- Details
- Category: การเมือง
- Published: Sunday, 28 June 2015 09:06
- Hits: 6685
ทหาร-ตร.ลุย! จับ 14 นศ. ส่งศาลทหารทันที สหรัฐติงรบ.ไทยละเมิดสิทธิ์ ปปช.จ่อสอบ'ปู'รวยเพิ่ม 38 ล.
ทหาร-ตร.บุกจับ 14 น.ศ.ถึงที่พัก แจ้งข้อหาหนักก่อความไม่สงบ ขณะนักศึกษายันจะสู้ให้สุดทาง ปัดประกัน ขอขึ้นศาลพลเรือน 'บิ๊กตู่-ป้อม-โด่ง'รุมชี้มีผู้อยู่เบื้องหลัง ด้านน.ศ.แถลงโต้กล่าวหา สหรัฐแถลงรายงานสถานการณ์ไทย ติงละเมิดเสรีภาพประชาชน 'ไก่อู'โต้มะกัน จี้แสดงที่มาข้อมูล สนช.ลงมติไม่ให้ 248 ส.ส.เพิ่มพยานคดีถอดถอน พธม.ยอมรับคดียึดสนามบินสิ้นสุดแล้ว 'ปู' ฉลองเฟซบุ๊ก 4 ล้านไลก์
วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8977 ข่าวสดรายวัน
บุกจับ- ตร.-ทหารบุกจับกุมกลุ่มน.ศ.ขบวนการประชา ธิปไตยใหม่ 14 คน ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. และความผิดตามป.อาญา มาตรา 116, 83 ที่สวนเงินมีมา เขตคลองสาน ก่อนนำตัวไปยัง สน.พระราชวัง เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.
'บิ๊กตู่'ชี้ 71 บิ๊กขรก.ยังไม่ผิด
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีออกคำสั่งหัวหน้าคสช. ใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว ให้มีการโยกย้ายและ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการและข้าราชการท้องถิ่น 71 คนว่า ยังไม่ถือว่าทั้งหมดมีความผิด เป็นการรวบรวมรายชื่อที่มีการร้องเรียนอยู่ในกระบวนการตรวจสอบทั้งหมด ถ้าเรื่องไหนที่สำคัญมากๆ หรือเป็นปัญหาใหญ่ก็จำเป็นต้องรื้อตำแหน่งระดับสูงให้ขยับออกมาก่อน เพื่อให้เกิดการสอบสวน หาพยานหลักฐานในเชิงประจักษ์ให้ได้ แต่ถ้าไม่ผิดก็กลับมาที่เดิม เพราะตนไม่ได้ตั้งใครแทน เป็นการรักษาราชการ โดยผู้อาวุโสในแต่ละหน่วยงานตั้งขึ้นมาตามระเบียบอยู่แล้ว
"อย่าเพิ่งไปกล่าวหาเขา มันจะเสียหาย ผมเคยบอกแล้วว่าทำอะไรก็ตาม มันจะเสื่อมเสียถึงครอบครัว วงศ์ตระกูล ลูกหลานที่เป็นคนบริสุทธิ์ ฉะนั้น อย่าเพิ่งตำหนิเขาขนาดนั้น ผมให้ความเป็นธรรมทุกคนแล้ว อย่าให้ต้องใช้อำนาจอย่างเดียวลงโทษ มันจะไม่มีวันจบสิ้น ต้องใช้กระบวนการยุติธรรมดีกว่า" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
'วิษณุ'เปรยน่าจะมีโดนอีก
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวว่าสำหรับบัญชีล็อต 2 พบมี ผู้เข้าข่ายโดนโยกย้าย 10 คน แต่เขาเกษียณไปแล้ว จึงอาจจะประกาศรายชื่อดังกล่าวให้ประชาชนทราบในภายหลัง แต่ยังไม่สรุปว่าจะระบุโทษความผิดข้อหาใด คาดว่าจะทำทันในรัฐบาลนี้ ส่วนการโยกย้ายนายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกฯ เนื่องจากชื่อนายสุวัตรอยู่ในบัญชีที่ 1 เมื่อดึงออกมา ความเป็นปลัดยังติดตัวอยู่ แต่บังเอิญว่าอธิบดีการท่องเที่ยวฯ รองอธิบดีการท่องเที่ยวฯ อยู่ในข่ายตรวจสอบเช่นกัน ทำให้กระทรวงเดินหน้าไม่ได้ จึงเปิดทางโดยให้นายสุวัตรออกมาช่วยราชการเพื่อให้ตำแหน่งว่าง และตั้งปลัดตัวจริงเข้าไปทำงาน แต่ขึ้นอยู่ว่าเจ้ากระทรวงจะแต่งตั้งหรือไม่
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ส่วนที่ต่ำกว่าซี 8 ลงไป ส่งชื่อให้กระทรวงจัดการ ซึ่งความผิดของข้าราชการล็อต 1 และ 2 เป็นความผิดก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 ส่วนความผิดหลังยึดอำนาจก็น่าจะมีอีก
เมื่อถามถึงข้าราชการท้องถิ่น อาทิ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายกอบจ.สมุทรปราการ ต้องพ้นจากตำแหน่งชั่วคราวและไม่ได้รับเงินเดือนนั้น นายวิษณุกล่าวว่าตำแหน่งยังอยู่ ซึ่งทางจังหวัดจะต้องตั้งคนใหม่มาทำงานแทน และที่ไม่จ่ายเงินเดือนเพราะหากให้เงินเดือน ต้องจ่ายทั้งนายชนม์สวัสดิ์ และคนใหม่ที่มาแทน เงินของท้องถิ่นคงไม่เพียงพอ ทั้งนี้ไม่กังวลจะถูกฟ้องกลับ เพราะออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44
บิ๊กป้อมเตือนขรก.อย่าเกียร์ว่าง
ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวว่าในส่วนของตำแหน่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน(พช.)ที่ว่างลง นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีคำสั่งตั้งนายมนตรี นาค สมบูรณ์ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน รักษาราชการแทนเป็นการชั่วคราว ในส่วนของนายกอบจ.และผู้บริหารองค์กรท้องถิ่นที่มาจากการเลือกตั้ง และถูกให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่ ไม่จำเป็นต้องแต่งตั้งให้ผู้ใดทำหน้าที่แทน เท่าที่ดูไม่ได้กระทบการทำงานของท้องถิ่นแต่อย่างใด ทั้งนี้โดยส่วนตัวไม่อยากให้ใครต้องโดนตรวจสอบ ขอเพียงอย่าทำอะไรที่ผิดกฎหมาย ขอให้ข้าราชการทุกคนปฏิบัติหน้าที่ต่อไป อย่าเกียร์ว่าง ถ้าเราทำดีแล้วอย่ากลัวการตรวจสอบ
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับพฤติการณ์ที่ข้าราชการที่ถูกโยกย้ายจะเกี่ยวข้องกับโครง การทุจริต ส่วนใหญ่เรื่องจัดซื้อจัดจ้าง การเอื้อประโยชน์ การทำเอกสารเท็จ เพื่อเบิกเงิน ส่วนกลุ่มนายกอบจ. เกี่ยวข้องกับโครงการทุจริต 7 แห่ง โดยส่วนใหญ่พบว่าอนุมัติเบิกจ่ายเอื้อประโยชน์ รวมทั้งการใช้วิธีพิเศษ
พท.ขอแจงคดีถอด 248 ส.ส.
ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 7 รัฐสภา นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยกลุ่มอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยกว่า 200 คน ได้ทำพิธีสักการะ นำพวงมาลา 2 พวงมาถวายพระบรมรูปรัชกาลที่ 7 พร้อมยื่นหนังสือคำชี้แจงสำนวนถอดถอนอดีตส.ส. 248 คน ในประเด็นแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เรื่องที่มาส.ว.มิชอบ ต่อนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2
นายสามารถ กล่าวว่า สมาชิกพรรคทั้งหมดจะขอชี้แจงและแถลงเปิดปิดคดีด้วยตัวเอง เมื่อสนช.เคยพิจารณาถอดถอนส.ว.ในประเด็นเดียวกันมาแล้ว ดังนั้นอยากขอให้สนช.ใช้ดุลพินิจพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างตรงไปตรงมา เพราะสำนวนถอดถอนนี้ก็ไม่แตกต่างกัน
นายสมคิด เชื้อคง อดีตส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเดินทางมาของ อดีตส.ส.วันนี้ เพื่อร้องขอใช้สิทธิ์ชี้แจง เพราะเป็นสิทธิของพวกเรา ถ้าหากไม่ให้อดีตส.ส.ที่ถูกกล่าวหา 248 คนชี้แจง แล้วจะตัดสินออกมาได้อย่างไร ถ้าพิจารณาตามข้อกฎหมายประเด็นส.ว.ที่สนช.เคยพิจารณาไว้แล้ว เมื่อส.ว.รอดได้ จะมาบอกอดีตส.ส.ทั้ง 248 คนไม่ควรรอดไม่น่าจะใช่ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง สุดท้ายขอให้เป็นดุลพินิจของมติสนช. ถ้าไม่รอดก็ไม่เป็นอะไร ไม่ได้ซีเรียส ในเมื่อคนอีก 65 ล้านคนอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ให้ได้
ชี้คดีนี้เหมือนคดีถอดส.ว.
พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เท่าที่ได้ติดตามเห็นว่าคดีนี้มีหลักการเดียวกันกับกรณีถอดถอนส.ว.ออกจากตำแหน่ง ดังนั้นหากไม่มีสองมาตรฐาน อดีตส.ส.ทั้ง 248 คน ก็ไม่ควรถูกถอดถอน ยืนยันว่าอดีตส.ส.ทำตามหน้าที่โดยสุจริต จึงอยากให้สนช.พิจารณาในเนื้อหาสาระอย่างตรงไปตรงมา
รายงานข่าวจากอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มของคดีถอดถอนนี้ เป็นสิ่งที่ยากจะคาดเดา แต่เท่าที่ได้รับข้อมูลจากสนช. บางส่วนทราบว่าขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณที่จะให้ถอดถอน แต่ต้องเข้าใจว่าสำหรับคนในฝ่ายพรรคเพื่อไทย อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ ในการชี้แจง แก้ข้อกล่าวหา ทางพรรคจะต้องกำชับหรือวางกรอบให้กับอดีตส.ส.ทุกคน ในการอภิปรายแก้ข้อกล่าวหาคดีถอดถอนให้อยู่ในประเด็น อยู่ในเนื้อหา สาระ ไม่นอกเรื่องไปเสียดสีสนช. อย่าทำให้เกิดความหมั่นไส้ อย่าทำให้เกิดความเกลียดชังซึ่งกันและกัน เพราะอาจมีผลต่อการลงมติถอดถอน เนื่องจากอำนาจในมือสนช.ที่จะถอดถอนหรือไม่ถอดถอน
สนช.เริ่มถกวาระถอดถอน
เวลา 11.20 น. ที่รัฐสภา นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. เป็นประธานประชุมสนช. เพื่อพิจารณาวาระเร่งด่วนในกระบวน การถอดถอนส.ส. 248 คนออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ตามข้อบังคับการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ พ.ศ. 2557 ข้อ 149 เพื่อกำหนดวันแถลงเปิดสำนวนคดีของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ผู้กล่าวหา และส.ส. 248 คน ผู้ถูกกล่าวหา
โดยที่ประชุมได้กำหนดวันแถลงเปิดสำนวนคดีของป.ป.ช. และส.ส. 248 คน ในวันที่ 15-16 ก.ค. เวลา 10.00 น. พร้อมแจ้งให้สมาชิกยื่นญัตติข้อซักถามได้ถึงวันที่ 20 ก.ค.นี้ ภายในเวลา 12.00 น. ทั้งนี้ตัวแทนฝ่ายผู้กล่าวหาโดยนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป.ป.ช. ส่วนฝ่ายผู้ถูกกล่าวหานำโดยนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย
จากนั้นเป็นการพิจารณาว่าจะอนุญาตให้เพิ่มพยานหลักฐานของฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่ โดยให้ฝ่าย 248 ส.ส.และป.ป.ช.ชี้แจง ก่อนให้สมาชิกลงมติว่าจะอนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มเติมพยานหลักฐานทั้งหมด 6 คำขอ 7 รายการหรือไม่ ในที่สุดที่ประชุมมีมติไม่อนุญาตให้ผู้ถูกกล่าวหาเพิ่มพยานหลักฐานทั้ง 6 คำขอและ 7 รายการ และสั่งปิดประชุมในเวลา 13.27 น.
ปปช.เปิดเซฟครม.'ปู'-อดีตสว.
วันเดียวกัน สำนักงานป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี วันที่ 6 พ.ค.58 ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งเมื่อ 7 พ.ค. 57 จำนวน 10 คน 13 ตำแหน่ง อาทิ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อดีตนายกฯ ทรัพย์สิน 612,379,231 บาท หนี้สิน 33,070,803 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ยืมมาจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมแล้วน.ส.ยิ่งลักษณ์มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 579,308,428 บาท, นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกฯ ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 966,155,309 บาท เทียบยื่นตอนพ้น ครม.ครบ 1 ปี 7 พ.ค.57 มีทรัพย์สินลดลง 1,366,493 บาท ฯลฯ
สำนักงานป.ป.ช.ยังเผยแพร่รายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของส.ว.กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 1 และ 7 พ.ค. 68 คน ที่น่าสนใจ อาทิ นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตส.ว.ฉะเชิงเทรา ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 198,367,842 บาท ลดลง 2,780,952 บาท, น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตส.ว.กทม. ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 11,801,601 บาท เทียบตอนพ้นตำแหน่ง ทรัพย์สินลดลง 764,469 บาท, พล.ต.กลชัย สุวรรณบูรณ์ อดีตส.ส.ชุมพร ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 14,869,303 บาท เพิ่มขึ้น 1,095,414 บาท, นายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตส.ว.นนทบุรี ทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 28,991,851 บาท ลดลง 954,207 บาท ฯลฯ
สว.ประจวบฯรวยสุด 2.5 พันล.
นายธวัชชัย ศิริสธนพันธ์ ผอ.สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง กล่าวว่ารัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ จากการตรวจสอบพบผู้ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดคือนายปลอดประสพ มีทรัพย์สิน 966,155,309 บาท น้อยที่สุดคือน.อ.อนุดิษฐ์ มีทรัพย์สิน 14,846,527 บาท คนที่มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยเพิ่มขึ้น 38,176,427 บาท เมื่อเปรียบเทียบกับครั้งเข้ารับตำแหน่งนายกฯ ที่มี 541,132,001 บาท ซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเพราะเหตุใด อย่างไรก็ดี กรณีของน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องตรวจสอบโดยละเอียดอยู่แล้ว ส่วนของครม.รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่จะครบกำหนดพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปีชุดล่าสุดนั้นจะเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินวันที่ 17 ก.ค.58 รวมทั้งส.ว.ในส่วนที่เหลือ จะเปิดบัญชีทรัพย์สินภายในเดือนก.ค.นี้เช่นกัน
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า สำหรับส.ว.ผู้ที่มีทรัพย์สินมากที่สุดคือ นายธันว์ ออสุวรรณ ส.ว.ประจวบคีรีขันธ์ มีทรัพย์สิน 2,511,816,914 บาท น้อยที่สุดคือ นายศิริวัฒน์ ไกรสิทธุ์ ส.ว.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สินจำนวน 180,934,406 บาท นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ยังไม่ยื่นรายการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอีก 2 รายคือ นายถนอม ส่งเสริม ส.ว.อุบลราชธานี และนายธวัชชัย บุญมา ส.ว.นครนายก ป.ป.ช.จะได้ส่งหนังสือให้ทั้ง 2 คน แจ้งเหตุผลที่ไม่ยื่น
สหรัฐติงรัฐบาลทหารของไทย
วันที่ 25 มิ.ย. ตามเวลาสหรัฐอเมริกา นายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดแถลงรายงานการสำรวจและประเมินผลด้านสิทธิมนุษยชนของนานาประเทศทั่วโลก ประจำปี 2557 ว่า เข้าใจว่ารัฐบาลบางประเทศคงไม่พอใจรายงานฉบับนี้ ไม่เพียงแต่ประเทศที่มีปัญหาร้ายแรงอย่างเกาหลีเหนือ หรือซีเรีย แต่ยังหมายรวมถึงประเทศที่สหรัฐทำงานด้วยอย่างใกล้ชิด
นายแคร์รีเขียนในคำนำของรายงานฉบับนี้ตอนหนึ่งด้วยว่า ในประเทศไทยทหารโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามวิถีประชาธิปไตย ฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญ และจำกัดเสรีภาพของพลเมืองอย่างเข้มงวด จากนั้นมีความพยายามของรัฐบาลทหารที่ตามมาคือให้เขียนรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ด้วยการคัดเลือกกลุ่มการเมืองซึ่งเป็นที่รู้กันขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดข้อวิตกว่าจะไม่ครอบคลุมกลุ่มคนต่างๆ ในกระบวนการ
ยินดี- น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ร่วมแสดงความยินดีกับด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือน้องไปป์ บุตรชายที่เข้ารับรางวัลวิชาภาษาอังกฤษดีเด่น ที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ขณะที่แฟนเพจเฟซบุ๊กของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ยอดทะลุ 4 ล้านไลก์แล้ว |
นายแคร์รี กล่าวว่า หลายประเทศตนได้พบบุคคลกล้าหาญที่ยอมเสี่ยงชีวิตตัวเองทุกๆ วัน เพื่อให้สิทธิมนุษยชนก้าวหน้าไปได้ เราในกระทรวงการต่างประเทศจะเดินหน้ากดดันให้รัฐบาลนานาประเทศยึดถือในเสรีภาพขั้นพื้นฐาน จะเป็นตัวแทนของสังคมพลเรือนที่จะพูดถึงการปกป้องสิทธิมนุษยชนสำหรับคนทุกคนต่อไป
เสนอรายงานวิจารณ์ยับ
สำหรับ รายงานการศึกษาเจาะลึกสถานการณ์ในแต่ละประเทศที่เผยแพร่ในเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐนั้น ในส่วนของไทยมีความยาว 64 หน้า เริ่มจากบทสรุปสถานการณ์ในปี 2557 ที่เกิดเหตุรัฐประหาร ทำให้รัฐบาลภายใต้การนำของน.ส.ยิ่งลักษณ์ที่มาจากการเลือกตั้งและเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป ว่าเป็นการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมต้องถูกโค่นล้มไป
จากนั้นรายงานแบ่งเป็นหัวข้อตามเหตุ การณ์ต่างๆ เช่น ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในช่วงการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทย การขัดขวางการเลือกตั้ง คดีลอบยิงและสังหารแกนนำคนเสื้อแดง นอกจากนี้ยังเกิดคดีการหายไปของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย การกักขังนักโทษทางการเมืองในคดีหมิ่นสถาบัน รวมไปถึงกรณีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กและสตรี สถานการณ์แรงงานต่างด้าว เป็นต้น
ชี้ละเมิดเสรีภาพประชาชน
โดยรายงานที่เผยแพร่ระบุด้วยว่า คณะรัฐประหารยกเลิกรัฐธรรรมนูญ(ยกเว้นในหมวดที่เกี่ยวเนื่องกับพระมหากษัตริย์) ยุบสภา และคงกฎอัยการศึกที่ประกาศไว้ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. พร้อมออกคำสั่งที่จำกัดเสรีภาพพลเมือง ที่รวมไปถึงเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เสรีภาพในการชุมนุม และเสรีภาพสื่อมวลชน คสช.เรียกและควบคุมตัวผู้นำทางการเมือง นักวิชาการ สื่อมวลชน และคนอื่นๆ มากกว่า 900 คนไปรายงานตัว โดยไม่มีข้อกล่าวหา ก่อนประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวในวันที่ 22 ก.ค. และแต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติในวันที่ 31 ก.ค. ส่วนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ส.ค.
สำหรับ ด้านเสรีภาพพลเมือง ภายหลังการรัฐประหาร คสช.จำกัดเสรีภาพในการพูดและเสรีภาพของสื่อมวลชน ห้ามวิพากษ์วิจารณ์การทำงานการกระทำของคสช. ปิดสื่อหลายแห่งและปิดกั้นการเข้าถึงเนื้อหาในอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงการเรียกสื่อมวลชนไปรายงานตัวเพื่อซักถาม รายงานยังระบุถึงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีโทษสูงสุด 15 ปี ซึ่งกฎหมายอนุญาตให้ประชาชนสามารถใช้มาตรานี้ฟ้องร้องกันเองได้ และที่ผ่านมีผู้ถูกจับกุมด้วยข้อหานี้หลายราย
ซัดม.44 คนสั่งไม่ต้องรับผิดชอบ
ด้านเสรีภาพทางวิชาการ คสช.สั่งห้ามนักวิชาการแสดงความคิดเห็นที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบต่อสาธารณะ โดยเรียกนักวิชาการ นักเขียน 35 คน เพื่อรายงานตัว ในจำนวนนี้รวมถึงนักวิชาการที่ศึกษาและเขียนเกี่ยวกับการพัฒนาประชาธิปไตยและกลุ่มที่ละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ส่วนการประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศทำให้ปัญหารุนแรงมากขึ้น และมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวของคสช. ยังให้หัวหน้าคณะรัฐประหารและผู้ใต้บังคับบัญชาพ้นจากความรับผิดชอบทางกฎหมายจากการกระทำทั้งก่อนและหลังรัฐประหารที่เป็นคำสั่งของคสช.
ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้อพยพ รายงานระบุว่ารัฐบาลไทยได้ให้ความคุ้มครองบางส่วนต่อผู้อพยพ โดยการไม่ส่งกลับไปยังประเทศที่อาจทำให้ผู้อพยพต้องได้รับอันตราย อย่างไรก็ตามยังมีรายงานจากองค์กรเอ็นจีโอว่าทหารตามชายแดนผลักดันผู้ลี้ภัยชาวพม่าหลายพันคนกลับประเทศ นอกจากนั้นสื่อมวลชนยังรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐรับสินบนจากขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮิงยา
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับอำนาจเบ็ดเสร็จในการจับและควบคุมตัว เรือนจำซึ่งไม่ถูกสุขลักษณะ รัฐบาลไม่สามารถปกป้องกลุ่มประชากรที่มีความเสี่ยงสูงได้เพียงพอ รวมไปถึงปัญหาผู้อพยพ การใช้ความรุนแรงและเลือกปฏิบัติกับสตรี เซ็กซ์ทัวร์ การละเมิดทางเพศเด็ก การค้ามนุษย์ การเลือกปฏิบัติต่อคนเพราะความพิการ เป็นคนกลุ่มน้อย ชาวเขา แรงงานต่างด้าว แรงงานเด็ก และการจำกัดสิทธิแรงงาน
'ไก่อู'โต้มะกัน-จี้โชว์ที่มาข้อมูล
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีสหรัฐเปิดเผยรายงานประจำปีเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก ซึ่งเนื้อหาในรายงานตอนหนึ่ง ระบุไทยจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนในระดับรุนแรงว่า เป็นมุมมองของสหรัฐที่มีต่อสถานการณ์ของประเทศต่างๆ ทั่วโลก จึงเป็นหน้าที่ของสหรัฐต้องอธิบายต่อชาวโลกว่าใช้ข้อเท็จจริงหรือแหล่งข่าวจากกลุ่มใดมาประเมินสถานการณ์ของแต่ละประเทศ
รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า สิ่งที่ประเทศ ไทยให้ความสำคัญที่สุดไม่ใช่ผลการประเมินของใครหรือหน่วยงานใด แต่ให้ความสำคัญกับสถานการณ์จริงที่เกิดขึ้นในประเทศและการดำเนินชีวิตอย่างเป็นปกติสุขของคนไทย ตั้งแต่คสช.เข้ามายุติความขัดแย้ง ทำให้ประเทศกลับเข้าสู่ความสงบและคนไทยเดินทางไปได้ทุกที่อย่างปลอดภัย ประเทศพัฒนาไปได้ โดยไม่เกิดเหตุวุ่นวายขึ้น
"กลุ่มบุคคลที่อ้างคำว่าสิทธิเสรีภาพ เพื่อแสดงความเห็นหวังผลปลุกปั่นยั่วยุ มีพฤติกรรมแอบแฝงทั้งทางการเมือง และผลประโยชน์อื่น ซึ่งอาจนำประเทศไปสู่ความขัดแย้งอีก รัฐบาลจะไม่ยอมให้ดำเนินการเพราะถือเป็นการละเมิดกฎหมายอย่างร้ายแรง และละเมิดความสงบสุขของประเทศ" พล.ต. สรรเสริญกล่าว
บิ๊กตู่ ย้ำผ่านทีวีอย่าขัดแย้ง'รบ.'
เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. กล่าวรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ตอนหนึ่งว่า ห้วงนี้เป็นห้วงสำคัญที่เราต้องรักษาเสถียรภาพของรัฐบาล และช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยในประเทศให้ได้ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ขัดแย้ง ผู้เห็นต่าง ตนคิดว่ายังไม่ใช่เวลาตอนนี้ที่จะออกมาเคลื่อนไหว เพราะเรากำลังทำสิ่งที่มีปัญหามาจากอดีต ถ้าไม่ให้เราแก้ไขวันนี้ มันจะเกิดขึ้นอีก เรากำลังสร้างประชาธิปไตยที่มีคุณภาพ ตนไม่เคยปฏิเสธประชาธิปไตย แต่เราต้องมีประชาธิป ไตยที่มีคุณภาพ ยั่งยืน ทุกคนมีความสุข บางอย่างอาจต้องใช้เวลาปรับเปลี่ยน ผ่านให้ได้ ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าในอนาคต นั่นคือการปฏิรูป จัดระเบียบต่างๆ ให้เข้าที่เข้าทาง
"ทุกวันนี้ขัดแย้งกันเต็มไปหมด ขอร้องพวกที่ไปสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ให้ขัดแย้งกับการทำงานของรัฐบาล อะไรที่เป็นประโยชน์ กรุณาอย่าขัดแย้งเลย อย่าใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ อธิบายให้เขาเข้าใจ ผมรับได้ ถ้าบอกว่าเขาต้องการจะอยู่แบบยากจนแบบนี้ หรือจะอยู่ในชีวิตที่ดีขึ้น มันไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ ต้องร่วมมือกัน เราจะต้องไม่ให้ประเทศไทยชอกช้ำ ต้องเป็นเช่นในอดีต นั่นคือสิ่งที่คสช. และรัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างเร่งด่วน โดยไม่ได้คิดอื่นใด เพียงแต่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ให้ประเทศไทยมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
ยันมีคนอยู่หลัง'ดาวดิน'
วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์กล่าวถึงกรณีระบุมีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาดาวดินว่า ยืนยันว่ามีกลุ่มคนอยู่เบื้องหลังแน่นอน ไปหาดูได้ในสื่อโซเชี่ยล ตนเห็นมีในเว็บไซต์
เมื่อถามว่าพร้อมจะเอาผิดกับตัวนักศึกษาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เขาผิดอยู่แล้วไม่ใช่หรือ แต่ยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องการศึกษาของเด็กเหล่านั้น ขอถามว่าพวกเขาห่วงบ้านเมืองกันหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมฝ่ายรัฐไม่มองว่านักศึกษาเคลื่อนไหวด้วยความบริสุทธิ์ใจ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า บริสุทธิ์ใจอย่างไร สื่อไม่ต้องมาพูดแบบนี้ เห็นสื่อไปคุยทั้งสองฝั่งอยู่แล้ว เห็นอยู่ มีรูปขึ้นไปหาคนนั้นคนนี้ วันนี้สื่อควรทำข่าวเพื่อให้ทุกคนกลับมาอยู่ที่จุดศูนย์กลางคือประเทศ
โวยมาทำงานดันมาต้าน
"เข้าใจกันหรือไม่ว่า ผมเข้ามาทำงานอยู่แล้วมาต่อต้านผม ผมทำความเลวหรือเปล่า เหมือนว่าถ้าผมไม่ได้ทำความผิดตรงนี้ก็ทำผิดตรงโน้น ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีจบ เหมือนกับนิทานอีสปเรื่องหมาป่ากับลูกแกะ ซึ่งมันไม่ใช่ ต้องดูว่าปัญหาอยู่ตรงไหนและใครมีส่วนร่วมบ้าง ส่วนนักศึกษา ผมให้เกียรติและเครดิตมาตลอด ครูและอาจารย์ก็เช่นกัน ผมให้โอกาสแล้ว เรียกมาพบ พอคุยกันก็หาว่าไปปิดกั้น ถ้าไม่คุยกันแล้วมันจะรู้เรื่องหรือไม่ แต่คุยแล้วก็ยังไม่รู้เรื่อง แสดงว่ามันต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลัง ต้องไปหากันมา ซึ่ง คสช.ดูอยู่ ทำไมสื่อเป็นห่วงกันมากหรือ"
เมื่อถามว่า อาจเป็นธรรมชาติของนักศึกษาในช่วงทำรัฐประหาร พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ไม่มีธรรมชาติในโลกนี้เมืองนี้ และบ้านนี้มันอยู่ด้วยธรรมชาติไม่ได้ อันนั้นมันเป็นประเทศที่เจริญแล้ว มีอารยธรรมและอยู่ได้ด้วยกฎหมาย ตนเป็นผู้รักษากฎตรงนี้แล้ว เมื่อมาต่อต้านคนรักษากฎ มันไม่ใช่กระบวนการประชาธิปไตยที่ถูกต้อง นี่จะเอาเสรีภาพทุกอย่าง บ้านเมืองกำลังแย่อยู่ เพียงแต่หลายอย่างเริ่มดีขึ้น ก็มาบอกว่าพอแล้ว มันก็กลับมาสู่ที่เก่าอีก หรือใครคิดว่ามันจะไม่กลับมา
ลั่นเอากติกาปชต.บังคับผมไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ไม่อยากพูดและไม่อยากตอบคำถามเพราะจะหงุดหงิดอีก การพูดและถามแบบนี้ไม่ได้อยู่แค่ประเทศ ไทย แต่ไปถึงต่างชาติ ลองเปิดหนังสือพิมพ์ต่างประเทศดู มีข่าวในประเทศเขาไม่กี่หน้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ตนเข้ามาแก้เขาก็บอกว่ามันดีขึ้น แต่คนที่ติ มันไม่ได้ติเพื่อก่อ แต่ล้มตั้งแต่ต้น พยายามเอากติกาของประชาธิปไตยปกติมาบังคับตน มันไม่ได้ ไม่เช่นนั้นตนคงไม่เข้ามาให้มันเปลืองตัว เปลืองเวลา วันนี้ขอให้นึกถึงประเทศชาติก่อนว่าต่างชาติเขาคิดอย่างไร อย่ามาพูดว่าเราอยู่ได้ ซึ่งมันไม่ได้ การค้าการลงทุน รายได้จีดีพีมาจากการส่งออก เราต้องทำให้ประเทศมีศักดิ์ศรีเพื่อทำการค้ากับต่างประเทศได้ ช่วงนี้ต้องสร้างความเข้าใจว่าเราจำเป็นต้องปฏิรูปสิ่งไม่ดีให้หมดไป เพื่อสร้างสิ่งดีๆ ให้คนไทยและมิตรประเทศที่เป็นเพื่อนเรา ตนขอร้องแค่นี้
ห่วงคนค้านถูกทำร้าย
"เมื่อวานนี้ ผมไม่กังวลที่เขาไปเดินๆ กันอยู่เพราะคนก็ด่าเยอะ เปิดกระจกไปด่าก็มีมาก ถ้าเกิดนักศึกษาเจ็บเนื้อเจ็บตัวขึ้นมา ก็กลับมาที่เจ้าหน้าที่รัฐอีก หาว่าไม่ดูแลกัน พ่อแม่เองก็ต้องดูลูก ซึ่งผมเห็นหน้าตาแต่ละคนแล้ว อายุเยอะเหมือนกัน ไม่รู้เรียนกันอย่างไร" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ห่วงว่าจะมีคนออกมาใช้ความรุนแรง ด่าเด็ก ถ้าเดินกันไปเรื่อยๆ แล้วมีคนมาทำร้ายจะทำอย่างไร เพราะทุกคนเข้าใจสถานการณ์บ้านเมืองและอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาให้ได้ รวมทั้งการวางพื้นฐานทั้งเรื่องน้ำ ความเหลื่อมล้ำ ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ สาธารณูปโภคพื้นฐาน การค้าการลงทุน นี่คือกฎเกณฑ์ของสังคมโลกซึ่งเขากดดันทุกประเทศแบบนี้ ทำไมเราไม่ใช้วิกฤตมาเป็นโอกาส ตนเป็นคนสร้างวิกฤตของตนเอง คนอื่นไม่มาเดือดร้อน แต่วิกฤตอยู่กับตน ครอบครัว ทำไมไม่เอาวิกฤตที่ตนเอาตัวเข้ามาตรงนี้ทำให้ประเทศเดินหน้า เดี๋ยวตนก็ไป จะอยู่นานอะไรหนักหนา มันเป็นสัจธรรมอยู่แล้ว
บ่นไม่ใช่ตค.16-พค.35
เมื่อถามถึงองค์กรนิรโทษกรรมสากลประจำประเทศไทยหรือแอมเนสตี้ เรียกร้องให้รัฐบาลถอนหมายจับกลุ่มนักศึกษานั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าตนเห็นแล้ว อย่าไปขยาย มันไม่ใช่ทั้งประเทศ แต่ตนเปิดดูในบางสื่อ แทนที่จะปล่อยให้เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องเฉพาะกรณี ไม่ใช่ไปเผยแพร่ว่าประเทศ ไทยถูกละเมิดทั้งหมดในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีกี่ราย ตอบมา ถ้าสื่อไปเสนอแบบนี้ ตนไม่กลัวว่าตัวเองจะเสียหาย เพราะมันเสียอยู่แล้ว แต่ที่เสียคือประเทศ
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขอร้องประชาชนให้ช่วยกันดูแลนักศึกษา ไม่ใช่จะย้อนไปแต่เหตุการณ์เก่าๆ ในปี 2516 ปี 2535 มันคนละสถานการณ์ ไม่เหมือนกัน วันนั้นสถานการณ์ต่างประเทศ เขายุ่งกับเรามากหรือไม่ เศรษฐกิจเป็นอย่างนี้หรือไม่ อย่าเอาวันนั้นมาเป็นวันนี้ ประวัติศาสตร์คือบทเรียน และปัจจุบันคืออนาคต ถ้าเราทำอะไรไม่ดี นั่นคืออนาคตของประเทศไทย ถ้าแตกแยกกันอีก นั่นคือล้มเหลว
เป็นธรรม- อดีตส.ส.เพื่อไทย กว่า 200 คน นำโดยนายสามารถ แก้วมีชัย อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ยื่นหนังสือถึงสนช.ผ่านนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. เพื่อขอให้ใช้ดุลพินิจพิจารณาคำร้องถอดถอน 248 ส.ส. ที่แก้ไขรธน. 50 อย่างเป็นธรรม ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. |
ลั่นใช้กม.จัดการนักศึกษา
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวในการมอบนโยบายให้กับข้าราชการในพิธีวันคล้ายวันสถาปนาสำนักนายกฯครบรอบปีที่ 83 ตอนหนึ่งว่า ขอฝากกลุ่มนักศึกษาที่ความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวพันการเมือง บอกไว้เลยมีหลักฐานทั้งหมดจะดำเนินการทางกฎหมาย ในส่วนที่ให้การสนับสนุน เพราะสถานการณ์วันนี้ไม่ใช่เวลาปกติที่จะสร้างความไม่สงบเรียบร้อยให้กับสังคมและประเทศชาติ ขอให้เข้าใจด้วย ตนดำเนินการตามกฎหมายที่มีอยู่และปรึกษาคนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทุกคน อย่ามาอ้างในวันหน้าว่าไม่เป็นธรรม เลือกข้าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกครั้งในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลและองค์กรที่มีผลงานยอดเยี่ยมและดีเด่นในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปี 2558 ตอนหนึ่งว่า วันนี้มีความขัดแย้งหลายอย่าง ตนไม่ใช่นักการเมือง ไม่ได้รับเลือกตั้งเข้ามา แต่เลือกตั้งตนเองเข้ามาเอง จึงเป็นคนกำหนดกติกาชั่วคราว แต่ก็รับฟังกติกาของทุกคน ตนไม่ได้บังคับใครให้คิดตามตลอด แต่เป็นผู้ชี้นำฉายไฟให้ทุกคนเดินอย่างปลอดภัย ซึ่งทุกคนต้องร่วมกันกำหนดอนาคตประเทศและสร้างภูมิคุ้มกันในทุกเรื่อง
'ป้อม-โด่ง'ยันรู้ชื่อคนหนุนน.ศ.
ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกฯ (อผศ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการเคลื่อนไหวของนักศึกษาว่า ถามว่านักศึกษาออกมาเคลื่อนไหวขณะนี้ดีหรือไม่ หากไม่ดี สื่อต้องช่วยบอกนักศึกษาว่าห้ามออกมาเคลื่อนไหว ส่วนคนให้การสนับสนุนจะต้องคุยกัน ตนรู้ว่าเป็นใครแต่ไม่ขอบอกชื่อ ทั้งนี้อาจเป็นนักการเมืองขั้วเก่าที่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย ซึ่งตนเข้าใจนักการเมืองแต่บอกแล้วว่าขอเวลาทำงานก่อน กำลังร่างรัฐธรรม นูญและแก้ปัญหาอยู่ ทั้งนี้ไม่กังวลว่าจะมีอีกกลุ่มลุกขึ้นมาต่อต้านนักศึกษาที่เคลื่อนไหว เพราะมีอะไรควรหันหน้าคุยกัน ตนไม่อยากให้ทะเลาะกัน ยอมรับว่านักศึกษามีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ผู้ให้การสนับสนุน ควรช่วยประเทศให้เกิดความสงบด้วย
เมื่อถามว่าจะเรียกกลุ่มผู้สนับสนุนมาคุยด้วยในวันใด พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า "เป็นเรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องของคุณ ผมจะถามอย่างไรก็เรื่องของผม"
ที่กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. กล่าวถึงมาตรการรับมือการเคลื่อนไหวกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะไม่ใช้มาตรการรุนแรง เราเน้นการทำความเข้าใจ ทั้งนี้เรารับทราบว่าการสนับสนุนของกลุ่มการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวของนักศึกษา ตอนนี้รู้ชื่อแล้วว่ามีใครสนับสนุนบ้าง แต่ไม่อยากเปิดเผย โดยจะเน้นการสร้างความเข้าใจให้เพิ่มมากขึ้น
ผบ.ทบ.ฮึ่มอย่าให้ทนไม่ไหว
พล.อ.อุดมเดช กล่าวว่า ตนไม่สบายใจที่มีกลุ่มนักศึกษาแสดงออกเช่นนั้น จะก่อให้เกิดการรวมตัวขึ้นจากกลุ่มเล็กๆ ขยายผลสู่กลุ่มใหญ่ กลายเป็นปัญหาความไม่สงบขึ้น ทางตรงกันข้ามประชาชนส่วนใหญ่คงไม่เห็นดีด้วย เพราะถ้าเกิดความไม่สงบและความปั่นป่วนในประเทศเหมือนที่ผ่านมา อาจเกิดการ กระทบกระทั่งจากประชาชนที่ไม่พอใจ สถานการณ์กลับไปสู่การใช้อาวุธสงครามและการวางระเบิดขึ้นมาอีก ขอให้คิดดู ขอย้ำอีกครั้งอยากขอความร่วมมือผู้ปกครองนักศึกษาให้ช่วยกันดูแล และป้องกันไม่ให้สิ่งร้ายๆ เกิดขึ้นอีก และขอร้องไปยังสถานศึกษาทั้งครู อาจารย์ต้องมีหน้าที่อบรม ไม่ใช่สอนให้นักศึกษาแสดง ออกในสถานการณ์ประเทศที่บอบช้ำมามาก
"การเคลื่อนไหวของกลุ่มนักศึกษาใน 2 วันที่ผ่านมา ผมพอรับได้ ถ้าอดทนได้ก็จะอดทน แต่ย้ำว่าอย่าให้มากและใหญ่โตไปกว่านี้เลย เพราะจะนำมาซึ่งความรุนแรงอีก ถ้าอะไรที่ผิดกฎหมาย และทำไม่ถูกต้องเกินกรอบที่ทำได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการต่อไป" พล.อ.อุดมเดชกล่าว
ชี้จนท.เฝ้าน.ศ.แค่ทำความเข้าใจ
เมื่อถามถึงเจ้าหน้าที่รัฐไปคุกคามหรือติดตามการเคลื่อนไหวของนักศึกษา ถือเป็นมาตรการแก้ไขปัญหาตรงจุดหรือไม่ พล.อ. อุดมเดชกล่าวว่า คงไม่ใช่แบบนั้น แต่เป็นขั้นตอนการทำความเข้าใจ บางทีตนคิดว่าการเชิญตัวมาอาจไม่เหมาะสมบางกรณี บางบุคคล เราก็ให้เกียรติไปพูดคุย ฉะนั้นมันจึงเป็นขั้นตอนดำเนินการที่ไม่รุนแรง และเหมาะสมต่อการทำความเข้าใจกันด้วย
ที่บริเวณทางเข้าสวนเงินมีมา มูลนิธิมูลนิธิเสฐียรโกเศศ-นาคะประทีป ถนนเจริญนคร ซึ่งเป็นที่พักของนักศึกษากลุ่มดาวดิน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารชุดจับกุม จากม.พัน 1 นอกเครื่องแบบ นำกำลังมาปักหลักติดตามความเคลื่อนไหวตั้งแต่ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา โดยวางกำลังทั้งปากซอยทางเข้าสวนเงินมีมาและริมถนนฝั่งตรงข้ามประมาณ 20-30 คน
ทหาร-ตร.พรึบที่พักน.ศ.
ต่อมานายรัฐพล ศุภโสภณ นักศึกษาคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในนักศึกษาที่ถูกออกหมายจับหลังจัดกิจกรรมครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่หน้าหอศิลป์กรุงเทพฯ เดินทางมาถึง ทันทีที่ลงจากรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ถูกเจ้าหน้าที่กันตัวไว้ โดยเจ้าหน้าที่สอบถามว่าวันนี้จะจัดกิจกรรมอะไรหรือไม่ นายรัฐพลปฏิเสธว่าไม่รู้เรื่อง เพียงแต่ทราบข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่มาปิดล้อมสถานที่ที่เพื่อนตนอยู่ จึงเป็นห่วงและเดินทางมาทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายรัฐพลพยายามจะเดินเข้ามาในสวนเงินมีมา ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับแขนไว้และกีดกันไม่ให้เข้า ทำให้เพื่อนนักศึกษาจำนวนหนึ่งออกมาช่วยรับตัวนาย รัฐพลเข้าไปในสวนเงินมีมา โดยมีการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อย แต่ไม่มีการใช้กำลังทำร้าย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ
นายรัฐพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าวหลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เคยเจอกันหลายครั้ง บางคนน่าจะเป็นตำรวจสน.ปทุมวัน เจอหน้าบ่อยเขาถึงจำชื่อตนได้ คิดว่าวันนี้เจ้าหน้าที่ต้องการข้อมูลมากกว่า "เขาน่าจะเชื่อผมบ้าง ต่อให้ทำร้ายถึงตายผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ฝากถึงเจ้าหน้าที่ว่าอย่าคาดคั้นมาก ผมไม่รู้อะไร มาล้อมเพื่อนผม ผมก็มาหาเพื่อน"
นศ.โต้บิ๊กตู่กล่าวหามีคนหนุน
จากนั้นเวลา 14.30 น. นักศึกษากลุ่มดาวดินและกลุ่มหอศิลป์ฯ อ่านแถลงการณ์ในนามขบวนการประชาธิปไตยใหม่ โต้ตอบพล.อ. ประยุทธ์ที่ระบุการเคลื่อนไหวของนักศึกษามีกลุ่มการเมืองหนุนหลัง นอกจากนั้นยังได้โพสต์แถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กกลุ่มธรรม ศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย(LLTD)
โดยเนื้อหาแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่มีข่าวมีกลุ่มทุนอยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวของน.ศ. ขอชี้แจงว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเราทั้งหมดคือประชาชน ผู้หวงแหนสิทธิและผู้รักประชาธิปไตย ทุกสิ่งที่เราทำเปิดเผยต่อสาธารณะทุกประการ เหตุการณ์วันที่ 24-25 มิ.ย. เราเดินด้วยเท้าเปล่า ต่อสู้ด้วยมือเปล่า การปราศรัยที่หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีเพียงโทรโข่ง กล่องรับบริจาคใบเดียว และพวกเราใส่กางเกงในตัวเดียวมา 3 วันแล้ว เครื่องแต่งกายก็แทบไม่ได้เปลี่ยน ทั้งเนื้อทั้งตัวของตนและเพื่อนมีเพียงเท่านี้
แถลงการณ์ระบุว่า กิจกรรมที่กลุ่มทำมาตลอด การลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนที่ทำมากว่า 10 ปี ทุกอย่างพิสูจน์ในตัวของมันเองแล้ว ข้อกล่าวหารับทุนเบื้องหลังจึงไร้สาระ เป็นเพียงเกมการเมืองสกปรก ขอให้เลิกใช้มุขแบบสมัยสงครามเย็น ใส่ร้ายป้ายสีว่านักศึกษาคือผู้หลงผิด
ชี้ประวัติศาสตร์ชัดทหารปฏิวัติ
แถลงการณ์ระบุว่า การที่ผบ.ทบ.บอกว่า ครู อาจารย์ สถาบันการศึกษาต้องมีหน้าที่อบรม ไม่ใช่สอนให้นักศึกษาแสดงออกในทางที่ผิด เราขอยืนยันว่าในประเทศที่เป็นอารยะ เสรีภาพการแสดงออก เสรีภาพทางวิชาการ เป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของการศึกษา โดยเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัย การที่ทหารจะเข้าแทรกแซง สั่งให้อาจารย์สอนนักศึกษาว่าไม่ควรออกมาแสดงความคิดเห็น ย่อมขัดแย้งอย่างรุนแรงต่ออุดมการณ์พื้นฐานของการศึกษา ขอย้ำว่าเราจะต่อสู้ต่อไปด้วยหลักการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และสันติวิธี ปราศจากความรุนแรง ทุกสิ่งที่เราทำ เราทำด้วยความบริสุทธิใจ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยปราศจากระบอบเผด็จการ ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยโปรดส่งกำลังใจมาให้พวกเรา
จี้'บิ๊กตู่'คืนอำนาจประชาชน
นายปกรณ์ อารีกุล อดีตนักศึกษากลุ่มลูกชาวบ้าน สมาชิกขบวนการประชาธิปไตยใหม่กล่าวว่า ทิศทางการต่อสู้นักศึกษาคือ สู้ในนามของขบวนการประชาธิปไตยใหม่ สู้เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยกลับคืนมา พวกเรา 14 คนตอนนี้โดนออกหมายจับ แม้จะถูกควบคุมตัวแต่เชื่อว่าขบวนการจะดำเนินต่อไปได้ เราไม่สามารถเรียกร้องให้คนอื่นออกมา แต่เราจะไปให้สุด อย่างไรก็ตาม เราอยู่บนหลักการไม่เจรจาต่อรองใดๆ เพราะรู้ว่าเจรจาไม่ได้
นายปกรณ์ กล่าวว่า เราต้องการหลักการ 5 ข้อ ได้แก่ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ความยุติธรรม การมีส่วนร่วม และสันติวิธี กลับมาในสังคมไทย ฉะนั้น 5 หลักการนี้ รัฐบาลต้องลาออก ซึ่งเขารับไม่ได้แน่ ส่วนผู้ใหญ่ผู้หวังดีที่จะเป็นตัวกลางเจรจา ก็ทำหน้าที่ในส่วนของเขา เราไม่ปิดกั้น แต่เราชัดเจนว่าไม่กลัวการโดนจับ คุยได้ แต่ข้อเรียกร้องคือพล.อ. ประยุทธ์ต้องลาออก คืนอำนาจให้ประชาชน ต้องเลือกตั้ง ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าเรามีกลุ่มการเมืองสนับสนุน ขอให้นายกฯหรือผบ.ทบ.บอกชื่อมาเลยว่าใคร อย่ามาบอกว่ารู้แล้ว แบบนี้เราถามกลับบ้างว่าใคร จะตอบหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้กลุ่มนักศึกษาไม่มีกำหนดเคลื่อนไหวกิจกรรมใดๆ ยังคงพักผ่อนในที่ตั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารประมาณ 50 นายยังคงปักหลักเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่บริเวณถนนเจริญนครเช่นกัน
ศาลทหารออกหมายจับ 14 น.ศ.
ที่ศาลทหารกรุงเทพ พ.ต.ท.มานิตย์ ทองขาว พนง.ผู้ชำนาญการพิเศษ สน. สำราญราษฎร์ ได้ขอหมายจับจากศาลทหาร ลงวันที่ 26 มิ.ย. 2558 โดยจับกุมกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่ รวม 14 คน ประกอบด้วย นายรังสิมันต์ โรม นายวสันต์ เสดสิทธิ นายทรงธรรม แก้วพันพฤกษ์ นายพายุ บุญโสภณ นายอภิวัฒน์ สุนทรารักษ์ นายรัฐพล ศุภโสภณ นายศุภชัย ภูคลองพลอย นายอภิสิทธิ์ ทรัพย์นภาพันธ์ นายภาณุพงศ์ ศรีธนานุวัฒน์ นายสุวิชา พิทังกร นายปกรณ์ อารีกุล นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา นายพรชัย ยวนยี น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว ในข้อหาร่วมกันกระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด มิใช่กระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร และรวมกันมั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมืองที่ใดๆ ที่จำนวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 ข้อ 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, 83
ทั้งนี้ มีหลักฐานตามสมควรว่าผู้ต้องหาน่าจะกระทำความผิดซึ่งมีอัตราโทษอย่างสูงเกิน 3 ปี และมีเหตุอันควรเชื่อว่าจะไปก่อเหตุอันตรายประการอื่น ศาลจึงออกหมายจับบุคคลดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากศาลทหารออกหมายจับ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบ ได้เดินทางไปยังสวนเงินมีมา โดยล้อมบริเวณดังกล่าวไว้เพราะเป็นพื้นที่พักอาศัย และเป็นพื้นที่จัดแถลงข่าวของกลุ่มขบวนการประชาธิปไตยใหม่
บุกล็อกตัวทั้ง 14 คนทันที
จากนั้นเวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สำเหร่ ร่วมกับทหารนอกเครื่องแบบ 100 นาย นำโดยพ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ สนธิกำลังปิดทางเข้าสวนเงินมีมา ก่อนที่พ.ต.อ.ศุภรกฤษฎิ์ ประชากิตติกุล ผกก.สนสำเหร่ นำกำลังตำรวจนอกเครื่องแบบ 35 คน พร้อมหมายจับศาลทหาร เข้าตรวจค้นและจับกุมนักศึกษากลุ่มดาวดินและกลุ่มหน้าหอศิลป์ฯที่ทำกิจกรรมทั้ง 14 คน โดยมีนายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เป็นผู้รับเรื่องและเปิดประตูให้เจ้าหน้าที่เข้ามา โดยนายอานนท์ขออนุญาตนับจำนวนเจ้าหน้าที่และขอให้แสดงบัตรประจำตัว
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงทยอยเข้าจับกุมกลุ่มนักศึกษาที่กำลังเล่นดนตรี เล่นปิงปอง และอ่านหนังสือ ทีละคน ก่อนนำขึ้นรถคุมขัง ผู้ร้องหา เดินทางออกจากสวนเงินมีมาไป สน. พระราชวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังจับกุมนักศึกษา ได้มีประชาชนอ้างว่าเป็นชาวคลองสาน ประมาณ 10 คน มายืนถือป้ายประท้วงนักศึกษา เมื่อสอบถามถึงการมาประท้วงครั้งนี้ ผู้ถือป้ายบอกว่า มีคนมาบอกให้มา แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อได้ และยืนยันว่าไม่มีใครจ้าง ทั้งนี้หลังน.ศ.ถูกนำตัวขึ้นรถตำรวจ ชายฉกรรจ์สวมเสื้อสีฟ้าที่คอยกำกับดูแลคนที่มาประท้วงได้ส่งสัญญาณจึงเลิกการชุมนุม
นศ.ไม่ยื่นประกัน
ต่อมานักศึกษากลุ่มที่ไม่ได้โดนหมายจับ 10 คน เดินทางตามมาให้กำลังใจที่สน.พระราชวัง นำโดยนายสิริวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักศึกษากลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย และนายนัชชชา กองอุดม นักศึกษาที่เคยถูกจับฐานขัดคำสั่ง คสช. ร่วมร้องเพลง บทเพลงแห่งสามัญชน และร้องไห้แสดงความเสียใจที่เพื่อนถูกจับกุม ก่อนที่ทั้งหมดจะร่วมกันตะโกนคำว่า "ประชาธิปไตยจงเจริญ"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นทั้ง 14 คน แจ้งจะไม่ยื่นประกันตัว ดังนั้น คาดคืนนี้ทั้งหมดน่าจะนอนในห้องขังที่ สน. ส่วนวันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันเสาร์ ศาลทหารเปิดทำการครึ่งวันคงมีการนำตัวทั้งหมดไปขอฝากขังผัดแรกกับศาลทหาร
ส.ศิวรักษ์โวย-กลับคำบุกจับ
ต่อมาเวลา 18.30 น. ที่สน.พระราชวัง นายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ ส.ศิวรักษ์ อายุ 80 ปี นักเขียนและวิชาการอิสระ พร้อมนาย กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ และกลุ่มนักศึกษาขบวนการประชาธิปไตยใหม่ เดินทางมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ หลังจากเข้าจับกุมตัวกลุ่มนักศึกษา 14 ราย ขณะที่บรรยากาศด้านหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำรั้วเหล็กมากั้นไว้เพื่อปิดล้อมทางเข้า-ออก โดยไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านใน แต่ยอมอนุญาตให้นายกฤษฎางค์ เข้าพบกลุ่มนักศึกษา 14 รายเพียงผู้เดียว
นายสุลักษณ์ เผยว่า ตั้งแต่บ่ายวันที่ 25 มิ.ย. นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ คณะกรรมการปรองดองฯ ส่งตัวแทนเข้ามาเจรจากับกลุ่มนักศึกษา โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทหารจะไม่บุกเข้าจับกุม แต่ช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกลับบุกไปที่มูลนิธิ ก่อนควบคุมตัวนักศึกษาทั้งหมด 14 คน ขึ้นรถคุมขังนักโทษมายังสน. โดยก่อนหน้านี้ตนพร้อมนักศึกษาทั้งหมดนัดกันว่า จะไปรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน แต่มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมก่อน ตนเข้าใจตำรวจคงจะเกรงกลัวต่ออำนาจของทหาร
"ผมเป็นเจ้าของบ้านแท้ๆ ดันบุกรุกมาจับนักศึกษาถึงบ้านได้ ไม่ให้เกียรติ ขนาดผมมาถึงสน. เพื่อขอเข้าพบกับเด็กๆ เจ้าหน้าที่ก็ยังนำรั้วมากั้นและกีดกันอีก" นายสุลักษณ์กล่าว
ทนายเผยนศ.ขอขึ้นศาลพลเรือน
ด้านนายกฤษฎางค์ กล่าวว่า ขณะนี้นักศึกษาทั้งหมดอยู่ในห้องพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งตำรวจดูแลอย่างดี หากสอบปากคำเสร็จ จะนำตัวทั้งหมดส่งศาลทหารทันที ซึ่งการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่มีหมายจับ โดยพนักงานสอบสวนสน. สำราญราษฎร์ เป็นผู้ร้องขอ ใน 2 ข้อหา คือ ร่วมกันมั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมือง ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้าคสช. ที่ 3/2558 และร่วมกันก่อให้เกิดความกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ก่อความไม่สงบในราชอาณาจักร ตามม.116
นายกฤษฎางค์ กล่าวว่า นักศึกษาทั้ง 14 ราย ยืนยันจะไม่ขอรับการประกันตัว เนื่องจากประกันตัวออกไป เท่ากับยอมรับอำนาจของศาลทหาร แต่กลุ่มนักศึกษาเป็นพลเรือนขอขึ้นศาลพลเรือน จะไม่ยอมขึ้นศาลทหารเป็นอันขาด
รายงานข่าวแจ้งว่า เหตุผลที่ตำรวจเปลี่ยนสถานที่ควบคุมตัวนักศึกษาทั้ง 14 ราย จากสน.สำราญราษฎร์ เป็นสน.พระราชวัง เพราะสน.สำราญราษฎร์ มีจุดทางเข้า-ออกเพียงทางเดียว ถือว่าเป็นจุดอับ เกรงจะถูกมวลชนปิดล้อมได้ง่าย จึงตัดสินใจเปลี่ยนสถานที่ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนสน.สำราญราษฎร์ จะสอบสวนปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งก่อนเร่งนำตัวทั้งหมดส่งศาลทหารตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ขณะที่กลุ่มนักศึกษาที่เหลืออยู่และประชาชนทั่วไปประมาณ 100 คน ได้รวมตัวนั่งร้องเพลงด้านหน้าสน.พระราชวัง พร้อมนำผ้าดิบสีขาวมาวางไว้เพื่อให้ประชาชนเขียนข้อความให้กำลังใจนักศึกษาทั้งหมด 14 ราย ที่ถูกคุมตัว
ตกค่ำตร.คุมตัวส่งขังศาลทหาร
ต่อมาเวลา 21.45 น. ที่สน.พระราชวัง เจ้าหน้าตำรวจควบคุมตัว 14 นักศึกษาที่ถูกจับเมื่อช่วงบ่ายออกเดินทางโดยรถตู้ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 3 คัน นำตัวไปส่งศาลทหาร ถนนหลักเมือง เพื่อฝากขัง ขณะที่บรรยากาศหน้าศาลทหาร มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจประมาณ 50 นาย วางกำลังโดยรอบพื้นที่และไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าในพื้นที่เด็ดขาด
ทั้งนี้ กลุ่มนักศึกษาทั้ง 14 เปลี่ยนเสื้อจากชุดที่ถูกจับกุมใส่เป็นเสื้อยืดสีขาว ระบุข้อความว่า เราคือเพื่อนกัน
สำหรับ ประชาชนประมาณ 100 คนที่ปักหลักให้กำลังใจ 14 น.ศ.ที่หน้าสน.พระราชวัง ต่างพากันเดินตามมาให้กำลังใจที่หน้าศาลทหารต่อไป
จตุพร ติงรบ.กล่าวหาเหวี่ยงแห
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงรัฐบาลและผบ.ทบ. ระบุมีกลุ่มการเมืองสนับสนุนการเคลื่อนไหวของนักศึกษากลุ่มดาวดินว่า เป็นการกล่าวหาและไม่ระบุให้ชัดเจน ไม่เป็นผลดีกับทุกฝ่าย นปช.ทราบดีว่าการขับเคลื่อนของนักศึกษานั้นไม่มีคนของกลุ่มการเมืองหรือพรรคเกี่ยวข้อง หากเข้าไปเกี่ยวข้องหรือปฏิสัมพันธ์ จะทำลายความน่าเชื่อถือของนักศึกษา ซึ่งตนกำชับทางกลุ่มชัดเจนว่าให้ดูอยู่ห่างๆ เท่านั้น
นายจตุพร กล่าวว่า ขอฝากถึงผู้มีอำนาจว่า ขอให้ภูมิใจที่คนหนุ่มสาวแสดงออกต่อต้านรัฐประหาร แม้เขาจะมีความคิดที่แตกต่าง แต่สะท้อนว่าประเทศนี้มีอนาคต ทั้งนี้เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ขอให้นายกฯและผบ.ทบ.ระบุตัวบุคคล กลุ่มการเมืองให้ชัดเจน การพูดเหวี่ยงแห ถือว่าไม่เป็นธรรมแก่นักศึกษาและสร้างความหวาดระแวงให้เกิดขึ้นกับกลุ่มการเมืองอื่นๆ ด้วย ปัญหาตอนนี้เป็นการแข่งขันเรื่องความอดทน ผู้มีอำนาจส่วนใหญ่มักอดทนต่ำ หากข่มใจได้ถึง 2 วันก็ควรอดทนต่อไป ไม่ให้เกิดเรื่อง
มท.เตรียม'ปั่นเพื่อแม่'76 จว.
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่กระทรวงมหาดไทย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 83 พรรษา 12 สิงหาคม 2558 ในส่วนภูมิภาค เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการเตรียมการจัดกิจกรรม โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมประชุม
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า กระทรวงได้ตั้งศูนย์อำนวยการและประสานงานเพื่อประสานข้อมูลร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและศูนย์อำนวยการร่วมของจังหวัด ซึ่งตั้งขึ้นทั้ง 76 จังหวัด และได้เตรียมพร้อมระบบการลงทะเบียนออนไลน์ในส่วนภูมิภาคผ่าน www.bikeformom2015.moi.go.th โดยเปิดให้เริ่มลงทะเบียนวันแรกวันที่ 1 ก.ค.นี้ ส่วนการอำนวยการและพิธีการจัดกิจกรรมในส่วนภูมิภาค เน้นย้ำถึงการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ประชาชนสามารถนำรถจักรยานทุกประเภทเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดเส้นทางจักยาน
พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ส่วนการบริหารการรับเสื้อและเข็มพระราชทาน ซึ่งมีจำนวนจำกัด ประชาชนที่มาลงทะเบียนในส่วนภูมิภาค จะมีพิธีรับเสื้อและเข็มพระราชทานต่อหน้าพระฉายาลักษณ์ในวันที่ 12 ส.ค. ที่ศาลากลางทุกจังหวัด หากลงทะเบียนแล้วไม่ได้รับเสื้อพระราชทาน สามารถสวมเสื้อสีฟ้าเข้าร่วมกิจกรรมได้ ส่วนการดูแลรักษาความปลอดภัยและการจราจร จะเน้นตั้งแต่ช่วงพิธีเปิดซึ่งจะจัดชุด รปภ.โมบายเคลื่อนที่ และจัดทำแผนการจราจรดูแลความปลอดภัยกรณีฉุกเฉิน รวมทั้งจัดเตรียมหน่วยและรถพยาบาลเคลื่อนที่ให้พร้อมทุกจุดเพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมตลอดเส้นทาง
พธม.รับ-ฎีกา'ยึดสนามบิน'ไม่ได้
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โพสต์ในเฟซบุ๊กว่า รายงานความคืบหน้าคดีแพ่งฯ 600 ล้านบาท เบื้องต้นยืนยันว่าเอกสารใบสำคัญคดีถึงที่สุด เป็นของจริง มีการตรวจสอบแล้ว แต่ไม่ทราบว่าหลุดมาในที่สาธารณะก่อนการรับรู้ของจำเลยทั้ง 13 คน ได้อย่างไร ตนเป็นจำเลยในคดีนี้ กลับรู้เรื่องนี้จากโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งจะขอตรวจสอบที่มาที่ไป ใครเผยแพร่คนแรก เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ส่วนแนวทางดำเนินการตามกฎหมายหลังจากเราไม่ได้ยื่นขอขยายเวลาต่อศาลฎีกานั้น ทีมทนายและนักกฎหมายได้ระดมความเห็นตลอด 2-3 วัน พบช่องทางตามกฎหมายในเบื้องต้น และคาดว่า 2-3 วันจะได้ข้อสรุปและแถลงอีกครั้งหนึ่ง
นายสุริยะใส ระบุว่า ส่วนเงินบริจาคที่ประชาชนบริจาคผ่านกองทุนสู้คดีฯนั้น ขณะนี้ยอดเงินที่บริจาคเฉพาะกรณีคดีแพ่งนี้ รวม 7,315,998.66 บาท และยังมีบริจาคมาเรื่อยๆ ตนกับคณะจะชี้แจงบริหารจัดการเงินบริจาค เพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ
สำหรับ คดีสืบเนื่องจาก ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนให้ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กับพวกซึ่งเป็นแกนนำพันธมิตรรวม 13 คน ชดใช้ค่าเสียหายกว่า 522 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ 3 ธ.ค. 2551 จนกว่าจะชำระเสร็จ ในคดีที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เป็น โจทก์ ยื่นฟ้องกรณีระหว่างวันที่ 24 พ.ย. -3 ธ.ค. 2551 พวกจำเลยร่วมกันนำผู้ชุมนุมหลายหมื่นคน ไปบุกยึดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง เพื่อประท้วงรัฐบาลและขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกฯขณะนั้น ทำให้การให้บริการต่างๆ ภายในท่าอากาศยานทั้งสองต้องหยุดลง
บิ๊กตู่ติดงานงดร่วมวันชาติสหรัฐ
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงข่าวรัฐบาลสหรัฐไม่ได้เชิญให้ไปร่วมงานวันชาติสหรัฐในวันที่ 4 ก.ค.ว่า เรื่องของเขา ไม่เป็นไร เชิญก็ไป ไม่เชิญก็ไม่ไป มันจะอะไรกัน
พล.อ.วิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า สหรัฐเชิญให้พล.อ.ประยุทธ์ไปร่วมงาน แต่บังเอิญว่าวันที่ 4 ก.ค. นายกฯมีภารกิจไปร่วมประชุมแม่โขงซัมมิทที่ประเทศญี่ปุ่น จึงไม่ได้ไปร่วมงาน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้เชิญ
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกำหนดการประชุมครม.นอกสถานที่ครั้งที่ 2 ที่จ.เชียงใหม่ วันที่ 29-30 มิ.ย.นี้ว่า วันที่ 29 มิ.ย. พล.อ.ประยุทธ์เดินทางถึงจ.เชียงใหม่ในเวลา 16.20 น. จากนั้นขึ้นนมัสการพระบรมสารีริกธาตุ ที่วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร และเยี่ยมชมตลาดหน้าศาลากลางจ.เชียงใหม่ ก่อนเข้าพักที่โรงแรม กรีนเลค รีสอร์ท เชียงใหม่ จากนั้นวันที่ 30 มิ.ย. นายกฯ เป็นประธานประชุมครม. ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติเชียงใหม่ ก่อนที่ช่วงบ่ายนายกฯและคณะจะเดินทางต่อไปยังที่อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก เพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำ โครงการข้าวและการทวงคืนผืนป่า ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯในวันเดียวกัน
'ปู'ฉลองแฟนเฟซบุ๊ก-4 ล้านไลก์
เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ฉลอง เฟซบุ๊ก yingluck shinawatra มีสมาชิกแฟนเพจถึง 4 ล้านไลก์ โดยเปลี่ยนโคเวอร์ โฟโต้ และภาพโปร์ไฟล์เฟซบุ๊กใหม่ ด้วยการขึ้นข้อความ "ขอบคุณแฟนเพจ 4 ล้านไลค์ ที่คอยติดตามและให้กำลังใจตลอด 5 ปีที่ผ่านมา" พร้อมเตรียมแก้วกาแฟและร่วมดื่มกาแฟกับผู้โชคดีคนที่ 4 ล้าน
สำหรับ เฟซบุ๊ก yingluck shinawatra เริ่มเปิดมาตั้งแต่ปี 2553 จนถึงวันนี้มีสมาชิกแฟนเพจรวม 4 ล้านคนที่เข้ามากดไลก์
วันเดียวกัน ที่โรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร หรือ น้องไปป์ เข้ารับรางวัลวิชาภาษาอังกฤษดีเด่นของโรงเรียนนานาชาติฮาร์โรว์ โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายอนุสรณ์ อมรฉัตรร่วมให้กำลังใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับผู้เข้ามากดไลก์เป็นคนที่ 4 ล้านนั้น มีผู้เข้ามากดไลก์พร้อมกันถึง 11 คน โดยทีมงานของน.ส.ยิ่งลักษณ์ เตรียมประสานบุคคลทั้ง 11 มาร่วมดื่มกาแฟกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมมอบถ้วยกาแฟพิเศษที่จัดทำขึ้นสำหรับการกดไลก์ 4 ล้านไลก์พร้อมลายเซ็นน.ส.ยิ่งลักษณ์