WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ราชภกด

ณัฐวุฒิ โชว์รูป ยันรอยร้าว 'บิ๊กตู่'ยัวะ'วีระ' ไม่น่าช่วยพ้นคุก

      ณัฐวุฒิโต้ฝ่ายความมั่นคง โพสต์รูปยันรอยร้าว พร้อมส่งข้อมูลให้ศอตช.สอบ ราชภักดิ์ จตุพรห่วง'บิ๊กตู่' โดนลูกน้องทำลาย ชี้ปฏิบัติสวนทางนายกฯ พูด บอกไม่จับใครแล้ว ผ่าน ไปสองวันก็ออกมาตามจับน.ศ. สะเทือนเกียรติภูมิ 'ประยุทธ์'นัด 23 ธ.ค. แถลงผลงานรัฐบาล โวย'วีระ สมความคิด'บ่นไม่น่าช่วยจากคุกเขมร'มีชัย'เชื่อ กรธ.ชี้แจงรธน.ต่อประชาชนได้

วันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9155 ข่าวสดรายวัน

ราชภักดิ์ - นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. โชว์ภาพถ่ายอ้างเป็นรอยร้าวและคอนกรีตกะเทาะแตก บริเวณลานอุทยานราชภักดิ์ จ.ประจวบ คีรีขันธ์ ทั้งที่เพิ่งเปิดให้เที่ยวชมได้ไม่นาน โดยเตรียมมอบหลักฐานเพิ่มเติมให้กับผู้รับผิดชอบ

รบ.จัดสถานที่แถลงผลงาน

    เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) โดยมีนางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ฝ่ายสถานที่ ทำเนียบได้จัดเตรียมความพร้อมสถานที่จัดนิทรรศการแถลงผลงานของรัฐบาลในรอบ 1 ปีโดยนำเต็นท์ติดแอร์ขนาดใหญ่มาตั้งตลอดแนวถนนด้านหน้าทำเนียบเลียบคลองเปรมประชากร เริ่มจากจุดสะพานชมัยมรุเชฐจนถึงสะพานอรทัย ซึ่งภายในเต็นท์มีการจัดแบ่งโซนกลุ่มงานเป็น 6 กลุ่ม ทั้งนี้การเตรียมจัดสถานที่ดังกล่าว ทำให้ขบวนรถของนายกฯเปลี่ยนเส้นทางเข้าทำเนียบ จากประตู 1 มาเป็นประตู 3 ถนนพิษณุโลก

นายกฯนำแถลง 23 ธ.ค.นี้

     ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สำหรับการแถลงผลงานครบรอบ 1 ปีของรัฐบาล เดิมกำหนดไว้ 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค.นี้ ล่าสุดจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นตรงกันว่าจะแถลงผลงานรัฐบาลเพียงวันเดียวในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น.เพื่อไม่ให้ยืดเยื้อ โดยพล.อ. ประยุทธ์จะใช้เวลา 1 ชั่วโมง เพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่รัฐบาลดำเนินการมา

      พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า จากนั้นมอบหมายรองนายกรัฐมนตรีแต่ละด้าน ชี้แจงถึงความคืบหน้า รวมทั้งแผนดำเนินงานในส่วนที่รับผิดชอบ ใช้เวลาคนละ 20 นาที ช่วงบ่ายจะเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามประเด็นต่างๆ พร้อมให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดนิทรรศการแสดงผลงานในวาระครบรอบ 1 ปีการดำเนินงานของรัฐบาล บริเวณถนนหน้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งจะจัดแสดงระหว่างวันที่ 23-25 ธ.ค.นี้ ในส่วนของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจะแถลงผลงานผ่านรายการเดินหน้าประเทศไทย โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2558 - 13 ม.ค.2559

โต้สื่อเทศตีข่าวแรงงานทาส

       พล.ต.สรรเสริญยังแถลงตอบโต้สำนักข่าวต่างประเทศบางแห่งนำเสนอประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทย ว่า จากกรณีมีรายงานข่าวจากสำนักงานข่าวต่างประเทศรายหนึ่ง นำเสนอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไทย ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่ามีแรงงานทาสจำนวนมากในไทย และเจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการใดๆ ยืนยันว่ารายงานดังกล่าวไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตั้งแต่คสช. เข้ามา มีการจับกุมดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาคเอกชน ราชการ และที่ไทยเป็นผู้ส่งออกกุ้งรายใหญ่ ไม่ใช่เพราะจ้างแรงงานทาสทำให้ต้นทุนต่ำ แต่มีหลายปัจจัย

       พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ส่วนที่มีการรายงานข่าวสามีภรรยาชาวเมียนมาไม่ได้รับการดูแลที่ดีนั้น โดยข้อเท็จจริงแล้วไทยมีแรงงานต่างชาติในประเทศกว่า 3 ล้านคน อย่าเอาคนไม่กี่คนมาเหมารวม ส่วนสามีภรรยาชาวเมียนมานั้นเจ้าหน้าที่พบและเข้าดำเนินการแล้วมีสื่อติดตามไปด้วย จึงขอความเป็นธรรมด้วย ส่วนภาพข่าวที่มีเด็กอยู่ด้วยนั้น ถือเป็นวิถีชีวิตของคนเอเชีย ร่วมกันทำงานในครอบครัว บางคนไม่มีผู้ดูแลบุตร จึงต้องมาในที่ทำงานด้วย แต่จากนี้จะควบคุมให้เป็นไปตามหลักสากล เพื่อให้เป็นที่ยอมรับ

'ตู่'บ่นไม่น่าช่วยวีระออกจากคุก

      พล.อ.ประยุทธ.ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีนายวีระ สมความคิด แกนนำเครือข่ายปฏิรูปพลังงาน ออกมาแสดงความไม่พอใจกรณีทหารล้อมบ้านว่า ทำไมการที่แขกบ้านแขกเมืองมาร่วมประชุมอย่างเป็นทางการแล้วเขาไปด่าอยู่ที่บ้าน จะออกมา ควรให้ออกมาหรือไม่ ถ้าไม่ควร สื่อจะมาพูดให้เขาทำไม ทหารเขาเพียงแต่ไม่ให้ออกนอกบ้านเท่านั้น แต่ก็ยังออกไปได้เลย ล้อมไปนานๆ แล้วไม่รู้ไปไหน หายเงียบไป ก็เดินเข้าไปถามแม่เขาว่ามันไปไหนแล้ว

     "แม่ตอบว่าไปแล้ว ปัดโธ่ ไม่รู้ล้อมยังไง คงเพราะเขาไม่ได้เข้มงวด แล้วสื่อจะมาร้องเรียนอะไร แล้วเขารู้กันหรือไม่ว่าใครให้เขาออกมาพูดมากวันนี้ อย่าลืมว่าผมเป็นคนไปขอให้เขาออกมาจากคุก ไม่ได้มีข้อแลกเปลี่ยนอะไรสักอย่าง ออกมาได้ก็เอา พูดว่าเขาไปตกลงอะไรกันไว้ พลังงานในทะเล มันน่าปล่อยให้เน่าตาย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

     เมื่อถามย้ำว่า ที่บอกว่าเป็นคนขอให้เขาออกมาจากคุก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนนี่แหละเป็นคนขอเขาออกจากคุก ซึ่งวิธีการดำเนินการต้องทูลขอเป็นขั้นตอนจากสมเด็จนโรดมสีหมุนี ตนไม่ขอแล้วใครจะขอ ใครจะทำให้ รัฐบาลไหนทำให้บ้างแล้วออกมาทำอะไรกัน ทำแล้วก็ไม่ได้อะไร ขนาดใจสื่อ ยังไม่รู้ว่าได้หรือเปล่า

ลั่น 11 น.ศ.ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด

     พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงเรื่องพลังงานว่า ต้องวางแผนในอนาคต 20 ปี ซึ่งจะไปถึงปี 2579 นับแผนการพัฒนาไปทีละ 5 ปี วันนี้เราอยู่ในแผนระยะที่ 1 คือทำเรื่องการปฏิรูป โดยช่วงปี 2557-2559 เราทำตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนที่ 11 ส่วนต่อไป แผนพัฒนาฯที่ 12 ไว้เริ่มปี 2560 โดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจจะทำทุก 5 ปี ส่วนรัฐบาลก็ทำงานชุดละ 4 ปี

      "ผมอยากให้อยู่ 4 ปี มันจะได้ทำได้ ไม่ใช่ผมไม่อยากให้มี ก็คุณทำกันเอง ถ้าคุณทำกันเองก็อยู่ไม่ครบ มันก็เป็นอย่างนี้ ถ้าคุณไม่คิดตามผม มันก็จะเป็นอย่างเดิม ผมไม่ได้บอกว่าถูกหรือผิด ให้เอาคนที่จะมาอธิบายมาคู่กับผมมา แล้วมาสู้กันว่าเราจะทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้อย่างไร มาถามผมตรงนี้ต่อหน้าพวกท่าน ผมจะตอบ แต่ต้องตอบผมด้วยแล้วกัน ไม่ใช่ไปพูดข้างนอก ถ้าเราทำอย่างนี้ได้เราก็จะนับเวลา 1 ปี 6 เดือนที่เหลืออยู่ ของเราสตาร์ตให้อยู่ถึงเดือนกรกฎาฯ 2560 นั่นแหละคือแผนปฏิรูป เข้าใจหรือยังง่ายๆ"


หารือ - นายสิรวิชญ์ เสรีวิวัฒน์ หรือจ่านิว ร่วมพูดคุยกับกลุ่มเพื่อนนักศึกษาเกี่ยวกับการไปพบพนักงานสอบสวนที่ตำรวจรถไฟธนบุรีในวันที่ 22 ธ.ค. หลังจากถูกหมายเรียกไปรับข้อหากรณีนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์

       เมื่อถามถึงกรณีการออกหมายเรียก 11 นักศึกษาในกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น จะกระทบต่อภาพลักษณ์ของคสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าผิดก็ว่าไปตามขั้นตอน สื่อไม่ดูภาพเวลาที่พวกเขาทำความผิด จะมองข้างเดียวไม่ได้ จะเอาประเทศปลอดภัย แต่ให้คนฝืนกฎหมาย แล้วเอาสองฝ่ายมาตีกัน ตนถือว่าสื่อยุยง ปลุกปั่นด้วย

ป้อมย้ำมีกม.ห้ามชุมนุม

      ที่กรมการขนส่งทหารบก (ขส.ทบ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะยื่นหนังสือต่อกระทรวงยุติธรรม ให้ตรวจสอบรอยร้าวพื้นคอนกรีตอุทยานราชภักดิ์ว่า เป็นเรื่องของนายณัฐวุฒิ แต่การตรวจสอบเรื่องนี้เรามีเจ้าหน้าที่ที่ดำเนินการอยู่ ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้นยังไม่ได้รับรายงานใดๆ หากตรวจสอบเสร็จแล้ว จะให้คณะกรรมการเร่งชี้แจงทันที

     เมื่อถามว่านายณัฐวุฒิจะไปให้กำลังใจกับแกนนำการชุมนุมที่วางเพลิงศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมมีข้อเสนอให้ขอพระราชทานอภัยโทษ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เรื่องขอพระราชทานนั้น หากต้องการก็ทำไป แต่จะทำได้หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ส่วนเรื่องการชุมนุมนั้น ตนถามว่าถูกต้องหรือไม่ ต้องดูที่พ.ร.บ.การชุมนุมในพื้นที่สาธารณะ พ.ศ. 2558 ประกอบกับมีคำสั่งของคสช. ด้วย ซึ่งจะให้บอกว่าเคลื่อนไหวได้ก็ไม่ใช่

ปรามวีระอย่าเคลื่อนไหวมาก

       เมื่อถามถึงนายวีระที่โพสต์เฟซบุ๊กขู่หากทหารที่มาล้อมบ้านเข้ามาประชิดตัวจะยิงทันที พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นช่วงที่สมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา เดินทางมาเยือนไทยอย่างเป็นทางการ และถือเป็นเรื่องที่เอื้อประโยชน์ต่อประชาชน ฉะนั้นเจ้าหน้าที่จำเป็นต้องรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวก ซึ่งที่ผ่านมาพล.อ.ประยุทธ์เป็นคนเจรจาผ่อนปรนให้นายวีระ ออกจากประเทศกัมพูชามาได้ ตนขอว่าอย่าไปเคลื่อนไหวอะไรมาก

    พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงผลโพลระบุรัฐมนตรีในรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ไม่ตรงตามสายงานที่ได้รับมอบหมายว่า อยากถามว่ารัฐมนตรีทำหน้าที่ออกมาดีหรือไม่ เพราะในภาพรวมที่โพลสำรวจนั้น หากพบว่าดีก็จบ อย่าคิดอะไรมาก จะให้เอาคนที่ถูกต้องทั้งหมดนั้นคงไม่ได้ และต้องถามว่าผลงานที่ครม.ทำ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ หากตอบว่าดี แล้วจะถามอะไรอีก

ตร.โยนพงส.ชี้ให้ประกัน 11 น.ศ.

      ด้านนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เปิดเผยถึงกรณีนายณัฐวุฒิจะนำข้อมูลเพิ่มเติมในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ มามอบให้ศอตช.ว่า ตนยังไม่ได้รับการประสานจากนายณัฐวุฒิ ถึงการมอบข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนนี้ให้ หากต้องการมอบข้อมูลใหม่ ก็มายื่นได้ตามช่องทางที่เคยหารือไว้กับพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้ทันที ส่วนที่นายณัฐวุฒิระบุไม่อยากให้ ศอตช. มุ่งตรวจสอบเฉพาะการเรียกค่าหัวคิวสร้างรูปหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์ 7 บูรพกษัตริย์นั้น ศอตช.จะต้องตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกเรื่องอยู่แล้ว เป็นหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ โดยจะทำอย่างตรงไปตรงมา

    ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต. ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร. กล่าวถึงการออกหมายเรียก 11 นักศึกษาที่เดินทางขึ้นรถไฟไปตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ซึ่งเข้าข่ายความผิดการชุมนุมเกิน 5 คนว่า อยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งวันที่ 22 ธ.ค. ได้ออกหมายเรียกให้มาพบพนักงานสอบสวน สน.รถไฟธนบุรี หากพยานหลักฐานพาดพิงถึงใครก็จะแจ้งข้อหา แต่จะได้ประกันตัวหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วนการแจ้งข้อหาทุจริตโครงการอุทยานราชภักดิ์ จนถึงขณะนี้ยังไม่มีผู้มาแจ้งความ ยืนยันว่าไม่มีการประวิงเวลา

จตุพร ชี้บิ๊กตู่ ถูกลูกน้องทำเละ

     ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงตำรวจออกหมายเรียกกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ 11 คน ที่ร่วมกิจกรรมนั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ว่า การตั้งข้อหามีหลากหลาย โดยเฉพาะชุมนุมเกิน 5 คน ซึ่งถามว่าคนที่ออกมาต่อต้านนักศึกษาที่บ้านโป่ง เกิน 5 คนหรือไม่ ตนเห็นว่าการจะดำเนินคดีกับนักศึกษาที่ไปชุมนุมนั้นเหตุการณ์ก็ไม่ได้แตกต่างจากกรณีพุทธอิสระ ไปชุมนุมหน้าสถานทูต 200 คน สำคัญที่สุดควรมีมาตรฐาน แต่ที่คสช. ทำเวลานี้คือหลายมาตรฐาน จึงควรมีวุฒิภาวะเป็นผู้ใหญ่

     "หลักการเป็นผู้นำที่ดีนั้น ควรทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก ไม่ใช่สร้างเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ควรมีจิตใจที่กว้าง นายกฯเพิ่งพูดว่าจะไม่จับใครแล้ว อยากไปไหนก็ไป พอผ่านไป 2-3 วัน ลูกน้องก็ออกมาตามจับ" นายจตุพรกล่าว

     "เวลานายกฯไปพูดที่ต่างประเทศก็บอกว่าเป็นประชาธิปไตย 99.99 % บางวันก็พูดมีความเป็นประชาธิปไตยมากกว่าสหรัฐ เผลอแป๊บเดียวลูกน้องก็ไปละลานคนอื่นเขา นายกฯควรคิดให้มาก เมื่อพูดแล้ว ลูกน้องไม่ปฏิบัติตาม คนที่เสียคือนายกฯ และที่เสียมากกว่าคือประเทศไทย เพิ่งพูดจะไม่จับใคร เผลอแป๊บเดียวออกหมายจับเด็ก แต่ไม่ยอมออกหมายจับคนที่มาต่อต้านเด็ก ไม่ยอมออกหมายจับพุทธอิสระที่ประกาศนัดสาวกทั้งประเทศ ไปทุกศาลากลาง ทุกกรมศุลกากร ต่อต้านสหรัฐ แปลว่าไปต่อต้านสหรัฐได้ ไปต่อต้านราชภักดิ์ไม่ได้ ผมถือเป็นการทำลายเกียรติคุณแก่ตัวนายกฯเอง อย่าให้มันเละไปมากกว่านี้ ผมว่ามันเยอะมาก ทำอะไรควรระมัดระวังความรู้สึก" นายจตุพรกล่าว

เต้นโพสต์โชว์คอนกรีตร้าว

     นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการนปช. โพสต์ข้อความพร้อมทั้งภาพนิ่ง 4 รูป และคลิปวิดีโอ 2 คลิปผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับรอยร้าวและการทุจริตอุทยานราชภักดิ์ว่า เดิมตั้งใจส่งภาพถ่ายและคลิปวิดีโอเหล่านี้ให้ ศอตช.เพราะไม่ต้องการให้ใครเบี่ยงเบนเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอธิบายผ่านสื่อว่าสิ่งที่ตนพูดไม่เป็นความจริง จึงจำเป็นต้องแสดงข้อมูลทั้งหมดต่อสื่อ เจตนาเดียวของตนคือต้องการความกระจ่างเรื่องทุจริตอุทยานราชภักดิ์

      "หากปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีผู้กระทำความผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือถ้าจะยืนยันว่าทุกขั้นตอนโปร่งใสก็ต้องมีคำอธิบายที่สังคมยอมรับได้" นายณัฐวุฒิระบุ

ยันพร้อมส่งข้อมูลให้ศอตช.

      นายณัฐวุฒิ ระบุอีกว่า ภาพที่นำมาแสดงเป็นเพียงส่วนหนึ่ง ทั้งภาพนิ่งชี้ตัวอย่างรอยแตกร้าวบนพื้นคอนกรีต และภาพเคลื่อนไหวในบางจุด อยากให้ศอตช.พิจารณาสัญญาจัดจ้างและการใช้วัสดุก่อสร้าง ว่าถูกต้องตามระเบียบราชการหรือไม่ เหตุใดจึงชำรุดทั้งที่เพิ่งสร้างเสร็จและเปิดใช้ได้เพียง 3 เดือน ส่วนภาพต้นปาล์มก็แสดงให้เห็นว่ามีทั้งที่ปักป้ายรายนามผู้บริจาค และที่ปลูกโดยไม่มีป้ายชื่อ กรณีแบบนี้แตกต่างกันอย่างไร บัญชีรายรับในส่วนนี้สอดคล้องกับจำนวนต้นปาล์มที่ปลูกจริงในโครงการหรือไม่

     "ผมเข้าใจว่า ศอตช.คงแสวงหาข้อมูลตรวจสอบทุกช่องทาง จึงเชื่อว่าภาพเหล่านี้จะถูกนำไปประกอบการดำเนินงานได้ทันที แต่หากต้องการให้ส่งมอบโดยตรง ขอให้ประสานมา ยินดีจะให้ความร่วมมือ เมื่อแสดงข้อมูลแล้ว ขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายตรวจสอบดำเนินการ ไม่มีแนวทางจะเคลื่อนไหวรูปแบบอื่น ยกเว้นมีหลักฐานเพิ่มเติมก็จะส่งมอบต่อศอตช.ต่อไป" นายณัฐวุฒิระบุ

ปึ้งหนุนบิ๊กตู่เทียบผลงานรบ.เก่า

     นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาลในวันที่ 23 ธ.ค.นี้ และพล.อ.ประยุทธ์บอกจะหยิบผลงานของรัฐบาลเก่าขึ้นมาเปรียบเทียบกับผลงานของรัฐบาลปัจจุบันว่าใครดีกว่ากัน ตนก็เห็นด้วย ประชาชนจะได้รู้ความจริงเสียทีว่าอะไรที่รัฐบาลนี้คิดขึ้นเอง ทำเองบ้าง และอะไรที่ลอกของรัฐบาลเก่าๆ มาทำใหม่และเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่แล้วเปลี่ยนโครงการประชานิยมเป็นประชารัฐบ้าง คนจะได้เห็นกันชัดเจน

     นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า อยากให้รัฐบาลพูดความจริงให้ประชาชนทราบ เช่น 1.การค้ามนุษย์ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่สหรัฐจัดอันดับไทยอยู่ในระดับเทียร์ 2 มา 2 ปีติดต่อกัน พอรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ก็ถูกจัดลำดับลดลงไปอยู่เทียร์ 3 2.การบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตรให้ชาวนา รัฐบาลนี้เข้ามาแล้วปรากฏว่าไม่มีน้ำทำนาและรัฐบาลอ้างภัยแล้ง 3.เศรษฐกิจไม่ดีประชาชนไม่มีรายได้ค้าขายไม่ดี รัฐบาลก็อ้างว่าเศรษฐกิจโลกตกต่ำ

เชื่อคนอยากรู้ทำเองหรืออ้าง

       4.การจัดเก็บภาษีรายได้ของ 3 กรมจัดเก็บ ทั้งกรมศุลกากร สรรพากร และสรรพสามิต ไม่เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ ก็ปิดปากเงียบไว้ ทั้งที่ไม่มีเงินในกระเป๋า 5.การที่ต่างประเทศในแถบยุโรปและประเทศที่เป็นประชาธิปไตยไม่เชิญผู้นำไทยไปเยือนอย่างเป็นทางการ และเขาก็ไม่มาเยือนเราอย่างเป็นทางการต่างกับสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ เชื่อว่าประชาชนคงอยากเห็นและอยากฟังผลงานที่คิดขึ้นโดยรัฐบาลชุดนี้และทำสำเร็จในรัฐบาลชุดนี้ ไม่ใช่เอาผลงานของรัฐบาลเก่าๆ มาทำต่อแล้วอ้างว่าเป็นผลงานของตนเอง

     "อยากเห็นอะไรที่ทำเอง คิดเองอย่างแบบโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเหมือนในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร รถเมล์ฟรี รถไฟฟรี ไม่ใช่ลอกโครงการเอสเอ็มแอล รถไฟฟ้าความเร็วเกือบสูง หรือการเชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมกับเพื่อนบ้าน การเปิดให้มีเขตเศรษฐกิจพิเศษกับเพื่อนบ้าน การเปิดขยายด่านชายแดนเพิ่มเติมที่ทำไว้ตั้งแต่รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ มาดำเนินการต่อเนื่อง แล้วอ้างเป็นผลงานของรัฐบาลนี้ ถ้ารัฐบาลนี้ทำผลงานสำเร็จ 248 เรื่องอย่างที่คุยโม้ไว้ ก็อยากให้รัฐบาลนี้บริหารประเทศต่อไปนานๆ ไม่ต้องมีนักการเมืองก็ได้ ทำเองคิดเอง ไม่ต้องมีพรรค ไม่ต้องคิดนโยบายขึ้นมาแข่งเพื่อให้ประชาชนเลือกตั้งเข้ามาให้ยุ่งยากอีกต่อไปก็ได้" นายสุรพงษ์กล่าว

'มีชัย'เชื่อกรธ.ชี้แจงประชาชนได้

      ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสมชาย แสวงการ สนช.เสนอให้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้มาใช้ทันที หลังพรรคการเมืองเตรียมรณรงค์คว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ว่า "ไม่ได้เป็นการโยนหินถามทาง แต่เป็นการโยนหินใส่หัวผมเลย" ใครแสดงความเห็นมาอย่างไร กรธ.ก็รับฟังและคิดตาม แต่ไม่อยากจะแสดงความเห็นต่อ เรายืนยันว่าการร่างรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ไม่ฝืนใจใคร เพราะเรื่องไหนที่มีความสำคัญเราก็ไปทำโพลสอบถามประชาชนเพื่อให้เกิดการยอมรับ แล้วนำผลโพลที่ได้มาร่างรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อ ซึ่งสามารถอธิบายต่อสังคมได้

      นายมีชัย กล่าวว่า ส่วนการออกมาเคลื่อน ไหวของพรรคการเมืองจะส่งผลต่อการทำประชามติหรือไม่นั้น ยอมรับว่ามีส่วนที่ทำให้ประชาชนไปลงคะแนนด้วยความอคติบางประการจากการที่นักการเมืองไปใส่เอาไว้ แต่สุดท้ายแล้วเชื่อว่า กรธ.จะสามารถชี้แจงเจตนารมณ์ต่างๆ ให้ประชาชนเกิดความเข้าใจ ทั้งนี้ในการประชุมนอกสถานที่ของกรธ.ระหว่างวันที่ 11-17 ม.ค.2559 ที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ทาง กรธ.จะเปิดเผยรายละเอียดเป็นรายมาตราที่พิจารณาแล้วเสร็จในแต่ละวันผ่านทางสื่อมวลชน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบเนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญ ก่อนที่ร่างแรกจะเสร็จสิ้นในวันที่ 29 ม.ค.2559 และส่งไปให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึง สปท. คสช. ครม. ได้พิจารณา เพื่อให้ กรธ.ได้ปรับแก้ไขอีกครั้ง

ยันยังไม่คิดเรื่อง'คปป.'

     "เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้ประกาศใช้จะทำให้การเมืองมีทิศทางเป็นไปตามธรรมชาติ ขจัดคนทุจริตออกไปจากวงการเมือง มีการทุจริตน้อยลง ในขณะที่การตรวจสอบการทุจริตเพิ่มมากขึ้น กลไกทางการเมืองจะสอดคล้องกับบริบทของสังคมไทย มีคนมาถามผมว่า กรธ.กลัวพรรคการเมืองพรรคโน้นพรรคนี้ ขอยืนยันว่าเราไม่กลัว และไม่ได้ร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อกีดกันพรรคการเมืองใด ขอให้ได้พรรคใดก็ได้ที่เข้ามาแล้วบริหารบ้านเมืองด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม" นายมีชัยกล่าว

     ผู้สื่อข่าวถามว่า ร่างรัฐธรรมนูญจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับกลไกในช่วงการเปลี่ยนผ่านประเทศหรือไม่ ประธาน กรธ. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการพิจารณาและยังไม่ได้มีการหารือในกมธ. มีแต่ผู้เสนอความเห็นเข้ามาเท่านั้น ส่วนจำเป็นจะต้องมีกลไกเปลี่ยนผ่านอะไรหรือไม่ ต้องมาดูกันตอนร่างรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว และหากจะต้องมีก็ต้องไปอยู่ในบทเฉพาะกาล เพราะเมื่อจบสิ้นภารกิจ เปลี่ยนผ่านแล้วก็ไม่จำเป็นต้องมาใช้อีก เช่น สนช. สปท. จะอยู่ต่ออย่างไรเมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้

     เมื่อถามว่า จำเป็นต้องมี คปป. หรือไม่ นายมีชัยกล่าวว่า เรายังไม่เคยคิดว่าจะมีหรือไม่มี เพราะเรายังไปไม่ถึง แต่ได้เห็นบทเรียนก็ต้องเอามาจำเอาไว้ เราพยายามคิดอยู่ว่าทำอย่างไรไม่ให้ไปถึงจุดนั้น แต่ถ้าหากจำเป็นต้องมีก็ต้องมาดู ข้อดี ข้อเสีย และทำอย่างไรให้เหมาะสมกับประเทศและประชาชนยอมรับ

สปท.ติงแผนปฏิรูปของกอ.รมน.

     วันเดียวกัน ร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) เป็นประธานประชุมสปท. โดยร.อ.ทินพันธุ์ แจ้งให้สมาชิกทราบถึงร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ที่มี กอ.รมน. เป็นผู้จัดทำ ที่ได้รับมาจากการประชุมแม่น้ำ 5 สาย เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ส่วนหน้าที่ปฏิรูปของสปท.จะสานต่อหรือปรับปรุงแก้ไขงานเดิมจากสปช. แล้วรายงานต่อนายกฯโดยตรง ก่อน เสนอครม. ผลักดันออกเป็นกฎหมาย หรือเป็นคำสั่งนายกฯ ตามมาตรา 44 ต่อไป จากนั้นเปิดให้ที่ประชุมหารือถึงแนวทางการทำงาน

    นายนิกร จำนง สมาชิก สปท. กล่าวว่า เห็นร่างแผนปฏิรูปของกอ.รมน.แล้วตกใจ เนื้อหามันเหมือนถูกร่างมาก่อนที่กมธ.การเมือง สปท. จะนำเสนอแผนปฏิรูป จึงอยากให้ยกเลิกร่างแผนปฏิรูปนี้ไป เพื่อไม่ให้ทำงานกันโดยไม่รู้ว่าหัวและหางอยู่ที่ไหน และขอให้นำเข้าสู่การประชุมวิปสปท.สัปดาห์นี้ เพื่อให้สมาชิกรับทราบรายละเอียดด้วย

   นอกจากนี้ สมาชิกสปท. ยังถามถึงแนวทางทำงานของสปท.ว่า จะต้องดำเนินการตามร่างแผนการปฏิรูปประเทศ ที่ได้จากการประชุมแม่น้ำ 5 สาย เท่านั้นใช่หรือไม่ เนื่องจากเนื้อหาบางด้านจากแผนดังกล่าวมีเพียงนิดเดียว เช่น ด้านสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม มีเพียงแผนบริหารจัดการน้ำเพียงอย่างเดียว

     จากนั้นที่ประชุมสปท. จึงเริ่มพิจารณารายงานของกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการเมือง รายงานของกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม รายงานของกมธ.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการปกครองท้องถิ่น ตามลำดับ

วิลาศยื่นป.ป.ช.ให้สอบกทม.

      ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อประธานป.ป.ช. ขอให้ตรวจสอบโครงการพัฒนาทักษะทางดนตรีในโรงเรียนสังกัด กทม. ซึ่งมีการกระทำส่อทุจริต โดยมีนายธรรมนูญ เรืองดิษฐ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้รับเรื่อง

      นายวิลาศ กล่าวว่า กทม. จัดโครงการพัฒนาทักษะทางด้านดนตรีในโรงเรียนสังกัด กทม. ทั้งหมด 4 ครั้ง ตั้งแต่ปี 2551 นำร่อง 10 โรงเรียน งบประมาณ 14 ล้านบาท ปี 2552 เพิ่มอีก 90 โรงเรียน งบประมาณ 250 ล้านบาท ปี 2555 เพิ่มอีก 150 โรงเรียน งบประมาณ 480 ล้านบาท และปี 2557 จัดโครงการนี้ให้กับโรงเรียนที่เหลือ แยกเป็น 3 กลุ่ม 197 โรงเรียน งบประมาณ 585 ล้านบาท โดยจัดซื้อเครื่องดนตรีสากล เช่น กีตาร์ไฟฟ้า กลองไฟฟ้า เปียโน ให้แก่นักเรียน รวมถึงจัดอบรมเพิ่มประสิทธิภาพทางดนตรีแก่ครู และหลักสูตรดนตรีด้วย

       นายวิลาศกล่าวว่า พบว่าในโครงการเมื่อปี 2552 , 2555 และ 2557 มีความผิดปกติเกิดขึ้น เป็นโครงการที่ไม่คำนึงถึงความเหมาะสม เพราะโรงเรียนสังกัด กทม. มีครูสอนดนตรีสากลน้อยมาก แต่ตั้งงบเพิ่มเติมเพื่ออบรมครูเมื่อปี 2552 ใช้งบ 114 ล้านบาท รวมถึงไม่มีห้องเล่นดนตรี และเครื่องดนตรีที่ซื้อให้เด็กก็ไม่เหมาะสม เช่น เปียโน จึงร้องเรียนมายัง ป.ป.ช. เพื่อให้ตรวจสอบการจัดซื้อจัดจ้างในแต่ละปีงบประมาณ เพื่อหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป

ติงองค์กรอิสระใช้งบฯ

     นายวิลาศ ยังกล่าวถึงข้อท้วงติงองค์กรอิสระในการจัดโครงการอบรมหลักสูตรพิเศษไปดูงานต่างประเทศว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่องค์กรอิสระควรแก้ไข โดยเฉพาะการออกระเบียบตั้งที่ปรึกษา เลขานุการ และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวกรรมการ ทั้งที่องค์กรอิสระแต่ละแห่ง อาทิ กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ มีสำนักงานและมีที่ปรึกษากรรมการอยู่แล้วซึ่งเป็นคนของสำนักงาน ไม่ใช่กรรมการแต่ละคนจะตั้งคนของตัวเองเข้ามาทำงาน ซึ่งการตั้งที่ปรึกษา หรือเลขานุการ ควรเป็นมติของคณะกรรมการองค์กรนั้นๆ จึงอยากให้องค์กรอิสระแก้ไขระเบียบในเรื่องนี้

     นายวิลาศ กล่าวว่า นอกจากนั้นเห็นว่าที่ผ่านมาองค์กรอิสระยังมีปัญหาเรื่องการใช้งบประมาณ รัฐธรรมนูญกำหนดให้รัฐบาลต้องสนับสนุนงบให้องค์กรอิสระอย่างเพียงพอ และงบส่วนนี้ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบเหมือนงบของหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่สำคัญหากเงินเหลือ กรรมการสามารถมีมตินำไปดำเนินการในเรื่องใดก็ได้ ที่ผ่านมาพบว่ามีการเดินทางไปต่างประเทศของกรรมการองค์กรอิสระหลายครั้ง เฉลี่ย 6-7 ครั้งต่อปี และบางครั้งไปดูงานในประเทศที่ไม่มีองค์กรอิสระในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!