WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Pพธหมผา



รบ.อัดบิ๊กสงค์ปูดมั่ว 
พาสปอร์ตแดง ผบ.ตร.ยันบิ๊กตู่ ไม่ได้แทรกแซง

 

       'วีรชน'ฉะ'ประสงค์'ตามบี้ปมพาสปอร์ตแดง'แม้ว' บัวแก้วยันยกเลิกไปแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.51 'สมยศ'อัดซ้ำคนวิจารณ์ซื้อเวลาถอดยศ ลั่นขนาด 'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม'ยังไม่เคยมากดดันแทรกแซง 'วิษณุ'แจงขั้นตอนถอดยศ ต้องส่งเรื่องมาที่สำนักเลขาฯ ครม.ก่อน 'ไก่อู'ยันรัฐบาลยังไม่พิจารณาเรื่องริบเครื่องราชฯ 'ดิเรก ถึงฝั่ง'ชี้หากกมธ.ยกร่างฯ ผ่อนปรนประเด็นนายกฯ คนนอก-ลดอำนาจส.ว. ก็มีโอกาสที่สปช.จะโหวต ผ่านรธน.

 


วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8952 ข่าวสดรายวัน


พิธีห่มผ้า - พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานพิธีห่มผ้าพระธาตุ ที่วัดประเดิม อ.เมือง จ.ชุมพร โดยมีผู้ว่าฯ เจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจ และประชาชนมาร่วมต้อนรับ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 


ยกเลิกแล้วพาสปอร์ตแดง 'แม้ว'
      วันที่ 1 มิ.ย. พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีหนังสือพิมพ์บางฉบับระบุกระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้ยกเลิกหนังสือ เดินทางทูต หรือพาสปอร์ตเล่มแดงของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องว่าได้ดำเนินการยกเลิกหนังสือ เดินทางบุคคลธรรมดา (เล่มสีน้ำตาล) ของพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 26 พ.ค. ที่ผ่านมา จำนวน 2 เล่ม ได้แก่หนังสือเดินทางหมายเลข U957441 และหมายเลข Z530117 ตามที่ได้ประกาศไปแล้ว สำหรับหนังสือเดินทางทูตที่พ.ต.ท.ทักษิณถือครองฉบับล่าสุด คือหมายเลข D215863 ทางกระทรวงการต่างประเทศได้ยกเลิกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.2551

ถามกลับคนพูดมีจุดประสงค์อะไร 
      เมื่อถาม น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ เรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศยืนยันได้ยกเลิกพาสปอร์ตการทูต พล.ต.วีรชนกล่าวว่า เรื่องนี้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็บอกไปแล้วว่าทำตามหลักเกณฑ์ทุกอย่างแล้วจะให้รัฐบาลชี้แจงอะไร เมื่อพูดความจริงไปหมดแล้วไม่เชื่อก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรอีก กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงไปชัดเจนแล้วว่ายกเลิกไปทั้งหมดแล้ว 
     เมื่อถามว่า มองจุดประสงค์การเรียกร้องเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.วีรชน กล่าวว่า ก็ต้องถามคนที่เรียกร้องว่า มีจุดประสงค์อะไร เพราะชี้แจงไปแล้ว ไม่รู้จะไปต่อความยาวสาวความยืดอะไรอีก เมื่อถามกรณีบางกลุ่มเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท.ทักษิณ รองโฆษกรัฐบาลกล่าวว่า หน่วยงานเกี่ยวข้องเรื่องคดีและทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงพูดคุยกันตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย ทราบว่ามีประมาณ 5-6 คดี
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ต.ประสงค์ ให้สัมภาษณ์อ้างกระทรวงการต่างประเทศ ยังถอนหนังสือเดินทางของพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ครบทุกเล่ม ยังเหลือพาสปอร์ตแดง โดยเรียกร้องให้ออกมาชี้แจงเรื่องดังกล่าว รวมทั้งกรณีรมว.ต่างประเทศ ไม่สั่งการให้สถานทูตไทยในเกาหลีใต้ ดำเนินการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ
      ขณะที่ กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ ออกประกาศชี้แจงว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่ากระทรวงการต่างประเทศยังไม่ยกเลิกหนังสือ เดินทางทูตของ พ.ต.ท.ทักษิณ นั้น กระทรวง การต่างประเทศขอยืนยันข้อมูลที่ถูกต้องว่าก่อนจะยกเลิกหนังสือเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อวันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ถือหนังสือเดินทางบุคคลธรรมดา(เล่มน้ำตาล) เพียง 2 เล่ม คือหนังสือเดินทางหมายเลข U957441 และหมายเลข Z530117 ตามที่ประกาศไปแล้ว ส่วนหนังสือเดินทางทูตฉบับล่าสุด ที่พ.ต.ท.ทักษิณถือครองคือหมายเลข D215863 ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศยกเลิกไปแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2551

'สมยศ'สวนคนวิจารณ์ดึงถอดยศ 
       ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เผยว่า ท่ามกลางกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานาของสื่อมวลชนตลอดจนอดีตนัก การเมืองถึงการทำหน้าที่ผบ.ตร. ในกรณีถอดถอนยศ พ.ต.ท. ทักษิณ นั้น เพื่อความชัดเจนทุกคนอย่ารีบด่วนสรุปตนเองว่าจะทำแบบนั้นไม่ทำแบบนี้ ตีกรรเชียงถอยหลัง
      ซื้อเวลารอวันเกษียณอายุราชการ โดยออกมาแสดงความคิดในเชิงปรามาสดูแคลน ชี้แนะ ชี้นำและกดดัน ตนเชื่อว่าหลายคนทำด้วยความบริสุทธิ์ใจในฐานะสื่อ แต่ก็เชื่อว่าอีกหลายคนทำโดยมีวาระซ่อนเร้น เพื่อหวังผลตามที่ตัวเองคาดหวัง ตนทำงานมีหลักการ มีรูปแบบวิธีการทำงาน แนวความคิด ตลอดจนการตัดสินใจเป็นตัวของตัวเอง โดยยึดหลักความถูกต้อง เที่ยงธรรมและกฎหมาย ฟังเสียงชี้แนะท้วงติงบ้างบางกรณี แต่ไม่ใช่ชี้แนะชี้นำหรือกดดันแบบมีวาระซ่อนเร้น ตนผ่านชีวิตมามากและก็รู้เท่าทันคนเหล่านั้นพอสมควร 

ผู้บังคับบัญชายังไม่เคยมากดดัน
     "ดังนั้น ผมจะฟังหรือจะทำเฉพาะสิ่งที่ถูกต้องเท่านั้น แต่ผมเป็นข้าราชการตำรวจ และเป็นข้าราชการตำรวจที่มีวินัยมาก พร้อมจะรับฟังและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่ชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น ในสายการบังคับบัญชาตามกฎหมายผมมีผู้บังคับบัญชาอยู่ 2 ท่าน คือ 1.ท่านหัวหน้า คสช. และนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ 2.ท่านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ดังนั้น ผมพร้อมที่จะปฏิตามและสนองนโยบายและคำสั่งของท่านทั้ง 2 อย่างไม่มีเงื่อนไข แต่ท่านทั้ง 2 ยังไม่เคยแทรกแซงหรือสั่งให้ผมทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายเลย ดังนั้นคนอื่นที่รู้ตัวว่าไม่ใช่ โปรดเคารพสิทธิ์ผมด้วย" พล.ต.อ.สมยศกล่าว 

รบ.ยังไม่พิจารณาริบเครื่องราชฯ 
      พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีนายประสาร มฤคพิทักษ์ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะคณะกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดอง (คศป.) เสนอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีดำเนินการถอนคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ไปพร้อมกับการถอดยศ ว่า รัฐบาลยังไม่มีการหารือหรือพิจารณาถึงข้อเสนอดังกล่าว เราผ่านความขัดแย้งมาได้ไม่นานจึงมีมุมมองและข้อเสนอจากหลายฝ่ายเข้ามาจำนวนมาก ใครจะมีความเห็นอย่างไรก็ไม่เป็นไร แต่รัฐบาลจะดำเนินการตามกฎหมายและเรียกร้องให้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายอย่างเสมอภาคกัน 
       เมื่อถามว่า การถอนคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลสามารถดำเนินการได้หรือไม่ พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้พิจารณา แต่ละส่วนต้องรู้อยู่แล้วว่าควรจะทำอะไร สำหรับบุคคลที่ออกมาเตือนรัฐบาลให้ระวังคลื่นใต้น้ำจะขยายตัวเพราะเรื่อง ดังกล่าวนั้น รัฐบาลพยายามเร่งรัดการ
      ปฏิรูปประเทศโดยดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมายที่มีอยู่เพื่อไม่ให้บ้านเมืองขัดแย้งขึ้นอีก เพราะการละเว้นหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายไม่ได้ทำให้เกิดความปรองดอง การเคารพกฎหมายและดำเนินการอย่างเสมอภาคกันจึงเป็นการตอบโจทย์ของรัฐบาลอยู่แล้ว

คสช.ชี้ยังไม่มีกลุ่มไหนเคลื่อนไหว 
      พล.ต.สรรเสริญ กล่าวกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. วิพากษ์วิจารณ์การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในเรื่องต่างๆ เกี่ยวกับพ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ตนไม่แสดงความเห็นในสิ่งที่นายณัฐวุฒิวิพากษ์วิจารณ์ เพราะรัฐบาลยึดหลักกฎหมายเป็นกรอบในการปฏิบัติงานอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกันทุกฝ่าย ไม่ต้องการตอบโต้ให้เสียเวลาการทำงานเพื่อบ้านเมือง และเชื่อเวลานี้คนไทยส่วนใหญ่ก้าวข้ามพ.ต.ท.ทักษิณ ไปหมดแล้ว รอเพียงแต่ว่าเมื่อไรนายณัฐวุฒิจะเห็นประเทศไทยสำคัญกว่าคนเพียงไม่กี่คน และฆ่าความหลงผิดในใจตัวเอง
      พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลสถานการณ์ภายในประเทศ ภายหลังจากที่มีการถอนพาสปอร์ตและเสนอถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า ขณะนี้สถานการณ์ทั่วไปยังคงปกติเรียบร้อยดี และยังไม่มีกลุ่มต่างๆ ออกมาเคลื่อนไหวเป็นพิเศษ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะในส่วนของทหารก็ดำเนินการติดตามสถานการณ์และด้านการข่าวต่างๆ อยู่ แต่ยังไม่พบความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

ปปช.ย้ำมิย.สรุปแจ้งข้อหาปู-ปึ้ง
       นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการไต่สวนคดีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ กรณีออกหนังสือเดินทางให้พ.ต.ท.ทักษิณ ขัดระเบียบข้อบังคับของกระทรวงการต่างประเทศว่า กรณีนี้มีคณะกรรมการป.ป.ช. ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวน มีนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการป.ป.ช.เป็นกรรมการผู้รับผิดชอบสำนวน คำร้องดังกล่าวเป็น คำร้องที่ส.ส.ประชาธิปัตย์ ยื่นผ่านประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ถอดถอนและดำเนินคดีอาญาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้ว ไม่ได้เพิ่งหยิบขึ้นมาตอนที่มีกระแส เราทำมาก่อน 
      นายปานเทพ กล่าวว่า ที่ผ่านมาองค์คณะไต่สวนเองก็มีการรายงานความคืบหน้าให้คณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่รับทราบมาครั้งหนึ่ง แต่ครั้งนั้นมีการมอบหมายให้ไปหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่ามีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศร่วมกระทำผิด ด้วยหรือไม่ คาดว่าองค์คณะไต่สวนจะสามารถสรุปเรื่องเพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาว่า มีมูลเพียงพอจะแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ในเดือนมิ.ย.นี้ 
      เมื่อถามว่า นายสุรพงษ์ระบุว่า ตัวเองไม่ได้ทำแต่เป็นฝ่ายข้าราชการดำเนินการ นายปานเทพกล่าวว่า ในคำร้องที่มีการส่งมา ให้ป.ป.ช. เป็นการร้องน.ส.ยิ่งลักษณ์และ นายสุรพงษ์ อย่างไรก็ดี การพิจารณาของป.ป.ช.จะดูทั้งหมดว่าเกี่ยวข้องกับใครบ้าง รวมถึงดูเรื่องพฤติการณ์ด้วย

วิษณุ ชี้ถอดยศต้องส่งให้สลค.ก่อน
      นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการเสนอถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ตามกฎหมายใครจะถอดยศใครก็ต้องส่งเรื่องมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) เท่านั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะถอดใครทันทีเลยไม่ได้เด็ดขาด เพราะถ้าสามารถถอดได้เลยก็จะไล่ถอดกันวุ่นวายไปหมด เพราะสุดท้ายการถอดยศคนใดคนหนึ่งต้องมีคนพิจารณาเหตุผลการถอดให้ชัดเจน และต้องมีผู้รับผิดชอบนำความขึ้นกราบบังคมทูลฯ ต่อไป
      นายวิษณุ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรายชื่อข้าราชการส่อทุจริตบัญชีที่ 2 ว่า ขณะนี้พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ยังไม่ได้ส่งรายชื่อชุดที่ 2 มาให้ คาดว่าอยู่ในระหว่างการตรวจสอบและจัดจำแนกรายชื่อให้ชัดเจนที่สุด อย่างไรก็ตาม คงมีการหยิบยกเรื่องดังกล่าวขึ้นมาหารือในที่ประชุมครม.วันที่ 2 มิ.ย.นี้

ยันนายกฯแจงผลงานต่อสนช.-สปช.
      นายวิษณุ กล่าวกรณีรัฐบาลเตรียมชี้แจงสรุปผลการทำงานในรอบ 1 ปีของรัฐบาล ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสปช. ในวันที่ 4 มิ.ย. นี้ ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้ชี้แจงผลการดำเนินงานของรัฐบาลที่ผ่านมา เพื่อให้สปช.และสนช.ได้รับทราบ ขณะที่รองนายกรัฐมนตรีทั้ง 5 คน ที่รับผิดชอบงานในแต่ละด้านนั้นจะชี้แจงงานผลการทำงานและตอบข้อซักถามในส่วนงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งในวันดังกล่าวไม่มีการหารือเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) 2557 เพื่อเปิดทางให้มีการจัดทำประชามติแต่อย่างใด และในวันที่ 2 มิ.ย. ตนจะหารือกับทีมงานกฎหมายรัฐบาล เพื่อเตรียมการสำหรับชี้แจงประเด็นที่รัฐบาลเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต่อกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 4 มิ.ย. นี้ต่อไป

วิปสนช.ถกวางกรอบหารือ 
       นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกกมธ.วิสามัญกิจการ สนช. หรือวิปสนช. กล่าวถึงการสัมมนาร่วมกันระหว่างสนช. และสปช.เพื่อรับฟังผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาของรัฐบาล วันที่ 4 มิ.ย. ว่า การประชุมวิปสนช.วันที่ 2 มิ.ย.นี้คาดว่าน่าจะมีเรื่องดังกล่าวเข้าหารือในที่ประชุมวิปสนช.เพื่อหาแนวทางปฏิบัติ เพราะการสัมมนาเพื่อรับฟังในลักษณะนี้ยังไม่เคยมีมาก่อน ที่ผ่านมาแนว ทางปฏิบัติ คือ ประธานสนช. ประธานสปช. และประธานกมธ.สามัญเป็นตัวแทน 2 สภาในการไปพบปะหารือในการประชุมแม่น้ำ 5 สาย ส่วนการสัมมนาครั้งนี้เป็นการเปิดกว้างให้สมาชิกได้อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดย พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นผู้สรุปผลการดำเนินการในรอบ 1 ปีของรัฐบาล และรองนายกฯ จะอภิปราย จากนั้นก็เปิดให้สมาชิกอภิปราย ดังนั้น สมาชิกทุกคนย่อมมีสิทธิอภิปรายได้ จึงจำเป็นต้องกำหนดเวลา เพราะหากเป็นไม่กำหนดเวลาที่เปิดไว้เพียงครึ่งวันคงไม่เพียงพอ
      น.พ.เจตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดวิธีการในการประชุมสัมมนา วิปสนช.จะมีการคุยกัน นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. คงจะแจ้งเรื่องนี้ในการประชุมวิปสนช.ว่าจะมีแนวทางปฏิบัติอย่างไร จะกำหนดประเด็นการอภิปรายหรือไม่ เวลาการอภิปราย รวมทั้งการประสานงาน กับสปช.ด้วยเพื่อให้เสร็จได้ตามกรอบเวลาที่รัฐบาลเปิดไว้ จะมีข้อสรุปในวันที่ 2 มิ.ย. นี้ อย่างไรก็ตาม วันที่ 4 มิ.ย.ช่วงเช้า สนช.จะประชุมสนช.ตามปกติ ซึ่งมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.เครื่องสำอาง พ.ศ.... และรับทราบรายงานเท่านั้น ซึ่งจะปิดประชุมก่อนเวลา 12.00 น. เพื่อใช้ห้องประชุมรัฐสภาเป็นเวทีสัมมนาในเวลา 13.00 น. 

ถกประเด็นร่างรธน.ด้วย 
        พล.ท.นคร สุขประเสริฐ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ และสมาชิก สปช.ร้อยเอ็ด กล่าวถึงการประชุมแม่น้ำ 3 สาย วันที่ 4 มิ.ย. นี้ ว่า ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่ดีเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญ การปฏิรูปประเทศ และผลการดำเนินงานความคืบหน้าที่ผ่านมาตลอด 1 ปี ของครม. คสช. และสปช. โดยมี สนช.เป็นเจ้าภาพ อย่างไรก็ตามแม้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 2557 จะไม่ได้กำหนดอำนาจให้ สนช.เป็นผู้เสนอขอแก้ไขโดยตรง แต่ สนช.ในฐานะทำงานด้านนิติบัญญัติก็สามารถสรุปประเด็นข้อคิดเห็นผ่านตัวแทนสาย สนช.ทั้ง 5 คน ที่เป็นกมธ.ยกร่างฯ ได้เช่นกัน และกมธ.ยกร่างฯ ก็จะเอาตรงนี้มาคุยกัน เพราะสนช.ถือเป็นฝ่ายที่สามารถส่งข้อเสนอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญมาได้ ซึ่งทางกมธ.ยกร่างฯ ยินดีรับฟังทุกฝ่าย 


เวียนเทียน - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย ทำบุญถวายสังฆทาน และเวียนเทียนร่วมกับประชาชนทั่วไป เนื่องในวันวิสาขบูชา ที่วัดเทพลีลา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.

       พล.ท.นครกล่าวว่า การจัดสัมมนาของแม่น้ำทั้ง 3 สายครั้งนี้ จะมีประเด็นที่ต้องประชุมร่วมกันระหว่างทั้ง 3 สาย ทราบว่าจะมีการทำความเข้าใจในภาคประชาชนในช่วงที่ลงพื้นที่ด้วย และอาจมีการหารือในประเด็นสำคัญๆ ที่ยังไม่มีความกระจ่างโดยการสอบถามกันในวงสัมมนาจนตกผลึก ตรงนี้เราก็สามารถนำข้อสรุปที่ตกผลึกมาพิจารณาเป็นกรอบสุดท้ายในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญได้

กมธ.เปิดชี้แจงคำขอแก้ร่างรธน. 
       พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช โฆษกกมธ. ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า วันที่ 2-6 มิ.ย.นี้ ที่กมธ.ยกร่างฯ จะพิจารณาคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญจากสมาชิก สปช. และครม.นั้น เป็นการเชิญมาเพื่อทำความเข้าใจในข้อมูลทั้งของสปช. ครม. โดยกมธ.ยกร่างฯ จะรับทราบเหตุผลการขอแก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ การพิจารณาดังกล่าวถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะได้แลกเปลี่ยนกัน และเป็นสิ่งที่กมธ.ยกร่างฯ ต้องรับฟัง ยืนยันว่ากมธ. ให้ความสำคัญและรับฟังในทุกกระบวนการทุกข้อคิดเห็นที่เสนอขอปรับแก้เข้ามายังกมธ. ยกร่างฯ อีกทั้งที่ผ่านมากมธ.ยกร่างฯ มีความพยายามทำงานอย่างหนักในการรับฟังความเห็น
      เมื่อถามว่า สปช.บางคนออกมาระบุว่า กมธ.ยกร่างฯ อย่าชะล่าใจว่าร่างรัฐธรรมนูญจะผ่าน หากไม่มีการปรับแก้ หรืออาจถูกลอยแพ พล.อ.เลิศรัตน์กล่าวว่า ตนไม่ได้ติดตามว่าใครพูดอะไรและไม่อยากโต้ตอบกันไปมา เพราะเป็นความเห็นส่วนบุคคลซึ่งทุกคนมีสิทธิ์จะพูด 

สมบัติ ไม่คาดหวังกมธ.ปรับแก้ 
      นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธานกมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. กล่าวถึงการชี้แจงคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า กลุ่มของตนจะนำเสนอชี้แจงในช่วงบ่ายวันที่ 4 มิ.ย.นี้ โดยกำหนดผู้ชี้แจง 5 คน คือ ในส่วนของ กมธ.ปฏิรูปการเมืองได้แก่ ตน นายดิเรก ถึงฝั่ง และนายนิรันดร์ พันทรกิจ ส่วนของ กมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม จะนำโดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกมธ.ปฏิรูปกฎหมายฯ และนายอุดม เฟื่องฟุ้ง ซึ่งเราต้องอภิปรายตามกรอบเวลาที่กมธ.ยกร่างฯ ให้ภายใน 3 ชั่วโมง 
      นายสมบัติ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้เป็นห่วงเรื่องเวลา แม้ว่าตามคำขอแก้ร่างจะเสนอให้หั่นรัฐธรรมนูญเหลือ 100 กว่ามาตราก็ตาม เนื่องจากเห็นว่ารัฐธรรมนูญควรสั้น กระชับ และมีความเป็นสากล โดยไม่เอารายละเอียดมาเขียนไว้ เพราะเห็นว่ารายละเอียดบางเรื่องเราสามารถไปเขียนไว้ในกฎหมายลูกได้ สำหรับหลักการหรือประเด็นการเมืองที่จะชี้แจงก็ได้ปรากฏตามที่เคยเสนอไปแล้วทั้งสิ้น
       นายสมบัติ กล่าวว่า ไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะไปคาดหวังมากไม่ได้ เราต้องทำตามหน้าที่ให้สำเร็จอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ส่วนอำนาจการตัดสินใจเบ็ดเสร็จนั้นขึ้นอยู่กับ กมธ.ยกร่างฯ เขาจะทำตามก็ได้ หรือไม่ทำตามก็ได้ การนำเสนอขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญครั้งนี้มี ครม.นำเสนอด้วย ครม.ก็คือตัวแทนของ คสช.เป็นฝ่ายบริหาร เพราะฉะนั้นอำนาจหรือน้ำหนักการนำเสนอขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญอาจมีมากกว่าหรือไม่ ยังไม่ทราบได้แน่ชัดหากเทียบกับ สปช. ซึ่งครม.มีอำนาจหน้าที่ในการเสนอแก้ไขอยู่แล้ว แต่เราก็ต้องทำตามหน้าที่ในฐานะ สปช. เช่นกัน

ถ้ากมธ.ผ่อนปรน-พร้อมยกมือหนุน 
     นายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธานกมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. กล่าวถึงการชี้แจงคำขอแก้ไขรัฐธรรมนูญของกมธ.ปฏิรูปการเมือง และกมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม วันที่ 4 มิ.ย.ว่า กมธ.ทั้งสองคณะจะส่งตัวแทน 5 คนไปชี้แจง ได้แก่ ตน นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ นายนิรันดร์ พันทรกิจ นายเสรี สุวรรณภานนท์ และนายประสิทธิ์ ปทุมารักษ์ ประเด็นหลักๆ ที่จะไปชี้แจงคือ การคัดค้านเรื่องนายกฯคนนอก การตัดทิ้งกลุ่มการเมือง การตัดมาตรา 181-182 การลดอำนาจ ส.ว.สรรหา เชื่อว่าประเด็นที่ทักท้วงไปจะได้รับการแก้ไข และทบทวนจากกมธ.ยกร่างฯ เพราะเนื้อหาที่เสนอไปมีความใกล้เคียงกับประเด็นที่ครม.และ ฝ่ายต่างๆ คัดค้านเช่นกัน
       นายดิเรก กล่าวว่า เท่าที่ดูเบื้องต้นเชื่อว่าประเด็นที่กมธ.ยกร่างฯจะไม่ยอมแก้ไข คือ นายกฯ คนนอก และการมีส.ว.สรรหา แต่ไม่ได้หมายความว่า กมธ.ปฏิรูปการเมืองและกมธ.ปฏิรูปกฎหมายฯ จะดึงดันคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ถ้ามีนายกฯคนนอกหรือส.ว.สรรหา หากกมธ.ยกร่างฯได้ทบทวนผ่อนปรนเนื้อหาลงมาบ้างเราก็ยินยอมยกมือผ่านให้ เช่น กรณีนายกฯคนนอก หากกมธ.ยกร่างฯยอมนำเรื่องนายกฯคนนอกไปเขียนในบทเฉพาะกาล โดยใช้เสียงสภาผู้แทนราษฎรรับรอง 2 ใน 3 ไม่ใช่นำเรื่องนายกฯคนนอกไประบุอยู่ในเนื้อหารัฐธรรมนูญ 
      นายดิเรก กล่าวว่า หรือกรณีส.ว.สรรหา ถ้ามีการแก้ไขลดอำนาจ ส.ว.สรรหา ไม่ให้มีอำนาจถอดถอน เสนอกฎหมายหรือกลั่นกรองประวัติครม. เราก็ยอมรับในเนื้อหาได้ เชื่อว่าหากกมธ.ยกร่างฯยอมผ่อนปรนเรื่องนายกฯคนนอกและส.ว. สรรหาลง มีโอกาสที่สปช.จะลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญให้ แต่ถ้ากมธ.ยกร่างฯ ยังยืนยันในหลักการเดิมทั้งหมด โดยไม่มีเหตุผลรองรับก็จะไม่ยกมือผ่านให้

จี้ถาม กมธ. เอาอย่างไรแน่ 
      นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานกมธ.ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่าการที่ตนออกมาเตือน กมธ.ยกร่างฯ อาจจะถูกลอยแพนั้น พูดถึงสภาพความเป็นจริงว่าเราไปคิดเองเออเองไม่ได้ จึงอยากให้กมธ.ยกร่างฯไปพิจารณา อย่าไปหลงทิศทาง แต่เชื่อว่ากมธ.ยกร่างฯ คงไม่ฟังเพราะเขาก็ยังยืนยันในความคิดของเขา แสดงว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ เพราะถ้าต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญผ่านก็ต้องพูดกันด้วยเหตุด้วยผล แต่ถ้ายึดหลักแนวทางที่ทำมาและหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยมากมาย แล้วจะให้ไปชี้แจงทำไม เสียเวลาเปล่าๆ 
       "การให้ไปชี้แจงเพราะต้องการจะปรับแก้เข้าหากัน แต่เมื่อกลุ่มต่างๆ ยื่นคำขอแก้ไขไปแล้ว กมธ.ยกร่างฯก็สามารถอ่านได้เองอยู่แล้ว เพราะมีความชัดเจนมีเหตุผล มีข้อแนะนำแก้ไขเพราะอะไร แต่ก็ขอให้ไปชี้แจงเพื่ออะไร เพราะสิ่งที่แสดงออกนั้นกลายเป็นยังยืนยันในหลักการเดิม รู้สึกว่าเขาตั้งใจให้แก้หรือเปล่า หรือตั้งใจให้เสนอคำขอแก้ไขแต่ไม่ยอมแก้ไห้ เพราะแต่ละคนที่ยกร่างรัฐธรรมนูญ ก็มีความรู้ทั้งนั้น ก็ต้องไปถามเขาดูว่าจะเอาอย่างไรกันแน่" นายเสรีกล่าว

กมธ.กฎหมายเสนอขยับวันชี้แจง 
      เมื่อถามว่า หากกมธ.ยกร่างฯ ยึดหลักการเดิมจะมีผลทำให้สปช.คว่ำร่างรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายเสรีกล่าวว่า ตอบยาก ต้องดูว่าเขาปรับแก้ในส่วนใดบ้าง ดูโดยรวมว่าถ้าไม่ปรับแก้เลย หรือแก้เพียงเล็กน้อยก็ต้องดูเนื้อหาการปรับแก้ต่อไป เพราะมีคำข้อแก้ไขของ สนช. และรัฐบาล ซึ่งเชื่อว่าในส่วน คำข้อแก้ไขของรัฐบาลน่าจะเชื่อได้เพราะรัฐบาลก็มีส่วนของคสช.อยู่ด้วย ซึ่งเป็น เนื้อเดียวกันอยู่แล้ว จึงหวังว่าจะทำให้กมธ.ยกร่างฯพิจารณาแก้ไขเพราะถือว่าเป็นส่วนที่มีน้ำหนัก 
      นายเสรี กล่าวว่า การเข้าชี้แจงของกลุ่มจะเป็นช่วงบ่ายวันที่ 4 มิ.ย. แต่วันและเวลา ดังกล่าวเป็นวันที่รัฐบาลมาประชุมแม่น้ำ 3 สาย ก็ต้องไปหารือกันว่าจะทำอย่างไร เพราะการประชุมร่วมแม่น้ำ 3 สาย ก็มีความสำคัญเช่นเดียวกัน ในส่วนการชี้แจงก็น่าจะขยับเวลาได้ ซึ่งต้องดูว่ากมธ.ยกร่างฯจะให้ความสำคัญในส่วนไหน 
      นายเสรี กล่าวว่า การเข้าชี้แจงคำขอแก้ไขนั้นหลักใหญ่ๆ เกี่ยวกับการปรับแก้โครงสร้างรัฐธรรมนูญ ระบบต่างๆ ในแต่ละส่วนแต่ละหมวด ซึ่งเป็นหลักสำคัญในเรื่องการทำรัฐธรรมนูญให้สั้น ซึ่งมีอยู่ในกฎหมายลูกหมดแล้ว จึงไม่เห็นมีความจำเป็นต้องนำมาใส่ในรัฐธรรมนูญให้ยุ่งยาก 

กมธ.บริหารแผ่นดินจี้แก้40มาตรา
      นายธีรยุทธ์ หล่อเลิศรัตน์ ประธานกมธ.ปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน สปช. กล่าวถึงการเข้าชี้แจงคำขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างรัฐธรรมนูญ ต่อกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ช่วงบ่ายวันที่ 2 มิ.ย.ว่า ตัวแทนกลุ่มที่จะเข้าชี้แจงมีตน นางผาณิต นิติทัณฑ์ประภาศ รองประธานกมธ. นายไพโรจน์ พรหมสาส์น รองประธานกมธ. พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ประธานคณะอนุกมธ.จัดทำกฎหมายว่าด้วยยุทธศาสตร์ชาติ และนายพิสิฐ ลี้อาธรรม สปช.ด้านเศรษฐกิจ เข้าชี้แจง
       นายธีรยุทธ์ กล่าวว่า แบ่งเนื้อหาการชี้แจงคือตนจะชี้แจงภาพรวม นางผาณิตและนายไพโรจน์ ชี้แจงประเด็นการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน การบริหารงาน ท้องถิ่น ส่วนพ.ต.ต.ยงยุทธ ชี้แจงในประเด็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาชาติในร่างรัฐธรรมนูญ และนายพิสิฐจะชี้แจงถึงการปฏิรูปการเงิน การคลัง และงบประมาณ 
      นายธีรยุทธ์ กล่าวว่า กลุ่มได้ยื่นคำขอแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับประเด็นการบริหารราชการแผ่นดิน 40 มาตรา ประเด็นที่มีความไม่เห็นด้วยมากที่สุดคือ การที่กมธ.ยกร่างฯ กำหนดให้มีองค์กรบริหารพัฒนาภาค ทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนาจังหวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในภาค และกำกับดูแลหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ จัดทำแผนและบริหารงบประมาณแบบพื้นที่ เพื่อดำเนินการพัฒนาภาคที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ จึงเกรงว่าอาจมีบทบาทหน้าที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่นๆ ในการบริหารงานส่วนภูมิภาค ซึ่งในการชี้แจงทางกลุ่มหวังว่า กมธ. ยกร่างฯ จะรับฟังเหตุผลของทางกลุ่มเพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในร่างรัฐธรรมนูญต่อไป ยืนยันว่าทางกลุ่มจะพยายามทำอย่างเต็มที่ ต้องรอดูว่าทาง กมธ.ยกร่างฯ จะมีท่าทีอย่างไร

ผลงานเด่น1ปีรบ.-ปราบคอร์รัปชั่น
      กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง "คะแนนนิยมพรรคการเมืองไทยหลังผ่าน 1 ปี คสช." โดยเก็บข้อมูลกับประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศจำนวน 1,014 คน ระหว่างวันที่ 25-28 พ.ค. 
       พบว่า คะแนนนิยมพรรคประชาธิปัตย์ อยู่ที่ร้อยละ 29.2 เพิ่มขึ้นจากการสำรวจเมื่อเดือนมี.ค. 2558 ร้อยละ 8.7 (จากเดิมร้อยละ 20.5) ขณะที่พรรคเพื่อไทยคะแนนนิยมอยู่ที่ร้อยละ 25.8 เพิ่มขึ้นจากผลสำรวจครั้งก่อน ร้อยละ 7.3 (จากเดิมร้อยละ 18.5) รองลงมาคือ พรรคชาติไทยพัฒนา อยู่ที่ร้อยละ 0.8 (จากเดิมร้อยละ 1.7) และพรรครักประเทศไทย อยู่ที่ร้อยละ 0.5 (จากเดิม ร้อยละ 0.9)
      เมื่อถามถึงระยะเวลาที่คิดว่าเหมาะสมสำหรับการเลือกตั้งควรเป็นอย่างไร หลังผ่าน 1 ปี คสช. ส่วนใหญ่ร้อยละ 61.1 คิดว่าการเลือกตั้งควรเกิดเมื่อประเทศปฏิรูปแล้วในทุกด้าน ขณะที่ร้อยละ 32.0 คิดว่าการเลือกตั้งไม่ควรเกิน 1 ปีนับจากนี้ ที่เหลือร้อยละ 6.9 ยังไม่แน่ใจ
       เมื่อถามว่า อยากให้ประเทศไทยมีการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อเป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ร้อยละ 46.9 อยากเลือกแบบโอเพ่นลิสต์ คือ เลือกทั้งพรรคและเลือกผู้สมัคร ขณะที่ร้อยละ 39.7 อยากเลือกแบบเดิม คือ เลือกพรรคอย่างเดียว ส่วนที่เหลือร้อยละ 13.4 ยังไม่แน่ใจ 
      เมื่อถามว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีผลงานการแก้ปัญหาประเทศในเรื่องใดเด่นชัดมากที่สุด หลังผ่าน 1 ปี คสช. ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.0 เห็นว่าเป็นเรื่องการคอร์รัปชั่น รองลงมาคือ เรื่องความแตกแยกในสังคม (ร้อยละ 48.3) และเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การค้ามนุษย์ (ร้อยละ 30.4)

ปูพาไปป์ถวายสังฆทาน 
      วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่าช่วงเช้าพาน้องไปป์-ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร บุตรชาย เดินทางไปทำบุญถวายสังฆทาน เนื่องในวันวิสาขบูชา ที่วัดเทพลีลา ย่านรามคำแหง เพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นเดินทางไปแสดงความยินดีกับนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในโอกาสเปิดร้านกาแฟ Brainwake Cycles ซึ่งให้บริการเป็นวันแรก โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างเป็นกันเอง

ประวิตร ห่มผ้าพระธาตุที่ชุมพร 
      เวลา 16.30 น. ที่วัดประเดิม อ.เมือง จ.ชุมพร พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีห่มผ้าพระธาตุ ซึ่งได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันวิสาขบูชา มีนาย วงศศิริ พรหมชนะ ผู้ว่าฯชุมพร ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และประชาชนจำนวนมาก ต้อนรับ 
      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระธาตุวัดประเดิมเป็น พระธาตุที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน มีอายุยาวนานกว่ 100 ปี ต่อมาประชาชนชาวชุมพรร่วมกับทางราชการ ขอพระราช ทานผ้าเพื่อใช้ห่มองค์พระธาตุ เนื่องในวันวิสาขบูชา จึงจัดพิธีห่มผ้าพระราชทานในวันนี้ 
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางมาเป็นประธานในพิธีของพล.อ.ประวิตร ครั้งนี้ มี นายชุมพล จุลใส หรือ ส.ส.ลูกหมี และ น.ส.จิตภัสร์ กฤดากร แกนนำ กปปส.นำกลุ่มกปปส.ในพื้นที่ร่วมต้อนรับ และก่อนเดินทางกลับ นายธีระศักดิ์ หยูด้วง ประธานชมรมโรงสกัดน้ำมันปาล์มในภาคใต้ได้เข้ายื่นหนังสือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมัน

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!