- Details
- Category: การเมือง
- Published: Friday, 08 May 2015 12:12
- Hits: 3351
บุญทรง-ภูมิ-มนัส ระทึก โหวตวันนี้ สนช.ถอดถอนจีทูจีข้าว 'วิชา'แถลงปิดคดีทุจริตจำนำข้าว ย้ำจีทูจีลวงโลก-ลวงรัฐ 'บุญทรง'ซัดยุติธรรมอำพราง จวก ป.ป.ช.มีอคติ-เกลียดชังฝ่ายตรงข้าม 'ภูมิ'วอนรอศาลฎีกาตัดสินก่อน สนช.ลงมติวันนี้
2 ฝ่ายโต้นัวแถลงปิดคดี ทหารใช้ม.44 รวบ'9 ยิว'สาธิตดักฟังที่สันติบาล บิ๊กตู่แจงทำประชามติ รธน.ผ่าน-ให้ 5 สายเคาะ
@ นายกฯบ่นชิมผลไม้เยอะ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม ที่ตึกบัญชาการ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งเลื่อนมาจากวันที่ 5 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันฉัตรมงคล โดย พล.อ.ประยุทธ์พูดคุยกับสื่อมวลชนภายหลังร่วมเปิดงานเทศกาลตลาดผลไม้คุณภาพ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 6 พฤษภาคม ว่า "ทานเยอะไปหน่อย ชิมทุกร้าน บังเอิญว่าไม่ใช่เป็นคนธาตุเบา แต่เนื่องจากกินอาหารหลายชนิดเลยต้องกินยาธาตุดักไว้หน่อย แต่ก็ไม่เป็นอะไร ผมไม่มีปัญหา อาการปกติ แต่เนื่องจากชิมทุกร้านก็เลยต้องกินยาธาตุน้ำขาวตรากระต่ายบินดักไว้ แต่ก็เป็นห่วงบรรดาทูตที่ร่วมชิมอาหารไปพร้อมๆ กับผม บางคนไม่เคยทานทุเรียนก็ได้ทาน ไม่รู้ว่าต้องกินยาธาตุบ้างหรือเปล่า แต่ก็ต้องชิมเพื่อให้กำลังใจพ่อค้าแม่ค้าด้วย"
@ ครม.-คสช.ถกปมรธน.19 พค.
จากนั้นในเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ว่า ได้คุยกันถึงเรื่องประชาธิปไตยและเรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งได้ให้แนวทางไปหมดแล้ว ทุกอย่างต้องใจเย็นๆ เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ตอนนี้อยู่ในกรอบของรัฐธรรมนูญอยู่ ฉะนั้นการจะตกลงได้หรือไม่ ต้องรอการแก้ไขที่แต่ละส่วนส่งไป โดยในส่วนของ ครม.และ คสช.จะคุยกันในวันที่ 19 พฤษภาคม หากจะแก้ตรงไหนจะเสนอไปที่ กมธ.ยกร่างฯ เช่นกัน อำนาจในการแก้หรือไม่แก้อยู่ที่ กมธ.ยกร่างฯ ซึ่งรัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนไว้เช่นนั้น
"ผมจะเอามาตรา 44 ไปทับรัฐธรรมนูญอีกทีก็ไม่ได้ ฉะนั้นต้องเข้าใจด้วย ศักดิ์ศรีมันเท่ากัน ทั้งนี้หากแก้เสร็จตามระยะเวลาก็เป็นเรื่องของ สปช.ที่จะลงมติ จะผ่านหรือไม่ผ่านผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าไม่ผ่านตามรัฐธรรมนูญชั่วคราวระบุไว้ว่าต้องตั้งใหม่ และยกร่างฯกันใหม่ ใช้เวลาตามสูตร ผมไม่อยากจะบอกวันนั้นวันนี้ ทุกอย่างถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องเป็นอย่างนั้น ผมไม่ได้ไปทำให้มันไปไม่ได้เสียเมื่อไหร่ แต่ถ้ามติของ สปช.ผ่าน ก็ต้องไปถาม 5 สายต้องการอย่างไร ฟังแล้วต้องการทำประชามติหรือไม่ เห็นชอบร่วมกันหรือไม่ ถ้าเห็นชอบร่วมกันว่าต้องทำประชามติ ก็ต้องใช้เวลาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวก่อนถึงจะทำประชามติได้ ผมยืนยันและใช้คำว่าเป็นไปตามโรดแมป รัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนไว้อย่างไรก็เป็นอย่างนั้น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ ชี้รธน.ละเอียด-ขัดแย้งสูง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นที่ให้ความคิดเห็นไป เป็นความคิดเห็นของตนเอง เพราะเห็นว่ารัฐธรรมนูญของไทยเปลี่ยนมาหลายรอบแล้วเต็มที เป็นเพราะลงรายละเอียดมากเกินไปหรือเปล่า อันนี้เป็นข้อคิดเฉยๆ ที่คิดเอง ลงรายละเอียดมากๆ ก็เอารัฐธรรมนูญมาตีกัน การเขียนรัฐธรรมนูญควรจะเขียนประเด็นหลักๆ ไหม ควรจะมีสักเท่าไหร่ อะไรทำนองนี้ แต่จะมีเท่าไหร่ตนก็ยังไม่รู้เลย เพราะไม่ใช่นักกฎหมาย ต้องมาดูกันว่าสิ่งไหนควรอยู่ในรัฐธรรมนูญ หรืออยู่ในกฎหมายลูก อะไรควรจะอยู่ในบทเฉพาะกาล ถ้าจะทะเลาะกันก็ทะเลาะกันตรงส่วนล่าง รัฐธรรมนูญจะได้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย และรัฐธรรมนูญฉบับนี้จะได้สามารถชี้แจงชาวโลกได้ว่ารัฐธรรมนูญไทยไม่ได้ขัดแย้งกับคนอื่นมากนัก แต่หากจะผิดเพี้ยนเพื่อที่จะปฏิรูปควรจะเขียนไว้ตรงไหน วันนี้เหมือนกับว่าเอาทุกอย่างไปใส่ไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งหมด เลยทำให้ความขัดแย้งสูง สิ่งนี้เป็นความคิดของตนเอง แต่ไม่รู้ว่าจะทำได้แค่ไหน อย่างไร ต้องถามนักกฎหมายอีกที เป็นความเห็นส่วนตัวของตน ต้องฟัง คสช.และ ครม.ทั้งคณะอีก
@ ชี้ 5 สายเคาะทำประชามติ
เมื่อถามย้ำว่าเรื่องการทำประชามติยังต้องเป็นไปตามที่นายกฯเคยพูดหรือไม่ ว่าต้องให้ กมธ.ยกร่างฯเสนอความเห็นมา พล.อ.ประยุทธ์กล่าวย้ำว่า 5 สายต้องประชุมร่วมกัน ไม่ใช่ กมธ.ยกร่างฯ ก่อนหน้านั้นอาจจะพูดผิด ยังงงๆ เหมือนกัน แต่การทำประชามติต้องใช้เงิน 3,000 ล้านบาท ขอให้จำตัวเลขไว้ เงิน 3,000 ล้านบาทเก่าอยู่ไหนยังไม่รู้ จะต้องมี 3,000 ล้านบาทใหม่อีกรอบ แล้วถ้าไม่ผ่าน แล้วทำประชามติใหม่อีกรอบหรือไม่ ถ้าทำก็ต้องใช้เงินอีก 3,000 ล้านบาท เมื่อถามว่า รัฐบาลมีเงินพร้อมทำประชามติหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ถ้าอยากให้ทำประชามติก็ต้องยอมรับสภาพและใช้เงินที่มีอยู่ แทนที่จะนำเงินไปทำอะไรที่สร้างความเข้มแข็ง ไปซื้อวัสดุหรือลดต้นทุนชาวนา แต่ต้องมาหายไป 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะได้อะไรขึ้นมากับตรงนี้หรือไม่ตนก็ยังไม่รู้ แต่อาจจะได้ก็ได้นะ ถามว่าคนจะยอมรับทั้งหมดหรือไม่ ก็ไม่หมดหรอก เผลอๆ ก็เท่าเก่า ผ่านไม่ผ่านจะยอมรับไปก่อนหรือไม่ นั่นแหละอันตราย ถ้าผ่านก็ต้องผ่านทั้งหมด ไม่ผ่านก็ไม่ผ่านทั้งหมด นั่นแหละถึงจะเลิกทะเลาะกันเสียที แต่อย่าให้ใครมาชี้นำ
@ ยันให้ศปป.จัดประชุมพรรค
เมื่อถามว่า ถ้านักการเมืองต้องการจะลงพื้นที่พบประชาชน อย่างที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่พบชาวนาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จะสามารถทำได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะไม่มีหน้าที่ตรงนั้น อะไรที่เป็นหน้าที่ของการเมืองหรือเกี่ยวข้องกับการเมืองทำไม่ได้หมด ทำได้เพียงการร่วมประชุมกับศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ถ้าอยากจะพบปะกัน กำลังให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ดูรายละเอียดว่าจะประชุมพรรคกันที่ไหนอย่างไร แต่ต้องไม่ใช่การประชุมอิสระเพราะประชุมกันอยู่แล้ว ทางโทรศัพท์ก็สามารถคุยกันได้ แต่ถ้าอยากประชุมพรรคให้ไปที่ ศปป. จะจัดห้องไว้ให้ แล้วจะให้คนไปนั่งฟังด้วย เมื่อถามว่าสิ่งที่ พล.อ.ชวลิตทำสามารถถือว่าผิดคำสั่ง คสช.หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเข้มว่า "ท่านเป็นใคร ควรจะรู้หรือไม่ว่าควรต้องทำอะไรอย่างไร ไปถามท่านโน่น เดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เคารพท่านอีก แต่นี่เคารพอยู่ เพราะท่านเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา ถ้าท่านทำไปมากกว่านี้ และผิดพลาดมากกว่านี้ คนก็มาเล่นงานผมอีก แต่อย่าลืมว่าท่านไปอยู่กับรัฐบาลมาก่อน และไม่ได้อยู่ข้างรัฐบาลผม ฉะนั้นท่านก็อยู่ในข่ายเหมือนกัน แต่ผมเคารพท่านเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วในฐานะทหารเก่า และไม่เคยดูถูกท่าน ในความเป็นคนเก่งของท่าน แต่วันนี้ท่านอายุเยอะแล้วนะ" เมื่อถามว่า การที่ระบุว่า พล.อ.ชวลิตอายุเยอะ ควรพักผ่อนแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "ไม่รู้ แล้วแต่จะคิด แต่ท่านก็เคยเสนอว่าพร้อมที่จะเป็นนายกฯ ไม่ใช่เหรอ"
@ สนช.รับทราบไม่ถอด'หญิงเป็ด'
เมื่อเวลา 10.30 น. ที่รัฐสภา นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่ประธานในการประชุม สนช. โดยก่อนเข้าสู่วาระ นายพรเพชรได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อกรณีคุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา อดีตประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ อนุมัติให้ไปดูงานสำนักงานผู้ตรวจเงินแผ่นดิน ประเทศฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี ระหว่างวันที่ 5-14 พฤษภาคม 2546 ว่าไม่สามารถเอาผิดทางวินัยและไม่ต้องดำเนินการถอดถอนเนื่องจากคุณหญิงจารุวรรณพ้นตำแหน่งไปแล้ว นอกจากนี้ยังขอให้ที่ประชุมรับทราบการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่ง คสช.ที่ 9/2558 เรื่องการให้ข้าราชการสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ และ 10/2558 เรื่องการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย
@ 'วิชา'แถลงปิดคดีโกงข้าว
จากนั้นเข้าสู่วาระการแถลงปิดคดีถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ออกจากตำแหน่ง ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ประกอบมาตรา 56(1) และมาตรา 58 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยนายวิชา มหาคุณ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงปิดสำนวนว่า กระบวนการระบายข้าวแบบจีทูจีไม่มีอยู่จริง แต่เป็นวิธีการกระทำการอย่างซับซ้อนที่รู้ช่องโหว่เป็นอย่างดี โดยได้รับความร่วมมือจากข้าราชการประจำที่รู้ช่องทาง พร้อมด้วยบริษัทนิติบุคคล โดยทำงานเป็นขบวนการ สร้างความเสียหายให้ประเทศชาติอย่างร้ายแรง ซึ่งนายมนัส ในฐานะผู้เจรจาร่วมกับนายภูมิและนายบุญทรง ได้ละเว้นไม่ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า บริษัทกวางตุ้งและบริษัทไฮ่หนาน ที่อ้างว่าได้รับมอบหมายจากรัฐบาลจีนมาทำสัญญาซื้อขายข้าวจริงหรือไม่ ข้อเท็จจริงไม่มีหลักฐานใดยืนยันชัดเจนได้ว่าเป็นบริษัทค้าขายข้าว แต่เป็นบริษัทค้าเครื่องเขียนและเครื่องกีฬา และตัวแทน 2 บริษัทเข้ามายังไทยโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว ถือว่าไม่สง่าผ่าเผย ไม่สมฐานะในฐานะผู้แทนการค้าระหว่างประเทศ ไม่ปรากฏสถานะทางการเงินที่อ้างว่าเป็นผู้แทนจากต่างประเทศ ตัวแทน 2 คนในบริษัทอีกคนหนึ่งเป็นพนักงานส่งเอกสารและคนขับรถของบริษัทสยาอินดิก้าเท่านั้น จึงถือว่าเป็นการบิดเบือนข้อมูลการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ
@ ย้ำจีทูจีลวงโลก-ลวงรัฐ
นายวิชา กล่าวว่า นอกจากนี้เงินที่นำมาชำระค่าข้าวเป็นเงินที่มาจากผู้ค้าข้าวภายในประเทศ ไม่ใช่จากต่างประเทศ การอ้างว่าค้าข้าวแบบรัฐต่อรัฐจึงเป็นกลอุบายของ
ผู้ถูกกล่าวหาที่สร้างขึ้นมาเพื่อสมคบคิดและอุปโลกน์ ถือเป็นการทำสัญญาจีทูจีแบบลวงโลก ลวงรัฐ และหลอกลวงประชาชน อาศัยกลอุบายเล่ห์กระเท่ห์ เป็นกระบวนการร่วมมือกัน มีการวางแผนเป็นขั้นตอน
"ขอยืนยันว่ากระบวนการทั้งหมดนี้ ป.ป.ช.ไม่ได้ใช้ความรู้สึกส่วนตัวแต่อย่างใด และไม่ใช้ข้อมูลตกแต่ง แต่เป็นข้อมูลความจริงที่ได้มาจากการไต่สวน และข้อกล่าวหาที่ว่าไม่ได้เปิดให้บริษัทเอกชนให้ข้อเท็จจริงนั้นก็ไม่เป็นความจริง ป.ป.ช.ได้มีการเปิดให้เข้ามาให้ข้อเท็จจริง ทั้งหมดจะปรากฏอยู่ในสำนวนของ ป.ป.ช. ดังนั้นการกล่าวหาว่า ป.ป.ช.มีอคตินั้นไม่เป็นความจริง มีขั้นตอนกระบวนการไต่สวนที่อยู่บนพื้นฐาน และมีการสอบพยานหลักฐานทุกฝ่ายอยู่บนหลักความเป็นธรรมในการพิจารณาทุกขั้นตอน" นายวิชากล่าว
@ 'ภูมิ'ให้รอศาลฎีกาตัดสินก่อน
ต่อมานายภูมิแถลงปิดสำนวนว่า ตนปฏิบัติหน้าที่เร่งด่วน โปร่งใส ไม่ให้มีการทุจริตในการระบายข้าว การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี เป็นยุทธศาสตร์การระบายข้าวรูปแบบหนึ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ โครงการรับจำนำข้าวเป็นโครงการใหญ่มีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก หากพบว่ามีการทุจริต ควรตรวจสอบแก้ไขเอาผิดผู้ทุจริตนั้น ไม่ใช่เหมารวมว่าผู้รับผิดชอบโครงการต้องรับผิดทั้งหมด ถ้าใช้วิธีการนี้ต่อไปก็ยากที่จะหาคนทำงานอย่างทุ่มเท อยากตั้งข้อสังเกตไปที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า สำนวนของ ป.ป.ช.ไม่มีหลักฐานและพยานบุคคลยืนยันว่าเป็นผู้กระทำผิด และถือเป็นการยัดเยียดข้อกล่าวหาให้ตน ดังนั้น หาก สนช.ดำเนินการถอดถอนต่อไปและสุดท้ายถูกถอดถอน ขณะที่คดีความอยู่ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และปรากฏว่าในอนาคตศาลได้ยกฟ้อง อยากจะถามว่า สนช.จะมีมาตรการอะไรเยียวยาหรือไม่ จึงเสนอให้ยุติกระบวนการและรอการตัดสินของศาลก่อน
@ 'บุญทรง'ซัดยุติธรรมอำพราง
จากนั้นนายบุญทรงแถลงปิดสำนวนว่า ยืนยันว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะยืนยันอย่างนี้ไปตลอดชีวิต เพราะขั้นตอนการระบายข้าวไม่สามารถใช้เล่ห์กระเท่ห์ อุปโลกน์สวมรอยใดๆ ได้อย่างที่ผู้กล่าวหาใช้วาทกรรม ขณะที่การดำเนินการเป็นการทำแบบจีทูจีจริง ไม่ใช่เก๊ตามที่ผู้ถูกกล่าวหาสร้างวาทกรรมมาตลอด
"ความเป็นธรรมที่จะสอบพยานให้ผมไม่มีพื้นที่เลยหรือ การไต่สวนในคดีทางอาญาและรับโทษจำคุกตลอดชีวิต และปรับหลายหมื่นล้านบาท จะให้โอกาสเฉพาะฝ่าย
ผู้กล่าวหาเท่านั้นหรือ แล้วเหตุใดฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาอย่างพวกผมถึงไม่ได้รับโอกาสเช่นนั้นบ้าง บัดนี้ผมได้ประจักษ์ด้วยตนเองแล้วว่า
คำอ้างอันสวยหรูของท่านเป็นเพียงวาทกรรมที่ประดิษฐ์ และหยิบออกมาใช้ตามที่ต้องการไปวาดภาพความเลวร้ายให้ผู้อื่น แล้วยกภาพตัวเองเป็นวีรบุรุษปราบทุจริต ย้อนแย้งกับความเป็นจริงอย่างสิ้นเชิง เพราะ ป.ป.ช.เลือกสอบพวกผมอย่างรวดเร็ว แต่ไม่สอบคดีที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพวกผม บางกรณีรอเป็น 10 ปี ป.ป.ช.เลือกถอดถอนนายมนัส แต่วันนี้ ป.ป.ช.เลือกที่จะไม่ถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณ ซึ่งทำให้เข้าใจได้ว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการอำนวยความยุติธรรมแบบ 2 มาตรฐาน ถือเป็นความยุติธรรมอำพรางเพื่อเบี่ยงเบนซัดทอดกันในทางการเมืองเพียงอย่างเดียว" นายบุญทรงกล่าว
@ จวกมีอคติ-เกลียดชัง
นายบุญทรง กล่าวต่อว่า ผู้กล่าวหาเคยได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าประสงค์ให้ประชาชนตราหน้าพวกตนว่ากระทำการทุจริต ทั้งยังได้กล่าวอย่างเปิดเผยว่าประสงค์ให้สภาแห่งนี้ถอดถอนพวกตน เพื่อให้มีความอับอายขายหน้าต่อวงศ์ตระกูลของพวกตนตลอดไป การกล่าวเช่นนี้คงไม่ได้ต้องการแค่เพิกถอนทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออกอย่างอคติเกลียดชังเคียดแค้นพวกตน ทั้งๆ ที่การเข้ามาทำหน้าที่ของผู้กล่าวหาก็ไม่เป็นไปตามทํานองคลองธรรม แต่กลับยกตนเอาดีใส่ตัวว่าเป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมตลอดเวลา พวกตนยืนยันที่จะขอปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
จากนั้นนายพรเพชรแจ้งต่อที่ประชุมว่า ในวันที่ 8 พฤษภาคม เวลา 10.00 น. จะเป็นการลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอนต่อไป
@ สนช.ส่อถอดถอน'บุญทรง-ภูมิ'
รายงานข่าวจากรัฐสภาแจ้งว่า สำหรับทิศทางการลงมติถอดถอนนายบุญทรง นายภูมิ และนายมนัส กรณีการทุจริตการระบายข้าวจีทูจีในวันที่ 8 พฤษภาคม สนช.ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ทั้ง 3 คนมีความผิดจริงในกรณีดังกล่าว ป.ป.ช.สามารถชี้แจงโดยอ้างพยานหลักฐานได้อย่างชัดเจนกว่า ต่างจากผู้ถูกกล่าวที่ไม่สามารถชี้แจงได้ว่าข้าวที่ทำสัญญามีการส่งออกนอกประเทศจริงหรือไม่ ทำให้เสียง สนช.ทุกสายเทไปในทิศทางเดียวกันว่าจะลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่ง โดยคะแนนจะไม่ต่ำกว่าครั้งที่ สนช.เห็นชอบถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คือ 190 เสียง โดยกรณีของนายมนัสจะถูกถอดถอนด้วยคะแนน 150 เสียง หรือเกิน 3 ใน 5 เพียงเล็กน้อย เนื่องจาก สนช.สายข้าราชการเข้าใจว่า เมื่อพ้นจากการดำรงตำแหน่งข้าราชการแล้ว ไม่ควรต้องโดนถอดถอนอีก ประกอบกับนำมติล่าสุดไม่ดำเนินการถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณมาเทียบเคียง อย่างไรก็ตาม สนช.ส่วนใหญ่ต่างเห็นคล้อยตามว่าต้องถอดถอนเพื่อไม่ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตมาดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้อีก
@ 'สมลักษณ์'ชี้ต้องถอด'หญิงเป็ด'
นางสมลักษณ์ จัดกระบวนพล อดีตกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีที่ ป.ป.ช.มีมติไม่ส่งสำนวนถอดถอนคุณหญิงจารุวรรณเข้าสู่กระบวนการถอดถอนของ สนช.ว่า ส่วนตัวมองว่า ป.ป.ช.ต้องส่งสำนวนถอดถอนให้ สนช.พิจารณา ตามที่ พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. มาตรา 92 วรรคสาม ระบุว่า ผู้ถูกกล่าวหาซึ่งไม่มีกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับเกี่ยวกับวินัย หากกระทำผิดในเรื่องที่ถูกกล่าวหา ให้ประธานกรรมการส่งรายงานและเอกสารที่มีอยู่ พร้อมทั้งความเห็นของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไปยังผู้บังคับบัญชา หรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป เหมือนกับกรณีของนายมนัสที่โดนชี้มูลความผิด เนื่องจากหน่วยงานของนายมนัสมีบทลงโทษทางวินัยและส่งให้ สนช.ดำเนินการตามกระบวนถอดถอน เพราะเป็นข้าราชการระดับสูงเหมือนกัน และเนื่องจากอำนาจของการถอดถอนมีผลผูกพัน ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 5 ปีด้วย จึงไม่อาจระบุได้ว่า เพราะพ้นจากตำแหน่งไปแล้วจึงไม่ส่งสำนวนให้ สนช.พิจารณา
นายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ชี้แจงว่า ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องที่กล่าวหาดังกล่าวแล้วมีมติว่าคุณหญิงจารุวรรณเพียงปฏิบัติหน้าที่โดยบกพร่อง ประพฤติตนไม่เหมาะสม ไม่ระมัดระวังรักษาผลประโยชน์ของทางราชการ ไม่ถึงขั้นเป็นความผิดทางอาญา และเนื่องจากตำแหน่งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินไม่มีกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับเกี่ยวกับวินัย จึงไม่สามารถดำเนินการทางวินัยได้ และได้พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว ป.ป.ช.จึงมีมติให้มีหนังสือแจ้งให้ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนทราบ
@ 'บวรศักดิ์'ชี้รธน.แก้ 4 ปัญหา
วันเดียวกัน ที่วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต ในงานประชุมวิชาการระดับชาติ ครั้งที่ 3 เรื่อง "นวัตกรรมสังคมกับการปฏิรูปประเทศไทย 360 องศา" โดยมีนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ได้ขึ้นปาฐกถาหัวข้อ การปฏิรูปการเมือง : ประเทศไทยหลังรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2558 โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า "สภาวะการร่างรัฐธรรมนูญในขณะนี้ต้องเหลียวหลังไปแก้ไขปัญหาที่ผ่านมา พร้อมกับต้องแลหน้าไปถึงอนาคต มีเจตนารมณ์ 4 ข้อ คือ 1.ทำพลเมืองให้เป็นใหญ่ 2.การเมืองใสสะอาดและสมดุล 3.หนุนสังคมที่เป็นธรรม และ 4.นำชาติสู่สันติสุข วันนี้ความขัดแย้งเหมือนลดลง เพราะมียาบรรเทาไข้คืออำนาจของ คสช. แต่ใครจะตอบได้ว่าหลังใช้รัฐธรรมนูญ อาการไข้เหล่านี้จะไม่กลับมาเมื่อ คสช.หมดอำนาจ รัฐธรรมนูญนี้จึงต้องออกแบบเหลียวหลังแลหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้อาการไข้เหล่านั้นกลับมาได้" นายบวรศักดิ์กล่าว
@ พท.ขอช่องระดมความเห็น
นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ คสช.ไม่เปิดช่องให้พรรคการเมืองประชุมระดมสมองเพื่อเสนอความเห็นในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า ทาง คสช.คงไม่เข้าใจในสิ่งที่เสนอ ว่าในเรื่องนี้ต้องการความเห็นของคนทั้งพรรค แต่ต้องการระดมสมองของคนทั้งพรรคเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่มองเห็นได้ชัดเจนและมาจากทุกคนในพรรค
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษก พท. กล่าวว่า กระแสการทำประชามติเกิดขึ้นแล้วและดังขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นช่องทางเดียวที่จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยึดโยงกับประชาชนบ้าง แต่ข้อเสนอส่วนใหญ่ของ กมธ.ยกร่างฯ สปช.และ สนช. ล้วนเป็นข้อเสนอ ไม่กล้าหาญเสนอแนวทางประชามติเพื่อรักษาอำนาจ รักษาผลประโยชน์ตัวเอง บางคนยังไม่เข้าใจข้อแตกต่างระหว่างประชามติกับประชาพิจารณ์ด้วยซ้ำ แต่ที่หนักที่สุดคือเสนอให้ทำประชามติหลังใช้รัฐธรรมนูญ 90 วัน
เพราะหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ผ่าน กมธ.ยกร่างฯและ สปช.ต้องเก็บกระเป๋าออกจากบ้านแม่น้ำ 5 สายทันที แต่หากผ่านจะได้วีซ่าอยู่ต่อในสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศและคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปแห่งชาติเป็นของขวัญ ทั้งที่เงินเดือนและค่าตอบแทนของคนกลุ่มนี้เป็นหนี้ที่ไม่ควรจ่ายของประเทศ เพราะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ก่อแต่ระเบิดเวลาความขัดแย้ง
@ 'สุเทพ'ต้านกลุ่มการเมืองลงส.ส.
ที่วัดธารน้ำไหล จ.สุราษฎร์ธานี พระสุเทพ ปภากโร หรือนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคการเมืองและนักการเมืองคิดเรื่องของตัวเองมากเกินไป หรือเห็นแก่ตัว วันนี้นักการเมืองและพรรคการเมืองควรคิดถึงเรื่องประเทศชาติ แต่พรรคการเมืองจะต้องเป็นของประชาชน ส่วนที่รัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้กลุ่มการเมืองลงสมัคร ส.ส.ได้นั้น ไม่แน่ใจว่าต้องการอะไร ประเทศต้องไปด้วยการเมือง การทำการเมืองต้องทำด้วยพรรคการเมือง ในรูปแบบพรรคการเมือง ถ้าปล่อยให้คน 5 คน 8 คน รวมตัวกันเป็นกลุ่มการเมืองได้จะทำให้การเมืองไม่แข็งแรง เป็นผลร้ายต่อสังคมไทย
@ ทหารบุกรวบ 9 ยิวคาสันติบาล
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจสันติบาล (บช.ส.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่บริษัทเอกชนจากประเทศอิสราเอลได้มาสาธิตการใช้เครื่องดักฟังและการเช็กพิกัด โดยมาสาธิตที่ห้องประชุมกองบัญชาการตำรวจสันติบาลอยู่นั้น ได้มีเจ้าหน้าที่ทหารจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ กว่า 10 นาย นั่งรถฮัมวี่ 3 คัน พร้อมอาวุธครบมือได้บุกเข้ารวบตัวเจ้าหน้าที่ชาวอิสราเอลดังกล่าวจำนวน 9 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ทหาร-ตำรวจของประเทศอิสราเอล ทำให้ตำรวจสันติบาลที่อยู่ในห้องประชุมต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ทหารได้มีการชี้แจงว่าเป็นการควบคุมตัวตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว และได้นำเจ้าหน้าที่อิสราเอลทั้งหมดไปควบคุมไว้ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์
มีรายงานว่าทหารชุดดังกล่าวได้มาเฝ้ารอตั้งแต่เวลา 08.00 น. ก่อนที่จะบุกเข้าจับกุมขณะที่มีการสาธิตในห้องประชุม โดยการบุกเข้าจับกุมไม่ได้มีการประสานกับกองบังคับการสันติบาล 3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่แต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่หลายนายแต่ได้รับการปฏิเสธที่จะพูดถึงเรื่องดังกล่าว