- Details
- Category: การเมือง
- Published: Thursday, 17 July 2014 10:38
- Hits: 3852
ปธ.กองสลากหักขาใหญ่ ล้มโควต้า หวย 43 ล.ฉบับจัดสรรใหม่ เร่งเสร็จทันงวด 16 ส.ค. 'บิ๊กตู่'หนุนตั้งกองทุน ลุย'โครงสร้างพื้นฐาน' ร้องคสช.ทวงเงิน'ข้าว'
ปธ.บอร์ดกองสลากเผย รองหน.คสช.ฝ่ายเศรษฐกิจเห็นชอบแล้วไม่ต่อโควต้า
มติชนออนไลน์ :
@ สภาธุรกิจชงคสช.จัดโรดโชว์
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ และที่ปรึกษาหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่วนกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ในฐานะรองหัวหน้า คสช. และหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ ได้ให้การต้อนรับนายไพบูลย์ นลินทรางกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทยและคณะ เพื่อนำเสนอแผนการส่งเสริมการลงทุนและแผนการสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนต่างชาติ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยสภาธุรกิจตลาดทุนไทยนำเสนอแผนการจัดงานไทยแลนด์ โรดโชว์ เพื่อชี้แจงทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ในประเทศ รวมทั้งนโยบายด้านเศรษฐกิจของ คสช. มีกำหนดจะไปพบนักลงทุนที่สิงคโปร์และฮ่องกง โดยจะขอเชิญผู้แทนฝ่ายเศรษฐกิจของ คสช. ตัวแทนของส่วนราชการ และคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนร่วมเดินทางเพื่อไปสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนในประเทศด้วย
@ เสนอ 3 ข้อปฏิรูปตลาดทุนไทย
พล.อ.ท.มณฑลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ สภาธุรกิจตลาดทุนไทยยังได้นำเสนอแผนการปฏิรูปตลาดทุนไทยด้วยมาตรการ 3 ข้อ คือ 1.การใช้ตลาดทุนเป็นเครื่องมือหรือช่องทางลงทุนของภาครัฐ และเพิ่มประสิทธิภาพในรัฐวิสาหกิจ 2.การสร้างระบบการออมเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ และการส่งเสริมความรู้ทางการเงิน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นคงของรายได้ประชากรในระยะยาว และ 3.การปฏิรูปโครงสร้างตลาดทุน นอกจากนั้นยังเสนอให้ใช้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็นทางเลือกในการระดมทุน รวมทั้งการนำเสนอข้อมูลต่างๆ
"ในช่วงสุดท้ายของการประชุม สภาธุรกิจตลาดทุนไทยได้เสนอแนวคิดของการมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สาธารณประโยชน์ร่วมกันระหว่างภาคธุรกิจเอกชนและภาคราชการ ด้วยการจัดทำโครงการบูรณะแม่น้ำลำคลองในพื้นที่ต่างๆ เพื่อแสดงออกถึงความร่วมมือร่วมใจและความสามัคคีของคนในชาติ" พล.อ.ท.มณฑลกล่าวและว่า พล.อ.อ.ประจินได้แสดงความเห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว และเสนอว่าอาจจะพิจารณาดำเนินการร่วมกันระหว่างทหารกับภาคเอกชนในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ซึ่งมีแม่น้ำลำคลองที่ต้องการการบูรณะอีกพอสมควร
@ กรอ.ยืดซอฟต์โลน 3 จว.ใต้ 3 ปี
ที่กองบัญชาการกองทัพบก มีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) นัดแรก โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้า คสช. เป็นประธาน
ภายหลังการประชุมนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงว่า ที่ประชุมได้รับทราบข้อเสนอด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุนทั้งในและต่างประเทศของภาคเอกชน คือ 1.การเห็นชอบให้ขยายมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันมีมาตรการสินเชื่อผ่อนปรน (ซอฟต์โลน) 25,000 ล้านบาท ที่จะสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2557 ให้ขยายเวลาออกไปอีก 3 ปี และให้กระทรวงการคลังดูความเพียงพอของเงินสภาพคล่องที่ปัจจุบันใช้อยู่ 18,800 ล้านบาท เพื่อให้ความมั่นใจในการแก้ปัญหาได้มากน้อยเพียงใด
@ หนุนการค้าชายแดน
นายอาคมกล่าวว่า 2.การส่งเสริมและผลักดันเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยเฉพาะด่านสะเดาและด่านปาดังเบซาร์ที่ภาคเอกชนให้ความสำคัญมาก เนื่องจากมีมูลค่าการค้าสูง 3.การส่งเสริมและอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนและการข้ามแดน มอบหมายให้คณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) พิจารณาปรับปรุงด่านสะเดา จ.สงขลา และพิจารณาขยายเวลาปิด-เปิดของด่านชายแดนที่สำคัญ 4.การแก้ปัญหาการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติ ได้มอบให้คณะกรรมการนโยบายจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ (กนร.) พิจารณาร่วมกับภาคเอกชนและให้กระทรวงแรงงานปรับกระบวนการต่อใบอนุญาตทำงานของคนต่างด้าวให้คล่องตัวขึ้น 5.การขับเคลื่อนสินค้าเกษตร อาหาร และพลังงานทดแทนจากสินค้าเกษตร มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงพาณิชย์รับข้อเสนอยุทธศาสตร์ข้าวและชาวนาไทยไปพิจารณารายละเอียด รวมทั้งการปรับกลไกตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อทำให้ราคาข้าวในประเทศมีเสถียรภาพด้วย
@ เพิ่มมาตรการหนุนท่องเที่ยว
นายอาคม กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรม ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ คือ 1.โครงการคูปองนวัตกรรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการรายเล็กและย่อย (เอสเอ็มอี) ไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนระยะที่ 2 2.การพัฒนาและปรับปรุงแก้ไขปัญหาจากการวางและจัดทำผังเมืองที่มีความล่าช้า
นายอาคม กล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาและเห็นชอบข้อเสนอด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว มี 2 ประเด็นคือ 1.ยกเว้นค่าธรรมเนียมขอวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและไต้หวัน เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม -31 ตุลาคม 2557 เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และมีมติเพิ่มกิจกรรมจัดประชุมสัมมนาและฝึกอบรมภายในประเทศ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ โดยให้พักในโรงแรมและรีสอร์ตที่ถูกกฎหมาย 2.การสนับสนุนบทบาทของคณะกรรมการนโยบายท่องเที่ยวแห่งชาติให้มีการประชุมสม่ำเสมอและให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมพิจารณายุทธศาสตร์ท่องเที่ยวของประเทศด้วย
@ กรอ.ดันกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน
นายอาคม กล่าวว่า นอกจากนี้ที่ประชุมยังรับทราบข้อเสนอการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์และมีมติดังนี้ 1.การปรับแนวทางการบริหารการโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ รับทราบข้อเสนอของภาคเอกชน และการขับเคลื่อนโครงการลงทุนภาครัฐด้านโครงสร้างพื้นฐาน 2.การสนับสนุนให้ใช้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเป็นทางเลือกในการระดมทุน โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปพิจารณา
นายอาคม กล่าวต่อว่า สำหรับการปรับปรุงและแก้ไขกฎหมาย ที่เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันเชิงธุรกิจ การค้า และการลงทุนของประเทศไทย มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมรับไปพิจารณา และสุดท้ายที่ประชุมได้เห็นชอบแต่งตั้งคณะกรรมการ กรอ.เพิ่มเติม ดังนี้ 1.รองหัวหน้า คสช.และหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง 2.รองหัวหน้า คสช.และหัวหน้าฝ่ายสังคมและจิตวิทยา 3.เลขาธิการ คสช. 4.รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. และ 5.หัวหน้าฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คสช. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม เป็นต้นไป
@ เก็บดีเซลเข้ากองทุน1บ./ลิตร
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง หัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยภายหลังการประชุม กบง.ว่า แนวทางการปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน ได้ส่งรายละเอียดให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะพิจารณาได้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ แนวทางดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะทำให้ฐานะกองทุนมันเชื้อเพลิงไม่ติดลบ จากปัจจุบันติดลบอยู่ 8,800 ล้านบาท
สำหรับการประชุม กบง.วันนี้ มีมติเห็นชอบการจัดเก็บเงินดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในอัตรา 1 บาทต่อลิตร จากเดิมการจัดเก็บเป็นศูนย์ จะส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมที่ติดลบวันละ 27 ล้านบาท เป็นมีรายได้ไหลเข้าวันละ 33 ล้านบาท
@ "สมชัย"ยันไม่ต่อโควต้าสลากฯ
นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยถึงปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเหลือค้างในมือพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากใน 2 งวดที่ผ่านมาว่า สาเหตุเกิดจากการแข่งขันฟุตบอลโลก ทำให้ประชาชนหันไปเล่นการพนันฟุตบอลเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ผู้ที่เร่ขายไม่สามารถขายสลากฯได้เท่าที่ควร ส่วนสลากฯที่ยังมีการขายเกินราคาในบางพื้นที่แต่ไม่ได้จับกุม เพราะยังอยู่ในช่วงการปฏิรูปสลากฯ
นายสมชัย กล่าวด้วยว่า สำนักงานสลากฯจะไม่มีการต่ออายุสัญญาโควต้าสลากฯที่หมดอายุกว่า 43 ล้านฉบับ หรือจำนวน 430,000 เล่ม โดยเสนอให้ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ คสช. พิจารณาและเห็นชอบแล้ว โดยจะนำสลากฯทั้ง 43 ล้านฉบับมาจัดสรรใหม่ให้ทันในงวดวันที่ 16 สิงหาคมนี้ จะให้สิทธิผู้ที่เคยได้รับโควต้าและรายใหม่ที่ต้องการสลากฯไปจำหน่าย รวมทั้งยังมีโควต้าสลากฯที่จะหมดอายุในปลายปีนี้และกลางปี 2558 อีกด้วย เบื้องต้นจะใช้วิธีจัดสรรแบบชั่วคราวเป็นจำนวนงวด เช่น 3 งวด 6 งวด เป็นต้น เชื่อว่าการจัดสรรสลากฯใหม่จะช่วยให้ราคาสลากฯปรับลดลงได้ เพราะจะจัดสรรให้กับผู้ที่ต้องการขายสลากฯที่แท้จริง
@ วางแนวลดพ่อค้าคนกลาง
"แนวทางการปฏิรูปสลากฯ เพื่อไม่ให้มีการขายเกินราคา จะกำหนดไว้หลายๆ แนวทาง เช่น การเปลี่ยนราคาหน้าสลากฯ การเพิ่มส่วนแบ่งให้กับผู้ค้า การส่งรายได้เข้ารัฐลดลง หรือการลดบทบาทพ่อค้าคนกลาง ต้องมาพิจารณารายละเอียดให้มากที่สุด รวมถึงแนวทางอื่นๆ ที่อาจจะต้องมีการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.สลากฯ ในชั้นพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ส่วนเรื่องการขายสลากออนไลน์ในขณะนี้คงไม่สามารถยืนยันได้ 100% ว่าจะเดินหน้าหรือไม่" นายสมชัยกล่าว
@ "ปนัดดา"แจงเช็กข้าวคืบ 50%
ที่ทำเนียบรัฐบาล ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าวในพื้นที่ต่างจังหวัดว่า ขณะนี้การลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าวในต่างจังหวัดมีความคืบหน้าไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว และหลังจากนี้จะให้คณะทำงานอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวที่เหลือของรัฐทำการสุ่มตรวจแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ หากมีการลงพื้นที่ตรวจโกดังข้าวจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบล่วงหน้าก่อน 1 วัน
@ ชาวนาร้องคสช.ชวดเงินจำนำ
เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล ตัวแทนเกษตรกรชาวนาจากจังหวัดนครสวรรค์และกำแพงเพชร เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากกรณีชาวนาจำนวน 83 คน นำข้าวเปลือกไปจำนำตามโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ที่สหกรณ์การเกษตรอุดมทรัพย์ อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร เมื่อเดือนตุลาคม 2556 เป็นเงินประมาณ 15 ล้านบาท แต่ทางสหกรณ์ออกใบชั่งน้ำหนักข้าวให้กับชาวนากลุ่มดังกล่าวแทนที่จะเป็นใบประทวน ทำให้ชาวนาไม่ได้รับเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) เพราะข้าวเปลือกไม่ถูกส่งต่อไปยังโครงการของรัฐบาล
ตัวแทนกลุ่มชาวนาระบุว่า เมื่อสอบถามไปยังสหกรณ์กลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ ซึ่งขณะนี้ผ่านมากว่า 6 เดือนแล้ว คำตอบที่ได้จากสหกรณ์คือขอให้รอก่อนแล้วจะเร่งดำเนินการให้โดยเร็วที่สุด
แต่ในที่สุดทุกอย่างก็เงียบหายไป จึงตัดสินใจรวมตัวกันเพื่อมาขอให้ คสช.ให้ความเป็นธรรม และช่วยเหลือเร่งรัดการจ่ายเงินค่าข้าวให้กับชาวนาด้วย
รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้เป็นตัวแทนรับเรื่อง และยืนยันว่าจะส่งเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้หาแนวทางในการดำเนินการช่วยเหลือต่อไป