WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

                              4


ลูกบิ๊กจ๊อดย้ำหวย 80 บ. เริ่ม 16 มิย. 
หลังคสช.แต่งตั้ง ให้นั่งปธ.สลากฯ ผู้ค้ารายย่อยโอด อาจต้องเลิกขาย จี้ฟัน'ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว'

วันที่ 03 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8922 ข่าวสดรายวัน
    ไม่มีพลิก! หัวหน้าคสช. ประกาศตั้ง'บิ๊กแดง' พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ นั่งปธ.สลากแล้ว พร้อมกรรมการอีก 3 ราย ด้าน ผู้ค้ารายย่อยผวา'มาตรา 44' จัดการพวกขายเกินราคา 80 บาท เพราะปัจจุบันราคารับต่อสลากแต่ละงวดยังสูงกว่าใบละ 80 บาท อาจต้องปิดแผง แนะทหารเช็กบิลยี่ปั๊ว-ซาปั๊วขายเป็นทอดราคาเกิน 90 บาทต่อใบ ทำให้ไม่สามารถขาย 80 บาท ตามนโยบายได้ รวมทั้งจัดการหวยใต้ดินอย่างเด็ดขาดด้วย

    จากกรณีที่ คสช.ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งที่ 11/2558 แก้ปัญหาหวยแพง โดยให้ยกเลิกบอร์ดกองสลากทั้งหมด ไม่ให้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแทนจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง รอหัวหน้าคสช.ตั้งประธานบอร์ดคณะกรรมการชุดใหม่แทน พร้อมตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อแก้ปัญหาพนันหวย-ขายสลากเกินราคา โดยหากจับได้ว่าขายเกิน 80 บาท จะมีโทษคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท โดยให้กองทัพควบคุมดูแลการขายสลาก ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
      เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เฉพาะ) ที่ 1/2558 เรื่องแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามที่ได้มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจําหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พ.ค. 2558 กําหนดให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่งตั้งบุคคลมาเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น อาศัย อํานาจตามความในข้อ 3 (1) ของคําสั่ง ดังกล่าว หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงแต่งตั้งพล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ให้เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
     ขณะเดียวกัน ยังเผยแพร่คําสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (เฉพาะ) ที่ 12/2558 เรื่องแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามที่ได้มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจําหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พ.ค. 2558 กําหนดให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้งบุคคลจํานวนไม่เกิน 3 คน มาเป็นกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น อาศัยอํานาจตามความในข้อ 3(9) ของคําสั่งดังกล่าว คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จํานวนสามคน ประกอบด้วย 1.พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข 2.พ.ท.หนุน ศันสนาคม และ 3.ผศ.ธนวรรธน์ พลวิชัย ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
     พล.ต.ฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ กล่าวว่า ภายหลังจากได้รายชื่อคณะกรรมการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงต้องรอให้ประธานคณะกรรมการเรียกประชุม เพื่อกำหนดนโยบายและแนวทางตามคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยยืนยันว่าการเพิ่มโทษสำหรับผู้ค้าที่ขายสลากเกินราคานั้น เป็นสิ่งที่ต้องดำเนินการ เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ค้าและผู้ซื้อสลาก เพราะตามหลักแล้วสลากควรที่ต้องขายใบละ 80 บาท
     ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีมี คำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 11/2558 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาโดยอาศัยมาตรา 44 ว่า เจ้าหน้าที่ทหารคงไม่ได้คาดหวังว่าเมื่ออกคำสั่งเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) แล้วต้องจับกุมวันนี้เลย ทุกอย่างต้องมีการสร้างความเข้าใจกับผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลก่อน
     รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า เชื่อว่าในรอบการออกรางวัลครั้งต่อไป ผู้ค้าสลากจะเข้าใจคำสั่งดังกล่าวมากขึ้น เพราะได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนแล้ว แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ได้ละเลย แต่เพียงแค่ให้เวลาในการปรับตัว ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ก็จะทำอย่างแนบเนียนไม่ทำให้ผู้ค้าสลากรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอน
    วันเดียวกัน ที่ตลาดลอตเตอรี่ อ.วังสะพุง จ.เลย ซึ่งเป็นตลาดลอตเตอรี่ที่ใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศ มีพ่อค้าแม่ค้าเร่ในจังหวัดเลย 14,000 กว่าคน และจากจังหวัดใกล้เคียงมาซื้อลอตเตอรี่จากตลาดแห่งนี้ไปขายทั่วประเทศ นายมนตรี ผิวกลม เจ้าของตลาดลอตเตอรี่ แห่งนี้ กล่าวว่า ท่านนายกรัฐมนตรีประกาศ ขั้นตอนการจัดการการขายสลากเกินราคาออกมาอย่างไร เราก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ส่วนจะผ่าน ยี่ปั๊วซาปั๊วหรือไม่ก็ต้องรอดูว่า นายกฯ จะมีมาตรการออกมาอย่างไร เพราะถ้าเราไม่ปฏิบัติตามก็อาจจะถูกตำรวจจับกุม ตอนนี้ยังไม่ชัดเจน ออกมาอย่างไรเราก็ต้องปฏิบัติตาม
     รายงานข่าวจากผู้ค้าส่งสลากกินแบ่งรัฐบาล (ลอตเตอรี่) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ค้าสลากส่วนใหญ่กำลังรอความชัดเจนมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) 2557 ว่าจะมีทิศทางอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะการเพิ่มโทษของการขายสลากเกินราคาจากเดิมที่เป็นเพียงการปรับ 2,000 บาท แต่ครั้งนี้จะเป็นโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับนั้น จะส่ง ผลกระทบต่อผู้ค้าสลากรายย่อยที่ไม่มีโควตา แต่ไปรับจากพ่อค้าคนกลางมาขายต่อ ทั้งหาบเร่และปั่นจักรยานหรือไม่
    ทั้งนี้ หากจะใช้อำนาจจัดการอย่างเป็นธรรม ควรจะเข้าไปตรวจสอบรายชื่อผู้ค้าสลาก ที่มีโควตาจำนวนมาก (ยี่ปั๊ว-ซาปั๊ว) จะดีกว่า เพราะทำได้ตรงจุดและวัตถุประสงค์ของการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา เนื่องจากปัจจุบันราคารับต่อสลากแต่ละงวดมีจำนวนสูงกว่าใบละ 80 บาท หากจะให้ผู้ค้าหาบเร่และปั่นจักรยานมาขายต่อให้กับประชาชนก็ต้องให้ราคาต้นทุนต่ำกว่าใบละ 80 บาท
     "หากผู้ค้าสลากรายย่อยที่ไม่มีโควตา ทั้งหาบเร่และปั่นจักรยานที่รับมาขายต่อ แต่ขายสลากเกินราคาที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 80 บาท และต้องได้รับโทษตามที่กำหนดไว้ คงต้องปิดแผงเลิกขายสลากทันที เพราะโทษที่ประกาศใช้ ถือว่าเป็นโทษที่หนักมาก โดยส่วนใหญ่ผู้ค้าที่รับสลากมาจำหน่ายต่อนั้นก็มีราคาเกินใบละ 80 บาทอยู่แล้ว อย่างงวดที่ผ่านมาก็มีราคาใบละ 98 บาท และงวดที่กำลังจะเริ่มขายก็อยู่ที่ใบละ 92 บาทแล้ว"
    ขณะเดียวกัน หากใช้มาตรการกับผู้ค้าสลากที่มีโควตา และผู้ค้าที่รับสลากมาจำหน่ายต่อแล้ว ก็ควรจะปราบปรามหวยใต้ดินด้วย เพราะช่วงที่ผ่านมาราคาสลากมีราคาสูงมาหลายงวดตกใบละ 110-120 บาท ที่เพิ่มขึ้นตามเทศกาลสำคัญๆ ทำให้ประชาชนหันไปเล่นหวยใต้ดินเพิ่มขึ้น
    อย่างไรก็ตาม ส่วนการตั้งคณะกรรมการสลากชุดใหม่ ที่เป็นอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่าจะเป็นบุคคลที่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากได้อย่างดี เพราะเรื่องการขายสลากเกินราคา ถูกสะสมมาเป็นเวลานานแล้ว แต่ยังไม่มีใครดำเนินการได้อย่างจริงจัง
     รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังกล่าวว่า หลังจากประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการสลากชุดใหม่ กระทรวงการคลังจะเรียกประชุมและกำหนดนโยบายตามคำสั่งของคสช. ส่วนกรรมการที่เป็นโดยตำแหน่งนั้น ก็ต้องหารือกับรมว.คลังอีกครั้งว่าจะส่งใครไปเป็นตัวแทนกรรมการ ทั้งของผู้แทนจากกระทรวงการคลัง และผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง เพราะตามหลักแล้วจะเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงการคลังและอธิบดีกรมบัญชีกลางโดยตำแหน่ง
     พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวภายหลังได้รับการแต่งตั้งจากนายกฯ ให้เป็นประธานบอร์ดสลากกินแบ่งรัฐบาล ว่า มีความจริงจังจะเข้ามาทำหน้าที่และไม่มีวันทรยศความปรารถนาดีที่นายกฯ มีต่อประเทศชาติในการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งราคาแพง ทั้งนี้ นโยบายแก้ปัญหาสลากแพงเป็นไปตามคำสั่งของคสช. เพราะในคำสั่งเป็นเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาแพง ซึ่งตนจะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ส่วนวิธีการตนจะชี้แจงรายละเอียดในวันที่ 5 พ.ค.เพราะขณะนี้ยังมีผู้ค้าสลากที่เข้าใจผิดว่าเมื่อรับมาราคาแพงแล้วจะขายกันอย่างไร มีโทษปรับ จำคุก ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้ตนจะอธิบายให้ฟังว่ามันมีอะไรที่มากไปกว่านั้น
    พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า เรื่องช่องว่างหรือราคาต้นทุนที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน พ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งแต่ปี 2517 ไม่เคยปรับปรุงแก้ไขเลย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลกำลังปรับปรุงแก้ไขอยู่ในขั้นตอนของกฤษฎีกาในการร่างพ.ร.บ. สลากกินแบ่งขึ้นมาใหม่ ซึ่งอาจจะช้า ดังนั้น นายกรัฐมนตรีจึงต้องออกแนวทางแก้ไขเร่งด่วนก่อนเพราะต้องการให้สำเร็จในเดือนมิ.ย. ดังนั้น สลากกินแบ่งต้องราคา 80 บาทซึ่งวิธีการจะทำอย่างไรให้สลากราคา 80 บาทนั้น นโยบายที่นายกฯมอบให้มา 10 กว่าข้อจะนำไปสู่การปฏิบัติในวันที่ 5 พ.ค. เบื้องต้นจะแถลงที่ร.ร.พลาซ่าแอทธินี เวลา 14.00 น.
      เมื่อถามว่าเวลา 2 เดือนมั่นใจว่าสลากจะขายในราคา 80 บาทได้หรือไม่ พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า เมื่อมีมาตรการออกมาแล้วตนจะให้โอกาสเขาปรับตัว ปรับสภาพ เรายังไม่ใช้ยาแรงอะไร เมื่อมาตรการออกมาเราจะเชิญผู้ค้ามาพูดคุยโดยใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ถ้าวันที่ 16 มิ.ย.ทิศทางในการจำหน่ายสลากกินแบ่งยังไม่ราคา 80 บาท หรือ 50-60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ซึ่งจะเป็นมาตรการชี้วัดว่า เป็นไปได้หรือไม่ถ้ายังไม่สำเร็จก็ต้องใช้ยาแรง 
     "เราจะแบ่งเวลาการทำงานเป็นระยะๆ ด้วยการระยะแรกคือการแก้ปัญหาเผชิญหน้าตั้งแต่เดือนมิ.ย.ถึงธ.ค. เพราะเป็นห้วงที่โควตาทั้งหมดจะหมดสัญญา จะไม่มีการต่อสัญญาให้ใคร ผมจะเป็นผู้พิจารณา หากรายใดปฏิบัติตามนโยบายของกองสลากทำตัวเป็นเด็กดี ไม่เอาเปรียบ เราจะต่อสัญญาให้" พล.ต.อภิรัชต์กล่าว 
    รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า ระยะที่สองตั้งแต่ต้นปีไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งในช่วงนี้อาจจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของกองสลากออกมา อาจจะหาวิธีการจำหน่ายเองที่จะสามารถควบคุมราคาได้มากที่สุด รวมถึงการกระจายไปสู่ลูกค้ารายย่อย และใช้กลไกจังหวัด ผู้ว่าฯ ให้ความร่วมมือให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 
     พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า หลังจากเลือกตั้งไปแล้วก็ค่อยมาว่ากันว่าจะมีหวยออนไลน์หรือไม่ หรือจะซื้อผ่านตู้เอทีเอ็มได้หรือไม่ในร้านสะดวกซื้อ เป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องว่ากัน 
    เมื่อถามว่า ปัญหายี่ปั๊วจะหมดไปด้วยหรือไม่ พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า คงหมดไม่ได้เพราะโครงสร้างของกองสลากแต่กองสลากไม่เคยดำเนินการด้านการตลาดเองมาโดยตลอด ทำเพียงแค่ว่าจ้างให้โควตาพ่อค้าคนกลางนำไปจำหน่าย 
    "ที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป มีหลายคนเข้ามาสารภาพบาปว่าที่ผ่านมาเป็นนโยบายที่ผู้ใหญ่ให้มา ซึ่งมีอดีตผู้ที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องในเรื่องของกลไกในการควบคุมสลาก บุคคลเหล่านี้หลายคนที่เห็นความตั้งใจจริงของนายกฯ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ได้มาเล่าให้ฟังว่า ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เพราะเป็นนโยบายของทางผู้ใหญ่ ซึ่งแน่นอนว่าราคาแพงมาจากกองสลากเอง โดยกำหนดให้กลุ่มบุคคลที่มารับช่วงไปในราคาที่กำหนดกันเอง บวกๆ กันเข้าไป ทำให้ราคาแพง ฉะนั้น กลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่าเคลื่อนไหว ที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป ตนไม่อยากกระชากหน้ากากหรือเปิดเผยขบวนการทั้งหมด มิเช่นนั้นจะอยู่ประเทศไทยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใกล้ชิด ลูก เมีย คนขับรถ นอมินีหรือใครก็ตาม" พล.ต.อภิรัชต์กล่าว 
    พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า นโยบายของนายกฯ ในการแต่งตั้งให้ทหารมีอำนาจดำเนินการโดยผบ.ทบ.หรือแม่ทัพภาค สามารถใช้กำลังทหารตรวจสอบ และยังเพิ่มประมวลรัษฎากรกฎหมายเข้ามาใช้ปราบปรามการทุจริตและฟอกเงิน เพราะที่ผ่านมาเราต้องเข้าใจว่าสลากกินแบ่งเป็นของรัฐ มีอัตราส่วนที่ชัดเจน รายได้ไปไหนบ้าง มีต้นทุนที่ชัดเจน กำหนดราคาขายที่ชัดเจน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีมีนโยบายที่จะลดต้นทุน หรือขาดทุนกำไรอีกประมณ 3-4 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ราคาต้นทุนการจำหน่ายสลากกินแบ่งสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริง เดิมราคาฉบับละ 74 บาท อาจจะลดลงเหลือ 70 บาท ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นมาตรการที่ต้องเร่งแก้ไข
    พล.ต.อภิรัชต์ กล่าวว่า ที่สำคัญไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนที่กล้าทำเช่นนั้น นอกจากนี้ นายกฯ ยังให้ตั้งกองทุนสลากกินแพงเพื่อการพัฒนาสังคม เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ในการศึกษาวิจัยผลกระทบที่เกิดจากการพนัน สามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และให้ความรู้กับเยาวชนในเรื่องโทษของการพนัน เพราะไม่มีชาติไหนในโลกที่ไม่มีการพนัน เพียงแต่จะอยู่ด้วยอย่างไร โดยจะหักเงิน 2-3 เปอร์เซ็นต์เพื่อเอามาตั้งกองทุนฯ
     "ความสำเร็จครั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคน เพราะที่เอาเปรียบสังคมหรือขยะมนุษย์ ตามที่นายกฯ พูด ถ้าขืนยังพูดไม่รู้เรื่องทำตัวเป็นขยะอยู่ก็จะต้องถูกกำจัดออกไปหรือ ดีลีตออกไปเพราะมันถึงเวลาแล้ว เพราะเราจะปล่อยคนเหล่านี้มาเอาเปรียบประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้" พล.ต.อภิรัชต์กล่าว

 

 

ล็อตเตอรี่ต้อง 80 ในมิย. 'บิ๊กแดง'ลั่น นั่งปธ.หวย-บิ๊กตู่ตั้งแล้ว ใช้ม.44 พร้อม 4 บอร์ดใหม่ ฮึ่มมาเฟียสลากอย่าป่วน นัด'5 พค.'แถลงรับเก้าอี้ เชิญผู้ค้าเคลียร์ปมราคา

 

      คสช.ตั้ง 'พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์' รอง มทภ.1 ขึ้นเป็นประธานบอร์ดสลากชุดใหม่ พร้อมกับกรรมการบอร์ดอีก 3 คน กลุ่มปาล์มน้ำมันภาคใต้เตรียมถกเครือข่ายยางพาราขอให้ รบ.อุ้ม 5 บาทต่อกิโล

 

 

@ ตั้ง'บิ๊กแดง'นั่งปธ.บอร์ดสลาก

 

    เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) (เฉพาะ) ที่ 1/2558 เรื่องแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2558 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 กำหนดให้หัวหน้า คสช.แต่งตั้งบุคคลมาเป็นประธานกรรมการ ในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3(1) ของคำสั่งดังกล่าว หัวหน้า คสช. แต่งตั้ง พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ให้เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ทั้งนี้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่ง วันที่ 1 พฤษภาคม 2558

 

จากนั้นมีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คำสั่ง คสช. (เฉพาะ) ที่ 12/2558 เรื่องแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล ตามที่ได้มีคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 11/2558 เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ลงวันที่ 1 พฤษภาคม พุทธศักราช 2558 กำหนดให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแต่งตั้งบุคคลจำนวนไม่เกินสามคนมาเป็นกรรมการ ในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น อาศัยอำนาจตามความในข้อ 3(9) ของคำสั่งดังกล่าว คสช.จึงแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวนสามคน ดังนี้ 1.พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข 2.พ.ท.หนุน ศันสนาคม 3.นายธนวรรธน์ พลวิชัย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป สั่งวันที่ 1 พฤษภาคม 2558

 

 

@ 'บิ๊กแดง'เปิดแถลงใหญ่5พ.ค.

 

      พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า "ผมมีความจริงจังที่จะเข้ามาทำหน้าที่ ไม่มีวันที่จะทรยศความปรารถนาดีที่นายกรัฐมนตรีมีต่อประเทศชาติ ในการแก้ไขปัญหาสลากราคาแพงเป็นไปตามคำสั่งของ คสช.เพราะในคำสั่งเป็นเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องราคาสลากแพง จะนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ โดยจะชี้แจงรายละเอียดในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ขณะนี้ยังมีผู้ค้าสลากที่เข้าใจผิดว่าเมื่อรับมาราคาแพงแล้วจะขายกันอย่างไร เพราะมีโทษปรับ 

 

จำคุก เรื่องต่างๆ เหล่านี้จะอธิบายให้ฟังว่ามันมีอะไรที่มากไปกว่านั้น ทั้งเรื่องของช่องว่างหรือราคาต้นทุนที่ไม่เคยถูกเปิดเผยมาก่อน 

 

   "พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 ก็ไม่เคยมีการปรับปรุงแก้ไขเลย ขณะนี้รัฐบาลกำลังปรับปรุงแก้ไขอยูในขั้นตอนของกฤษฎีกาในการร่าง พ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ซึ่งอาจจะช้า ดังนั้นนายกรัฐมนตรีจึงต้องออกแนวทางแก้ไขเร่งด่วนก่อน ต้องการให้สำเร็จในเดือนมิถุนายนนี้ สลากกินแบ่งต้องขายกันในราคา 80 บาท" พล.ต.อภิรัชต์กล่าว และว่า ส่วนวิธีการจะทำอย่างไรให้สลากขายกันที่ราคา 80 บาท เป็นนโยบายที่นายกฯมอบให้มารวม 10 กว่าข้อ นำไปสู่การปฏิบัติในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ จะเปิดการแถลงข่าวที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี เวลา 14.00 น.

 

 

@ เรียกผู้ค้ามาคุย-ไม่ใช้ยาแรง

 

เมื่อถามว่า ระยะเวลา 2 เดือนนับจากนี้มั่นใจว่าสลากจะถูกขายในราคา 80 บาทได้หรือไม่ พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า เมื่อมีมาตรการออกมาแล้ว ผมจะให้โอกาสเขา (ผู้ค้า) ปรับตัวปรับสภาพ เรายังไม่ใช้ยาแรงอะไร เมื่อมาตรการออกมาจะเชิญผู้ค้ามาพูดคุย ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก แต่ถ้าวันที่ 16 มิถุนายนนี้ ทิศทางในการจำหน่ายสลากยังไม่ราคา 80 บาท หรือ 50-60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป จะเป็นมาตรการชี้วัดว่าเป็นไปได้หรือไม่ถ้ายังไม่สำเร็จก็ต้องใช้ยาแรง 

 

"เราจะแบ่งเวลาการทำงาน ระยะแรกคือการแก้ปัญหาเผชิญหน้าตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคมนี้ เพราะเป็นห้วงที่โควต้าทั้งหมดจะหมดสัญญา จะไม่มีการต่อสัญญาให้ใคร ผมจะเป็นผู้พิจารณา หากรายใดปฏิบัติตามนโยบายของกองสลาก ทำตัวเป็นเด็กดี ไม่เอาเปรียบเราจะต่อสัญญาให้" พล.ต.อภิรัชต์กล่าว และว่า ระยะที่สองตั้งแต่ต้นปีหน้า (2559) ไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ในช่วงนี้อาจจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของกองสลากออกมา อาจจะหาวิธีการจำหน่ายเองที่สามารถควบคุมราคาได้มากที่สุด รวมถึงการกระจายไปสู่ลูกค้ารายย่อยและใช้กลไกจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความร่วมมือให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด 

 

 

@ สั่งมาเฟียหวยอย่าเข้ามาจุ้นอีก

 

พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า หลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งไปแล้วค่อยมาว่ากันว่าจะมีหวยออนไลน์หรือไม่ หรือจะซื้อผ่านตู้เอทีเอ็มได้หรือไม่ รวมทั้งในร้านสะดวกซื้อ เป็นเรื่องระยะยาวที่ต้องว่ากัน 

 

เมื่อถามว่าปัญหายี่ปั้วจะหมดไปด้วยหรือไม่ พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า คงหมดไม่ได้เพราะโครงสร้างของกองสลาก แต่กองสลากไม่เคยดำเนินการด้านการตลาดเองมาโดยตลอด ทำเพียงแค่ว่าจ้างให้โควต้าพ่อค้าคนกลางนำไปจำหน่าย 

 

"ที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป มีหลายคนเข้ามาสารภาพบาปว่าที่ผ่านมาเป็นนโยบายที่ผู้ใหญ่ให้มา มีอดีตผู้ที่มีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องในเรื่องของกลไกในการควบคุมสลาก บุคคลเหล่านี้ต่างเห็นความตั้งใจจริงของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ได้มาเล่าให้ฟังว่า ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้เพราะเป็นนโยบายของผู้ใหญ่ แน่นอนว่าราคาแพงมาจากกองสลากเอง กำหนดให้กลุ่มบุคคลที่มารับช่วงไปในราคาที่กำหนดกันเอง บวกๆ กันเข้าไป ทำให้ราคาแพง ฉะนั้นกลุ่มบุคคลเหล่านี้อย่าเคลื่อนไหว ที่ผ่านมาก็ให้ผ่านไป ผมไม่อยากกระฉากหน้ากากหรือเปิดเผยขบวนการทั้งหมด มิเช่นนั้นจะอยู่ประเทศไทยไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใกล้ชิด ลูก เมีย คนขับรถ นอมินีหรือใครก็ตาม" พล.ต.อภิรัชต์กล่าว 

 

 

@ เร่งแก้ต้นทุนสลากแต่ละใบ

 

พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า ทั้งนี้นโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการแต่งตั้งให้ทหารมีอำนาจในการดำเนินการโดย ผบ.ทบ.หรือแม่ทัพภาคสามารถใช้กำลังทหารในการตรวจสอบ และยังเพิ่มประมวลรัษฎากรเข้ามาใช้ปราบปรามการทุจริตและฟอกเงิน เพราะที่ผ่านมาเราต้องเข้าใจว่าสลากกินแบ่งเป็นของรัฐ มีอัตราส่วนที่ชัดเจน รายได้ไปไหนบ้าง มีต้นทุนที่ชัดเจน กำหนดราคาขายที่ชัดเจน เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีมีนโยบายที่จะลดต้นทุนหรือขาดทุนกำไร อีกประมาณ 3-4 เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ราคาต้นทุนการจำหน่ายสลากกินแบ่งสอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริง เดิมราคาต้นทุนฉบับละ 74 บาท อาจจะลดลงเหลือ 70 บาท เรื่องนี้ถือเป็นมาตรการที่ต้องเร่งแก้ไข

 

พล.ต.อภิรัชต์กล่าวว่า ที่สำคัญไม่เคยมีรัฐบาลชุดไหนกล้าทำเช่นนั้น นอกจากนี้นายกฯให้ตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อการพัฒนาสังคม เพื่อรับผิดชอบต่อสังคม ใช้ในการศึกษาวิจัยผลกระทบที่เกิดจากการพนัน สามารถช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบและให้ความรู้กับเยาวชนในเรื่องโทษของการพนัน เพราะไม่มีชาติไหนในโลกที่ไม่มีการพนัน เพียงแต่จะอยู่ด้วยอย่างไร โดยจะหักเงิน 2-3 เปอร์เซ็นต์เพื่อเอามาตั้งกองทุนดังกล่าว

 

"ความสำเร็จครั้งนี้ขึ้นอยู่กับคนไทยทุกคน เพราะที่เอาเปรียบสังคมหรือขยะมนุษย์ ตามที่นายกฯพูด ถ้าขืนยังพูดไม่รู้เรื่องทำตัวเป็นขยะอยู่ก็จะต้องถูกกำจัดออกไปเพราะมันถึงเวลาแล้ว เราจะปล่อยคนเหล่านี้มาเอาเปรียบประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้" พล.ต.อภิรัชต์กล่าว

 

 

@ 'ธนวรรธน์'รอบอร์ดสลากแบ่งงาน 

 

ด้านนายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย หนึ่งในคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล (บอร์ดสลาก) ชุดใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับการแบ่งงานใดๆ รวมทั้งยังไม่มีการหารือร่วมกับคณะกรรมการท่านอื่นอีก 9 ท่าน จึงไม่สามารถให้รายละเอียดใดๆ ได้ แต่ยืนยันว่าจะเข้ามาทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อแก้ปัญหาสลากของประเทศที่เกิดขึ้นมานาน แต่ยังไม่สามารถแก้ได้

 

ขณะที่ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน 2 รอ.) ที่ได้รับการแต่งตั้งอยู่ในบอร์ดสลากชุดใหม่อีกคนนั้น เป็นคนสนิทของ พล.ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ตามรายงานข่าวระบุว่า พ.ท.หนุน จัดเป็นมือทำงานคู่ใจคนหนึ่ง 

 

สำหรับคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาลตามตำแหน่ง ประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงการคลัง ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสำนักงบประมาณ และผู้แทนสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นกรรมการและเลขานุการ โดยบอร์ดสลากตามกฎหมายกำหนดไว้ 10 คน

 

 

@ เผยคำสั่งมีบทลงโทษเพิ่มขึ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 11/2558 เรื่องมาตรการการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อให้การแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาที่กำหนดเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยอาศัยอำนาจในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญ (ชั่วคราว) 2557 มีคำสั่ง 14 ข้อ สาระสำคัญที่น่าสนใจ อาทิ ให้จัดตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคมเพื่อเป็นทุนสำหรับการใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ เป็นเงินที่ได้รับจัดสรรจากการจำหน่ายสลาก พร้อมกับผู้ใดเสนอขายหรือขายสลากที่ออกจากตาม พ.ร.บ.นี้ และไม่ได้ออกรางวัลเกินราคาที่กำหนดในสลาก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ใช้บังคับตั้งแต่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป จากมาตรการดังกล่าวเป็นการแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคา พร้อมกำหนดบทลงโทษอย่างชัดเจน รวมถึงการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทหารในการช่วยป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด และยังเป็นการรื้อใหญ่โครงสร้างของกรรมการสลาก (บอร์ด) ใหม่ทั้งหมดนั้น

 

 

@ มั่นใจโทษหนักช่วยควบคุมราคา

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นเรื่องความเข้มข้นทางกฎหมายที่เพิ่มโทษแก่ผู้จำหน่ายเกินราคาชัดเจน คือ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน เนื่องจากที่ผ่านมาจะอิง พ.ร.บ.การพนันเป็นหลัก เชื่อว่าจะช่วยให้ราคาสลากอยู่ที่ใบละ 80 บาทได้ ส่วนจะแก้ปัญหา 5 เสือจำหน่ายเกินราคาหรือไม่นั้น ต้องติดตาม แต่เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยเช่นกัน ที่ผ่านมาสำนักงานสลากได้ออกประกาศเพิ่มโทษผู้ขายเกินราคา ขายรวมชุดออกมาก่อนหน้าแล้ว ดังนั้นแนวทางการแก้ปัญหาจะมีการบูรณาการ สามารถใช้อำนาจที่มีในการจัดการปัญหาเรื่องราคาได้ครอบคลุมขึ้น

 

กรณีการกำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อพัฒนาสังคมนั้น เดิมมีแนวคิดจะหักเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลาก 5% เข้ากองทุน แต่ถูกปรับเป็น 3% ซึ่งเงินดังกล่าวมีวัตถุประสงค์หลักคือนำมาใช้แก้ปัญหาสลากที่เหลือจากการจำหน่ายแต่ละงวด เลขไม่สวย ที่ผ่านมามีการระบุว่าถูกขายให้กับ 5 เสือ ทำให้ต้องนำส่วนดังกล่าวมาจำหน่ายเกินราคา ดังนั้นบทบาทกองทุนคือ การเข้าไปรับซื้อสลากดังกล่าวแทน 

 

 

@ พบผู้ค้าสลากจำขายเกินราคา

 

ผู้สื่อข่าว "มติชน" ลงพื้นที่ตรวจสอบบรรยากาศผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลในหลายพื้นที่พบว่าราคาจำหน่ายสลากยังเกิน 80 บาทต่อใบ แม้จะมีประกาศจาก คสช.อาศัยอำนาจมาตรา 44 เข้ามาควบคุม มีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้ค้าสลากแบบเร่ขายรายหนึ่งในเขตจตุจักร กทม. จาก อ.วังสะพุง จ.เลย ขายสลากมาเป็นเวลา 30 ปี กล่าวว่า รู้เรื่องกฎหมายขายสลากในราคาไม่เกิน 80 บาท หากจะบังคับให้ขายอย่างนี้คงอยู่ไม่ได้ เพราะมีต้นทุนหลายอย่าง ทั้งค่าที่พัก ค่าเดินทางมาจากต่างจังหวัด อีกทั้งค่าครองชีพก็สูงขึ้น ซื้อมาขายก็เกิน 80 บาทแล้ว ทำให้ต้องขายสลากในราคาใบละ 105-110 บาท 

 

"ได้รับสลากมาจากยี่ปั๊วอีกต่อหนึ่งในราคา 100 บาท หากจะให้ขายไม่เกิน 80 บาท รัฐบาลต้องให้โควต้าที่สามารถซื้อสลากในราคาใบละไม่เกิน 80 บาทก่อน หรือควรขายใบละ 65-70 บาท เพื่อให้ได้กำไรราว 10-15 บาทต่อใบจึงจะอยู่ได้ แต่หากรัฐคุมต้นทุนที่ไม่ให้เกิน 80 บาทไม่ได้ แต่จะให้ขายตามกำหนด รายเล็กรายน้อยที่เดินเร่ขายก็คงลำบาก มากเหมือนกัน ต่อไปอาจเห็นภาพคนรวมตัวกันมาร้องเรียน และก็อาจร่วมด้วยหากมีคนนำ"

 

 

@ วอนให้ปฏิรูปคนในสนง.สลากฯ

 

ขณะที่ผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลอีกราย ตั้งแผงขายในเขตจตุจักร กล่าวว่า รู้เรื่องกฎหมายห้ามขายสลากเกิน 80 บาทแล้ว ที่ผ่านมาหลายรัฐบาลก็ไม่ค่อยมีผลทางปฏิบัติเท่าไหร่ ก็ขายสลากมา 20 ปีแล้ว ตอนนี้ขายสลากในราคาใบละ 105-110 บาท ปัจจุบันรับสลากมาจากยี่ปั๊วใบละ 99 บาท เชื่อว่า คสช.รู้ทุกอย่างว่าจะจัดการอย่างไร แต่ต้องดูกันอีกว่าจะทำได้แค่ไหน สิ่งที่ต้องการคือให้รัฐช่วยดูแลราคาต้นทางของสลากถูกลง ขณะนี้กำไรเฉลี่ยอยู่ที่ใบละ 5.60 บาท กำไรที่ต้องการอยู่ที่ใบละ 10 บาท ต้องนำรายได้จ่ายค่าเช่าแผงด้วย นอกจากนี้ต้องการกฎหมายรองรับที่ถาวร ใช้ได้ตลอดแม้จะเปลี่ยนรัฐบาล ที่จะเข้ามาควบคุมราคา ตอนนี้ทหารออกมาควบคุมก็ทำได้เพียงระยะหนึ่ง ที่สำคัญอยากให้มีการปฏิรูปการทำงานของคนภายในสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลด้วย เพราะเต็มไปด้วยเรื่องของผลประโยชน์ทับซ้อน ในยุคนี้ที่มีมาตรา 44 ก็ถือเป็นโอกาสที่จะปฏิรูป ด้านผลกระทบที่ขายสลากในราคาปัจจุบันนี้ ทำให้ผู้ซื้อต่อคนลดจำนวนสลากที่ซื้อ จากเมื่อก่อนซื้อ 10 ใบ ก็เหลือ 7-5 ใบ 

 

 

@ ให้ไปลดราคาที่ต้นทางก่อน

 

ด้านผู้ค้าสลากกินแบ่งรัฐบาลเร่ขายรายหนึ่งบริเวณตลาดประชานิเวศน์ กทม. กล่าวว่า ยังไม่รู้ว่ากฎหมายห้ามขายสลากเกินราคาออกมาแล้ว ก่อนหน้านั้นได้ยินแค่ผ่านๆ ว่าไม่ให้ขายเกินใบละ 80 บาท ปัจจุบันขายสลากใบละ 110-120 บาท ตามเลขบนสลากที่คนซื้อต้องการ ที่ขายราคานี้เพราะรับสลากมาจากยี่ปั๊วในราคาใบละ 102 บาท หากจะให้ขายต่ำกว่า 80 บาทคงไม่ได้ เพราะต้องกำไรราวใบละ 10 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายทั้งเรื่องเงินกู้ที่กู้มาซื้อสลาก ที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยในอัตรา 200 บาทต่อเงินต้น 10,000 บาทต่องวด เรื่องค่าที่พัก ค่าเดินทางด้วย หรือหากจะให้ขายในราคาที่กำหนด รัฐต้องจัดสรรโควต้าให้แก่ผู้ค้าทุกคน โดยขายในราคาที่ 70 กว่าบาท หรือไม่ก็ต้องให้ยี่ปั๊วขายในราคาที่ถูกลงกว่า 80 บาท 

 

 

@ คนซื้อเห็นด้วยกับคสช.ใช้ม.44

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ได้ลงสำรวจการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในย่านตลาดอมรพันธ์และเสนานิคม กทม. บรรยากาศการซื้อขายสลากยังขายที่ราคาเฉลี่ยใบละ 100-110 บาท ผู้ค้ารายหนึ่งกล่าวว่า ไม่ได้เป็นเจ้าของแผง แต่รับจ้างขายสลากมาประมาณ 2 ปี ราคาขายสลากเฉลี่ยอยู่ที่ 110 บาทต่อใบ ส่วนสลากแบบชุดราคาจะสูงกว่านี้ ส่วนต่างราคาที่ผู้ค้าสลากรับมาและขายต่อควรจะอยู่ที่ประมาณ 10 บาท ถ้าได้ต่ำกว่านี้ก็อยู่ไม่ไหว ถ้ารับสลากมาราคา 65-68 บาท สามารถขายในราคา 80 บาทได้

 

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ซื้อสลากรายหนึ่งในบริเวณดังกล่าวให้ความเห็นว่า เห็นด้วยกับมาตรการรัฐบาลที่ออกมาคุมราคาขายสลาก ขณะเดียวกันก็เข้าใจผู้ค้าสลาก เพราะต้นทุนที่รับมามีราคาแพง การแก้ไขปัญหาสลากแพงควรจะแก้เรื่องการจัดสรรตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้ราคาขายที่ผู้ค้ารับต่อมาไม่แพงจนเกินไป สามารถขายได้ในราคา 80 บาทตามที่รัฐกำหนด

 

@ 'ชัยนาท'อยากได้โควต้าเพิ่มขึ้น

 

ผู้สื่อข่าวรายงานที่ จ.ชัยนาท นางวันดี ขาวสนิท อายุ 58 ปี เจ้าของแผงค้าสลากในตลาดภาษีซุง อ.เมือง กล่าวว่า ปัจจุบันรับสลากจากยี่ปั๊วราคาใบละ 92-93 บาท จึงจำเป็นต้องขาย 110 บาท จนกว่ารัฐบาลจะควบคุมราคาส่งให้ต่ำลงมา อยากฝากให้พิจารณาถึงความเหมาะสมในเรื่องของต้นทุนและราคาควบคุม หากโควต้ายังคงราคาเดิมคือใบละ 74.40 บาท และควบคุมขาย 80 บาท เท่ากับผู้ขายมีกำไรใบละ 5.60 บาท แต่ละแผงค้าจะได้รับโควต้าเพียงไม่เกิน 10 เล่ม จะทำให้ต่องวดจะมีรายได้เพียง 2,500 บาทเท่านั้น จึงอยากให้พิจารณาให้ต้นทุนราคาส่งกับราคาควบคุมขายหน้าแผงส่วนต่างมากขึ้น และควรเพิ่มโควต้าให้แต่ละแผงเพื่อให้มีกำไรเพียงพอตามความเหมาะสมในการเลี้ยงครอบครัว 

 

 

@ 'ไก่อู'ระบุทำความเข้าใจกับผู้ค้า

 

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า เจ้าหน้าที่ทหารคงไม่ได้คาดหวังว่าเมื่อออกคำสั่งเมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) แล้วต้องจับกุมวันนี้เลย ทุกอย่างต้องมีการสร้างความเข้าใจกับผู้ค้าสลากก่อน ในรอบการออกรางวัลครั้งต่อไปผู้ค้าจะเข้าใจคำสั่งดังกล่าวมากขึ้น เพราะได้รับทราบจากเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนแล้ว แต่ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ได้ละเลย 

 

แต่เพียงแค่ให้เวลาในการปรับตัว ส่วนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ก็จะทำอย่างแนบเนียน ไม่ทำให้ผู้ค้าสลากรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอน ซึ่งงวดหน้าจะมีการบังคับใช้อย่างจริงจัง

 

 

@ ปาล์มเมืองคอนนัดหารือกลุ่มยาง 

 

สืบเนื่องจากปัญหาราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ ทำให้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันใน จ.กระบี่ รวมตัวขนปาล์มมาเทบริเวณทางเข้าศาลากลางจังหวัดกระบี่ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหารับซื้อปาล์มน้ำมันในราคากิโลกรัม (กก.) ละ 5 บาท จากที่ราคาตกต่ำอยู่ที่ กก.ละ 2.70 บาท รวมทั้งปฏิกิริยาของกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดอื่นๆ ทางภาคใต้ที่แสดงความไม่พอใจโดยอ้างเหตุหนึ่งที่ทำให้ราคาตกต่ำมาจากการที่รัฐบาลนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียจำนวน 5 หมื่นตัน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมทั้งมีการลักลอบขนน้ำมันปาล์มเถื่อนเข้ามาทั้งทางบกและทะเล ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ได้ประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดราคาเพื่อแก้ปัญหา ด้วยการแนะนำซื้อผลปาล์มดิบที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 17% ในราคา กก.ละ 4 บาท และเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นทุก 1% ราคาจะเพิ่มขึ้น กก.ละ 30 สตางค์ ส่วนน้ำมันปาล์มดิบ กำหนดราคาซื้อที่ กก.ละ 25 บาท มีผลบังคังใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไปนั้น 

 

นายสมพร ศรีเพชร นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดนครศรีธรรมราช และกรรมการสมาพันธ์ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 พฤษภาคม เวลา 13.00 น. ได้นัดหารือกับ นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา-ปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) พร้อมคณะกรรมการประมาณ 40 คน มีวาระการประชุมประกอบด้วย เรื่องปัญหาราคาปาล์มน้ำมันที่กำลังตกต่ำ กำหนดการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องราคาปาล์มน้ำมัน ทวงถามคำสัญญาจากรัฐบาลที่รับปากว่าราคาปาล์มน้ำมันในประเทศจะต้องไม่น้อยกว่า กก.ละ 5 บาท

 

 

@ บอร์ดอคส.เตรียมลงภาคใต้

 

นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ประธานคณะกรรมการองค์กรคลังสินค้า (บอร์ด อคส.) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ ตนพร้อมผู้บริหาร อคส. จะลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อติดตามสถานการณ์และจัดทำแผนบริหารจัดการน้ำมันปาล์ม ตามที่มติคณะอนุกรรมการปาล์มน้ำมันด้านการตลาด ให้ อคส.ดูดซับน้ำมันปาล์มส่วนเกิน เพื่อลดปัญหาน้ำมันปาล์มล้นตลาดและราคาตกต่ำ หรือป้องกันปัญหาปาล์มขาดแคลนและราคาสูงจนกระทบต่อผู้บริโภค โดย อคส.จะนำเสนอแผนบริหารจัดการต่อคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มแห่งชาติ พิจารณาเห็นชอบต่อไป

 

"สต๊อกน้ำมันปาล์มปกติจะอยู่ที่ 2-2.3 แสนตัน หากเกินก็จะเข้าไปรับซื้อ เป้าสูงสุดไม่เกิน 1 แสนตัน เมื่อผลผลิตลดลงราคาสูงขึ้น จะนำออกขายให้โรงกลั่นในราคาไม่สูงหรือบวกเพิ่มจากต้นทุนไม่เกิน กก.ละ 2 บาท เพื่อนำมาใช้เป็นค่าใช้จ่าย ส่วนงบประมาณก็จะเสนอคณะกรรมการนโยบายและช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) พิจารณาอนุมัติเงินหมุนเวียนในการรับซื้อน้ำมันปาล์มและค่าใช้จ่าย ประมาณ 3,000 ล้านบาท คิดจากราคาแนะนำรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) ของกรมการค้าภายในก็จะไม่ต่ำกว่า 25 บาทต่อ กก." นางจินตนากล่าว และว่า แนวโน้มปาล์มน้ำมันจะลดลงในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น หาก อคส.จะมีส่วนช่วยในการเกิดสมดุลของปริมาณน้ำมันปาล์มออกสู่ตลาดสม่ำเสมอและราคาไม่ผันผวน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนพฤษภาคมนี้

 

 

@ คน.แจงเหตุนำเข้า 5 หมื่นตัน

 

นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) เปิดเผยว่า กรณีที่มีการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนปาล์ม จ.กระบี่ โดยแจ้งว่าจะกลับมารวมตัวอีกครั้งวันที่ 7 พฤษภาคมนั้น ขณะนี้สถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐจะรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกรชาวสวนปาล์มในราคา กก.ละ 4 บาท เพื่อให้เกษตรกรสามารถอยู่ได้ ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมยอมสลายกันไป และได้รับแจ้งว่าจะไม่กลับมาชุมนุมอีก เพราะได้เจรจาและตกลงทำความเข้าใจกันอย่างครบถ้วนแล้วกับทางกลุ่มเกษตรกร 

 

"ส่วนประเด็นที่ถูกกล่าวหาว่ามีการทุจริตเรื่องการนำเข้าปาล์มน้ำมัน 50,000 ตันนั้น ขอเรียนว่าที่ผ่านมา พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.พาณิชย์ ได้ชี้แจงอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้นคงไม่มีคำชี้แจงอะไรเพิ่มเติม แต่ในที่ประชุมคณะอนุกรรมการเพื่อบริหารจัดการปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มด้านการตลาด ได้ชี้แจงว่าราคาปาล์มมีขึ้นลง โดยเฉพาะในช่วงปลายปีและต้นปีผลผลิตจะมีน้อย ซึ่งจะเริ่มมีมากในช่วงเมษายนและจะทะลักล้นตลาดไประยะหนึ่ง และไปลดลงเป็นวัฏจักรเช่นนี้ทุกๆ ปี กรมการค้าภายในติดตามอย่างใกล้ชิด ดังนั้น การนำเข้าน้ำมันปาล์ม 50,000 ตันในครั้งนั้น จึงถือเป็นการนำเข้าเท่าที่จำเป็นและทำในระยะสั้น เพื่อใช้ในการบริโภคตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม จากนั้นก็เลิกนำเข้า

 

@ ใบเหลืองอียูยังไม่กระทบส่งออก

 

นายนพปฎล คุณวิบูลย์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และหัวหน้าคณะผู้แทนไทยประจำสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวกรณีอียูประกาศให้ใบเหลืองกับประเทศไทยจากปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม (ไอยูยู) เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าทางทะเลของไทยไปอียู เพียงแต่เป็นการบอกว่าเราจะต้องทำอะไรให้มากขึ้น ปัจจุบันถือว่าไทยมีปัจจัยบวกหลายประการ ทั้งความมุ่งมั่นของรัฐบาล และยังมีอำนาจพิเศษในการสั่งการต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มีความตื่นตัว หลังจากนี้เราจะได้รับความช่วยเหลือจากอียูอย่างเป็นทางการ นับจากอียูนำเอาไอยูยูมาใช้ในปี 2555 จนถึงขณะนี้มีประเทศที่โดนอียูให้ใบเหลืองแล้ว 17 ประเทศ และมีประเทศที่โดนใบแดง 3 ประเทศ 

 

นายนพปฎลกล่าวว่า การที่ไทยได้ใบเหลืองเป็นเรื่องดี เป็นโอกาสให้มีความร่วมมือกับอียูใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพราะใน 6 เดือนข้างหน้า อียูจะส่งเจ้าหน้าที่เทคนิคมาให้คำแนะนำหารือกับหน่วยงานของไทยอย่างน้อย 2 ครั้ง และจะหารือผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ หลังครบ 6 เดือนแล้ว ไม่ได้หมายความว่าไทยจะต้องได้ใบแดงทันที เพราะอียูสามารถต่อเวลาการให้ใบเหลืองออกไปได้อีก

 

นายนพปฎลยืนยันว่า ไอยูยูไม่เกี่ยวกับปัญหาแรงงานที่มาทำงานบนเรือประมงผิดกฎหมายหรือเรื่องการค้ามนุษย์ แต่เป็นปัญหาเรื่องเทคนิคที่เกี่ยวกับการทำประมงโดยแท้ น่าจะแก้ง่ายกว่ารายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ของสหรัฐ (ทิปรีพอร์ต) ต้องยอมรับว่าปัญหาประมงผิดกฎหมายมีมานานแล้ว เมื่อรัฐบาลนี้มารับหน้าที่ก็ได้พยายามแก้ไข มั่นใจจะสามารถแก้ไขได้อย่างแน่นอน

 

 

@ 'ไก่อู'เผยทูตอียูชมไทยแก้ประมง

 

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยความคืบหน้าการแก้ปัญหาการประมงที่ผิดกฎหมายว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้รับมอบหมายโดยตรงจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ดูแลเรื่องการแก้ปัญหา มีการเชิญทูตอียูเข้ารับ

 

ฟังแนวทางและความคืบหน้าการแก้ปัญหาของประเทศไทย ซึ่งทูตอียูแสดงความชื่นชมอย่างมาก กล่าวย้ำหลายครั้งว่าประเทศไทยมาถูกทาง พร้อมจะนำข้อมูลการปฏิบัติของประเทศไทยสื่อสารไปยังสำนักงานใหญ่และทุกเมืองหลวงของประเทศสมาชิกอียูอย่างเร่งด่วน ให้เห็นความตั้งใจและความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย

 

"รองนายกฯยังได้ชี้แจงประเด็นสำคัญหลายกรณีต่อท่านทูต ยอมรับว่ายังมีปัญหาอีกหลายจุดที่ต้องแก้ไข และมุ่งมั่นเต็มที่ที่จะแก้ไขอย่างจริงจัง จริงใจ และรอบคอบ เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ต้องการลูบหน้าปะจมูก" พล.ต.สรรเสริญกล่าว 

 

@ อียู 2 คณะเข้าดูความคืบหน้าไทย

 

พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ทางไทยได้รายงานให้ทูตฟัง ประกอบด้วย 1.การเดินหน้าแก้ไขกฎหมายที่ยังล้าหลัง ขาดความชัดเจน และบทลงโทษที่เป็นสากล 2.การทำงานร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศและเอ็นจีโอในภาคประมงให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น เช่น อีจีเอฟ และรัฐบาลที่มีความเชี่ยวชาญ เช่น เกาหลีใต้ 3.การออกปฏิบัติการอย่างเป็นทางการแล้วของศูนย์บัญชาการแก้ไขการทำการประมงผิดกฎหมาย (ศปมผ.) จะลงมือตรวจทุกท่าเรือ และทุกลำเรือพร้อมกันทุกจุดทั่วประเทศ รวมทั้งจะทำงานร่วมกับอียู ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับผู้แทนของอียูที่จะเดินทางเข้ามาติดตามสถานการณ์ในประเทศไทยจำนวน 2 คณะ ในเดือนพฤษภาคมนี้

 

"พล.อ.ประวิตรแสดงความเชื่อมั่น ด้วยความร่วมมือจากทุกส่วนและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ประกอบกับการปฏิบัติตามคำแนะนำของอียู รัฐบาลไทยจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ ขณะที่ทูตอียูยืนยันว่าจะทำงานร่วมกับประเทศไทยอย่างใกล้ชิด ฉันมิตร และสร้างสรรค์ โดยเคารพในอำนาจอธิปไตยและผลประโยชน์ของประเทศไทย" พล.ต.สรรเสริญกล่าว

 

 

@ พณ.ยันไทยยังไม่อยู่ภาวะเงินฝืด

 

รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์กล่าวถึงกรณีเงินเฟ้อในเดือนเมษายน 2558 ติดลบ 1.04% ว่า แม้เงินเฟ้อจะติดลบต่อเนื่อง 4 เดือน แต่ยืนยันว่าไม่ใช่เงินฝืด เพราะเงินเฟ้อติดลบจากราคาน้ำมันปีนี้ลดลงจากปีก่อนมาก ประกอบกับราคาอาหารลดลง ทั้งนี้ เมื่อดูราคาอาหารและสินค้าในเดือนเมษายนเทียบเดือนก่อนหน้า ราคาสินค้าส่วนใหญ่ 199 รายการ ใช้คำนวณเงินเฟ้อพบว่ายังเท่าเดิม และเมื่อดูจากเงินเฟ้อพื้นฐานหักพลังงานและอาหารยังเป็นบวก 1.02% สะท้อนว่าสินค้ายังขายได้ และราคาสามารถปรับได้ 

 

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การเกิดภาวะเงินฝืดต้องมองหลายองค์ประกอบ นั่นคือเงินเฟ้อต้องติดลบต่อเนื่องเป็นระยะเวลายาวนานพอสมควร นอกจากนี้ ต้องมีการกระจายตัวในส่วนของการปรับลดราคาสินค้า ขณะนี้พบว่ามีการชะลอตัวของราคาสินค้าบ้างแต่ยังไม่ถึงกับติดลบมากนัก ประกอบกับในส่วนเงินเฟ้อคาดการณ์จะต้องปรับลดลงไปด้วยแต่โดยรวมแล้วยังถือว่าอยู่ในระดับ 2.5% ใกล้เคียงกับระดับคาดการณ์เงินเฟ้อของสาธารณชนในปัจจุบัน และความเสี่ยงสุดท้ายคือเศรษฐกิจมีการขยายตัวในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่มองว่าอาจมีความเสี่ยงเพิ่มน่าจะมาจากจุดนี้เพราะเศรษฐกิจอ่อนแอลงจนอาจนำไปสู่ปัญหาเงินฝืดในภายหลัง

 

 

@ ปรับลดดบ.หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มติของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีกครั้งจากที่เคยมีมติไปแล้วเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบันอยู่ที่ 1.50% ต่อปี ต้นทุนการกู้ยืมเงินของ

 

ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนลดลง อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ลดต่ำลงจะถูกส่งผ่านไปยังต้นทุนการกู้ยืมเงินของภาคธุรกิจและภาคครัวเรือน จากการที่ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ได้ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้ภาคธุรกิจและครัวเรือนมีเงินเหลือสำหรับการลงทุนหรือบริโภคเพิ่มเติม นอกจากนี้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงก็จะดึงดูดให้ภาคธุรกิจเริ่มโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติม เนื่องจากสามารถระดมทุนได้ในอัตราเบี้ยที่ถูกลงด้วย 

 

"อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลง แม้จะดูเป็นผลเสียต่อผู้ฝากเงิน แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนนำเงินออมไปใช้จ่ายและลงทุนมากขึ้น" ร.อ.นพ.ยงยุทธกล่าว และว่า การลดอัตราดอกเบี้ยยังมีผลทำให้เงินบาทอ่อนค่าลง ทำให้อัตราผลตอบแทนการลงทุนในตลาดการเงินไทยในภาพรวมลดต่ำลงเมื่อเทียบกับตลาดการเงินในประเทศอื่นๆ ที่ยังมีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า ทำให้เงินทุนต่างประเทศไหลเข้าประเทศน้อยลง อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นการส่งออก สินค้าชิ้นเดิมที่ตั้งราคาเป็นบาทจะถูกลง เมื่อแปลงราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐหรือสกุลเงินอื่นๆ หรือหากตั้งราคาเป็นดอลลาร์สหรัฐ ผู้ส่งออกก็จะได้กำไรเป็นบาทมากขึ้น สอดคล้องกับนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังตลาดใหม่ เช่น ตลาดอาเซียน ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เป็นต้น

 

@ ไม่เห็นด้วยยกเลิกจัดซื้อจัดจ้าง

 

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เสนอให้มีการป้องกันปัญหาธุรกิจโดยการยกเลิก 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!