- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 26 July 2015 21:23
- Hits: 5424
'บิ๊กตู่'ระบุ-สมคิด เจ๊หน่อย รุ่นใหม่-แก้ขัดแย้ง! เอ่ยชื่อชัดเจน-กลางงานแต่ง รู้จัก'สุดารัตน์'ตั้งแต่ยศพันตรี พท.แห่เยี่ยม 2 อดีตสส.ติดคุก
'นายกฯ'นำทีมรมต.-คสช.ร่วมงานแต่งลูกชาย'สมคิด จาตุศรีพิทักษ์'ชม 'สมคิด-สุดารัตน์'ร่วมมือดี ทำให้ตนเองทำงานได้วอนนักการเมืองเลิกขัดแย้ง เปิดทางคน รุ่นใหม่ เสธ.ไก่อูโวยมีคนปล่อยข่าวปรับครม. หวังทำลายความเชื่อมั่นนักลงทุน ฝ่ายมั่นคงเร่งหาต้นตอมาดำเนินคดี 'พีระศักดิ์ พอจิต' ค้านปรับครม. ชี้เร็วเกินไป ควรรอให้ทำงานครบปี ด้านสปช. จี้ให้เปลี่ยนตัวรมต.ด่วน เร่งกู้ศรัทธาประชาชน 'ดิเรก ถึงฝั่ง"ค้านดึงภาคเอกชน-พรรคการเมืองร่วมครม.ปรองดอง ชี้ไม่เหมาะสม เผยสปช.ยังไม่ตัดสินใจรับ-ไม่รับร่างรธน. รอจับตาที่มานายกฯ ส.ส. ส.ว. แกนนำเพื่อไทยแห่เยี่ยม"เด็จพี่-เกียรติอุดม'เด็จพี่ทำใจ ขอผ้าปิดตานอนคุก โฆษกกลาโหมแจง'บิ๊กป้อม'หกล้ม ไม่ได้ป่วยการเมือง
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9006 ข่าวสดรายวัน
ร่วมงานแต่ง - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมงานฉลองมงคลสมรสของลูกชายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คสช. กับลูกสาวนายแพทย์เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สนช. มี แขกเหรื่อทั้งนักธุรกิจ-นักการเมืองจำนวนมาก ที่ รร.โอเรียนเต็ล เมื่อวันที่ 25 ก.ค.
'วิษณุ'ชี้ปรับครม.-อำนาจบิ๊กตู่
วันที่ 25 ก.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในช่วงนี้ว่า เร็วไปที่จะพูดว่าการปรับครม.จะเกิดขึ้นหรือไม่ เกิดขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะเป็นผู้มีอำนาจ
'ไก่อู'ซัดคนปล่อยข่าว
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐมนตรีหลายคนอธิบายแล้วว่าการปรับหรือไม่ปรับครม. เป็นดุลพินิจของพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะ เข้าใจว่าผู้ปล่อยข่าวไม่ได้หวังดี ทำให้นักธุรกิจ นักลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ จึงขอชี้แจงทำความเข้าใจต่อประชาชนว่าอะไรที่เป็นแหล่งข่าว ขอให้ตรองดู
"หากมีการปรับ จะมีคำสั่งออกมาชัดเจน และไม่เชื่อว่ารัฐมนตรีที่เคยพูดคุย เคยทำงานด้วยกันจะไม่บอกใครเลยแล้วไปยื่นใบลาออก แล้วมาให้ข่าวกับสื่อมวลชนอย่างนี้ เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง และพล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯได้ชี้แจงไปแล้ว ดังนั้น ใครรับข่าวสารประเภทแหล่งข่าวก็ต้องหนักแน่น จะได้ไม่ตื่นตระหนกตกใจ" พล.ต.สรรเสริญกล่าว
เผยฝ่ายมั่นคงเร่งหาตัวอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงเวลาที่จะปรับครม.หรือยัง พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า เรื่องนี้ใครก็ตอบไม่ได้ ต้องนายกฯเพียงคนเดียว และนายกฯคงไม่ปรึกษาตนเรื่องนี้ เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่าคนปล่อยข่าวอยู่ในกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือคนในซีกรัฐบาล พล.ต. สรรเสริญกล่าวว่า ไม่ได้ติดตามขนาดนั้น และไม่เชื่อว่าจะเป็นคนในรัฐบาล เพราะไม่รู้ว่า รัฐบาลกับคสช. จะไปสร้างข่าวเพื่อให้เกิดความวิตกทำไม แต่สื่อน่าจะรู้ เพราะเป็น คนไปได้แหล่งข่าวมารายงาน แหล่งข่าว คงไม่ใช่อากาศธาตุ ถามจากใครมาก็ต้องรู้ดี ดังนั้น ตนต้องถามกลับว่าสื่อได้ข่าวมาจากใคร และสื่อต้องรู้ว่าแหล่งข่าวคือใคร และ ถ้ารู้ก็ต้องชี้แจงมา
เมื่อถามว่าจำเป็นต้องหาตัวคนปล่อยข่าวหรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า รัฐบาลมีภารกิจที่ต้องทำมาก เรื่องการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เราทราบดีว่ามันมีเวลาจำกัด เรามี หน้าที่อยู่ แต่ในส่วนของงานด้านความมั่นคงก็พยายามทำทุกอย่างที่จะดูแลพวกข่าวลือ ข่าวสร้าง จะเห็นว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกที่ปล่อยข่าวทั้งหลายจะโดนจับเป็นระยะ ฉะนั้นอยู่ในกระบวนการที่เขาดำเนินการ แต่จะได้ตัวเมื่อไร ตนคงตอบแทนฝ่ายความมั่นคงไม่ได้
ยันทีมเศรษฐกิจทำงานเต็มที่
เมื่อถามว่าเป็นเพราะสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจหรือไม่ ทำให้มีกระแสปรับครม.เศรษฐกิจ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาหลายเรื่อง ทุกฝ่ายทำงานกันเต็มที่ แต่จะทำได้มากน้อยขนาดไหน ต้องยอมรับอย่างที่นายกฯเคยพูดว่าปัญหาต่างๆ มันสะสมมานาน เราก็แก้ไขแบบมีระบบ เรื่องเศรษฐกิจ เท่าที่ฟังดูทีมเศรษฐกิจแก้ปัญหา 2 ประการควบคู่กันไป คือแก้ปัญหาในส่วนโครงสร้าง ไม่ใช่แค่ลูบหน้าปะจมูกหรือ แค่พอให้มีเม็ดเงินหมุน แต่ทำแบบโครงสร้าง ขณะเดียวกันก็ไม่ได้ละเลยที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพื่อให้เม็ดเงินได้หมุนเวียนแต่ไม่ใช่ลักษณะประชานิยม แต่แก้ปัญหาเฉพาะเรื่องเพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยได้รับอานิสงส์ของการแก้ปัญหาระยะยาวได้ ทำทั้ง 2 ส่วน
โฆษกกห.แจง'บิ๊กป้อม'หกล้ม
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ระบุถึงอาการบาดเจ็บจากการหกล้มที่ผ่านมาว่า พล.อ.ประวิตรได้เดินออกกำลังกายตามปกติเป็นประจำทุกวัน และเกิดอุบัติเหตุสะดุดจากการก้าวเดินภายในมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในกรมทหารราบที่ 1 รักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) เป็นเหตุให้ลำตัว แขนและขากระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บ ซึ่งแพทย์ต้องให้การรักษาด้วยการใส่เฝือกอ่อนทั้งแขนและขา และกำหนดให้พักรักษาร่างกาย อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ซึ่งขณะนี้ยังคงทำงานเอกสารตามปกติ โดยคาดว่าจะกลับมาปฏิบัติงานได้ตามปกติในไม่ช้า
ยันไม่ได้ป่วยการเมือง
แหล่งข่าวจากคนใกล้ชิดพล.อ.ประวิตร เผยว่า พล.อ.ประวิตร ลาป่วยตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่เกี่ยวกับเรื่องป่วยการเมืองอย่างที่มีเสียงวิจารณ์หลังจากมีข่าวจะถูกปรับครม. ให้เหลือตำแหน่งรองนายกฯเพียงตำแหน่งเดียว โดยพล.อ.ประวิตร ประสบอุบัติเหตุหกล้มระหว่างออกกำลังกาย บาดเจ็บที่แขนและขาต้องใส่เฝือกอ่อนไว้ ยืนยันว่ายังแน่น แฟ้นกับพล.อ.ประยุทธ์
ชื่นมื่น - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมงานฉลองวิวาห์ลูกชายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล โดยพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นกล่าวในงานเอ่ยชื่อนายสมคิดและคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ให้ร่วมจับมือกันเดินหน้าประเทศด้วย เมื่อวันที่ 25 ก.ค. |
แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับงานฉลองมงคลสมรสของบุตรชายนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจของนายกฯ ค่ำวันวันที่ 25 ก.ค. ที่โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ลนั้น พล.อ.ประวิตร คงไม่สามารถไปร่วมงานได้ แต่มีคณะรัฐมนตรีและคสช.ไปร่วมงาน
'บิ๊กตู่'ร่วมงานแต่งลูกสมคิด
เมื่อเวลา 19.30 น. ที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ร่วมพิธีฉลองมงคลสมรส ระหว่างนายณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ ลูกชายนายสมคิด นางอนุรัชนี จาตุศรีพิทักษ์ กับน.ส. วณิศรา บุญยะลีพรรณ ลูกสาว นพ.เฉลิมชัย พญ.สิรินันท์ บุญยะลีพรรณ โดยมีพล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นประธาน
ในงานมีรัฐมนตรี นักธุรกิจ นักการเมือง ทหาร และที่ปรึกษาคสช. มาร่วมงานจำนวนมาก อาทิ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ นายวิษณุ เครืองาม นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี พล.อ.อ.อิทธพร ศุภวงศ์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา นายพินิจ จารุสมบัติ นายสนธยา คุณปลื้ม นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายเสนาะ เทียนทอง นายสุวิทย์ คุณกิตติ นายอนุชา นาคาศัย พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย พล.อ.ธีรเดช มีเพียร นายประยุทธ มหากิจศิริ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายอลงกรณ์ พลบุตร นายประมนต์ สุธีวงศ์ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
ทั้งนี้ นายสมคิด ในฐานะที่ปรึกษาคสช. และที่ปรึกษานายกฯด้านเศรษฐกิจ ซึ่งช่วงนี้มีกระแสข่าวปรับครม. โดยข่าวระบุว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจปรับครม. อาจมีชื่อนายสมคิด เข้ามาเป็นรองนายกฯด้านเศรษฐกิจ ทำหน้าที่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล
วอนเลิกขัดแย้ง-เดินหน้าประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจาก พล.อ. สุรยุทธ์ ประธานในพิธีกล่าวอวยพรคู่บ่าวสาวเสร็จสิ้น นายกฯ ขึ้นกล่าวอวยพรระบุตอนหนึ่งว่า ขอให้คู่บ่าวสาวมีความสุข วันนี้ตนถือเป็นตัวแทนรัฐบาลกล่าวอวยพร ขอชื่นชมคนรุ่นใหม่ที่ทำประโยชน์ต่อบ้านเมือง ซึ่งอยากให้ทุกฝ่ายที่ขัดแย้งกันเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาท เลิกขัดแย้งและเดินหน้าประเทศไทย ต่อไปอย่าทะเลาะกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศ รวมถึงต้องจับมือกัน ลืมความบาดหมางเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
ชม"สมคิด"ร่วมมือ-ทำงานได้
"ขอฝากนักการเมืองที่มาร่วมงานคืนนี้ ซึ่งมองเห็นว่ามีจำนวนมาก เวลาจะทำอะไรขอให้คิดถึงคนรุ่นหลัง เพราะเราจะย่ำอยู่กับที่ ไม่ได้ อย่างไรก็ตาม นายสมคิด เป็นที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจให้กับ ครม.และผมโดยตรง ที่ผ่านมาร่วมมือกันมาตลอดทำให้ผมทำงานได้ เช่นเดียวกับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ที่มาร่วมงานในวันนี้ด้วย ซึ่งผมก็รู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยที่ปฏิบัติงานในชั้นยศพันตรี" นายกฯ กล่าว
'มาร์ค'จี้ปรับครม.ต้องชัดเจน
ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวปรับครม.ว่า ถือเป็นดุลพินิจของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่เห็นว่าควรมีความชัดเจนโดยเร็ว เพราะหากปล่อยให้ยืดเยื้อ จะเป็นอุปสรรคกับการทำงานของรัฐบาล นายกฯต้องตัดสินใจว่าจะให้มีการเปลี่ยน แปลงหรือไม่ และมุ่งที่ประสิทธิภาพของงาน
ส่วนนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลขณะนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า รัฐบาลควรมีความกระตือรือร้นในการช่วยกำลังซื้อของประชาชนมากขึ้น โดยเฉพาะเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง จากราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งปัญหาขณะนี้อยู่ที่กำลังซื้อของประชาชนในชนบท หากแก้จุดนี้ได้จะช่วยประคับประคองเศรษฐกิจได้ เราเข้าใจดีว่าปัจจัยภายนอกไม่เอื้อ ในการขยายหรือ การเติบโตของเศรษฐกิจ แต่มีความสำคัญที่พอจะทำให้เศรษฐกิจภายในหมุนเวียนกันได้
สนช.ค้าน-ชี้ควรรอให้ครบปี
นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่สอง กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม.เพื่อประคองเสถียร ภาพรัฐบาลว่า ส่วนตัวเห็นว่ายังเร็วเกินไปที่จะปรับครม. ควรให้โอกาสรัฐมนตรีทำงานต่อไป เพราะครม.ชุดนี้เริ่มทำงานเดือน ก.ย.2557 ขณะนี้ทำงานมาได้ 10 เดือน ยังไม่ครบ 1 ปี นโยบายหลายอย่างอาจจะยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ หรือบางเรื่องกำลังจะเริ่มเห็นผลงาน จึงเร็วเกินไปหากจะปรับครม. หากจะปรับควรทำหลังจากที่ครม.ทำงานมาครบ 1 ปีแล้ว
นายพีระศักดิ์กล่าวว่า สิ่งที่เป็นจุดอ่อน ของรัฐบาลขณะนี้คือ ปัญหาเศรษฐกิจที่ ควรเร่งแก้ไข จากการที่สนช.ลงพื้นที่พบประชาชนในหลายพื้นที่ ต่างพูดตรงกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี อยากให้รัฐบาลรีบแก้ปัญหา แต่ไม่มีใครพูดถึงเรื่องการปรับครม.
สปช.หนุนเปลี่ยนตัวรมต.
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงเรื่องเดียวกันว่า ต้องยอมรับว่าประชาชนบ่นเรื่องปัญหาเศรษฐกิจกันมาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นตัวทำลายความเชื่อมั่นต่อรัฐบาล ขืนปล่อยให้เป็นเช่นนี้ นานวันเข้าจะทำให้ความเชื่อถือของรัฐบาลลดลง อาจทำให้ประชาชนหมดศรัทธาจะเป็นอันตรายต่อรัฐบาลอย่างยิ่ง แม้จะไม่มีรัฐมนตรีคนใดทำงานผิดพลาดบกพร่อง แต่ถ้าไม่มีการขยับปรับเปลี่ยน ปล่อยไว้เหมือนเดิม คนจะเซ็งๆ เบื่อๆ ความรู้สึกที่ดีที่มีต่อรัฐบาลจะพลอยเซ็งๆ เบื่อๆ กับรัฐบาลไปด้วย ดังนั้น ต้องรีบปรับ รีบเปลี่ยนให้คนรู้สึกดีอยู่กับรัฐบาลต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ต้องบริหารจัดการความรู้สึกของประชาชนที่มีต่อรัฐบาล อย่าปล่อยให้เขาหมดหวังสิ้นหวัง
เยี่ยมพ่อ - ลูกชายและลูกสาวนาย พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรคเพื่อไทย พากันเข้าเยี่ยมบิดา หลังศาลฎีกาพิพากษาจำคุก1 ปี คดีหมิ่นประมาทอดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. |
ยิ่งช้าจะมีแต่เสียกับเสีย
นายวันชัยกล่าวว่า การปรับครม.ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้รัฐมนตรีคนนั้น เสียหน้า ถ้าทำแล้วประเทศและประชาชน ได้ประโยชน์ ควรจะทำดีกว่าไม่ทำ และควรรีบทำในภาวะเช่นนี้เพราะสถานการณ์และเสียงสะท้อนและการเรียกร้องมีมากขึ้นๆ ในหลายภาคส่วน ซึ่งการปรับครม.ถือเป็นเรื่องปกติ รัฐมนตรีทุกคนไม่ควรยึดติดเก้าอี้ และไม่ใช่เรื่องเสียชื่อเสียงเกียรติยศ ควรบอก นายกฯไปเลยว่าพร้อมร่วมมือเต็มที่ จะออกก็ไม่ว่ากัน ถือเป็นการช่วยนายกฯให้ทำได้เต็มที่ การปรับครม.ในสถานการณ์เช่นนี้ นายกฯ มีแต่ได้ แต่ถ้าไม่ปรับจะมีแต่เสียกับเสีย จึงควรรีบปรับ อย่าปล่อยให้อึมครึม ไม่เช่นนั้น จะกระทบต่อความรู้สึก ทั้งการทำงาน การ รอคอยว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ขณะนี้ควรรีบทำ จะทำให้บรรยากาศทุกอย่างเดินไปได้ดี ทั้งตัวรัฐบาลจะได้รัฐมนตรีใหม่ การทำงานใหม่ ความรู้สึกใหม่ที่ดี ขอให้รีบทำ
ค้านดึงเอกชน-พรรคใหญ่เข้าร่วม
นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิกสปช. ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการศึกษาเเนวทางการสร้างความปรองดอง สปช. กล่าวถึงกรณีนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ คณะกรรมการศึกษาเเนวทางการสร้างความปรองดอง สปช.ระบุถึงการปรับครม. ให้ดึงบุคคลจากภาคเอกชน และพรรคใหญ่เข้าร่วมเป็นครม.ปรองดองว่า การปรับครม.ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่พล.อ. ประยุทธ์ พิจารณาเอง เพราะเป็นหัวหน้ารัฐบาล และรู้ดีว่ามีปัญหาตรงไหน จุดใดควรปรับหรือไม่ควร ส่วนเรื่องดึงภาคเอกชน พรรคการเมืองเข้าร่วมเป็นครม.ปรองดองนั้น คงไม่เหมาะ เพราะรัฐบาลไม่ได้ทะเลาะกัน จึงไม่ต้องทำรัฐบาลปรองดอง ขอย้ำว่าที่เราอยากเห็นคือให้รัฐบาลบริหารตามโรดเเม็ปให้สำเร็จ เพื่อไปสู่การเลือกตั้งโดยเร็วจะดีที่สุด
เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวโหวตรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญของสปช. นายดิเรก กล่าวว่า ในสปช.ยังไม่มีการพูดถึงเรื่องคว่ำหรือไม่คว่ำ เพราะทุกคนรอว่ารัฐธรรมนูญจะออกมารูปร่างแบบไหน ซึ่งหลักการของตน คือจับตา 3 เรื่อง ที่มานายกฯ ที่มาส.ส. และที่มาส.ว. โดยเฝ้าดูอยู่ว่าคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ จะปรับในทิศทางใด ตอนนี้จึงยังไม่อยากวิจารณ์ ให้เกียรติเขาทำงานเต็มที่ ไม่อยากให้ไขว้เขว แต่อยากให้กมธ.ยกร่างฯออกมาชี้เเจงให้สังคมรับทราบเป็นระยะด้วย
สปช.นัดถกตั้งคำถามประชามติ
นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิปสปช.) กล่าวถึงการทำงานของสปช.หลังจาก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญมีมติขยายเวลาออกไปอีก 30 วันว่า ในวันที่ 10 ส.ค.นี้ พิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศและรายงานวาระปฏิรูปจะเสร็จ ทั้งนี้ ในวันที่ 13 ส.ค. จะประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นคำถามประกอบการจัดทำประชามติ และวันที่ 22 ส.ค. สปช.จะรับร่างรัฐธรรมนูญฉบับสุดท้ายจากกมธ. ยกร่างฯ ซึ่งช่วงหลังจากนั้น สปช.จะไม่มีการประชุม เนื่องจากต้องการให้สมาชิกได้ศึกษาร่างรัฐธรรมนูญก่อนลงมติ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ได้กำหนดวันลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ แต่คาดว่าจะเป็นช่วง วันที่ 5-7 ก.ย. ยืนยันว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นตามภารกิจอย่างแน่นอน
เผยรธน.มีหมวดปฏิรูป 4 ม.17 ด้าน
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงความคืบหน้ากระบวน การยกร่างรัฐธรรมนูญว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา กมธ.ยกร่างฯ เริ่มพิจารณาปรับแก้ไขบันทึกเจตนารมณ์รายมาตราตามบทบัญญัติที่มีการปรับแก้ไข รวมทั้งพิจารณาเนื้อหาและสาระสำคัญในหมวดปฏิรูป ซึ่งได้ข้อยุติแล้วว่าจะมี 4 มาตรา แบ่งเป็น 17 ด้านการปฏิรูป ขณะเดียวกันที่ประชุมได้ทบทวนเนื้อหาในบางมาตรายังไม่ได้ข้อยุติด้วย
นายคำนูณกล่าวว่า ส่วนบางประเด็นและบางมาตราที่ยังมีเสียงเรียกร้องให้ปรับปรุงใหม่นั้น ก็แล้วแต่สมาชิกกมธ.ยกร่างฯ จะหยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งหรือไม่ แต่เข้าใจว่าคงมีไม่มากแล้ว เพราะถ้าไม่รวมเนื้อหาในส่วนบทเฉพาะกาลนั้น ขณะนี้กมธ.ยกร่างฯพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือเฉพาะบางประเด็นที่ยังมีการแขวนไว้อยู่เท่านั้นเอง
ยอมรับหนักใจที่มาส.ว.
นายคำนูณกล่าวว่า ยอมรับว่าหนักใจในประเด็นที่มาของส.ว. เป็นอย่างมาก เพราะไม่ว่ากมธ.ยกร่างฯจะเขียนหรือบัญญัติเนื้อหาแบบใด ก็ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ แต่ขอยืนยันว่าการทำงานของเราได้พิจารณาด้วยความรอบคอบที่สุดแล้ว ส่วนประเด็นของคณะกรรมการซึ่งจะเป็นกลไกกำหนดยุทธศาสตร์การปฏิรูปและการดำเนินการปฏิรูปด้านต่างๆ นั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติ คาดว่าจะนำมาพิจารณาในช่วงท้ายๆ ของการยกร่าง เนื่องจากเป็นเรื่องที่สำคัญมาก จึงจำเป็นต้องพิจารณาด้วยความรอบคอบ
เพื่อไทยเยี่ยม'เด็จพี่-เกียรติอุดม'
เวลา 09.00 น. ที่เรือนจำกลางพิเศษ กรุงเทพมหานคร แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดยนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา อดีตรอง นายกฯ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ทีมกฎหมายพรรค และนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการโฆษกพรรค เข้าเยี่ยมนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค และนายเกียรติอุดม เมนะสวัสดิ์ อดีตส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ที่ถูกศาลฎีกาสั่งจำคุก 1 ปีโดยไม่รอลงอาญา ในข้อหาหมิ่นประมาท นายวสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ
ขณะเดียวกันลูกชายและลูกสาวก็ได้เข้าเยี่ยมนายพร้อมพงศ์ บิดา เช่นเดียวกัน
เตือนนักการเมืองระวังปาก
นายพงศ์เทพ ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าเยี่ยมว่า กรณีนี้ถือเป็นคดีแรกที่ไม่มีการรอลงอาญา ที่ผ่านมามีหลายคดีแต่ยังมีการรอลงอาญา ซึ่งตนไม่คาดคิดมาก่อน กรณีนี้ต้องเป็นกรณีศึกษาให้นักศึกษาที่เรียนเกี่ยวกับระบบนิติธรรมศึกษาถึงบรรทัดฐานการใช้กฎหมาย ถ้าหากในอนาคตมีการตัดสินแบบนี้และเราได้ศึกษามาแล้วเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ต่อไปนักการเมืองทุกฝ่ายหากใครจะพูดอะไรก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งในกระบวนการยุติธรรมถือเป็นสิ่งสำคัญ การทำหน้าที่ของผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมาจะนำสันติสุขและความปรองดองไปสู่สังคมได้ ตรงนี้จะเป็นบรรทัด ฐานของผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องทำตรงไปตรงมาเพราะนี่คือความคาดหวังของสังคม
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะทำให้เกิดความเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลหรือไม่ นายพงศ์เทพกล่าวว่า คงพูดไม่ได้ ทุกคนรอดูว่ากระบวนการที่จะนำเราไปสู่ระบบนิติธรรมและการยึดมั่นในกฎหมายที่ทำหน้าที่โดย ไม่เห็นแก่หน้าใคร ถ้าเราสามารถสถาปนาระบบการเมืองที่เที่ยงธรรมให้กลับมาได้และเป็นที่ยอมรับ เชื่อว่าทุกคนจะปฏิบัติตามกฎหมาย ประเทศเราจะไม่มีปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ ส่วนนายพร้อมพงศ์และนายเกียรติอุดม จะกลับมาทำงานกับพรรคต่อหลังพ้นคดีหรือไม่นั้น ตนเชื่อว่าที่ผ่านมาทั้ง 2 คนทำงานอย่างทุ่มเทมาตลอด เชื่อว่าจะกลับมาทำงานรับใช้ประชาชนต่อไป
นายพงศ์เทพกล่าวถึงกระแสข่าวการปรับครม. ที่มีรายชื่อบุคคลของพรรคเพื่อไทยด้วยว่า พรรคเพื่อไทยมีบุคลากรที่มีความสามารถเยอะ ถ้าพูดถึงบุคคลที่มีความสามารถเพื่อมาทำงานบริหารประเทศ ก็คงหนีไม่พ้นพรรคเพื่อไทย แต่ตนยังไม่เคยได้ยินข่าวมีคนของพรรค 2 คนจะไปเป็นครม.
ยันทั้ง 2 กำลังใจดี-ยอมรับคำตัดสิน
ด้านนายอนุสรณ์กล่าวภายหลังเข้าเยี่ยมว่า ทั้ง 2 คนฝากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง เพราะยอมรับคำตัดสินของศาล เป็นการต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรมอย่างหนึ่ง ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์ได้แสดงความจำนงขอผ้าปิดตาเพื่อใช้ในเวลานอน อีกทั้งยืนยันว่าจะปรับตัวเพื่ออยู่ในเรือนจำต่อไป และขอให้ผู้ที่อยู่ด้านนอกเรือนจำทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด
นายอนุสรณ์กล่าวว่า ส่วนอาการป่วยของนายเกียรติอุดม เนื่องจากอายุ 66 ปีแล้ว จึงมีอาการปวดหลัง เป็นความดันและเบาหวาน ถือเป็นอาการป่วยของคนอายุมาก อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าทั้ง 2 คน มีกำลังใจดี โดยแกนนำและสมาชิกพรรคจะเข้าเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กำลังใจ
เมื่อถามว่า จะมีการแต่งตั้งโฆษกคนอื่นแทนนายพร้อมพงศ์หรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ไม่สามารถทำได้ด้วยคำสั่งของคสช. ห้ามมีการประชุมพรรคการเมือง และนับตั้งแต่นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรค ประกาศลาออก ทำให้โครงสร้างบริหารพรรคเปลี่ยนไป และให้ทุกตำแหน่งคงคำว่ารักษาการเอาไว้ ซึ่งตำแหน่งโฆษกพรรค ต้องรอให้นายพร้อมพงศ์ พ้นโทษออกมาก่อน
ตั้ง'บิ๊กอู้ด'ปธ.สอบประวัติว่าที่กสม.
พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ สมาชิกสนช. ในฐานะกมธ.สามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ และพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า คณะกรรมการประชุมนัดแรกไปเมื่อวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อจัดสรรตำแหน่งและวางกรอบการทำงาน โดยที่ประชุมได้เลือกพล.อ.อู้ด เบื้องบน เป็นประธานคณะกรรมการ หลังจากนี้จะเริ่มตรวจสอบประวัติและข้อมูลต่างๆ ของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่ออย่างเข้มข้น ตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งเปิดให้ประชาชนส่งประวัติ ข้อมูลเชิงลึกมาให้สนช.เพื่อประกอบการพิจารณาได้เช่นกัน เชื่อว่าการตรวจสอบประวัติจะเรียบร้อย ไม่เกิดปัญหาใดๆ ส่วนกรณีที่เรียกร้องให้สนช.ปฏิเสธการตรวจสอบประวัติของว่าที่กสม.นั้น คงทำไม่ได้ เพราะสนช.ต้องเดินหน้าตามหน้าที่และระเบียบข้อบังคับการประชุม
นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกสนช. ในฐานะกมธ.สามัญฯ กล่าวกรณีองค์กรฮิวแมนไรต์ วอตช์ แถลงการณ์เรียกร้องให้สนช.ปฏิเสธผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นกสม. เนื่องจากมองว่าระบบคัดเลือกไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลว่า การสรรหากสม.เป็นเรื่องภายในประเทศ กระบวนการสรรหามาจากประธานศาลแต่ละศาล เมื่อดำเนินการเสร็จก็ส่งรายชื่อมาให้สนช.ดำเนินการตามขั้นตอน เราต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบประวัติและข้อมูลต่างๆ เราดำเนินการตามหน้าที่ ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการภายในของประเทศ จึงไม่อยากให้หน่วยงานนอกเข้ามายุ่งหรือเกี่ยวข้อง