- Details
- Category: การเมือง
- Published: Monday, 13 July 2015 13:33
- Hits: 5067
แถลงปกป้องไทย 'จีน'โวย! มะกันชักใยอุยกูร์ 'มุสลิมใต้'เตรียมเข้าพบบิ๊กตู่ ขอให้แจงปมส่งกลับ 109 คน รบ.ชี้รูปคลุมหัว-กันก่อเหตุ
รองประธานเครือข่าย ช่วยเหลือด้านมนุษย ธรรม ประจำจุฬาราช มนตรี แถลงไม่เห็นด้วยส่งชาวอุยกูร์กลับ ไม่มีใครรับรองความปลอดภัย เตรียมขอพบนายกฯ ขอทราบคำชี้แจง ก่อนจะเดินทางไปจีนดูความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมอุยกูร์ รองโฆษกรัฐบาล 'วีรชน'โต้แทนจีน อ้างจนท.นั่งประกบตัว-ถุงดำคลุมหน้าอุยกูร์ระหว่างเดินทางจากไทยกลับจีน เป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบิน ป้องกันพยายามต่อสู้หรือจี้เครื่องบิน อ้างอีกจีนบอกมีคนเชื่อมโยงก่อการร้ายรวมอยู่ด้วย ด้านรองฯ ไก่อูมั่นใจรัฐบาลทำถูกต้องเหมาะสมทุกอย่าง อัดประชาคมโลกท้วงติงไทย คนทำผิดแล้วลักลอบเข้าเมืองจะไม่ส่งกลับประเทศต้นทางได้อย่างไร 'บิ๊กโด่ง' ย้ำด้วย ปล่อยให้อยู่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้ ทั้งผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่ไม่ถูกต้อง หรือผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบด้านตะวันตก ต้องแก้ไขโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8993 ข่าวสดรายวัน
ป้องอุยกูร์ - ภาคีเครือข่าย"เพราะเราคือเรือนร่างเดียวกัน"ชาวไทยมุสลิมนราธิวาสกว่า 30 องค์กร เปิดแถลงข่าวแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และผิดหวังอย่างแรงที่รัฐบาลไทยส่งตัวผู้อพยพชาวอุยกูร์ 109 คนไปให้รัฐบาลจีน เมื่อวันที่ 12 ก.ค.
วันที่ 12 ก.ค. พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีสื่อจีนและสื่อต่างประเทศนำเสนอ ข่าวและภาพการส่งผู้อพยพชาวอุยกูร์จากประเทศไทยจำนวน 109 คนไปยังประเทศจีน และระบุว่า 13 คนจาก 109 คนมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวน การก่อการร้าย ทั้งนี้ภาพที่ปรากฏเป็นภาพ เจ้าหน้าที่จีนนั่งประกบชาวอุยกูร์ บางคนมีถุงดำคลุมหน้า และเมื่อถึงประเทศจีนก็มีเจ้าหน้าที่หิ้วตัวลงจากเครื่องบิน จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า คนมองภาพก็จะคิดไปต่างๆ นานา แต่น่าจะเข้าใจว่าในสถานการณ์แบบนั้น ถ้าไม่ควบคุมให้รัดกุมบนเครื่องบิน หากเกิดการต่อสู้หรือพยายามจะจี้เครื่องบิน แล้วจะเกิดผลร้ายแรงแค่ไหน อีกทั้งจีนก็ระบุว่าในจำนวนนี้มีคนที่เชื่อมโยงกับขบวนการการก่อการร้ายด้วย จึงต้องคุมเข้ม
"จึงขอความร่วมมือสื่อไทยในการเสนอข่าว เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด เพราะเป็นเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินของทางการจีน ส่วนเรื่องคดี ทางการจีนยืนยันกับรัฐบาลไทยแล้วว่าจะให้ความเป็นธรรม ใครเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้อง และพร้อมให้ไทยส่งตัวแทนและองค์กรต่างๆ ไปร่วมสังเกตการณ์ได้" รองโฆษกรัฐบาลกล่าว
ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้ากรณีดำเนินการกับชาวอุยกูร์ที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายว่า มั่นใจว่ารัฐบาลไทย ดำเนินการทุกอย่างถูกต้องเหมาะสมที่สุดแล้ว ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นการตัดสินใจของรัฐบาล เมื่อมีผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และมีหลักฐานว่าเคยกระทำผิดในประเทศอื่นมาก่อน รวมทั้งพิสูจน์สัญชาติแล้วว่าเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ประเทศไทยก็ไม่มีทางเลือกเป็นอื่น จะต้องส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง
"อยากถามประเทศที่ประณามไทยเช่นกันว่า หากมีผู้กระทำผิดกฎหมายร้ายแรงจากประเทศหนึ่งหลบหนีมาพำนักในประเทศของท่าน ท่านจะดำเนินการส่งตัวกลับไปดำเนินคดียังประเทศต้นทาง หรือสนับสนุนให้ส่งต่อไปยังที่อื่น ในทางกลับกัน ถ้าเป็นผู้กระทำผิดในประเทศของท่าน แล้วหลบหนีไปประเทศอื่น ท่านต้องการให้ส่งตัวกลับไปรับโทษในประเทศของท่านหรือไม่ คำตอบนั้นชัดเจนด้วยหลักเหตุผลที่สมบูรณ์ จึงไม่มีความเหมาะสมใดๆ เลยที่จะกล่าวร้ายต่อการปฏิบัติของประเทศไทย และในส่วนผู้ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับการก่อคดีใดๆ รวมทั้งผ่านการพิสูจน์สัญชาติแล้ว ประเทศไทยก็ดูแลส่งไปยังประเทศปลายทางตามประสงค์อย่างปลอดภัย โดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนเสมอมา" พล.ต.สรรเสริญกล่าว และเชื่อว่าสถานการณ์ความไม่พอใจจะคลี่คลายลงได้ เมื่อทุกฝ่ายยึดหลักเหตุและผลมากกว่าใช้อารมณ์ และเคารพต่อกฎหมายทั้งภายในประเทศและกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งมีความพยายามร่วมมือกันที่จะทำให้สถาน การณ์เป็นปกติโดยเร็ว
วันเดียวกัน พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. กล่าวว่านายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจในการแก้ปัญหา แต่มีความระมัดระวัง ในฐานะฝ่ายความมั่นคงเองก็ต้องติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว ซึ่งตนได้มอบหมายให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.)เฝ้าสังเกตพร้อมที่จะคลี่คลายสถานการณ์ต่างๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับสถานการณ์ภายในประเทศก็ไม่มีอะไร คิดว่ากระทรวงการต่างประเทศพยายามสร้างความเข้าใจในส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวกับต่างประเทศ ได้ดำเนินการภายใต้ข้อมูลหลักฐานที่มีและควรปฏิบัติตามนั้น
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า คงไม่สามารถปล่อยให้ผู้หลบหนีเข้าเมืองผิดกฎหมาย ผู้อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานที่ไม่ถูกต้อง หรือ ผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบตามแนวชายแดนทางด้านตะวันตกจำนวนมาก อยู่ไปได้เรื่อยๆ ต้องแก้ไขเพราะมันเป็นปัญหา และแก้ไขให้ถูกต้องโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน รัฐบาลคำนึงถึงตรงนี้ แต่ต้องดำเนินการกฎหมายตามความเหมาะสม ปล่อยให้อยู่กันโดยที่ไม่มีแนวทางเลยคงไม่ได้ ทั้งนี้การดำเนินการก็ระมัดระวัง และต้องทำความเข้าใจกับทุกฝ่าย
ที่ร.ร.ริเวอร์ไซด์ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างบรรยายพิเศษหัวข้อ "การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม ความรัก ความสามัคคี และความปรองดองของคนในชาติ" ถึงกรณีการโจมตีทางการไทยละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ ว่า ปัญหาคือประเทศไทยอยู่ตรงกลาง เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แต่เอากระดูกมาแขวนคอ จีน ตุรกี มาขัดแย้งในประเทศเรา ซึ่งก็ต้องทำตามกฎหมายและพันธสัญญาระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยก็ต้องพิสูจน์ตามสัญชาติ จีนก็มองในแง่ความมั่นคง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.30 น. วันเดียวกัน ที่ห้องประชุมร้านอาหารนาเซร์ เทศบาลเมืองนราธิวาส นายเมฐา เมฆารัฐ ประธานเครือข่ายเพราะเราคือเรือนร่างเดียวกัน จ.นราธิวาส และภาคีเครือข่ายชาวไทยมุสลิมนราธิวาสกว่า 30 องค์กร ร่วมแถลงข่าวเพื่อกำหนดการละหมาดวันฮารีรายออีดิ้ลฟิตตรี ประจำปี 2558 ซึ่งองค์กรได้ประสานไปยังคณะกรรมอิสลาม ผู้นำศาสนา เพื่อให้การจัดพิธีละหมาดครั้งประวัติศาสตร์ครั้งแรก ในพื้นที่จ.นราธิวาส เนื่องจากที่ผ่านมากระจายจัดละหมาดตามมัสยิดต่างๆ แต่ในปี้นี้จะจัดขึ้นบริเวณสนามกีฬาเทศบาลเมืองนราธิวาส ซึ่งรองรับประชาชนมุสลิมนับหมื่นคน โดยมีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ตำรวจ ทหารและฝ่ายปกครอง ดูแลความสงบเรียบร้อยตลอดระยะเวลาพิธีละหมาด ทั้งนี้ จุฬาราชมนตรีได้ประกาศให้ดูดวงจันทร์ในพฤหัสบดีที่ 16 ก.ค. หลังดวงอาทิตย์ตกดิน ถ้ามีคนเห็นดวงจันทร์ จะถือเป็นวันฮารีรีรายอ หากไม่เห็นดวงจันทร์ให้วันฮารีรายออีดิ๊ลฟิตตรีถือเป็นการสิ้นสุดวันถือศิลอดรอมฎอนด้วย จึงขอเชิญชวนชาวไทยมุสลิมร่วมกันละหมาดวันดังกล่าว เพื่อสร้างประวัติศาสตร์ความสามัคคี
นายเมฐากล่าวในฐานะรองประธานเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ประจำจุฬาราช มนตรีว่า เรื่องที่รัฐบาลไทยส่งชาวมุสลิมอุยกูร์ไปยังประเทศจีน องค์กรมุสลิมในประเทศไทยหลายองค์กรไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และผิดหวังกับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะประเทศจีนเป็นประเทศปกครองแบบคอมมิวนิสต์ มีกฎหมายรุนแรง การส่งชาวอุยกูร์ไปไม่มีใครรับรองความปลอดภัย แม้จีนจะกล่าวว่าเป็นประเทศคอมมิวนิสต์เปิด แต่กฎหมายหลบหนีออกนอกประเทศมีโทษสถานหนักมาก
นายเมฐา กล่าวว่า แต่ล่าสุดรัฐบาลไทย แจ้งว่าประสานรัฐบาลจีน สามารถขอดูและติดตามชาวอุยกูร์กลุ่มที่ส่งตัวได้ ในเบื้องต้นองค์กรมุสลิมไทยจะขอพบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอทราบและคำชี้แจง จากนั้นเครือข่ายมุสลิมจะร่วมเดินทางไปยังประเทศจีน เพื่อดูความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมอุยกูร์ ในส่วนชาวอุยกูร์ที่ยังอยู่ในประเทศไทย ขอร้องให้รัฐบาลอย่าส่งไปจีนอีก ทั้งนี้ประเทศตุรกีพร้อมรองรับผู้อพยพเหล่านี้ ที่สำคัญขณะประเทศไทยแถลงว่าถูกต้อง แต่ต่างประเทศ ตุรกี เยอรมนี สหรัฐอเมริกา สหประชาชาติ แสดงความเห็นว่าไทยอาจเข้าข่ายละเมิดสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งไทยลงนามในสนธิสัญญาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 11 ก.ค. เอเอฟพีรายงานว่า กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ระบุถึงชาวมุสลิม อุยกูร์บางส่วนในจำนวน 109 คน ที่ทางการไทยส่งตัวกลับไปให้มีความผิด เนื่องจาก ถูกพบว่าอยู่ระหว่างพยายามเดินทางไปยังประเทศตุรกี ซีเรีย และอิรัก เพื่อเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ดังกล่าว และกล่าวโจมตีสหรัฐอเมริกาที่ประณามการส่งตัวชาวอุยกูร์ให้กับจีนของไทย โดยนางหัว ชุน หยิง โฆษกกระทรวงความมั่นคงฯ จีนกล่าวว่า แถลงการณ์ประณามไทยของสหรัฐ เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงและเต็มไปด้วยอคติทางการเมือง ถือเป็นการรู้เห็นเป็นใจต่อการหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และละเมิดความตกลงรวมทั้งหลักกฎหมายสากล
ทางการจีนระบุว่า ในจำนวนดังกล่าวมี 13 คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวกลุ่มก่อการร้าย และชาวอุยกูร์อีกหลายคนถูกโน้มน้าวให้มีแนวคิดสุดโต่งจากขบวนการอิสลามแห่งเตอร์กิสถานตะวันออก หรืออีทีไอเอ็ม และสมัชชาชาวอุยกูร์โลก หรือดับเบิลยูยูซี นอกจากนี้ กระทรวงความมั่นคงฯ ของจีนยังอ้างว่า การสืบสวนของหน่วยงานตำรวจจีนค้นพบกลุ่มแนวคิดสุดโต่งหลายกลุ่มในประเทศตุรกี โดยจีนมีประจักษ์พยานที่เป็น ผู้เดินทางกลับมาจากซีเรียที่ระบุว่า ผู้คนที่เดินทางไปตุรกีถูกกลุ่มเหล่านี้ที่นำโดยอีทีไอเอ็มเกณฑ์ไปเป็นนักรบและพาไปร่วมสู้กับกลุ่มแนวคิดสุดโต่งในซีเรีย