- Details
- Category: การเมือง
- Published: Thursday, 03 December 2015 14:56
- Hits: 4005
ราชภักดิ์-ไม่ระสํ่า 'บิ๊กตู่'ลั่น มี 4 กองทัพ-คสช.ปึ้ก ให้'บิ๊กโด่ง'คิดเอง-เรื่องลาออก กลาโหมชี้สรุปผลสอบก่อนสิ้นปี ณัฐวุฒิโวยทหารประกบลูกเมีย ยันพล.ต.สุชาติ-2 ตร.เผ่นไปนอก
'บิ๊กตู่'ลั่นคสช.ยังปึ้ก มี 4 กองทัพ-ยันไม่มีปัญหา ปมอุทยาน ราชภักดิ์ไม่กระทบ โยน 'บิ๊กโด่ง'คิดเองได้ หลังถูกจี้ให้ลาออก เผยถ้าออกก็ไม่กระทบรัฐบาล ด้าน 'บิ๊กป้อม' ก็บอกบิ๊กโด่งตัดสินใจเองได้ ยัน 'โด่ง-หมู' ไม่ได้ขัดแย้งกัน-แต่อาจมีบางอย่างคิดไม่ตรงกัน ขณะที่ 'บิ๊กหมู' รุดพบนายกฯทันที รายงานปัญหาโครงการราชภักดิ์ ด้านปธ.สอบราชภักดิ์เผยรู้ผลสอบก่อนสิ้นปี ระบุเชิญอุดมเดชมาให้ข้อมูลแล้ว ส่วนป.ป.ช.โต้ไม่กล้าไต่สวนทหาร ยังรอข้อมูลจากสตง.-ตร.-คกก.สอบ ขณะที่เพื่อไทยงงตั้งลูกน้องสอบเจ้านายณัฐวุฒิโวยทหารเฝ้าหน้าบ้าน-ตามประกบลูกเมียด้วย ด้านตร.จ่อออกหมายจับพล.ต.ต. โยงสว.เอี๊ยดคดีย้ายเสาสัญญาณ ยันเสธ.โต-2 ตร.เผ่นนอกแล้ว
วันที่ 03 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9136 ข่าวสดรายวัน
พบด่วน - พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. เดินทางเข้าพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. โดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้า คาดหารือเรื่องโครงการ อุทยานราชภักดิ์ ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 25 นาที ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.
บิ๊กตู่โยน'บิ๊กโด่ง'คิดเองได้
เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่สนามบินสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเดินทางกลับจากการประชุมระดับสูงของประมุขรัฐและหัวหน้ารัฐบาลในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 21 และการประชุมรัฐภาคีพิธีสารเกียวโต สมัยที่ 11 ที่กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ถึงกรณีการตรวจสอบการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบ คีรีขันธ์ ว่าระหว่างไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ได้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวในประเทศอยู่ตลอดเวลา ได้รับทราบทุกเรื่อง
เมื่อถามถึงกระแสกดดันให้พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวว่า "ก็ไปบอกเขา ไปบอกท่าน ก็ว่าไปตามขั้นตอน เดี๋ยวเขาก็คิดเป็นเอง เขาคิดเป็น ไอ้บางคนคิดไม่เป็น กฎหมายยังไม่รับเลย นี่เดี๋ยวเขาก็คิดเอง ให้เขาตรวจสอบก่อนอย่างมีขั้นตอน ผมไม่ได้ห้าม ให้เขาตรวจสอบ ให้มันมีขั้นมีตอน แล้วจะเอาไปเทียบกับอีกคดี คดีโน้นมีขั้นตอนหรือเปล่า หรืออยู่ดีๆ ก็ไปเอาเขาเข้ามา แล้วทำไมทางนี้ไม่ให้เขามีขั้นตอนบ้างเล่า"
เมื่อถามว่าต้องการผลตรวจสอบที่ชัดเจนก่อนใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แล้วแต่เขา เขาต้องพิจารณาของเขา
ออกไม่กระทบรบ.-มี 4 กองทัพ
เมื่อถามว่าหากพล.อ.อุดมเดช ลาออกจะกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จะกระทบอะไร เมื่อถามว่าดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามพยายามจะเขย่าคสช.มากกว่าต้องการให้พล.อ.อุดมเดช ลาออกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ก็พวกคุณไปเขย่าให้เขาทำไม ไม่มีปัญหา คสช.มีทั้งกองทัพ 4 กองทัพพอไหม"
ต่อมาพล.อ.ประยุทธ์ได้เดินทางมาทำเนียบรัฐบาล จากนั้นเวลา 10.20 น. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ. เดินทางเข้าพบนายกฯ เป็นการด่วน โดยไม่นัดหมายล่วงหน้า ใช้เวลาหารือ 25 นาที ก่อนขบวนรถของพล.อ.ธีรชัยกลับออกจากทำเนียบไปอย่าง เร่งรีบ โดยไม่ได้สัมภาษณ์ใดๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าพบครั้งนี้คาดว่าจะหารือเรื่องปัญหาโครงการก่อสร้าง อุทยานราชภักดิ์ เนื่องจากขณะนี้มีกระแสข่าวกดดันให้รัฐบาลและคสช.รับผิดชอบ โดยให้พล.อ.อุดมเดช ลาออกจากตำแหน่ง
บิ๊กป้อมก็บอกโด่งตัดสินใจได้
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม กล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างพล.อ.อุดมเดช กับพล.อ.ธีรชัยว่า คิดว่าไม่มีอะไร ทั้ง 2 คนไม่ได้ขัดแย้งกัน เพราะเขาทำงานจนเกษียณแล้วคงไม่โกรธเคืองอะไรกัน อีกอย่างทั้ง 2 คนเป็นลูกน้องตนมาก่อนทั้งนั้น ซึ่งรักทั้งคู่ แต่การทำงานอาจมีบางอย่างที่คิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามนโยบายของนายกฯ ซึ่งตอนนี้ประเทศเดินไปในทิศทางที่ดี
เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจพล.อ.อุดมเดชหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ไม่ต้องให้กำลังใจ เพราะท่านรู้ว่าจะอย่างไร ท่านตัดสินใจเองได้ ท่านมีกำลังใจของท่านได้"
เมื่อถามว่านายกฯให้สัมภาษณ์หากสมมติว่าพล.อ.อุดมเดช ลาออกจากรมช.กลาโหม จะไม่มีผลกระทบกับรัฐบาลและคสช. พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า ไม่เป็นไร นายกฯรู้อยู่แล้ว ตอบอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น
เมื่อถามว่ารัฐบาลและคสช. รวมทั้งกองทัพ ยังคงมีความเป็นเอกภาพหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ความสัมพันธ์ยังดี ไม่มีใครโกรธใคร
ผลสอบราชภักดิ์เสร็จก่อนสิ้นปี
ขณะที่พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการอุทยานราชภักดิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะกรรมการอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และจะดำเนินการตรวจสอบด้วยความโปร่งใสให้ความยุติธรรมกับทุกคน โดยเริ่มทยอยเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้ว ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมืออย่างดี ทั้งนี้คณะกรรมการคงไม่ทำงานกันข้ามปี และจะสอบสวนให้เรียบร้อยก่อนสิ้นปีนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ย. คณะกรรมการได้เชิญพล.อ.อุดมเดช มาสอบถามข้อมูลรายละเอียดการดำเนินการแล้ว และเมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ได้เชิญพล.ต.ชูชาติ สุกใส เจ้ากรมการเงินทหารบก มาสอบถามรายละเอียดตัวเลขทางการเงินแล้วเช่นกัน
ป.ป.ช.โต้ไม่กล้าไต่สวนทหาร
ส่วนนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ขณะนี้สตง.ลงไปตรวจสอบแล้วว่า มีงบอะไรบ้างที่เอาไปใช้ดำเนินการครั้งนี้ ขณะที่ป.ป.ช.ยังไม่ได้รับเรื่องมาดำเนินการไต่สวน เพราะต้องรอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สตง. กองบังคับการปราบปราม และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงกลาโหมสรุปก่อน หรืออีกกรณีคือมีผู้มาร้องเรียนต่อป.ป.ช. โดยยืนยันว่าตั้งแต่มีข่าวนี้ ป.ป.ช.ไม่ได้นิ่งเฉย แต่ได้ดำเนินการในลักษณะของการสืบสวน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาธารณชนให้ความสนใจ เชื่อว่าทั้งรัฐบาลและหน่วยงานที่มีหน้าที่ตรวจสอบจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง โดยเร็ว
เมื่อถามว่ามีหลายฝ่ายปรามาสป.ป.ช.ว่าไม่กล้าตรวจสอบทหารจริงหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ไม่เลย เพราะทุกเรื่องที่ป.ป.ช.ทำมีหลักเกณฑ์อยู่ หากยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ เราไม่สามารถเข้าไปทำได้ ทุกเรื่องเป็นแบบนี้หมด ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนหรือรัฐบาลไหน เป็น แบบนี้มาตลอด
เมื่อถามว่าหาก 3 หน่วยงานสรุปว่ามีทหารเข้าข่ายป.ป.ช.ก็ฟันไม่เลี้ยงใช่หรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า เราทำตามหน้าที่แน่นอน ต่อข้อถามว่าแต่หาก 3 หน่วยงานสรุปว่าไม่มีความผิดปกติเรื่องจะจบเลยหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ถือว่าจบในส่วนนั้น เพียงแต่ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมมาที่ป.ป.ช. ไม่ว่าทางใดก็ตาม ซึ่งมีข้อมูลที่นอกเหนือจาก 3 หน่วยงานที่ตรวจสอบ ป.ป.ช.ก็สามารถดำเนินการได้
เพื่อไทยงงตั้งลูกน้องสอบเจ้านาย
ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์ ที่ตั้ง ผู้ใต้บังคับบัญชาขึ้นมาตรวจสอบผู้บังคับบัญชาว่า เรื่องนี้จะดีหรือไม่ดี คนจะยอมรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของผู้มีอำนาจ แต่ไม่มีที่ไหนตั้งลูกน้องขึ้นมาตรวจสอบเจ้านาย วันนี้ตนอยากให้ดำเนินการโดยเปิดเผย ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ใครถูกผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่มีการปกป้อง ซึ่งที่เราได้เรียกร้องมาไม่ได้ปรักปรำ แต่เรียกร้องไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งการตรวจสอบขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจว่าจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือเพียงไร แต่ถ้ายิ่งช้าก็ยิ่งเสียหาย
เมื่อถามถึงกรณีพล.อ.อุดมเดชระบุว่า มีคนนั่งยิ้มได้ประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ทราบที่พล.อ.อุดมเดชพูดหมายถึงใคร แต่เมื่อมีข้อเท็จจริงเกิดขึ้นแล้วต้องดำเนินการตรวจสอบว่าใครต้องรับผิดชอบ ท่านอย่าไปคิดให้ปวดหัวเลย
ณัฐวุฒิโวย-ทหารตามลูกเมีย
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.เปิดเผยว่า หลังถูกทหารควบคุมตัวขณะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์ และเมื่อกลับมาบ้านพักพบการคุกคามโดยกำลังของฝ่ายความมั่นคงที่ยกระดับการใช้อำนาจมากขึ้นชัดเจน โดยคืนวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากรถทหารมาส่งถึงบ้านและกลับไป ปรากฏมีรถฮัมวี่และปิกอัพจอดติดเครื่องอยู่หน้าบ้านตลอดทั้งคืน ก่อนหน้านั้นเกือบ 3 เดือนมีทหารในเครื่องแบบขับรถฮัมวี่มาถ่ายรูปที่บ้านพักทุกวัน แสดงให้เห็นว่ามีปฏิบัติการที่เห็นชัดว่าวางแผนกันมาอย่างดี และการปฏิบัติการนี้ต้องใช้ทรัพยากรอย่างมาก ใช้รถยนต์ไม่ต่ำกว่า 6 คัน ทั้งโตโยต้า คัมรี่สีดำ สปอร์ตไรเดอร์สีบรอนซ์ วีออสสีขาว ปิกอัพอีซูซุสีน้ำเงิน นิสสันสีบรอนซ์ทอง และเชฟโรเลตสีบรอนซ์ พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์เคลื่อนที่เร็วอีก 2 คัน กำลังไม่ต่ำกว่า 12 คน
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเคยไปพูดคุยเพราะเห็นว่าเป็นลูกชาวบ้านหลานชาวนาเหมือนกัน พร้อมนำข้าวและน้ำไปดูแล เพราะไม่ใช่การเมือง ไม่ใช่เกมใต้ดินอะไรทั้งสิ้น แต่ที่ออกมาพูดให้สังคมรับทราบเนื่องจากเป็นเรื่องที่ผู้ชายคนหนึ่งจะปกป้องลูกเมียและคนในครอบครัว อย่านึกว่าใครจะกลัวอำนาจแบบนี้กันทั้งหมด เพราะตนเป็นคนหนึ่งที่ไม่ใช่ และการดำเนินการเรื่องอุทยานราชภักดิ์นั้นเพื่อเรียกร้องความจริง แต่ต้องมาเผชิญการคุกคามถึงขนาดนี้
"ตลอด 24 ช.ม. หน้าบ้านผมมีรถหลายยี่ห้อจอดสลับกันคันละ 6 ชั่วโมง ในรถมีชายฉกรรจ์ไม่แต่งเครื่องแบบ 2 คนนั่งประจำการ ทุกคนที่เข้าออกในบ้านไม่เว้นแม้กระทั่งลูกๆ ผมจะถูกคนกลุ่มนี้ออกมายืนถ่ายรูปอย่างเปิดเผย ล่าสุดเช้าที่ผ่านมาภรรยานั่งรถไปส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติ ปรากฏว่ารถคันที่จอดอยู่หน้าบ้านยังอยู่ที่เดิม แต่มีการส่งสัญญาณให้รถอีกคันขับตามถ่ายรูปรถคันที่ลูกเมียของผมนั่งไปตลอดทาง ตามไปจนถึงในโรงเรียน และไปจอดต่อท้ายตอนที่ลูกๆ ผมลงเดินเข้าห้องเรียน จนภรรยาต้องเดินเข้าไปต่อว่าและไล่ให้ออกไป จึงยอมขับรถออกจากโรงเรียน ผมไม่อยากเชื่อว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยผู้มีอำนาจ แต่ความจริงคือความจริง และเกิดขึ้นกับผมอย่างต่อเนื่องจนลามไปถึงครอบครัว ผมไม่สนว่าใครต้องการอะไร แต่พวกคุณไม่มีวันได้ความหวาดกลัวจากครอบครัวผม คุณมีทั้งอำนาจทั้งอาวุธ ผมมีสองมือกับชีวิต จะต่อสู้โดยสันติวิธีอย่างถึงที่สุดกับการคุกคามที่น่ารังเกียจเช่นนี้" นายณัฐวุฒิกล่าว
จ่อสั่งจับพล.ต.ต.-โยงสว.เอี๊ยด
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะโฆษกตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้ต้องหาแอบอ้างเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ว่า ล่าสุดศาลทหารอนุมัติหมายจับพ.ต.ท.ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ รองผกก.1 บก.ปคม.แล้ว หลังพบร่วมกับพ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยด กระทำผิดในการแอบอ้างหาผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนในการสั่งผลิตสิ่งของต่างๆ ซึ่งขณะนี้ทราบว่ายังไม่ควบคุมตัว แต่หลังจากนี้ผู้บังคับบัญชาต้องพิจารณาโทษทางปกครอง อาจพักราช การหรือให้ออก โดยจากนี้เมื่อถูกแจ้งข้อกล่าวหาต้องคดีอาญาแล้วทางพ.ต.ท.ธนบัตรต้องเข้ารายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชาด้วย
พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าวถึงกระแสข่าวเตรียมออกหมายจับพล.ต.ต.นายหนึ่งจากกรณีเคลื่อนย้ายเสาสัญญาณของตำรวจสื่อสารจากพื้นที่ย่านบางชันมาติดตั้งบนอาคารตึกใบหยกว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ เช่นเดียวกับพ.ต.ท.ที่มีกระแสข่าวออกมา โดยอาจออกหมายเรียกก่อนแล้วแต่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่เป็นไปได้ที่จะออกหมายจับเลย เท่าที่ทราบเป็นกรณีเกี่ยวกับการติดตั้งเสาสัญญาณวิทยุ
ยันเสธ.โต-2 ตร.เผ่นนอกแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีพล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผบช.ส. และพล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผบก.ป. ต้องถูกตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าวว่า ในส่วนของพล.ต.ท.รอยเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเตรียมมารับงานสำคัญที่ผบ.ตร.มอบหมาย ขณะที่พล.ต.ต.อัคราเดชเป็นไปตามที่ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่ามีการปล่อยปละละเลยให้ลูกน้องกระทำความผิด ซึ่งผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบด้วย ส่วนจะมีความผิดตามคำสั่งกรมตำรวจที่ 1212/2537 เรื่องมาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจหรือไม่ต้องขอตรวจสอบอีกครั้ง ส่วนตำรวจทั้ง 2 นายจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่ ต้องดูว่าภารกิจเสร็จตามที่ได้รับมอบหมายแล้ว หรือยัง
เมื่อถามถึงการติดตามตัวอดีตตำรวจและทหารที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. เดชณรงค์กล่าวว่า มีข้อมูลอย่างไม่เป็นทาง การและไม่เป็นเอกสาร โดยได้ยินมาว่านอกจากนายคชาชาต บุญดี อดีตนายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ที่เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ยังพบว่าพล.ต.สุชาติ พรมใหม่ รวมทั้งพ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร อดีตผกก.2 ป. และพ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณเลขา อดีตรองผกก. 2 ป. ที่ถูกออกหมายจับในความผิดตามมาตรา 112 ได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว โดยเชื่อว่าเป็นการเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ และไม่ทราบว่าหนีไปอยู่ด้วยกันหรือไม่ แต่แม้ผู้ต้องหาหลบหนีไปแล้ว ตำรวจยังมั่นใจว่าจะติดตามจับกุมตัวมาได้ จากการพูดคุยกับทีมสอบสวนมีข้อมูลว่าจะขออนุมัติหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนถึงชั้นยศอะไรยังบอกไม่ได้
ไขก๊อกรมช.-ปมราชภักดิ์ บิ๊กตู่เชื่อโด่ง คิดเองได้-ชี้ธค.รู้ผลสอบ ณัฐวุฒิฉุนถูกทหารคุมแจ ลูกเมียไปโรงเรียนยังตาม นายกหารือ'บิ๊กป้อม-หมู' เสธ.โต-2 ตร.เผ่นออกนอก
'เต้น'โวยทหารคุกคาม ตาม'เมีย-ลูก'ถึงโรงเรียน ถ่ายรูปทุกคนเข้า-ออกบ้าน ลั่นครอบครัวไม่กลัว สู้โดยสันติถึงที่สุด 'ประยุทธ์'ให้'อุดมเดช'คิดเองลาออก รมต. เรียก'บิ๊กหมู'หารือด่วนในทำเนียบ
@ 'บิ๊กตู่'ลั่น'โด่ง'คิดเองลาออก
เมื่อเวลา 05.50 น. วันที่ 2 ธันวาคม ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่า ระหว่างไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ได้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวในประเทศอยู่ตลอดเวลา ได้รับทราบทุกเรื่อง ผู้สื่อข่าวถามถึงกระแสกดดันให้ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออกจากตำแหน่งเพื่อรับผิดชอบกรณีโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ก็ไปบอกเขาสิ ไปบอกท่านสิ ก็ว่าไปตามขั้นตอน เดี๋ยวเขาก็คิดเป็นเอง เขาคิดเป็น ไอ้บางคนคิดไม่เป็น กฎหมายยังไม่รับเลยใช่ไหม นี่เดี๋ยวเขาก็คิดเอง ให้เขาตรวจสอบก่อนอย่างมีขั้นตอน ผมไม่ได้ห้ามอะไร ให้เขาตรวจสอบ ให้มันมีขั้นมีตอน แล้วจะเอาไปเทียบกับอีกคดี คดีโน้นมีขั้นมีตอนหรือเปล่า หรืออยู่ดีๆ ก็ไปเอาเขาเข้ามา แล้วทำไมทางนี้ไม่ให้เขามีขั้นตอนบ้างเล่า"
เมื่อถามว่าแสดงว่าต้องการผลการตรวจสอบที่ชัดเจนก่อนใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ก็แล้วแต่เขา เขาต้องพิจารณาของเขา" เมื่อถามว่าหาก พล.อ.อุดมเดชลาออกจะกระทบต่อรัฐบาลหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "จะกระทบอะไรล่ะ" เมื่อถามว่าดูเหมือนฝ่ายตรงข้ามพยายามที่จะเขย่า คสช.มากกว่าต้องการให้ พล.อ.อุดมเดชลาออกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า "ก็พวกคุณไปเขย่าให้เขาทำไม ไม่มีปัญหาหรอก คสช.มีทั้งกองทัพ 4 กองทัพพอไหม"
@ เรียก'บิ๊กหมู'หารือที่ทำเนียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางเข้าทำงานที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ตามปกติ จากนั้นเวลา 10.20 น. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางเข้าพบนายกฯ เป็นการด่วน โดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้า โดยใช้เวลาหารือกันประมาณ 25 นาที ก่อนที่ขบวนรถของ พล.อ.ธีรชัยเดินทางกลับออกจากทำเนียบฯไปอย่างเร่งรีบ โดยไม่ได้สัมภาษณ์แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าพบครั้งนี้เป็นที่จับตาเนื่องจากขณะนี้มีกระแสข่าวกดดันให้รัฐบาลและ คสช.รับผิดชอบโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ โดยให้ พล.อ.อุดมเดชในฐานะประธานคณะกรรมการโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ลาออกจากตำแหน่ง
@ 'บิ๊กป้อม-บิ๊กต๊อก'พบนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงได้เดินทางเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ที่ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อรายงานการดูแลความสงบเรียบร้อยและสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์เดินทางไปต่างประเทศ จากนั้นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจเข้ามารายงานสภาวะด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งกรณีองค์กรการบินพลเรือนของสหรัฐอเมริกา หรือเอฟเอเอ ประกาศลดระดับมาตรฐานการบินพลเรือนไทย จากนั้น พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมเดินทางเข้าพบ คาดว่าทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ไพบูลย์ หารือกันถึงประเด็นปัญหาการทุจริตในโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ มีกระแสกดดันให้ พล.อ.อุดมเดชในฐานะประธานโครงการลาออกจากตำแหน่ง
@ 'บิ๊กช้าง'ชี้สอบราชภักดิ์เสร็จสิ้นปี
ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการอุทยานราชภักดิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบด้วยความโปร่งใส และให้ความยุติธรรมกับทุกคน โดยเริ่มทยอยเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลแล้ว ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งนี้ คณะกรรมการคงไม่ทำงานกันข้ามปี เพราะจะต้องดำเนินการสอบสวนให้เรียบร้อยก่อนสิ้นปีนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการฯ ได้เชิญ พล.อ.อุดมเดชมาสอบถามข้อมูลรายละเอียดการดำเนินการแล้ว และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ได้เชิญ พล.ต.ชูชาติ สุกใส เจ้ากรมการเงินทหารบก มาสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลขทางการเงินแล้วเช่นกัน
@ 'ทบ.'ไฟเขียวให้ข้อมูลทุกหน่วย
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการตรวจสอบโครงการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ว่า กองทัพบกยืนยันถึงความโปร่งใสในการดำเนินโครงการอุทยานราชภักดิ์ และพร้อมสนับสนุนกระบวนการไขข้อสงสัยของสังคม โดยทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการประสานในเรื่องของข้อมูลมาได้ตามช่องทางของทางราชการ เพื่อให้กระบวนการคลี่คลายข้อสงสัยเปิดกว้างมากยิ่งขึ้น สำหรับบางหน่วยงานขอบเขตตามกฎหมายอาจจะไม่ครอบคลุมถึง ก็อาจประสานขอมาได้ตามความเหมาะสมได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ช่วงนี้อยากขอความร่วมมือในการนำเสนอข้อมูลใดๆ ควรอยู่ในกรอบแบบธรรมเนียมมารยาทที่เหมาะสม เพราะไม่อยากให้มีการนำเสนอข้อมูลในลักษณะเป็นการชี้นำด้านความรู้สึก ควรใช้สติรับฟังข้อมูลอย่างมีเหตุผลรอบด้าน ทั้งยังเชื่อว่าใช้เวลาสักระยะหนึ่งข้อสงสัยต่างๆ ก็จะได้รับการคลี่คลายอย่างแน่นอน
@ 'ภูมิธรรม'อัดตรวจสอบช้าเสียหาย
ที่เรือนจำกลางคลองเปรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบโครงการสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่มีการตั้งผู้ใต้บังคับบัญชาขึ้นมาตรวจสอบผู้บังคับบัญชา ว่า เรื่องนี้จะดีหรือไม่ดี คนจะยอมรับหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของผู้มีอำนาจ แต่ไม่มีที่ไหนที่จะตั้งลูกน้องขึ้นมาตรวจสอบเจ้านาย วันนี้อยากให้ดำเนินการโดยเปิดเผย ให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ใครถูกผิดก็ว่ากันไปตามกฎหมาย ไม่มีการปกป้อง ทั้งนี้ ที่เราได้เรียกร้องมา เราไม่ได้ปรักปรำ แต่เราเรียกร้องไปตามข้อเท็จจริง ซึ่งการตรวจสอบก็คงจะขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจว่าจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือเพียงไร แต่ถ้ายิ่งช้า ก็ยิ่งจะเสียหาย
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.อ.อุดมเดชระบุว่า มีคนนั่งยิ้มได้ประโยชน์จากเรื่องที่เกิดขึ้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า ไม่ทราบว่าที่ พล.อ.อุดมเดชพูดหมายถึงใคร แต่เมื่อมีข้อเท็จจริงเกิดขึ้นแล้ว ดำเนินการตรวจสอบว่าใครต้องรับผิดชอบบ้าง ท่านอย่าไปคิดให้ปวดหัวมากเลย
@ ป.ป.ช.โต้ไม่กล้าสอบทหาร
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ว่า ปกติการตรวจสอบเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณเป็นหน้าที่ของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งขณะนี้ สตง.ได้ลงไปตรวจสอบแล้วว่า มีงบอะไรบ้างที่เอาไปใช้ในการดำเนินการครั้งนี้ ขณะที่ ป.ป.ช.เวลานี้ยังไม่ได้รับเรื่องมาดำเนินการไต่สวน เพราะต้องรอข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สตง. กองบังคับการปราบปราม และคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงกลาโหมสรุปก่อน หรืออีกกรณีคือมีผู้มาร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าตั้งแต่มีข่าวนี้ ป.ป.ช.ไม่ได้นิ่งเฉย แต่ได้ดำเนินการในลักษณะของการสืบสวน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สาธารณชนให้ความสนใจ เชื่อว่าทั้งรัฐบาลและหน่วยงานที่มีหน้าตรวจสอบจะทำเรื่องนี้ให้กระจ่างโดยเร็ว
เมื่อถามว่า มีหลายฝ่ายปรามาส ป.ป.ช.ว่าไม่กล้าเข้าไปตรวจสอบทหารจริงหรือไม่ นายสรรเสริญกล่าวว่า ไม่เลย เพราะทุกเรื่องที่ ป.ป.ช.ทำมีหลักเกณฑ์อยู่ หากยังไม่เข้าหลักเกณฑ์ไม่สามารถเข้าไปทำได้ ทุกเรื่องเป็นแบบนี้หมด ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนหรือรัฐบาลไหน เป็นแบบนี้มาตลอด เมื่อถามว่า หาก 3 หน่วยงานสรุปว่ามีทหารเข้าข่าย ป.ป.ช.ก็ฟันไม่เลี้ยงใช่หรือไม่ นายสรรเสริญ กล่าวว่า เราทำตามหน้าที่แน่นอน
@ 'เต้น'เผยคุกคามถึงลูก-เมีย
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช.กล่าวว่า ตลอดเวลาเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา มีทหารในเครื่องแบบขับรถฮัมวี่มาถ่ายรูปที่บ้านทุกวัน แต่หลังจากประกาศว่าจะเดินทางไปอุทยานราชภักดิ์แล้วถูกควบคุมตัวนั้น เมื่อกลับมาบ้านกลับพบว่าการคุกคามโดยกำลังของฝ่ายความมั่นคงยกระดับการใช้อำนาจมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเมื่อคืนวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากที่รถทหารมาส่งถึงบ้านและกลับไป มีรถฮัมวี่และปิกอัพจอดสตาร์ตเครื่องอยู่หน้าบ้านทั้งคืน หลังจากนั้นมีปฏิบัติการที่เห็นชัดว่าวางแผนกันมาอย่างดี
"ตลอด 24 ชั่วโมง หน้าบ้านผมมีรถหลายยี่ห้อจอดสลับกันคันละ 6 ชั่วโมง ในรถมีชายฉกรรจ์ไม่แต่งเครื่องแบบ 2 คนนั่งประจำการ ทุกคนที่เข้า-ออกในบ้านไม่เว้นแม้กระทั่งลูกๆ ผมจะถูกคนกลุ่มนี้ออกมายืนถ่ายรูปอย่างเปิดเผย ล่าสุดเช้าวันนี้ภรรยาผมนั่งรถไปส่งลูกที่โรงเรียนตามปกติ ปรากฏว่ารถคันที่จอดอยู่หน้าบ้านยังอยู่ที่เดิม แต่ส่งสัญญาณให้รถอีกคันขับตามถ่ายรูปรถคันที่ลูกเมียผมนั่งไปตลอดทาง ตามไปจนถึงในโรงเรียน และไปจอดต่อท้ายตอนที่ลูกๆ ผมลงเดินเข้าห้องเรียน จนภรรยาผมต้องเดินเข้าไปต่อว่าและไล่ให้ออกไปจึงยอมขับรถออกจากโรงเรียน ผมไม่อยากเชื่อว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยผู้มีอำนาจ แต่ความจริงคือความจริง และมันเกิดขึ้นกับผมอย่างต่อเนื่องจนลามไปถึงครอบครัว ผมไม่สนว่าใครต้องการอะไร แต่พวกคุณไม่มีวันได้ความหวาดกลัวจากครอบครัวผม คุณมีทั้งอำนาจ ทั้งอาวุธ ผมมีสองมือกับชีวิต จะต่อสู้โดยสันติวิธีอย่างถึงที่สุดกับการคุกคามที่น่ารังเกียจเช่นนี้" นายณัฐวุฒิกล่าว
@ แฉใช้รถ 6 คันชายฉกรรจ์ 12 คน
นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า ปฏิบัติการนี้ทุ่มเททรัพยากรไม่น้อย ใช้รถยนต์ไม่ต่ำกว่า 6 คัน โตโยต้าคัมรีสีดำ สปอร์ตไรเดอร์สีบรอนซ์ วีออสสีขาว ปิกอัพอีซูซุสีน้ำเงิน นิสสันสีบรอนซ์ทอง และเชฟโรเลตสีบรอนซ์ พร้อมทั้งมอเตอร์ไซค์เคลื่อนที่เร็วอีก 2 คัน กำลังไม่ต่ำกว่า 12 คน ตนเคยไปพูดคุยเห็นว่าเป็นลูกชาวบ้านหลานชาวนาเหมือนกัน ก็หาข้าวหาน้ำไปดูแล นี่ไม่ใช่การเมือง ไม่ใช่เกมใต้ดินอะไรทั้งสิ้น แต่เป็นเรื่องที่ผู้ชายคนหนึ่งจะปกป้องลูกเมียและคนในครอบครัว อย่านึกว่าใครจะกลัวอำนาจแบบนี้กันทั้งหมด ตนคนหนึ่งที่ไม่ใช่ ทั้งนี้ แค่เรียกร้องความจริงเรื่องอุทยานราชภักดิ์ มันจะต้องเผชิญการคุกคามถึงขนาดนี้ก็ให้สังคมได้รับทราบไว้
@ โฆษกตร.ยันยังไม่คุมตัว'พตท.'
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ที่ปรึกษา(สบ10) ในฐานะโฆษก ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับขบวนการแอบอ้างสถาบันเบื้องสูงเรียกรับผลประโยชน์ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวนอนุมัติหมายจับ พ.ต.ท.ธนบัตร ประเสริฐวิทย์ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (รอง ผกก.1บก.ปคม.) แล้ว หลังพบว่าได้ร่วมกับ พ.ต.ต.ปรากรม วารุณประภา หรือสารวัตรเอี๊ยดกระทำผิดแอบอ้างหาผลประโยชน์จากบริษัทเอกชนในการสั่งผลิตสิ่งของต่างๆ ขณะนี้ทราบว่ายังไม่มีการควบคุมตัว แต่หลังจากนี้ผู้บังคับบัญชาต้องพิจารณาโทษทางปกครอง อาจพักราชการหรือให้ออกต่อไป
โฆษก ตร.กล่าวถึงกระแสข่าวออกหมายจับ พล.ต.ต.นายหนึ่งจากกรณีเคลื่อนย้ายเสาสัญญาณของตำรวจสื่อสาร จากพื้นที่ย่านบางชันมาติดตั้งบนอาคารตึกใบหยก ย่านประตูน้ำ ว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ เช่นเดียวกับ พ.ต.ท.ที่มีกระแสข่าวออกมา ทั้งนี้ อาจมีการออกหมายเรียกก่อน แล้วแต่ดุลพินิจของพนักงานสอบสวน แต่เป็นไปได้ที่จะออกหมายจับได้เลย เท่าที่ทราบเป็นกรณีเกี่ยวกับการติดตั้งเสาสัญญาณวิทยุ สอดคล้องตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวไปแล้ว แต่ไม่ขอพูดในรายละเอียดตราบใดยังไม่มีเอกสาร
@ ทหาร-ตำรวจถูกหมายจับเผ่นนอก
ผู้สื่อข่าวถามถึงการติดตามตัวอดีตตำรวจและทหารที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าวว่า มีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการ นอกจากนายคชาชาต บุญดี อดีตนายทหารสังกัดกองทัพภาคที่ 3 ที่ออกนอกประเทศไปแล้ว ยังพบว่า พล.ต.สุชาติ พรมใหม่ พ.ต.อ.ไพโรจน์ โรจนขจร อดีต ผกก.2ป. และ พ.ต.ท.ธรรมวัฒน์ หิรัณเลขา อดีตรอง ผกก.2ป.ที่ถูกออกหมายจับในความผิดตามมาตรา 112 หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว เชื่อว่าเป็นการเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ ไม่ได้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและไม่ทราบว่าหนีไปอยู่ด้วยกันหรือไม่ แต่ตำรวจมั่นใจว่าจะติดตามจับกุมตัวมาได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) และ พล.ต.ต.อัคราเดช พิมลศรี ผู้บังคับการปราบปราม (ผบก.ป.) ที่มีคำสั่งให้ช่วยราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ว่าต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบหรือไม่ พล.ต.อ.เดชณรงค์กล่าวว่า ในส่วนของ พล.ต.ท.รอยนั้นเป็นผู้มีความรู้ความสามารถเตรียมมารับงานสำคัญที่ ผบ.ตร.มอบหมาย ขณะที่ พล.ต.ต.อัคราเดชนั้นเป็นไปตามที่ ผบ.ตร.ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่ามีการปล่อยปละละเลยให้ลูกน้องกระทำความผิด ซึ่งตัวเองเป็นผู้บังคับบัญชาก็ต้องรับผิดชอบด้วย ส่วนจะมีความผิดตามคำสั่งกรมตำรวจที่ 1212/2537 เรื่องมาตรการควบคุมและเสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจหรือไม่ต้องขอตรวจสอบอีกครั้ง และตำรวจทั้ง 2 นายจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเดิมหรือไม่ ต้องดูว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นแล้วหรือยังแล้วจึงพิจารณาต่อไป