WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ฉุน'ดาว์พงษ์'สั่งตั้งกก.สอบ ผอ.โวยลั่น ลากิจบุกทำเนียบร้อง'บิ๊กตู่'ฮือฮาซี 9 ทส.ท้าชน'รมต.'หลังโพสต์ล้วงลูกแต่งตั้ง อธิบดีสั่งขอขมา-ไม่ยอม ศศินชี้ปมปัญหาเด็กเส้น

       'สมัคร ดอนนาปี'โวยถูกหักหลัง เจตนาทำให้เสียหาย ลั่นต่อไปไม่เชื่อใครอีกแล้ว หลังถูก'ดาว์พงษ์'กลับลำสั่งตั้งกรรมการสอบวินัย เผย 30 มีนาฯ

     กรณีนายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ไม่ขอขมา พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรี ทส. ตามการจัดการของนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ หลังจากนายสมัครโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวระบุถึงปัญหาในการสรรหารองอธิบดี 10 ตำแหน่ง ในทำนองมีการแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง โดยก่อนหน้านี้มีการพูดคุยระหว่างคนของ พล.อ.ดาว์พงษ์กับนายสมัครแล้วว่า ขอให้ทุกอย่างเลิกแล้วต่อกัน ไม่ต้องขอขมาและจะไม่มีการตั้งกรรมการสอบใดๆ ทั้งสิ้น โดยคนของ พล.อ.ดาว์พงษ์ขอให้นายสมัครหยุดพูดอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งนายสมัครก็ตกลงรับปากตามข้อเสนอนั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พล.อ.ดาว์พงษ์ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่สถานพักฟื้นและพักผ่อนกองทัพบก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ได้มอบหมายให้นางมิ่งขวัญ วิชยารังสฤษดิ์ ปลัด ทส. ไปดำเนินการสอบสวนทางวินัยกับนายสมัครแล้ว ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จะตั้งแค่กรรมการสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น

    เมื่อวันที่ 28 มีนาคม นายสมัครให้สัมภาษณ์ว่า วันที่นายนิพนธ์เรียกไปคุยนั้น บอกว่าต่อไปนี้ไม่ต้องมีการขอขมาใดๆ ไม่มีการตั้งกรรมการสอบอะไรทั้งสิ้น ขออย่างเดียวคือขอให้ตนหยุดพูด ให้ทุกอย่างเลิกแล้วต่อกัน ตนก็รับปากว่าเลิกแล้วต่อกัน ต่างฝ่ายก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป แต่หลังจากนั้นไม่นาน มีการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่าจะให้ปลัด ทส.ตั้งกรรมการสอบวินัยตนเอง ทำแบบนี้ก็เหมือนเป็นการหักหลังกันนั่นเอง

   "แล้วที่ผ่านมาแปลว่าอะไร บอกให้ผมหยุด ผมก็หยุด แต่เมื่อหยุด กลับจะมาตั้งกรรมการสอบวินัยผม ก็ถือว่าหักหลังผม เจตนาให้เสียหาย ทำแบบนี้แล้วต่อไปจะไว้ใจใครได้" นายสมัครกล่าว

    เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อไป นายสมัครกล่าวว่า ไม่ทำอย่างไร แต่ใครถามอะไรมาก็จะพูดตามความจริงทั้งหมด และมีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้พูด

     "วันจันทร์ที่ 30 มีนาคมนี้ ผมจะลากิจ 1 วัน เพื่อเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกรณีที่ถูกตั้งกรรมการสอบ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องดูแลให้ความเป็นธรรมกับผมได้ หากท่านนายกฯไม่ดูแลก็ไม่รู้ว่าจะไปหาความเป็นธรรมที่ไหนแล้ว และต่อไปนี้ใครมาขอร้องอะไรผม ผมก็จะไม่ไว้ใจอะไรอีกต่อไป ซึ่งหลังจากที่เป็นข่าววันนี้ว่าจะมีการตั้งกรรมการสอบวินัยผม ก็ยังมีโทรศัพท์เข้ามาพยายามพูดอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก แต่ผมไม่ฟัง ไม่เอาแล้ว ไม่เชื่อใครอีกแล้ว" ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติกล่าว

     ด้านนายศศิน เฉลิมลาภ เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวว่า ในฐานะคนนอกที่ทำงานด้านสิ่งแวดล้อม และต้องทำงานเกี่ยวข้องกับ ทส.ตลอดเวลา มองถึงปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นว่า เป็นการแสดงให้เห็นว่าการคัดเลือกบุคลากรเพื่อไปทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งนั้น ใช้ระบบสายสัมพันธ์โยงใยกับระดับนโยบาย มากกว่าจะพิจารณาเอาที่ความสามารถจริงๆ ของบุคลากร ซึ่งถือว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เพราะงานของ ทส.นั้นเป็นการดูแลทรัพยากร เป็นความรู้เฉพาะด้าน หากวางบุคลากรไม่เหมาะสมกับงาน การจัดการทรัพยากรก็จะมีปัญหา

   เมื่อถามว่า มองว่าตัวรัฐมนตรีคิดเล็กคิดน้อยมากเกินไปหรือไม่ ที่เรื่องการโพสต์เฟซบุ๊กถึงขั้นต้องให้ขอขมา นายศศินกล่าวว่า ไม่ได้มองว่าหยุมหยิมหรือไม่หยุมหยิม แต่เป็นเรื่องของการบริหารองค์กร ซึ่งเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นมา ทำให้เห็นเรื่องอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้ความขัดแย้งนั้นตามมาด้วย

เปิดใจ'สมัคร ดอนนาปี' เส้นทางบู๊นายจนตกงาน

 


    นายสมัคร ดอนนาปี ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ข้าราชการผู้ไม่ยอมก้มหัวให้กับความไม่ถูกต้อง ประกาศไม่ยอมขอขมาต่อ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กรณีโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุถึงปัญหาการสรรหารองอธิบดี 10 ตำแหน่งที่มีเรื่องการเมืองเข้ามาแทรกแซง เป็นที่มาของการถูกตั้งกรรมการสอบวินัย เป็น 1 ในพันของข้าราชการไทยที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับสิ่งที่ตัวเองมั่นใจว่าไม่ถูกต้องสุจริต

    'สมัคร'เป็นคน จ.ยะลา เป็นนักศึกษาคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ 41 รุ่นเดียวกับนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ผู้บังคับบัญชาสายตรงคนปัจจุบัน แต่เทอมสุดท้ายของการเรียนได้คะแนนเฉลี่ยไม่ถึงเกณฑ์ จึงต้องออกจากมหาวิทยาลัยไปทำงานอยู่บริษัทปลูกหญ้าเลี้ยงม้าที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และตัดสินใจออกบวช โดยบวชอยู่ 1 พรรษากับอีก 4 เดือน ระหว่างบวชเพื่อนส่งหนังสือมาให้อ่านตลอดเวลา พอสึกก็กลับไปสอบเอ็นทรานซ์อีกรอบ ติดคณะวนศาสตร์อีกครั้ง คราวนี้เข้าเรียนในรุ่น 47 รุ่นเดียวกับทรงธรรม สุขสว่าง ผู้เชี่ยวชาญด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ทำหน้าที่ ที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ คราวนี้เรียนจนจบ 

     บรรจุงานครั้งแรกที่ จ.สระบุรี ในตำแหน่งหัวหน้างานรังวัดสงวนป่า ฝ่ายจัดการที่ดินและป่าไม้ กรมป่าไม้ การต่อสู้ในอาชีพราชการเริ่มต้นที่นี่ เมื่อไปรับงานแล้วพบว่ามีการทุจริตเรื่องการเบิกจ่ายเงิน จึงไปรายงานให้กับป่าไม้เขตรับรู้ เพื่อให้ตั้งกรรมการสอบเรื่องนี้ ปรากฏว่าตัวเองกลับโดนย้ายเสียเอง

     ปี 2543 ขณะที่เป็นหัวหน้าศูนย์ควบคุมไฟป่าภาคเหนือตอนล่าง พบการทุจริตเรื่องการจ้างคนที่ไม่เหมาะสมกับงาน จึงทำหนังสือแจ้งไปยังนายธานี 

     วิริยรัตนพร ผู้อำนวยการสำนักไฟป่าในขณะนั้นให้ทราบ หวังให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและลงโทษผู้กระทำผิด 

     แต่ในที่สุดก็ถูกคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่อีกครั้ง

     'สมัคร'บอกว่า สาเหตุการย้าย เพราะไม่อยากให้ตัวเองขัดขวางเส้นทางการทำงานที่ไม่สุจริตของคนกลุ่มหนึ่ง จนถูกย้ายไปเป็นหัวหน้าศูนย์ต้นน้ำ จ.สุรินทร์ ก็ไปเจอลูกน้องที่โกงเงินคนงานอีก คือ จ้างชาวบ้านมาทำงานแล้วไม่ยอมจ่ายเงิน ชาวบ้านมาร้องเรียนแล้ว ร้องเรียนอีก จนสำนักงานเกือบถูกเผา จนต้องให้ลูกน้องอีกคนเอาเงินไปจ่ายให้คนงานกลุ่มดังกล่าวก่อน เป็นเงิน 2 แสนบาท เรื่องจึงยุติ

     ไม่แน่ใจว่าจนบัดนี้ลูกน้องคนที่ต้องเอาเงินส่วนตัวไปจ่ายเป็นค่าแรงให้ชาวบ้านก่อน ได้เงินจำนวนดังกล่าวกลับคืนมาแล้วหรือยัง แต่แทนที่จะได้รับการยกย่องว่าเข้าไปแก้ปัญหาให้กับองค์กร กลับถูกมองว่าเป็นการทำผิดวินัยราชการ นายธานีนำเรื่องเสนอต่ออธิบดีกรมป่าไม้ในสมัยนั้น คือ นายปลอดประสพ สุรัสวดี ให้ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง และมีคำสั่งให้ออกจากราชการ โดยที่เจ้าตัวยังไม่มีโอกาสชี้แจงใดๆ ทั้งสิ้น

     จึงทำเรื่องอุทธรณ์ต่อสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และระหว่างนั้นก็ยังมีการฟ้องร้องในคดีอื่นๆ ระหว่างสมัครและผู้บังคับบัญชาสูงสุดในขณะนั้น อย่างนายปลอดประสพ อีกหลายคดี

    3 ปีที่สมัครต้องกลายเป็นคนว่างงาน และยังต้องต่อสู้คดี เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับตัวเอง อยู่กับภรรยาและลูกๆ อีก 6 คน ภรรยาเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย ขณะนั้นมีเงินเดือนเหลือใช้เพียงเดือนละ 3,200 บาทเท่านั้น เขาถึงขั้นต้องขายรถยนต์ส่วนตัวเพื่อนำเงินจำนวน 2 แสนบาทไปจ้างทนายความเพื่อต่อสู้คดี แต่ก็แพ้ในศาลชั้นต้น เมื่อเงินหมด ไปศึกษาพบว่าการต่อสู้ในชั้นศาล ไม่จำเป็นต้องใช้ทนายความ สามารถว่าความเองได้ จึงว่าความให้ตัวเอง ถือคติ ไม่มีใครรู้เรื่องตัวเองดีกว่าตัวเอง

    จนในที่สุดก็ชนะคดี 

     ประกอบกับผลการอุทธรณ์ของ ก.พ.ออกมาว่า เขาเป็นผู้บริสุทธิ์ ให้กลับเข้ามารับราชการได้เหมือนเดิม

    หลังจาก 3 ปีแห่งการต่อสู้เพื่อเรียกความเป็นธรรมให้ตัวเองผ่านไป บรรดาเพื่อนฝูงผู้ใกล้ชิดของสมัครจะรู้ดีว่า สมัครถึงขั้นเปลี่ยนชื่อตัวเอง จากนายสมัคร เป็นนายเหนือธานี ดอนนาปี อยู่ราว 5 เดือน จึงเปลี่ยนกลับมาเป็นนายสมัคร เหมือนเดิม 

    ด้วยความคับข้องใจและอยากเตือนสติตัวเองว่า ความยุติธรรมมีอยู่จริง หากเอาความสุจริตที่มีอยู่ของตัวเองเข้าไปต่อสู้ ความสุจริตจะอยู่เหนือทุกสิ่ง เช่นเดียวกับที่ตั้งชื่อลูกชายคนสุดท้อง ที่เกิดมาระหว่างการต่อสู้ว่า ด.ช.เหนือสุรัสวดี ดอนนาปี แต่ต่อมาก็เปลี่ยนไปเป็นชื่ออื่น เพราะคนใกล้ชิดทักกันมากว่า สุรัสวดีเป็นชื่อของเทพองค์หนึ่ง ไม่เหมาะสมที่จะมาตั้งชื่อลูกแบบนี้

     "มีคนถามว่าทำไมไม่ปล่อยๆ ไปบ้าง ทำไมต้องร้องเรียนอะไรบ่อยๆ ผมบอกว่าเห็นอะไรแบบนี้แล้วมันคับข้องใจ มันอึดอัด ไม่มาเจอกับตัวเองไม่รู้หรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ตัวเองถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรม ทุกวันนี้ก็ยังเห็นข้าราชการหลายคนที่ถูกข้อหา โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์และถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งถ้าตัวเองสุจริต ต้องต่อสู้ สู้ได้หรือสู้ไม่ได้ ขอให้สู้ก่อน เพื่อศักดิ์ศรีและเรียกความเป็นธรรมให้ตัวเอง ซึ่งผมก็เชื่อว่า ความเป็นธรรมมีจริง"

     ทุกวันนี้ สมัครอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมเล็กๆ ขนาด 40 ตารางเมตร ชานเมืองกับภรรยา และลูก 2 คน

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!