- Details
- Category: การเมือง
- Published: Saturday, 23 May 2015 23:18
- Hits: 4958
ทั้งพระเทือก-คสช. โต้'แม้ว'องคมนตรีไม่เกี่ยว! ในเหตุปฏิวัติ 22 พค.57 ตร.ทหารขวางรำลึก 1 ปี ล็อก 33 นศ.-ทุบสลบ 1 อลหม่านหน้าหอศิลป์ สปช.ปัดใบสั่งคว่ำรธน. จิ๋วโวย-มั่วคอคอดกระ
พระสุเทพ-คสช.โต้แม้ว ยันปฏิวัติไม่เกี่ยวองคมนตรี 'บิ๊กตู่'เปิดใจ 1 ปีคสช. ยันตัดสินใจคนเดียว ลั่นถ้ารธน.คว่ำ ต้องอยู่ต่อไม่เกี่ยวสืบทอดอำนาจ โวยให้เลิกฟังทักษิณพูด ตร.-ทหารบุกจับน.ศ. ขวางจัดกิจกรรมรำลึก 22 พ.ค. ล็อก 33 น.ศ.-ทุบสลบอีก 1 'ดาวดิน'ชูป้ายค้านรัฐประหารที่ขอนแก่น ก็โดนรวบ ทักษิณแก้มปริได้อุ้มหลานฝาแฝด
วันที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8942 ข่าวสดรายวัน
'บิ๊กตู่'เปิดใจ 1 ปีคสช.
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงครบรอบ 1 ปีคสช.ว่า รู้สึกว่า 1 ปีทำไมถึงนาน เพราะทำงานไม่ได้หยุด แต่สิ่งหนึ่งที่รู้สึกคือการแก้ปัญหาในจุดโครงสร้างกับการวางรากฐานที่ชัดเจน และห่วงกังวลว่าจะไปยังไงต่อ แต่ได้วางพื้นฐานไว้ให้แล้ว เป็นเรื่องของอนาคต ขึ้นอยู่กับประชาชนต้องการอะไร คิดว่าทุกคนต้องการสิ่งที่ดีที่สุด ให้ประเทศเดินหน้าไปได้ ทัดเทียมประเทศอื่นๆ ลดความขัดแย้งไม่ให้เกิดขึ้นอีก เหล่านี้เป็นความหวังของตน ซึ่งเหมือนกับทุกคน
เมื่อถามว่าพอใจการทำงานใน 1 ปีที่ผ่านมาหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าพอใจเท่าที่ทำได้ บางอย่างที่ทำยังไม่สำเร็จก็ยังไม่พอใจ ซึ่งมันยังมีความขัดแย้งอยู่ หลายเรื่องที่คิดใหม่ทำใหม่ย่อมมีผลกระทบทั้งมากและน้อย ขณะเดียวกันหลายคนคาดหวังกับรัฐธรรมนูญ แต่อยากบอกว่าทุกอย่างยุ่งเพราะคน แม้จะเขียนกฎหมายอย่างไร หรือเจ้าหน้าที่จะเข้มแข็งอย่างไร ถ้าคนไม่เคารพ ไม่ยึดมั่นในกฎหมายก็ไปไม่ได้ ตนจึงกังวลในข้อนี้มาก
จับน.ศ.- ตร.และทหารนอกเครื่องแบบ หิ้วตัวกลุ่มน.ศ.ที่ร่วมจัดกิจกรรมครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ โดยมีน.ศ.ถูกควบคุมตัวไปไว้ที่ สน.ปทุมวัน กว่า 30 คน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 22 พ.ค.
บ่นเสียดายเวลาร่างรธน.
เมื่อถามว่า จะต้องอยู่ดูแลประเทศไปอีกนานเท่าไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าไม่รู้ ทุกอย่างตามรัฐธรรมนูญ ถ้าเบื่อก็ให้บอกมา ถ้าคนทั้งประเทศไล่ตน ตนก็ไป แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ไม่เบื่อ อยากให้อยู่ทำงานต่อต้องเห็นใจ สนับสนุน และให้ความร่วมมือ อย่าไปสนใจกับเรื่องที่จบไปแล้ว อย่าไปตีราคากับอะไรที่มันผ่านไปแล้ว ตนไม่ได้พูดถึงใคร เดี๋ยวจะหาว่าไปพูดว่าใคร หรือไม่ให้ราคาใคร
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีให้สัมภาษณ์สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุจะมีเลือกตั้งภายในเดือนส.ค.59 พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าตนพูดถึงกระบวนการที่มีอยู่ บอกว่าปกติแล้วจะเป็นช่วงต้นปี หากทำประชามติก็ไล่ไปอีก 3 เดือน บวกกับกระบวนการออกกฎหมายลูกที่ตั้งไว้เดิม ตอนนี้ไม่มีเร็วสุดช้าสุดในเรื่องเลือกตั้ง อยู่ที่ว่าทำประชามติจะผ่านหรือไม่ ซึ่งต้องมองว่าสปช.จะมีมติเห็นชอบหรือไม่ก่อน ถ้าไม่ผ่าน กฎหมายเขียนว่าให้ร่างใหม่ ซึ่งตนเสียดายเวลา
ลั่นต้องอยู่ต่อไม่เกี่ยวสืบอำนาจ
เมื่อถามว่า หมายความว่านายกฯจะต้องอยู่รักษาการต่อไป พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าตนอยู่เพราะอะไร อยู่เพราะอยากอยู่หรือเปล่า ต้องพูดอธิบายให้ถูก ไม่ใช่อยากจะยืดแล้วทำประชามติ ตนทำความดีแทบตาย ถ้าไม่ดีตนไม่ทำอยู่แล้ว ถ้ามันไม่ผ่านตนต้องรับผิดชอบอีก แล้วจะตั้งสปช.มาทำไม สปช.ตั้งมาจากหลายอาชีพ ทั้ง 77 จังหวัด มีทุกสี คาดหวังว่าเขาน่าจะปรองดองกันได้ ร่างรัฐธรรมนูญที่ทุกคนยอมรับได้ แต่ปรากฏว่าทุกคนไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง ฝ่ายหนึ่งจะเอาแบบเดิม อีกฝ่ายหนึ่งเป็นห่วงบ้านเมือง ต้องการให้เปลี่ยนแปลง แล้วตกลงกันไม่ได้
"ผมถามว่าข้างในรับกันได้หรือยัง ถ้ายังรับไม่ได้ แล้วทำประชามติไม่ผ่านจะทำอย่างไร ต้องไปร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ไม่ใช่ผมที่ยืดเวลาขอต่ออยู่ในอำนาจ ผมบอกแล้วว่าไม่ต้องการอำนาจ แค่ต้องการอำนาจดูแลประชาชน ประเทศชาติให้สงบสุขและวางอนาคต นั่นคืออำนาจของผม และผมไม่ได้มีอำนาจเพื่อผลประโยชน์ อย่างที่กล่าวหาว่าทหารมีอำนาจ หรือเป็นฝ่ายอำมาตย์ อำนาจเก่า อำนาจใหม่ หรือกลุ่มทุน อย่ามองแบบนั้น มันไม่ใช่ภาพยนตร์ ที่เป็นเรื่องกลุ่มอำนาจ มาเฟียผลประโยชน์ กลุ่มอัลคาโปน มันไม่ใช่ นี่ประเทศชาติและผมเป็นทหาร วันนี้พูดเลย เดี๋ยวสื่อก็ถามอยู่ดี" พล.อ. ประยุทธ์กล่าว
ย้ำ 22 พ.ค.ตัดสินใจคนเดียว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขอพูดถึงการให้สัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเคยบอกแล้วว่าพ.ต.ท.ทักษิณอยากพูดอะไรก็ปล่อยให้พูดไป ปล่อยไป ถ้าคนในประเทศยังติดตามเฝ้าฟัง ยังวิจารณ์กันต่อไป มันไม่มีจบ ก้าวข้ามความขัดแย้งตรงนี้ไม่ได้ มันจะไปทำให้อีกกลุ่มหนึ่งที่จะหวังให้บ้านเมืองไม่สงบสุข คุกรุ่นขึ้นมาอีก
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทหารเขาสั่งได้ สั่งลูกน้องถึงจะไปแต่ในเรื่องสู้รบอย่างเดียว แต่ถ้าจะสั่งให้ไปตาย ไปติดคุก ตนไม่ทำ ตนทำของตนเองเพราะเห็นว่าประเทศชาติและประชาชนมีอันตรายอย่างร้ายแรงอยู่ จึงตัดสินใจทำของคนเดียว ตนไม่ได้พูดเท็จ ตัดสินใจคนเดียว แม้แต่ครอบครัวก็ไม่มีใครรู้ ทุกคนเดากันไปมา แต่ตนตัดสินใจวันนั้น เดี๋ยวนั้น เมื่อคิดว่ามันไปไม่ได้แล้ว ตนยอมรับว่าทำผิด แต่ถามว่าถ้าปล่อยวันนั้นไป มันจะมีวันนี้หรือไม่ บ้านเมืองอาจจะล่มสลายไปแล้วก็ได้ ขอร้องว่าอย่าไปโทษใคร เรื่องอะไรเป็นความเป็นความตายมันสั่งกันไม่ได้
เมื่อถามย้ำว่ามีการพาดพิงถึงองคมนตรี พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่าก็ไม่รู้ องคมนตรีเองคงไม่ค่อยสบายใจ แต่คิดว่าเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้วคงไม่อยากฟัง
แจงคสช.-มาแก้เดดล็อก
เวลา 20.15 น. พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยกล่าวถึงโอกาสครบรอบ 1 ปี คสช. ตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง 1 ปีเต็มที่ คสช. เข้ามาบริหารประเทศร่วมกับคนไทยทุกกลุ่ม สถานการณ์ก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 มีปัญหาขัดแย้งทางการเมือง เรียกว่าประเทศไทยขณะนั้นติดเดดล็อก ติดกับคำว่ากับดักประชาธิปไตย เมื่อเกิดเหตุรุนแรง คสช. จึงเข้ามาควบคุมสถานการณ์
ซีเอ็นเอ็นสัมภาษณ์"ทักษิณ"
วันเดียวกัน สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นเผยแพร่บทสัมภาษณ์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับสถานการณ์ของประเทศไทยหลังเกิดการรัฐประหารครบ 1 ปี โดยในส่วนคดีทุจริตในโครงการรับจำนำข้าวที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกเป็นจำเลย พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าตามปกติแล้วพวกเขาต้องถูกสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์ ก่อนพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดจริงตามกระบวนการยุติธรรม แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาถูกสันนิษฐานว่าผิด ก่อนจะพิสูจน์ว่าบริสุทธิ์ นั่นเป็นสิ่งที่ตนกังวล
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้รับการไต่สวนที่เป็นธรรมหรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณตอบว่า "ผมหวังว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ยังคงกังวลอยู่"
เชื่อปีหน้ามีเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวถามว่าคนเสื้อแดงจะออกมาประท้วงตามท้องถนนอีกครั้งหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า ตนพยายามบอกให้อดทน และถ้าจำเป็นต้องออกมาจริงๆ ก็จะต้องออกมาอย่างสงบ ไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ต้องออกมา และตนคิดว่าพวกเขาจะไม่ออกมาจนกว่าสถาน การณ์จะเลวร้ายจริงๆ และเรารู้ว่าทหารกำลังทดสอบเราอยู่ เราจึงต้องรอ
เมื่อถามว่าคิดว่าเมื่อไหร่ที่จะมีการจัดการเลือกตั้งที่เป็นประชาธิปไตย พ.ต.ท.ทักษิณบอกว่า "จะมีการเลือกตั้งอยู่แล้ว แต่จะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ผมไม่แน่ใจ (หัวเราะ)"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แล้วคิดว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ พ.ต.ท.ทักษิณตอบว่ารัฐบาลทหารสามารถครองอำนาจได้นานตามที่เขาต้องการ แต่ยังไง ปีหน้าก็จะต้องมีการเลือกตั้ง
ชี้สิ่งที่ต้องทำคือ"อดทน"
เมื่อถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณจะลบล้างมลทินของตัวเองอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าง่ายมาก เพราะตนไม่ได้ทำอะไรผิด นี่คือการเมือง แม้แต่ตำรวจสากล ยังสรุปว่าเรื่องทั้งหมดมาจากแรงจูงใจทางการเมืองเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวถามว่าพ.ต.ท.ทักษิณได้เกลี้ยกล่อมผู้มีอำนาจในประเทศหรือไม่ พ.ต.ท. ทักษิณกล่าวว่า ตนไม่จำเป็นต้องเกลี้ยกล่อมพวกเขา สิ่งที่ตนต้องทำคือการรอ คอยรักษาร่างกายให้แข็งแรง และอดทน เวลาจะมาเอง
เมื่อถามว่า ยังคิดว่าจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งหรือไม่ พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่า "ผมไม่ได้หวังเช่นนั้น เป็นนายกฯมา 6 ปี ผมก้าวข้ามไปแล้ว ผมไม่ได้ยึดติดกับอำนาจ ผมแค่อยากช่วยประชาชนเท่านั้น"
1.จับกุม 7 น.ศ.ดาวดิน จัดกิจกรรมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น
2.น.ศ.จัดกิจกรรมวันครบ 1 ปี 22 พ.ค. บริเวณแยกคอกวัว กทม.
3.เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มน.ศ.บริเวณหน้าลานหอศิลป์ฯ แยกปทุมวัน
4.นาทีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบล็อกควบคุมตัวกลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรมแสดงสัญลักษณ์ทางประชาธิปไตย เหตุการณ์เป็นไปอย่างชุลมุน บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ นำตัวไป สน.ปทุมวัน เมื่อวันที่ 22 พ.ค.
เผยคิดช่วยคนจนอยู่ตลอด
จากนั้นผู้สื่อข่าวตั้งข้อสังเกตว่า เป็นเรื่องที่แปลกมากที่เศรษฐีอย่างคุณกลับได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากคนจน พ.ต.ท. ทักษิณจึงตอบว่า "ตอนนี้มีเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะกล้องมีเมกะพิกเซลจำนวนมาก เขาเห็นตาของคุณ เห็นความคิดของคุณ เขารู้ได้ว่าคุณอยู่ข้างเขาจริง หรือว่าเป็นแค่ตัวปลอม แค่เสแสร้งเฉยๆ พวกเขารู้ แต่ผมอยากช่วยพวกเขาจริงๆ ตลอดเวลาที่ผมเป็น นายกฯ ผมเอาแต่คิดว่าจะช่วยพวกเขาอย่างไร จะช่วยให้เขามีฐานะดีขึ้นอย่างไร จะให้ประเทศเดินหน้าอย่างไร"
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า ข้อกล่าวหาต่อคุณเกิดขึ้นได้อย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณระบุว่า "เป็นข้อหาที่เขาทำขึ้นมา เพราะไม่อยากให้ผมกลับประเทศ"
จ้อสื่อเกาหลี1ปีรัฐประหาร
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ของ chosun.com ของเกาหลี (http://news.chosun.com ) เผยแพร่คำสัมภาษณ์พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึง 1 ปีรัฐประหาร บันทึกเทปโดย Chosun Media เผยแพร่ผ่านยูทูบเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนั้นเฟซบุ๊กหยุดดัดจริตประเทศไทย ได้นำคำสัมภาษณ์ดังกล่าวมาเผยแพร่ด้วย อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์ Chosun.com ที่เผยแพร่คำสัมภาษณ์ดังกล่าวได้ถูกลบจากหน้าเพจทันที ตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันที่ 22 พ.ค.
สำหรับเนื้อหาการให้สัมภาษณ์ พ.ต.ท. ทักษิณระบุตอนหนึ่งว่า "ประเทศไทย ตราบใดที่เขาปล่อยให้ทำงานก็ยังมีอำนาจ แต่ถ้าไม่ปล่อยให้ทำงานก็ไม่มีอำนาจ เที่ยวนี้ทหารก็ฟังองคมนตรี เพราะตอนที่เขาไม่ต้องการให้เราอยู่ เขาก็ให้สุเทพออกมา และให้ทหารเข้ามาช่วย "ได้คุยกับนายกฯปูว่าเหตุการณ์เหมือนที่พี่โดนมา ทหารเขาอาจชื่นชอบประชาธิปไตยแบบที่พม่าเลิกไปแล้ว ผมก็ยังตำหนิเขาไปที่ปฏิวัติแบบนี้ เขาคงโกรธ เราเป็นครอบครัวสาธารณะ จะพูดอะไรต้องระมัดระวัง"
พระสุเทพโต้แม้วทันควัน
ที่สำนักงานป.ป.ช. สนามบินน้ำ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ (พระสุเทพ ปภากโร) อดีตเลขาธิการคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ให้สัมภาษณ์ตอบโต้พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณพูดผิดแล้ว เนื่องจาก 1.ตนไม่ได้ร่วมมือกับองคมนตรีท่านใดเลย ไม่ได้ติดต่อกับองคมนตรีมานานแล้ว ไม่เคยปรึกษาหารือ ไม่เคยขอความเห็น เรื่องที่ตนทำเป็นเรื่องของการเมือง เป็นเรื่องของประชาชน เป็นเรื่องของระบอบประชาธิปไตย 2.การที่ออกมาเคลื่อนไหว เพราะเห็นว่า จะทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประเทศล้มละลาย และล่มสลายได้ ไม่สามารถที่จะปล่อยให้เขาบริหารราชการแผ่นดินได้ต่อไป และ 3.เห็นความจำเป็นต้องมีการปฏิรูปประเทศ ถ้าปล่อยให้ประชาธิปไตยเป็นเฉพาะแต่ฉากหน้า ประชาชนจะเดือดร้อน คนที่ออกมาร่วมกับตนมีจำนวนหลายล้านคนที่คิดเหมือนกัน จึงออกมาร่วมมือกันต่อสู้
พระสุเทพกล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้ไปร่วมมือในการยึดอำนาจของทหาร ทหารเข้ามาช่วยเจรจาแล้วยังไม่ยอม ทหารก็ตัดสินใจของเขาเอง ว่าจำเป็นที่จะต้องเข้ามาแก้ไขสถานการณ์บ้านเมือง และขอปฏิเสธว่าที่คุณทักษิณพูด ผิดทั้งนั้น ไม่ว่าจะพูดด้วยอารมณ์อย่างไรก็ตาม
ยันไม่ได้ติดต่อ"องคมนตรี"
ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างการชุมนุมทางการเมืองปี 2556 ไม่ได้ติดต่อองคมนตรีเลยใช่หรือไม่ พระสุเทพกล่าวว่า ไม่เคย ไม่มีความจำเป็นต้องติดต่อ ท่านจะมาช่วยอะไรเราได้
เมื่อถามว่า นักการเมืองหลายคนมองว่า 1 ปีที่ผ่านมารัฐประหารเสียของ พระสุเทพกล่าวว่า วันนี้เป็นพระไม่ได้เป็นนักการเมืองแล้ว พูดจาไม่เหมือนนักการเมือง แต่จะไม่พูดให้เข้าใจกันผิดไปเปล่าๆ เป็นพระอย่าให้เพื่อนโกรธก็ดีแล้ว มีชีวิตอยู่ด้วยข้าวในบาตรที่คนอื่นใส่ให้ ไปทะเลาะกับใครก็ไม่ได้ แต่ว่าขณะนี้อาตมามีความเห็นไม่ตรงกับนักการเมืองตามที่ถามมาเท่านั้น
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่าจะลาสิกขา พระสุเทพกล่าวว่า เรื่องที่ถามว่าจะสึกเมื่อไหร่เป็นเรื่องแปลกมาก เพราะถามกันมาเรื่อย ทั้งที่ปกติเขาไม่ถามกัน เพียงแต่เมื่อมีคนมาถาม ก็ตอบว่า คิดว่าคงสึกแน่นอน แต่ว่าไม่รู้เมื่อไหร่ ตอนนี้ทำหน้าที่เป็นพระไปก่อน ปฏิบัติหน้าที่รับใช้วัดวาอาราม รับใช้พระศาสนา
"ไก่อู"โต้ลั่นไม่มีคนสั่งปฏิวัติ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพ.ต.ท.ทักษิณให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศว่า เป็นการพูดเรื่องเก่า อ้างเหตุผลเลื่อนลอยตามความเชื่อของตัวเองและใช้ผลประโยชน์ของตนเองและเครือข่ายเป็นที่ตั้ง ไม่ได้ใส่ใจกับความเสียหายของบ้านเมืองในช่วงเวลาที่ท่านและเครือญาติขึ้นมามีอำนาจทางการเมือง
"ทุกเรื่องที่อดีตนายกฯพูด มองตนเองเป็นเสมือนศูนย์กลางของจักรวาล เห็นคนอื่นเป็นฝ่ายตรงข้าม โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงว่าตลอดเวลาที่อยู่ในตำแหน่ง มีการทุจริตคอร์รัปชั่น มีการใช้อำนาจรัฐในทางมิชอบมากเพียงใด และสร้างให้เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นบนแผ่นดินไทยเพียงใด การกล่าวให้ร้ายบุคคลอื่น และประเทศชาติ เป็นสิ่งที่อดีตนายกฯต้องรับผิดชอบ ไม่ควรอาศัยโอกาสที่อยู่ต่างประเทศพูดโดยไร้ความรับผิดชอบ" พล.ต.สรรเสริญกล่าว
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ประชาชนคนไทยทุกคนเข้าใจดีว่า ทำไมทหารต้องออกมารับผิดชอบบ้านเมืองในขณะนั้น เพราะเป็นสถานการณ์ที่ผบ.ทบ.ในขณะนั้นต้องตัดสินใจ และไม่มีใครสามารถมาชี้นำหรือกำหนดการปฏิบัติให้ได้ เพราะผบ.ทบ.ขณะนั้นเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุดต่อผลของทุกสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไป และความสงบสุขที่เกิดขึ้นในประเทศตลอดเวลา 1 ปีที่ผ่านมา เป็นเครื่องพิสูจน์การกระทำของคสช.และรัฐบาล จึงเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจว่าใครจะสมควรได้รับการยอมรับ โดยดูที่การกระทำป็นหลัก ไม่ใช่พิจารณาจากวาทกรรม ที่อาจปั้นแต่งให้สวยหรูแต่อาจจะตรงข้ามกับการกระทำโดยสิ้นเชิง
"ดาวดิน"ชูป้ายค้านรัฐประหาร
เวลา 13.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จ.ขอนแก่น นักศึกษากลุ่มดาวดิน 7 คน รวมตัวแสดงสัญลักษณ์คัดค้านการรัฐประหาร โดยการถือป้าย "คัดค้านรัฐประหาร" และได้แสดงจุดยืนต่อปัญหาด้านทรัพยากรในภาคอีสาน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่ได้รับผล กระทบหลังจากเกิดการรัฐประหาร โดยเฉพาะปัญหาเหมืองแร่ทองคำ ปัญหาการจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล ปัญหาการขุดเจาะปิโตรเลียม ปัญหาการไล่รื้อที่ดินจากแผนแม่บทป่าไม้และที่ดินของคสช. ปัญหาการศึกษาที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ปัญหารัฐธรรมนูญประชาธิปไตยที่เกิดขึ้นจากผลพวงของการรัฐประหาร 22 พ.ค.2557
ตัวแทนนักศึกษากล่าวว่า การรัฐประหารเป็นการตัดตอนประชาธิปไตย ตัดอำนาจประชาชน ซึ่งประชาชนทุกคนควรมีสิทธิมีเสียงในประเทศตัวเอง แต่อำนาจกลับถูกคนแค่กลุ่มเดียวมายึดเอาไป ที่เลือกบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยขอนแก่น เพราะที่แห่งนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย ที่โดนคสช.ขโมยไปจากประชาชนคนไทย และยังเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เราทำคือสิ่งที่ถูกต้องการวิพากษ์การทำงานของรัฐบาล เป็นสิทธิและเสรีภาพของทุกคน ถ้าคสช.คิดว่าผิดประเทศนี้ก็เป็นประเทศของเผด็จการไปแล้ว
โวยทหารเอื้อทุนสัมปทาน
ตัวแทนน.ศ.กล่าวอีกว่า ส่วนเหตุผลที่เลือกชูประเด็นเรื่องทรัพยากรก็เพราะว่ากลุ่มของพวกเราก็ทำงานเรื่องนี้อยู่แล้ว จึงเห็นปรากฏการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ว่าได้มีหน่วยงานรัฐและทหารมาอำนวยความสะดวกให้กลุ่มนายทุน รวมถึงการใช้อำนาจในการกดขี่ไม่ให้ชาวบ้านสามารถออกมาต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านของตัวเองได้ พวกเราจึงต้องการออกมาแสดงจุดยืนในการต่อต้านอำนาจที่ไม่เป็นธรรม ลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน ต่อต้านอำนาจที่ไม่รับฟังความคิดเห็นของประชาชน ต่อต้านรัฐทหารและต่อต้านคสช.
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวนักศึกษาทั้ง 7 คนไป โดยเพจดาวดิน สังกัดพรรคสามัญชน รายงานว่า เวลา 13.40 น. นักศึกษาทั้ง 7 คนและผู้ติดตามจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรวมทั้งหมด 13 คน ได้มาถึงมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร(มทบ.23) และถูกนำตัวเข้าห้องขังทันที ต่อมาทั้ง 13 คนถูกนำตัวมาที่สภ.เมืองขอนแก่น
จับรวด 7 คนฝ่าฝืนคำสั่งคสช.
เวลา 21.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.เมืองขอนแก่น มีชาวบ้านและน.ศ.ประมาณ 30 คน รวมตัวกันที่หน้าสถานี เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวน.ศ.กลุ่มดาวดินทั้ง 7 คน
นายพงศพัศ โสภัณนา ทนายความอาสาจากศูนย์ทนายความสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังสอบปากคำ โดยทั้งหมดถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ฉบับที่ 7 ซึ่งชุมนุมเกิน 5 คน คาดว่าต้องใช้เงินประกันตัวรายละ 1 หมื่นบาท รวม 7 คน ก็ 7 หมื่นบาท
นายกิตติบดี ใยพูล คณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยว่า ทางคณะจำเป็นต้องปกป้องนักศึกษา ไม่ว่าแต่ละคนจะมีอุดมการณ์อย่างไร ตนต้องมาดูแลและพยายามทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง ไม่อยากให้เกิดความตึงเครียดระหว่างเจ้าหน้าที่กับน.ศ. คิดว่าน.ศ.ควรได้รับการประกันตัว เพราะหลายคนยังอยู่ในช่วงการสอบ และคิดว่าควรได้รับการต่อสู้ทางคดีความในศาลยุติธรรมมากกว่าศาลทหาร
หลานตา- พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ พบหน้าหลานสาวฝาแฝดเป็นครั้งแรก โดยนางพินทองทา คุณากรวงศ์ พร้อมด้วยสามี และน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาว พาเดินทางไปหาที่ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 22 พ.ค.
ทหาร-ตร.ขวางเสวนา
เวลา 11.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 ศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย (วายพีดี) จัดเสวนา หัวข้อ "22-22: สิทธิชุมชน เสรีภาพ การศึกษา" ในโอกาสครบ 1 ปีรัฐประหาร ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารยืนประจำการอยู่บริเวณหน้าพื้นที่จัดเสวนา และมีแผงเหล็กพร้อมล่ามโซ่ติดป้าย บช.น.กั้นทางเข้าอนุสรณ์สถานฯ ทั้งหมด
กระทั่งเวลา 13.00 น. กลุ่มวายพีดีพร้อมวิทยากรเดินทางมาถึงเตรียมจัดกิจกรรม แต่พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รองผบก.น.1 ยืนยันไม่อนุญาต กลุ่มวายพีดีจึงยืนอ่านแถลงการณ์ที่หน้าอนุสรณ์สถาน ถึงการทำงาน 1 ปีของคสช. ก่อนทั้ง 11 คน จะถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวขึ้นรถปิกอัพไปที่สน.ชนะ สงคราม ฐานขัดมาตรา 44 มั่วสุมหรือชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คนขึ้นไป โดยที่สมาชิกวายพีดีตะโกนคำว่า "เสรีภาพ การศึกษา ประชาธิปไตย สิทธิชุมชน" พร้อมยกป้ายข้อความดังกล่าวขณะอยู่บนรถ
พ.ต.อ.อรรถวิทย์กล่าวว่า หลังจากกลุ่มดังกล่าวได้อ่านแถลงการณ์ทางเจ้าหน้าที่ก็เชิญตัวทั้งหมดมาพูดคุยเพื่อปรับความเข้าใจถึงการกระทำนั้นเข้าข่ายที่สุ่มเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่องกฎหมาย และจะปล่อยตัวทุกหมดกลับโดยไม่ได้มีการแจ้งข้อหาใดๆ
ล็อก"พลเมืองโต้กลับ"ห้ามเดิน
เวลา 14.20 น. กลุ่มพลเมืองโต้กลับนัดหมายรวมตัวกันในนาม "พลเมืองฟ้องกลับ" ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินลาดพร้าว ประตูทางออก 4 และมีกำหนดเดินไปศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ในเวลา 15.00 น. เพื่อยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ กับพวกข้อหากบฏ ความผิดตามมาตรา 113 โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธิน จำนวนหนึ่งวางกำลังบริเวณดังกล่าวด้วย ต่อมากลุ่มพลเมืองฟ้องกลับและนักกิจกรรมประกอบด้วย นายพันศักดิ์ ศรีเทพ นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ และนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ นักกิจกรรมกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวขึ้นรถเพื่อพาไปที่ศาลอาญา
เวลา 15.30 น. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายอานนท์ นำภา ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน และกลุ่มพลเมืองโต้กลับ นำโดย นายพันศักดิ์ นายวรรณเกียรติ และนายณัทพัช อัคฮาด น้องชายของน.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่เสียชีวิตในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง 2553 ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผบ.ทร. พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ. พล.ต.อ. อดุลย์ แสงสิงแก้ว และพล.อ.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผบ.สส. ซึ่งเป็นคณะคสช. เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานเป็นกบฏล้มล้างหรือเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ หรือล้มล้างอำนาจนิติบัญญัติ บริหาร หรือตุลาการ หรือแบ่งแยกราชอาณาจักรโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำการสะสมกำลังพลหรืออาวุธ หรือสมคบกันเพื่อเป็นกบฏ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 และ 114 กรณีที่พวกจำเลยร่วมกันยึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557
พลเมืองยื่นฟ้องกลับ"คสช."
นายพันศักดิ์กล่าวหลังยื่นฟ้องว่า เราในฐานะพลเมืองโต้กลับและเพื่อนที่ได้รับความเสียหายจากการรัฐประหารลงชื่อร่วมกัน 15 คน ยื่นฟ้องคณะคสช.ทั้ง 5 คน ศาลรับเรื่องไว้และนัดให้มาฟังคำสั่งในวันศุกร์ที่ 29 พ.ค. ว่าจะมีคำสั่งฟ้องหรือไม่ หรือต้องดำเนินการอื่นใดเพิ่มเติม รายชื่อผู้ร่วมฟ้องก่อนหน้านี้มีประมาณ 44 คน แต่บางส่วนต้องขอถอนรายชื่อออกเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวและแรงกดดันบางอย่างซึ่งเข้าใจได้
"เหตุที่พลเมืองโต้กลับเลือกต่อสู้ด้วยกระบวนการยุติธรรม เพราะตอนนี้ใน 3 อำนาจของกระบวนการประชาธิปไตยเหลือเพียงอำนาจเดียวที่ยังคงอยู่ 2 อำนาจไม่เหลือแล้ว เราไม่มีสภา ไม่มีคณะบริหารที่มาจากการเลือกตั้ง เหลือเพียงอำนาจตุลาการ ศาลเป็นที่พึ่งสุดท้าย เหตุที่ต้องฟ้อง ในวันนี้เพราะกว่าจะรวบรวมตัวกันและปลดความกลัวออกจากตัวเองต้องใช้เวลาพอสมควร วันนี้พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าฟ้องร้อง คสช. แนวโน้มคำสั่งศาลจะออกมาในแนวทางไหน ไม่อาจทราบได้ แต่ในส่วนการฟ้องร้องความผิดมาตรา 113 มีบรรทัดฐานอยู่แล้วว่าทั้งหมดที่ผ่านมาศาลยกฟ้องตั้งแต่กรณีคุณปิยะณัฐ วัชราภรณ์ หรือคุณอุทัย พิมพ์ใจชนกับพวก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กลุ่มพลเมืองโต้กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พหลโยธินเชิญตัวขึ้นรถไปสถานีตำรวจอีกครั้ง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่าต้องการเชิญตัวไปพูดคุยเท่านั้น ล่าสุดจนท.ลงบันทึกประจำวันแล้วปล่อยตัวกลับ
บุกจับนศ.หน้าหอศิลป์
เวลา 17.00 น. ที่บริเวณลานหน้าหอศิลป์ แยกปทุมวัน พ.ต.อ.บรรลือศักดิ์ ขลิบเงิน รอง ผบก.น.6 พร้อมพ.ต.อ.จารุต ศรุตยาพร ผกก.สน.ปทุมวัน นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.น. 6 และตำรวจสน.ปทุมวันกว่า 1 กองร้อย รวมทั้งตำรวจและทหารนอกเครื่องแบบอีกจำนวนหนึ่ง นำรั้วกั้นโดยรอบหอศิลป์ ภายหลังได้รับรายงานว่าจะมีกลุ่มนักศึกษาธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย หรือ LLTD มาแสดงเชิงสัญลักษณ์จัดกิจกรรม "ศุกร์ 22 มาฉลองกันมะ?" และงานศิลปะแบบ Performance Art ใน Concept: Time&Silence เพื่อแสดงออกถึงความรู้สึกตลอด 1 ปี คสช.ยึดอำนาจ
เวลา 18.20 น. กลุ่มนักศึกษารวมตัวกันประมาณกว่า 50 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวเรียงหน้ากระดาน โดยมีรั้วกั้นอยู่ตรงกลาง กลุ่มนักศึกษาร่วมกันยืนคล้องแขนแสดงสัญลักษณ์เป็นรูปครึ่งวงกลมพร้อมถือนาฬิกา จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนักศึกษา 4 ราย เข้าไปใต้ตึกหอศิลป์ จนเกิดความชุลมุนยื้อยุดฉุดกระชากกันขึ้น ก่อนผลักดันนักศึกษาที่เหลือให้ออกไปอยู่ด้านนอกรั้วกั้น ขณะที่นักศึกษาที่เหลือนั่งร้องเพลงพิราบขาว รอให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวเพื่อนที่ถูกจับ ด้านเจ้าหน้าที่ตั้งแถวเรียงหน้ากระดานอีกครั้งและเข้าจับตัวนักศึกษากว่า 10 รายเข้าไปด้านในอาคาร ซึ่งครั้งนี้ใช้กระบองชอร์ตไฟฟ้าเป็นเครื่องมือด้วย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องกึกก้องไปทั่วบริเวณ นักศึกษาที่เหลือรวมตัวเดินเท้าไปที่สน.ปทุมวัน กดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวเพื่อน
เวลา 20.30 น. เจ้าหน้าที่จับกุมนักศึกษา สมาชิก LLTD เป็นชาย 27 คน หญิง 6 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 คน ถูกตีจนแน่นิ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลหัวเฉียว ขณะที่บรรยากาศหน้าสน.กลุ่มเพื่อนกว่า 30 คน รอดูอยู่ด้านนอก ล่าสุดนายพันธ์ศักดิ์เดินทางมาที่สน. ด้วย
กกต.พร้อมปฏิบัติตามรธน.ใหม่
ที่โรงแรมชลจันทร์ พัทยารีสอร์ท จ.ชลบุรี คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำโดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต. นายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.ด้านกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย และนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงการรองรับอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่
นายศุภชัยกล่าวว่า ตนในฐานะผู้นำองค์กรขอให้คำมั่นว่าไม่ว่าหน้าตาของรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร มีความยุ่งยากซับซ้อนหรือไม่ กกต.ก็พร้อมดำเนินการตามรัฐธรรมนูญอย่างเคร่งครัด ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริตและพร้อมจัดเลือกตั้งครั้งต่อไปให้ดีที่สุด ไม่ให้มีข้อบกพร่องเหมือนการเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ. 2557
เสนอแก้8ประเด็น
นายศุภชัยกล่าวว่า กกต.ทำเอกสารคัดค้าน ชี้แนะ ข้อดี ข้อเสีย ของร่างรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวกับกกต. เสนอรัฐบาล 8 ประเด็นคือ 1.เสนอให้กกต.มีอำนาจประกาศงดการเลือกตั้งตามพระราชกฤษฎีกา(พ.ร.ฎ.) แล้วให้กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ โดยให้นายกฯเสนอพ.ร.ฎ.ตามที่กกต.เสนอ 2.ให้ยกเลิกการมีคณะกรรมการดำเนินการจัดการเลือกตั้ง (กจต.) ให้กกต.จัดการเลือกตั้งเช่นเดิม 3.ให้กำหนดการนับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งแล้วส่งผลไปรวมที่เขตเลือกตั้ง 4.ให้ยกเลิกการลงคะแนนส.ส.แบบโอเพ่นลิสต์
5.ให้กกต.มีอำนาจเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) และสั่งเลือกตั้งใหม่ ก่อนประกาศผลเลือกตั้ง 6.ให้เพิ่มอำนาจกกต.เรียกเอกสาร หรือบุคคลมาให้ถ้อยคำเพิ่มเติม รวมถึงขอให้พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน หน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น ดำเนินการเพื่อประโยชน์แห่งการปฏิบัติหน้าที่ในการสืบสวนหรือวินิจฉัยชี้ขาด 7.ให้ยกเลิกกลุ่มการเมือง เพราะจะทำให้ระบบพรรคอ่อนแอ และ 8.ให้แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหากกต. ให้ยึดองค์ประกอบตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550
นายสมชัย กล่าวว่า 8 ประเด็นที่กกต.เสนอไป แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ผลที่จะเกิดกับการเมืองไทย และ 2.ผลที่จะมีต่อระบบการเลือกตั้ง สัญญาณที่เตือนไป ฟังไม่ฟังไม่เป็นไร
สปช.โต้ไม่มีใบสั่งคว่ำรธน.
ที่รัฐสภา นายอลงกรณ์ พลบุตร เลขานุการคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิปสปช.) กล่าวถึง กระแสข่าวสปช.จะโหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ว่าเป็นกระแสข่าวที่ไม่น่าเชื่อถือ เพราะไม่มีใครสั่งสปช.ได้ สังคมรับรู้ได้ว่าสปช.เข้ามาทำหน้าที่อะไร ซึ่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว กำหนดว่าหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านความเห็นชอบของสปช. จะทำให้สปช.ต้องตายตกไปตามกันกับกมธ.ยกร่างฯ โดยมีการวิจารณ์ว่าเหมือนบังคับให้สปช.ต้องลงมติผ่านร่างรัฐธรรมนูญ ยอมรับว่าประเด็นนี้มีอิทธิผลต่อการตัดสินใจของสปช.จริงแต่ไม่มาก เพราะยังเชื่อว่าสปช.กล้าพอที่จะไม่โหวตรับร่าง หากไม่ตอบโจทย์ 3 ข้อคือ 1.ไม่เป็นประชาธิปไตย 2.สืบทอดอำนาจ 3.ไม่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูปประเทศในอนาคต
นายดิเรก ถึงฝั่ง รองประธานกมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. กล่าวถึงกระแสข่าวว่าคสช.อาจสั่งให้สปช.โหวตคว่ำร่างรัฐธรรมนูญก่อนแต่งตั้งกมธ.ยกร่างฯชุดใหม่ แต่คงสปช.ไว้ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าการจะโหวตเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญของสมาชิกสปช.นั้น ขึ้นอยู่กับว่ากมธ.ยกร่างฯจะปรับแก้ไขเนื้อหาตามคำเสนอขอแก้ไขทั้ง 8 คำขอของสมาชิกสปช.หรือไม่ หากไม่ กมธ.การเมืองก็ยืนยันมาตลอดอยู่แล้วว่าจะลงมติคว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ทันที ส่วนแนวทางจะดำเนินการต่อนั้น ขึ้นอยู่กับคสช.และครม. แต่ส่วนตัวเห็นว่า หากร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้รับความเห็นชอบจากสปช. หรือประชาชนออกเสียงประมติไม่เห็นด้วย ควรเปิดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) เพื่อให้กฎหมายสูงสุดของประเทศที่เป็นสัญญาประชาคมมีส่วนยึดโยงกับประชาชน
นศ.รามฯจี้เลือกตั้งนายกฯ-สว.
ที่รัฐสภา กลุ่มเสียงจากคนหนุ่มสาว นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงประมาณ 20 คน เข้ายื่นหนังสือต่อนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสปช. นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกมธ.ยกร่างฯ เพื่อเรียกร้องให้จัดทำร่างรัฐธรรมนูญตามหลักประชาธิปไตย ไม่เปิดทางให้บุคคลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ ส.ว.ต้องมาจากการเลือกตั้ง เพราะการสรรหาไม่ได้การันตีว่าเป็นคนดี และขอให้ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองกลับไปศึกษาประวัติศาสตร์ทางการเมืองเมื่อปี 2535 ที่กลุ่มนักศึกษาต่อสู้ให้นายกฯมาจากการเลือกตั้ง จนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก เพื่อให้ประเทศปกครองในระบอบประชา ธิปไตย แต่รัฐธรรมนูญฉบับนี้กำลังจะเปิดทางให้บุคคลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งมาเป็นนายกฯ เท่ากับขัดต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างชัดเจน หากรัฐธรรมนูญออกแบบเป็นอย่างนี้จะเป็นชนวนนำไปสู่การฆ่ากันตายอีกครั้ง
นายชูศักดิ์ ศิรินิล หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวว่าหากร่างรธน.ไม่ผ่าน วิธีที่ดีที่สุดคือควรกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่จะแก้ไขเพิ่มเติมว่า ถ้าประชามติไม่ผ่านให้เอารัฐธรรมนูญฉบับใดฉบับหนึ่ง เช่น 2540 หรือ 2550 มาปรับปรุงและประกาศใช้ และให้เลือกตั้งครั้งใหม่โดยเร็ว รัฐสภาชุดใหม่ปรับปรุงแก้ไขรัฐ ธรรมนูญที่ว่านั้นได้ต่อไปในอนาคต เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
"จิ๋ว"โต้ไม่เกี่ยว"คอคอดกระ"
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวการลงนามข้อตกลง ความร่วมมือ(เอ็มโอยู)ระหว่างรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนกับรัฐบาลไทยในโครงการสร้างคลองกระหรือคอคอดกระว่า มีการสำรวจกันมานานแล้ว ด้านเศรษฐกิจถือว่าดูดี เพราะเป็นช่วงที่แคบที่สุดระยะทางไม่กี่กิโลเมตร แต่ถามว่ารัฐธรรมนูญเราเขียนไว้ 1.ประเทศไทยเป็นรัฐเดียวแบ่งแยกไม่ได้ ทั้งทางการปกครอง ทั้งกายภาพ และกฎหมาย 2.ความสงบในพื้นที่ภาคใต้เรียบร้อยหรือยัง 3.ได้ประเมินถึงความคุ้มค่าหรือไม่ ถ้าถูกตัดออกไปแล้ว สามารถดูแลความมั่นคงปลอดภัยได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรือไม่ ต้องประเมินตรงนั้นก่อน อย่าเพิ่งมองแต่ในแง่ดีอย่างเดียว
เวลา 13.45 น. ที่บ้านพัก ซ.ปิ่นประภาคม พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ แถลงปฏิเสธกรณีมีกระแสข่าวไปร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างไทยและจีน ในโครงการคอคอดกระ ที่เมืองกวางโจว เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยพล.อ.ชวลิตกล่า;ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และต้องออกมาชี้แจงเพราะอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทยและจีนได้ ในวันดังกล่าวเป็นวันเกิดของตน และตนอยู่กับพรรคพวกเพื่อนฝูงในประเทศไทย เรื่องนี้พิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ ส่วนที่มีการให้ข่าวว่าเป็นวันที่ 10 พ.ค. ข่าวนี้ก็เป็นเท็จ จากการตรวจสอบทราบว่าผู้ให้ข่าวดังกล่าว เป็นหนึ่งในคณะที่ไปพบกับรัฐบาลจีนที่กวางโจวจริง และลงนามบันทึกข้อตกลงด้วย แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าคือเรื่องใด โดยมีรัฐมนตรีคนหนึ่งของรัฐบาลชุดนี้ปรากฏอยู่ด้วย สำหรับข่าวที่ว่าตนใช้เอกสารลงนามที่มีตราสัญลักษณ์ของรัฐบาลนั้น ก็เป็นเรื่องเท็จ
"เป็นข่าวปล่อยจากผู้ไม่หวังดี หวังสร้างความตื่นตระหนก ขอย้ำว่าข่าวที่เกิดขึ้นเป็นเท็จ อีกทั้งข่าวที่ปรากฏออกมา ทราบว่าแค่ครึ่งวันก็ถอดข่าวดังกล่าวออกจากโซเชี่ยลมีเดียทั้งหมด" พล.อ.ชวลิตกล่าว
เมื่อถามถึงรูปพล.อ.ชวลิตลงนามกับนักธุรกิจจีน ที่ถูกปล่อยออกมา พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า ภาพดังกล่าวถ่ายขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา เกิดขึ้นในประเทศไทย ตนกับนักธุรกิจจีนหารือเรื่องการทำงาน การสร้างถนน ส่วนโครงการคอคอดกระก็มีการพูดถึง แต่ไม่มีการลงนาม ใดๆ ทั้งสิ้น
"แม้ว"แก้มปริอุ้มหลานฝาแฝด
เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ ได้พบหน้าหลานสาวฝาแฝดเป็นครั้งแรก โดยพ.ต.ท.ทักษิณส่งเครื่องบินส่วนตัวมารับนางพินทองทา (ชินวัตร) คุณากรวงศ์ พร้อมสามี และพิณธารา กับ พิณนารา หรือ น้องเอมิ-นานิ ลูกสาวฝาแฝด พร้อมด้วยน.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็ก และรอรับที่สนามบินของสิงคโปร์ เมื่อพบหน้ากัน พ.ต.ท.ทักษิณได้โผเข้ากอดและขออุ้มหลานสาวทั้งสองทันที พร้อมหอมแก้มหลานสาว จากนั้นลูกๆ ได้เข้าสวมกอด ทำให้พ.ต.ท.ทักษิณน้ำตาคลอและกล่าวว่า ได้เจอกันซะที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธารโพสต์ภาพและข้อความทางอินสตาแกรมส่วนตัว อาทิ "เห็นหลานผ่านกระจกยังดีใจขนาดนี้ และบอกขออุ้มพร้อมกันสองคน" อย่างไรก็ตาม ในภาพพ.ต.ท.ทักษิณ แสดงอาการดีใจ ยิ้มแย้มแจ่มใสอยู่ตลอดเวลา