- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 10 January 2016 19:38
- Hits: 5210
สนช.เอาจริง กก.ปรองดองจตุพรท้านายกฯ สาบานรบ.ไร้โกง
3 อดีตนายกฯ บรรหารตามด้วย'ปู'ควง'สมชาย' อวยพรวันเกิดมติชนก้าวสู่ปีที่ 39 ซื้อหนังสือ "ข้าแต่ศาลที่เคารพ' แจกทีมงาน สนช.ลุยตั้งกมธ.เสริมสร้างสังคมสันติสุขสัปดาห์นี้ เป็นสนช. 14 คน คนนอก 10 คน หวังเปิดพื้นที่ให้นปช. กปปส. พรรคการเมือง ใช้เวทีสภาเป็นทางออกเพื่อสลายขัดแย้ง อดีตส.ว.-เพื่อไทยจวกเละปรองดองลวงโลก แนะสร้างความเป็นธรรมก่อน ขณะที่ชาติพัฒนาลั่นพร้อมร่วมหาทางออก 'ปึ้ง'ห่วง 'สมคิด' รับมือปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่อยู่ อาสาดึง'แม้ว' ช่วยชี้แนะ'จตุพร' ท้า'บิ๊กตู่'สาบานรัฐบาลไร้โกง
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9174 ข่าวสดรายวัน
อวยพร - ผู้เข้าร่วมแสดงความยินดีน.ส.พ.มติชนก้าวสู่ปีที่ 39 อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์, นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกฯ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โดยมีนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานเครือมติชน ให้การต้อนรับที่อาคารมติชน วันที่ 9 ม.ค.
'ปู-สมชาย'อวยพรมติชน
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 9 ม.ค. ที่อาคารสำนักพิมพ์มติชน ย่านประชาชื่น น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายวราเทพ รัตนากร อดีตรมว.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรมว.ศึกษาธิการ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน เป็นต้น นำกระเช้าเข้าอวยพรคณะผู้บริหารมติชนในโอกาสที่น.ส.พ.มติชนก้าวเข้าสู่ปีที่ 39 ทั้งนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้อวยพรให้มติชนนำเสนอข่าวสารให้ถูกต้อง และยืนเคียงข้างประชาชนตลอดไป
จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับผู้บริหารมติชน และได้แวะเยี่ยมชมร้านจำหน่ายหนังสือของทางมติชนด้วย โดยได้ซื้อหนังสือ "ข้าแต่ศาล ที่เคารพ" เขียนโดยน.ส.สมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และได้ซื้อแจกทีมงานทุกคนด้วย ก่อนจะเดินทางกลับในเวลาประมาณ 12.30 น.
สนช.ชงตั้งกก.ปรองดอง
พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เปิดเผยถึงแนวคิดที่สนช.เตรียมจัดตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข เพื่อศึกษาหาแนวทางสร้างความปรองดองและสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยจะเชิญคู่ขัดแย้งในสังคมทุกฝ่ายร่วมเป็นกมธ.ว่า ตนจะเป็นผู้เสนอญัตติการตั้งกมธ.ชุดดังกล่าวต่อที่ประชุมสนช.ในสัปดาห์นี้ โดย กมธ.ชุดดังกล่าวจะมี 24 คน ประกอบด้วยสมาชิกสนช. 14 คน และคนนอก 10 คนที่ประกอบด้วยฝ่ายที่มีความเห็นต่าง นักวิชาการ ภาคธุรกิจ มาร่วมกันหาแนวทางสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในสังคม เพราะมองว่าแม้สังคมจะมีความขัดแย้งก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้
โดยจะนำกลุ่มที่มีความเห็นต่างมาพูดคุยหาทางออกกัน ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับทุกฝ่ายที่มีความเห็นต่างหมดแล้ว ทั้งกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) คณะกรรมการประชาชนเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) พรรคการ เมืองต่างๆ ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาแล้วที่จะต้องมานั่งพูดคุยกันเพื่อสร้างสันติสุข ยินดีที่จะเข้ามาร่วมวงพูดคุยในครั้งนี้โดยใช้เวทีสภาเป็นทางออก ทำให้สนช.เปิดพื้นที่ในเรื่องนี้ขึ้นมาให้ทุกฝ่ายมานั่งคุยกัน ขณะนี้อยู่ระหว่างฝ่ายเห็นต่างกำลังพิจารณาส่งรายชื่อตัวแทนที่จะเข้าร่วมหารือครั้งนี้ คหงส่งเข้ามาให้ได้เร็วๆ นี้
ปัดฝุ่นผลศึกษา-สลายขัดแย้ง
"การทำงานของกมธ.ชุดนี้จะดูเรื่องการเสริมสร้างสันติสุขในภาพรวมทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง รวมถึงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย กำหนดกรอบเวลาการทำงานไว้ 180 วัน ส่วนแนวทางการออกกฎหมายนิรโทษกรรมนั้น คงยังไม่ถึงเวลาต้องมานั่งคุยกันขณะนี้ ขอถามว่า การออกกฎหมายนิรโทษกรรม การใช้คำสั่งตามมาตรา 44 จะเกิดความปรองดองได้จริงหรือไม่ เพราะการปรองดองต้องเกิดขึ้นจากจิตใจทุกฝ่ายที่มีความพร้อมอยากให้เกิดขึ้น ไม่ใช่ใช้กฎหมายมากำหนด"พล.อ.อกนิษฐ์กล่าวว่า
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายมองว่าการตั้งกมธ.เพื่อสร้างสังคมสันติสุขของสนช.ครั้งนี้ เป็น การสร้างภาพ เพราะที่ผ่านมาเคยมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาเรื่องความปรองดองหลายครั้ง แต่ไม่เคยเห็นผลเป็นรูปธรรม พล.อ.อกนิษฐ์กล่าวว่า ที่ผ่านมา ผลการศึกษาเรื่องการสร้างความปรองดองที่คณะกรรมการหลายชุดศึกษามา แต่ไม่เคยถูกนำมาปฏิบัติ เก็บไว้อยู่บนหิ้ง เพราะไม่เคยนำกลุ่มที่เห็นต่างมาพูดคุยกันได้อย่างครบถ้วน แต่ในครั้งนี้สนช.สามารถนำกลุ่มที่เห็นต่างมาพูดคุยหาทางออกได้ครบถ้วนทุกกลุ่ม ขอให้คอยดูว่าจะทำได้หรือไม่
เด็กกวาดบ้าน - นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว แกนนำกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ และผู้สนับสนุนกว่า 30 คน จัดกิจกรรมวันเด็กภายใต้ชื่อ "วันเด็ก คบเด็ก กวาดบ้าน ต้านคอร์รัปชั่น" สะท้อนความพยายามตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ แต่ถูกรัฐบาลออกหมายจับ ที่สถานีรถไฟหัวลำโพง เมื่อวันที่ 9 ม.ค. |
ครูหยุยจวกปาก'จตุพร'
ด้านนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสนช.กล่าวว่า พล.อ.อกนิษฐ์จะเป็นผู้เสนอญัตติการตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุขต่อที่ประชุมสนช.ประมาณ วันที่ 14 หรือ 15 ม.ค. ส่วนกรณีที่นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.โจมตีว่า แนวทางนี้ไม่แคล้วเป็นปรองดองลวงโลก เป็นยักษ์ไม่มีกระบอง ให้ไปคุยในโรงพยาบาลบ้านั้น ถ้าพูดแบบนี้คนพูดก็บ้าแล้ว เริ่มต้นด้วยการปรามาสกันคงไม่เกิดประโยชน์ เพราะโรงพยาบาลบ้านั้นพวกมีปัญหาทางสมองไปรักษาตัว
"นายจตุพรระมัดระวังคำพูดบ้างก็ดีเหมือนกัน เป็นผู้ใหญ่แล้ว เราเปิดเวทีก็ขอให้เข้ามาคุยกัน ดีกว่าหันหลังให้กัน แล้วมาด่าทอกันแบบนี้ หากนายจตุพรไม่สมัครใจ เราจะหาคนที่สมัครใจเข้ามาแทนก็ได้" นายวัลลภกล่าว
แนะสร้างความเป็นธรรมก่อน
นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตส.ว.นนทบุรี อดีตประธานคณะกรรมการสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปการเมืองและการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงกรณีที่สนช.เตรียมตั้งคณะกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุข โดยนำผลการศึกษาของคณะกรรมการสมานฉันท์ฯกลับมาเป็นส่วนหนึ่งในการพิจารณาเพื่อเป็นแนวทางการสร้างความปรองดอง ว่าความปรองดองเป็นเรื่องดี แต่สิ่งพื้นฐานที่จะทำให้เรื่องนี้สำเร็จได้คือความเป็นธรรม เพราะถ้าความเป็นธรรมไม่มี ความสามัคคีจะเกิดขึ้นในชาติไม่ได้ หมายความว่า ถ้าความเป็นธรรมไม่มีความปรองดองก็เกิดขึ้นไม่ได้ ดังนั้น ก่อนที่จะทำเรื่องปรองดองรัฐบาลควรไปดูเรื่องความเป็นธรรมเสียก่อน ต้องสร้างมาตรฐานเรื่องความเป็นธรรมขึ้นมาให้ทุกฝ่ายรู้สึกกันก่อนว่า นี่คือความเป็นธรรม การจะออกกฎหมายปรองดองเพื่อมาบังคับใช้ไม่มีทางที่จะทำให้ทุกฝ่ายปรองดองกันได้
"ตอนนี้เราต้องพูดความจริงกันก่อนว่า คนส่วนใหญ่ยังมองและรู้สึกว่าความเป็นธรรมยังไม่สมบูรณ์แบบ รัฐบาลต้องทำให้ทุกฝ่ายเห็นว่า สิ่งที่รัฐบาลทำได้ยืนอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้องและเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย ด้วยมาตรฐานของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาคและเป็นธรรมตามหลักนิติรัฐ นิติธรรมทุกประการ หากรัฐบาลทำให้ทุกฝ่ายเห็นได้ ความปรองดองจะเกิดขึ้นได้เอง แต่ถ้ายังเปลี่ยนความรู้สึกคนในเรื่องนี้ไม่ได้ จะออกกฎหมายหรือจะนำทุกฝ่ายมาร่วมหาแนวทางอย่างไรความปรองดองไม่มีทางเกิดขึ้น"นายดิเรกกล่าว
เพื่อไทยชี้เสียเวลาเปล่า
นายนพดล ปัทมะ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่สนช.เตรียมจัดตั้งกมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้างสังคมสันติสุขว่า ตนเคยหวังในการปรองดอง แต่ขณะนี้ยังมองไม่เห็นว่าจะเกิดขึ้น เราตั้งกรรมการเรื่องปรองดองมานับไม่ถ้วน เสียเงินเสียเวลาไปมาก แต่ไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ การตั้งกรรมการอีกครั้งเพียงแค่ให้สังคมรู้สึกดี ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น
นายนพดล กล่าวว่า การปรองดองเกิดยากเพราะแต่ละฝ่ายตีความและเข้าใจการปรองดองแตกต่างกัน บางฝ่ายมองว่าปรองดองคือการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย บางฝ่ายมองว่าคือการนิรโทษกรรม ตราบใดที่เข้าใจไปคนละเรื่องคงเกิดขึ้นยาก ส่วนตนมองว่าเรื่องที่เร่งด่วนคือสังคมไทยต้องสร้างเงื่อนไขและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการปรองดองให้เกิดขึ้นก่อน เช่น การมีกติกาการอยู่ร่วมกันที่เป็นประชาธิปไตยและสากล การมีสิทธิและเสรีภาพ การทำกฎหมายให้เป็นกฎหมาย การยุติการใช้กฎหมายแบบสองมาตรฐาน เป็นต้น
"เราอยากกินผลไม้วิเศษชื่อปรองดอง แต่เราไม่ใส่ปุ๋ย รดน้ำ พรวนดิน และฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะเกิดการปรองดอง มันคงไม่เกิดแน่ เราควรเลิกตั้งกรรมการและลงมือทำ ความปรองดองจึงจะเกิด" นายนพดลกล่าว
อัดสร้างภาพลวงโลก
ด้านนายวรชัย เหมะ อดีตส.ส.สมุทร ปราการ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีเจตนาว่าจะไม่มีการอภัย ปรองดองกับผู้กระทำผิดทางการเมือง ดังนั้น จะตั้งกมธ.นี้ขึ้นมาทำไม แค่สร้างภาพลวงโลกหรือเปล่า จึงต้องชัดเจนว่าตั้งขึ้นมาทำไม มียุทธศาสตร์นำไปสู่การปรองดอง นิรโทษกรรมอย่างไร ไม่ใช่ตั้งขึ้นมาลอยๆ ไม่มีผลเป็นรูปธรรม
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวกับสื่อล่าสุดว่าปรองดองสำคัญที่ใจ ถ้าใจคิดจะปรองดองไม่ต้องมีอะไรมารองรับว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่า เมื่ออาสาเข้ามาแก้ไข ต้องเป็นเจ้าภาพ ที่สำคัญต้องคำนึงถึงทั้งใจเขาและใจเราด้วย 1 ปีเศษที่ผ่านมาผู้มีอำนาจได้ให้ใจตรงกับวัตถุประสงค์ของการยึดอำนาจหรือไม่ แต่เสียงเรียกร้องเรื่องความเป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นสาเหตุของความขัดแย้งยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีเสียงวิพากษ์ว่าท่านเข้ามา เป็นคู่ขัดแย้งเพิ่มเติมเสียเองหรือไม่ การแก้ปัญหาความขัดแย้งใช้แต่เพียงหลักนิติศาสตร์หรือรัฐศาสตร์ไม่ได้
ชาติพัฒนาหนุนสุดตัว
นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา กล่าวว่าพรรคชาติพัฒนาสนับสนุนแนวคิดของสนช. และเห็นด้วยที่จะเชิญพรรคการเมืองและคู่ขัดแย้งมาร่วมทำงาน เพื่อหาแนวทางที่จะได้ข้อยุติของปัญหาความขัดแย้งของสังคมไทย ทุกฝ่ายควรให้ความร่วมมืออย่าท้อแท้กับการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง เพราะเป็นปัญหาที่เกิดมานาน ควรต้องช่วยกันหาทางออกให้บ้านเมือง
"ความร่วมมือในการสร้างความปรองดองและลดความขัดแย้ง จะเป็นสัญญาณที่ดีเช่นเดียวกับการมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่และการเลือกตั้ง และจะเป็นปัจจัยบวกให้กับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้กับประเทศ พรรคชาติพัฒนายินดีให้ความร่วมมือและพร้อมที่จะส่งผู้แทนเข้าร่วมทำงาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาเสริมสร้าง สังคมสันติสุขที่สนช.จะแต่งตั้งขึ้น เพื่อที่จะช่วยกันหาทางออกให้กับประเทศ" นายชลิตรัตน์กล่าว
"ปึ้ง"ห่วง"สมคิด"รับมือศก.ไม่อยู่
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฟังนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง พูดถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นกับไทยเราสืบเนื่องมาจากการลดค่าเงินหยวนในจีน และจากกรณีพิพาทระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่าน ตลอดจนการที่สหรัฐประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะส่งผลกระทบกับค่าเงินบาทและเศรษฐกิจของไทยเราในปีนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ รู้สึกเป็นห่วงมากว่าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดนี้จะสามารถรับมือได้ไหวหรือไม่ การค้าขาย การลงทุน และการส่งออกของไทยคงจะได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างหนัก
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยพูดเรื่องนี้ก่อนสิ้นปี 2558 ว่าให้ไทยระมัดระวังเรื่องนี้ ปรากฏว่ามีพวกอวดดีอวดเก่งออกมาตำหนินายทักษิณในตอนนั้น วันนี้ต้องออกมายอมรับความจริงกันแล้วว่ามันกำลังจะเกิดเหตุการณ์อย่างที่นายทักษิณได้คาดการณ์เอาไว้
อาสาดึง"แม้ว"ช่วยชี้แนะ
"ถ้ารัฐบาลอยากจะรู้วิธีการรับมือในเรื่องนี้และจะแก้ปัญหาในอนาคตอย่างไรเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจไทยพังพาบลงไป ผมพร้อมที่จะประสานนายทักษิณเพื่อขอคำแนะนำจากท่าน เชื่อว่าท่านคงจะให้คำชี้แนะที่เป็นประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้เราได้ รัฐบาลน่าจะเปิดใจกว้างรับฟังบ้าง เพราะอดีตนายกฯทุกท่านล้วนเป็นห่วง และรักประเทศชาติกันทุกคน การเปิดใจรับฟังในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมืองไม่ใช่เรื่องเสียหาย นอกจากบางคนอาจจะมีทิฐิในตัวเองจนไม่ฟังใคร และหลงคิดว่าตัวเองเก่งกาจ จนบ้านเมืองเสียหายไปก็เป็นได้ แล้วจะได้รู้ตัวเองเสียบ้าง" นายสุรพงษ์กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในปี 2543 เมื่อครั้งวิกฤตต้มยำกุ้ง นายทักษิณก็เป็นนายกฯที่เข้ามาหาเงินใช้หนี้ไอเอ็มเอฟปลดหนี้สินให้คนไทย ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังจากรัฐบาลชุดก่อนๆ แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ประสบผลสำเร็จ ท่านช่วยให้คนไทยได้ลืมตาอ้าปากได้ ท่านนำพาประเทศไทยพ้นวิกฤต วันนี้เชื่อว่าพวกเราคงต้องการความรู้และประสบการณ์จากนายทักษิณอีกครั้งหนึ่งเป็นแน่แท้
"ตู่"เตือนระวังซ้ำรอย 14 ต.ค.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวในรายการมองไกล โดยประเมินว่ากลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ ที่มีนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว และเพื่อนไม่ไปรับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืนการชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน อันขัดคำสั่งคสช.แล้วนำไปสู่หมายจับตามมาในภายหลังจะทำประกายการต่อสู้ถูกจุดขึ้นและลุกลามขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง
นายจตุพรกล่าวว่า จ่านิวและเพื่อนนักศึกษาเชื่อว่าการเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ไม่มีความผิด และยังไม่เข้าข่ายการฝ่าฝืนชุมนุมทางการเมือง รวมทั้งยืนยันจะเคลื่อนไหวต่อไป ดังนั้น จากนี้ไปตำรวจต้องออกหมายจับจ่านิวกับพวก ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้พร้อมใจให้ถูกจับ โดยยึดแนวทางอารยะขัดขืน เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้ทำความผิดอะไร หากรัฐบาลและคสช.ไม่วิตกเกินกว่าเหตุก็คงไม่เกิดปัญหา แต่สิ่งน่าห่วงคือรัฐ จัดตั้งคนมาชุมนุมขัดขวางที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง ดังนั้น จ่านิวและเพื่อนจึงพร้อมจะเกิดเรื่องเพราะไม่ได้ทำผิด
ท้านายกฯสาบาน-ครม.ไม่โกง
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าตำรวจออกหมายจับจะเกิดเป็นเรื่องอื่นแทรกเข้ามาทันทีบทเรียนจากเหตุการณ์ 14 ต.ค.2516 เริ่มจากการลบชื่อนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จนลุกลามไปสู่การเรียกร้องรัฐธรรมนูญ เหตุการณ์ในอดีตแสดงถึงนักศึกษาเป็นผู้จุดประกายการต่อสู้ขึ้น ด้วยพลังอันบริสุทธิ์จึงไม่จำเป็นต้องใช้คนมากมายมาร่วมกดดันด้วย
การที่กลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ประกาศเดิมพันจึงเป็นเรื่องน่าสนใจรัฐถ้าคิดอย่างรอบคอบก็จะไม่ดำเนินคดีเรื่องนี้มาแต่ต้น และหากออกหมายจับนักศึกษาก็พร้อมให้จับ เพราะพวกเขายอมเอาอิสรภาพมาจุดประกาย และเมื่อผู้ปกครองลุแก่อำนาจ ชอบทำตัวเป็นนายประชาชนโดยคิดแต่ว่ามีคนหนุนหลังนักศึกษาแล้ว ย่อมจะทำให้พลังบริสุทธิ์ของนักศึกษาลุกโชนขึ้นทันที
"ขณะนี้พิสูจน์ชัดว่ากำลังอำนาจแก้ไขปัญหาชาติไม่ได้ การทุจริตเกิดเต็มบ้านเต็มเมือง แล้วจะเอาจริงหรือไม่ นายกฯเชื่อหรือว่าคณะรัฐมนตรี(ครม.)ไม่มีการทุจริต กล้าสาบานตัวที่วัดพระแก้วหรือไม่ การด่านักการเมืองโกง ก็เป็นความคิดของการรัฐประหารทุกครั้ง" นายจตุพรกล่าว
3 อดีตนายกฯร่วมวันเกิดมติชน
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่อาคารหนังสือพิมพ์มติชน มีพิธีทำบุญวันเกิดครบ 38 ปี ก้าวสู่ปีที่ 39 ของหนังสือพิมพ์มติชน โดยมี นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ พร้อมด้วย ผู้บริหารในเครือมติชน อาทิ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร รองประธานที่ปรึกษา, นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ, ดร.วีรพงษ์ รามางกูร ที่ปรึกษา, น.ส.ปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด, นายวรศักดิ์ ประยูรศุข บรรณาธิการ หนังสือพิมพ์มติชน ร่วมประกอบพิธีทางสงฆ์ และให้การต้อนรับแขกเหรื่อผู้มาร่วมงานจำนวนมาก อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี, นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี, นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี, นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี, นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี, พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา, พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร., นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ และนายดำรงค์ พิเดช สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ เป็นต้น
เวลา 09.09 น. เริ่มพิธีทางศาสนา น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับมติชน ก้าวเข้าสู่ปีที่ 39 ในวันที่ 9 ม.ค. 2559 อยากให้ปีนี้และปีต่อๆ ไปเป็นปีที่มีความก้าวหน้า และอยากจะขอให้ทั้งเครือมติชนประสบความสำเร็จ อยากจะขอขอบคุณสื่อและผู้บริหารในเครือมติชนที่นำเสนอข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา และขอแสดงความยินดีกับการก้าวขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของสื่อออนไลน์ จากนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับแขกคนอื่นๆ ก่อนที่จะเดินเข้าไปซื้อหนังสือที่ร้านหนังสือสำนักพิมพ์มติชน โดยหนังสือที่เลือกซื้อได้แก่ "ข้าแต่ศาลที่เคารพ" เขียนโดยสมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตป.ป.ช., ของฝากเด็ด 77 จังหวัด, ข้าวแกงเด็ด 77 จังหวัด และการสิ้นสุดของสิ่งหนึ่งคือการเริ่มต้นของสิ่งใหม่เสมอ โดย หนุ่มเมืองจันท์ หรือนายสรกล อดุลยานนท์ ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ขอลายเซ็นของนายสรกลเป็นที่ระลึกอีกด้วย