WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

51ป

ตู่ ถึงยูเอ็น ม็อบเชียร์แห่รับ ปูทำบุญต่อดวง แก้เคล็ด-สู้มาร หัสวุฒิลั่นไม่รับ มติก.ศป.สั่งปลด

       'บิ๊กตู่'ถึงยูเอ็น ม็อบเชียร์แห่รับที่สนามบิน กต.จัดโผปรับย้าย 18 ทูต บิ๊กป้อมปัดโต้'อียู' ย้ำคืนประชาธิปไตยตามโรดแม็ป วิษณุเผย 'มีชัย'ขอคุย'บิ๊กตู่' ก่อนตัดสินใจรับ-ไม่รับนั่งประธานกรธ. 'สุชน'เผยคสช.ทาบนั่งสปท.จริง แต่ขอคุยเพื่อไทยก่อน เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เรียก'ปู'ทำบุญต่อดวง-เสริมบารมี หลังตรวจพบมีมารผจญ จึงคิดพิธีแก้อาถรรพณ์ ต่อองค์พระให้สมบูรณ์ ประชาชนแห่ให้กำลังใจคึกคัก

วันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9068 ข่าวสดรายวัน

ซักซ้อม- พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ร่วมประชุมหารือกับทีมเอกอัครราชทูตและข้าราชการของไทยในสหรัฐ ก่อนเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 

'บิ๊กตู่'ถึงสหรัฐแล้ว
     เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคเนดี นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเวลา 10.45 น. วันที่ 24 ก.ย. (ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งช้ากว่าเวลาประเทศไทย 11 ชั่วโมง) โดยมีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัคร ราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และภริยาให้การต้อนรับ

จากนั้นนายกฯ และคณะได้เดินทางมายังโรงแรมวัน ยูเอ็น นิวยอร์ก เมื่อมาถึงมีคนไทยในสหรัฐ รอให้การต้อนรับ พร้อมแผ่นป้ายให้กำลังใจ โดยมอบหนังสือและมอบดอกไม้ให้พร้อมกล่าวให้กำลังใจ มีบางคนระบุว่า นายกฯเป็นความหวังครั้งสุดท้าย ทำให้พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับอึ้งพร้อมกล่าวติดตลกว่า "ทำให้ผมรู้สึกกดดัน และขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ เพราะทุกคนที่สนับสนุนผมหรือไม่สนับสนุนผม ต่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน"

ร่วมประชุม'ทีมไทยแลนด์'
        ต่อมาเวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมเพื่อมอบนโยบายให้กับทีมประเทศไทย ในสหรัฐ ซึ่งมีทั้งหมด 82 คน เป็นพลเรือน 65 คน และทหาร 17 คน โดยนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กล่าวรายงานถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐและความร่วมมือระหว่างกันว่า มีทิศทางที่ดีขึ้น เป็นสัญญาณทางบวก ดูจากความร่วมมือต่างๆ ที่มีมากขึ้นเกือบเท่าระดับปกติ ทั้งในระดับประชาชนและรัฐบาลท้องถิ่น ภาพลักษณ์ของไทยในสายตาของคนอเมริกัน มองว่าประเทศไทยไม่มีปัญหา และมีความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น 
      ด้านพล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เปิดเผยว่า นายกฯย้ำกับทีมประเทศไทยในสหรัฐว่า ทุกคนคือตัวแทนของประเทศไทย ที่จะดูแลรักษาและช่วยกันผลักดันผลประโยชน์ของคนไทยและประเทศ ไทยในสหรัฐ วันนี้ ประเทศไทยอยู่ระหว่างการเดินหน้าปฏิรูปในทุกด้าน ขอให้ทุกคนช่วยอธิบายและชี้แจงให้ภาคส่วนต่างๆของสหรัฐเข้าใจ เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่เมื่อเหตุการณ์ได้เกิดขึ้นแล้ว พวกเราต้องช่วยกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศ และจากที่พูดคุยกับหลายคน หลายประเทศ ทุกคนต่างก็พอใจ และเข้าใจว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่เพียงระยะเวลาหนึ่ง ต้องไม่นานเกินไป เพียงขอให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ สิ่งที่เป็นตัวชี้วัด คือขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย
     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงค่ำเอกอัคร ราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน และภริยา เป็น เจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯและคณะ

พร้อมร่วมประชุมยูเอ็น
     สำหรับ การประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำ เพื่อรับรองวาระการพัฒนา ภายหลังปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชา ชาติ สมัยสามัญครั้งที่ 70 ในวันที่ 25 ก.ย. เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 3 ทุ่ม ในเวลาประเทศไทย นายกฯจะร่วมรับฟังการกล่าวปราศรัยของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่ General Assembly Hall สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ จากนั้นเป็นพิธีเปิดการประชุมเต็มคณะ การประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนา ภายหลังปี ค.ศ. 2015 
     ในช่วงบ่าย นายกฯ จะกล่าวถ้อยแถลงในการเสวนา Interactive Dialogue 1 หัวข้อ "Ending Poverty and Hunger" และเยี่ยมชมนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการไว้ภายในสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ และช่วงค่ำนายกฯ พบปะผู้แทนระดับสูงจากบริษัทต่างๆ และจากสภาธุรกิจสหรัฐอเมริกา

ห่วงกลุ่มต้านทำภาพพจน์เสีย
     วันเดียวกันโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย แพร่ภาพบันทึกเทปรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยพล.อ. ประยุทธ์กล่าวในรายการตอนหนึ่งว่า ระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย.นี้ ตนไปปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมประชุมสหประชาชาติ (ยูเอ็น) สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา กรณีที่จะมีคนออกมาชุมนุมต่อต้านระหว่างที่ตนปฏิบัติภารกิจนั้น ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล แต่ขอร้องว่าการเดินทางไปของตนครั้งนี้ ไม่ได้ไปในฐานะส่วนบุคคล แต่เป็นตัวแทนของประเทศ ตนเชื่อมั่นว่าทุกคนมีความคิด ปรารถนาดี มีความรักชาติ รักแผ่นดินเหมือนกัน ก็คงไม่ทำในสิ่งที่เสียหายต่อชื่อเสียงของประเทศชาติ ส่วนกลุ่มที่จะออกมาให้กำลังใจก็ขอบคุณ ขอให้ตระหนักว่าทุกอย่างที่แสดงออกมานั้น ถือเป็นหน้าตา เป็นภาพพจน์ของประเทศไทยทั้งสิ้น 
      พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบ ตามกฎหมาย มีสติ ควบคุมอารมณ์ตัวเอง ช่วยดูแลกัน อย่าให้ถูกชักนำไม่ว่าด้วยวิธีใด จนเกิดการกระทบกระทั่งกับกลุ่มที่เห็นต่าง สำหรับภาพลักษณ์ของประเทศไทยนั้นมีความเสียหายมามากพอสมควร ถ้าเรารักประเทศ เราต้องแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเรามีพัฒนาการในสิ่งที่ดีๆ ในปัจจุบันน่าภาคภูมิใจว่าดีขึ้นทุกอย่าง

ย้ำสร้างประชารัฐ
     พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า วันที่ 20 ก.ย. ตนเป็นประธานเปิดเวทีจุดประกาย "สานพลังประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก" เพื่อประกาศการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ "ประชารัฐ" วางเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นทางการ ซึ่งรวมพลังทุกภาคส่วน ประเทศชาติไม่ใช่ของตนหรือของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นของประชาชนทั้ง 70 กว่าล้านคน หรือที่เรียกว่าเป็นประชารัฐ อาจจะไม่ใช่คำว่าประชานิยม ที่ประชาชนให้ความนิยมต่อภาครัฐ แต่เป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับประชาชน ประชานิยมที่มีประโยชน์ยังมีอยู่แต่ต้องไม่สร้างภาระมาก และดำเนินการต่อไปได้เพื่อประชาชน แต่สิ่งใดที่จะเป็นภาระมากๆ อยากให้ใช้คำว่าเป็นประชารัฐดีกว่า จะได้ร่วมมือกันทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาลเป็นผู้อำนวยความสะดวก สนับสนุน เปิดช่องทางให้เอกชน ประชาชน มีส่วนร่วมตามกระบวนการประชาธิปไตย 
    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลนี้ตั้งใจมั่นที่จะดูแลและห่วงใยคนไทยทุกคนอย่างเท่าเทียม รัฐบาลและคสช. คาดหวังจะอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในการที่เราเป็นประชารัฐ ซึ่งประชาชนกับรัฐบาลจะต้องร่วมมือกันเต็มที่ รัฐบาลพร้อมสนับสนุน และมั่นใจว่าปัญหาทั้งหมด ย่อมแก้ไขได้อย่างแน่นอน ถ้าหากร่วมมือกัน ถ้าเราคาดหวังว่าให้บ้านเมืองก้าวหน้าไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป


เสริมดวง- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำบุญเสริมดวง ล้างอาถรรพ์ สู้มารผจญ พร้อมทำพิธีต่อเศียรพระ ตามคำแนะนำของพระครูเจ้าอาวาส ที่วัดศรีบุญเรือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.

กต.จัดโผปรับย้าย'ทูต'
      รายงานข่าวแจ้งว่า กระทรวงการต่างประเทศเตรียมเสนอปรัยย้ายเอกอัครราชทูตหลายตำแหน่ง โดยคาดว่า เรือโทโกเมศ กมลนาวิน ร.น. จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูดาบี, นายทรงพล สุขจันทร์ จะไปเป็นอธิบดีกรมยุโรป, นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ จะไปเป็นอธิบดีกรมเอเชียตะวันออก, นายเกริกพันธุ์ ฤกษ์จำนง จะไปเป็นอธิบดีกรมเอเชียใต้ฯ, นายสุนทร ชัยยินดีภูมิ จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงโดฮา, นายวิชิต ชิตวิมาน จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ประจำกระทรวง
     นายชยพันธ์ บำรุงพงศ์ จะไปเป็นเอกอัคร ราชทูต ณ กรุงมานามา, นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงตริโปลี, นายสาโรจน์ ธนสันติ จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงซันติอาโก, น.ส.พรรณพิมล สุวรรณพงศ์ จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงธากา, นายเจษฎา กตเวทิน จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงมัสกัต, นายณัช ภิญโญวัฒนชีพ จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา
      นายสุชาติ เลียงแสงทอง จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด, น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ จะไปเป็นเอกอัครราชทูต คทถ.จาการ์ตา, น.ส.พัชนี กิจถาวร จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงดิลี, นางสุพัตรา ศรีไมตรีพิทักษ์ จะไปเป็นอธิบดีกรมความร่วมมือฯ, นางนันทนา ศิวะเกื้อ จะไปเป็นเอกอัครราชทูตประจำกระทรวงฯ, นายรัศม์ ชาลีจันทร์ จะไปเป็นเอกอัครราชทูต ณ กรุงมาปูโต

ป้อมชู'บิ๊กตู่'สร้างความสงบ
     ที่องค์การทหารผ่านศึก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกลุ่มคนไทยในสหรัฐเตรียมออกมาต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์ว่า จะให้ทำอย่างไรได้ อยากถ่ายทอดสดก็สดไป คงดำเนินการได้ทางอินเตอร์เน็ต ทั้งนี้ยังไม่มีเครื่องมือใช้ปิดกั้น และนายกฯก็ยังไม่ได้ติดต่อมา
    "ผมไม่ห่วงนายกฯ ท่านเก่ง ความดีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมคุ้มครอง การมีทั้งคนต่อต้านและคนสนับสนุน เป็นเรื่องธรรมดา มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด แต่ขอให้แสดงออกพอเหมาะ อะไรมากน้อยก็ดูเอา ความสงบสุขในเวลานี้ที่เกิดขึ้นใครเป็นคนทำ นายกฯทั้งนั้น และทุกคนก็เห็นว่านายกฯทุ่มเททุกอย่าง คิดว่าทุกประเทศเห็นประเทศไทยมีความสงบก็ชอบ" พล.อ.ประวิตรกล่าว
    เมื่อถามว่า จะเชิญเอกอัครราชทูตคนใหม่ของสหรัฐมาพบหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ตนคงไม่เชิญ ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ถ้าเขาอยากพบตนก็ขอมาเอง ตามหลักแล้วเขาต้องเป็นฝ่ายขอมา

ปัดโต้อียู-ยันคืนแน่ปชต.
     เมื่อถามถึงสหภาพยุโรป หรืออียู ออกแถลงการณ์จี้ให้คืนประชาธิปไตยโดยเร็ว พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เขาก็พูดไป ใครก็อยากให้ประเทศเป็นประชา ธิปไตย ตนก็อยากเช่นกัน แต่เรามีโรดแม็ปขั้นตอนการปฏิบัติที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าทำอย่างไรต้องเป็นประชาธิปไตย ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวก็ระบุไว้ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร ทราบว่าตอนนี้ประเทศไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตย เพราะอยู่ในห้วงการเปลี่ยนผ่าน ไม่ใช่ว่าเราจะเก็บสถานการณ์แบบนี้ไว้ตลอดไป หากขณะนั้นคนไม่ตีกัน ก็เป็นประชาธิปไตย ขณะนี้รัฐบาลและคสช.ทำงานอยู่ ไม่ใช่จะเป็นแบบนี้ตลอดไป
     เมื่อถามถึงความคืบหน้าการคัดเลือกคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) พล.อ. ประวิตรกล่าวว่า มีส่งรายชื่อมามากแต่ยังไม่ได้คัดเลือก รอนายกฯกลับมาก่อน ส่วนที่มีรายชื่อของสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในสปท.นั้น ตนยังไม่เห็นว่าเป็นชื่อใคร จำไม่ได้ ส่วนจะใช่นายสุชน ชาลีเครือ หรือไม่นั้น ไม่ทราบ ตนจำไม่ได้ อย่างไรก็ดีรายชื่อ กรธ.และสปท. ถือเป็นความลับ ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเลือกใครบ้าง ไปเคาะทีละคน สองคน คงไม่ได้ รวมถึงบุคคลที่จะเป็นประธานด้วย เพราะเคาะชื่อยังไม่ได้ รอนายกฯก่อน ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯทาบทาม นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ที่ปรึกษา คสช.นั้น ตนไม่ทราบ ส่วนตัวตนยังไม่ได้ทาบทามใคร
     ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงบุคคลที่จะเข้าร่วมเป็น กรธ.ว่า ขณะนี้ได้รายชื่อบุคคลที่จะมาร่วมเป็น กรธ.บางส่วนแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ คงต้องรอความชัดเจนจากบุคคลนั้นๆ ก่อนว่าจะมาร่วมเป็น กรธ.หรือไม่ ที่สำคัญต้องรอให้พล.อ.ประยุทธ์ พิจารณา และตัดสินใจเป็นขั้นสุดท้าย 

วิษณุเผย'มีชัย'ขอคุยตู่ก่อน
     ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการทาบทามนายมีชัยรับตำแหน่งประธานกรธ. ว่ายังไม่มีอะไรคืบหน้า นายมีชัยทราบเจตนารมณ์ของรัฐบาลแล้วและคิดอยู่ ขณะเดียวกันตนได้ลองดูคนอื่นไปด้วย ส่วนคนที่เกี่ยวข้องหลายคนก็ไปทาบทามคนอื่น ไม่ใช่เฉพาะตัวประธาน สุดท้ายไม่ใช่ว่าหัวหน้าคสช.จะเอาตามที่ทาบทามทั้งหมด เราต้องทาบทามเกิน 21 คน รวมประมาณ 30-40 คน แล้วค่อยมาดูความเหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะคุณสมบัติตามรัฐธรรม นูญเท่านั้น เช่น จะเอากมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญชุดเก่า จะเอาสนช. จะเอาสปช. คนรุ่นเก่ากี่คน รุ่นใหม่กี่คน หรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องของหัวหน้าคสช.จะพิจารณาจากบัญชีทั้งหมด
     นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ดังนั้นจะเปิดเผยชื่อตอนนี้ยังไม่ได้ เพราะหากหัวหน้าคสช.ไม่เลือก ต้องทำให้ละเมียดละไมให้เจ้าตัวเขารู้ตัวแต่ไม่รับปากว่าจะได้ และเขาก็ไม่รับปากว่าจะเอา ซึ่งยอมรับว่าแม้จะทาบทามจำนวนมากก็ยังลำบากใจอยู่ เพราะยังไม่ตอบรับกันทุกคน ยังมีเงื่อนไขต่างๆ อยู่ ทราบว่าสังคมอยากได้คนน่าเชื่อถือ เพื่อให้มีความหวัง แต่มันต้องผสมกันหลายอย่าง หากเอาแบบโลกสวยหมดก็ไม่ได้ โลกร้ายหมดก็ไม่ได้
      เมื่อถามว่านายมีชัยมีท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้ นายวิษณุกล่าวว่า "แบ่งสู้มากกว่าแบ่งรับ แล้วนายมีชัยจะบอกกับนายกฯอีกทีหนึ่งเพราะจะปฏิเสธหรือรับผ่านคนอื่นก็ไม่ดี"

โต้ไม่ง้อพท.ร่วมสปท.
    นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนการสรรหาสมาชิกสปท.นั้น ตนไม่เกี่ยวข้อง แต่ทราบว่าได้มาเยอะพอสมควรแล้ว และมีบางพรรคขนาดเล็กส่งรายชื่อมาให้ตน เลยต้องส่งต่อให้คนที่มีหน้าที่ เพราะใครอยากส่งรายชื่อเป็น สมาชิกสปท. ก็ให้ส่งไปที่คสช.โดยตรง 


ไม่รับมติ- นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล แถลงไม่ยอมรับมติก.ศป.ที่ให้พ้นจากตำแหน่งประธานศาลปกครองสูงสุด ที่ศูนย์ประชุมวายุภักษ์ห้อง 204 โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 25 ก.ย.

      เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยระบุไม่เข้าร่วมเป็นสปท. นายวิษณุกล่าวว่าไม่เป็นไร แต่จะมีหนังสือพิมพ์บางฉบับบอกว่าตนไม่แคร์ ไม่ง้อ ซึ่งไม่ได้หมายความเช่นนั้น อยากจะร่ำไห้ด้วยซ้ำแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อเขาไม่สนใจก็ต้องบอกว่าน่าเสียดาย เพราะเป็นโอกาสเข้ามาเสนอผลักดันเรื่องอะไรได้หลายอย่าง อย่างน้อยเป็นเวทีที่จะพูดอะไรให้ได้ยินทั้งประเทศ

'หัวเขียง-สุชน'ถูกทาบนั่งสปท.
      นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีตส.ส.มหาสาร คาม พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีชื่อไปร่วมนั่งเป็นสปท.ในส่วนของพรรคเพื่อไทยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีใครติดต่อหรือทาบทามตนทั้งนั้น ไม่ว่าจะผู้ใหญ่ในพรรคหรือผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ที่สำคัญในสถานการณ์แบบนี้ ตนไม่ประสงค์เข้าร่วมเป็น สปท.อย่างแน่นอน ขณะเดียวกันพรรคก็มีความเห็นออกมาแล้วว่าจะไม่เข้าร่วม ตนก็งงอยู่เหมือนกันว่ามีชื่อตนไปอยู่ตรงนั้นได้อย่างไร
       นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกระแสข่าวจะไปร่วมเป็นสมาชิก สปท. ว่า ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ใน คสช.ทาบทามให้ไปร่วมเป็นสปท.จริง แต่ตนยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะยังไม่รู้ว่า สปท.มีหน้าที่อะไร จึงยังไม่อยากตอบรับ ที่สำคัญ ต้องขอคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยก่อน เพราะทางพรรคก็ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ส่งใครเข้าร่วมในนามพรรค
      แหล่งข่าวคนใกล้ชิดนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายเรืองไกรยังไม่ขอพูดเรื่องดังกล่าว แต่ประเมินว่าหากมีชื่อจริง ก็ไม่ทราบว่าจะให้ไปทำอะไร ขณะนี้ขอพักผ่อนที่ฮ่องกงกับครอบครัวก่อนเดินทางกลับไทยในช่วงค่ำวันที่ 26 ก.ย.

วิษณุชี้ 30 ก.ย.รู้ตัวเลขฟ้องคดีข้าว
     นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหาย และคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กล่าวถึงการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คดีรับจำนำข้าวว่า ยังไม่คืบหน้า คณะทำงานจะส่งรายงานข้อมูลมาให้ตนในวันที่ 30 ก.ย. เพื่อเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาแล้วส่งให้กระทรวงการคลังฟ้องร้องต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ได้โทรศัพท์และได้คำตอบว่ายังมีเวลาถึงวันที่ 30 ก.ย. ส่วนตัวเลขที่จะฟ้องนั้นมีอยู่แล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผยเพราะเกรงว่าจะผิด
    เมื่อถามว่า มีข่าวว่าจะฟ้อง 5 แสนล้านบาท ในข้อเท็จจริงแล้วมากหรือน้อยกว่านั้น นายวิษณุกล่าวว่า ยังต้องสู้กันอีกหลายศาล บอกตัวเลขไม่ได้ เพราะเวลาจำเลยคัดค้านเขาค้านทั้งอำนาจและจำนวนเงินที่รัฐบาลยื่นฟ้อง สู้ได้ทั้งสองศาล และเชื่อว่ารัฐบาลให้ความเป็นธรรมกับน.ส.ยิ่งลักษณ์แล้ว 

เผยแยก'ปู-บุญทรง'2 คดี

      ผู้สื่อข่าวถามว่าตัวเลข 5 แสนล้านบาทนั้นรวมคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์และคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ คำร้องจะแยกเป็น 2 ประเภทคือ กระทรวงพาณิชย์ เป็นโจทก์ประเภทหนึ่ง กระทรวงการคลัง เป็นโจทก์ประเภทหนึ่ง จำเลยแบ่งเป็นน.ส.ยิ่งลักษณ์และนายบุญทรง กับพวก 5-6 คน ซึ่งการฟ้องแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน 
     เมื่อถามว่าการเรียกค่าเสียหายต้องตรวจข้าวในสต๊อกทั้งหมดให้เสร็จก่อนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในทางกฎหมายเมื่อทราบถึงระดับจำนวนหนึ่งก็ฟ้องได้ ไม่ต้องเทกระสอบนับ ส่วนที่ต้องตรวจข้าวเพื่อประโยชน์ทุกเรื่อง ทั้งการฟ้องคดี การเยียวยา การฟ้องเรียกค่าเสียหาย และดูว่ามีใครที่ต้องรับผิดชอบอีกบ้าง จึงทำทีเดียวเพื่อให้ตัวเลขยุติ เพราะคงไปตรวจสอบทุกเดือนไม่ได้ 

ฟ้องอาญาพิสูจน์ปปช.ถูกหรือผิด
       ผู้สื่อข่าวถามว่า จะนำตัวเลขค่าฝากข้าวที่มีการประกันราคาข้าวไว้แต่ละขั้นตอนโดยมีเซอร์เวเยอร์ดูแลมานับรวมด้วยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตอนนี้ทำบัญชีย่อยแยกไว้แล้ว และบางทีเซอร์เวเยอร์อาจต้องรับผิด
     เมื่อถามถึงข้อสังเกตว่าการดำเนินการของป.ป.ช.อาจไม่ได้ลงลึกในรายละเอียดเหมือนการพิจารณาของศาล รองนายกฯ กล่าวว่า ตรงนี้ถึงต้องนำเรื่องไปฟ้องที่ศาล และเราไม่ขัดข้องที่เรื่องจะไปศาล อย่าลืมว่าคดีที่ไป ศาลมี 2 คดี คือที่ฟ้องศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งฟ้องน.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลยคนเดียว ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กับคดีที่ฟ้องนายบุญทรง กับพวก ประเด็นขายข้าวแบบจีทูจี และยังมีเอกชนที่เกี่ยวข้อง แต่เป็นการดำเนินการโดยกระทรวง ไม่ใช่การรับผิดทางแพ่ง ซึ่งการฟ้องร้องตรงนี้จะพิสูจน์กันว่าการทำงานของ ป.ป.ช.ถูกหรือผิด และอีกส่วนคือการฟ้องแพ่ง ที่ต้องไปที่ศาลปกครอง

แจงเหตุต้องฟ้องเกินไว้ก่อน
      ผู้สื่อข่าวถามว่าหากฝ่ายปฏิบัติประวิงเวลาระบายข้าวออกแล้วบอกว่าขาดทุนตัวเลข ตรงนี้จะพิสูจน์ได้อย่าง นายวิษณุกล่าวว่า โจทก์คือรัฐบาลจะฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่าไรก็ว่าไป เมื่อถึงเวลาก็ต้องสืบพยานและให้ความเป็นธรรมว่าตัวเลขที่แท้จริงคือเท่าไรกันแน่ แต่คงไม่มากกว่าความเป็นจริง สุดท้ายดูว่าความเสียหายเกิดจากใคร 
     "อะไรที่ต้องหักออกไป ผิดที่รัฐบาลไหน ขนาดไหน เพียงใด จำเลยผิดจริงหรือไม่ หากผิดจริงแล้วทำผิดแค่ไหน ซึ่งเราจะไปเอาผิดเกินกว่าที่เขาจะต้องรับผิดไม่ได้ ทั้งนี้ปกติโจทก์จะฟ้องเกินไว้ดีกว่าขาด หากฟ้องแล้วขาด แต่ศาลเห็นว่ามีความเสียหายมากกว่านี้ก็ให้ไม่ได้ เพราะศาลพิพากษาเกินคำขอไม่ได้ แต่ถ้าฟ้องมากแล้วศาลเห็นว่าความเสียหายไม่ถึง ก็อาจให้ไม่ถึงก็ได้ สมัยที่ผมเป็นประธานอนุญาโตตุลาการ ฟ้องร้องกันเป็นหมื่นล้านบาท สุดท้ายจ่ายแค่หลักร้อยล้านเท่านั้น" นายวิษณุกล่าว 

'ปู'ทำบุญวัดศรีบุญเรือง
     ที่วัดศรีบุญเรือง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต นายกฯ และนางเยาวภา วงสวัสดิ์ รวมถึงคนในตระกูลชินวัตร เข้าร่วมในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ พระพุทธรูปสิงห์หนึ่งประทานพร อายุเก่าแก่กว่า 40 ปี จาก อ.ฝาง ที่มีแต่เศียรพระ เข้าประกอบพิธีเพื่อต่อดวง เสริมบารมี ให้แก่น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมนำพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งสีขาวอีกประมาณ 50 องค์ เพื่อนำไปแจกตามวัดต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่ เพื่อเสริมดวง ต่อชะตา และเพื่อความเป็นสิริมงคลของตระกูลชินวัตรต่อไป โดยภายในงานมี อดีตส.ส.และแกนนำพรรคเพื่อไทย รวมทั้งแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงในจ.เชียงใหม่ เข้าร่วมพิธีกันจำนวนมาก
      พิธีเริ่มจาก พระครูสุเทพสิทธิคุณ หรือหลวงพ่อพันเทวา เจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง เกจิอาจารย์ชื่อดังของเมืองเชียงใหม่ นำคณะสงฆ์ร่วมสวดเจริญพุทธมนต์พิธีสืบต่อชะตา เสริมสิริมงคล ก่อนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรับมอบพระพุทธสิงห์หนึ่ง อายุเก่าแก่กว่า 40 ปีไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ และมีพิธีรดน้ำมนต์ 

พระครูสุเทพ ห่วงมีมารผจญ
     หลังเสร็จพิธี ประชาชนชาวเชียงใหม่ที่ทราบข่าวการมาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่างเดินทางมาต้อนรับกันอย่างเนืองแน่น พร้อมพูดให้กำลังใจต่อสู้คดีต่างๆ ที่เผชิญอยู่ ซึ่งน.ส. ยิ่งลักษณ์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายประชาชนด้วยความเป็นกันเอง ทั้งนี้ ยังมีผู้นำเลขทะเบียนรถตู้สีขาว ทะเบียน กอ 5999 เชียงใหม่ ไปหาซื้อเลขเด็ดกันอย่างคึกคัก 
      พระครูสุเทพสิทธิคุณ เปิดเผยว่า เดิมทีทางวัดได้เศียรพระพุทธรูปสิงห์หนึ่งมา อายุเก่าแก่กว่า 40 ปี ทางวัดก็เก็บรักษาไว้พอมาช่วงนี้ตนได้ดูดวง น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็พบว่ามีอาถรรพณ์ มีคนจ้องจองเวรจองกรรม มีมารมาผจญ ตนจึงคิดประกอบพิธีแก้อาถรรพณ์ เสริมบารมี สืบชะตา ต่อดวงชะตา ปัดเป่าล้างมารที่มาผจญ ด้วยการนำเศียรพระมอบให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ไปทำการต่อองค์ให้สมบูรณ์ เมื่อสมบูรณ์แล้วก็มาประกอบพิธีในวันนี้ และนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานที่วัดดอยสุเทพวัดคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่เพื่อเสริมบารมีให้คนในตระกูลชินวัตร ซึ่งจากนี้เภทภัยต่างๆ ที่มีอยู่ก็จะคลายลงจากหนักเป็นเบา จากเบาก็ให้หายไป

ญาติห่วงปปช.ทำคดี 99 ศพโมฆะ
   เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สนามบินน้ำ กลุ่มญาติและครอบครัวผู้เสียชีวิต 99 ศพ จากเหตุการณ์สลายชุมนุมปี 2553 นำโดยนายโชคชัย อ่างทอง ทนายความของกลุ่มญาติฯ พร้อมด้วยนายบรรเจิด ฟุ้งกลิ่นจันทร์ นางเงิน เจียมพล นางพเยาว์ รอดภัย นางนวล ฉายแม้น ยื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. โดยมีนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักการข่าวและกิจการพิเศษ ป.ป.ช.เป็นผู้รับหนังสือแทน
     นายโชคชัย ระบุว่า ตามที่กลุ่มญาติยื่นหนังสือต่อป.ป.ช.ไปเมื่อวันที่ 27 ก.ค. เกี่ยวกับการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯและนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ ในฐานะผอ.ศอฉ. กระทำผิดต่อหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา เกี่ยวกับการสั่งการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระหว่างวันที่ 10 เม.ย.-19 พ.ค. 2553 ทำให้มีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมาก ทั้งที่นายภักดี โพธิศิริ กรรมการป.ป.ช.มีปัญหาขาดคุณสมบัติ แต่กลับปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ตรวจสอบการเข้าดำรงตำแหน่งของนายภักดี แล้วว่าไม่เป็นไปตามกฎหมาย และอยู่ระหว่างการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว พ.ศ. 2557 อีกทั้งการยึดอำนาจของ คสช. มีการประกาศให้รัฐธรรมนูญ ปี 50 สิ้นสุดลง จึงอาจมีผลกระทบถึงพ.ร.บ.ว่าด้วยการป.ป.ช. พ.ศ. 2542 
     นายโชคชัย กล่าวว่า กลุ่มญาติวิตกกังวลอำนาจหน้าที่ของกรรมการป.ป.ช. ในการไต่สวนผู้ถูกกล่าวหา หากเกิดความผิดพลาดขึ้น ย่อมส่งผลเสียหายต่อคดีและกระทบถึงการอำนวยการยุติธรรมให้แก่ผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และญาติของผู้เสียหายจำนวนมาก จึงขอให้ประธานป.ป.ช. ทบทวนการไต่สวนกรณีดังกล่าวให้ถูกต้องตามกฎหมายและป้องกันผลเสียหายที่อาจเกิดขึ้นนั้นด้วย
    นายโชคชัย กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้ไม่ได้มีเจตนาคัดค้านกรรมการคนดังกล่าว แต่เห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของป.ป.ช.ต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยเฉพาะการเข้ารับตำแหน่งต้องชอบด้วยกฎหมาย มิเช่นนั้นส่งผลต่อสำนวนการสอบสวนและการชี้มูลความผิด หลังจากนี้กลุ่มญาติฯ จะยื่นหนังสือให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบต่อไป
     ด้านนายสุทธิ ให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องร้องเรียนดังกล่าว ผู้รับคำร้องสำนวนคดีต้องพิจารณาว่าจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการป.ป.ช.หรือไม่ เพราะกรณีนายภักดี สิ้นสุดแล้ว ตั้งแต่วุฒิสภามีมติไม่ถอดถอนนายภักดีเมื่อปี 2555 แต่อาจทำหนังสือชี้แจงตอบกลับไปยังกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตต่อไป

'หัสวุฒิ'ไม่รับมติก.ศป.สั่งปลด
      เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการฯ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด แถลงไม่ยอมรับมติคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) ที่ลงโทษทางวินัยให้ออกจากราชการ กรณีจดหมายน้อยสนับสนุนตำรวจของนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการศาลปกครองว่า ยืนยันไม่ได้ทำความผิดเนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนมีมติว่าตนไม่ผิด แต่ก.ศป.เชื่อกรรมการเสียงข้างน้อย อ้างว่าตนมีส่วนรับรู้เรื่องดังกล่าว โดยไม่มีพยานหลักฐานอ้างอิงว่ามอบให้นายดิเรกฤทธิ์ดำเนินการ แต่ลงโทษนายดิเรกฤทธิ์สถานเบา จึงเชื่อว่าตนมีส่วนรับรู้เรื่องนี้ ทั้งที่ตนไม่ได้เป็นผู้ลงโทษ อีกทั้งในบันทึกปากคำไม่มีการพาดพิงหรือปรักปรำตน
     นายหัสวุฒิ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องและหลังจากทราบเรื่องจากสื่อก็ดำเนินการตามขั้นตอนทางราชการในการสอบข้อเท็จจริง มติก.ศป.เป็นการมโนเอาเอง คือจะเอาผิดตน จึงขอเรียกร้องให้ก.ศป. แถลงเหตุผลที่ชัดเจนและหลักฐานข้อเท็จจริงอย่างชัดเจนปราศจากข้อสงสัยใดๆ ในการลงโทษ หากไม่ดำเนินการจะกระทบต่อรัฐที่ใช้กฎหมายเป็นหลักพื้นฐานของการปกครองบ้านเมืองอย่างรุนแรง ตนเป็นประธานศาลปกครองสูงสุดยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งหมดความหวังกับองค์กรนี้แล้ว ส่วนจะใช้สิทธิทางกฎหมายอย่างไรนั้น ขอให้สื่อช่วย เพราะในคำสั่งให้ฟ้องศาลปกครอง
       "ผมหมดความเชื่อถือในองค์กรนี้แล้ว ถ้าฟ้องก็คงไม่ปกติ เหมือนมืดแปดด้าน ถ้าอุทธรณ์แล้วตัดสินว่าผมผิด สุดท้ายเท่ากับย้ำว่าการพิจารณาของก.ศป.ถูกต้อง และยังไม่ได้คิดเรื่องยื่นฎีกา รวมทั้งไม่คิดจะขอให้นายกฯใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาเรื่องนี้ ทั้งนี้ ผมพร้อมไปออกรายการทีวีทุกรายการเพื่อชี้แจงเรื่องนี้ ที่ผ่านมาผมทำงานเพื่อทดแทนคุณแผ่นดินมีแต่หนี้สิน เพิ่งซื้อบ้านตอนอายุ 65 ปี กู้ธนาคาร 10 ล้าน ผ่อน 30 ปี พึ่งผ่อนได้ปีเศษ หากตายก็หวังให้ภรรยาอยู่กับลูก แต่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเงินที่ได้จากสินบน ทั้งที่กู้จากธนาคาร สังคมไม่เป็นธรรมกับผมและมีการเสนอสำนักนายกฯ ให้โปรดเกล้าฯ ให้ปลดผมแล้ว" นายหัสวุฒิกล่าวด้วยเสียงสั่นเครือขณะที่พูดถึงการกู้เงินเพื่อซื้อบ้านให้ภรรยา

ครั้งแรกรอบ 51 ปี-นำ 134 ปท. ไทยปธ.จี77 บิ๊กตู่ปลื้มสัมพันธ์มะกันดีขึ้น

ขึ้นเวทียูเอ็นชู"ยุติยากจน'กลุ่ม'หนุน-ต้าน"แห่ชูป้าย 'วิษณุ'ทายใจมีชัยนั่งกรธ. เชื่อแบ่งสู้มากกว่าแบ่งรับ เสียดายพท.ไม่ร่วม'สปท.'

        'บิ๊กตู่'ถึงสหรัฐ กลุ่มหนุนรอต้อนรับถึงโรงแรม บอกเป็นความหวังสุดท้าย ทำนายกฯอึ้งชี้ทำให้กดดัน ดีใจทูตไทยรายงานสัมพันธ์ไทย-สหรัฐมีทิศทางดีขึ้น กลุ่มต้านพร้อมชูป้ายไม่เอาเผด็จการ จี้ปล่อยนักโทษการเมือง

ร่วมถกยูเอ็น -พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมภริยา นางนราพร จันทร์โอชา เดินทางถึงโรงแรม วัน ยูเอ็น นิวยอร์ก เตรียมเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำ ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 กันยายน



       ปธ.กลุ่มจี77 - นายอภิชาติ ชินวรรโณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่ม 77 (จี 77) หรือกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งมีมติให้ไทยเป็นประธานกลุ่ม ในการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 24 กันยายน 

'บิ๊กตู่'ถึงสหรัฐกลุ่มหนุนให้กำลังใจ

      เมื่อวันที่ 25 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจการเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลัง ปี 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23 กันยายน-1 ตุลาคม 2558 ว่านายกฯ พร้อมนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา และคณะ เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ เคเนดี้ นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 24 กันยายน เวลาประมาณ 10.45 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ซึ่งช้ากว่าเวลาในไทย 11 ชั่วโมง โดยมีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนชาวไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก และภริยา ให้การต้อนรับ 

        จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ และคณะ เดินทางมายังโรงแรมวัน ยูเอ็น นิวยอร์ก ซึ่งเป็นที่พัก นอกจากมีข้าราชการระดับสูงกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยราชการไทยต่างๆ ให้การต้อนรับแล้ว ยังมีตัวแทนกลุ่มคนไทยในสหรัฐ นำโดย นพ.ภุชงค์ ศรีเศรษฐนิล นายยุทธนา ลิ้มเลิศวาที และนางไพลิน คำศิริ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนิวยอร์ก มาให้กำลังใจพร้อมมอบหนังสือและช่อดอกไม้ให้ภริยานายกฯด้วย พร้อมระบุว่า นายกฯเป็นความหวังครั้งสุดท้าย ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ถึงกับอึ้ง แต่ก็กล่าวติดตลกว่า "ทำให้ผมรู้สึกกดดัน และขอขอบคุณทุกคนที่มาให้กำลังใจ เพราะทุกคนที่สนับสนุนผมหรือไม่สนับสนุนผม ต่างก็เป็นคนไทยด้วยกัน"

ขอทีมไทยแลนด์ช่วยแจงมะกัน

       จากนั้นเวลา 15.30 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายกฯเป็นประธานการประชุมมอบนโยบายให้กับทีมไทยแลนด์ในประเทศสหรัฐที่โรงแรมวัน ยูเอ็น นิวยอร์ก โดยนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน กล่าวรายงานถึงความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐ และความร่วมมือระหว่างกันว่ามีทิศทางที่ดีขึ้น เป็นสัญญาณทางบวก โดยดูจากความร่วมมือต่างๆ ที่มีมากขึ้นเกือบเท่าระดับปกติ ทั้งในระดับประชาชนและรัฐบาลท้องถิ่น ภาพลักษณ์ของไทยในสายตาของคนอเมริกัน มองว่าประเทศไทยไม่มีปัญหาและมีความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น 

       ขณะที่ พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า นายกฯย้ำกับทีมไทยแลนด์ว่าทุกคนคือตัวแทนของประเทศไทย ที่จะดูแลรักษาและช่วยกันผลักดันผลประโยชน์ของประเทศไทยในสหรัฐ วันนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ระหว่างเดินหน้าปฏิรูปในทุกด้าน ขอให้ทุกคนช่วยอธิบายและชี้แจงให้ภาคส่วนต่างๆ ของสหรัฐเข้าใจเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องที่ทุกคนจะต้องช่วยกันเพื่อขับเคลื่อนประเทศ 

ดีใจสหรัฐเข้าใจไทยมากขึ้น

        พล.ต.วีรชนกล่าวว่า นายกฯระบุด้วยว่าจากที่ได้พูดคุยกับหลายคนหลายประเทศ ทุกคนต่างก็พอใจ และเข้าใจว่ารัฐบาลจะทำหน้าที่เพียงระยะเวลาหนึ่ง ไม่นานเกินไป เพียงขอให้ประเทศสามารถเดินไปข้างหน้าได้ สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดคือ ขณะนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย

     "นายกฯเชื่อว่าทุกหน่วยงานเข้าใจหน้าที่ของตัวเองเป็นอย่างดี ดังนั้นหน้าที่ของรัฐบาลคือ ต้องขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า นายกฯดีใจที่ทราบว่าสหรัฐมีความเข้าใจมากขึ้น ขอยืนยันว่าทุกคน ทุกประเทศ เป็นหุ้นส่วน เป็นพันธมิตร ไม่ใช่คู่แข่งขัน ทุกคนเดินไปพร้อมกัน" พล.ต.วีรชนกล่าว และว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังส่งเสริมการสร้างจิตสำนึกของความเป็นคนไทย จึงได้คิดคำขวัญ "Stronger Together Our home Our country" เพราะแม้นประเทศจะมีความเจริญไปข้างหน้า แต่ต้องไม่ลืมความเป็นไทย

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงค่ำเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน และภริยา เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกฯและคณะ

ถ้อยแถลงยุติจนบนเวทียูเอ็น

      ต่อมาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 25 กันยายน (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่ General Assembly Hall สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่ 70 โดยสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิก กล่าวปราศรัย นับเป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสเสด็จเยือนสหรัฐและกล่าวปราศรัยต่อผู้นำและผู้แทนยูเอ็น 193 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมมากที่สุด โดย พล.อ.ประยุทธ์ร่วมรับฟังด้วย จากนั้นเป็นพิธีเปิดการประชุมเต็มคณะ 

ในโอกาสนี้นายกฯจะกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมกลุ่มย่อยหัวข้อ "Ending Poverty and Hunger" หรือการขจัดความยากจนและหิวโหย โดยจะย้ำบทบาทของไทยในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน มุ่งลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเท่าเทียมโดยอาศัยหลักกฎหมายภายใต้แนวคิดที่จะไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง และเป็นโอกาสในการเผยแพร่แนวทางการพัฒนาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีชมนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งได้จัดแสดงนิทรรศการไว้ภายในสำนักงานใหญ่สหประชาชาติ

ไทยเฮ นั่งประธาน'จี77'ครั้งแรก

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 กันยาย0น ตามเวลาในสหรัฐ ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มจี 77 ครั้งที่ 39 ซึ่งจัดขึ้นที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ณ นครนิวยอร์ก ระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญ ครั้งที่ 70 มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ไทยทำหน้าที่ประธานของกลุ่มจี 77 ในปี 2559 นับเป็นครั้งแรกที่ไทยดำรงตำแหน่งดังกล่าวหลังเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้งจี 77 มาตั้งแต่ปี 2507 หรือกว่า 51 ปี 

       ทั้งนี้ จี 77 ไม่เพียงแต่เป็นองค์กรความร่วมมือระดับรัฐบาลของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่มีสมาชิกรวม 134 ประเทศ แต่ยังเป็นกลุ่มการเจรจาที่ใหญ่สุดในยูเอ็น ซึ่งประเทศกำลังพัฒนาใช้เป็นเวทีในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา รวมถึงส่งเสริมความร่วมมือเหนือ-ใต้ด้วย

'วีรชัย'พร้อมดันจี 77 พัฒนายั่งยืน

      นายอภิชาติ ชินวรรโณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงปารีส ในฐานะผู้แทนพิเศษของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศไทย ยืนยันความพร้อมของไทยต่อที่ประชุมที่จะแสดงบทบาทนำในการสานต่อความร่วมมือระหว่างประเทศกำลังพัฒนา ส่งเสริมผลประโยชน์ และผลักดันสิ่งที่กลุ่มให้ความสำคัญ โดยไทยพร้อมจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างสมาชิกและระหว่างกลุ่มประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ก่อนให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมาว่าทุกประเทศมีความมั่นใจว่าไทยสามารถทำหน้าที่ประธานที่จะประสานและผลักดันผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาได้ 

       เมื่อถามว่าการรับหน้าที่นี้จะส่งผลดีต่อการลงสมัครชิงเก้าอี้สมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นของไทยหรือไม่ นายอภิชาติกล่าวว่า ถ้าประสบความสำเร็จในการทำหน้าที่ และทำให้ประเทศต่างๆ เห็นศักยภาพของไทยในการรักษาผลประโยชน์ของกลุ่มได้ ก็แน่นอนว่าย่อมส่งผลดีต่อการหาเสียงของไทย

        ขณะที่นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำยูเอ็น ณ นครนิวยอร์ก ซึ่งจะรับหน้าที่ประธานของกลุ่มจี 77 กล่าวว่า ไทยไม่ได้นำกลุ่มจี 77 มาเป็นตัวประกันเพื่อสนองประโยชน์ แต่ทำงานเพื่อประโยชน์ของทุกชาติในโลกเท่าที่จะทำได้ การเป็นประธานกลุ่มเป็นโอกาสที่จะแสดงความรับผิดชอบของไทยในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง โดยมีเป้าหมายคือการพัฒนาที่ยั่งยืนและสานต่อความร่วมมือกับทุกประเทศ ไทยมองว่ากลุ่มจี 77 เป็นเครื่องมือให้ประเทศต่างๆ ในโลกร่วมมือกันโดยจะใช้เอกลักษณ์ของคนไทยที่มีความยืดหยุ่น เกื้อกูล และนุ่มนวลเป็นแนวทางในการทำงาน

กลุ่มต้านพร้อม-เชื่อ'ปวิน'ร่วมด้วย

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมทั้งที่สนับสนุนและต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์นั้น แหล่งข่าวจากผู้ประสานงานกลุ่มเรด นิวยอร์ก กล่าวว่า ทางกลุ่มระดมคนทั่วสหรัฐ บางส่วนจากแคนาดาและยุโรป ราว 80-100 คน เพื่อรวมตัวประท้วงที่หน้าสำนักงานใหญ่ยูเอ็นในวันที่ 25 กันยายน (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยทางการสหรัฐจัดสถานที่ชุมนุมไว้ให้ที่บริเวณหัวมุมถนนหมายเลข 47 ตัดกับถนนหมายเลข 1 ตั้งแต่เวลา 11.00-17.00 น. ผู้ชุมนุมของกลุ่มมาจากหลากหลายสาขาอาชีพ และคาดว่านายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ จะมาปรากฏตัวด้วย ยืนยันว่าการชุมนุมจะเป็นไปโดยสงบ จะแจกแถลงการณ์ ชูป้าย และแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อแจ้งให้ทราบถึงเจตนาของกลุ่มที่ต่อต้านระบอบเผด็จการทหารในประเทศไทย และจะเรียกร้องให้ปล่อยนักโทษการเมือง และละเว้นการนำพลเรือนขึ้นดำเนินคดีในศาลทหาร ทางกลุ่มไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครื่องขยายเสียงแต่อย่างใด 

กลุ่มหนุนระดมพลเชียร์"บิ๊กตู่"

      ด้านนางไพลิน คำศิริ ผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนิวยอร์ก กล่าวว่า ทางกลุ่มระดมคนจากทั่วสหรัฐประมาณ 400 คน ทั้งหมอ นักวิชาการ นักธุรกิจจากเมืองสำคัญของสหรัฐ เช่น ลอสแองเจลิส วอชิงตัน ดี.ซี. บอสตัน มาชุมนุมกันที่หน้าสำนักงานใหญ่ยูเอ็น โดยได้รับอนุญาตให้ชุมนุมได้ในวันที่ 25-26 กันยายน เวลา 10.00-17.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เพื่อแสดงการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์

      "เราต้องการแสดงให้โลกเห็นว่า ผู้นำที่ว่าเผด็จการนี้ดีกว่ารัฐบาลจากการเลือกตั้งอย่างไร โดยจะมีแจกแถลงการณ์ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว อาจมีร้องเพลงและชูป้ายเท่านั้น เพราะตำรวจนิวยอร์กไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องขยายเสียงและให้ชุมนุมอยู่ในความสงบ" นางไพลินกล่าว

       เมื่อถามว่า เกรงว่าจะมีการปะทะกับกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลหรือไม่ เพราะชุมนุมในเวลาสถานที่เดียวกัน นางไพลินกล่าวว่า ทางกลุ่มให้การรับรองต่อตำรวจนิวยอร์กว่าจะไม่มีการปะทะกันเด็ดขาด เราจะต่างคนต่าง

      แสดงความเห็นของตัวเองไป ในความเป็นจริงเราก็ต่างรู้จักกันและเคารพความคิดเห็นของกัน จึงไม่มีความจำเป็นอะไรจะต้องมาทะเลาะกัน

'บิ๊กป้อม'ไม่ห่วงกลุ่มต้าน'บิ๊กตู่'

       ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีกลุ่มต่อต้านนายกฯ จะถ่ายทอดสดจากเมืองนิวยอร์กมาไทยว่า ตนจะทำอะไรได้ ถ้าเขาถ่ายทอดสดก็ถ่ายไป เพราะเป็นการถ่ายทอดสดผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ไปปิดกั้นไม่ได้ 

       เมื่อถามว่าเป็นห่วงนายกฯหรือไม่ที่เดินทางไปสหรัฐ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "ผมไม่ห่วง เพราะนายกฯเป็นคนเก่ง ดังนั้นความดีจะคุ้มครอง แถมยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองด้วย ส่วนคนไทยที่มาต่อต้านนั้น ผมมองว่าคนไทยที่มาสนับสนุนก็มี เป็นธรรมดา ไม่มีใครชอบทุกคนหรอก อยากขอให้ดูว่าเวลานี้ความสงบเรียบร้อยในประเทศเกิดขึ้นเพราะนายกฯเป็นคนทำ คนไทยส่วนใหญ่รู้สึกโอเค ผมก็คิดว่าประเทศต่างๆ ที่เห็นบ้านเราสงบคงชอบ"

      เมื่อถามว่า จะเชิญเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทยคนใหม่มาพูดคุยหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวต่อว่า "ผมไม่เชิญ ปล่อยให้เขาทำหน้าที่ของเขา ส่วนผมก็ทำหน้าที่ของผม ถ้าเขาอยากพบคงประสานมาเอง"

เมิน'อียู'จี้คืนปชต.-ย้ำยึดโรดแมป

       พล.อ.ประวิตรกล่าวถึงกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ออกแถลงการณ์ให้ไทยเร่งคืนประชาธิปไตยว่า เป็นเรื่องธรรมดา ใครก็อยากให้มีประชาธิปไตย ตนก็อยากให้เป็นด้วย แต่ตอนนี้ประเทศมีโรดแมปและมีขั้นตอนการปฏิบัติ ถ้าไม่เข้าใจก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร 

ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) กล่าวถึงกรณีที่อียูออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลเปิดให้มีการแสดงความคิดเห็นมากขึ้นว่า คสช.เปิดเวทีต่างๆ เพื่อให้แสดงความคิดเห็นอยู่แล้ว ทุกอย่างยึดหลักกฎหมายและสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด 

      เมื่อถามถึงองค์กรต่างชาติออกมากดดัน คสช.นั้น พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า คงไม่พูดถึงตรงนั้น เพียงแต่ต้องทำอย่างไรให้สถานการณ์บ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย และต้องเชื่อมั่นกันเองว่าต้องเดินด้วยความมั่นคงและยึดหลักกฎหมาย 

       พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า สำหรับการดำเนินการกับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ขัดคำสั่ง คสช. ออกมาเดินขบวนเมื่อ 19 กันยายนที่ผ่านมานั้น ตนไม่อยากให้พูดกันว่าจะเอาผิดย้อนหลัง เพราะจะถูกตีความไปต่างๆ นานา แต่ยืนยันทุกคนต้องเคารพกฎหมาย ถือเป็นเรื่องสำคัญ มีเจ้าหน้าที่พูดคุยกับกลุ่มประชาธิปไตยใหม่อยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล 

'ปึ้ง'แนะ'บิ๊กตู่'แจงข้อกังขาที่เวทียูเอ็น

      นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กรณีที่อียูแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลทหารเคารพเสรีภาพและการชุมนุมโดยอิสระและคืนประชาธิปไตยให้กับประชาชนนั้น รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ในเวทีโลกที่ไปร่วมประชุมยูเอ็นเป็นอย่างยิ่ง ต้องรีบชี้แจงข้อกังขาต่างๆ โดยเร็ว เพื่อให้เขาเกิดความเชื่อมั่น เพราะเกรงว่าจะหนีไม่พ้นที่จะได้ใบแดงจากอียู เรื่องการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และอาจอยู่ในเทียร์ 3 ต่อไปในรายงานการค้ามนุษย์ของประเทศสหรัฐในปีหน้าก็ได้ 

      นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายกฯต้องรีบให้กระทรวงการต่างประเทศล็อบบี้ขอพบหารือกับผู้นำกลุ่มประเทศอียู และประเทศยักษ์ใหญ่ที่เป็นประเทศประชาธิปไตยให้ได้ ช่วงที่ท่าน

      นายกฯเข้าแถวรอคิวเข้าไปถ่ายรูปเพื่อจับมือกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ในงานเลี้ยงรับรองนั้น หวังว่านายกฯคงจะใช้ช่วงเวลาอันน้อยนิดอธิบายให้นายบารัคเข้าใจได้ทันเวลา เพราะเขาจะให้เพียงแค่เดินเข้าไปแล้วถ่ายรูปแล้วก็ต้องรีบออก ที่น่ากังวลอย่างมากคือเขาจะไม่ยอมให้ พล.อ.ประยุทธ์เข้าพบและหารือ ต้องใช้ฝีมือท่านทูตจากวอชิงตันเพราะท่านเป็นคนเก่งในเรื่องล็อบบี้

'วิษณุ'เผย'มีชัย'แบ่งสู้นั่งปธ.กรธ.

       ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการทาบทามนายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. ให้รับตำแหน่งประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่า ยังไม่มีอะไรคืบหน้า นายมีชัยทราบถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลแล้ว โดยกำลังคิดอยู่ ระหว่างนี้ก็ลองดูคนอื่นพลางๆ ตอนนี้ก็มีหลายคนที่ไปทาบทามบุคคลต่างๆ อยู่ ไม่ใช่เฉพาะตัวประธาน และไม่ใช่ว่าหัวหน้า คสช.จะเอาตามที่มีการทาบทามทั้งหมด เพราะต้องทาบทามเกิน 21 คน ส่วนตัวได้ทาบทาม 6-7 คน บางคนก็ 10 กว่าคน รวมไปรวมมาก็ประมาณ 30-40 คน 

       นายวิษณุ กล่าวว่า เมื่อได้รายชื่อทั้งหมดก็ค่อยมาดูถึงความเหมาะสม ไม่ใช่เฉพาะคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น เช่น จะเอาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญชุดเก่า จะเอาสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะเอาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คนรุ่นเก่ากี่คน รุ่นใหม่กี่คน หรือไม่อย่างไร เป็นเรื่องของหัวหน้า คสช.ที่จะพิจารณาจากบัญชีทั้งหมด ดังนั้นจะเปิดเผยชื่อตอนนี้ไม่ได้ เพราะถ้าหัวหน้า คสช.ไม่เลือกก็จะเสียหาย จึงต้องทำให้ละเมียดละไม ให้เจ้าตัวเขารู้ตัวสักนิด แต่ไม่รับปากว่าจะได้ และเขาก็ไม่รับปากว่าจะเอา แม้จะทาบทามจำนวนมากก็ยังลำบากใจอยู่ เพราะยังไม่ตอบรับกันทุกคน ยังมีเงื่อนไขต่างๆ อยู่ เมื่อถามย้ำว่า ที่นายมีชัยแบ่งรับแบ่งสู้คืออย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า "แบ่งสู้มากกว่าแบ่งรับ แล้วท่านจะบอกกับนายกฯอีกทีหนึ่ง เพราะจะปฏิเสธหรือรับผ่านคนอื่นก็ไม่ดี"

เสียดาย'พท.'ไม่ส่งคนนั่ง'สปท.'

       เมื่อถามว่า สังคมอยากให้เอาคนที่น่าเชื่อถือมาเป็น กรธ. นายวิษณุกล่าวว่า ทราบว่าสังคมอยากได้คนน่าเชื่อถือ ทำให้มีความหวังในสังคม แต่มันต้องผสมกันหลายๆ อย่าง หากเอาแบบโลกสวยหมดก็ไม่ได้ โลกร้ายหมดก็ไม่ได้ ส่วนการสรรหาสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) นั้น ตนไม่เกี่ยวข้อง แต่ทราบว่าขณะนี้ได้มาเยอะพอสมควรแล้ว มีคนดูอยู่ และมีบางพรรคการเมืองขนาดเล็กส่งรายชื่อมาให้ตน เลยต้องส่งต่อไปให้คนที่มีหน้าที่ ใครอยากจะส่งรายชื่อเป็น สปท.ก็ให้ส่งไปที่ คสช.โดยตรง

      เมื่อถามกรณีพรรคเพื่อไทย (พท.) ยืนยันว่าไม่ร่วมเป็น สปท. นายวิษณุกล่าวว่า ก็ไม่เป็นไร แต่ก็จะมีหนังสือพิมพ์บางฉบับบอกว่าตนไม่แคร์ ไม่ง้อ ซึ่งไม่ได้หมายความเช่นนั้น อยากจะร่ำไห้ด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร เมื่อเขาไม่สนใจก็ต้องบอกว่าน่าเสียดาย เพราะเป็นโอกาสที่จะเข้ามาผลักดันเรื่องอะไรได้หลายอย่าง อย่างน้อยก็เป็นเวทีที่จะพูดอะไรออกมาให้ได้ยินทั้งประเทศ

      พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการสรรหา กรธ.และ สปท.ว่า ตอนนี้มีรายชื่อส่งมาให้จำนวนมาก แต่ยังไม่ได้คัดเลือก ต้องรอนายกฯกลับมาพิจารณาด้วยตนเอง 

       เมื่อถามว่ามีชื่อนายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา และอดีตที่ปรึกษา น.ส.ยิ่งลักษณ์ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็น สปท.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่ทราบ จำไม่ได้ ยังนึกไม่ออก ทั้งนี้ การคัดเลือก กรธ.และ สปท.เป็นความลับ 

'สุชน-เรืองไกร'ยังกั๊กนั่ง'สปท.'

       นายสุชน ชาลีเครือ อดีตประธานวุฒิสภา กล่าวว่า ยอมรับว่ามีผู้ใหญ่ใน คสช.ทาบทามให้ไปร่วมจริง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจ เพราะยังไม่รู้เลยว่า สปท.มีหน้าที่อะไร จึงยังไม่อยากตอบรับ ที่สำคัญคงต้องขอคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทย (พท.) ก่อน เพราะพรรคยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ส่งใครเข้าร่วมในนามพรรค พท.

แหล่งข่าวคนใกล้ชิดนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรค พท.ที่ถูกทาบทามอีกคน กล่าวว่า นายเรืองไกรยังไม่ขอพูดอะไรในเรื่องดังกล่าว ขณะนี้ขอพักผ่อนที่ต่างประเทศกับครอบครัวเป็นการส่วนตัวก่อน

       นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. และอดีตรองประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กล่าวถึงกรณีมีชื่อไปร่วมนั่งเป็น สปท.ในส่วนของพรรค พท.ว่า พรรค พท.มีความเห็นแล้วว่าจะไม่เข้าร่วม และยังไม่ได้มีใครติดต่อตนมา ก็งงอยู่เหมือนกันว่ามีชื่อได้อย่างไร ขอยืนยันว่าไม่มีคนมาทาบทามหรือมาคุยกับตน ไม่ว่าจะผู้ใหญ่ในพรรคหรือผู้ใหญ่ในบ้านเมือง แต่สถานการณ์แบบนี้ก็ไม่ประสงค์จะไปเข้าร่วม

'ตู่'ติง'สุชน-หัวเขียง'อย่าสนลู่ลม

      นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกลผ่านยูทูบ ตอนหนึ่งถึงกรณีนักการเมืองพรรค พท.มีชื่อเข้าไปร่วมเป็น สปท. ตามการอ้างของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค พท. และนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรค พท. ยืนยันชัดเจนว่าพรรคไม่ส่งคนร่วมเป็น สปท.ว่า ขอให้บุคคลทั้งสองช่วยแสดงความต้องการให้ชัดเจนด้วย ส่วนนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ที่เคยมีชื่อเข้าร่วม สปท. เมื่อพรรคแสดงจุดยืนไม่ส่ง ก็ไม่ไปร่วมและปฏิบัติตามกติกาของพรรคแล้ว 

     "นายเรืองไกรปฏิเสธแล้วชัดเจน นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ไม่เคยมีชื่อ มีโผล่มาก่อนมีโผได้ยินมาเมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา พรรคยังเช็กไม่ได้เด็ดขาด ช่วยแสดงตนหน่อย นายสุชน ชาลีเครือ ที่กำลังคลุมเครืออยู่ช่วยแสดงตนหน่อย ถ้าไปก็บอกว่าไป อย่าให้พรรคพวกยุ่งยากลำบากใจ โดยส่วนตัวไม่มีอะไรกัน เมื่อคิดไม่รอบด้าน ท่านไปก็เป็นสิทธิของท่าน แต่ต้องเข้าใจว่ากติกา นปช.ชัดเจน กติกาพรรคเพื่อไทยชัดเจน" นายจตุพรกล่าว 

     นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าไม่รู้จักว่าอะไรควรหรือไม่ควรแล้วจะเป็นบทเรียนที่สำคัญ เพราะเป็นเรื่องความรู้สึก การเข้าไปเป็น สปท.จะมาให้เหตุผลกับประชาชนภายหลังอย่างไร ยากที่ประชาชนจะเข้าใจ ประเภทที่คิดว่าวันหน้ามาขอโทษประชาชนว่าผิดไปแล้ว และประชาชนจะให้โอกาสแต่เรื่องนี้ประชาชนไม่อาจจะรับได้ ใครไปก็ต้องส่งผลต่อพี่น้อง ต่อครอบครัว เพราะประชาชนมีความรู้สึกว่าพวกนี้มันเห็นแก่ได้ เมื่อประชาชนรู้สึกกันอย่างนี้ ถามว่าพรรคไหนจะกล้าส่งบ้าง ฉะนั้นถ้าทำอะไรไม่ได้ เพียงแค่รักษาจุดยืนไว้เท่านั้นเป็นพอ แต่ไม่ใช่เป็นสนลู่ลม 

ชทพ.รอ"เติ้ง"เคาะส่ง2คนนั่ง'สปท.'

      นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงสัดส่วนพรรค ชทพ.ที่จะไปนั่งใน สปท.ว่า ตนหารือกับนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรค ชทพ. ถึงเรื่องดังกล่าว หลังผู้แทนรัฐบาลประสานขอความร่วมมือมายังนายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค ชทพ.แล้ว หลังจากหารือกันระหว่างนายบรรหารกับสมาชิกพรรค ชทพ. คาดว่าจะส่งรายชื่อสมาชิกพรรคไป 2 คน แต่ยังไม่ได้ระบุตัวคนที่แน่ชัด ต้องรอให้นายบรรหารและนายธีระสอบถามความพร้อมบุคคลดังกล่าวก่อน 

      "นายบรรหารไม่ได้ขัดข้องอะไร เพราะถือเป็นการช่วยบ้านเมือง หากเขาติดต่อมาก็พร้อมสนับสนุนเพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศ แต่ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ ในพรรคมีนักการเมืองที่มีประสบการณ์จำนวนมากทั้งหัวหน้าพรรค นายนิกร จำนง นายประภัตร โพธสุธน นายจองชัย เที่ยงธรรม แต่เมื่อพรรคส่งชื่อไปก็ไม่รู้ว่าเขาจะเลือกหรือไม่เลือกคงตอบไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับนายกฯและหัวหน้าคสช.จะเป็นผู้พิจารณา" นายสมศักดิ์กล่าว

สพม.ชง'ธีรภัทร์'นั่งทั้ง'กรธ.-สปท.'

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพัฒนาการเมือง (สพม.) มีประชุมคณะกรรมการกิจการสภาพัฒนาการเมือง วาระพิเศษ เพื่อพิจารณาการเสนอรายชื่อสมาชิก สพม.เป็นผู้แทนใน กรธ.และ สปท. ต่อหัวหน้า คสช. โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเสนอรายชื่อผู้แทนสมาชิก สพม.เพื่อเป็น กรธ. ได้แก่ นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธาน สพม. และผู้แทนสมาชิก สพม.เพื่อเป็น สปท. ได้แก่ 1.นายธีรภัทร์ 2.นายสมาน ฟูแสง รองประธาน สพม. 3.นางสุจิตรา สุทธิพงศ์ 4.นายกฤษฎา ให้วัฒนานุกูล 5.พล.ต.หญิงอุษณีย์ เกษมสันต์ 6.นายเวกวรพันธ์ ฉ่ำสันเทียะ 7.นายชาติชัย อุดมกิจมงคล และ 8.นายเจษฎา มิ่งสมร

'ปู'ทำพิธีต่อเศียรองค์พระสิงห์

       ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงใหม่ ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ พร้อมนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ หรือเจ๊แดง อดีต ส.ส.เชียงใหม่ นางมณฑาทิพย์ โกวิทเจริญกุล หรือแป๋ว พี่สาว เดินทางไปวัดศรีบุญเรือง ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เพื่อทำพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์ พระสิงห์ 1 ปางประทานพร อายุกว่า 40 ปี ที่มีแต่เศียรพระ เข้าประกอบพิธีเพื่อสืบชะตา เสริมบารมี เป็นสิริมงคล น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมกับพระสิงห์ 1 สีขาว หน้าตักกว้าง 16 นิ้ว จำนวน 50องค์ มีพระครูสุเทพสิทธิคุณ หรือหลวงพ่อพันเทวาเจ้าอาวาสวัดศรีบุญเรือง พร้อมพระสงฆ์ 6 รูปทำพิธี ก่อนนำไปประดิษฐานตามวัดทั่วเมืองเชียงใหม่ มีนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกฯ นายวิทยา ทรงคำ นายนพคุณ รัฐผไท อดีต ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ด.ต.พิชิต ตามูล แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เชียงใหม่พร้อมประชาชนและเสื้อแดงร่วมกว่า 100 คน 

    ทั้งนี้ หลังเสร็จพิธี น.ส.ยิ่งลักษณ์ทักทายผู้มาร่วมงาน ขณะที่ผู้มาร่วมงานต่างให้กำลังใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์สู้คดีต่างๆ พร้อมมอบดอกกุหลาบ พวงมาลัย ก่อนถ่ายรูปเป็นที่ระลึก จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์นำพระสิงห์ปาง 1 ประทานพร ขึ้นรถตู้สีขาว ทะเบียน กอ 5999 เชียงใหม่ เพื่อนำไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร 

       พระครูสุเทพสิทธิคุณกล่าวว่า เดิมวัดมีเศียรพระสิงห์ 1 ปางประทานพรเก็บรักษาไว้ที่วัดมานานกว่า 40 ปีแล้ว หลัง น.ส.ยิ่งลักษณ์มาทำบุญที่วัด และได้ดูดวงพบว่ามีอาถรรพ์ เจ้ากรรมนายเวร และมารผจญจึงนำเศียรพระดังกล่าวมาให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ทำพิธีต่อเศียรเข้ากับองค์พระให้สมบูรณ์ พร้อมสืบชะตา เสริมบารมี เพื่อสะเดาะเคราะห์ ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย ก่อนนำไปถวายและประดิษฐานที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร เพื่อคลายสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี จากหนักเป็นเบา จากเบาเป็นไม่มี

'วิษณุ'รอ 30 ก.ย.เคาะแพ่งจำนำข้าว 

      ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ในฐานะคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและกำหนดค่าความเสียหาย และคณะกรรมการว่าด้วยการรับผิดทางแพ่งคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าว กล่าวถึงความคืบหน้าการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีต

นายกฯ ว่ากำหนดวันที่คณะทำงานจะต้องส่งรายงานข้อมูลมาให้ตนเพื่อเสนอให้นายกฯพิจารณาคือวันที่ 30 กันยายน เพื่อส่งให้กระทรวงการคลังดำเนินการฟ้องร้องต่อไป เมื่อวันที่ 24 กันยายนที่ผ่านมา โทรศัพท์ไปสอบถามและได้คำตอบว่ายังมีเวลาจนถึงวันที่ 30 กันยายน ส่วนตัวเลขที่จะฟ้องนั้นมีอยู่แล้วแต่ยังไม่ขอเปิดเผย

     "วันนี้เราไม่ได้พูดเรื่องนโยบายใดว่าถูกหรือผิด นอกจากที่มีการวิจารณ์กันตามหน้าหนังสือพิมพ์เป็นประเด็นวิชาการ ประเด็นเศรษฐกิจ แต่กำลังพูดว่าท่ามกลางสิ่งที่ดำเนินการนั้นทำให้เกิดอะไรขึ้น คำตอบคือเกิดการทุจริตและรั่วไหล รัฐบาลระวังที่จะไปพูดถึงเรื่องนโยบาย เรื่องความชัดเจนในการดำเนินการนั้นใช้อารมณ์ไม่ได้ เมื่อองค์กรที่มีอำนาจคือ ป.ป.ช. (คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ตั้งเรื่องมา ใครไม่ทำอะไรต่อก็จะมีความผิด ต้องทำต่อ" นายวิษณุกล่าว

แย้มฟ้อง 2 คดีรวม 5 แสนล้าน

     เมื่อถามว่า มีข่าวว่าจำนวนเงินที่จะฟ้องร้องประมาณ 5 แสนล้านบาท ในข้อเท็จจริงแล้วมากหรือน้อยกว่านั้น นายวิษณุกล่าวว่า ยังต้องสู้กันอีกหลายศาล บอกตัวเลขไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ยื่นร้องคัดค้านต่อศาลปกครอง แต่ศาลเห็นว่าการฟ้องร้องของรัฐบาลชุดนี้ถูกต้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องจ่ายค่าเสียหายทันทีหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ต้องดูว่าจำนวนเท่าใดด้วย เพราะเวลาจำเลยคัดค้านเขาต้องค้านทั้งอำนาจและจำนวนเงินที่รัฐบาลยื่นฟ้อง สามารถสู้ได้ทั้งสองศาล 

     เมื่อถามว่า ตัวเลข 5 แสนล้านบาท ที่จะยื่นฟ้องนั้นรวมคดีของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และคดีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กับพวกใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ใช่ โดยคำร้องจะแยกเป็น 2 ประเภท คือ กระทรวงพาณิชย์เป็นโจทก์ประเภทหนึ่ง และกระทรวงการคลังเป็นโจทก์อีกประเภทหนึ่ง จำเลยแบ่งเป็น น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบุญทรง กับพวก การฟ้องแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน 

แจงฟ้องแพ่งเกินดีกว่าขาด

     เมื่อถามว่า ต้องตรวจข้าวในสต๊อกทั้งหมดให้เสร็จก่อนจึงจะเรียกค่าเสียหายได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ในทางกฎหมายเมื่อทราบถึงระดับจำนวนหนึ่งก็สามารถฟ้องได้ไม่ต้องเทกระสอบนับ ส่วนที่ต้องตรวจข้าวเพื่อประโยชน์สำหรับทุกเรื่องทั้งการฟ้องคดี การเยียวยา การฟ้องเรียกค่าเสียหาย และดูว่ามีใครที่ต้องรับผิดชอบอีกบ้าง จึงทำไปเสียทีเดียวเพื่อให้ตัวเลขยุติ เพราะคงไปตรวจสอบทุกเดือนคงไม่ได้ เมื่อถามถึงกรณีที่มีการนำตัวเลขค่าฝากข้าวมานับรวมทั้งที่มีการประกันราคาข้าวไว้แต่ละขั้นตอน โดยที่มีเซอร์เวเยอร์ดูแล นายวิษณุกล่าวว่า ตอนนี้มีการทำบัญชีย่อยแยกเอาไว้แล้ว บางทีเซอร์เวเยอร์อาจต้องรับผิด

      เมื่อถามว่า หากฝ่ายปฏิบัติประวิงเวลาระบายข้าวออก แล้วบอกว่าขาดทุนตัวเลข ตรงนี้จะพิสูจน์ได้อย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่เป็นไร โจทก์คือรัฐบาลจะฟ้องเรียกค่าเสียหายเท่าไรก็ว่าไป เมื่อถึงเวลาก็ต้องสืบพยานและให้ความเป็นธรรมว่าตัวเลขที่แท้จริงคือเท่าไรกันแน่ แต่คงไม่มากกว่าความเป็นจริง เพราะสุดท้ายต้องดูว่าความเสียหายเกิดจากใคร อย่างไร แล้วอะไรที่ต้องหักออกไป ผิดที่รัฐบาลไหน เพียงใด แล้วจำเลยผิดจริงหรือไม่ หากผิดจริงแล้วผิดแค่ไหน เราจะไปเอาผิดเกินกว่าที่เขาจะต้องรับผิดไม่ได้ 

      "ปกติโจทก์จะฟ้องเกินไว้ดีกว่าขาด หากฟ้องแล้วขาดแต่ศาลเห็นว่ามีความเสียหายมากกว่านี้ก็จะให้ไม่ได้ เพราะศาลพิพากษาเกินคำขอไม่ได้ แต่ถ้าฟ้องมากแล้วศาลเห็นว่าความเสียหายไม่ถึง ก็อาจจะให้ไม่ถึงก็เป็นได้ ยกตัวอย่าง สมัยที่ผมเป็นประธานคณะอนุญาโตตุลาการ มีการฟ้องร้องกันเป็นหมื่นล้านบาท สุดท้ายจ่ายแค่หลักร้อยล้านบาทเท่านั้น" นายวิษณุกล่าว

สมัครชิงเก้าอี้ป.ป.ช.แล้ว 5 ราย 

     ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า จากการเปิดรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน-2 ตุลาคม โดยไม่เว้นวันหยุดราชการ ณ บริเวณห้องโถง ชั้น 1 อาคารรัฐสภา 2 และชั้น 1 อาคารสุขประพฤตินั้น ปรากฏว่าจนถึงวันที่ 25 กันยายน มีผู้สมัครแล้วทั้งสิ้น 5 คน ได้แก่ 1.นายไพโรจน์ โพธิไสย รองเลขาธิการวุฒิสภา 2.ศาสตราจารย์เสาวนีย์ อัศวโรจน์ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญและผู้เชี่ยวชาญประจำตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3.พล.อ.ชนะทัพ อินทามระ 

 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!