- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 22 June 2014 21:30
- Hits: 7865
'บิ๊กตู่'เกษียณ 30 ก.ย. ปลัดกห.ชง พร้อม 117 นายพลทบ.ยกแผง'ผบ.สส.-3 ทัพ'หนุนคสช.'ปฏิรูปศาล'ปูสุขฉลองวันเกิด 47 ปี
มติชนออนไลน์ :
กห.มีคำสั่งให้นายทหารเกษียณ มีชื่อ'บิ๊กตู่'พร้อมผบ.เหล่าทัพ 'ปู'ควง'ไปป์'ทำบุญครบรอบวันเกิด47ปี เผยมีความสุขได้ดูแลลูกมากขึ้น
@ กลาโหมสั่ง"บิ๊กตู่"เกษียณ
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์กรมเสมียนตรา กระทรวงกลาโหม เผยแพร่คำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 374/2557 โดย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการปลัดกลาโหม และปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงกลาโหมที่ 374/2557 เรื่อง ให้นายทหารออกจากราชการ เนื่องจากครบกำหนดเกษียณราชการ ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2557 ภายหลังจากที่กรมเสมียนตราจัดทำบัญชีรายชื่อนายทหารระดับชั้นนายพลที่เกษียณราชการในวันที่ 30 กันยายน 2557 โดยในส่วนของกองทัพบก (ทบ.) มีจำนวน 117 นาย ในจำนวนนี้มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รวมอยู่ด้วย ส่วน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.อ.สุรศักดิ์ นั้นทางกระทรวงกลาโหมได้ออกคำสั่งเกษียณอายุราชการไล่เลี่ยกัน
แหล่งข่าวระดับสูงกระทรวงกลาโหม ระบุว่า ที่ พล.อ.สุรศักดิ์ ลงนามในคำสั่งให้นายทหารออกจากราชการ เนื่องจากครบกำหนดเกษียณราชการนั้น เป็นคำสั่งที่ปกติตามวงรอบ ไม่ใช่เรื่องลับ ทุกปีที่ผ่านมาก็เป็นแบบนี้ เพื่อให้มีการดำเนินการในทางธุรการและหาหลักฐานการเกษียณของทุกคน ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีนัยยะทั้งสิ้น ไม่ได้เจาะจงใคร
@ คสช.จัดกิจกรรมคืนความสุข
ด้านการจัดงานคืนความสุขให้คนในชาติ เมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานราชการ จัดกิจกรรมที่โรงเรียนสุเหร่าหัวหมากน้อย ซอยรามคำเเหง 60 เเขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. โดยมีนายสิน นิติธาดากุล ผู้อำนวยการเขตบางกะปิ เป็นประธานเปิดงาน มีชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมเข้าร่วมงานจำนวนมาก ภายในงานมีกิจกรรมของเจ้าหน้าที่ทหารให้ร่วมสนุกเเละรับของรางวัล อาทิ ซุ้มการยิงปืนบีบีกัน การออกร้านจำหน่ายสินค้าราคาถูก การเเจกต้นกล้า ผักสวนครัวเเละปุ๋ยชีวภาพ การฝึกวิชาชีพระยะสั้น บริการตรวจสุขภาพ เป็นต้น
ส่วนที่โรงเรียนบางชัน (ปลื้มวิทยานุสรณ์) เขตคลองสามวา กทม. มีกิจกรรมคืนความสุขให้คนในชาติเช่นกัน ภายในงานมีการเเสดงดนตรี บริการอาหารและเครื่องดื่ม บริการหน่วยเเพทย์เคลื่อนที่ บริการตัดผมฟรี เกมเตะฟุตบอลเเลกของรางวัล เป็นต้น
เวลา 17.00 น. สำนักงานเขตดินแดง ตำรวจ ทหาร และภาคธุรกิจจัดกิจกรรมรวมพลังสร้างสรรค์ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ณ ลานฟอร์จูนสตรีท ศูนย์การค้าฟอร์จูนทาวน์ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ภายในงานมีแสดงดนตรี บริการตรวจสุขภาพ นวดแผนโบราณ ตรวจดูดวงชะตา เครื่องเล่นสำหรับเด็ก รวมทั้งบริการอาหารและเครื่องดื่ม ฯลฯ ทั้งหมดไม่เสียค่าใช้จ่าย
@ "ปู"ควง"ไปป์"ทำบุญครบ47ปี
ด้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางด้วยรถโฟล์กตู้ สีดำ ทะเบียน ฮน 6876 กรุงเทพมหานคร พร้อม ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชาย มายังวัดบึงทองหลาง แขวงบางจั่น เขตบางกะปิ กทม. เมื่อเวลา 09.00 น. เพื่อทำบุญเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 47 ปี โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์มีใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ 9 รูป และพระบุญสม เตชะวะโร พระลูกวัดวัดบึงทองหลาง ได้มอบพระเครื่องหลวงปู่ทวดวัดช้างไห้ พร้อมสายผ้าร่มให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และเหรียญหลวงปู่ทวดให้ ด.ช.ศุภเสกข์ พร้อมระบุว่า เหรียญหลวงปู่ทวดนี้เป็นรุ่นพิเศษ มอบให้เพื่อให้เกิดความแคล้วคลาดพ้นภัยทุกสิ่งทุกอย่าง พร้อมมอบหนังสือธรรมะและให้พรว่า วันเกิดเป็นวันดี อยากให้มีวันคล้ายวันเกิดทุกวัน เพื่อให้เป็นวันดีสำหรับผู้ที่เกิดให้พบสิ่งที่ดีและสมปรารถนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังถวายสังฆทาน กรวดน้ำ ฟังเทศน์ และรับพรจากพระสงฆ์เสร็จแล้ว พระครูสุจิตวิมล เจ้าอาวาสวัดบึงทองหลางได้พูดคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยได้ถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ว่า ช่วงนี้ทำอะไรบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่า มีเวลาดูแลลูกมากขึ้น เพราะที่ผ่านมาไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก พระครูสุจิตวิมลได้ถามอีกว่า ได้ไปทำบุญที่ไหนมาแล้วบ้าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอบว่ายังไม่ได้ไปทำบุญที่ไหนเลย วันนี้วันเกิดก็เลยมาทำบุญที่นี่เพราะใกล้บ้าน จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ร่วมถ่ายรูปและพูดคุยกับประชาชนที่มาให้กำลังใจ และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ประเด็นทางการเมือง
@ โพสต์ขอบคุณทุกคำอวยพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหนึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้พูดคุยกับสื่อมวลชนว่าช่วงนี้สบายดี ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า คสช.คืนความสุขมาให้ได้รับความสุขแล้วหรือยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า "ได้แล้วค่ะ" (หัวเราะ) นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ยังกล่าวอีกว่าช่วงนี้ยังขาเจ็บอยู่เลยไม่ค่อยได้ไปไหน
ขณะที่ ด.ช.ศุภเสกข์กล่าวว่า วันคล้ายวันเกิดคุณแม่ปีนี้ ได้วาดภาพเป็นรูปนกให้กับคุณแม่ ซึ่งไม่มีนัยอะไรเป็นพิเศษ อยากให้แม่มีความสุข สุขภาพแข็งแรง และช่วงนี้มีเวลาอยู่กับแม่มากขึ้น หลังจากแม่ไม่มีภารกิจทางการเมืองแล้ว ผู้สื่อข่าวได้ถามความรู้สึกของ ด.ช.ศุภเสกข์ด้วยว่า คุณแม่กลับมาอยู่ที่บ้านรู้สึกอย่างไรบ้าง ด.ช.ศุภเสกข์กล่าวว่า ก็มีความสุขมาก เมื่อถามต่อว่าคุณแม่ได้พาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ด.ช.ศุภเสกข์กล่าวว่า ส่วนใหญ่พาไปเดินห้างฯครับ
ต่อมาเวลา 12.10 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ "Yingluck Shinawatra" ว่า "วันนี้มาทำบุญวันคล้ายวันเกิดที่วัดบึงทองหลางกับน้องไปป์ วันเกิดถือว่าเป็นวันแห่งความสุข เป็นวันที่ทุกคนตั้งตารอคอย เพราะจะได้พบกับคนที่เรารักและคนที่รักเรา เมื่อเรามีความสุข เราก็สุขกาย สุขใจ ก็อยากให้คนไทยทุกคนมีความสุขเช่นกันค่ะ และขอขอบคุณสำหรับทุกๆ คำอวยพรและดอกไม้ที่มอบให้ค่ะ"
@ "โอ๊ค"ยกเสาหลักประชาธิปไตย
ขณะที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก อวยพรเนื่องในวันคล้ายวันเกิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ ตอนหนึ่งว่า "เชื่อว่าปีนี้ คงมีคนอยากเจอ และอยากไปอวยพรอาปูด้วยตัวเอง มากกว่าทุกๆ ปีที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถกระทำได้เช่นกัน จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันอวยพรอาปูในเฟซบุ๊กนี้ พร้อมๆ กันไปเลย ขอให้อาปูมีความสุข สุขภาพแข็งแรง และมีกำลังใจที่เข้มแข็ง พร้อมที่จะฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง ที่จะประดังเข้ามาในปีนี้ไปให้จงได้ พวกเราทุกคนพร้อมที่จะเป็นกำลังใจ และยืนเคียงข้างอาปูเสมอ
"วันใดที่อาปูท้อ ขอให้คิดเสมอว่า อาปูคือเสาหลักของประชาธิปไตยในเวลานี้ อาปูคือ นายกฯหญิงคนแรกของประเทศไทย ที่มีคนออกมาเลือกเกินครึ่งหนึ่งของผู้ใช้สิทธิทั่วประเทศ และอาปูจะเป็นนายกฯคนสุดท้ายที่มาจากการเลือกตั้งไปอีกนาน นานตราบเท่าถึงวันที่คนไทยจะได้ความสุขที่แท้จริง ที่ชื่อประชาธิปไตยกลับคืนมา ยินดีให้ความร่วมมือ ด้วยการไม่เขียนอะไรมากไปกว่านี้ครับ หากเกินเลยไปบ้าง ขอให้นึกซะว่าเป็นการคืนความสุขเล็กๆ ให้กับผม เนื่องในวันเกิดของอาปูในวันนี้ละกันขอให้อาปูมีความสุขมากๆ ครับ"
@ "เอกนัฏ"บวชอุทิศส่วนกุศล
ที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 09.00 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) เข้าพิธีปลงผมนาคเพื่ออุปสมบท โดยมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นางศรีสกุล พร้อมพันธุ์ มารดานายเอกนัฏ รวมทั้งแกนนำ กปปส. และแกนนำพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. และนายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เข้าร่วมพิธีพร้อมประชาชนจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้ การอุปสมบท มีพระเทพปัญญาโมลี เจ้าคณะจังหวัดพังงา เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า "พรหฺมวํโส" แปลว่า ผู้เป็นศรีแห่งพรหม ทั้งนี้ พระเอกนัฏ กำหนดบวช 15 วัน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ผู้ชุมนุม กปปส. ที่เสียชีวิตระหว่างการชุมนุม โดยจะจำวัดที่วัดชลประทานรังสฤษฏ์ 2 วัน จากนั้นจะเดินทางไปจำวัดและปฏิบัติธรรมที่วัดป่าอัมพวัน อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี เป็นเวลา 13 วัน ก่อนจะลาสิกขา
@ "เจษฎ์"หนุนปฏิรูป3อำนาจ
นายเจษฎ์ โทณวณิก คณบดีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม กล่าวถึงแนวทางการปฏิรูปของ คสช. ว่าการปฏิรูป 3 อำนาจ ควรทำอยู่แล้ว แต่บังเอิญว่าที่ผ่านมาไม่ได้ทำใหญ่ และในความจริง 3 อำนาจควรจะต้องมีการพัฒนาเรื่อยๆ มีการเปลี่ยนแปลงตลอด เล็กบ้างใหญ่บ้าง เหมือนกับการซ่อมบำรุงรถยนต์ที่ต้องเติมน้ำมันบ้าง ซ่อมเครื่อง ยกเครื่องบ้าง เป็นต้น แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลยเครื่องก็จะพังจนนำไปสู่การรัฐประหารอย่างที่ผ่านมา สิ่งสำคัญที่จะทำให้การเปลี่ยนแปลงไปสู่แนวทางที่ดีคือ การจัดการระบบเพื่อความยั่งยืน
"การจัดการระบบเพื่อความยั่งยืนก็คือ ทำให้ระบบต่างๆ สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลงได้ตลอด โดยที่ต่อไปไม่จำเป็นต้องมีการยกเครื่องหรือปฏิรูปชุดใหญ่แบบนี้อีก ให้ระบบมันเดินได้ด้วยตัวเอง โดยมีการเปลี่ยนแปลง พัฒนา แก้ไขไปตามระบบกันเอง เช่น การตั้งฝ่ายบริหารจัดการอย่างไรไม่ให้มีระบบของรัฐมนตรีตามโควต้า อาจจะให้ ส.ส.ไม่ต้องมานั่งในฝ่ายบริหาร เพื่อไม่ให้ยึดติดกับมติของพรรคการเมือง แต่ทำเพื่อประชาชนในท้องถิ่นจริงๆ แต่ผู้ที่จะต้องยึดโยงฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารจริงๆ คือนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่จำเป็นต้องมาจาก ส.ส.ก็ได้ เพื่อที่จะไม่ต้องทำทุกอย่างตอบสนองฝ่ายการเมืองหรือพรรคที่สังกัด แต่นายกฯต้องมาจากสภาเป็นผู้เลือก ทำให้มีความรับผิดชอบต่อสภาต้องมาตอบคำถามสภาทุกครั้ง ตรงนี้ก็จะทำให้อำนาจนิติบัญญัติกับอำนาจบริหารแยกกันออกอย่างชัดเจน" นายเจษฎ์กล่าว
@ เสนอที่มา9ตุลาการรธน.
นายเจษฎ์กล่าวว่า การปฏิรูปอำนาจตุลาการ จะทำอย่างไรให้ยึดโยงกับประชาชน ยกตัวอย่างศาลรัฐธรรมนูญ ที่มีตุลาการ 9 ท่าน วิธีที่ 1 คือ ให้ทั้ง ส.ส.และ ส.ว.เสนอชื่อมา 3 คน รัฐบาลเสนอ 3 คน ศาลอีก 3 คน หรือวิธีที่ 2 คือ ให้ ส.ส.-ส.ว.เสนอชื่อ 5 คน รัฐบาลเสนอชื่อมาอีก 5 คน แล้วให้ประชาชนลงคะแนนเลือกเหลือบัญชีละ 3 ชื่อ จากนั้นมารวมกับที่ศาลเลือกอีก 3 คน จะทำให้ตุลาการได้มาจากการคัดเลือกของประชาชนถึง 6 คน จะทำให้ตัดข้อครหาต่างๆ ในการตัดสินข้อพิพาทได้ว่าไม่ได้มาจากคนของใครหรือฝ่ายไหน แต่เป็นการยึดโยงกับเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง เป็นต้น ทั้งนี้ สิ่งเหล่านี้ควรจะต้องปรากฏในรัฐธรรมนูญด้วย
ส่วนข้อเสนอแนะในการเลือกผู้ที่จะมานั่งในสภาปฏิรูป นายเจษฎ์ระบุว่า สภาปฏิรูปควรจะมาจากหลายภาคส่วน เช่น กลุ่มเกษตรกร สภาวิชาชีพ สถาบันการศึกษา พ่อค้าประชาชน โดยเป็นกลุ่มที่ยึดโยงกับประชาชน ส่วนในการทำงานนั้นเห็นว่าสภาปฏิรูปไม่ควรที่จะลงมือทำเองทั้งหมด โดยตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อทำตามจุดประสงค์ต่างๆ เช่น คณะทำงานปฏิรูประบบการศึกษา คณะทำงานปฏิรูปปราบทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นต้น แล้วผลของการทำงานตรงจุดนี้สภาปฏิรูปก็จะเป็นผู้พิจารณาก่อนนำไปปฏิบัติ
@ แนะปรับ"3อำนาจ"ให้สมดุล
พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า กล่าวว่า ประเด็นการปฏิรูป 11 เรื่องของ คสช.นั้น ครอบคลุมทั้งหมด แต่ที่น่าสนใจคือ แบ่งเป็นการแก้ปัญหาเร่งด่วน ปัญหาระยะสั้น และปัญหาระยะยาว ในระยะยาวนั้นคงจะยาว 5-10 ปี
เช่น ปัญหาเชิงโครงสร้าง ทั้งนี้ สิ่งที่จะทำให้ได้รับรู้ถึงปัญหานั้น จะต้องเปิดเวทีรับฟังให้มากๆ และกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกัน คือการมองภาพประเทศในอนาคตร่วมกัน ว่าจะพัฒนาอะไรบ้าง มีปัญหาอะไรบ้างที่ต้องทำ เพื่อจะพัฒนามิติต่างๆ ให้ครอบคลุม
"เรื่องการปรับ 3 อำนาจนั้น ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าอำนาจตุลาการจะมีอำนาจสูงกว่าอำนาจนิติบัญญัติและบริหาร ในภาวะประชาธิปไตยที่จะขับเคลื่อนไปได้ต้องสร้างสมดุลระหว่างกัน ไม่ให้มีอำนาจมาก้าวก่ายระหว่างกัน วันนี้มีอำนาจข้ามขอบเขตขึ้นมาเยอะมาก ที่คนเรียกกันว่าตุลาการภิวัฒน์ ด้วยสาเหตุนี้ต้องสร้างสมดุลสามอำนาจไม่ให้ก้าวก่ายกัน" พล.อ.เอกชัยกล่าว
@ "ชทพ."พร้อมร่วมมือคสช.
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุถึงแนวทางการตั้งสภาปฏิรูปว่าจะเชิญตัวแทนพรรคการเมืองพูดคุยว่า ชทพ.ยังไม่ได้รับแจ้งหรือประสานมา หากได้รับการประสานมา ทางพรรคก็ไม่ขัดข้อง และพร้อมให้ความร่วมมือ ส่วนประเด็นที่เห็นว่าทาง คสช. ควรเร่งปฏิรูปคือ หัวใจคน ทำให้คนมีเมตตา มีคุณธรรม มีจริยธรรม และให้อภัยต่อกัน โดยเชื่อว่าหากจิตใจคนถูกยกระดับประเด็นความขัดแย้งหรือแตกแยกจะลดลง และจะส่งผลไปยังตัวของนักการเมืองด้วย
"ส่วนแนวทางของการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายนั้น ส่วนตัวมองว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะหากคนไม่มีคุณธรรมหรือจริยธรรม กฎหมายที่ถือว่าดีที่สุดอย่างรัฐธรรมนูญ 2540 ยังมีบุคคลที่พยายามหาช่องหลีกเลี่ยง อย่างไรก็ตาม พรรคพร้อมให้ความร่วมมือกับ คสช. และในฐานะที่พรรคมีประสบการณ์งานด้านปฏิรูป และแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมที่จะนำประสบการณ์ดังกล่าวนำเสนอและปรับให้เหมาะสมกับภาวะปัจจุบันด้วย" นายสมศักดิ์กล่าว
@ "เพื่อไทย"เดินหน้ารักษาปชต.
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ รักษาการรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงทิศทางของ พท. หลังจากนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ลาออกจากการเป็นหัวหน้าพรรคว่า ทิศทางของ พท.ยังอยู่ในแนวทางที่จะต้องรักษาระบอบประชาธิปไตยต่อไป ทั้งโรดแมปของ คสช.ก็อยู่ในแนวทางนี้ด้วย ถือว่าสอดคล้องกัน ดังนั้น พท.จึงจะร่วมมือกับ คสช.เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ และนำประชาธิปไคยกลับมา
แหล่งข่าวจาก พท.เปิดเผยถึงข้อเสนอของ พท.ที่ได้เสนอต่อ คสช. เรื่องการปฏิรูปประเทศหลังจากที่ได้มีการประชุมร่วมกันว่า พท.เสนอว่าสภาปฏิรูปจะมีองค์ประกอบอย่างไรถึงจะเป็นที่ยอมรับ ส่วนจะปฏิรูปอะไรนั้น พรรคให้ความสำคัญเรื่องรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยมีที่มาจากประชาชน กระบวนการยุติธรรมที่เสมอภาคมีมาตรฐาน การไม่นำศาลมาเกี่ยวข้องทางการเมือง ที่มาขององค์กรอิสระ การขจัดความเหลื่อมล้ำในสังคม การสร้างความปรองดองโดยให้สังคมไทยอยู่ร่วมกันได้โดยสันติสุขเมตตาและอภัยกัน เช่น ต้องมีตัวแทนประชาชนมาจากการเลือกตั้งส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งมาจากองค์กรด้านต่างๆ อย่างหลากหลายและผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ควรทำแบบปี 2549 เพราะมีการบล็อกโหวตในที่สุดก็ได้แต่พวกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.)
@ "นิพิฏฐ์"บอกไม่ต้องเกรงใจ
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้า ปชป. กล่าวถึง คสช.จะปฏิรูป 11 ประเด็นสำคัญ ว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ คสช.จะแก้ปัญหาซึ่งหมักหมมมานาน ทั้ง 11 เรื่อง ในระหว่างที่ยังไม่มีผู้แทนราษฎร ส่วนการปรับ 3 อำนาจประชาธิปไตยใหม่ เป็นเรื่องที่มีการร้องเรียนมาโดยตลอด และการจะทำเรื่องนี้ได้ต้องมีการตรวจสอบถ่วงดุลได้ การแก้ปัญหาของประเทศเป็นเทคนิคเหมือนกับต้องอาศัยคนที่มีความชำนาญเฉพาะด้านรู้ปัญหาจริงเข้ามาแก้
"ต้องได้คนที่มีความรู้ทฤษฎีผ่านภาคปฏิบัติมาแล้วเข้ามาช่วยเสนอแนะและแก้ไข แต่ปัญหาว่า จะถามใคร เพราะถ้าถามผิด คำตอบก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เช่น ถามเรื่องการเลือกตั้งกับนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษา ปชป. จะได้คำตอบอย่างหนึ่ง ถาม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็จะได้คำตอบอีกอย่างหนึ่ง ดังนั้น
จึงเป็นปัญหาว่าจะถามใครและได้คำตอบที่ดีมา แต่ทั้งนี้เชื่อว่าถ้ามีความตั้งใจหาคนเข้ามาทำงานไม่ยาก ขอเพียง คสช.อย่าเกรงใจ ถ้าเกรงใจเมื่อไรพังเมื่อนั้น ความรู้สึกคนทั้งประเทศตอนนี้ให้ความรู้สึกดี เป็นจังหวะที่ดีที่สุด" นายนิพิฏฐ์กล่าว
@ ปชป.แนะ"บิ๊กตู่"ให้แน่วแน่
นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าฝ่ายกฎหมาย ปชป.กล่าวว่า ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ลงมือปฏิบัติจริงตามที่ได้ลั่นประกาศไว้ ถ้าทำได้จริงๆ ประชาชนทั่วทั้งประเทศจะต้องสรรเสริญเยินยอ พล.อ.ประยุทธ์ ว่ามีความแน่วแน่ในการนำพาบ้านเมืองไปสู่ความสงบสุขของประเทศไทย ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การลูบหน้าปะจมูกเท่านั้น
"ขอให้สำรวจฝ่ายทำงานและฝ่ายกำลังพลของ พล.อ.ประยุทธ์ด้วยว่า มีความมั่นคงตรงไปตรงมาและความจริงใจในการปฏิรูปประเทศหรือไม่ หากมีการปิดบังซ่อนเร้นอะไรบางอย่างไว้จะมีผลเสียที่จะเกิดขึ้นต่อ คสช.เอง และจะมีผลกระทบโดยตรงมายัง พล.อ.ประยุทธ์ด้วย" นายวิรัตน์กล่าว
@ "คสช."แจงเชิญตัว"กริชสุดา"
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) ในฐานะทีมโฆษก คสช.กล่าวถึงกรณีองค์กรสิทธิมนุษยชน หรือฮิวแมนไรต์สวอตช์ ได้แสดงความกังวลต่อการควบคุม น.ส.กริชสุดา คุณะเสน เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ได้ขอควบคุมตัวไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องจากมีพฤติกรรมมีลักษณะข่ายต้องสงสัยความผิดตาม ม.116 (2) กับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ จึงต้องขอควบคุมตัวเพื่อสอบสวนตามขั้นตอน ซึ่ง น.ส.กริชสุดาได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และได้ให้กลับไปแล้ว
พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา คสช.ได้เชิญ น.ส.กริชสุดามารายงานตัวตามกระบวนการสร้างความเข้าใจปกติ ยืนยันไม่ได้ปฏิบัติต่อบุคคลนั้นๆ ในลักษณะผู้มีความผิดแต่อย่างใด ขอให้ทุกฝ่ายสบายใจได้ กระบวนการนี้ยึดในหลักสิทธิมนุษยชน
"การที่เราไม่เปิดเผยสถานที่ปรับทัศนคติ เพราะเกรงจะเกิดความวุ่นวาย หรือมีฝ่ายใดมากดดันหรือมาให้กำลังใจ และบางคนก็เป็นความประสงค์ของเขาเองที่ไม่อยากให้เปิดเผย อย่างไรก็ตาม การเข้ามาปรับทัศนคติใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน บางคนมาแค่ 3 วัน ทางเราก็ให้กลับบ้าน แต่คนที่กลับไปแล้วไม่เป็นข่าว เพราะเขาไม่สะดวกและไม่อยากให้ใครรู้ ทั้งนี้ ปัจจุบัน น.ส.กริชสุดายังอยู่ในการควบคุมตัวและกระบวนการปรับทัศนคติของ คสช." พ.อ.วินธัยกล่าว
@ ทหารเดินหน้าจัดระเบียบรถตู้
ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) สนามเป้า เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.สมโภชน์ วังแก้ว ผบ.พล.ม. 2 รอ. เป็นประธานการประชุมชี้แจงและทำความเข้าใจให้ผู้แทนส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ให้บริการรถตู้โดยสาร โดยมีผู้แทนจากกรมการขนส่งทางบก องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ บริษัทขนส่ง จำกัด กรมทางหลวง กองบังคับการตำรวจจราจร สำนักงานเทศกิจ กทม. พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมประชุม
ข่าวแจ้งว่าที่ประชุมได้แบ่งแนวทางการปฏิบัติเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 จัดระเบียบที่จอดรถ ป้ายบอกราคา ปรับพฤติกรรมผู้ขับขี่ รวบรวมรายชื่อผู้มีอิทธิพล จัดทำข้อมูลวินให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิถุนายนนี้ ระยะที่ 2 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดให้มีการลงทะเบียนสอบประวัติ และร่วมพิจารณาจำนวนวิน จำนวนรถตู้ ที่มีความเหมาะสมภายในกรกฎาคมนี้ และจัดให้มีมาตรฐานการบริการในลักษณะเป็นส่วนย่อยของ บขส. โดยต้องมีสถานที่ขายตั๋ว ที่พักผู้โดยสาร ห้องน้ำ และไม่จอดรถกีดขวางการจราจร ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 สิงหาคมนี้
ส่วนระยะที่ 3 เป็นขั้นตอนการดำเนินการแก้ไขผลกระทบที่ยั่งยืน ได้แก่ การติดตามประเมินผลความเดือดร้อนของประชาชนและผู้ประกอบการ แก้ไขข้อกำหนดและกฎหมาย รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง
@ ให้กทม.ปรับปรุงพื้นที่ใหม่
ด้านนายกิตตินันท์ ขาวสุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ กทม.เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ทหารในการจัดระเบียบรถตู้รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าที่ประชุมได้มอบหมายให้ กทม.ดูแลสถานที่และอำนวยความสะดวกในจุดจอดแห่งใหม่ หากพบปัญหาใดๆ ขอให้ กทม.ช่วยปรับปรุงพื้นที่ ซึ่ง กทม.พร้อมให้ความร่วมมือ นอกจากนี้ยังมีการหารือให้พิจารณาพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิที่มีปัญหาเรื่องรถตู้ ซึ่งจะมีการดำเนินการต่อไปในอนาคต โดย กทม.ก็พร้อมให้การสนับสนุนเช่นกัน เนื่องจาก กทม.มีนโยบายจัดระเบียบทางเท้าและผิวจราจรอยู่แล้ว
@ หัวหินแก้ปัญหารถรับจ้าง
ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.สมพงษ์ ไทรงาม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 15 พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมขนส่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมชี้แจงทำความเข้าใจการจัดระเบียบรถรับจ้างสาธารณะในพื้นที่หัวหินตามนโยบาย คสช. โดยมีผู้ประกอบการรถสาธารณะในพื้นที่ ประกอบด้วย คิวรถตู้โดยสาร, รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสี่ล้อเล็ก, รถตุ๊กตุ๊ก, แท็กซี่ป้ายดำ เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก
พล.ต.สมพงษ์กล่าวว่า อ.หัวหินมีรายงานปัญหารถสาธารณะเป็นจำนวนมาก ทั้งเรื่องกีดขวางการจราจร และอัตราค่าโดยสารไม่เป็นธรรม รวมทั้งปัญหาไม่ใช้ป้ายทะเบียนสำหรับรถสาธารณะ ทั้งนี้ คิวรถที่ไม่ได้รับสัมปทานอย่างถูกต้อง ห้ามออกมาวิ่งรับผู้โดยสารอย่างเด็ดขาด หากพบเห็นจะจับกุมดำเนินคดีทันที สำหรับจุดจอดรถสาธารณะต้องไม่กีดขวางการจราจร และจะมีการจัดระเบียบใหม่ทั้งระบบ โดยจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 23 มิถุนายนนี้
@ แก้ปัญหาวินฟิวเจอร์พาร์ค
เวลา 15.00 น. พ.ท.กฤษณ์ สุนสะธรรม ผบ.บก.ควบคุม ม.พัน. 2 พล.ร.2 รอ. พร้อม พ.ต.อ.ตระกูล เกียวประเสริฐ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ และเจ้าหน้าที่เทศกิจ ร่วมกันลงพื้นที่จัดระเบียบวินรถตู้โดยสาร รถแท็กซี่ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต และหน้าโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รังสิต
พ.ท.กฤษณ์กล่าวว่า มาตรการที่ คสช.จะดำเนินการมี 3 ระยะ คือการจัดระเบียบ การจัดทำศูนย์กลางวินรถตู้ และการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเดินรถ มาตรการทั้งหมดจะบังคับใช้อย่างจริงจัง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป นอกจากนี้ ได้กำชับให้ติดป้ายแสดงราคาค่าโดยสารให้ชัดเจน ไม่ให้เอาเปรียบผู้โดยสาร และเข้มงวดการทำตามกฎจราจร ไม่ขับปาด แซง ซิ่ง และห้ามขึ้นราคาค่าโดยสารอย่างไม่เป็นธรรม