- Details
- Category: การเมือง
- Published: Wednesday, 01 July 2015 18:22
- Hits: 13550
281 อจ.ฮือเข้าชื่อ จี้ปล่อย! เลิกข้อหา 14 นศ. 'ยูเอ็น-อียู'ออกแถลงบี้ซ้ำ นายกฯตู่เมินแจงต่างชาติ ตั้งแล้ว'อารีพงศ์'ปลัดทท.
281 อาจารย์มหา'ลัยทั่วประเทศ ร่วมลงชื่อปก ป้อง 14 น.ศ.ประชาธิป ไตยใหม่เรียกร้องรัฐบาลปล่อยตัว ยกเลิกข้อหา ยุติการดำเนินคดี 'ยูเอ็น-อียู'ออกแถลงการณ์ ให้ทางการไทยปฏิบัติตามพันธกรณี ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง 'บิ๊กตู่'ลั่นไม่ขอชี้แจงต่างชาติ'วิษณุ' ชี้หากน.ศ.ไม่ขอประกันตัว มีโอกาสถูกขังจนถึงวันตัดสิน พ่อนักศึกษาดาวดิน ท้าเปิดหลักฐานการเมืองชักใย สมช.เตรียมเรียกคุยนักวิชาการ-สื่อ 'ไก่อู'ย้ำฝีมือผู้เสียประโยชน์-กลุ่มการเมืองเก่าปล่อยข่าวทำลาย ครม.สัญจรเห็นชอบตั้งกก.ทำแผนยุทธศาสตร์ประเทศ 20 ปี โยก'อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม' นั่งปลัดท่องเที่ยว
วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8981 ข่าวสดรายวัน
ห่วงใยศิษย์ - เครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง นำโดยนายอนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์ม.ธรรมศาสตร์ เข้าเยี่ยมนักศึกษากลุ่มดาวดินที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก่อนร่วมกันอ่านแถลงการณ์แสดงจุดยืนและข้อห่วงใยที่มีต่อลูกศิษย์ เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.
อียูแถลงการณ์จี้ปล่อย 14 นศ.
วันที่ 30 มิ.ย. สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เผยแพร่แถลงการณ์กรณีการจับกุม 14 นักศึกษา ระบุว่า สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ออกแถลงการณ์ฉบับนี้โดย ได้รับความเห็นชอบจากคณะเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ซึ่งการจับกุมนักศึกษา 14 คน จากข้อหาที่ถูกตั้งขึ้น เนื่องมาจากการชุมนุมอย่างสันติของพวกเขาในวันที่ 22 พ.ค. เป็นพัฒนาการที่น่ากังวล
สหภาพยุโรป มีความเชื่อในสิทธิของคนทุกคนในการแสดงออกทางความคิดเห็นอย่างสันติ และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยปฏิบัติตามข้อผูกพันของประเทศไทยภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและการเมือง การเคารพซึ่งสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานนั้นจะต้องได้รับการค้ำชูและศาลทหารไม่ควรถูกนำมาใช้กับพลเรือน
ยูเอ็นให้หยุดดำเนินคดี
สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (OHCHR) เรียกร้องรัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีนักศึกษาที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมโดยสงบ และปล่อยตัวพวกเขาจากสถานที่ควบคุมโดยทันที พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลไทยทบทวนการใช้กฎหมายที่จำกัดเสรีภาพในการแสดงออกและเสรีภาพในการชุมนุมให้สอดคล้องกับพันธกรณีของไทยภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
"ไทยในฐานะที่เป็นภาคีสมาชิกของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง มีพันธกรณีที่ต้องรับรองสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก (ข้อ 19) และสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบ (ข้อ 21) แม้สิทธิทั้งสองตามกติการะหว่างประเทศนี้จะถูกจำกัดได้ แต่การจำกัดสิทธิดังกล่าวต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และคำนึงถึงความจำเป็นว่าเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ที่มีความชอบธรรมหรือไม่ และได้สัดส่วนกับความจำเป็นหรือไม่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ฯ มีความกังวลว่าการดำเนินคดีอาญาที่มีระวางโทษจำคุกยาวนานต่อการใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและการแสดงออก ถือว่าไม่มีความจำเป็นและไม่ได้สัดส่วน" แถลงการณ์ระบุ
สุวพันธุ์ให้ยึดกฎหมายไทย
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่จ.เชียงใหม่ ถึงข้อเรียกร้องของยูเอ็นว่า ยังไม่เห็นรายงานข้อเรียกร้องดังกล่าว ขณะนี้ต้องว่าไปตามหลักกฎหมายของเรา เมื่อถามว่ารายงานที่ออกมาเป็นการกดดันการดำเนินการของไทยหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ไม่ เขาก็ว่าไปตามหลักการของเขา เราก็ทำตามสถานการณ์ของเรา ทำตามกฎหมายและข้อเท็จจริงของเราที่เกิดขึ้น ส่วนเขาจะว่าอย่างไรเราก็ต้องมาหารือกัน
เมื่อถามย้ำว่า ในแถลงการณ์ของอียูเรียกร้องไม่ให้พลเรือนขึ้นศาลทหาร นายสุวพันธุ์ กล่าวว่า ต้องดูกฎหมายเราก่อนว่าอย่างไรก็ว่าไปตามนั้น เชื่อว่าการเคลื่อนไหวเรียกร้องในเรื่องต่างๆ จะไม่ขยายผลทำให้บานปลาย เพราะขณะนี้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ส่วนรัฐบาลก็ใช้มาตรการหลายด้านอย่างเหมาะสมที่จะแก้ไขปัญหา ขณะที่กลุ่มต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลัง ฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายข่าวดูหมดทุกเรื่อง และมีข้อมูลที่ติดตามมาโดยตลอดเพราะฝ่ายข่าวทำงานเรื่องนี้มานานเป็น 10 ปี รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
'ธนะศักดิ์'เมินเอ็นจีโอแถลง
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงแถลงการณ์กดดันของยูเอ็นและอียู ว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคง เรื่องนี้ต้องว่าไปตามกติกา ยังไม่เห็นหนังสือที่ส่งมายังกระทรวงการต่างประเทศ ที่ผ่านมาก็จะมีการเผยแพร่ข้อเรียกร้องทางสื่อออนไลน์แต่ไม่มีการส่งหนังสือแบบเป็นทางการ
เมื่อถามว่าต้องทำความเข้าใจใกับต่างชาติหรือไม่ พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าวว่า กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ทุกประเทศล้วนมีเหมือนกันหมด องค์กรที่ออกแถลงการณ์ต่างๆ ไม่ถือว่าเป็นองค์กรใหญ่ แต่ทุกองค์กรมีสิทธิออกแถลงการณ์ เช่น องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือฮิวแมนไรต์วอตช์ ที่ส่งหนังสือมาถึงเราก็ได้แจ้งกลับไปว่ารู้สึกผิดหวังกับท่าทีของเขา เพราะข้อมูลต่างๆ ไม่รอบด้าน เป็นข้อมูลด้านเดียว หากองค์กรใดต้องการข้อมูลที่ถูกต้องสามารถติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศได้ เพราะเรามีทั้งข้อมูลและบุคลากรที่จะทำให้เกิดความเข้าใจได้
เมื่อถามว่า รู้สึกกดดันหรือไม่ที่หลายองค์เรียกร้องกดดันไทยอย่างต่อเนื่องพล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าวว่า เอ็นจีโอคือเอ็นจีโอ หากมีข้อสงสัยสามารถเข้ามาขอข้อมูลที่กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ตั้งแต่ตนเข้ามาดูแลกระทรวงการต่างประเทศก็มีการเชิญหลายองค์กรเข้าทำความเข้าใจ แต่ที่ผ่านมาแถลง การณ์ต่างส่วนใหญ่เป็นการแถลงเพียงลอยๆ รับข้อมูลเพียงด้านเดียว แต่ถ้าแถลงการณ์ออกมาเป็นเรื่องเป็นราว เราก็จะตอบกลับไป
รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า นโยบายรัฐบาลหากใครสงสัยเรื่องอะไรก็เข้ามาได้ อย่างที่มีการบอกว่าเรามีการจับกุมเป็นพันคน เรื่องนี้ก็ได้ชี้แจงไปแล้ว ขอให้เขียนมา เราก็จะเขียนตอบ และไม่คิดว่าประเด็นนี้เป็นการแทรกแซง กิจการภายใน รัฐบาลมุ่งมั่นรักษากติกาก้าวไปตามโรดแม็ป มุ่งสู่การเป็นประชาธิปไตยที่คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม สิทธิมนุษยชน
วิษณุชี้โอกาสถูกขังจนตัดสิน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ กรณีนักศึกษาไม่ยอมขอประกันตัวว่า เมื่อไม่ขอศาลก็ให้ประกันไม่ได้ ขั้นตอนเดินไปตามปกติ เช่นเดียวกันศาลพลเรือน ระยะเวลาควบคุมเข้าใจว่าอาจเป็น 24 วัน 3 หน ตอนนี้ถือว่ายังอยู่ในชั้นก่อนฟ้อง ถ้ายังฟ้องไม่ทันก็ต้องปล่อยตัว ยกเว้นรับตัวไว้ในชั้นฟ้องจะอยู่ในอำนาจศาล ซึ่งศาลจะคุมตัวไว้ตลอด หากยังไม่ขอประกันตัวจะคุมจนถึงขั้นตัดสิน เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่นักศึกษาจะขอขึ้นศาลพลเรือน นายวิษณุกล่าวว่า โดยกฎหมายเป็นไปได้ แต่ความผิดเรื่องนี้กำหนดไว้ให้ขึ้นศาลทหารก็ต้องขึ้นศาลทหาร
นายอนุสิษฐ คุณากร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ รวมถึงกลุ่มนักศึกษาว่า หากการเคลื่อนไหวก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศน่าจะรับฟังได้ แต่ไปเคลื่อนไหวแล้วก่อเกิดความวุ่นวาย ไม่สงบ ประชาชนไม่ได้อะไร ตอนนี้บ้านเมืองเราถึงเวลาจะหยุดเพื่อมองสิ่งที่เกิดในอดีตแล้วนำมาปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ขอให้มาช่วยกันคิดตรงนี้ดีกว่า
เมื่อถามว่า การเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษายังเชื่อว่ามีกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ นายอนุสิษฐกล่าวว่า คิดว่ามีหลายส่วนในระบอบการเมืองไทย กลุ่มไหนที่มีพลังโดยเฉพาะต่อสื่อก็จะได้รับความสำคัญต่อกลุ่มการเมืองด้วย แล้วกลุ่มการเมืองเข้ามาเชื่อมโยงและได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าการสนับสนุนของกลุ่มการเมือง ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยและส่งผลกระทบต่อการบริหารราชการแผ่นดินก็ต้องเฝ้าระวัง
สมช.เตรียมคุยนักวิชาการ-สื่อ
ส่วนที่ 14 นักศึกษาไม่ประกันตัวจะเกิดการขยายผลต่อไปหรือไม่ นายอนุสิษฐ กล่าวว่า ปกติคนที่ถูกจับต้องขอประกันตัว มองว่าเรื่องนี้เป็นการปลุกกระแส แต่จะจุดกระแสติดหรือไม่นั้นไม่ใช่ประเด็น ทำแบบนี้บ้านเมืองได้ประโยชน์อะไร หรือคนกลุ่มนี้คิดว่าการปฏิรูปครั้งนี้ไม่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง คนส่วนใหญ่ต้องตัดสินใจ เชื่อว่าปัญหาจะไม่บานปลายเพราะสุดท้ายทุกคนย่อมห่วงชาติบ้านเมือง ซึ่งเป็นโจทย์มากกว่าการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น และเชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดจลาจลแต่อาจมีบางกลุ่มที่ต้องการให้เกิดขึ้นก็ได้
เลขาฯสมช. กล่าวว่า ยอมรับว่ามีความกังวลที่คนในสังคม นักเขียนและคนมีชื่อเสียงหลายคนออกมาสนับสนุนให้ปล่อยตัวนักศึกษาที่ถูกจับอยู่ และกังวลว่ารัฐบาลต่อไปจะทำอย่างไร แต่คิดว่าเจตนารมณ์และการปฏิบัติจะตอบคำถามได้ คำอธิบายสำคัญที่สุดซึ่งการปฏิบัติบางอย่างอาจไม่ถูกใจใครทั้งหมด ขณะเดียวกันตนจะเชิญนักวิชาการมาหารือถึงสถานการณ์บ้านเมือง รวมถึงจะนัดสัมมนาสื่อมวลชนมาพูดคุยภาพการปฏิรูปประเทศและเรื่องภาคใต้ด้วย แต่ไม่ใช่การห้าม เพราะสมช.ไม่มีอำนาจ
ฟันธงผู้เสียปย.ผนึกการเมืองเก่า
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า เชื่อว่ากลุ่มผู้เสียผลประโยชน์และกลุ่มการเมืองเก่า มีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นกระบวนการมากขึ้นเพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในสังคม ทั้งการสนับสนุนให้กลุ่มบุคคลเคลื่อนไหวภายในประเทศ นำข้อมูลความคิดเห็นในอดีตของบางฝ่ายที่เคยเข้าใจรัฐบาลผิดมาเผยแพร่ในโลกโซเชี่ยล รวมทั้งสร้างข้อมูลเท็จออกมาสร้างความสับสนในสังคมอย่างต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนมีความรอบคอบในการบริโภคข่าวสาร และไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวต่อกระแสข่าวความเคลื่อนไหว ข่าวลือ ข่าวร้ายต่างๆ
รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ช่วงแรกที่รัฐบาลเข้ามาทำงานก็มีความเคลื่อนไหวทำนองนี้เป็นระยะ หากเราหนักแน่น ความพยายามที่จะสร้างความวุ่นวายก็จะจางหายไปเอง ดังนั้น หากได้รับข้อมูลที่ไม่เป็นคุณต่อบ้านเมือง เพียงไม่ส่งต่อไปยังบุคคลอื่นก็ช่วยสร้างความสงบให้แก่ประเทศแล้ว รัฐบาลจะมีสมาธิกับการทำงานแก้ปัญหาชาติ เดินหน้าประเทศให้ดีที่สุด ยืนยันว่าแม้จะมีความพยายามยั่วยุ กล่าวร้ายเพียงใด รัฐบาลและนายกฯ ยังเข้มแข็ง มีกำลังใจดีทุกคน ไม่มีคำว่าท้อถอย
พล.ต.สรรเสริญกล่าวและว่า ยืนยันว่ารัฐบาล ไม่มีปัญหากับใคร ไม่มีปัญหากับนักศึกษาหรือกลุ่มใดๆ หากใครมีปัญหากระทำผิดกฎหมาย ต้องให้กฎหมายดำเนินการเพราะทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย จะเป็นทหาร ตำรวจ พลเรือน หรือนักศึกษา ก็ไม่มีข้ออ้างทั้งนั้น
ญาติ-เพื่อน-อาจารย์แห่เยี่ยมนศ.
ส่วนความเคลื่อนไหวหลังนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) 14 คน ถูกจับกุมนั้น เวลา 10.30 น. ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร คณะอาจารย์ นักศึกษา ญาติและประชาชนประมาณ 50 คน ทยอยเข้าเยี่ยมให้กำลังใจนักศึกษาชาย 13 คน ที่ถูกคุมขังตั้งแต่วันที่ 26 มิ.ย. รวมด้วย นายวิโรจน์ อาลี รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) น.ส.ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์ คณะรัฐศาสตร์ มธ. นายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษย วิทยา มธ. นายประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มธ. น.ส.จันทจิรา เอี่ยมมยุรา คณะนิติศาสตร์ มธ. น.ส.ชลิตา บัณฑุวงศ์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายนิติ ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระ
ส่วนกลุ่มญาติ มี นายวิบูลย์ และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา พ่อและแม่ของนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน นางเรวดี ศุภโสภณ แม่ของนายรัฐพล ศุภโสภณ นักศึกษาเอ็นดีเอ็ม เป็นต้น
281 อาจารย์ออกแถลงการณ์
ภายหลังการเข้าเยี่ยมนักศึกษา นายอนุสรณ์กล่าวว่า คณาจารย์ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาเยี่ยมนักศึกษาที่ถูกจับกุมคุมขังและหารือกันถึงทิศทางในการเคลื่อนไหว จึงรวมตัวกันเป็นเครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง และมีข้อตกลงร่วมกันในการออกแถลงการณ์ โดยมีอาจารย์ร่วมลงนามทั้งสิ้น 280 คน จากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความห่วงใยในฐานะที่เป็นผู้มีหน้าที่อบรมบ่มนิสัย ให้ความรู้ จริยธรรมและความกล้าหาญ
กำลังใจ -ประชาชน อาจารย์ นิสิตนักศึกษา และญาติๆ ร่วมกันจุดเทียนต่อต้านรัฐประหาร และเป็นกำลังใจให้กับนักศึกษากลุ่มดาวดินที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อค่ำวันที่ 30 มิ.ย. |
นายอนุสรณ์กล่าวว่า การเคลื่อนไหวต่อไปของเครือข่ายฯ จะมีกิจกรรมห้องเรียนสาธารณะ ซึ่งจะมีสถาบันวิชาการที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ มีเป้าหมายให้ความรู้ในประเด็นสาธารณะ และตั้งเว็บเพจของคณาจารย์เพื่อสัมภาษณ์อาจารย์ทั่วประเทศ อัดคลิปวิดีโอแสดงความคิดเห็นและความห่วงใยนักศึกษา นอกเหนือจากการจัดสรรสมาชิกเครือข่ายฯ มาเยี่ยมนักศึกษาวันละ 10 คน
เมื่อถามว่า ที่ประชุมอธิการบดีมีการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่ นายอนุสรณ์กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ต้องฝากที่ประชุมอธิการบดีว่าจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาพิจารณาอย่างไร หรือจะดำเนินการอย่างไรอยู่ที่ดุลพินิจของผู้บริหาร ส่วนการเข้าเยี่ยมนักศึกษาวันนี้ต้องขอขอบคุณเรือนจำที่ให้ความอนุเคราะห์เป็นกรณีพิเศษที่ให้เครือข่ายฯ เข้าเยี่ยมเป็นกลุ่มในคราวเดียวกัน ตนบอกให้นักศึกษาทราบว่าเครือข่ายฯ ได้ทำอะไรบ้าง จะทำกิจกรรมอะไรต่อไป และบอกว่ามีอาจารย์ร่วมลงชื่อ 280 คน นักศึกษาได้ยินในสิ่งที่อาจารย์ทำก็ดีใจ พวกเขาเข้มแข็งอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายคำแหง วิสุทธางกูร อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.ขอนแก่น ร่วมลงชื่อด้วย จึงรวมเป็น 281 คน
นศ.ทำตามหลักปชต.
นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวต่อไปของทางเครือข่ายฯ จะเป็นการโยนประเด็นให้ไปสู่สาธารณะว่าประชาธิปไตยควรจะเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญที่วิชาการได้ขยับไปสู่พื้นที่สาธารณะ ตามหลักการ 5 ข้อ ของขบวนการประชาธิปไตย ได้แก่ ประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ สันติวิธี สิทธิมนุษยชน และการมีส่วนร่วม ที่ถูกบิดเบือนไปจนทำให้สังคมไทยมาสู่จุดอับจนอย่างที่ผ่านมา เราทำเพื่อให้สังคมไทยได้ฉุกคิดและตระหนักว่าเรามาถึงจุดที่จะต้องทบทวนอย่างจริงจัง
จากนั้น นายอนุสรณ์อ่านแถลงการณ์ของเครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง ฉบับที่ 1 สรุปว่า การเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยของนักเรียน นิสิต นักศึกษา โดยเฉพาะในช่วงเดือนเศษที่ผ่านมานับเป็น กระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนที่สำคัญประการหนึ่ง ขณะเดียวกัน เป็นการปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในสังคมประชาธิปไตยที่เคารพในสิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล นักเรียน นิสิต นักศึกษาเหล่านี้ไม่ได้ละเลยหน้าที่ในการเรียนรู้ของตนตามที่บางฝ่ายกล่าวหา
พวกเขาได้แสดงบทบาทในครรลองของสังคมประชาธิปไตยอย่างกล้าหาญ เป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ไม่เพียงแต่จะสอดรับกับหลักการและทฤษฎีอันเป็นสากล หากแต่ยังสอดคล้องกับหลักกฎหมายที่นานาอารยประเทศ ให้การรับรอง จะมีก็แต่เผด็จการที่หวาดกลัวเสรีภาพในการเรียนรู้และการแสดงความเห็นต่างของพลเมืองเท่านั้น ที่เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขาเป็นสิ่งผิดหรือเป็นอันตรายจนกระทั่งต้องใช้อำนาจดิบหยาบและกฎหมายป่าเถื่อนเข้ายับยั้งปราบปราม
ประกาศหนุนนศ.-จี้ปล่อยตัว
ในฐานะครูบาอาจารย์ผู้ตระหนักในบทบาทหน้าที่ที่มีต่อศิษย์และสังคม พวกเราเห็นว่าการจับกุมคุมขังนักศึกษาจำนวน 14 คน ด้วยข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรัฐประหาร เป็นสิ่งไม่ชอบธรรม เพราะรัฐประหารไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่ต้น จึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเขาทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข และไม่ให้มีการตั้งข้อหา หรือดำเนินคดีกับพวกเขาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวดังกล่าว
ประการสำคัญ พวกเราจะส่งเสริม และให้การสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ประชาธิปไตยนอกห้องเรียนของนักศึกษาเหล่านี้ในรูปแบบและวิธีการต่างๆ ต่อไปจนกว่าสังคมไทยจะกลายเป็นสังคมประชา ธิปไตยอย่างแท้จริง
นายอนุสรณ์กล่าวด้วยว่า คณาจารย์ที่สนใจเข้าร่วมกับกลุ่มคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง สามารถลงชื่อได้ที่เฟซบุ๊กเพจสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.)
บก.ลายจุดทำมือนกพิราบ
ส่วนที่รั้วหน้าเรือนจำฯ กลุ่มเพื่อนนักศึกษา นำบอร์ดมาให้ติดโพสต์อิทเพื่อเขียนให้กำลังใจนักศึกษาที่ถูกจับกุม ขณะที่ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด ร่วมแสดงสัญลักษณ์ โดยทำมือเป็นรูปนกพิราบ มีความหมายถึงอิสรภาพ จากนั้นเวลา 12.30 น. พ่อและแม่ของไผ่ ดาวดิน ได้ร่วมกันขับร้องเพลงบทเพลง ของสามัญชน
นายวิบูลย์ พ่อของไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า ขณะเข้าเยี่ยมลูกพูดกับเขาว่าถ้าเรามั่นใจว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อเป็นนักต่อสู้และนักสังคมที่ช่วยเหลือชาวบ้านก็ขอให้มั่นใจและภูมิใจ ถือว่าการโจมตีเป็นเรื่องเล็ก ส่วนปัญหาเรื่องคดีความเดี๋ยวก็คลี่คลายได้ ขอให้ลูกรู้ว่ายังมีครอบครัวอยู่และเราจะเดินไปด้วยกัน เขาก็ยิ้มตลอดและมีกำลังใจเข้มแข็งอยู่แล้ว
พ่อดาวดินโต้นศ.ถูกชักใย
นายวิบูลย์ พ่อของไผ่ ดาวดิน กล่าวว่า ตนบอกกับลูกว่าถ้าเรามั่นใจว่าทำในสิ่งที่ถูกต้องขอให้มั่นใจและภูมิใจ ถือว่าการโจมตีเป็นเรื่องเล็ก ส่วนคดีความเดี๋ยวก็คลี่คลายได้ ขอให้ลูกรู้ว่ายังมีครอบครัวอยู่และเราจะเดินไปด้วยกัน เขาก็ยิ้มตลอด มีกำลังใจ เข้มแข็งอยู่แล้ว ตนเห็นว่าการจับกุมเด็กที่ไม่ได้ทำกิจกรรมรุนแรงและไม่มีอาวุธ และแจ้งข้อหากระทำความผิดตามมาตรา 116 เป็นเรื่องตลกและไม่ใช่วิธีที่ฉลาด
นายวิบูลย์ กล่าวกรณีการกล่าวหามีคน อยู่เบื้องหลังและว่าจ้างนักศึกษาให้ออกมาเคลื่อนไหวว่า ขอถามแม่ทัพภาคที่ 1 ที่เคยกล่าวหานักศึกษา 5 คนที่ชู 3 นิ้วว่าถูกจ้างมา 50,000 บาทนั้น ตอนนี้ดำเนินการถึงไหนแล้ว ตนยังไม่เคยเห็นหลักฐาน เป็นการพูดเพื่อทำลายคนอื่นและทำลายคนพูดเอง ที่ว่ามี เบื้องหลังตนเป็นทนายความสังกัดชมรม นักสิทธิมนุษยชนภาคอีสาน ออกช่วยเหลือชาวบ้านลูกก็ตามไปด้วยตลอด การกล่าวหาเช่นนี้รังแกเด็ก ถ้ามั่นใจว่ามีหลักฐานก็แสดงออกมา อย่าทำให้คนอื่นเสียหาย
"ผมเคยไปร่วมชุมนุมไล่รัฐบาลทหารทุกรัฐบาลตั้งแต่ 14 ต.ค. 2516 ถ้ามีชุมนุมไล่รัฐบาลนี้ผมก็จะไป และไม่ว่าพรรคไหนที่สร้างปัญหาให้ประชาชน ผมก็ไปชุมนุมหมดทั้งเสื้อเหลือง กปปส. และเสื้อแดง เพราะผมไม่ได้ติดเรื่องสีเสื้อ แต่สนใจปัญหาสังคมมากกว่า ยืนยันว่ากลุ่มดาวดินไม่เคยมีผู้ให้เงินสนับสนุนหรือหนุนหลัง เพราะเด็กๆ รวมถึงลูกของผมเคยบอกว่ามีพรรคและนักการเมืองมาพูดให้ทุนและยื่นเงินให้ แต่เด็กๆ ปฏิเสธ และไม่เคยรับเงินมา หากเด็กจะรับจริงคงไม่มาบอกผม" นายวิบูลย์กล่าว
นศ.ประกาศสู้ต่อผ่านห้องขัง
นายรังสิมันต์ โรม หรือโรม นักศึกษานิติศาสตร์ มธ. กล่าวผ่านห้องขังกรณีมี นักศึกษาที่จ.เชียงใหม่ ชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัว 14 นักศึกษาว่า เพิ่งทราบเรื่องและดีใจที่มีคนคิดถึงเรา เราไม่ได้ทำผิดและหวังว่าคนข้างนอกจะสู้ต่อไปแม้ไม่มีพวกตน การเคลื่อนไหว จะยังคงดำเนินต่อไปได้ อยากให้คนข้างนอกส่งหนังสือเข้ามาให้อ่านบ้าง ส่วนการแยกแดนนั้นต้องอยู่ 14 วันจึงจะแยกแดน
นายรัฐพล ศุภโสภณ หรือบาส นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ กล่าวว่า อยากให้เจตนารมณ์ของนักศึกษามีการขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป อยากให้ทุกคนตระหนักถึงอำนาจของตัวเองที่ถูกปล้นไปแล้วต้องทวงคืน อย่าห่วงพวกตนเราพออยู่ได้ พอทนไหว ถ้าข้างนอกเดินต่อไปได้พวกเราจะไปกันด้วยดีทั้งข้างนอกและข้างใน ซึ่งชะตากรรมไม่ต่างกัน
'มหาไพรวัลย์'นำจุดเทียนพรรษา
เวลา 19.00 น. พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ วัดสร้อยทอง นำเทียนพรรษามาร่วมจุดเทียนกับกลุ่มประชาชน 50 คน ให้กำลังใจนักศึกษาที่ถูกคุมขัง โดยมีตำรวจ สน.ประชาชื่น มาดูแลความสงบเรียบร้อย 10 นาย
พระมหาไพรวัลย์กล่าวว่า ขณะนี้กำลังใจที่ให้นักศึกษายังไม่มากพอ เราต้องแสดงออกให้ผู้นำเห็นว่าการกระทำต่อนักศึกษาเป็นความอยุติธรรม พื้นที่ตรงนี้มืดไปด้วยความ อยุติธรรม จึงต้องนำเทียนมาจุดเพื่อให้เกิดแสงสว่าง สิ่งที่เรากระทำไม่ได้ยุยงปลุกปั่น เป็นการแสดงออกตามสิทธิเสรีภาพ และเพื่อเป็นกำลังใจให้นักศึกษาต่อไป
พ.ต.อ.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผกก.สน.ประชาชื่น กล่าวว่า ยืนยันจะไม่มีการจับกุม ประชาชนสามารถทำกิจกรรมให้กำลังใจนักศึกษาได้ แต่ต้องไม่แสดงสัญลักษณ์ทางการเมือง หรือใช้ถ้อยคำที่แสดงออกทางการเมือง
นายอานนท์ นำภา ตัวแทนกลุ่มนักกิจกรรมเพื่อสังคม กล่าวว่า มาให้กำลังใจนักศึกษา ส่วนมีกลุ่มคณาจารย์เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่ดำเนินคดีนั้น วันที่ 7 ก.ค.จะมีการฝากขังนักศึกษา 14 คน ที่ศาลทหารกรุงเทพฯ เวลา 09.00 น. กลุ่มทนายจะไปคัดค้านการฝากขัง ส่วนวันที่ 3 ก.ค. จะมีกิจกรรมโพสต์อิสรภาพที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ เชิญชวนให้ประชาชน ร่วมเขียนโพสต์ให้กำลังใจนักศึกษา
เวลา 20.00 น. กลุ่มประชาชนร่วมกันร้องเพลงบทเพลงแห่งสามัญชน เพลงอิเมจิ้น เพลงกำลังใจ เพลงแสงดาวแห่งศรัทธา และเพลงเพื่อมวลชน ก่อนจุดเทียนและตะโกนพร้อมกันว่าเราคือเพื่อนกัน จากนั้นวางเทียนเป็นสัญลักษณ์สันติภาพ
นศ.ไทยในสหรัฐร่วมจี้คสช.
วันที่ 29 มิ.ย. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา กลุ่มนักศึกษาไทยในมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน จัดกิจกรรมชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 14 คน โดยไม่มีเงื่อนไข ระบุนักศึกษาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้านคสช.อย่างสันติ ขอให้รัฐบาลเคารพการแสดงความคิดเห็นของประชาชน และเรียกร้องให้รัฐบาล คสช.ลงจากอำนาจและคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน โดยรณรงค์ให้ใช้แฮชแท็ก #FreeThai14 และ #FreeThe14 ในโซเชี่ยลมีเดีย เพื่อเผยแพร่ปัญหาวิกฤตสิทธิมนุษยชนในไทยต่อไป
นายบุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มธ. ตัวแทนนักศึกษาไทยที่จัดกิจกรรม กล่าวว่า คนไทยที่อยู่ที่เมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ต้องการรณรงค์เพื่อให้ปล่อยตัวนักศึกษา 14 คนที่ถูกจับกุมที่เมืองไทย สิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทยเป็นที่รับรู้ในสังคมโลก กิจกรรมของเราได้รับความสนใจจากนักศึกษาที่นี่อย่างดี
"ด้วยจิตคารวะต่อนักศึกษาทั้ง 14 คน ที่ยืนหยัดในหลักการประชาธิปไตยและเอาตัวเองเข้าเสี่ยงขนาดนี้ คิดว่าการที่เราอยู่ไกล ไม่น่าเป็นข้อจำกัดในการร่วมต่อสู้กับนักศึกษา สิ่งที่ทำวันนี้ นอกจากป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาและเรียกร้องให้ คสช.ลงจากอำนาจแล้ว ยังให้ข้อมูลสถานการณ์ในไทยแก่ชาวเมืองแมดิสันที่สนใจอีกด้วย ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมาก เราไม่เห็นด้วยกับการจับกุมนักศึกษาครั้งนี้เพราะไร้เหตุผลที่คนจะถูกคุมขังเพราะเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างสันติ" นายบุญเลิศ กล่าว
กลุ่มต้านดาวดินโผล่
เวลา 09.30 น. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเลย ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านและประชาชน ต.เขาหลวง ประกอบด้วยประชาชน 6 หมู่บ้านใน ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เว้นหมู่ที่ 3 บ้านหนองบง ประมาณ 200 คน นำโดยนายสมบัติ ต้นคำ กำนัน ต.เขาหลวง ยื่นหนังสือต่อนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าฯเลย พร้อมโปสเตอร์ข้อความโจมตีกลุ่มดาวดิน
หนังสือระบุว่าทางชมรมเรียกร้องให้กลุ่มดาวดิน กลุ่มรักบ้านเกิดและแนวร่วม หยุดกิจกรรมต่างๆ ที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของ บ้านเมือง ให้กลุ่มดาวดินออกจาก ต.เขาหลวง โดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ให้ทั้ง 2 กลุ่มหยุด ให้ข่าวโดยอ้างว่าเป็นมติประชาชน 6 หมู่บ้าน ต.เขาหลวง ขอให้ฝ่ายความมั่นคง ฝ่าย ปกครอง จ.เลย จัดการตามกฎหมายกับกลุ่ม ดังกล่าว ซึ่งกระทำความผิดขัดต่อคำสั่งของ คสช.ข้อ 12 มาตรา 116 และมาตรา 83 ซึ่งทั้ง 2 องค์กรนี้มีการกระทำรุนแรง
รายงานตัว - นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรมต.หลายกระทรวง จอดรถพูดคุยกับผู้สื่อข่าวบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า ก่อนเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ของคสช.ตามคำสั่ง เรียกตัวที่กองทัพภาคที่ 1 เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. |
นายวิโรจน์กล่าวว่า กลุ่มดาวดินเป็นคนต่างจังหวัด การนำวัฒนธรรมการต่อสู้ทางการเมืองมาให้เยาวชนรับรู้ มันไม่ถูกต้องกับชีวิตของพวกเรา ตนถูกทั้ง 2 กลุ่มนี้ทำหนังสือร้องเรียนขับไล่ออกจากจังหวัด ทั้งที่ปฏิบัติงานทุ่มเทให้เลยมาตลอด แต่ทั้ง 2 กลุ่มใช้วิธีแก้ปัญหาอย่างรุนแรง ไม่มีเหตุผล ทำให้คนเมืองเลยไม่ต้องการการต่อสู้ทั้งสองกลุ่มนี้
ไม่ได้จับนศ.สวมหน้ากาก
เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยข่าวกรองจากกองทัพภาค 3 เผยถึงกระแสข่าวการจับกุมนักศึกษาที่สวมหน้ากาก เคลื่อนไหวที่บริเวณสะพานนครพิงค์ ใกล้สถานกงสุลสหรัฐเชียงใหม่ว่า เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจึงไปยังสะพานนครพิงค์ แต่ไม่พบกลุ่มนักศึกษากลุ่มดังกล่าว แต่พบวัยรุ่น 2 คน อายุประมาณ 20-25 ปี ต้องสงสัยอาจมีส่วนเกี่ยวพันกับกลุ่มนักศึกษาจึงควบคุมตัวมาสอบปากคำที่สภ.ภูพิงค์เชียงใหม่ แต่ปรากฏว่าทั้งสองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทางตำรวจได้ทำประวัติและปล่อยตัวไป
ถกครม.-รปภ.ขั้นสูงสุด
ผู้สื่อข่าวรายงานจากศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา จ.เชียงใหม่ สถานที่ประชุมครม.อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 2
เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางมาเป็นประธานประชุม สวมเสื้อผ้าไหมสีม่วงและมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส นั่งรถอัลพาร์ดสีขาว ทะเบียน กง 5959 เชียงราย พร้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม โดยมีนายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าฯเชียงใหม่ ต้อนรับ
ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่จัดรถตู้และมาพร้อมกันคันละ 2-4 คน ซึ่งส่วนใหญ่สวมผ้าไทยเข้าร่วมประชุม ขณะที่สื่อมวลชนยังให้ความสนใจ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วย ผบ.ทบ. น้องชายนายกฯ ที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยนายกฯและครม.ด้วย เนื่องจากมีชื่อเป็นแคนดิเดต ว่าที่ ผบ.ทบ.ในโผ โยกย้ายนายทหารครั้งนี้ด้วย
สำหรับการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวดตามแผนขั้นสูงสุด มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 1 พันนาย ตรวจตราทั้งในและนอกสถานที่จัดประชุม ทุกคนต้องติดบัตรแสดงตนและต้นสังกัดให้ชัดเจนในการเข้าออกอาคารจัดประชุมและส่วนที่เกี่ยวข้อง ต้องผ่านการตรวจละเอียดและผ่านเครื่องสแกนวัตถุระเบิด
มทบ.33 คุมเข้มรอบรั้ว
บริเวณรั้วรอบศูนย์การประชุม จัดวางกำลังพลทหารจากหน่วยมทบ.33 พร้อมอาวุธครบมือ ยืนประจำจุดทุก 100 เมตร นอกจากนี้ทางการข่าวยังตรวจเข้มและเช็กความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่เตรียมมายื่นหนังสือและแสดงสัญลักษณ์ โดยให้เจ้าหน้าที่ประสานขอความร่วมมือว่า อย่าเพิ่งเคลื่อน ไหวหรือแสดงสัญลักษณ์ในช่วงนี้ หากมีเรื่องร้องเรียนให้ยื่นตามขั้นตอนของจังหวัด
ประยุทธ์ ไม่สนอียูแถลง
เวลา 13.30 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวหลังประชุมครม. ถึงความจำเป็นในการชี้แจงกรณีอียูออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลยุติการดำเนินคดีอาญากับ 14 นักศึกษา ว่า ไม่ต้องชี้แจง ตนชี้แจงอยู่แล้วว่ากฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย วันนี้ต้องนึกถึงคนอื่นบ้าง ถ้ามีกฎหมาย คนนี้ทำ คนนี้ไม่ทำ แล้ววันหน้าจะออกมากันอีกหรือไม่ วันนี้ถ้าเขาแสดงความเห็นเรื่องการพัฒนาประเทศกับตนก็มา แต่ถ้าจะมาโต้แย้งกับตนมันไม่ใช่ อย่างนั้นไม่เรียกว่าการแสดงความคิดเห็น รู้อยู่ว่าเป็นสภาวะอะไร ตนอยู่อย่างไร
นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้เป็นอย่างนี้ ไม่อยากมายืนตรงนี้ด้วยซ้ำ พูดไม่รู้กี่ครั้ง แล้วก็หาว่าทะเลาะกับสื่ออีก ตนใช้อำนาจในทางที่ถูกต้อง ไม่ได้ไปละเมิดใครเว้นแต่คนไม่ปฏิบัติตามกติกาที่จำเป็นต้องใช้ ตนต้องขอบคุณนักศึกษาหรือองค์กรซึ่งไม่ได้มีแค่ 14 คน ทั้งประเทศที่ร่วมมือกับตน นักศึกษาดีๆ เวลาตนไปไหนเขาก็มาชื่นชม ขอให้ตนทำให้เขา เด็กนักเรียนประถม มัธยม มหาวิทยาลัย มีส่วนดีมาก บอกให้ลุงดูการศึกษา ดูอนาคตให้หนูด้วย แต่พวกนี้จะเอาเรื่องประชาธิปไตยอย่างเดียว
ถามลั่นทำผิดรธน.ตรงไหน
นายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้ตนทำผิดรัฐธรรมนูญตรงไหน รัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนไว้ว่าประเทศจะนำไปสู่ประชาธิปไตยก็เมื่อมีรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ยังไม่เสร็จ จะผ่านหรือไม่ผ่านสปช.ก็ยังไม่รู้ เมื่อผ่านสปช.ก็ ต้องทำประชามติ อยากทำประชามติก็แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวให้แล้วมาบอกว่าตนอยากสืบทอดอำนาจ ถ้าอยากให้รัฐธรรมนูญผ่านก็ผ่านประชามติ จากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ต่อไป การทำประชามติใช้เวลาอีก 3 เดือน ตนไม่ได้เป็นคนอยากยืดอยู่ต่อ กฎหมายเขียนอย่างนั้น ให้มันรู้บ้าง จากนั้นทำกฎหมายลูกอีก 2 เดือน ซึ่งจะอยู่ในแผนของรัฐธรรมนูญชั่วคราวทั้งสิ้น ตนไม่แก้อะไรสักตัว อย่าเอาเรื่องมาพันกัน ถ้าพันกันไปกันมาก็ตายปวดหัว
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า จะมาพูดอะไรกันวันนี้ ถามมาตั้งแต่ที่กรุงเทพฯแล้วว่าห่วงหรือไม่ห่วง ไม่ห่วงจะมายืนตรงนี้ทำไม เลิกถามว่าห่วงไม่ห่วง
อย่าลืมรบ.มีอำนาจเต็ม
เวลา 15.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รมว.กลาโหม พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ผบ.ทบ. พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ นายปีติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการบริหารจัดการน้ำ โครงการข้าวและการทวงคืนผืนป่า ที่องค์การบริหารส่วนตำบลพรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
โดยมีเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สนธิกำลังกว่า 500 คน ตั้งด่านตรวจรถผ่านเข้าออกทุกคันทุกเส้นทาง จุดตัด จุดผ่าน อ.พรหมพิราม ส่วนที่บริเวณอบต.พรหมพิราม เจ้าหน้าที่อีโอดีใช้เครื่องมือและสุนัขดมกลิ่นตรวจหาวัตถุต้องสงสัย ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสุด
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวระหว่างลงพื้นที่ว่า เราไม่ใช่รัฐบาลมาจากการเลือกตั้งแต่มีอำนาจเต็ม ที่ต้องพูดบ่อยเพราะกลัวจะลืมเนื่องจากใจดีเกินไป เดี๋ยวจะลืมกันไปหมด วันนี้ทุกอย่างเรากำลังเดินหน้าประเทศเพราะเรามีปัญหามาก ขอร้องว่าอย่ามองเพียงพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง วันนี้โชคดีที่เรารบกันแค่ภายในประเทศ แต่ก็มีบางคนที่จะเอาคนอื่นเข้ามายุ่ง ไม่รู้ว่าใคร แล้วพวกเราจะยอมหรือไม่ เอาหน่วยงานองค์กรต่างๆ เข้ามา คนไทยด้วยกันเองตัดสินกันเองไม่ได้หรือว่าประเทศจะเดินหน้าอย่างไร เราต้องกำหนดอนาคตของคนไทยด้วยตัวเอง
ยันมีผลงานพูด 10 วันไม่จบ
"ผมเข้ามาเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า ไม่ได้มาทำลายให้หนักไปยิ่งกว่าเดิม มีอย่างเดียวคือระบอบประชาธิปไตยยังไม่ได้เท่านั้นเอง แต่ผมก็ยังไม่เคยทำอะไรผิดไปจากระบอบประชาธิปไตย ไม่เคยมีใครทำประโยชน์ เช่นนี้ พูด 10 วัน 10 คืนก็ไม่จบ เรามีโรดแม็ป เมื่อรัฐธรรมนูญเสร็จก็จะมีเลือกตั้ง แต่พอจะทำให้เร็วก็อยากทำประชามติกันอีก ทุกอย่างเดินไปตามกระบวนการแต่ไม่ใช่เพราะผม ผมไม่ต้องการใช้อำนาจอะไรทั้งสิ้น เว้นแต่คนที่ให้โอกาสแล้วยังทำผิดอยู่ เรามาเฉพาะกิจ มาเพื่อปฏิรูป เดินประเทศไปข้างหน้าและ แก้ปัญหาติดขัด อดีตคือประวัติศาสตร์ อย่าลืมและอย่าทำกันอีกในส่วนที่ไม่ดี" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
รบ.ทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เผยว่า ที่ประชุมครม.รับทราบที่จะให้นำแนวทางของรัฐบาลไปพูดคุยกับสปช. ก่อนที่สปช.จะร่างแนวทางการปฏิรูปมาถึงรัฐบาล เพื่อนำมาปรับให้เข้ากับแนวทางของรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจะตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ เข้ามาพิจารณากำหนดระยะเวลาการปฏิรูป มีเลขาธิการนายกฯ เป็นประธาน มีกรรมการ อาทิ เลขาธิการครม.เป็นฝ่ายเสนาธิการ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผอ.สำนักงบประมาณ เลขาธิการสมช. เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา มีหน้าที่รวบรวมแนวทางการปฏิรูป 11 ด้านของคสช. บวกกับ 36 เรื่องของสปช. และข้อเสนอแนะของฝ่ายราชการ มารวมกันเป็นยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีข้างหน้า ทำเหมือนกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฉบับที่ 11 และ 12
นายวิษณุกล่าวว่า ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เขียนไว้อยู่มาตราหนึ่งว่า ครม.ไม่ว่าใคร ต้องบริหารราชการตามกฎหมาย ตามแนวทางนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐและตามยุทธศาสตร์ชาติ จึงต้องเดือดร้อนมาตั้งยุทธศาสตร์ชาติเพื่อเปิดช่องให้รัฐบาลหน้า ได้คิดยุทธศาสตร์ชาติบางส่วนเอง
มอบ"วิษณุ"หารือสปช.
"รัฐบาลที่ผ่านมาหากไม่พอใจแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ก็ต้องแก้แผน แต่ครั้งนี้จะมีอีกแผนหนึ่งควบคู่กับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ คือแผนยุทธศาสตร์ชาติ อาจทำเป็นประกาศพระราช โองการ นำเข้าสู่การพิจารณาของสภา เพื่อกำหนดให้ทำตามว่าถ้าใครเป็นรัฐบาลและคิดว่าทำไม่ได้ก็ให้แก้ยุทธศาสตร์ชาติ เหมือนแก้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ แต่ไม่ใช่รัฐบาลชุดนี้ไปเขียนบังคับให้รัฐบาลชุดหน้าทำ เพราะไม่เป็นธรรมเขาต้องมีสิทธิ์ของเขา รัฐบาลนี้ทำเป็นกรอบไว้ให้ก่อนเพื่อดำเนินการ ซึ่งนายกฯอยากให้ชัดเจนว่าแผนยุทธศาสตร์ 20 ปีนั้น ใน 5 ปีแรกทำอะไร และ 5 ปีต่อไปจะทำอะไร แบ่งเป็น 4 ระยะ ระยะละ 5 ปี ซึ่งรัฐบาลคิดมาตลอดว่าจะเก็บตรงนี้ไว้เพื่อรอสปช. แต่สปช.ก็ไม่มาสักที จึงจะปล่อยแนวทางปฏิรูปของรัฐบาลออกมาดีกว่า และเอาแนวทางสปช.มาร่วมด้วย บวกกับส่วนที่ราชการต่างๆ เสนอ ผสมกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับที่ 12 ที่จะเริ่มใช้ในปี 2559" นายวิษณุกล่าว
รองนายกฯ กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ชาติแบ่งเป็น 5 ด้านใหญ่ คือ ความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ และด้านกฎหมาย แต่ละด้านจะแบ่งเนื้องานออกไป เช่น เรื่องรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง การลดความเหลื่อมล้ำ การแก้ไขปัญหาแรงงาน ความมั่นคงทางทะเล และความมั่นคงตามชายแดน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครม.มีมติเห็นชอบการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เสนอ และมอบให้นายวิษณุนำกรอบการจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ไปหารือกับสปช. เพื่อให้แนวทางปฏิรูปดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน และให้ สลค.และสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) จัดทำแนวทางการปรับปรุงกลไกการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลในรูปของคณะกรรมการเพื่อกำกับดูแลในภาพรวม เพื่อเสนอต่อนายกฯ ต่อไป
กมธ.แก้"พลเมือง"เป็น"บุคคล"
ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ วาระการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรายมาตรา มาตรา 51, 52, 53 และ 54 วรรคแรก กมธ.ยกร่างฯ คง สาระสำคัญตามที่กำหนดไว้ในร่างฉบับแรก ปรับปรุงถ้อยคำในบางส่วนเท่านั้น
ในหมวด 2 ว่าด้วยประชาชน ตอนที่ 3 สิทธิพลเมือง กมธ.ยกร่างฯ แก้ไขเป็นคำว่าสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ขณะที่เนื้อหาในมาตรา 46-64 ปรับถ้อยคำจากเดิมที่ใช้ถ้อยคำว่า "พลเมือง" ไปเป็นคำว่า "บุคคล" แทน
รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า มาตรา 50 ว่าด้วยการจัดสรรคลื่นความถี่ ซึ่งการประชุมวันที่ 29 มิ.ย. ลงมติให้รอการพิจารณาถ้อยคำในวรรคท้ายเอาไว้ก่อน ว่าด้วยเจ้าของกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และโทรคมนาคม ต้องเป็นพลเมืองนั้น ช่วงเช้า มีกมธ.ยกร่างฯหยิบยกมาพิจารณาอีกครั้ง สุดท้ายที่ประชุม ลงมติตัดสิน เสียงส่วนใหญ่ให้พิจารณาเดินหน้าแต่มีการปรับถ้อยคำจากกำหนดว่า เจ้าของกิจการตามมาตรานี้ ต้องเป็นพลเมือง มาเป็นเจ้าของกิจการตามมาตรานี้ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
กมธ.ปฏิรูปเลื่อนส่งรายงาน
น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คนที่ 2 ในฐานะรองประธานกมธ.วิสามัญกิจการ สปช. หรือวิป สปช. กล่าวว่า วันที่ 30 มิ.ย. เป็นวันสุดท้ายที่ให้กมธ.ปฏิรูปคณะต่างๆ ของสปช. ส่งรายงานและแนวทางปฏิบัติกลไกปฏิรูปในระยะที่ 2 ตามที่นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช.กำหนด ขณะนี้มีกมธ.ปฏิรูปทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีนายปราโมทย์ ไม้กลัด เป็นประธาน ส่งแล้ว 6 ฉบับ คณะอื่นๆ ทยอยส่งรายงาน เบื้องต้นทราบว่ามีกมธ.ปฏิรูปบางคณะยังทำรายงานและวางกรอบปฏิบัติไม่เสร็จ และขอผ่อนผันออกไปอีก 1 สัปดาห์ เมื่อได้รับครบทุก คณะแล้ว นายเทียนฉายจะบรรจุเรื่องเข้าสู่วาระประชุมสปช.ต่อไป
น.ส.ทัศนากล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าการ บูรณาการงานปฏิรูป 7 ประเด็น คือ 1.ปฏิรูปกลไกภาครัฐ การบริหารราชการแผ่นดิน 2.ปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย 3.ปฏิรูปการมีกฎหมายและใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรม ในเรื่องกิจการตำรวจ 4.ปฏิรูประบบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความเป็นธรรม 5.ปฏิรูปกลไกป้องกันและขจัดการ ทุจริตคอร์รัปชั่น 6.ปฏิรูประบบรองรับอนาคตประเทศไทย และ7.ปฏิรูปเพื่อสร้างคนไทยยุคใหม่นั้น คณะทำงานที่มีนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ สมาชิกสปช. เป็นประธาน อยู่ระหว่างดำเนินงาน โดยกรอบงานทั้งหมดจะทันส่งให้รัฐบาลภายในวันที่ 22 ส.ค.นี้แน่นอน
สปช.ปัดกมธ.ล็อบบี้ขอเสียง
นายดิเรก ถึงฝั่ง สมาชิก สปช.ด้านการเมือง กล่าวถึงกระแสข่าวว่า กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญเดินสายล็อบบี้สมาชิกสปช.เพื่อให้ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญ ว่า ยืนยันว่าไม่มีการล็อบบี้ มีเพียงแต่เป็นคำพูดจากสมาชิกสปช.บางคนเท่านั้นว่าจะมีการล็อบบี้ ซึ่งในทางปฏิบัติการล็อบบี้ยังไม่เกิด เชื่อว่าไม่มีใครล็อบบี้สปช.ได้ ทุกคนรอดูร่างรัฐธรรมนูญกรอบสุดท้ายว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร
นายประชา เตรัตน์ สปช.ชลบุรี กล่าวยืนยันว่า เรื่องการล็อบบี้ไม่เป็นความจริง เป็นเรื่องตลก ไม่มีใครเดินสายล็อบบี้ มีแต่คนจ้องจะคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ และสปช.ก็ล็อบบี้ไม่ได้ เพราะแต่ละคนมีวุฒิภาวะ
อัยการจ่อยื่นกมธ.ค้านรธน.
นางชนิญญา ชัยสุวรรณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครอง เผยความคืบหน้ากรณีอัยการร่วมลงชื่อคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มาตรา 228 ที่เปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงอัยการว่า รวบรวมรายชื่อของอัยการที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญได้แล้วเกือบ 500 คน และยังคงทยอยส่งรายชื่อเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนหนังสือเปิดผนึกเพื่อแสดงจุดยืนของอัยการร่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งวันที่ 1 ก.ค. เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว เปิดช่องปล่อยให้ฝ่ายการเมืองแทรกแซงอัยการได้ จากนั้นจะนำหนังสือเปิดผนึกพร้อมแนบรายชื่ออัยการทั้งหมด ส่งมอบให้กับกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญและฝ่ายรัฐบาลเพื่อพิจารณาในประเด็นดังกล่าวต่อไป
'วัฒนา'พบคสช.-แจงข้อมูลบินตปท.
ที่กองทัพภาคที่ 1 เจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (กกล.รส.คสช.) เชิญนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย เข้าพบ โดยการรักษาความปลอดภัยหน้ากองทัพภาคที่ 1 เข้มงวด ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนถ่ายภาพด้านหน้าทางเข้า-ออก ที่เห็นป้ายสัญลักษณ์กองทัพภาคที่ 1
นายวัฒนา ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพูดคุยกับทางคสช.ว่า เรื่องที่มาคุยหลักๆ คือการขออนุญาตเดินทาง ตนขออนุญาตเดินทางบ่อย ข้อมูลจึงสับสน เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจสอบข้อมูลการเดินทางทั้งหมด นอกจากนี้ที่อยู่บ้านจริงๆ กับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านของตนนั้นไม่ตรงกัน เพราะตามทะเบียนบ้านตนอยู่ต่างจังหวัด แต่ตัวอยู่ กทม. จึงขอรีเช็กข้อมูลโดยให้ตนกรอกประวัติใหม่ทั้งหมด คุยกันด้วยมิตรไมตรีที่ดี ไม่มีเรื่องการจำกัดการแสดงความคิดเห็นหากแสดงความคิดเห็นอยู่ในกรอบซึ่งไม่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง และไม่มีการปรับทัศนคติอะไร
ปปช.ตั้งอนุสอบ'บุญทรง'คดีมัน
วันเดียวกัน คณะกรรมการป.ป.ช. มีมติไต่สวนข้อเท็จจริงและตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน กรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 31 ราย กรณีการ ซื้อขายมันสำปะหลังในรูปแบบสัญญาซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) หรือไม่ โดยมีน.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธาน
กรณีนี้สำนักงาน ป.ป.ช. แสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว รับฟังได้ว่าในสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร การทำสัญญา ซื้อขายมันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังรวม 7 สัญญา เป็นสัญญาปี 2554-2555 จำนวน 4 สัญญาและปี 2555-2556 จำนวน 3 สัญญา ปริมาณรวม 4,790,000 ตัน วงเงิน 30,642,500,000 บาท บริษัทที่เข้ามาทำสัญญาซื้อขายกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ไม่ใช่บริษัทที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีน และข้อเท็จจริงปรากฏว่าได้ให้ความเห็นชอบในราคาตามข้อเสนอของบริษัทซึ่งต่ำกว่าข้อเสนอของฝ่ายไทย ก่อให้เกิดความเสียหายแก่กรมการค้าต่างประเทศและประเทศชาติอย่างร้ายแรง ถือว่าร่วมกันกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่หรือทุจริตต่อหน้าที่ตามกฎหมายอื่น ตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542
ยื่นปลด"สิระ"ปูดพล.อ.ดันกาสิโน
ที่รัฐสภา นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา สมาชิก สปท. เผยว่า ได้ยื่นหนังสือให้นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. พิจารณาปลดนายสิระ เจนจาคะ ออกจากสมาชิกสปช. หลังให้ข้อมูลผู้ที่อยู่เบื้องหลังการเปิดบ่อนกาสิโนที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยใช้คำว่า "พล.อ." อยู่เบื้องหลัง รวมถึงระบุจะมีการจ่ายเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อสนับสนุนการตั้งพรรคการเมือง ตนในฐานะผู้โพสต์สนับสนุนการเปิดกาสิโนลงในเฟซบุ๊กเป็นคนแรก เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. เวลา 07.02 น. ก่อนที่สปช.กลุ่มรักชาติ แถลงสนับสนุนการเปิดกาสิโนในไทยในช่วงบ่าย จากนั้นวันที่ 23 มิ.ย. นายสิระ ให้สัมภาษณ์คัดค้าน รวมถึงให้ข้อมูลว่ามีนายพลสนับสนุน และหากทำสำเร็จจะได้รับเงินตอบแทน 1 หมื่นล้านบาท
"ผมเสนอด้วยใจบริสุทธิ์ และไม่มีส่วนรู้จักกับสปช.กลุ่มรักชาติทั้ง 12 คน สิ่งที่นายสิระให้สัมภาษณ์เรื่องพล.อ.หนุนหลัง หรือเรื่องเงินหมื่นล้านบาท ถือเป็นสิ่งลวงโลก ไม่มีจริยธรรม ไม่มีความรับผิดชอบ ขอให้ประธานสปช.ตรวจสอบนายสิระ หากชี้แจงไม่ได้ ขอให้สปช.ถอดถอนนายสิระ ออกจากตำแหน่ง แต่หากไม่ดำเนินการผมจะใช้สิทธิฟ้องร้องกับศาลปกครองต่อไป" นายสนธิญากล่าว
'ปึ้ง-บิ๊กโอ๋'ปฏิเสธข้อกล่าวหาปปช.
วันที่ 30 มิ.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เข้ายื่นหนังสือต่อประธานป.ป.ช. เพื่อปฏิเสธการเข้ารับทราบข้อกล่าวหา หลังถูกแจ้งข้อกล่าวหาในฐานะอดีตรัฐมนตรีรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รวม 34 คน กรณีอนุมัติเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองปี 2548-2553 โดยมิชอบ ส่วนพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีต รมว.กลาโหม เซ็นมอบอำนาจในหนังสือดังกล่าวเพื่อปฏิเสธข้อกล่าวหาเช่นกัน
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า เนื่องจากคำสั่ง ป.ป.ช.ที่ 442/2556 ลงวันที่ 19 พ.ย.56 ที่แต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนในคดีดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะนายภักดี โพธิศิริ ขาดคุณสมบัติการเป็น ป.ป.ช. เพราะการแต่งตั้งนายภักดี เป็น ป.ป.ช.วันที่ 22 ก.ย.49 ยังมีสถานะเป็นกรรมการในบริษัทองค์การเภสัชกรรม-เมอร์ริเออร์ชีววัตถุ จำกัด และลาออกวันที่ 15 ธ.ค.49 ซึ่งมีคำกล่าวของนายวิชัย วิวิตเสวี ป.ป.ช. ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เมื่อวันที่ 5 มี.ค.58 ยืนยันได้ในเรื่องนี้ และนำแผ่นบันทึกเหตุการณ์ยื่นให้กับป.ป.ช.ด้วย จึงขอให้ประธานป.ป.ช.พิจารณา ยืนยันว่ามติแต่งตั้งอนุกรรมการที่มาแจ้งข้อกล่าวหาตน และพล.อ.อ.สุกำพล รวมถึงอดีตรัฐมนตรีทั้ง 34 คนมิชอบด้วยกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่ ป.ป.ช.เปิดให้เข้ารับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ป.ป.ช.จะส่งข้อกล่าวให้ทางไปรษณีย์ ผู้ถูกกล่าวหาต้องเข้าชี้แจงต่อป.ป.ช.ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับข้อกล่าวหาทางไปรษณีย์ โดยมีสิทธิขอขยายเวลาได้ 2 ครั้ง หากไม่ชี้แจง ป.ป.ช.จะถือว่าไม่ติดใจและจะพิจารณาข้อมูลหลักฐานเท่าที่มีอยู่
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาฯ ป.ป.ช. กล่าวว่า มีอดีตรัฐมนตรีมารับทราบข้อกล่าวหา หรือส่งตัวแทนมารับบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว 10 คน ไม่มา 8 ราย ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ ป.ป.ช.จะส่งข้อกล่าวหาไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับต่อไป ส่วนนายสุรพงษ์ และพล.อ.อ.สุกำพล ที่ปฏิเสธข้อกล่าวหาโดยอ้างว่ามติที่ประชุมป.ป.ช.แต่งตั้งอนุกรรมการไต่สวนไม่ชอบ ถือว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ดังนั้น จะส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้ทั้งสองรับทราบทางไปรษณีย์ต่อไป
นายสรรเสริญกล่าวว่า อีก 13 ราย ที่ขอเลื่อนมารับทราบข้อกล่าวหานั้น ที่ประชุมให้เลื่อนเป็นวันที่ 14 ก.ค. เวลา 14.00 น. ส่วนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ ป.ป.ช.ไม่สามารถส่งหนังสือให้ได้ จึงส่งบันทึกแจ้งข้อกล่าวหาให้กับผู้ถูกกล่าวหาทราบทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับแทน นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติยกคำร้องคัดค้านของน.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ที่ขอเปลี่ยนหรือถอดถอนตัวอนุกรรมการไต่สวนฯ ตามมาตรา 46 พ.ร.บ.ว่าด้วยป.ป.ช.
ตั้ง'อารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม'ปลัดท่องเที่ยว
วันที่ 30 มิ.ย. ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.อนุมัติตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอแต่งตั้ง นายธำรงค์ ชินหิรัญ ผอ.สำนัก 3 สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้เป็น ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาระบบงานการข่าว (นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 21 ม.ค.2558 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกฯ เสนอแต่งตั้ง พล.ท.ทิวะพร ชะนะพะเนาว์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ ตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.เป็นต้นไป
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอรับโอน นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เลขาธิการก.พ.ร. ไปดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง อนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้ง 2 ราย 1.นายชวลิต พิชาลัย ผอ.สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เป็นรองปลัดกระทรวง 2.นายทวารัฐ สูตะบุตร รองปลัดกระทรวง เป็นผอ.สำนักงานนโยบายฯ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า ครม.อนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอแต่งตั้ง 2 ราย 1.นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. นางทิพย์สุดา สุเมธเสนีย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง เป็นรองเลขาธิการสภาการศึกษา ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง
ต่างชาติรุมจี้ปล่อยนศ. บิ๊กตู่สวน ถามทำผิดรธน.ตรงไหน
ยูเอ็น-อียู-มะกันบีบไทย 280 อจ.ล่าชื่อช่วยศิษย์ 500 อัยการค้านร่างรธน. ยื่นปลด'สิระ'ปูดกาสิโน
ยูเอ็น-อียู-มะกัน-280 อจ.ออกแถลงการณ์จี้ รบ.-คสช.ปล่อย 14 น.ศ.แบบไร้เงื่อนไข ให้ทบทวนใช้ กม.จำกัดสิทธิเสรีภาพ
มติชนออนไลน์ :
@ ครม.สัญจรเชียงใหม่ตรึงกำลังเข้ม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งที่ 2/2558 ที่ จ.เชียงใหม่ ที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน เวลา 08.25 น. พล.อ.ประยุทธ์สวมเสื้อผ้าไหมสีม่วงอ่อน และมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เดินทางมาพร้อมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยรัฐมนตรีคนอื่นๆ ทางเจ้าหน้าที่ได้จัดรถตู้และมาพร้อมกันคันละ 2-4 คน ส่วนใหญ่
สวมผ้าไทยเข้าร่วมประชุม มี พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และนายศราวุฒิ ศรีสกุน ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาพิงคนคร (องค์การมหาชน) ให้การต้อนรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวดตามแผนรักษาความปลอดภัยขั้นสูงสุดที่หน่วยงานที่รับผิดชอบได้วางและซักซ้อมไว้ มีทหารและตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 1,000 นาย ตรวจตราบริเวณทั้งในและนอกสถานที่จัดการประชุม บริเวณรั้วรอบศูนย์การประชุมได้จัดวางกำลังพลทหารจากหน่วยมณฑลทหารบกที่ 33 ในเครื่องแบบพร้อมอาวุธครบมือ ยืนประจำจุดทุก 100 เมตร ขณะที่ทางการข่าวตรวจเข้มและเช็กความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่างๆ ที่เตรียมจะมายื่นหนังสือและแสดงสัญลักษณ์
@ 'วิษณุ'แนะสปช.รอดูร่างปรับแก้
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะโฆษกวิป สปช.ออกมาระบุว่ามีการล็อบบี้ สปช.ให้ลงมติรับร่างรัฐธรรมนูญว่าไม่ทราบข้อมูล เพียงแต่รับรู้จากสื่อมวลชน ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณอะไรที่จะบอกว่า สปช.จะคว่ำหรือจะรับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะว่ากรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญยังปรับแก้ไขร่างไม่แล้วเสร็จ ที่ผ่านมา กมธ.ยกร่างฯก็ระบุว่าจะปรับแก้ตามเสียงท้วงติง แม้จะมีบางคนที่ยังไม่พอใจ
"คิดว่าต้องรออีกระยะหนึ่ง จนเมื่อปรับแก้ไขแล้วเสร็จ จะมีการเปิดเผยให้สังคมรับรู้อย่างเป็นทางการ 20 วัน ก่อนถึงวันลงมติของ สปช. การออกมาพูดลักษณะนี้ไม่คิดว่าจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในร่างรัฐธรรมนูญ เพราะนายวันชัยพูดบ่อย ประชาชนก็รับทราบว่า กมธ.ยกร่างฯแก้ไขส่วนใดไปแล้วบ้าง แม้มีคนเห็นว่ายังไม่ดีพอ แต่ต้องรอดูว่าเมื่อปรับแก้แล้วเสร็จจะพูดอีกอย่างหรือไม่" นายวิษณุกล่าว และว่า เร็วไปที่จะพูดอย่างนั้น แต่ก็ต้องให้กำลังใจ กมธ.ยกร่างฯ เพราะเขาไม่ได้ทำงานเพื่อตัวเขา แต่ทำงานเพื่อประเทศชาติ ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าหน้าตาของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะออกมาอย่างไร เช่น กรณีที่นายธานินทร์ กรัยวิเชียร องคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำหนังสือทักท้วงในประเด็นการสรรหาคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.) ซึ่ง กมธ.ยกร่างฯก็ได้แก้ไขส่วนนี้แล้ว ที่สำคัญองค์ประกอบลักษณะนี้ไม่ได้มีแค่ในการสรรหา ก.ต.เท่านั้น ยังมีในส่วนของการสรรหาคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) ถ้าแก้ในส่วนของ ก.ต.ต้องกลับไปดูว่าจะแก้ของ ก.อ.ด้วยหรือไม่ เพื่อจะได้สอดรับกัน เพราะโดยหลักต้องไปด้วยกัน
@ ถอย'พลเมือง'ใช้'บุคคล'แทน
ที่รัฐสภา มีการประชุม กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ มีนายมานิจ สุขสมจิตร รองประธาน กมธ.ยกร่างฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุมแทนนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างฯ ที่ติดภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งนี้ วาระการประชุมเป็นการพิจารณาคำขอแก้ไขเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญของกลุ่มนายประสาร มฤคพิทักษ์ สปช. ที่เสนอให้เพิ่มมาตรา 50/1 มีข้อความว่า "ปิโตรเลียมเป็นทรัพยากรของปวงชนชาวไทย เพื่อประโยชน์สาธารณะให้มีบริษัทพลังงานแห่งชาติที่เป็นองค์กรของรัฐทำหน้าที่บริหารจัดการและดูแลสิทธิในทรัพยากรปิโตรเลียมแทนปวงชนชาวไทย โดยการให้สิทธิการสำรวจและผลิต ให้ใช้ระบบการประมูลผลประโยชน์สูงสุดของชาติเป็นสำคัญ" ปรากฏว่าที่ประชุม กมธ.ยกร่างฯมีความเห็นร่วมกันว่าไม่รับข้อเสนอดังกล่าวไว้พิจารณา
ส่วนหมวด 2 ว่าด้วยประชาชน ตอนที่ 3 สิทธิพลเมือง กมธ.ยกร่างฯได้แก้ไขตอนที่ 3 จากสิทธิพลเมือง เป็นคำว่าสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ขณะที่ในเนื้อหาในร่างรัฐธรรมนูญมาตรา 46-64 จะมีการปรับถ้อยคำจากเดิมที่ใช้ถ้อยคำว่า "พลเมือง" ไปเป็นคำว่า "บุคคล" แทน
@ กมธ.ยกร่างฯยันไม่มีล็อบบี้สปช.
นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษก กมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า กมธ.ยกร่างฯไม่ได้เดินสายล็อบบี้ สปช.เพื่อให้ลงมติเห็นชอบกับร่างรัฐธรรมนูญ มีแค่เพียงการพูดคุยชี้แจงทำความเข้าใจภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญเท่านั้น ส่วน สปช.จะตัดสินใจรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็เป็นสิทธิและขึ้นอยู่กับวิจารณ์ของแต่ละคน
นายดิเรก ถึงฝั่ง สปช.ด้านการเมือง กล่าวถึงกระแสข่าว กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญเดินสายล็อบบี้ สปช.เพื่อให้ลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญว่า ไม่มีการล็อบบี้ มีเพียงแต่เป็นคำพูดจาก สปช.บางคนเท่านั้นว่าจะมีการล็อบบี้ ซึ่งในทางปฏิบัติการล็อบบี้ยังไม่เกิด ส่วนตัวเชื่อว่าไม่มีใครล็อบบี้ สปช.ได้ ทุกคนรอดูร่างรัฐธรรมนูญว่าหน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร
@ 1 ก.ค.500 อัยการแถลงค้านรธน.
ขณะที่นางชนิญญา ชัยสุวรรณ รองอธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครอง เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่อัยการได้ร่วมลงชื่อคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในมาตรา 228 ที่เปิดช่องให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาแทรกแซงอัยการได้ว่า ได้รวบรวมรายชื่อของอัยการที่ไม่เห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญได้แล้วประมาณเกือบ 500 คน และยังคงทยอยส่งรายชื่อเข้ามาเรื่อยๆ ส่วนหนังสือเปิดผนึกเพื่อแสดงจุดยืนของอัยการกรณีคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญนั้น ขณะนี้ได้ร่างเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว จะแถลงข่าวกรณีการคัดค้านร่างรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมสำนักงานคดีปกครอง ชั้น 6 สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเปิดช่องปล่อยให้ฝ่ายการเมืองสามารถเข้ามาแทรกแซงอัยการได้
"หลังจากนั้นก็จะนำหนังสือเปิดผนึกพร้อมแนบรายชื่ออัยการทั้งหมด ไปส่งมอบให้กับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญและฝ่ายรัฐบาลเพื่อพิจารณาในประเด็นดังกล่าวต่อไป" นางชนิญญากล่าว
@ 'วัฒนา'มาตามคำเชิญกกล.รส.
เวลา 10.00 น. ที่ลานพระบรมรูปทรงม้าผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) โดย พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะ ผบ.กกล.รส. เชิญนายวัฒนา เมืองสุข อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมพูดคุย เพื่อทำความเข้าใจ ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1
ต่อมาเวลา 10.40 น. นายวัฒนาเดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัว ก่อนลดกระจกลงทักทายผู้สื่อข่าวว่า ยังไม่ทราบประเด็นการพูดคุยที่ชัดเจน แต่ยินดีให้ข้อมูลและตอบข้อซักถามต่างๆ ทุกเรื่อง รวมถึงกรณีที่ออกความเห็นเกี่ยวกับกลุ่มนักศึกษาดาวดินก่อนหน้านี้หรือไม่
ต่อมานายวัฒนาให้สัมภาษณ์หลังการพูดคุยว่า เรื่องที่มาคุยหลักๆ คือเรื่องการขออนุญาตเดินทาง ซึ่งตนขออนุญาติเดินทางบ่อย ข้อมูลจึงสับสน เขาเลยขอตรวจสอบข้อมูลการเดินทางทั้งหมด นอกจากนี้ที่อยู่บ้านจริงๆ กับที่อยู่ตามทะเบียนบ้านตนนั้นไม่ตรงกัน เพราะตามทะเบียนบ้านอยู่ต่างจังหวัด แต่ตัวอยู่กรุงเทพฯ เขาจึงขอรีเช็กข้อมูลโดยการให้กรอกประวัติใหม่ทั้งหมด
"คุยกันด้วยมิตรไมตรีที่ดี ไม่มีเรื่องการจำกัดการแสดงความคิดเห็น หากแสดงความคิดเห็นอยู่ในกรอบซึ่งไม่สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง และไม่มีการปรับทัศนคติอะไร ซึ่งก็เข้าใจกันแล้ว" นายวัฒนากล่าว
@ ยูเอ็น-อียูจี้รบ.ปล่อยนักศึกษา
ทางด้านสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลไทยปล่อยตัวนักศึกษาที่ถูกจับกุม 14 คน โดยระบุว่า โอเอชซีเอชอาร์ขอให้รัฐบาลไทยยุติดำเนินคดีอาญาต่อนักศึกษาที่ถูกจับกุมระหว่างการชุมนุมอย่างสันติในพื้นที่สาธารณะ โดยขอให้ปล่อยตัวนักศึกษาทันที และขอให้รัฐบาลไทยทบทวนการบังคับใช้กฎหมายที่จำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุม เพื่อเป็นไปตามพันธกิจของไทยภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ
ขณะที่สำนักงานคณะผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย (อียู) ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ทางการไทยปฏิบัติตามข้อผูกพันของประเทศไทย ภายใต้กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิ หลังเกิดเหตุการณ์จับกุมนักศึกษาจำนวน 14 คน จากข้อหาที่ถูกตั้งขึ้นอันเนื่องมาจากการชุมนุมอย่างสันติในวันที่ 22 พฤษภาคม ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นพัฒนาการที่น่ากังวลใจ
นายชาร์ลส์ ซันติอาโก สมาชิกสภานิติบัญญัติมาเลเซีย และประธานสมาชิกรัฐสภาอาเซียนด้านสิทธิมนุษยชน ออกมาวิจารณ์เรื่องการจับกุมนักศึกษาในไทยว่าน่าอดสู ไม่มีความชอบธรรมหลงเหลืออยู่ในระบอบที่สร้างความระราน และจับกุมนักศึกษาที่ชุมนุมอย่างสันติโดยที่พวกเขาไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากการออกมายืนเรียกร้องหาสิทธิตัวเอง
@ วิษณุย้ำ 14 น.ศ.ต้องขึ้นศาลทหาร
นายวิษณุกล่าวถึงกรณี 14 นักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ที่ออกมาเคลื่อนไหวและถูกหมายจับขึ้นศาลทหารโดยไม่ขอใช้สิทธิประกันตัวว่า เมื่อไม่ขอประกันตัวกระบวนการก็จะดำเนินต่อไปตามกระบวนการของศาลปกติ เพราะไม่ว่าศาลทหารหรือศาลปกติก็เหมือนกัน นักศึกษาทั้งหมดจะอยู่ในการควบคุมของศาลทหารจนกว่าจะครบกำหนด แล้วจึงปล่อยตัว ยกเว้นกรณีรับตัวไว้ในชั้นฟ้องแล้วเรื่องจะอยู่ในอำนาจของศาลที่จะควบคุมตัวได้จนกว่าจะมีการตัดสิน อย่างไรก็ตาม กฎหมายในขณะนี้นักศึกษาทั้งหมดไม่สามารถขึ้นศาลพลเรือนตามที่เรียกร้องได้
นายวิษณุ กล่าวถึงกรณีที่องค์กรระหว่างประเทศและภายในประเทศเคลื่อนไหวกดดันให้ปล่อยตัวและไม่ดำเนินคดีกับ 14 นักศึกษาว่า ถ้าจะบอกว่าไม่เป็นห่วงคงไม่ได้ จะใจไม้ไส้ระกำเกินไป เพราะเคยเป็นอาจารย์ และคนเหล่านั้นก็มีลูกศิษย์ แต่เชื่อว่าไม่ใช่เฉพาะฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น ฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ซึ่งจะต้องทำความเข้าใจ
"ที่คุยบนโต๊ะอาหารในที่ประชุม ครม.รัฐมนตรีหลายท่านคิดว่าไม่บานปลาย พยายามที่จะใช้น้ำเย็นเข้าลูบ และใช้การอธิบายสร้างความเข้าใจ แต่ถึงอย่างไรตามระเบียบต้องขึ้นศาลทหาร จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้" นายวิษณุกล่าว
พล.อ.ประวิตรกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ให้เป็นไปตามกฎหมาย
@ 'บิ๊กตู่'เมิน'อียู'ขอให้ปล่อยน.ศ.
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีที่อียูออกแถลงการณ์ขอให้รัฐบาลไทยยุติการดำเนินคดีอาญากับนักศึกษาที่ถูกจับกุมตัวว่า "ไม่ต้องชี้แจง ผมชี้แจงอยู่แล้วว่ากฎหมายคือกฎหมาย ประเทศไทยคือประเทศไทย ต้องนึกถึงคนอื่นเขาบ้าง ถ้ามีกฎหมาย คนนี้ทำคนนี้ไม่ทำ วันหน้าจะมีออกมากันอีกหรือไม่ วันนี้เขาทำอะไร เขาแสดงความคิดเห็นเรื่องเกี่ยวกับการพัฒนาประเทศกับผมบ้างหรือไม่ มาสิ แต่ถ้าจะมาโต้แย้งกับผมมันไม่ใช่ อย่างนั้นเขาไม่เรียกว่าการแสดงความคิดเห็น รู้อยู่ว่ามันเป็นสภาวะอะไร รู้ว่าผมอยู่อย่างไร ผมยังรู้เลย
ถ้าไม่รู้ว่า ประเทศชาติมีปัญหาตรงไหน อย่างไร วันหน้าเขาเลือกตั้งกันมาก็ไปทำกันตรงโน้น ที่ผ่านมาผมให้ทำมาตลอด จนเมื่อมันไปไม่ได้ ผมถึงเข้ามาทำ มันจะสำเร็จหรือไม่ผมยังไม่รู้เหมือนกัน วันสองวันจะเสร็จได้ไหม ผมอยากจะให้เป็นอย่างนี้หรือ ผมไม่ได้อยากเลยนะ ไม่ได้อยากมายืนตรงนี้ด้วยซ้ำไป พูดไม่รู้กี่ครั้งแล้ว พูดอยู่นั่นแหละใช้อำนาจ ใช้อำนาจ แล้วก็หาว่าผมทะเลาะกับสื่ออีก อำนาจตรงไหน อำนาจในการบริหารราชการแผ่นดินเขาเรียกว่าอำนาจเหรอ คิดผิดเหรอ ผมใช้อำนาจในทางที่ถูกต้อง ไม่ได้ไปละเมิดอะไรใคร เว้นแต่คนไม่ปฏิบัติตามกติกาที่ผมจำเป็นต้องใช้แค่นั้นเอง"
@ ชี้น.ศ.ดีมีเยอะไปไหนมีแต่คนชม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอถามหน่อยจะให้ทำอย่างไร จะให้เอามาแห่แหนชื่นชมหรืออย่างไร ต้องขอบคุณนักศึกษาหรือองค์กรซึ่งไม่ได้มีแค่ 14 คน ทั้งประเทศมีมากเท่าไหร่ที่ร่วมมือกับผม ไปดูสินักศึกษาดีๆ เวลาไปไหนมาไหนเขาก็มาชื่นชม ขอให้ผมทำให้เขา เด็กนักเรียนประถม มัธยม มหาวิทยาลัย ก็มีส่วนดีเยอะ บอกให้ลุงดูการศึกษา ดูอนาคตให้หนูด้วย
"แต่พวกนี้จะเอาเรื่องประชาธิปไตยอย่างเดียว เรื่องเลือกตั้งก็ไปเลือก ตอนนี้ผมผิดรัฐธรรมนูญตรงไหน ทำผิดหรือยัง รู้ไหม รัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่าอย่างไรรู้หรือยัง หรือว่าไม่รู้ แล้วอย่างนี้จะไปกันได้ไหม รัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนไว้ว่าประเทศจะนำไปสู่ประชาธิปไตยเมื่อมีรัฐธรรมนูญ แต่ตอนนี้ยังไม่เสร็จ จะผ่านหรือไม่ผ่าน สปช.ยังไม่รู้ เมื่อผ่าน สปช.ต้องไปทำประชามติ อยากจะทำประชามติก็แก้รัฐธรรมนูญชั่วคราวให้ ก็มาบอกว่าผมอยากจะสืบทอดอำนาจ ถ้าอยากให้รัฐธรรมนูญผ่าน ท่านผ่านประชามติมา จากนั้นก็จะนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป การทำประชามติใช้เวลาอีก 3 เดือน แล้วผมเป็นคนอยากยืดอยู่ต่อเหรอ กฎหมายเขียนอย่างนั้นให้มันรู้เสียบ้าง จากนั้นทำกฎหมายลูกอีก 2 เดือน จะอยู่ในแผนของรัฐมนตรีชั่วคราวทั้งสิ้น ผมไม่แก้อะไรสักตัวเลย อย่าเอาเรื่องมาพันกัน ถ้าพันกันไปกันมาก็ตาย ปวดหัว" นายกรัฐมนตรีกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นห่วงหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่ห่วงอะไรเลยมั้ง ปัดโธ่ จะมาพูดอะไรกันวันนี้ ถามมาตั้งแต่ที่กรุงเทพฯแล้วว่าห่วงหรือไม่ห่วง ไม่ห่วงจะมายืนตรงนี้ไหม เลิกถามว่าห่วงหรือไม่ห่วง พอแล้ว"
@ ลั่นในประเทศต้องไปได้ทุกที่
เมื่อเวลา 16.15 น. ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) พรหมพิราม จ.พิษณุโลก พล.อ.ประยุทธ์กล่าวตอนหนึ่งระหว่างการตรวจติดตามงานนโยบายรัฐบาลว่า เป็นครั้งที่ 2 ที่เดินทางมาประชุม ครม.นอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ทุกพื้นที่เป็นของคนไทยทั้งสิ้น ตนในฐานะนายกฯหรือใครก็ตาม ต้องไปได้ทุกที่ไม่ว่าพื้นที่ใคร เพราะถือว่าเป็นแผ่นดินไทยต้องไปได้ การมาครั้งนี้มีรัฐมนตรีมาด้วยหลายคนซึ่งแต่ละคนถือเป็นจำเลยด้วยกันทั้งหมด โดยเฉพาะ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ตนมาทำหน้าที่ตรงนี้ก็ต้องทำให้ดีที่สุด รัฐบาลนี้ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่มีอำนาจเต็ม ที่ต้องพูดบ่อยเพราะกลัวจะลืมเนื่องจากใจดีเกินไป เดี๋ยวจะลืมกันไปหมด ทุกอย่างกำลังเดินหน้าประเทศเพราะมีปัญหามาก ขอร้องว่าอย่ามองเพียงพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง
"วันนี้โชคดีที่เรารบกันแค่ภายในประเทศ แต่มีบางคนที่จะเอาคนอื่นเข้ามายุ่ง ไม่รู้ว่าใคร แล้วพวกเราจะยอมหรือไม่ เอาหน่วยงานองค์กรต่างๆ เข้ามา คนไทยด้วยกันตัดสินกันเองไม่ได้หรือ ว่าประเทศจะเดินหน้าอย่างไร เราต้องกำหนดอนาคตของคนไทยด้วยตัวเอง" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า รัฐบาลไม่เคยคิดว่าจะต้องมีคนรักคนชอบ แต่คนทั้งประเทศต้องมีสิทธิเท่าเทียมทางกฎหมาย ยืนยันว่าจะไม่ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง บางอย่างอาจจะช้าบ้างเพราะมีคนเสียผลประโยชน์ วันนี้ประเทศไทยไม่สามารถต่อรองอะไรกับต่างประเทศได้เพราะเรามัวแต่ทะเลาะกันเอง ยืนยันว่าทุกประเทศเข้ามาหาตนและพูดคุยว่าอย่าไปฟังสื่อ และถามตลอดว่าประเทศไทยจะเป็นอย่างนี้อีกนานหรือไม่ จึงย้ำไปว่ารัฐบาลพยายามแก้ปัญหาและวางพื้นฐานที่ดีไว้ แต่อนาคตอยู่ที่คนไทยทุกคนว่าจะทำให้สิ่งที่เคยเกิดกลับมาเกิดอีกหรือไม่ ด้วยการชี้นำและบิดเบือน
@ บัวแก้วยังไม่ได้รับหนังสือยูเอ็น
พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงข้อเรียกร้องปล่อยตัวนักศึกษาว่า เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงต้องว่าไปตามกติกา ทางนั้นยังไม่ได้ส่งหนังสือมายังกระทรวงการต่างประเทศ
"องค์กรที่ออกแถลงการณ์ต่างๆ ไม่ถือว่าเป็นองค์กรใหญ่ แต่ทุกองค์กรมีสิทธิออกแถลงการณ์ เช่น องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือฮิวแมน ไรต์ส วอตช์ ที่ส่งหนังสือมาถึงเรา ก็ได้แจ้งกลับไปว่ารู้สึกผิดหวังกับท่าทีของฮิวแมน ไรต์ส วอตช์ เพราะข้อมูลต่างๆ ไม่รอบด้าน เป็นข้อมูลด้านเดียว ซึ่งหากองค์กรใดต้องการข้อมูลที่ถูกต้อง สามารถติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศได้" พล.อ.ธนะศักดิ์กล่าว
@ 'ไก่อู'หวั่นปล่อยเกิดลัทธิเอาอย่าง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีแถลงการณ์ของอียูว่า รัฐบาลไม่ได้มีปัญหากับใคร ไม่ว่าจะเป็นผู้เห็นแย้งหรือว่านักศึกษา แต่ถ้าทำผิดกฎหมายก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ รัฐบาลยึดตามข้อกฎหมาย หากทำตามเสียงเรียกร้องจากองค์กรต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงกฎหมาย จะเกิดลัทธิเอาอย่าง นักศึกษาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง และยังมีการศึกษาค่อนข้างสูง ถือว่าเป็นปัญญาชน ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ขณะนี้เชื่อว่ากลุ่มผู้เสียผลประโยชน์และกลุ่มการเมืองเก่าเคลื่อนไหวอย่างเป็นกระบวนการมากขึ้น เพื่อสร้างสถานการณ์ความไม่สงบในสังคม ทั้งโดยการสนับสนุนให้กลุ่มบุคคลจำนวนหนึ่งเคลื่อนไหวภายในประเทศ และนำข้อมูลความคิดเห็นในอดีตของบางฝ่ายที่เคยเข้าใจรัฐบาลผิดมาปล่อยในโลกโซเชียล รวมทั้งสร้างข้อมูลเท็จออกมาสร้างความสับสนในสังคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ขอให้พี่น้องประชาชนมีความรอบคอบในการบริโภคข่าวสาร และไม่จำเป็นต้องหวั่นไหวต่อกระแสข่าวความเคลื่อนไหว ข่าวลือ ข่าวร้ายต่างๆ
@ 280อจ.จี้ปล่อยน.ศ.แบบไร้เงื่อนไข
เมื่อเวลา 12.00 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายอนุสรณ์ อุณโณ อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อ่านแถลงการณ์หลังเข้าเยี่ยมนักศึกษาในเรือนจำ ในนามเครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขัง เรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษาทั้ง 14 คน ทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่ให้มีการตั้งข้อหา ในแถลงการณ์มีอาจารย์นักวิชาการเข้าร่วมลงชื่อสนับสนุน 280 คน ทั้งนี้ ในการอ่านแถลงการณ์มีอาจารย์และนักวิชาการเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ นายวิโรจน์ อาลี รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น.ส.ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นายประจักษ์ ก้องกีรติ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น.ส.ชลิตา บัณฑุวงศ์ ภาควิชาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายนิติ ภวัครพันธุ์ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ น.ส.จันทจิรา เอี่ยมมยุรา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนายสมฤทธิ์ ลือชัย นักวิชาการอิสระ เป็นต้น ในแถลงการณ์ระบุว่าการจับกุมคุมขังนักศึกษาจำนวน 14 คนด้วยข้อหาขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรัฐประหารเป็นสิ่งไม่ชอบธรรมเพราะรัฐประหารไม่มีความชอบธรรมตั้งแต่ต้น จึงเรียกร้องให้ปล่อยตัวพวกเขาทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไขและไม่ให้มีการตั้งข้อหา หรือว่าดำเนินคดีกับพวกเขาในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว
@ เดินหน้าจัดห้องเรียนสาธารณะ
นายอนุสรณ์กล่าวว่า แนวทางการเคลื่อนไหวภายหลังจากนี้ จะจัดให้มีอาจารย์เข้าเยี่ยมกลุ่มนักศึกษาทุกวันครั้งละประมาณ 10 คน และจะจัดทำกิจกรรมที่ชื่อว่าห้องเรียนสาธารณะ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้ในประเด็นที่สำคัญ ให้ต่อไปคนในสังคมไทยมีความก้าวหน้าเรื่องสติปัญญา ซึ่งจะหยิบยกประเด็น 5 เรื่องที่กลุ่มประชาธิปไตยใหม่ชูขึ้นมา ได้แก่ เรื่องประชาธิปไตย เรื่องสิทธิเสรีภาพ เรื่องสันติวิธี เรื่องสิทธิมนุษยชน และการมีส่วนร่วม จัดเป็นลักษณะคล้ายกับซีรีส์ห้องเรียนสาธารณะ แต่ละประเด็นจะมีสถาบันทางวิชาการ และหน่วยงานวิจัยที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการ
"จะตั้งเว็บเพจคณาจารย์ขึ้นมาโดยมีทีมไปสัมภาษณ์ตามที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อจัดทำคลิปวิดีโอแสดงความเห็นและแสดงความห่วงใยต่อนักศึกษา จะเริ่มทำเร็วๆ นี้ ซึ่งทั้งหมด ได้คุยกับกลุ่มนักศึกษาที่ถูกคุมขังในเรือนจำ เล่าให้ฟังว่า สถานการณ์ข้างนอกมีความเคลื่อนไหวอย่างไร และเล่าถึงการออกแถลงการณ์ของกลุ่มคณาจารย์ และกิจกรรมที่จะทำต่อไป ทำให้นักศึกษาโดยเฉพาะนายรังสิมันต์ โรม ก่อนหน้านี้มีสีหน้าที่เคร่งเครียด รู้สึกดีใจ ที่เห็นคณาจารย์มีมีการรวมกลุ่มเคลื่อนไหวมากถึง 280 คนในระยะเวลาลงชื่อเเค่ 1 วัน" นายอนุสรณ์กล่าว และว่า การลงชื่อนั้นเป็นการลงชื่อแบบเปิด สามารถลงได้ที่เว็บ www.prachatai.com และเฟซบุ๊กสมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจัดกิจกรรมต่อเนื่องบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยเล่นดนตรีประกอบการร้องเพลงที่ชื่อ "บทเพลงของสามัญชน" มีคณาจารย์ นักศึกษา และประชาชน ร่วมกันร้อง บริเวณรั้วด้านหลังมีการติดกระดาษแข็งสีน้ำตาลระบุข้อความ "ทำไมถึงมาเยี่ยม นักศึกษา #ไอ้พวกนักกิจกรรม" ให้ประชาชนทั่วไปที่มาเยี่ยมเขียนข้อความให้กำลังใจใส่โพสต์อิทแล้วนำมาติดได้
@ บก.ลายจุดร่วมแสดงละครใบ้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเครือข่ายคณาจารย์ผู้ห่วงใยศิษย์ที่ถูกคุมขังออกแถลงการณ์ ทางนายสมบัติ บุญงามอนงค์หรือ บก.ลายจุด ได้เล่นละครใบ้ เพื่อสื่อถึงเสรีภาพบริเวณหน้าเรือนจำ
นายสมบัติกล่าวว่า เดินทางมาให้กำลังใจ และละครใบ้ที่แสดงต้องการจะสื่อว่านักศึกษาเป็นตัวแทนของของเสรีภาพ มีจิตวิญญาณเป็นนกพิราบ ที่ต้องบินอยู่ข้างนอกไม่ใช่ที่คุมขัง ท้องฟ้ามันกว้างใหญ่ ควรแบ่งพื้นที่ให้พวกเขาได้บิน ถ้าไม่มีเสรีภาพจะมีสันติภาพได้อย่างไร
@ พ่อน.ศ.ดาวดินชี้ทำเกินเหตุ
ขณะเดียวกัน นายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา บิดามารดาของ "ไผ่ ดาวดิน" หรือจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หนึ่งใน 14 นักศึกษาที่ถูกคุมขังเดินทางมาเยี่ยมบุตรชาย
นายวิบูลย์กล่าวว่า เป็นเรื่องตลก เด็กมาทำกิจกรรมไม่ได้มีอาการที่นำไปสู่ความรุนแรง มีตำรวจทหารมากกว่านักศึกษาแต่มารุมจับเด็ก ทำไมไม่บอกให้หยุดทำกิจกรรมเหมือนตอนให้หยุดจัดงานเสวนา แต่กลับมาจับตัวเด็กว่าทำผิดมาตรา 116 มีโทษไม่เกิน 7 ปี กับกิจกรรมเด็กๆ ไม่มีอะไรมากกว่าร้องรำทำเพลง นั่งรอให้จับ
"การจับกุมครั้งนี้เป็นการใช้วิธีที่ไม่ทันได้วิเคราะห์ให้รอบคอบว่ามันเหมาะควรกับการกระทำของเด็กหรือไม่ แต่กลับใช้มิติอื่นในการกำราบ ในการเชือดไก่ให้ลิงดูผมคิดว่าไม่ใช่วิธีที่ฉลาด" นายวิบูลย์กล่าว
นายวิบูลย์กล่าวว่า มีผู้อยู่เบื้องหลัง มีคนจ้างมานั้น พูดได้เช่นกันว่ารัฐบาลมีคนอยู่เบื้องหลังมีคนจ้างมา เพราะมันง่ายต่อการพูด การโฆษณาแบบนี้ในการทำลายคนอื่น แต่สุดท้ายเป็นการทำลายคนพูดเอง ยอมรับว่าเด็กที่จัดกิจกรรมมีเบื้องหลัง ลูกชายผมตั้งแต่เล็กจะตามผมไปบรรยายเรื่องกฎหมายกับชาวบ้านมาตลอด ทำให้ซึมซับวิธีคิด ขณะเดียวกันเขาก็เรียนกฎหมายมาเหมือนกัน เขาตั้งคำถามว่าสิ่งที่เขาเจอกับสิ่งที่เรียนมันใช่หรือเปล่า แล้วเขาลงไปทำกิจกรรม เบื้องหลังของไผ่คือวิธีคิด วิธีเข้าใจถึงปัญหา และใช้วิธีคิดของผมที่เป็นทนายความอยู่เบื้องหลัง
"ผมก็เป็นนักกิจกรรม ตั้งแต่ 14 ตุลา 16 ไล่เผด็จการทหารทุกรุ่น การชุมนุมช่วงหลังผมเข้าร่วมขับไล่แทบทุกรัฐบาลไม่ว่าพรรคไหนที่สร้างปัญหาให้กับประชาชนโดยรวม ผมไปร่วมชุมนุม ทั้งเสื้อเหลือง เสื้อแดง และ กปปส. เพราะผมไม่ดักดานที่จะมายึดติดเรื่องพรรคพวกผมสนใจเรื่องปัญหาของสังคมเป็นหลัก" นายวิบูลย์กล่าว
@ น.ศ.เชื่อคนข้างนอกร่วมสู้
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้าเยี่ยมนักศึกษาว่า กลุ่มนักศึกษาสวมเสื้อยืดสีขาว ตัดผมสั้นเกรียน เดินทางมาพบปะกับคณะนักวิชาการและเพื่อนๆ ผ่านห้องกระจกสำหรับเยี่ยมผู้คุมขังด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม มีการฝากเพื่อนที่มาเยี่ยมให้ฝากข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ เข้ามาให้ รวมถึงหนังสือตำราต่างๆ สำหรับอ่านเพื่อเตรียมสอบ ก่อนจะหมดเวลาเยี่ยม นักศึกษาทั้งหมดจะชูกำปั้นเหนือหัวแสดงให้เห็นว่ายังสู้อยู่
นายรังสิมันต์ โรม นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตอบข้อซักถามผ่านห้องเยี่ยมกรณีมีนักศึกษาที่ จ.เชียงใหม่ ชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัว 14 นักศึกษา ว่าเพิ่งทราบเรื่อง และรู้สึกดีใจที่มีคนคิดถึง ในแง่หนึ่งต้องสู้กับเผด็จการ "เรามาอยู่ตรงนี้เพราะ คสช. ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด" นายรังสิมันต์กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลัวกระแสจะเงียบหายไปหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า "หวังว่าคนข้างนอกจะสู้ต่อไปแม้ไม่มีพวกผม และหวังว่าการเคลื่อนไหวจะยังคงดำเนินต่อไปได้ กิจกรรมในเรือนจำขณะนี้ใช้เวลาอ่านหนังสือแต่ยังยืมหนังสือในเรือนจำไม่ได้ เพราะคนที่ยืมได้ต้องอยู่ในเรือนจำอย่างน้อย 15 วัน ตอนนี้อยากให้คนข้างนอกส่งหนังสือเข้ามาให้อ่านบ้าง ส่วนการแยกแดนนั้น ต้องอยู่ 14 วันจึงจะมีการแยกแดน"
@ บอกไม่ต้องห่วงถ้าข้างนอกเดินต่อ
นายรัฐพล ศุภโสภณ หรือบาส นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า อยากให้เจตนารมณ์ของนักศึกษามีการขับเคลื่อนเดินหน้าต่อไป อยากให้ทุกคนตระหนักถึงอำนาจของตัวเองที่ถูกปล้นไปแล้ว ต้องทวงคืน ถามว่าทุกคนอยากอยู่ในสังคมแบบไหน ยอมรับการถูกปล้นอำนาจแบบนี้หรือไม่ ถ้าไม่อยากก็ต้องสู้ ไม่มีทางอื่น
"คนข้างนอกอย่าห่วงพวกผม พวกผมพออยู่ได้ พอทนไหว ถ้าข้างนอกเดินต่อไปได้ พวกเราก็จะไปกันด้วยดีทั้งข้างนอกและข้างในซึ่งชะตากรรมไม่ต่างกัน ส่วนกรณีนักศึกษาที่ จ.เชียงใหม่ ชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัว ต้องขอขอบคุณที่ออกมาสู้และขอให้ยืนหยัดในสิ่งที่ทำ มั่นใจว่าทำถูกแล้ว ขอให้ทุกคนทำอย่างระมัดระวัง แต่ไม่ใช่เพราะความกลัว รักษาตัวด้วย เราเป็นกำลังใจให้คนข้างนอก" นายรัฐพลกล่าว
@ จัดกิจกรรมจุดเทียนหน้าคุก
เมื่อเวลา 19.30 น. ที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร กลุ่มกระบวนการประชาธิปไตยใหม่ และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดยพระมหาไพรวัลย์ วรวรรณโณ พร้อมด้วยนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และผู้ร่วมกิจกรรมในนาม "พลเมืองโต้กลับ" มีนายวิบูลย์ บุญภัทรรักษา อายุ 59 ปี และนางพริ้ม บุญภัทรรักษา อายุ 49 ปี บิดามารดาของนายจตุรภัทร ร่วมกิจกรรม อีกทั้งยังมีนายพันศักดิ์ ศรีเทพ อายุ 46 ปี บิดานายสมาพัน ศรีเทพ หรือน้องเฌอ อายุ 17 ปี ที่เสียชีวิตจากการเข้าร่วมการชุมนุมเมื่อปี 2553 ร่วมกันจุดเทียนและร้องเพลงให้กำลังใจกับนักศึกษาทั้ง 14 คนที่ถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ
นายอานนท์กล่าวว่า มาเพื่อร่วมร้องเพลงและให้กำลังใจน้องๆ นักศึกษาทั้ง 14 คน พร้อมจุดเทียนเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการส่องสว่างและเรียกร้องให้ยุติการดำเนินคดี จะมีการจุดเทียนตลอดทั้ง 3 วัน และเวลา 18.00 น.
วันที่ 5 กรกฎาคม มีการทำกิจกรรม "โพสต์อิสรภาพ Freedom" ที่สกายวอล์กสถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ และเวลา 09.00 น.
วันที่ 7 กรกฎาคม จะมีการนำตัวนักศึกษาทั้ง 14 คนไปฝากขังที่ศาลทหาร
@ นศ.ไทยม.วิสคอนซินจี้ปล่อยนศ.
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ตามเวลาสหรัฐอเมริกา เว็บไซต์ประชาไทรายงานว่า กลุ่มนักศึกษาไทยในมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน-แมดิสัน (University of Wisconsin-Madison) จัดกิจกรรมชูป้ายเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักศึกษากลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ 14 คน โดยไม่มีเงื่อนไข โดยระบุว่านักศึกษาถูกจับกุมและคุมขังในเรือนจำตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน เนื่องจากแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ต่อต้าน คสช.อย่างสันติ เรียกร้องให้รัฐบาลเคารพการแสดงความคิดเห็นของประชาชน และเรียกร้องให้รัฐบาล คสช.ลงจากอำนาจ และคืนอำนาจอธิปไตยให้แก่ประชาชน โดยรณรงค์ให้ใช้แฮชแท็ก #FreeThai14 และ #FreeThe14 ในโซเชียลมีเดีย เพื่อเผยแพร่ปัญหาวิกฤตสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย
นายบุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตัวแทนนักศึกษาไทยที่จัดกิจกรรม กล่าวว่า คนไทยที่อยู่ที่เมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ต้องการรณรงค์เพื่อให้ปล่อยตัวนักศึกษา 14 คนที่ถูกจับกุม อยากบอกกับน้องๆ นักศึกษาและสังคมไทยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองไทยเป็นที่รับรู้ในสังคมโลก กิจกรรมได้รับความสนใจจากนักศึกษาที่นี่เป็นอย่างดี