- Details
- Category: การเมือง
- Published: Tuesday, 05 May 2015 23:59
- Hits: 6762
แฉบิ๊กท้องถิ่นตัวการใหญ่ จับได้แล้ว4 ร่วมขบวนการค้าโรฮิงญา'รองนายกเล็ก-ส.ท.'เอี่ยว 'บิ๊กอ๊อด'สั่งเด้งผบก.สตูล ผกก.ควนโดน-5 เสือปาดัง นอภ.พักงานผญบ.-ผู้ช่วย 'บิ๊กโด่ง'ให้เอกซเรย์พื้นที่
มติชนออนไลน์ : ศาลอนุมัติหมายจับยกชุดขบวนการค้ามนุษย์โรฮิงญาฝังบนเขาแก้ว สงขลา 'บิ๊กอ๊อด'แถลงรวบแล้ว 4 ไล่ล่า'รองนายกเล็ก-พวก'อีก 4 สั่งเด้ง'ผู้การสตูล' เผยซี้ หน.ขบวนการ พร้อม 5 เสือโรงพักปาดังเบซาร์ เก็บกรุ เล็งย้าย ตร.หลายหน่วยอีกล็อตใหญ่
@ 'ผบ.ตร.'ลงพื้นที่จี้ค้า'โรฮิงญา'
เมื่อเวลา 08.30 วันที่ 4 พฤษภาคม ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชนและสตรี และปราบปรามการค้ามนุษย์ ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร.ด้านความมั่นคง พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล พล.ต.ต.ธิติ แสงสว่าง ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ พร้อมชุดสืบสวนพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ประกอบด้วย พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รอง ผบช.สยศ.ตร. พล.ต.ต.ชัยวัฒน์ แจ้งยอดสุข พล.ต.ต.ชาญเทพ เสสะเวส รอง ผบช.น. และชุดสืบสวนลงพื้นที่การเสียชีวิตของชาวโรฮิงญาจำนวนมากในค่ายกักกันชั่วคราวบนยอดเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา
บนเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ที่ห้องประชุม สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม
@ เผย'บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม'ให้ความสำคัญ
พล.ต.อ.สมยศกล่าวก่อนเดินทางว่า ได้รับบัญชาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ลงพื้นที่ จ.สงขลาเพื่อไปรับทราบข้อมูลหลังพบศพของชาวโรฮิงญาจำนวนมาก เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญมาก เนื่องจากส่งผลกระทบระดับประเทศในการพิจารณาผลการดูแลแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยมอบหมายให้ พล.ต.อ.
เอกดูแลในเรื่องการค้ามนุษย์ เมื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลพบว่าเป็นขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ จึงมอบหมายให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคงเข้ามากำกับดูแลในประเด็นนี้ โดยให้ทำงานบูรณาการกันทุกฝ่ายเต็มที่
"เมื่อสักครู่นายกรัฐมนตรีก็โทรศัพท์กำชับอีกครั้ง ให้ผมลงไปดูแลคดีนี้ให้ดี ใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงให้จับกุมดำเนินคดีไม่ละเว้น ไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งสิ้น เรื่องนี้สร้างปัญหาให้แก่ประเทศชาติอย่างร้ายแรง" ผบ.ตร.กล่าว
@ เล็งหารือมาเลย์-พม่าจับค้ามนุษย์
เมื่อถามว่าจุดที่ตั้งค่ายกักกันอยู่ไม่ห่างจากที่ตั้งของตำรวจตระเวนชายแดนถือว่าบกพร่องหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขอให้ พล.ต.อ.เอกใช้เวลาสอบสวนขยายผลก่อน หากพบเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่มีการละเว้น และที่พบว่าค่ายนี้อยู่ไม่ห่างจากค่าย ตชด.ก็ต้องนำมาพิจารณาว่าเข้าไปมีส่วน มีหลักฐานเข้าไปเกี่ยวข้องช่วยเหลือรับผลประโยชน์หรือไม่ แต่ถ้าพบว่าเข้าข่ายปล่อยปละละเลยก็ไม่เอาไว้เหมือนกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ตนโทรศัพท์ประสานงานกับ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ซึ่งลงพื้นที่ จ.สงขลาในวันนี้ด้วย ที่ผ่านมาตำรวจทหารร่วมกันมาตลอด ประสานแลกเปลี่ยนข่าวสารกันตลอดเวลา ขณะนี้ชัดเจนว่าจุดที่พบค่ายกักกันและพบศพเป็นเรื่องของขบวนการค้ามนุษย์ข้ามชาติ
"จากนี้ชุดสืบสวนสอบสวนทุกหน่วยที่ร่วมทำคดี ทั้งในพื้นที่ และชุดของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ต้องประสานงานไปยังประเทศมาเลเซียและพม่าเพื่อจับกุมเครือข่ายนี้ ขณะที่สันติบาลต้องเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในการแก้ปัญหานี้ สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของชาวโรฮิงญาทั้ง 26 รายนั้นยังอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิต ขณะเดียวกันจะเกี่ยวพันกับกรณีการเรียกค่าไถ่ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราชหรือไม่ยังต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอเช่นกัน" พล.ต.อ.สมยศกล่าว
@ รวบแล้ว'ส.ท.-ผช.ผญบ.'หลบหนี 4
เวลา 11.00 น. พล.ต.อ.สมยศพร้อมคณะลงพื้นที่ จ.สงขลา ประชุมและรับฟังสรุปความคืบหน้าคดี รวมทั้งวางแนวทางการสืบสวนสอบสวนที่สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ ล่าสุดออกหมายจับผู้ต้องหาแล้วทั้งหมด 8 คนในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขัง และร่วมกันเรียกค่าไถ่ ซึ่งในจำนวนนี้จับกุมได้แล้ว 4 คน ประกอบด้วยนายอ่าสัน หรือบังสัน อินทธนู อายุ 42 ปี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ นายร่อเอน สนยาแหละ อายุ 41 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ โดยทั้ง 2 คนทำหน้าที่จัดหาเสบียง นายอาหลี ล่าเม๊าะ อายุ 47 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ต.ปาดังเบซาร์ ทำหน้าที่ควบคุมแคมป์ และนายซอ เนียง อานู หรืออันวา อายุ 40 ปี ชาวพม่า ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนี้ยังยึดอาวุธปืนขนาด 9 มม. อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุน 8 นัด และแจ้งข้อหานายอ่าสันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตอีก 1 ข้อหา พร้อมกับได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาแถลงต่อสื่อมวลชน ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธ
ส่วนผู้ต้องหาที่หลบหนีมีนายประสิทธิ์ เหล็มเหล๊ะ รองนายกเทศมนตรีตำบลปาดังเบซาร์ อ.สะเดา นายยาหลี เขร็ม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ นายพรรคพล เบ็ญล่าเต๊ะ อายุ 47 ปี และนายเจริญ ทองแดง อายุ 45 ปี
@ คุมตัว 3 ผู้ต้องหาค้ามนุษย์แถลงข่าว
ต่อมา พล.ต.อ.สมยศนำตัวนายอ่าสัน นายร่อเอ และนายอาหลี 3 ใน 8 ผู้ต้องหามาแถลงข่าว โดยระบุว่าการขุดพบซากศพรวม 26 ศพนี้ถือเป็นคดีสำคัญ ที่นายกรัฐมนตรี รวมถึงประชาชนและนานาประเทศให้ความสนใจ จากการตรวจพิสูจน์นั้นทราบว่าศพที่ขุดขึ้นมาได้นั้นเสียชีวิตมานานนับปีส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งเพิ่งเสียชีวิตที่มีเนื้อติดอยู่ไม่กี่ศพ แสดงให้เห็นว่าค่ายที่พักชั่วคราวแห่งนี้มีมานานหลายปี ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตนั้นคงจะต้องรอการตรวจพิสูจน์อย่างละเอียด แต่เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตจากการเจ็บป่วยและอดอาหาร
"คาดว่าจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติมอีกอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ทำงานอีกระยะหนึ่ง สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนี้ ทำหน้าที่ในการควบคุมค่ายที่พักและส่งเสบียงอาหารให้แก่ค่ายแห่งนี้ ซึ่งเครือข่ายนี้ถือเป็นเครือข่ายระดับอาชญากรรมข้ามชาติ มีทั้งชาวพม่า ชาวไทยและมาเลเซียร่วมด้วย ดำเนินการต่อเนื่องมาแล้ว 3-4 ปี พล.ต.อ.สมยศกล่าว
@ ย้าย'ร.ต.ต.-ด.ต.'สายตรวจเข้ากรุ
จากนั้น พล.ต.อ.สมยศและคณะเดินทางลงพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ เพื่อเยี่ยมผู้บาดเจ็บชาวโรฮิงญา 2 คน และชาวบังกลาเทศ 2 คน ที่โรงพยาบาลปาดังเบซาร์ ซึ่งทั้ง 4 คนเคยถูกนำไปกักตัวอยู่ที่แคมป์บนยอดเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ โดย ผบ.ตร.พูดผ่านล่ามให้ทั้ง 4 คนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ และบอกข้อมูลเกี่ยวกับแคมป์แห่งนี้ รวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และจะให้การคุ้มครองดูแลอย่างดีที่สุด
ทั้งนี้ พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.ต.อารีย์ หมันสมัน รอง สวป.สภ.ปาดังเบซาร์ และ ด.ต.อัศณีย์รัญ นวลรอด ผบ.หมู่ ป.สภ.ปาดังเบซาร์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นตำรวจประจำป้อมเขารูปช้าง บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ ไปปฏิบัติราชการที่ ศปก.ภ.จว.สงขลา ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อสอบสวนกรณีที่เกิดขึ้น
ข่าวแจ้งว่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 3-4 คน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองด้วย ซึ่งเป็นเจ้าของแคมป์ใหญ่บนเทือกเขาแก้ว และผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้กว้างขวางในพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ นอกจากนี้ยังมีชาวโรฮิงญารวมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปแล้ว
@ เด้ง'ผู้การฯสตูล-5เสือปาดังฯ'
ต่อมา พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยอีกครั้งว่า จะลงนามคำสั่งให้ พล.ต.ต.สุนทร เฉลิมเกียรติ ผบก.ภ.จว.สตูล มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. เนื่องจากมีความสนิทสนมกับตัวการใหญ่ในขบวนการนี้ นอกจากนี้จะมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.วีระสัณห์ ธารเปียม ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ รอง ผกก.ป., รอง ผกก.สส., สวป. และ สว.สส.ที่รับผิดชอบพื้นที่ พ.ต.อ.ภาสกร ภักดีวานิช ผกก.สภ.ควนโดน จ.สตูล ไปช่วยราชการ ศปก.ตร. รวมทั้งตำรวจตระเวนชายแดน กก.ตชด.43 ที่ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่ค่ายกักกันจำนวนหนึ่ง มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร. ด้วย
พล.ต.อ.สมยศกล่าวด้วยว่า พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันทน์ ผบช.ภ.9 ได้เสนอรายชื่อตำรวจที่มีพฤติการณ์พัวพันหรือมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์ดังนี้คือ 1.ร.ต.ท.อารีย์ เชื่อว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ตั้งแคมป์ควบคุมชาวโรฮิงญาและบังกลาเทศที่เกิดเหตุและน่าเชื่อว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์จากขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่ดังกล่าว 2.ด.ต.อัศณีย์รัญ เพื่อนร่วมรุ่นกับ ร..ต.ท.อารีย์ เชื่อว่ามีการรับผลประโยชน์ 3.ด.ต.สุกาจ โสบผอม ผบ.หมู่ กก.ตชด.43 ทำหน้าที่กำกับดูแลพื้นที่ 4.ร.ต.ท.มงคล สุโล ผบ.มว.ร้อยตชด.4303 คุมกำลังที่ตั้งหน่วยบริเวณปากทางเข้าออกสู่แคมป์ดังกล่าว 5.ด.ต.เฉลิมพล จันทรัตน์
สังกัด ตม.6 คุมพื้นที่ดังกล่าว 6.ด.ต.สุชาติ จันทบูรณ์ ผบ.หมู่ ป.สภ.ปาดังเบซาร์ และ 7.ร.ต.ท.สุนันท์ แก้วมณี รอง สวป.หมวดการข่าว บก.ตชด.43 อย่างไรก็ตาม จะพิจารณาลงนามคำสั่งย้ายทั้งหมดช่วยราชการ ศปก.ตร.
พล.ต.อ.สมยศกล่าวด้วยว่า ในคดีนี้มอบหมายให้ชุดสืบสวนพิเศษจับกุมนายสุพจน์ (ไม่ทราบนามสกุล) ซึ่งเป็นคนยิงโรฮิงญา 2 คนให้ได้ เพราะนายสุพจน์จัดว่าเป็นกุญแจสำคัญที่จะสาวไปถึงนักการเมืองท้องถิ่นระดับนายกเทศมนตรีในพื้นที่ ซึ่งเป็นคนสำคัญคนหนึ่งในขบวนการนี้
สำหรับตัวการใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติจับเป็นนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่ภาคใต้ โดยมีประวัติพัวพันกับคดีค้าน้ำมันเถื่อนด้วย นายทวีวุฒิ สังข์ศิริ นายอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ได้ลงนามให้นายยาหลี นายอาหลี และนายร่อเอ พักหน้าที่ เพราะถ้าให้อยู่ในตำแหน่งต่อไปจะเสียหายแก่ราชการ
@ 'บิ๊กโด่ง'ลงพื้นที่'ระนอง'
เวลา 08.00 น. วันเดียวกัน ที่กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อุดมเดชกล่าวถึงความคืบหน้าแก้ไขปัญหาชาวโรฮิงญาว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ให้ลงพื้นที่ ปัญหาขณะนี้มีขบวนการลักลอบนำคนหลบหนีเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เข้ามาพักที่ประเทศไทย ก่อนจะส่งตัวไปยังประเทศที่สาม คิดว่าเรื่องนี้เป็นภัยร้ายแรง ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ให้หมดไปจากประเทศไทย ตามหลักมนุษยธรรม เพื่อไม่ให้ประเทศไทยตกเป็นเป้าหมายการค้ามนุษยในสายตาของนานาชาติ อย่างไรก็ตาม ทางรัฐบาลมีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหา ตั้งแต่นี้เป็นต้นไปจะกวดขันเรื่องค้ามนุษย์มากขึ้น ทั้งทหาร ตำรวจ และพลเรือนจะต้องร่วมมือกันดำเนินการ และต้องไม่ตกอยู่ในภายใต้อิทธิพลของคนใดคนหนึ่ง อีกทั้งในวันที่ 4 พฤษภาคม จะเดินทางไป จ.ระนอง เพื่อไปดูปัญหา เพราะเป็นพื้นที่จุดเริ่มต้นของขบวนการค้ามนุษย์ โดยนำคนมาทางเรือ
เวลา 09.30 น. ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) ภาค 4 ส่วนแยก 1 ต.ราชกรูด อ.เมือง จ.ระนอง พล.อ.อุดมเดชตรวจเยี่ยมและรับฟังสถานการณ์ปัญหาแรงงานต่างด้าวและชาวโรฮิงญาในพื้นที่ จ.ระนอง โดยมีหัวหน้าส่วนราชการและผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมและให้ข้อมูล
@ ยันไม่มีทหารเกี่ยวข้องค้ามนุษย์
ต่อมาที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสงขลา พล.อ.อุดมเดช เรียกประชุมรับทราบปัญหาข้อขัดข้องของหน่วยในการแก้ไขปัญหาผู้หลบหนีเข้าเมืองชาวโรฮิงญา มีนายเอกรัฐ หลีเส็น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมภาคส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วม
พล.อ.อุดมเดชกล่าวก่อนประชุมว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นผลกระทบที่ต้องเร่งแก้ไข โดยหลังจากนี้จะมีการเปิดยุทธการในการดูแลพื้นที่ ส่วนจะมีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ขณะนี้ไม่เฉพาะทหาร ทุกหน่วยจะต้องตรวจสอบ ดูแลไม่ให้เกิดเรื่องขึ้น และหากมีทหารเข้าไปมีส่วนพัวพันก็จะไม่ปกป้อง ยืนยันยังไม่มีข้อมูลว่ามีทหารเข้าไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายค้ามนุษย์
@ สอบน้าเหยื่อขอข้อมูลแก๊งเรียกค่าไถ่
ที่ จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจชุดสืบสวนภูธรภาค 9 จ.สงขลา ประสานกับ พ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รอง ผบก.ภ.จว.) นครศรีธรรมราช เพื่อสอบสวนปากคำ นายกูราเมีย อายุ 34 ปี ชาวโรฮิงญา น้าเขยนายกาซิม อายุ 20 ปี ซึ่งถูกแก๊งค้ามนุษย์ที่มีนายอานัว เป็นหัวหน้าแก๊งฆ่าตาย รวมทั้งสอบปากคำนายรอฟิก อายุ 25 ปี พยานปากสำคัญชาวโรฮิงญา ซึ่งเห็นเหตุการณ์นายกาซิมถูกนายอานัวและพวกฆ่าตาย โดยเริ่มสอบปากคำเมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 3 พฤษภาคม ก่อนเสร็จสิ้นเวลา 05.00 น. วันที่ 4 พฤษภาคม จากนั้นตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนภาค 9 เดินทางกลับไปโดยไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆ
ข่าวแจ้งว่านายกูราเมียให้การสรุปว่า นายกาซิมถูกนายอานัวร่วมกับพวก ซึ่งมีคนไทยรวมอยู่ด้วย จับไปกักขังไว้ที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย บังคับเรียกค่าไถ่ 95,000 บาท ด้วยความสงสารหลานจึงขายวัว 2 ตัว จำนำรถจักรยานยนต์ และหยิบยืมเงินจากญาติ รวบรวมเงินได้ 95,000 บาท โอนไปให้นายอานัว แต่นายอานัวขอเงินเพิ่มอีก 120,000 บาท ไม่รู้จะไปหาเงินมาจากไหน จึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามจับกุมนายอานัวและช่วยเหลือหลาน ทำให้นายอานัวโกรธแค้นจึงลงมือฆ่านายกาซิม ต่อมาตำรวจติดตามจับกุมนายอานัวได้ ก่อนขยายผลไปพบหลุมฝังศพโรฮิงญาจำนวนมากบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียดังกล่าว ส่วนศพนายกาซิมยังหาไม่พบ
@ แฉ'อานัว'หัวหน้าแก๊งรวย100 ล.
ขณะที่นายรอฟิก ซึ่งหลบหนีจากค่ายกักกันบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซียมาได้ และมาพักอาศัยอยู่กับนายกูราเมีย ยืนยันว่าเห็นนาทีที่นายกาซิมถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตาชัดเจน ก่อนหลบหนีมาพักอาศัยอยู่กับนายกูราเมียที่ จ.นครศรีธรรมราช
แหล่งข่าวเผยว่า นายอานัวเป็นหัวหน้าแก๊งค้ามนุษย์ มีอิทธิพลมากกับชาวโรฮิงญา และมีฐานะร่ำรวยมากระดับ 100 ล้านบาท ซึ่งทางตำรวจกำลังเร่งสอบสวนขยายผลเพื่อยึดทรัพย์นายอานัวต่อไป และยังจะขยายผลจับกุมแก๊งนายหน้าค้ามนุษย์ชาวโรฮิงญา ซึ่งยังมีอีกหลายกลุ่ม สำหรับกระบวนการลักลอบนำชาวโรฮิงญาส่งต่อไปยังประเทศที่สามนั้น แต่ละคนจะมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 2-3 แสนบาท แล้วแต่ความต้องการ บางรายมีค่าตัวถึง 5 แสนบาท โดยมีนายหน้าซึ่งเป็นคนไทยและชาวโรฮิงญา รวมถึงข้าราชการร่วมในกระบวนการนี้
พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบคดีเรื่องการค้ามนุษย์ให้ทางภาค 9 ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อ ส่วนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้ตั้งข้อหาฉ้อโกงและเรียกค่าไถ่ ส่วนจะเกี่ยวโยงกับกระบวนการค้ามนุษย์หรือไม่นั้นต้องรอผลการสืบสวนสอบสวนก่อน ส่วนคดีลักลอบหลบหนีเข้าเมืองที่ อ.หัวไทร จนนำไปสู่การค้นพบศพจำนวนมากที่ อ.สะเดานั้น ตามแนวทางการสืบสวนสอบสวนพบมีเครือข่ายอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เกี่ยวข้องด้วย ซึ่งได้มอบหมายให้ภาค 8 รับผิดชอบเพื่อสาวไปให้ถึงต้นตอต่อไปแล้ว
@ นักสิทธิจี้เอาคนผิดมาลงโทษ
นายเอกพันธุ์ ปิณฑวณิช สถาบันสิทธิมนุษยชนและสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ผลกระทบที่มีต่อเรื่องปัญหาสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยนั้นคิดว่าจะต้องมีอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการบ่งบอกโดยตรงว่าเรายังคงมีปัญหาเรื่องนี้อยู่อย่างชัดเจน แต่ในส่วนการสอบสวนประเด็นการค้ามนุษย์ก็ต้องมีการสอบสวนต่อไปให้ชัดเจนที่สุด
"สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วในตอนนี้เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่บ่งบอกว่าเรายังคงมีปัญหาอยู่ แต่ถึงอย่างไรถ้าจะให้สถานการณ์ดีขึ้นก็ต้องมีการสืบสวนสอบสวนตามหาผู้ที่กระทำผิดมาลงโทษ ซึ่งหากสามารถจัดการเรื่องนี้ได้อย่างโปร่งใส มันก็จะสามารถทำให้สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนดีขึ้นตามลำดับ ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจว่าจะสืบสวนสอบสวนได้มากน้อยเพียงไร กฎหมายเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่วิธีการ กระบวนการคิด เราให้เกียรติเพื่อนมนุษย์ด้วยกันน้อยมาก และยิ่งพอเป็นคนต่างด้าวหรือแรงงาน หรือผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคม เราไม่ค่อยให้เกียรติหรือเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือสิทธิมนุษยชนของคนกลุ่มนี้" นายเอกพันธุ์กล่าว