- Details
- Category: การเมือง
- Published: Saturday, 25 April 2015 22:45
- Hits: 3393
'กรมศุลฯ'เล็งแก้ไขมูลค่าสินค้านำเข้า จ่อใช้ม.44 สางปัญหาไม้พะยูง
แนวหน้า : นายสมชัย สัจจพงษ์ อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า แผนงานที่กรมศุลกากรจะดำเนินการในอนาคตมีหลายเรื่องที่สำคัญ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลังแล้ว เรื่องแรก คือการพิจารณาแก้ไขระเบียบกรมศุลกากรเพื่อกำหนดมูลค่าสินค้านำเข้าติดตัวผู้โดยสารที่นำเข้ามาในประเทศโดยไม่ต้องเสียอากร จากปัจจุบันกำหนดไว้ที่ไม่เกิน 1 หมื่นบาท ก็จะมีการปรับเพิ่ม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษามูลค่าที่เหมาะ จากการศึกษาต่างประเทศในประเทศสิงคโปร์กำหนดไว้ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท มีหลายประเทศกำหนดไม่เกิน 2 หมื่นบาท โดยกำหนดมูลค่าต้องดูเรื่องภาวะเศรษฐกิจ ค่าครองชีพ ค่าเงินบาท นำมาพิจารณาเพื่อให้ได้มูลค่าที่เหมาะสมด้วย
ก่อนหน้านี้ กรมศุลกากรได้เพิ่มมูลค่าสินค้าที่ส่งทางไปรษณีย์จากไม่เกิน 1,000 บาท เป็น 1,500บาท ไม่ต้องเสียอากรนำเข้า อำนวยความสะดวกในการส่งสิ่งของทางพัสดุข้ามประเทศมากขึ้น นอกจากนี้กรมศุลกากรจะทำการรับชำระอากรระหว่างประเทศ หรือ สินค้าที่นำผ่านแดนโดยไม่มีขนและต้องชำระภาษีไม่เกิน 1 แสนบาท ให้สามารถจ่ายด้วยบัตรเดบิตและเครดิต จากเดิมที่กำหนดให้ชำระเป็นเงินสดหรือเช็คเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้ได้หารือกับทางกรมบัญชีกลางแล้ว หากได้รับอนุญาตก็จะเริ่มใช้ที่ด่านสนามบินสุวรรณภูมิก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนที่จะขยายไปด่านอื่นๆ ต่อไป
นายสมชัย กล่าวว่า กรมศุลกากรจะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้อำนาจมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูณฉบับชั่วคราว ให้กรมศุลกากรขายไม้ของกลางจำนวน 3.18 แสนท่อน ในจำนวนนี้เป็นไม้พะยูง 1.27 แสนท่อน คิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 4,000 ล้านบาท เนื่องจากไม้ของกลางทั้งหมดมีจำนวนมาก ไม่มีที่เก็บของกลาง และยังต้องใช้เวลาอีกนานในการดำเนินคดีให้จบ ซึ่งการขายไม้ของกลางจะขายในหน่วยราชการก่อนเป็นอันดับแรก หากขายไม่หมดก็จะให้เอกชนเข้ามาซื้อได้ หลังจากนั้นหากยังไม่หมดก็จะขายไปต่างประเทศ
อธิบดี กรมศุลกากร กล่าวว่า แผนงานของกรมศุลยังมีเรื่องการทำฐานข้อมูลราคา และพิกัดศุลกากร ซึ่งจะทำให้การเก็บภาษีเป็นสากลและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการมากขึ้น รวมถึงการปฏิรูปสิทธิประโยชน์ทางศุลกากรระยะที่ 2 เพื่อส่งเสริมการค้าขายของไทย นอจากนี้ ยังต้องเร่งดำเนินการปฏิญญาเขมราฐ ที่ข้าราชการกรมศุลกากรได้ประกาศร่วมกันที่ด่านศุลกากรเขมราฐ ว่าตั้งแต่ 1 เม.ย. 2558 ข้าราชการกรมศุลกากรจะไม่ทุจริต เลิกรับผลประโยชน์จากเอกชน หลังจากนี้จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม หากพบว่ายังมีข้าราชการกรมศุลทุจริตในหน้าที่ก็จะดำเนินการทางวินัยและกฎหมายขั้นเด็ดขาดต่อไป
สำหรับ ผลงานของกรมศุลกากร ในรอบ 6 เดือน ของรัฐบาล การเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า 4,575 ล้านบาท เนื่องจากมูลการนำเข้าต่ำ ราคาน้ำมันลด และการลดอัตราภาษีเพื่อกระตุ้นการลงทุน นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขกฎหมายกรมศุลกากรครั้งใหญ่ ซึ่งได้ให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว เพื่อรอเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีต่อไป สาระสำคัญ มีทั้งการลดรางวัลสินบนนำจับให้ลดน้อยลง และการลดโทษปรับสำหรับผู้ประกอบการสำแดงราคา หรือ เสียภาษีไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่เอกชนเรียกร้องมาตลอดให้มีการแก้ไข