- Details
- Category: การเมือง
- Published: Tuesday, 21 July 2015 11:34
- Hits: 7741
'กฤษฎา'เฮ ผงาดปลัดมหาดไทย อาทิตย์อธิบดีปกครอง วิษณุติงกมธ.แจงรธน. คนร่างต้องพูดให้ชัดๆ สปช.ย้ำส่งกาสิโนให้รบ.
เข้าครม.วันนี้โผมหาดไทย 'กฤษฎา บุญราช'ผงาดปลัดมท. ดึง 4 ผู้ว่าฯนั่งรอง ส่ง'อาทิตย์ บุญญะโสภัต" คุมปกครอง'บิ๊กตู่'ลั่นประชาชนต้องไม่ลำบากเหมือนก่อน ยันตปท.หนุน'โรดแม็ป' แจงอีก ปม'หมามุ่ย'แค่เสนอทางเลือก วิษณุติงเสธ.อู้ คนยกร่างรธน.ต้องตอบให้ชัดเจน สปช.ย้ำส่งกาสิโนให้รัฐบาลลุยต่อ ทูตใหม่ญี่ปุ่นพบรมว.ยธ. ทวงถามคดี'ฮิโรยูกิ'
วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9001 ข่าวสดรายวัน
เดินตลาด - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เยี่ยม ชมตลาดกลางผลไม้ เพื่อการเกษตรตะพง และพบปะพูดคุยกับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ จ.ระยอง ได้รับการต้อนรับจากประชาชนและเกษตรกรอย่างอบอุ่น เมื่อวันที่ 20 ก.ค.
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี อาทิ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ นายอำนวย ปะติเส รมช.เกษตรและสหกรณ์ พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรีและโฆษกประจำสำนักนายกฯเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปตรวจราชการจังหวัดระยอง โดยเดินทางไปที่อาคารศูนย์ กลางเกษตรจังหวัดระยอง ตลาดกลางผลไม้เพื่อการเกษตรตะพง ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ผลไม้จังหวัดระยอง โดยมีประชาชนมาต้อนรับจำนวนมาก
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งว่า ประเทศ ไทยต้องร่วมมือกันสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้น แต่ให้แก้ไขปัญหาทั้งหมดทีเดียวคงไม่ได้ ต้องทยอยแก้ปัญหา รัฐบาลยืนยันว่าต้องการสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศ รัฐบาลมีความตั้งใจจริงและต้องมาทำความเข้าใจพูดคุยกับทุกคนว่าขอให้แยกแยะสถานการณ์ทางการเมืองออกไป วันนี้รัฐบาลเข้ามาเพื่อการปฏิรูปประเทศ แก้ไขปัญหาให้เกิดความยั่งยืน ประชาชนจะได้ไม่ลำบากเหมือนเดิมอีกต่อไป และการปรับเปลี่ยนไม่ว่าอะไร ต้องใช้เวลา และวิธีการที่เหมาะสมตามข้อเท็จจริง
เตือนอย่าให้ใครปลุกระดม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า ประเทศไทยมี 77 จังหวัด ต้องดูว่าแต่ละส่วนงานจะทำอย่างไรไม่ให้ทับซ้อนและประสานกันทั้งระดับล่าง ระดับพื้นที่และส่วนกลาง สิ่งสำคัญที่สุดคือประชาชนต้องเกิดความเข้าใจ การจัดทำแผนงานของรัฐบาล เราดูแลคนทั้งประเทศ วันนี้ไม่ได้มองคนเพียง 10 กว่าล้านคนหรืออีกฝ่ายที่มีอีก 10 กว่าล้านเหมือนการเลือกตั้งที่ผ่านๆ มา ต้องนึกถึงความเดือดร้อนของทุกคน อย่าปล่อยให้ใครมาปลุกระดมให้เกลียดชังหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรการของรัฐบาลปัจจุบัน
"ผมรับปากว่าจะทำทุกอย่างให้เต็มที่ ยังไม่มีท้อแท้ ยิ่งเจอปัญหาหรืออะไรต่างๆ ยิ่งต้องทำงานให้เกิดความยั่งยืนและแก้ให้ได้ ผมเห็นใจทุกคนที่ต้องเจอปัญหาแบบนี้มาตลอดชีวิตไม่ว่าปัญหาเรื่องข้าว ผลไม้ ที่ผ่านมา ทุกรัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาแต่แก้ไม่ได้ มันต้องแก้ในลักษณะภาพใหญ่ทั้งหมด"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ยันตปท.หนุน'โรดแม็ป'
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า ที่สำคัญต้องทำให้ประเทศชาติเกิดความสงบ ทุกคนอยากจะมาประเทศไทย แต่ยอมรับว่าปี 2557 ไม่มีใครมาเที่ยวเนื่องจากคนไทยทะเลาะกัน ตนไม่เห็นประโยชน์ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รัฐบาลจึงต้องแก้ปัญหาให้ได้ และรัฐบาลใหม่ต้องไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก และรัฐบาลชุดนี้ต้องทำเป็นกรณีพิเศษ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทราบว่าทุกคนให้ความเมตตาตน ดังนั้นตนจึงไม่กลัว ถ้าบ้านเมืองเราสงบสุข ทุกประเทศก็จะเดินทางมาเพราะก่อนหน้านี้ทุกคนมองว่าไทยเป็นประเทศที่น่าอยู่ น่าทำการค้าขายด้วยเพราะมีเสถียรภาพ แต่ถ้าไม่มีเสถียรภาพ ชาวต่างชาติก็คงต้องเลิกอีก ทุกคนที่เคยซื้อและความสัมพันธ์ต่างๆ ต้องเลิกหมด วันนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวว่าพร้อมสนับสนุนประเทศไทยให้เดินตามโรดแม็ป และรีบๆ ไป ซึ่งวันนี้ตนก็เดินตามโรดแม็ปทุกอย่าง ไม่เคยไปเบี้ยวอะไรสักอย่าง ทุกวันก็มีคนเขียนนิยายออกมาทุกวัน ขอร้องว่าอย่าไปเชื่อมาก อะไรที่ตนพูด ยืนยันว่าไม่เคยโกหก
แจงอีก"หมามุ่ย"แค่ทางเลือก
"มาระยองวันนี้ทำให้นึกถึงกวีเอกอย่างสุนทรภู่ หากคิดเล่นๆ สงสัยต้องให้ท่านเป่าปี่เปลี่ยนเพลงเพื่อให้ทุกคนตื่น และลุกขึ้นมาเพื่อร่วมมือกันทำให้ประเทศชาติเดินหน้าต่อไป ไม่เช่นนั้นจะมีศิลปินอื่นๆ ตื่นขึ้นมาก็พูดแบบเดิมๆ ผมอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าคิดอะไรกัน ผมพูดจนคอจะเจ็บตายแล้ว วันนี้ผมไม่ทะเลาะกับใคร ตั้งใจและทำงานทุกวัน และที่พูดก็ไม่ได้ทวงบุญคุณใคร แต่พูดเพื่ออธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่ารัฐบาลกำลังทำอะไร และที่พูดเพราะรำคาญคนบางคนและคนบางกลุ่ม จึงต้องชี้แจงเพราะผมก็เป็นปุถุชนคนหนึ่ง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า อย่างเรื่องหมามุ่ย ตนไม่ต้องการให้ทุกคนไปปลูกทั้งหมดหรือเลิกทำนา แต่พูดเพื่อแนะนำให้ทุกคนมีทางเลือก ซึ่งประเทศไทยนอกจากสร้างความเชื่อมั่นแล้วเราต้องสร้างเสถียรภาพทั้งเรื่องการ เมือง รัฐบาล การทหารและความมั่นคง ทำวันเดียวคงไม่สำเร็จ ต้องใช้เวลาและความร่วมมือ
ชี้รบ.เก่าทำไร้งบฯจัดการน้ำ
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องการซื้อข้าวขายข้าว จากปัญหาที่ผ่านมาทำให้งบประมาณหายไปหลายแสนล้านบาท แทนที่จะนำเงินส่วนนั้นมาบริหารจัดการน้ำหรือเส้นทาง รถไฟ แต่ก็มีปัญหาเกิดขึ้น ถ้ารัฐบาลที่ผ่านๆ มาทำอย่างที่รัฐบาลนี้ทำก็คงไม่มีปัญหา
"วันนี้เราต้องไม่มีการเมือง การเมืองท้องถิ่นก็ต้องไม่มี อย่าไปเอางบประมาณของส่วนรวมไปให้แค่คนบางส่วน แล้วทะเลาะกัน อย่าแบ่งแยกการปกครอง ซึ่งการปกครองท้องถิ่นก็แบ่งแยกไม่ได้ ประเทศชาติต้องการความร่วมมือจากทุกฝ่าย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์และคณะได้เยี่ยมชมตลาดกลางผลไม้เพื่อการ เกษตรตะพง และมีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้ามามอบให้ เช่น ทุเรียน ของทะเลแห้ง โดยพล.อ.ประยทธ์ให้คำแนะนำว่าควรปรับปรุงคุณภาพสินค้าหรือให้รายละเอียดคุณภาพของสินค้าต่างๆ ทั้งนี้พ่อค้าแม่ค้ายังให้ความสนใจทะเบียนรถของพล.อ.ประยุทธ์ที่ใช้รถอัลพาร์ด สีขาว ทะเบียน กน 333 ระยอง
โวย"ปชต."ที่ผ่านมา-จอมปลอม
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์และคณะไปตรวจเยี่ยมโรงเรียนกำเนิดวิทย์ และสถาบันวิทยศิริเมธี ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ พร้อมถ่ายรูปร่วมกับคณะผู้บริหาร คณาจารย์ นักเรียน นักศึกษา โดยพล.อ.ประยุทธ์กล่าวระหว่างมอบนโยบายว่า ต้องทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง สิ่งแรกที่ต้องทำคือสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัฐ เอกชน และประชาชน กำหนดอนาคตของประเทศให้ชัดเจน เราต้องทำให้ประเทศไทยมีตัวตนและบทบาทในเวทีโลก ทำให้เราเข้มแข็ง เลิกขัดแย้งในเรื่องประชาธิปไตย
"ที่ผ่านมามันเฟก จอมปลอม วันนี้เราต้องการความเข้มแข็ง หลังจากผมไปแล้ว เราต้องเข้มแข็ง ต้องรู้ว่าประเทศไทยและคนไทยยืนอยู่ตรงไหน ผมตั้งไข่ไว้ให้แล้ว ส่วนมันจะล้มหรือไม่ อยู่ที่ทุกคนว่าจะกำหนดอนาคตของประเทศอย่างไร ถ้าปล่อยให้มีความ ขัดแย้งอีกต่อไป เราก็เดินต่อไปไม่ได้" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวต่อว่า สำหรับหนี้ชาวนา ขณะนี้มีกว่า 3 แสนล้านบาทยังไม่รวมครู ข้าราชการและคนทั่วไป แต่ให้ถือว่าคนเป็นหนี้คือคนที่มีเกียรติ แต่เป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้ รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้จะยกหนี้ให้ทั้งหมด เป็นหนี้ก็ต้องใช้ ซึ่งต้องหาวิธีการ
ลั่นกม.ทำให้ทุกคนเท่าเทียม
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเราติดกับดักประชาธิปไตย ติดกับดักแห่งการเรียนรู้ และติดกับดักในเรื่องทรัพยากร ตนไม่ใช่คนเก่ง แต่ขยันอ่านหนังสือ ที่ต้องพูดมากเพราะจะได้รู้ว่าเราจะทำอย่างไรให้โรดแม็ปเดินหน้าและมีผลสำเร็จ ผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นจะไม่มีความเหลื่อมล้ำ ขณะที่ความยุติธรรมและความเท่าเทียมกันไม่มีจริงบนโลกใบนี้ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกันได้คือกฎหมาย ซึ่งทุกประเทศเข้าใจ แต่ประเทศไทยยังไม่เข้าใจ เขาใช้กฎหมายให้เกิดประโยชน์ ประเทศสงบสุข ลดความขัดแย้ง แต่ของเรากลับใช้กฎหมายทำให้เกิดความขัดแย้ง ต่อสู้กัน สุดท้ายผู้พ่ายแพ้คือประชาชนและประเทศชาติซึ่งไม่อยากให้เกิดขึ้นอีก
"ยืนยันจะไม่ใช้กฎหมายรังแกคนจน แต่กฎหมายจะใช้เพื่อสร้างความสงบสุขให้ประเทศ ที่สำคัญอย่าให้คนเลวมีอำนาจ พูดแล้วก็อารมณ์เสีย เราไม่ใช่ศัตรูกับใคร เป็นมิตรกับทุกประเทศ เพียงแต่ประเทศต่างๆ เขาเลยเวลาที่เคยมีความขัดแย้งและคนล้มตาย แต่ของเราไม่ตาย เลยต้องเอาสักหน่อย พอหอมปากหอมคอ แต่ปล่อยต่อไปไม่ได้เพราะเราช้ากว่าประเทศอื่นมานาน วันนี้คนไทยต้องสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ผมเข้ามาไม่ได้ต้องการประโยชน์สักสลึงเดียว ประเทศชาติต้องการความสงบ และสำหรับนายกฯไม่มีท้อแท้ ไม่เหนื่อย ยิ่งมีศัตรู ยิ่งไม่ท้อ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ถาม"เราก้าวมาจุดนี้ด้วยอะไร"
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาเยี่ยมคนในพื้นที่จ.ระยอง พ่อค้าแม่ค้าชื่นชมรัฐบาลเพราะผลไม้ขายดีขึ้นมากในรัฐบาลชุดนี้ และมาเยี่ยมร.ร.กำเนิดวิทย์และสถาบันวิทยศิริเมธี ถือเป็นอนาคตของประเทศไทย ทุกคนในประเทศต้องรู้ว่าทำอย่างไรคนถึงได้ยินเสียงประเทศไทยและเห็นตัวตนของไทย ซึ่งขึ้นอยู่กับความดีและความเข้มแข็ง ไม่ใช่ด้วยความขัดแย้งต่างๆ
"วันนี้ผมขอเวลา ผมยังมีกำลังใจเต็มร้อยเสมอ ไม่มีท้อแท้ ผมรู้ว่าหลายคนเข้าใจ ถ้าไม่เข้าใจแล้วค้านทุกเรื่อง มันไม่มีทางไปสู่ความสำเร็จได้ ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้ ขอฝากทุกคนนี่คืออนาคตของวันหน้า แต่ต้องไม่ลืมปัจจุบันและประวัติศาสตร์ วันนี้เราก้าวมาจุดนี้ด้วยอะไร ความขัดแย้งเกิดจากอะไร เราจะถอยกลับไปหรือไม่ คิดกันเอาเอง" พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
เมื่อถามว่าในสถานการณ์ที่บ้านเมืองกำลังจะปฏิรูปประเทศ หวังอะไรกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน และท้องถิ่น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า หวังให้ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ให้ความร่วมมือกับภาครัฐ ร่วมมือกันทำตามหน้าที่ให้ดีที่สุด เมื่อดีขึ้นทุกอย่างก็จะดีขึ้น ถ้าทุกคนเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี เพราะพื้นฐานเรามีแค่นี้ ดังนั้นต้องสร้างความเข้มแข็งใหม่ในยุคนี้ทั้งระบบขึ้นมาให้ได้
จ่อตั้ง"กฤษฎา"นั่งปลัดมท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 21 ก.ค. กระทรวงมหาดไทยจะเสนอรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำแหน่งบริหารระดับสูง ในตำแหน่งปลัดกระทรวง รองปลัดกระทรวง และอธิบดี โดยนายกฤษฎา บุญราช อธิบดีกรมการปกครอง เป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผวจ.ชัยนาท นายประทีป กีรติเลขา ผวจ.อุบลราชธานี นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผวจ.นราธิวาส เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการปกครอง นายจรินทร์ จักกะพาก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายไมตรี อินทุสุต รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และนายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมที่ดิน
วิษณุปัดให้ความเห็นม.118
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกระแสปรับครม.ว่า เรื่องนี้เคยพูดคุยกันระหว่างพล.อ.ประยุทธ์กับรองนายกฯว่า หากวันใดที่คิดจะปรับครม.เพื่อให้การบริหารงานดีขึ้น ขอให้ปรับได้เลยไม่ต้องเกรงใจ และไม่ต้องเกรงว่าจะเกิดการกระทบกระทั่ง เพราะถือเป็นอำนาจของนายกฯที่จะตัดสินใจ คิดว่าการปรับครม.เป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องนี้นายกฯไม่เคยพูดกับตน จึงไม่ทราบ และนายกฯก็ไม่เคยพูดว่าจะปรับรองนายกฯ คนใดออก
นายวิษณุกล่าวถึงคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ยกร่างรัฐธรรมนูญ พิจารณามาตรา 118 เกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัครส.ส. ที่ห้ามผู้ที่เคยต้องคำพิพากษา หรือถูกถอดถอนลงสมัครรับสมัครเลือกตั้งตลอดไป ว่าขอไม่ให้ความเห็นเพราะยังไม่เห็นและยังไม่มีการส่งร่างมาถึงตน ซึ่งกมธ.ยกร่างฯ สัญญาว่าจะส่งมาให้ในวันที่ 20 ก.ค. หากพูดไปก่อนเกรงจะผิด จึงขอดูในรายละเอียดถ้อยคำก่อน
ติงเสธ.อู้-ร่างกม.ต้องตอบให้ชัด
นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า กรณีพล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกมธ.ยกร่างฯ ตอบคำถามในประเด็นมาตรา 118 ว่าตอบไม่ถูก ไม่รู้ ไม่อยากยกตัวอย่าง ต้องไปตีความนั้น ตนมองว่าไปพูดอย่างนั้นได้อย่างไร ในเมื่อเขียนมาก็ต้องชัดเจน เมื่ออธิบายไม่ถูกแล้วคนอื่นจะเข้าใจถูกได้อย่างไร ดังนั้นขอดูรายละเอียดก่อน
"เรื่องที่พรรคการเมืองแสดงความเห็น ผมยังไม่เห็น แต่ก็งงว่าเมื่อให้กมธ.ยกร่างฯ ยกตัวอย่างก็ยกไม่ถูก กรณีนี้เข้ากับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯหรือไม่ ไม่รู้ ตอบไม่ได้ ต้องให้ศาลตีความ อย่างนี้จะยุ่ง จะเอาอย่างไรต้องเอาให้ชัด ได้ก็บอกว่าได้ ไม่ได้ก็บอกว่าไม่ได้ คนอื่นจะได้เถียงและคัดค้านได้ถูก ซึ่งคงไม่มีเสนออะไรไปที่กมธ.ยกร่างฯ เพราะผมยังไม่เห็นรายละเอียด" นายวิษณุกล่าว
ยันพรบ.ชุมนุมเหมาะสม
เมื่อถามถึงพ.ร.บ.ชุมนุมในที่สาธารณะ ที่ฝ่ายการเมืองวิจารณ์ว่าจำกัดสิทธิพลเมืองมากเกินไปหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่ารัฐบาลเชื่อว่าไม่จำกัด เพราะพิจารณาแล้ว โดยใช้มาตรฐานของรัฐธรรมนูญที่มีอยู่ในปัจจุบัน บวกกับมาตรฐานกฎหมายชุมนุมในที่สาธารณะของต่างประเทศ ซึ่งมีแบบอย่างจาก 2-3 ประเทศมารวมกัน แต่ยังมีคนเข้าใจผิด เรื่องนี้เราไม่ได้ใช้วิธีให้ไปขออนุญาต แต่แจ้งเพื่อทราบ เพื่อให้เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกคือจัดระบบการจราจร ป้องกันไม่ให้มือที่สามสอดแทรก และอำนวยความสะดวกให้ประชาชนคนอื่นเพื่อหลบเลี่ยงพื้นที่ ที่สำคัญเป็นกฎหมายที่ตำรวจต้องมีเพื่อให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงาน เพื่อไม่ให้เจอกับการฟ้องร้องเหมือนครั้งพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีตผบ.ตร.เคยเจอ
เมื่อถามว่า หากแจ้งเพื่อทราบแล้วไม่ได้รับอนุญาต แต่ผู้ชุมนุมยังยืนยันจะชุมนุม จะดำเนินการอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า บอกแล้วว่าไม่ใช่การขออนุญาต แต่ไปเพื่อแจ้งให้ทราบว่าจะชุมนุม แต่หากดำเนินการอะไรที่ผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ต้องห้าม แต่ถ้าไม่ไป ก็ฟ้องร้องต่อศาล มีขั้นตอนดำเนินการอยู่ หากพิจารณาแล้วไม่มีอะไรต่างไปจากที่เคยทำกันมา
ชี้ชงกาสิโนให้รบ.ไม่ใช่"บิ๊กตู่"
ที่รัฐสภา พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ในฐานะประธานกลุ่มสปช.รักชาติ ที่เสนอตั้งกาสิโนถูกกฎหมาย กล่าวว่าข้อเสนอตั้งบ่อนกาสิโนนั้น เป็นการนำเสนอต่อรัฐบาล ไม่ใช่ต่อนายกฯ เพราะนายกฯบอกแล้วว่าไม่อยากให้เสนอ ดังนั้น จะเสนอต่อรัฐบาลเพราะรัฐบาลบอกว่าใครมีอะไรก็ให้เสนอมา และสปช.ก็ไม่ให้ปฏิรูปเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เราทำเรื่องนี้มาหลายเดือนแล้ว แต่เมื่อเสนอออกมาก็กลายเป็นประเด็น หลักการจะทำเปรียบเทียบโดยมีแนวคิดเหมือนการทำเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ในเรื่องการจัดหารายได้เข้าประเทศน่าจะดี หรือไม่ดีก็เปรียบเทียบกัน เห็นว่าน่าจะดีกว่าจึงเสนอเรื่องนี้
"โดยไม่ทำเป็นพ.ร.บ. แต่เป็นข้อเสนอที่เสนอไปยังรัฐบาลให้พิจารณา มีลักษณะคล้ายกฎหมาย แต่ไม่ใช่กฎหมาย อยู่ที่รัฐบาลว่าจะรับหรือไม่รับ หากไม่รับทุกอย่างก็หยุดหมด หรือรับไว้แต่ไม่ทำอะไรต่อ ทุกอย่างก็หยุดเหมือนกัน ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวยังไม่สมบูรณ์ เพราะยังไม่ตรงเจตนารมณ์ จึงให้ดูข้อท้วงติง และข้อห่วงใยคืออะไร รวมทั้งฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ หากเราพูดกับสังคมไม่ได้ เราก็ไม่เอา คาดว่า 2-3 สัปดาห์น่าจะเสร็จ" พ.ต.อาณันย์กล่าว
ปชป.จี้แจงมอเตอร์เวย์ 3 หมื่นล.
นายสามารถ ราชพลสิทธิ์ อดีต.ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงมติครม.อนุมัติก่อสร้างทางหลวงพิเศษ(มอเตอร์เวย์) 3 สายคือ 1.สายพัทยา-มาบตาพุด วงเงิน 20,200 ล้านบาท 2.สายบางปะอิน-นครราชสีมา วงเงิน 84,600 ล้านบาท และ 3.สายบางใหญ่-กาญจนบุรี วงเงิน 55,620 ล้านบาท ซึ่งในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์คัดเลือกมอเตอร์เวย์ 3 สายนี้มาใส่ไว้ในแผนเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ได้สานต่อทั้ง 3 โครงการ โดยยังคงวงเงินค่าก่อสร้าง (รวมค่าเวนคืน) ของสายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ไว้เท่ากับในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่สำหรับสายพัทยา-มาบตาพุด ได้เพิ่มวงเงินค่าก่อสร้าง (รวมค่าเวนคืน) จาก 16,000 ล้านบาท เป็น 20,200 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4,200 ล้านบาท ในขณะที่ระยะทางการก่อสร้างของสายนี้ยังคงเท่าเดิมคือ 32 กิโลเมตร
นายสามารถ กล่าวอีกว่า รัฐบาลควรชี้แจงว่าเหตุใดค่าก่อสร้างรวมค่าเวนคืนของสายพัทยา-มาบตาพุด จึงเพิ่มขึ้นทั้งที่ระยะทางยังคงเท่าเดิม และรัฐบาลควรทบทวนค่าก่อสร้างมอเตอร์เวย์ทั้ง 3 สายใหม่ เนื่องจากราคาน้ำมันในรัฐบาลนี้ถูกกว่าในสมัยรัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ นอกจากนั้นมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของรถไฟความเร็วปานกลาง เส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ดังนั้นรัฐบาลต้อง เตรียมหาทางแก้ไขเพื่อไม่ให้รถไฟความเร็วปานกลางขาดทุนหนัก ทั้งนี้เอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2559 ตั้งงบประมาณไว้ 3 ปี คือในปี 2558-2560 จำนวน 18,050 ล้านบาท เป็นค่างานจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินของมอเตอร์เวย์ทั้ง 3 สาย ไม่มีงบประมาณสำหรับค่าก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายใดสายหนึ่งเลย
กกต.ชี้สิ้นกค.รู้กติกาประชามติ
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. เป็นประธานประชุมคณะกรรมการร่างประกาศกกต.เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการออกเสียงประชามติ ร่วมกับผอ.สำนักงานกกต. และเจ้าหน้าที่
นายภุชงค์เปิดเผยภายว่า ที่ประชุมเห็นว่าควรให้กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญสรุปสาระสำคัญในร่างรัฐธรรมนูญ โดยจะต้องไม่ชี้นำ หรือเอนเอียง จากนั้นกมธ.ยกร่างฯต้องส่งให้ครม.พิจารณาไปในคราวเดียวกันกับร่างรัฐธรรมนูญฉบับเต็ม หลังจากนั้นครม.ต้องส่งร่างรัฐธรรมนูญและสาระสำคัญพิจารณาแล้วให้กกต.ภายใน 15 วัน เพื่อจัดพิมพ์ให้เสร็จทันเวลา และเห็นว่าการเผยแพร่เอกสารไปยังครัวเรือนจะส่งพร้อมกันทั้งร่างฉบับเต็มและสาระสำคัญ เพื่อประหยัดงบประมาณจัดส่ง จึงขอเชิญชวนโรงพิมพ์ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีศักยภาพ ทั้งการจัดพิมพ์บัตรออกเสียงและร่างรัฐธรรมนูญ กรอกข้อมูลและศักยภาพของโรงพิมพ์ได้ในเว็บไซต์ของกกต.ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 29 ก.ค.นี้
นายภุชงค์ กล่าวว่า นอกจากนั้นยังตั้งคณะอนุกรรมการร่างประกาศกกต.เกี่ยวกับการจัดสรรเวลาวิทยุโทรทัศน์ เผยแพร่ข้อมูลของฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รวมทั้งพิจารณาเปิดเวทีให้ความรู้ของฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและเป็นไปตามกฎหมาย และตั้งคณะอนุกรรมการร่างประกาศกกต.เรื่องการคัดค้านการออกเสียงประชามติด้วย ซึ่งจะคล้ายประกาศเรื่องการคัดค้านการเลือกตั้งส.ส. ส.ว. อย่างไรก็ตาม ประกาศที่เกี่ยวข้องกับการทำประชามติจะดำเนินการให้เสร็จภายในสิ้นเดือนนี้
สปช.มีมติรับปฏิรูปปราบทุจริต
ที่รัฐสภา การประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) มีนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. เป็นประธานการประชุม พิจารณารายงานเรื่องการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ(รอบที่ 2) ร่างพ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ พ.ศ. ร่างพ.ร.บ.การโฆษณาประชาสัมพันธ์ของภาครัฐ พ.ศ. และร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการขัดกันระหว่าง ประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม พ.ศ. ของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)ปฏิรูปการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
จากนั้นที่ประชุมอภิปรายก่อนลงมติเห็นชอบรายงานดังกล่าวและความเห็น ข้อเสนอแนะส่งไปยังครม. ด้วยคะแนน 218 งดออกเสียง 7 ไม่ลงคะแนนเสียง 1 และที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบหลักการและเหตุผลรวมถึงสาระสำคัญของร่างพ.ร.บ.ทั้ง 3 ฉบับเพื่อให้กมธ.ปฏิรูปฯพิจารณาให้เสร็จภายใน 7 วัน
ปฏิรูปสื่อผ่านฉลุย
จากนั้นน.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานสปช.คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธาน เพื่อพิจารณา รายงานของกมธ.ปฏิรูปการสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ วาระปฏิรูปที่ 32 การกำกับดูแลสื่อ วาระการปฏิรูปที่ 33 สิทธิเสรีภาพบนความรับผิดชอบ วาระปฏิรูปที่ 34 การป้องกันแทรกแซงสื่อ และร่างพ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพ ส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน พ.ศ.
จากนั้นเปิดให้สมาชิกอภิปราย โดยสมาชิกสายสื่อสารมวลชน ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับร่างพ.ร.บ. โดยเฉพาะมาตรา 5 และ 9 ที่เกี่ยวกับองค์ประกอบของคณะกรรมการสภาวิชาชีพสื่อมวลชน และรายได้ที่สนับสนุนสภาวิชาชีพ จากนั้นที่ประชุมมีมติรับทราบรายงานของกมธ.ทั้ง 3 วาระปฏิรูป ด้วยคะแนน 107 ต่อ 10 งดออกเสียง 17 และเห็นชอบกับร่างพ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพฯ ด้วยคะแนน 167 ต่อ 20 งดออกเสียง 27 ทั้งนี้ นายเทียนฉายประธานที่ประชุม แจ้งว่ากมธ.จะนำข้อเสนอแนะและความเห็นของสมาชิกไปปรับปรุงร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวภายใน 7 วัน ก่อนส่งให้ครม.ต่อไป ส่วนสมาชิกที่ต้องการยื่นญัตติแก้ไขเพิ่มเติมให้ยื่นต่อประธานกมธ.ภายใน 3 วัน จากนั้นสั่งปิดการประชุมในเวลา 16.40 น.
คสช.ปัดห้ามจัดเบิร์ธเดย์แม้ว
พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก ในฐานะรองเลขาธิการคสช. กล่าวถึงกระแสข่าวว่าคสช.ห้ามจัดงานวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 66 ปีของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในวันที่ 26 ก.ค. ตลอดจนถึงห้ามน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ และแกนนำพรรคเพื่อไทยเดินทางออกนอกประเทศในช่วงนี้ว่า ยังไม่เห็น เป็นการปล่อยข่าวลือหรือเปล่า เพราะตนยังไม่เห็นใครในคสช.พูดถึงเรื่องนี้เลย และในส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์มีคำสั่งศาลห้ามออกนอกประเทศ ไม่ใช่คำสั่งของคสช.
พล.อ.ฉัตรเฉลิมกล่าวต่อว่า สำหรับแกนนำหรือสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนอื่นๆ ที่ไม่ได้ถูกศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศก็สามารถเดินทางไปต่างประเทศได้ตามปกติ โดยการขออนุญาตจาก คสช.เหมือนเช่นที่ผ่านมา ส่วนใหญ่แล้วคสช.อนุญาตให้ไปเกือบทุกคน มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ไม่อนุมัติ
ทูตญี่ปุ่นคนใหม่ทวงคดี"ฮิโรยูกิ"
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 20 ก.ค. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) นายซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เข้าพบพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม และพ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อหารือในประเด็นต่างๆ
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวภายหลังการหารือว่า นายซะโดะชิมะเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง จึงมาพบและเสนอแนวทางการทำงาน นอกจากนี้ครอบครัวของน.ส.โทโมโกะ คาวาชิตะ นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นที่ถูกฆาตกรรมภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2550 ได้ฝากจดหมายขอบคุณรัฐบาลไทยที่ช่วยดำเนินคดีมายังตนด้วย ซึ่งคดีนี้ดีเอสไอรายงานว่าอยู่ระหว่างการสอบปากคำและตรวจดีเอ็นเอเพิ่ม
"ทางทูตยังสอบถามความคืบหน้าคดีนายฮิโรยูกิ มูราโมโตะ ช่างภาพสำนักข่าวรอยเตอร์ ชาวญี่ปุ่น ที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ได้ชี้แจงว่าคดีอยู่ในขั้นตอนของศาลแล้ว อยู่ระหว่างการไต่สวนสาเหตุการตาย" พล.อ.ไพบูลย์กล่าว
เมื่อถามว่าการเข้าพบครั้งนี้ได้พูดคุยถึงผู้ต้องหาในคดีอาญามาตรา 112 ด้วยหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า หารือในเรื่องนี้ด้วย ได้ส่งรายชื่อผู้ต้องหาที่ลี้ภัยอยู่ที่ญี่ปุ่น 1 รายชื่อ คือ นายประวิน ชัชวาลย์พงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ให้กับทางการของญี่ปุ่น พร้อมชี้แจงว่าคดีอาญามาตรา 112 ไม่ใช่คดีการเมือง เชื่อว่าญี่ปุ่นเข้าใจเรา ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีกฎหมายที่เกี่ยวกับการลี้ภัยทางการเมือง และการส่งรายชื่อในครั้งนี้ไม่ได้สั่งให้ไปจับ แต่ให้ทางการญี่ปุ่นได้เข้าใจและศึกษาเพื่อพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่ที่กwลุ่มเหล่านี้ใช้เหตุผลลี้ภัยทางการเมือง รวมถึงอยากให้เข้าใจความรู้สึกของคนไทยด้วย