวัด ทั้ง 77 จังหวัด ให้เตรียมข้อมูลและสรรพกำลังทุกด้านในการสนับสนุนการสรรหาและแต่งตั้งผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกท้องถิ่นตามประกาศของ คสช.อย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้ดูรายละเอียดในส่วนของคุณสมบัติของผู้เข้ารับการสรรหาว่าไม่ควรเป็นผู้ที่ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความผิดพลาดเหมือนในอดีตที่ผ่านมา

จนท.หวั่นองค์กรถูกยุบ 

นายภุชงค์กล่าวว่า มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีตำแหน่งสมาชิกว่างลง จำนวน 39 จังหวัด แบ่งเป็น อบต. จำนวน 2 แห่ง 42 คน เทศบาลตำบล 59 แห่ง 708 คน และเทศบาลเมือง 2 แห่ง 36 คน รวม 63 แห่ง 786 คน ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพนักงาน กกต.วิตกกังวลว่าองค์กร กกต.จะถูกยุบไป เนื่องจากอำนาจส่วนใหญ่ไปอยู่ที่กระทรวงมหาดไทย 

นายภุชงค์กล่าวว่า ยอมรับว่ามีกระแสข่าวนี้เกิดจริงในชั้นของพนักงานระดับเด็กๆ แต่ กกต.เป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญ เมื่อองค์รัฏฐาธิปัตย์มีแนวทางอย่างไร กกต.ต้องปฏิบัติตามนั้น ตนได้ทำหนังสือเวียนแจ้งให้เจ้าหน้าที่ กกต.ตั้งใจและปฏิบัติงานอย่างดีที่สุด ส่วนตัวเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความเป็นนักประชาธิปไตยสูง หากสถานการณ์การเมืองคลี่คลายคิดว่าคงมีแนวทางเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งออกมา 

อ้างมีอปท.รูปแบบใหม่ 

       นายเชื้อ ฮั่นจินดา ประธานสมาพันธ์ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตัวแทน 3 สมาคมข้าราชการท้องถิ่นประกอบด้วยสมาพันธ์ปลัด อบต. สมาคมข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แห่งประเทศไทย และสมาพันธ์ปลัดเทศบาลแห่งประเทศไทย ได้เข้าพบผู้แทน คสช.เพื่อหารือในการปรับโครงสร้าง อปท. อำนาจหน้าที่ ระบบบริหารงานบุคคล ผลการเจรจามีหลายเรื่องที่มีความเห็นตรงกัน ผู้แทน คสช.บอกว่ามีแนวคิดที่ดีและต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีกับ อปท. เชื่อว่าในอนาคตการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อปท.จะเหลือจำนวนน้อยลง รูปแบบและหน้าที่ต้องปรับเปลี่ยน ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอจะมีบทบาทมากหรือน้อยกับ อปท.รูปแบบใหม่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่เชื่อมั่นว่า อปท.จะดีกว่าเดิม ภายใต้นโยบายของ คสช. 

"นิพนธ์"ชี้ปชช.ควรเลือกผู้บริหาร 

        นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา กล่าวว่า ระยะนี้ยังอยู่ในช่วงการจัดระเบียบบ้านเมือง และยังห้ามการชุมนุมเกินกว่า 5 คน หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจะขัดกับประกาศดังกล่าว

      เชื่อว่าเมื่อทุกอย่างลงตัวแล้ว จะมีการเปิดให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้ประชาชนใช้สิทธิเลือกบุคคลที่จะเข้ามาแก้ปัญหาของท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นไม่ได้มีหน้าที่ในการดูแลงานด้านความมั่นคง งานด้านเศรษฐกิจมหภาค ดังนั้น ประชาชนจึงควรเลือกผู้ที่จะเข้ามาดูแลทุกข์สุขของประชาชนในท้องถิ่นเอง ทั้งนี้มองว่า คสช.ควรจะมีการกำหนดกรอบระยะเวลาให้ชัดเจน เมื่อผ่านพ้นระยะเวลาที่กำหนดไปแล้ว ควรจะเปิดให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น

        นายศุภสัณห์ หนูสวัสดิ์ นายก ทต.นาทวี จ.สงขลา และนายกสมาคมสันนิบาตเทศบาลภาคใต้ (สทต.) อุปนายกสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าวว่า คสช.ควรมีกรอบในการคัดสรรบุคคลที่มาทำหน้าที่บริหารให้แคบลง ควรจะเป็นบุคคลที่อยู่ในท้องถิ่นนั้นเพราะรู้ประเพณีและวัฒนธรรมของท้องถิ่นดีกว่าบุคคลภายนอก จะทำให้การบริหารงานเกิดประสิทธิภาพ ประชาชนกล้าเข้าพบสะท้อนปัญหาและขอความช่วยเหลือ