- Details
- Category: การเมือง
- Published: Thursday, 16 April 2015 09:53
- Hits: 3755
ต้องสงสัย - เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบภาพรถต้องสงสัยขับเข้าไปก่อเหตุวางระเบิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย จ.สุราษฎร์ธานี และพบภาพผู้ต้องสงสัยเดินออกจากห้าง หลังขับรถเข้าไปจอดบริเวณลานจอดรถ ก่อนเกิดระเบิด เมื่อวันที่ 12 เมษายน'ไก่อู'ยันบึ้มเซ็นทรัลสมุย โยงกลุ่มอำนาจเก่าป่วนกรุง ลั่น รบ.ไม่หลงประเด็น-หลักฐานชัดประกบผู้ร่วมขบวนการแล้ว
@ "สมยศ"สั่งคุมเข้มทั่วปท.หวั่นบึ้มซ้ำ
ความคืบหน้าคนร้ายก่อเหตุคาร์บอมบ์บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย หมู่ 2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้บาดเจ็บ 8 ราย รถยนต์ที่จอดบริเวณโดยรอบได้รับความเสียหายกว่า 10 คัน รวมทั้งอาคารผนังคอนกรีต กระจกแตกหลายบาน โดยทหารควบคุมตัวนายนรินทร์ อ่ำหนองบัว หรือ "เอ็ม เสื้อแดง" ได้ที่ จ.นนทบุรี หลังโพสต์เฟซบุ๊ก "คืนนี้จัดหนักที่สุราษฎร์" เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมานั้น
เมื่อวันที่ 12 เมษายน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.)สั่งการผ่านวิทยุในราชการศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) ด่วนที่สุด ที่ 0001(ศปก.ตร.)/65 ถึงตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศว่า จากกรณีเกิดเหตุระเบิดลานจอดรถชั้นใต้ดินห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุยนั้น ให้สำรวจและจัดทำข้อมูลสถานที่สำคัญ สถานที่เสี่ยง สถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่ที่มีการจัดงานเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งมีประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ให้ตรวจสอบความพร้อมของกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในพื้นที่ที่รับผิดชอบ และให้ใช้มาตรการเชิงรุกสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่อาจสร้างสถานการณ์หรือก่อเหตุร้าย โดยให้ประสานการปฏิบัติกับสันติบาล ทหาร หน่วยงานด้านการข่าว รวมทั้งฝ่ายปกครองในพื้นที่อย่างใกล้ชิด จริงจังและต่อเนื่อง และให้ผู้บังคับบัญชาระดับผู้บังคับการ (ผบก.) และรอง ผบก. ลงไปควบคุม กำกับ ดูแลการปฏิบัติ อย่างเคร่งครัด รายงานผลการปฏิบัติผ่าน ศปก.ตร.ทราบทุกวัน
@ เผยเฟซบุ๊กโพสต์ขู่เพิ่งทำใหม่
พล.ต.อ.สมยศ ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์คาร์บอมบ์ด้วยว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำพยานแวดล้อมและรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนเตรียมไปขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาต่อไป ส่วนกรณีที่ทหารควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยคนหนึ่งใน จ.นนทบุรี ที่คาดว่ามีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ ขณะนี้ยังอยู่ในการควบคุมของทหาร ซึ่งยังไม่ได้รับการประสานว่าจะส่งตัวมาให้ตำรวจเมื่อใด และยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการสอบสวน ซึ่งหากทหารสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วพบว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดีก็จะส่งมาให้ทางตำรวจดำเนินการต่อ ซึ่งเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ยังคงตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 3 ประเด็น คือ สถานการณ์ทางการเมือง ขัดแย้งผลประโยชน์ทางธุรกิจ และความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้ง
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการควบคุมตัวนายนรินทร์ อ่ำหนองบัว หรือเอ็ม เสื้อแดง ที่โพสต์ข้อความขู่ก่อนเกิดเหตุทำนองจะจัดหนักสุราษฎร์ธานีนั้น เจ้าหน้าที่มีการสืบสวนสอบสวน ผู้ต้องสงสัยยังให้การปฏิเสธ และได้มีการปิดเฟซบุ๊กไปนานแล้ว โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำเฟซบุ๊กอันนี้ขึ้นมาใหม่ ขณะที่ในช่วงวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้เดินทางไป จ.สุราษฎร์ธานี แต่ขับแท็กซี่อยู่ในกรุงเทพฯ จากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัตินายนรินทร์เคยเป็นกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. แต่ไม่ใช่กลุ่มฮาร์ดคอร์ และไม่เคยมีประวัติก่อเหตุการณ์รุนแรงใดๆ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไปยังเฟซบุ๊ก ข้อความนี้เป็นการทำเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึกผู้ที่กระทำการโพสต์ แต่จากการสอบปากคำเชื่อได้ว่านายนรินทร์ไม่ได้เป็นผู้โพสต์ข้อความเอง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหารยังควบคุมตัวนายนรินทร์เพื่อสืบสวนสอบสวนคดีนี้ต่อไป
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.ท.เดชา บุญน้ำเพชร ผบช.ภ.8 ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.เทเวศน์ ปลื้มสุทธิ์ ผกก.สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ลานจอดรถห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย ไป รรท.ผกก.ฝ่ายอำนวยการตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร และให้ พ.ต.อ.สมาน ชัยณรงค์ รอง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.บ่อผุดแทน
@ "บิ๊กโด่ง"ชี้ปม"การเมือง-ส่วนตัว"
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงเหตุระเบิดว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด คงต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการสืบสวน ส่วนจะเป็นการขยายพื้นที่การก่อเหตุขึ้นมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น คิดว่าจากการตรวจสอบรถยนต์และอุปกรณ์ที่ก่อเหตุมีการขโมยมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จาก อ.ยะหา จ.ยะลา และมีการนำข้ามเรือมา โดยได้เบาะแสจากกล้องวงจรปิดและวัตถุพยานอื่นๆ แต่มั่นใจว่าวัตถุประสงค์ไม่ใช่การก่อเหตุเพื่อขยายพื้นที่ความรุนแรงมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวหรือเรื่องอื่นก็ได้ เพราะมีข้อมูลที่พนักงานของห้างสรรพสินค้าที่ถูกจ้างให้ออกงานจำนวนหนึ่งซึ่งอาจไม่พอใจ โดยเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทิ้งประเด็นอะไรไป ทั้งนี้ ตำรวจคงดำเนินการอยู่ ในฝ่ายทหารก็ได้รับประสานและตรวจสอบร่วมกัน เช่น กรณีการจับกุมผู้ต้องสงสัยเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา เพื่อหาประเด็นความเชื่อมโยงต่อไป
เมื่อถามว่ามูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุดังกล่าวมีกี่ประเด็น และให้น้ำหนักในประเด็นใดมากที่สุด หลังจากมองว่าไม่น่าจะเกิดจากประเด็นเรื่องการขยายพื้นที่มาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า เรื่องการขยายพื้นที่นั้นมองว่าไม่น่าจะใช่ และมีน้ำหนักน้อยที่สุด แต่เรื่องส่วนตัวก็มีน้ำหนักพอสมควร อาจจะมีประเด็นเรื่องความไม่พอใจในเรื่องของการเมือง ซึ่งมีความเป็นไปได้พอๆ กับเรื่องส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ก็ต้องดูข้อมูลที่จะเชื่อมโยงต่อไป โดยต้องใช้เวลา
@ สั่ง"ทหาร-ตร."คุมเข้มทุกพื้นที่
เมื่อถามว่ามีการประเมินว่าผู้ก่อเหตุอาจต้องการลองของมาตรา 44 พล.อ.อุดมเดชกล่าวว่า กลุ่มคนที่อาจไม่เข้าใจ รัฐก็พยายามทำความเข้าใจ เปิดเวทีในการแสดงความคิดเห็นหลายเวทีให้ บางทีกลุ่มที่พยายามไม่เข้าใจอาจไม่พอใจก็ได้ ในส่วนที่รัฐดำเนินการดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองในภาพรวม บางคนก็แปลกที่พยายามจะไม่เข้าใจ ซึ่งก็เป็นไปได้ โดยเจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ทิ้งประเด็นต่างๆ เหล่านี้ และก็พยายามดูแลให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ประชาชนอย่าได้ตกใจ ได้สั่งการในส่วนของทหารที่ดูแลความปลอดภัยร่วมกับตำรวจในพื้นที่ต่างๆ ที่จัดกิจกรรมช่วงวันสงกรานต์รวมถึงพื้นที่ท่องเที่ยว ก็ขอให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ ประชาชนเองเห็นความผิดปกติก็ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนมาตรการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพฯนั้น ได้สั่งการไปแล้วตั้งแต่ช่วงก่อนหยุดยาว แต่ผู้ที่จ้องก่อเหตุอาจใช้จังหวะที่เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ในช่วงตลอด 24 ชั่วโมง จึงก่อเหตุขึ้น ต้องควบคุมและเพิ่มความเข้มงวดแน่นอนโดยเฉพาะกล้องวรจรปิด ในส่วนเอกชนห้างร้าน ขอให้ช่วยกันดูแลในเรื่องการใช้งานให้ได้ตลอด ถือเป็นสิ่งสำคัญในการติดตามผู้ก่อเหตุ
@ "นปช."โวยเหมือนแพะบูชายัญ
นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย (พท.) และแกนนำกลุ่ม นปช. กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้อำนาจตามมาตรา 44 ควบคุมตัวนายนรินทร์ อ่ำหนองบัว หรือเอ็ม เสื้อแดง ว่า เป็นเรื่องของตำรวจที่จะต้องตรวจสอบต่อไปว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้โพสต์ข้อความจริงหรือไม่ นอกจากนี้เห็นว่าตำรวจควรที่จะตรวจสอบเพื่อหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์นอกเหนือไปจากการจับกุมคนที่โพสต์ข้อความ โดยต้องดำเนินการสอบข้อเท็จจริงด้วยความยุติธรรม ว่ากันไปตามข้อมูลและหลักฐาน ส่วนที่มีการมองว่ามีความพยายามโยงกลุ่ม นปช.นั้น คิดว่ามองเป็นอื่นไม่ได้เลย เหมือนเป็นการต่อยอดว่าเหตุที่บ้านเมืองไม่สงบเป็นเพราะคนเสื้อแดง ทำให้พวก นปช.เหมือนเป็นแพะบูชายัญ และอาจจะโยงไปอีกว่าเมื่อบ้านเมืองไม่สงบก็อาจทำให้การเลือกตั้งยังไม่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าแกนนำ นปช.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะไม่เกิดประโยชน์อะไรในทางการเมือง มีแต่เสียกับเสีย ที่ผ่านมาก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อเกิดปัญหาก็จะมาโทษ นปช.ไม่ได้
@ คุมตัวเอ็มเสื้อแดงในค่ายทหาร
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และโฆษก ทบ. กล่าวว่า ทางทหารใช้อำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 3/2558 เข้าควบคุมตัวนายนรินทร์ โดยขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการสืบสวนสอบสวน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและขยายผล คาดว่าใช้เวลาไม่เกิน 7 วัน แต่ยังไม่มีการตั้งข้อกล่าวหา ส่วนควบคุมตัวไว้สถานที่ใดนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเป็นเรื่องรายละเอียดของผู้ปฏิบัติ หากผู้ต้องสงสัยหรือบุคคลใดมีความข้องใจว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการทางเจ้าหน้าที่ก็สามารถให้ตรวจสอบได้ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติงานตามความรู้สึกส่วนตัว แต่มีข้อมูลและองค์ประกอบหลักฐานต่างๆ ชัดเจน สามารถชี้แจงและพร้อมให้การตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการได้
พ.อ.วินธัยยังกล่าวอีกว่า ยืนยันว่าไม่ใช่การขยายพื้นที่ก่อเหตุของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งเหตุระเบิดในพื้นที่อื่นที่ไม่ใช่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ส่วนใหญ่เกิดจากการสร้างสถานการณ์ เพื่อต้องการก่อกวนให้เกิดความวุ่นวาย เพราะยังคงมีผู้พยายามหาช่องว่างใช้ระเบิดและอาวุธสงครามอยู่ แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ยังคงบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
@ "สุวพันธุ์"รอสรุปให้ชัดบึ้มสมุย
นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจที่กำลังรวบรวมหาหลักฐาน ส่วนเจ้าหน้าที่การข่าวก็กำลังติดตามหาข่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีกทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค เป็นไปตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการไว้
"เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงต้องสอบสวนนายนรินทร์ก่อนว่าโพสต์จากสาเหตุอะไร เรายังสรุปไม่ได้ ว่าเขาทำหรือไม่ทำ ตอนนี้เรายังสรุปอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่เห็นข้อมูลรอบด้าน ตอนนี้หน้าที่เราคือค้นหาความจริงว่าอะไรคือมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุที่แท้จริง จะได้หาทางระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำสอง ทุกๆ เรื่อง
ผู้มีอำนาจต้องดูให้ครบทุกมิติค่อยสรุปออกมา" นายสุวพันธุ์กล่าว
@ ยังไม่ชัดเชื่อมโยง5กลุ่มป่วน
เมื่อถามกรณี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เหตุระเบิดครั้งนี้เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า ยังไม่เห็นข้อมูลทั้งหมด จึงยังไม่สามารถสรุปตัดสินอะไรได้
เมื่อถามว่าตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงความจำเป็นในการใช้มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราว เนื่องจากมีกลุ่มคนที่อาจก่อความไม่สงบ 5 กลุ่มนั้น เชื่อมโยงการระเบิดครั้งนี้หรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า กลุ่มคน 5 กลุ่มที่อาจก่อความไม่สงบเป็นการประเมินจากการข่าวด้านความมั่นคงไว้ก่อนหน้านั้น ส่วนเหตุระเบิดที่เกาะสมุยเรายังระบุอะไรไม่ได้ เพราะหลักฐานไม่มากพอและไม่ชัดเจนว่าใครเป็นคนทำและใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังกันแน่
@ "ไก่อู"ชี้ฝีมือกลุ่มอำนาจเก่า
ขณะที่ พล.ต.สรรเสริญ ให้สัมภาษณ์ว่า รายงานการสืบสวนเชิงลึกจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงระบุว่าหลักฐานทั้งหมดที่พบในขณะนี้เชื่อมโยงไปยังกลุ่มผู้ก่อเหตุกลุ่มเดิม ที่เคยสร้างสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยใช้รถยนต์ที่ถูกโจรกรรมจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มาก่อเหตุ เพื่อหวังเบี่ยงเบนประเด็นการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้หลักฐานทั้งจากที่เกิดเหตุ จากการสืบสวนขยายผล และจากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้อง เชิญตัวมาให้ปากคำเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา ทำให้เจ้าหน้าที่มั่นใจว่าเป็นกลุ่มผู้ที่เกี่ยวโยงกับกลุ่มอำนาจเก่าที่เคยก่อเหตุในกรุงเทพฯ ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังติดตามประกบตัวผู้อยู่ในขบวนการและหลักฐานสาวไปถึงอยู่ตอนนี้
@ อ้างโยงใต้หวังเบี่ยงเบนประเด็น
พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ความพยายามสร้างภาพให้เกิดความวิตกกังวลว่าเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับสถานการณ์ในสามจังหวัดชายแดนใต้นั้นเป็นวิธีการเบี่ยงเบนประเด็นของผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าหน้าที่มีหลักฐานค่อนข้างชัด จึงทำให้ประเด็นนี้มีน้ำหนักน้อย รัฐบาลไม่หลงประเด็น และขอประณามผู้ที่คิดทำเช่นนี้ ขอให้เลิกจองเวรประเทศ เลิกสร้างสถานการณ์ขยายผลความกังวลของพี่น้องประชาชน เพราะเป็นการขัดขวางการเดินหน้าพัฒนาและแก้ไขปัญหาประเทศ เพราะขณะนี้ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้กำลังเดินหน้าเข้าสู่สถานการณ์แห่งความร่วมมือที่มีแนวโน้มดีอย่างมาก
@ ศรีวราห์ชี้คล้ายบึ้มสมานเมตตา
พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. เปิดเผยว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานีนั้น มีแผนประทุษกรรมเหมือนคดีเหตุระเบิดสมานเมตตาแมนชั่น ที่ย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อปี 2553 เพราะลักษณะของระเบิดที่ใช้ก่อเหตุมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนกลุ่มผู้ต้องหามีหลงเหลืออยู่หรือไม่นั้นไม่ทราบ เพราะคดีนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้รับผิดชอบ
เมื่อถามว่าจะเชื่อมโยงกับเหตุวางระเบิดที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหงเมื่อปี 2556 หรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี คล้ายกับเหตุที่เกิดขึ้นที่สมานเมตตาแมนชั่นมากกว่า จากประสบการณ์ทำงานของตนที่ผ่านมา ที่ตรวจสอบพบว่านำระเบิดจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาใช้ก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อย่างไรก็ตามได้สั่งกำชับให้สืบสวนหาข่าวร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะการตั้งด่านมั่นคงรอบกรุงเทพฯ
"เมื่อเดือนที่ผ่านมาได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งชุดประมาณ 5-6 ราย ในเขตกรุงเทพมหานคร ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับการเมืองหรือไม่ ตอบไม่ได้ แต่ภายหลังจากที่ พล.ต.อ.สมยศมีหนังสือวิทยุสั่งการให้เตรียมเฝ้าระวังเหตุ ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ตรวจสอบบริเวณจุดเสี่ยง โดยเฉพาะเกสต์เฮาส์ บ้านเช่า แหล่งซ่องสุม เพราะลักษณะแผนประทุษกรรมแบบเดียวกับที่สมานเมตตาแมนชั่น จึงเน้นตรวจสอบตามแผนประทุษกรรมเดิมที่เคยเกิดขึ้น" พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าว
@ เก็บดีเอ็นเอคนร้ายในรถก่อเหตุ
พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าชุดเฉพาะกิจสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขณะนี้ตำรวจทราบเส้นทางคนร้ายใช้ในการเข้ามาก่อเหตุแล้ว โดยกล้องวงจรปิดจับภาพรถต้องสงสัย 2 คัน ขับตามกันเข้ามาที่ท่าเรือเฟอร์รี่ฝั่งดอนสัก ก่อนข้ามมาบนเกาะสมุย ในเวลา 07.00 น. วันเกิดเหตุ เชื่อว่าคนร้ายเข้ามาดูลาดเลาในพื้นที่เกิดเหตุ ก่อนจะร่วมกันประกอบวัตถุระเบิดในรถยนต์ และนำมาก่อเหตุที่ห้างเซ็นทรัลในเวลา 22.24 น. โดยจุดชนวนระเบิดด้วยการตั้งเวลาจากโทรศัพท์มือถือ
พล.ต.ท.สุชาติกล่าวว่า ตำรวจยังไม่ยืนยันว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ แต่ได้เรียกพยานรวมถึงพนักงานรักษาความปลอดภัยของเซ็นทรัลสมุยมาสอบปากคำแล้ว โดยมี 2-3 คน ที่ภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุคาดว่าหลังเกิดเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตำรวจยังคงเดินหน้าหาพยานหลักฐาน โดยเฉพาะพวงมาลัยรถกระบะคันเกิดเหตุ ซึ่งเชื่อว่าจะมีดีเอ็นเอ ของคนร้ายติดอยู่
ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยอีโอดี และตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานได้เคลื่อนย้ายรถยนต์ที่ได้รับความเสียหายประมาณ 10 คัน ออกจากที่เกิดเหตุบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินเซ็นทรัลเฟสติวัลเกาะสมุย โดยมีเจ้าของรถยนต์ได้นำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่
@ หน่วยข่าวมั่นคงเชื่อ3ทีมใต้บึ้มสมุย
รายงานข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ระเบิดคาร์บอมบ์ที่เซ็นทรัล สมุย จากการสืบสวนในทางลึกพบว่าเป็นการปฏิบัติการของ 3 ทีมใหญ่ ประกอบด้วยกลุ่ม นายอูไบดีละ รอมลี นายอาบัส เจ๊ะอาลี ปฏิบัติการในพื้นที่ จ.ยะลา กลุ่มของนายปอเซ็ง เจ๊ะมะ ปฏิบัติการในพื้นที่ จ.ปัตตานี และ กลุ่มของนายเสรี แวมามะ และ นายรุสลัน ใบหมะ ซึ่งปฏิบัติการอยู่ในพื้นที่ 4 อำเภอ จ.สงขลา ที่มีประวัติก่อการร้ายในพื้นที่ 4 จังหวัด คือการระเบิดคาร์บอมบ์ที่โรงแรม
ลีการ์เดนส์ หาดใหญ่ ปี 2555 การระเบิดคาร์บอมบ์ที่ข้างโรงแรม อ.สะเดา เมื่อปี 2556 เหตุระเบิดที่หน้าโรงแรม อ.เบตง จ.ยะลา ปี 2557 และยังเกี่ยวโยงกับคดีการปล้นชิงรถยนต์ เพื่อใช้ประกอบคาร์บอมบ์อีกหลายคดี
แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองจังหวัดชายแดนใต้กล่าวว่า ระเบิดที่เกาะสมุยน่าจะเกี่ยวกับการเมืองที่ต้องการสร้างความปั่นป่วนให้กับรัฐบาล หากเป็นเรื่องการเมืองอย่างที่มีการออกมาให้ข่าวจากส่วนกลาง ต้องเกี่ยวพันกับกลุ่มการเมืองฝ่ายเสื้อแดงในจังหวัดชายแดนภาคใต้
@ กอ.รมน.เชื่อขัดแย้งบุคคลในพื้นที่
พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนแยก 1 เปิดเผยเหตุระเบิดว่า การข่าวด้านมั่นคงของกองทัพภาคที่ 4 ยังไม่ปรากฏพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อการร้าย หรือ กลุ่มความขัดแย้งทางการเมือง จึงเชื่อว่าการเกิดเหตุคาร์บอมบ์ในพื้นที่ อ.เกาะสมุย เกิดจากความขัดแย้งของบุคคลในพื้นที่ โดยฝ่ายความมั่นคงกำลังตรวจการเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลในพื้นที่ อ.เกาะสมุย กับกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบระเบิด ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน การวางระเบิดไม่ได้หวังผลแก่ชีวิตเนื่องจากเกิดหลังจากปิดเวลาทำการ แต่ต้องการสร้างความเสียหายด้านภาพลักษณ์ศูนย์การค้าโดยเลือกเอาวันครบรอบ 1 ปีของการเปิดให้บริการในการก่อเหตุ
แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุเดินทางมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยไม่ผ่านด่านตรวจของเจ้าหน้าที่ ซึ่งคาดว่ามีรถของกลุ่มร่วมขบวนการอีก 1 คันเป็นรถนำเส้นทางและรับคนขับรถระเบิดกลับ โดยไม่มีการพักค้างคืนบนเกาะสมุย
@ ตร.แชร์ภาพล่า-มือคาร์บอมบ์
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจตรวจกล้องวงจรปิดพบภาพรถต้องสงสัยขับเข้าไปก่อเหตุระเบิดห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลสมุย และพบภาพผู้ต้องสงสัยกำลังเดินออกจากห้างหลังขับรถไปจอดบริเวณลานจอดรถ ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งภาพดังกล่าวมีการแชร์ภาพ ชายต้องสงสัยสวมเสื้อสีน้ำเงินเป็นผู้ร่วมก่อเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ที่ห้างเซ็นทรัลสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ในกลุ่มโซเชียลของข้าราชการตำรวจ ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นบุคคลมีส่วนร่วมก่อเหตุจริงหรือไม่
@ เซ็นทรัลสมุยเปิดให้บริการแล้ว
เวลา 10.30 น. ที่ลานกิจกรรมศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัลเกาะสมุย นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย พร้อมด้วยนายอนันต์ ตันติปัญญากุล ผอ.อาวุโสฝ่ายทรัพย์สิน บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และเจ้าหน้าที่โยธาธิการเทศบาลนครเกาะสมุย ได้ร่วมแถลงข่าวหลังจากเข้าตรวจสอบตัวอาคารของเซ็นทรัลสมุยเสร็จเรียบร้อย และมั่นใจในความปลอดภัย
จากนั้นเวลา 11.00 น. ศูนย์การค้าห้างเซ็นทรัลเฟสติวัลเกาะสมุยได้เปิดให้บริการแก่ลูกค้าตามปกติ โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย เอเชีย และยุโรป เริ่มทยอยเดินทางมาเลือกซื้อสินค้า ขณะที่ร้านค้าที่ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดก็เริ่มทำความสะอาดเก็บเศษกระจก ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของทหาร ตำรวจ ทั้งในและนอกเครื่องแบบอย่างเข้มข้น ขณะที่ด้านหน้าของเซ็นทรัลสมุยได้จัดตั้งเวทีเพื่อจัดงานเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 13-16 เมษายน
ในส่วนจุดเข้าออกของห้างทั้ง 3 จุด ได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดบันทึกการเข้าออกของรถยนต์บันทึกแผ่นป้ายทะเบียนและใบหน้าผู้ขับขี่ โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะตรวจสอบภายในห้องโดยสารและกระบะด้านท้ายรถทุกคันที่เข้าภายในบริเวณศูนย์การค้าเซ็นทรัลสมุย
@ ห้างฯ-ตำรวจ-ทหารเพิ่มความเข้ม
นายรามเนตรกล่าวว่า เหตุการณ์ทุกอย่างได้เข้าสู่ภาวะปกติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะจัดกิจกรรมเทศกาลสงกรานต์ทั้งของเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย และเทศบาลนครเกาะสมุยตามปกติ สำหรับการตรวจสอบพื้นที่ภายในทั้งหมดของเจ้าหน้าที่โยธาธิการของเทศบาลนครเกาะสมุย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิศวกรรมของเซ็นทรัลเฟสติวัลสมุย มั่นใจว่าโครงสร้างของตัวอาคารมีความมั่นคงแข็งแรง สามารถเปิดให้บริการได้ และต้องขอฝากถึงประชาชนชาวเกาะสมุย และนักท่องเที่ยวชาวไทยที่มาเกาะสมุยแล้ว ไม่ต้องหวั่นไหว มาร่วมสนุกกับงานเทศกาลสงกรานต์ได้ตามปกติ เพื่อให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ร้ายแรงอะไร ส่วนภาคธุรกิจโรงแรมยังไม่ยกเลิกการจองห้องพักแต่อย่างใด นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ทั้งจากตำรวจ ทหาร ได้เพิ่มระดับความเข้มงวดเรื่องการเข้าออกเกาะสมุย ทั้งจากทางท่าเทียบเรือและสนามบินเกาะสมุย และกล้องวงจรปิดในเกาะสมุย ซึ่งมีทั้งจากเทศบาลนครเกาะสมุย ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจท้องที่ และของภาคเอกชน ที่คอยช่วยสอดส่องด้านความปลอดภัยในพื้นที่
นายอนันต์กล่าวว่า ทางตำรวจได้ส่งมอบคืนพื้นที่ของเซ็นทรัลเฟสติวัลสมุยแล้วบางส่วน ส่วนมูลค่าความเสียหายนั้นขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการประเมินอยู่ และความเสียหายของรถยนต์ในลานจอดรถทางบริษัทประกันภัยได้เป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายในส่วนนี้ ส่วนภาพวงจรปิดที่บันทึกรถของคนร้ายที่ขับเข้ามา ขอให้เป็นเรื่องของทางตำรวจเป็นผู้ให้ข้อมูลดังกล่าว
@ ตรวจเข้มท่าเรือข้ามฟากสมุย-พะงัน
ที่ท่าเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากทั้ง 2 ท่าของบริษัทราชาเฟอร์รี่และบริษัทซีทรานเฟอร์รี่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีรถยนต์ของนักท่องเที่ยวเดินทางไปเข้าคิวรอขึ้นเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากไปยัง อ.เกาะสมุย และ อ.เกาะพะงัน จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์เดินทางมาจากกรุงเทพฯและภาคกลาง โดยมีเจ้าหน้าที่สารวัตรทหาร จังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ตำรวจ สภ.ดอนสัก และอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.ดอนสัก ตั้งจุดตรวจรถยนต์ทุกคันก่อนเข้าคิวลงเรือ โดยใช้เครื่องตรวจวัตถุระเบิดและกระจกส่องใต้ท้องรถ พร้อมตรวจสอบบุคคลทุกคนก่อนลงเรือเฟอร์รี่อย่างเข้มงวด
นายเสนีย์ ภูวเศรษฐาวร นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า อัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยวบนเกาะสมุยประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนการจัดขบวนแห่เทศกาลสงกรานต์ที่พรุเฉวง หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย ไม่มีการยกเลิก เช่นเดียวกับงานมิดไนต์สงกรานต์บนหาดเฉวง และงานสงกรานต์ออนเดอะบีชที่ฟิชแมนวิลเลจหาดบ่อผุดที่ยังจัดตามปกติ
@ ผจก.เชื่อโคออปไฟฟ้าลัดวงจร
พ.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ เปิดเผยความคืบหน้าการเข้าตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าสหกรณ์สุราษฎร์ธานีว่า จากการประชุมร่วมกับ พล.ต.ต.วิศณุ ม่วงแพรศรี รอง ผบช.ภ.8 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดยประมวลผลการสอบสวนปากคำพยานแวดล้อม ตำรวจประจำป้อมสายตรวจ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ รวมถึงการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด เชื่อว่าสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ไม่ได้มาจากเหตุลอบวางระเบิด และไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ก่อความไม่สงบแต่อย่างใด ส่วนจะเป็นการลอบวางเพลิงหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและผู้เชี่ยวชาญในการระบุสาเหตุ
นายพิสัณห์ เหมาะประมาณ ผู้จัดการสหกรณ์สุราษฎร์ธานี จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับการประสานช่วยเหลือจากโยธาธิการและผังเมืองสุราษฎร์ธานีในการตรวจสอบโครงสร้างอาคารและประสานให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่ 11 นำเครื่องมือหนักเข้ารื้อถอนโครงหลังคาออกนอกพื้นที่ และเร่งดำเนินการฟื้นฟูต่อไป ส่วนสาเหตุเชื่อมั่น 100 เปอร์เซ็นต์ ว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากสหกรณ์มีการจัดเวรยามตลอด จึงไม่มีบุคคลภายนอกสามารถเดินทางเข้ามาก่อเหตุวางเพลิงได้
นายธานี เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุเดินทางไปต่างจังหวัดซึ่งไม่ได้ติดใจสงสัยสาเหตุใดๆ ของเหตุเพลิงไหม้ จึงขอให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายตำรวจในการเข้าตรวจสอบหาสาเหตุ
