- Details
- Category: การเมือง
- Published: Wednesday, 18 March 2015 10:56
- Hits: 3079
วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8876 ข่าวสดรายวัน
ตั้งข้อหา'พยาน 6 ศพ'ร่วมบึ้ม! ทหารคุมตัวไปจริง นำมาส่งตร.คดีก่อการร้าย-อั้งยี่ ฮิวแมนไรต์ฯติงจับโดยพลการ กสทช.เรียกเตือน 2 ทีวีช่องแดง
จับมาจริง - น.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือแหวน พยานคดี 6 ศพวัดปทุมฯ ชู 3 นิ้ว ขณะทหารคุมตัวมาส่งให้ตำรวจที่บช.น. แจ้งข้อหาก่อการร้ายและอั้งยี่ซ่องโจร ในคดีร่วมทีม ปาระเบิดศาลอาญา ก่อนนำตัวไปฝากขัง ศาลทหาร เมื่อวันที่ 17 มี.ค. |
กสทช.จ่อฟัน 2 ช่องทีวีเสื้อแดงทั้ง'พีซทีวี-ทีวี 24 สถานีประชาชน' เรียกคุยผู้บริหาร-ผู้จัดรายการจ่อสั่งปิดบางรายการอ้างเนื้อหารุนแรงขัดประกาศคสช. ด้านพยาบาลสาวพยานสำคัญคดีสังหาร 6 ศพ วัดปทุมฯปรากฏตัวแล้ว "น้องแหวน"ถูกทหาร มทบ.11 จับไปจริง พาไปส่งตำรวจที่บช.น. พร้อมถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย อั้งยี่และจ้างวานให้พยายามฆ่า ตอนเย็นถูกนำตัวฝากขัง ศาลทหาร ไม่ได้ประกันตัว ก่อนจะส่งเข้าเรือนจำทันที ตร.แถลงเกี่ยวโยงกับคดี ปาระเบิดศาลอาญา และอยู่ในกลุ่มจ้างวานให้ก่อเหตุเตรียมวางระเบิด 5 จุดทั่วกรุง ด้าน เจ้าตัวชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วให้ช่างภาพ สีหน้าเรียบเฉย ทนายความมึนพยานคดีสำคัญ ถูกแจ้งข้อหาหนัก หวั่นกระทบน้ำหนักประจักษ์พยาน ด้านฮิวแมนไรต์วอตช์-สื่อต่างประเทศตั้งข้อสังเกตถูกจับแบบไม่ปกติ ศาลอาญาสั่งจำคุก 5 เดือนไม่รอลงอาญาทีมบึ้ม"มหาหิน-ยุทธนา'คดีแรกละเมิดอำนาจศาล
ทนายความยื่นคสช.ทวงถาม'แหวน'
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 17 มี.ค. ที่หน้าบก.ทบ. นายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อมนุษยชน (กนส.) ได้มายื่นหนังสือร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องขอให้ตรวจสอบ สืบสวน การคุมตัวและหายตัวไปของ น.ส.ณัฏฐธิดา หรือแหวน มีวังปลา พยานในคดี 6 ศพวัดปทุมวนาราม ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพัก โดยมีพ.อ.อภิชิต ภิญโญชีพ หัวหน้าส่วนปฏิบัติการศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าว
นายวิญญัติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. มีเจ้าหน้าที่ทหารอ้างตัวเป็นนายทหารพระธรรมนูญ แต่งกายเครื่องแบบทหาร 2 นาย และแต่งกายนอกเครื่องแบบ 3 นาย แจ้งกับ น.ส.ณัฎฐธิดา ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึก นำตัวน.ส.ณัฎฐธิดาไปจากบ้านพักในต.แพรกษา อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยไม่ทราบสาเหตุและวัตถุประสงค์ของการควบคุมตัว ซึ่ง วันเดียวกันนี้เป็นการควบคุมตัว 7 วัน ตาม กฎอัยการศึก ก็ยังไม่ทราบสถานะความเป็นอยู่และความปลอดภัยของน.ส.ณัฎฐธิดา
นายวิญญัติ กล่าวว่า ในนาม กนส.และทนายความของญาติผู้เกี่ยวข้อง วิตกกังวลต่อความปลอดภัย อนามัย อิสรภาพและชีวิตของน.ส.ณัฏฐธิดา จึงแจ้งผู้เกี่ยวข้องสั่งการตรวจสอบ สืบสวนและสอบสวนกรณีดังกล่าวอย่างรีบด่วนและดำเนินการอย่างจริงจัง รวมถึงชี้แจงถึงการทำงานของทางเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มนี้ที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของ คสช. และต่อความมั่นคงในชีวิตและความสงบสุขของประชาชนในประเทศ หากมีการควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ทหารขอให้สั่งการให้ปล่อยตัว น.ส. ณัฏฐธิดา ทันที
ยืนยันถูกทหารควบคุมตัวไปจริง
"น้องแหวนเป็นพยานปากสำคัญที่เคย เบิกความ กรณีการไต่สวนการเสียชีวิตของทั้ง 6 ศพ วัดประทุมฯ เมื่อปี 2553 และคดีนั้น ยังต้องมีกระบวนการพิจารณาที่ต้องดำเนินการต่อในอนาคต จึงเห็นว่าเป็นพยานที่สำคัญควรได้รับการคุ้มครอง ถึงแม้ว่าพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช.จะออกมาปฏิเสธ แต่มีพยานบุคคลที่เห็นชัดเจนว่ามีนายทหารนำตัวน้องแหวนไป จึงอยากให้ คสช.ตรวจสอบเรื่องนี้ว่าการกระทำเช่นนี้ละเมิดสิทธิ์และละเมิดต่อกฎหมาย เพราะอาจถูกมองว่าใช้อำนาจตามอำเภอใจหรือไม่" เลขาธิการ กนส.กล่าว
เมื่อถามว่า หากน.ส.ณัฏฐธิดาถูกควบคุมตัวในคดีอื่นๆ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวได้หรือไม่ นายวิญญัติกล่าวว่า หากควบคุมตัวในคดีอื่นๆ ญาติสามารถรู้ด้วยว่าถูกควบคุมตัวไปในคดีอะไร สาเหตุใด หรือหลังจากควบคุมตัวไปแล้วก็ต้องชี้แจงออกมา แต่ที่ผ่านมา 7 วันไม่มีการชี้แจง ไม่มีการบอกว่าจะไปที่ใด ซึ่งเบื้องต้นคนที่ถูกควบคุมตัว หรือถูกจับ ตาม ป.วิอาญา มาตรา 7/1 ต้องได้รับการบอกว่า หรือแจ้งว่าอยู่ที่ใด รวมถึงแจ้งให้ผู้อื่นทราบถึงสิทธิเสรีภาพของเขาด้วย ทั้งนี้ จะทำคดีอื่นๆ ก็ตาม การทำคดีแบบตรงไปตรงมา จะมา บอกว่ามีคนไม่สุจริต ไม่บริสุทธิ์ ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ก่อความแตกแยกในบ้านเมือง ไม่มีใครอยากจะทำอย่างนั้น
วินธัยกลับลำ-รับทหารจับไปจริง
วันเดียวกัน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษก คสช. ชี้แจงว่า จากการประสานข้อมูลกับกกล.รส. เบื้องต้นยังไม่พบรายละเอียดมากนัก แต่หลังติดตามข้อมูลเพิ่มเติมกับชุดทีมงานดูแลคดีสำคัญของหน่วยงานอื่นๆ จึงได้รับข้อมูลว่าอาจมีเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีความมั่นคงสำคัญของทหารและตำรวจไปขอเชิญตัวน้องแหวนไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจาก เจ้าหน้าที่ทำงานในชุดสืบสวนคดีสำคัญได้พบข้อมูลความเชื่อมโยงสำคัญบางอย่างที่เกี่ยวกับคดีความมั่นคงที่สืบสวนอยู่ขณะนี้ คาดว่าน้องแหวนอาจให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการคลี่คลายคดี เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องขอเชิญไปเพื่อขอให้ข้อมูล ยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่วัดปทุมฯ เมื่อ ปี 2553 เพราะคดีดังกล่าวจบไปแล้ว หลังจากนี้คงต้องติดตามในรายละเอียดว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีอะไรบ้าง
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่บน.6 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้าคสช. กล่าวกรณีการควบคุมตัวน.ส.ณัฏฐธิดาว่า ยังไม่ได้รับทราบรายละเอียด แต่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่จะไม่ดำเนินการใดๆ โดยพลการ ก่อนหน้านี้ได้สั่งการเรื่องการดูแลความมั่นคงไปแล้ว ขณะนี้การดำเนินการเป็นระบบแล้ว และผู้ที่มีหน้าที่จะต้อง ทำหน้าที่อยู่ในกรอบของกฎหมายเช่นกัน
บิ๊กโชยแจงขยายผลจากคดีบึ้มศาล
ที่กองทัพภาคที่ 1 พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (ผบ.กกล.รส.) กล่าวถึงกรณีมีนายทหารกรมพระธรรมนูญไปควบคุมตัวน.ส.ณัฏฐธิดาว่า จริงๆ ทุกเรื่องพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. และพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผบ.ทบ. เน้นย้ำตลอดว่าการดำเนินการใดๆ ต้องยึดหลักกฎหมาย ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ ส่วนกรณีน้องแหวนเป็นการทำงานของ ชุดดำเนินคดีจากเหตุการณ์ปาระเบิดที่ศาลอาญา ดังนั้น เมื่อดำเนินคดีใครที่เกี่ยวข้องก็ไปเชิญผู้ต้องสงสัย หรือผู้ที่คนร้ายพาดพิงไป มาเพื่อพูดคุย ถ้าใครไม่เกี่ยวข้องก็ปล่อยตัวไป ถ้าใครเกี่ยวข้องมีหลักฐานชัดเจน ส่งดำเนินคดีตามกระบวน การยุติธรรม ขอศาลออกหมายจับต่อไป ฉะนั้นเราจะไม่ดำเนินการใดๆ ที่ นอกเหนือกฎหมายทั้งสิ้น
เมื่อถามว่ากรณีต่อไปถ้าหน่วยทหารใดไปเชิญตัวผู้ต้องสงสัยต้องเปิดเผยให้ชัดเจน พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า เราเน้นย้ำอยู่แล้ว ถ้าทุกหน่วยเข้าไปในพื้นที่ กกล.รส.ต้องแจ้งให้ทราบว่าเข้ามาทำงานในพื้นที่ เป็นหลักปฏิบัติโดยทั่วไป ยกเว้นกรณีที่เกรงว่าผู้ต้องสงสัยยังไม่ใช่ผู้ถูกกล่าวหา บางทีเป็นเรื่องลับมาก แต่สุดท้ายต้องแจ้งมาที่กกล.รส.รับทราบ ยืนยันว่าพยายามหลีกเลี่ยงเต็มที่จะไม่ใช้ กฎอัยการศึก แต่จะใช้กฎหมายปกติเท่านั้น
ปัดไม่ทำลายน้ำหนักพยานคดี6ศพ
พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า ส่วนการจะเชิญใครมาอีกหรือไม่นั้น อย่างที่บอก คสช.รักษาความมั่นคง เพื่อให้รัฐบาลบริหารประเทศได้ อะไรที่เกี่ยวกับความมั่นคงก็ต้องมั่นคงก็ต้องพูดคุย ไม่จำเป็นต้องเชิญ แต่ขอสร้างความเข้าใจ และบอกว่าอย่างนี้ไม่ทำได้หรือไม่ ถ้าทำแล้วเกิดผลเสีย จะทำให้สังคมแตกแยก คนทะเลาะกัน และขอสร้างความเข้าใจร่วมกัน ขอเน้นย้ำกับสื่อว่าสื่อต้องช่วยสร้างความเข้าใจกับสังคม ประเทศต้องการความร่วมมือ ความรัก ความสามัคคี เพื่อเดินต่อไปได้
เมื่อถามว่า กรณีควบคุมตัวน.ส.ณัฏฐธิดา พยานสำคัญในเหตุการณ์ 6 ศพวัดปทุมฯ แล้วเชื่อมโยงเหตุการณ์ปาระเบิดศาลอาญา เป็นการทำลายความเชื่อถือของพยาน พล.ท. กัมปนาทกล่าวว่า ต้องถามตำรวจ เพราะอยู่ในกระบวนการว่าพาดพิงถึงใครบ้าง เป็นกระบวนการปกติที่ตำรวจสงสัยก็ต้องเชิญตัวมาสอบ ถาม ทุกอย่างว่าตามพยานหลักฐานเชื่อมโยงถึงใครก็ดำเนินการ ไม่ใช่เป็นเรื่องมั่วๆ
ทหารคุมตัว'แหวน'ส่งตร.ที่บช.น.
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่บช.น. เจ้าหน้าที่ทหารกองพันทหารราบ มณฑลทหารบกที่ 11 นำตัวผู้ต้องหาคดีปาระเบิดศาลอาญารัชดาที่ควบคุมตัวไว้ตามกฎอัยการศึก ส่งมาให้คณะพนักงานสอบสวนเป็นชุดที่ 3 จำนวน 3 ราย ได้แก่ นางวาสนา บุษดี อายุ 46 ปี ผู้รับ โอนเงิน นายนเรศ อินทรโสภา อายุ 32 ปี ผู้จัดหาสถานที่ และน.ส.ณัฏฐธิดา หรือแหวน มีวังปลา อายุ 36 ปี พยาบาลอาสาสมัคร พยานในคดี 6 ศพ วัดปทุมวนาราม โดยมี พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. พล.ต.ต. สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต. ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.น.6 พ.ต.อ.ชยุต มารยาทตร์ รองผบก.น.6 พร้อมพนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำและแจ้งข้อหา ดำเนินคดี ระหว่างที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมน.ส.ณัฏฐธิดาไปสอบปากคำ น.ส.ณัฏฐธิดาได้ชู 3 นิ้วแสดงสัญลักษณ์ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายวิญญัติ ทนายความโพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า น.ส.ณัฏฐธิดา ถูกนายทหารในเครื่องแบบ 2 ราย ควบคุมตัวหายไป ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 มี.ค. จากที่บ้านพัก ต.แพรกษา จ.สมุทรปราการ ตามกฎอัยการศึก โดยไม่ทราบว่าเรื่องอะไร โดยฝ่ายทหารมีการปฏิเสธไม่ทราบกรณีการควบคุมตัว พยานสาวคดี 6 ศพ วัดปทุมฯ กระทั่ง น.ส.ณัฏฐธิดา ถูกนำตัวมาที่บช.น. และตกเป็นหนึ่งใน ผู้ต้องหาในคดีระเบิดศาลอาญาอย่างไม่คาดคิด
ชูรูปจารุพงศ์-สุนัยให้ดูระหว่างสอบ
รายงานข่าวระบุว่า คณะพนักงานสอบ สวนนำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย แยกสอบปากคำ พร้อมทั้งให้ทางแพทย์จาก ร.พ.ตำรวจมาตรวจร่างกายผู้ต้องหา เพื่อยันยันว่า ไม่ได้มีการทำร้ายผู้ต้องหา ทั้งผู้ต้องหาทั้งหมดยืนยันว่าจะไม่ขอแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมทั้งให้ทางทนายความร่วมฟังการสอบสวน ในการสอบปากคำ น.ส.ณัฏฐธิดานั้น พล.ต.ท. ศรีวราห์ ได้นำรูปภาพกลุ่มบุคคลโดยมี นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย สุนัย จุลพงศธร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และแกนนำเสื้อแดง ถ่ายรูปร่วมกับ นายมนูญ ชัยชนะ หรือเอนก ซานฟราน ให้น.ส.ณัฏฐธิดา ดูเพื่อสอบถามว่าบุคคล ดังกล่าวเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ณัฏฐธิดา มีชื่อและข้อมูลการสนทนาโปรแกรมแอพพลิเคชั่นไลน์อยู่ในรายกลุ่มของผู้ก่อเหตุ โดยรู้จักกับนายอเนก สมัยชุมนุมร่วมกับกลุ่มเสื้อแดง โดยเงินที่ใช้ในการก่อเหตุดังกล่าวถูกโอนรับผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารแห่งหนึ่งที่อิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว หรือบิ๊กซีลาดพร้าว พื้นที่สน.โชคชัย
แจ้งข้อหาก่อการร้าย-อั้งยี่-จ้างวาน
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมด พนักงานสอบสวนแจ้งความดำเนินคดี นายณเรศ ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีเครื่องกระสุนปืนและยุทธภัณฑ์ทางทหารที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ได้ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร น.ส.วาสนา แจ้งข้อหา ร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันเป็นอั้งยี่ ร่วมกันจ้างวานใช้ ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีเครื่องกระสุนปืนและยุทธภัณฑ์ทางทหารที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ได้ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร และน.ส. ณัฏฐธิดา ข้อหา ร่วมกันก่อการร้าย ร่วมกันเป็นอั้งยี่ และร่วมกันใช้จ้างวานให้บุคคลอื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า โดยนาง ณัฏฐธิดา ให้การภาคเสธ ยอมรับว่ามีการโอนเงินจริง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีปาระเบิด
อ้างรับจ้างวางบึ้ม 5 จุดทั่วกรุง
ต่อมาเวลา 13.30 น. พล.ต.ท.ประวุฒิ พล.ต.ท.ศรีวราห์ พล.ต.ต.จิตติ รอดบางยาง รองผบช.น. พล.ต.ต.สมบัติ พล.ต.ต.ชยพล ร่วมแถลงข่าวการสอบสวนผู้ต้องหา
พล.ต.ต.ชยพล กล่าวว่า คดีปาระเบิดศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก จากการรวบรวมพยานหลักฐานกลุ่มคนร้ายมีขั้นตอนการดำเนินการ 2 ครั้ง ครั้งแรกมีการจ้างวานเมื่อเดือนก.พ.58 กลุ่มบุคคลที่จ้างวานเป็นชุดเดียวกัน คือ นายมนู ชัยชนะ หรืออเนก ซานฟราน กลุ่มองค์กรภาคีเพื่อสิทธิมนุษยชน มีการโอนเงินล็อตแรก โดยประสานรู้จักกับนางสุภาพร หรือเดียร์ มิตรอารักษ์ พบการโอนเงินให้ นายวสุ เอี่ยมละออ จำนวน 50,000 บาท นายวสุ ก็โอนเงินให้ นางวาสนา บุษดี เมื่อวันที่ 3 ก.พ.58 จำนวน 47,000 บาท ซึ่งมีน.ส.ณัฏฐธิดาที่รู้จักกันสามารถหาบุคคลที่จะลงมือลอบวางระเบิด คือ นายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ จากการสอบสวนนายสุรพล ให้การว่า เขามีความสามารถที่จะวางระเบิดได้ 5 จุด โดยตกลงเงินจุดละ 10,000 บาท ได้แก่ กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ สวนลุมพินี ทางลงรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีจตุจักร ศาลอาญา และลานจอดรถโรงแรมสยามเคมปินสกี้ จึงโอนเงินเข้ามาในระบบ จากนั้นลงมือให้ผู้ลงมือกระทำความผิด 15,000 บาท เป็นการให้เงินล่วงหน้าก่อน หลังจากรับเงินไปแล้วไม่สามารถลงมือกระทำความผิดได้ ความผิด ในฐานผู้ใช้จ้างวาน เรื่องของการก่อการร้าย ถือเป็นความผิดสำเร็จในครั้งแรก
ชี้แหวนรู้จักกลุ่มผู้ต้องหาทางเฟซ
พล.ต.ต.ชยพลกล่าวต่อว่า ครั้งที่สองมีการดำเนินการเช่นเดียวกัน ผู้ใช้จ้างวานเป็นกลุ่มบุคคลชุดแรกไม่ว่าจะเป็น นายเอนก ซาน ฟราน นางสุภาพร หรือเดียร์ นางวาสนา บุษดี จึงเปลี่ยนตัวละครและผู้ลงมือกระทำความผิดใหม่ เนื่องจากใช้นายสุรพล แล้วไม่ประสบ ผลสำเร็จ จากนั้นประสานไปทาง นายวิระศักดิ์ โตวังจร หรือใหญ่ พัทยา ดำเนินการได้จัดหาลูกระเบิดขว้าง และอาวุธปืน นำไปให้นายมหาหิน ขุนทอง และนายยุทธนา เย็นภิญโญ ลงมือกระทำความผิดได้ 1 จุด ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาฯ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.
พล.ต.ต.ชยพลกล่าวอีกว่าจะเห็นว่าทั้ง 2 ครั้ง กลุ่มผู้ใช้จ้างวานซึ่งเป็นนายทุนที่อยู่ต่างประเทศดำเนินการ และเป็นขบวนการมีการวางแผน ใช้กำลังการประทุษร้ายเพื่อให้เกิดความหวาดกลัวหมู่พี่น้องประชาชน รวมทั้งจะมีการระเบิดทั่วประเทศ 100 จุด เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจดำเนินการสืบสวนจับกุม ดังกล่าว น.ส.ณัฏฐธิดา หรือแหวน อยู่ในเรื่องของการโอนเงินเข้าไป นางณัฏฐธิดา รู้จัก กับนายสุรพล จากนั้นก็แนะนำนายสุรพล ให้รู้จักกับคนในกลุ่ม
คุก 5 เดือน - เจ้าหน้าที่คุมตัวนายมหาหิน ขุนทอง และนายยุทธนา เย็นภิญโญ ผู้ต้องหาปาระเบิดใส่ศาลอาญามาฟังคำพิพากษา ก่อนตัดสินจำคุกคนละ 5 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาฯ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. |
เมื่อถามว่า น.ส.ณัฏฐธิดา รู้จักกับคนกลุ่มนี้ได้อย่างไร เพราะเป็นพยาบาล พล.ต.ท. ประวุฒิ ตอบว่า รู้จักทางเฟซบุ๊ก ต่อข้อถามว่า น.ส.ณัฏฐธิดา เป็นกลุ่มนปช.หรือไม่ พล.ต.ท. ประวุฒิ ตอบว่า ไม่ทราบกลุ่มไหน
ด้าน พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวถึงการโยงใยในกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วยว่า น.ส.ณัฏฐธิดา รู้จัก กับนางสุภาพร หรือเดียร์ จากนั้นก็มีการส่ง เฟซบุ๊กให้รู้จักกับ นายเอนก ซานฟราน และมีการถ่ายรูปกับกลุ่มบุคคลซึ่งมีหลักฐานตามภาพถ่าย วินิจฉัยไม่ออกเหมือนว่า เป็นสีไหนแต่ก็ยืนยันตามภาพและเอกสาร
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้อง กับสีเสื้อหรือไม่ พล.ต.ท.ศรีวราห์ ตอบว่า เอกสารบอกชัดเจน ส่วนตัวการมีมากกว่า นายเอนก หรือออกหมายจับใครเพิ่มเติม อยู่ระหว่างการสอบสวน
คดีปาบึ้มศาลอาญาจับแล้ว 17 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีคนร้ายปาระเบิดศาลอาญา คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนบช.น.แล้วรวมทั้งหมด 17 ราย ประกอบด้วย นายมหาหิน ขุนทอง ทำหน้าที่ขับจยย.ก่อเหตุ นายยุทธนา เย็นภิญโญ นั่งซ้อนท้ายปาระเบิด น.ส.ณัฏฐ์พัชร์ หรือนัท อ่อนมิ่ง น.ส.ธัชพรรรณ หรือไข่มุก ปกครอง นายวิระศักดิ์ โตวังจร หรือใหญ่ พัทยา ผู้จัดหาระเบิด นางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือ เดียร์ ผู้จ้างวาน นางวาสนา บุษดี ผู้โอนเงิน นายณเรศ อินทรโสภา เจ้าของสถานที่ประชุมวางแผน นายสรรเสริญ หรือศรีอุ่นเรือน นายชาญวิทย์ จริยนุกูล นายวิชัย หรือตั้ม อยู่สุข นายนรภัทร หรือบาส เหลือผล นายเจษฎาพงษ์ หรือเจษ วัฒนพรชัยสิริ นายมนูญ ชัยชนะ หรือ เอนก ซานฟราน ล่าสุดที่เพิ่มอีก 3 คน คือ นายวสุ เอี่ยมละออ นายสุรพล เอี่ยมสุวรรณ และน.ส.ณัฏฐธิดา มีวังปลา
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ทหารจะนำตัวนางสุภาพร มิตรอารักษ์ หรือเดียร์ ผู้จ้างวาน นายวสุ เอี่ยมละออ ทำหน้าที่โอนเงิน นาย สุรพล เอี่ยมสุวรรณ ผู้รับเงินที่จะก่อเหตุวางระเบิดก่อเหตุครั้งแรกแต่รับเงินมาแล้ว ไม่ได้ลงมือก่อเหตุ ไปแถลงข่าวในวันที่ 18 มี.ค. เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ทนายชี้กระทบคดี 6 ศพวัดปทุม
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน (กนส.) และทนายความ เปิดเผยถึงกรณีที่น.ส.ณัฏฐธิดาต้องกลายมาเป็นผู้ต้องหาว่า ตนมองเรื่องนี้ว่ามีผลกระทบต่อพยานหลักฐาน แน่นอนว่า ในอนาคต ถ้าเรามองถึงพยานหลักฐาน ถ้าตามพยานหลักฐานถือว่าพยานคนนี้เป็นพยานที่ไม่มีน้ำหนัก ความน่าเชื่อถือของพยานไม่มี เป็นปฏิปักษ์ ฉะนั้นรูปการณ์ที่ผ่านมา มันอาจก่อให้เกิดผลการรับฟัง แต่ยังมีหลักอยู่อย่างหนึ่งว่า ขณะที่ให้การ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยังไม่มีเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวหา เพราะมา กล่าวหาทีหลัง สำหรับการที่เจ้าหน้าที่ได้ ตั้งให้เป็นผู้ต้องหา ก็เป็นเรื่องพฤติการณ์อีกอย่างหนึ่ง จริงๆ เขาอาจเข้าไปเกี่ยวข้องจริงๆ ก็ได้ในระดับหนึ่ง
นายวิญญัติกล่าวว่าหลังจากยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบสืบสวนสอบสวน การคุมตัวและการหายตัวไปของน.ส.ณัฏฐธิดา ต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โดยจะเข้ามาช่วยดูแลด้านคดีความให้กับน.ส.ณัฏฐธิดา ว่าการดำเนินคดีเป็นไปอย่างถูกต้องหรือไม่ และส่วนตัวเห็นว่าการกระทำของทหารที่คุมตัวน.ส.ณัฏฐธิดา อาจละเมิดกฎหมายสิทธิมนุษยชน แต่ไม่ได้สนับสนุนการกระทำที่ต่อต้านคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เพื่อเข้าใจว่าอยู่ภายใต้พ.ร.บ.กฎอัยการศึก เบื้องต้นยังไม่ได้มีการพูดคุยกับน.ส.ณัฏฐธิดามากนัก เพียงได้ทราบว่า ถูกปิดตาแล้วนำตัวมาสอบสวนที่บช.น.เท่านั้น อย่างไรก็ตาม จะดำเนินการทางด้านกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ฮิวแมนไรต์วอตช์เตรียมแถลง
ด้านนายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนไรต์วอตช์ ประจำประเทศไทย กล่าวถึงการควบคุมตัว น.ส.ณัฏฐธิดาว่า กรณีดังกล่าว ก่อนหน้านี้ทั้งรัฐบาลและคสช. ปฏิเสธว่าไม่ได้ควบคุมตัว น.ส.ณัฏฐธิดา แต่พอกลายเป็น กระแสสังคม อยู่ดีๆ เจ้าหน้าที่รัฐนำตัวน.ส.ณัฏฐธิดา ส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีความมั่นคง ซึ่งในประเด็นคดีความมั่นคงนี้ หากดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมายก็ว่ากันตามเนื้อผ้า เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายสุณัยกล่าวว่า แต่ที่น่ากังวลคือ สิ่งนี้สะท้อนว่านับแต่การยึดอำนาจและการมีกฎอัยการศึกที่ผ่านมาเกือบเป็น 1 ปี นั้น การที่เจ้าหน้าที่รัฐอย่างคสช.กระทำการควบคุมตัวประชาชนโดยพลการ ไม่เปิดเผยสถานที่ ไม่ชี้แจงเหตุผล ไม่ยอมให้มีทนายมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการสอบสวน ซึ่งรูปแบบที่น่ากังวลนี้ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องและหลายกรณี ทั้งที่การสอบสวนบุคคลใดต้องมีหลักประกันว่าต้องเป็นไปตามหลักสากล ไม่ใช่กระทำแบบปิดลับแบบที่ผ่านมา ดังนั้น สำนักงานใหญ่ฮิวแมนไรต์วอตช์จึงมีความกังวลในเรื่องนี้ และขอเรียกร้องให้คสช. ยุติการกระทำเช่นนี้ โดยภายในวันที่ 18 มี.ค. ฮิวแมนไรต์วอตช์จะออกแถลงการณ์ใน เรื่องนี้อย่างเป็นทางการ
บิ๊กตู่แจงทหารจับกุมน้องแหวน
เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ หัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์กรณีน.ส.ณัฏฐธิดาว่าวันนี้ทหารนำตัวส่งให้กับตำรวจแล้ว ซึ่งเกี่ยวพันกับคดีวางระเบิดด้วย ต้องฟังสองทางทั้งเจ้าหน้าที่ ฟังสื่อ และฟังผู้ที่มาร้องเรียนด้วย เรื่องคดีวัดปทุมวนารามก็ติดตามแล้วกัน ซึ่งตำรวจกำลังสอบอยู่ เขามีหลักฐานเพิ่มเติม เดี๋ยวคงค่อยๆ ปล่อย ทุกเรื่องถ้ามันแรงๆ ออกมาโอเคมันดูดี แต่มันทำให้สับสนอลหม่านไปหมด ค่อยๆ ปล่อยไป นี่เป็นขั้นตอนการดำเนินการของเรา นโยบายของรัฐบาลไม่ต้องการให้บ้านเมืองเกิดความ ไม่สงบ ฉะนั้นอยากให้ทุกคนช่วยกัน
ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะหัวหน้าคสช. การเชิญตัวบุคคลเข้าไปพูดคุยจะออกประกาศหรือเชิญเป็นการภายในหรือไม่ นายกฯ ปฏิเสธว่า ไม่ บางทีเรียกไปคุย ไม่ได้เชิญตัว เรียกไปคุย แต่ไม่ได้ไปจับกุมอะไรทั้งสิ้น แต่ไปเชิญที่บ้านให้ออกมาคุยกัน เขาก็มา แต่ถ้าประกาศก็จะตื่นตระหนกกันไปหมด ไม่อยากให้ประกาศ แต่จะเชิญมาแล้วปล่อยกลับไป ซึ่งเขาเข้าใจและให้ความร่วมมือ เป็นการพูดคุยกันไม่ได้ไปจับ ถ้าจับก็ต้องจับควบคุมตัวขัง และการเรียกไปคุยแต่ละครั้ง กองทัพรู้หมด ต้องสั่งการจากกองทัพ กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยเขาคุมทั้งหมด ไปถามแม่ทัพภาคที่ 1 ตนถามกลับไปมีหมด เพียงแต่เชิญมาบ้าง คุยกันบ้าง พอเจอกันคุยไปคุยมาปรากฏว่าเกี่ยวข้องมีหลักฐาน แบบนั้นก็ส่งดำเนินคดี
"กรณีของหนูแหวน ก็ไปสู้คดีต่อไป หนูแหวน แขนอ่อนอะไรนั่น ยืนยันว่าไม่มีการทำร้าย ยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งไม่อยากทำ ทหารใจร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าใจร้ายคงไม่อยู่กันถึง วันนี้ ก็ทนๆ กันไป ให้เวลาทำงานหน่อย กำลังปฏิรูป ถ้าปฏิรูปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมหมดแล้วจะปฏิรูปทำไม" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
นำตัวฝากขังที่ศาลทหารทันที
เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ศาลทหารกรุงเทพ กรมพระธรรมนูญ กระทรวงกลาโหม เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนนำตัว 3 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย น.ส.ณัฏฐธิดา ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันก่อการร้าย, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ และจ้างวานให้ผู้อื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า นางวาสนา บุษดี ข้อหาร่วมกันก่อการร้าย, อั้งยี่, ร่วมกันใช้จ้างวานให้บุคคลอื่นกระทำความผิดฐานพยายามฆ่า, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีเครื่องกระสุนปืนและยุทธภัณฑ์ทางทหารที่นายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตให้ได้, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอวุธปืนไปในเมือง สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และนายนเรศ อินทรโสภา ในข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีเครื่องกระสุนปืนและยุทธภัณฑ์ทางทหารที่นายทะเบียน ไม่สามารถอนุญาตให้ได้, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยขออำนาจศาลทหารกรุงเทพ เพื่อฝากขังผัดแรก 12 วัน
ทนายยื่นประกันตัว-ไม่อนุญาต
นายวิญญัติ ในฐานะทนายความ กล่าวว่า ทนายยื่นขอประกันตัวน.ส.ณัฏฐธิดา และนางวาสนา เนื่องจากทราบว่าข้อกล่าวหาของทั้ง 2 คนนั้นห่างไกลข้อเท็จจริงและถูกหลอกให้มาเกี่ยวข้อง จึงขอยื่นคัดค้านการฝากขังและยื่นขอประกันตัว โดยน.ส.ณัฏฐธิดาให้ข้อมูลว่าเงินที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องนั้นเป็นเงินที่เพียงแค่ไปยืมมา เพื่อเปิดร้านซักผ้า ซึ่งทนายใช้หลักทรัพย์ 6 แสนบาทเพื่อขอประกันตัว ส่วนนางวาสนาทราบว่าถูกยืมสมุดบัญชีธนาคารไปใช้ ทนายจึงยื่นขอประกันตัวโดยใช้หลักทรัพย์ 4 แสนบาท
จากนั้นเวลา 19.00 น. คณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพออกนั่งบัลลังก์พิจารณาอ่านคำร้องที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนบช.น.ที่ยื่นขอฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เนื่องจาก เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนให้เหตุผลว่ายังคงต้องสืบพยานเพิ่มเติม โดยคณะตุลาการศาลทหารกรุงเทพพิเคราะห์แล้วเห็นว่ามีเหตุผลเพียงพอ จึงอนุญาตให้ฝากขังตามที่เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนยื่นคำร้องขอฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-28 มี.ค.
จากนั้นเจ้าหน้าที่จากกรมราชทัณฑ์นำตัวทั้งหมดไปฝากขังไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ทันที อย่างไรก็ตาม ศาลทหารไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีโทษร้ายแรง เกรงว่าจะมีการหลบหนี เป็นอุปสรรคต่อการสืบสวนของเจ้าพนักงาน
กสทช.ฮึ่ม 2 ช่องทีวีเสื้อแดง
วันเดียวกัน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า ในวันที่ 17 มี.ค. พล.ท.พีรพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสทช. และกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ที่ดูแลด้านเนื้อหารายการโทรทัศน์ ได้เรียกผู้บริหารและผู้จัดรายการสถานีโทรทัศน์พีซทีวีและทีวี 24 สถานีประชาชนมาพูดคุย และชี้แจงเนื้อหาในบางรายการที่รุนแรงเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิด ความขัดแย้งเกิดขึ้น
นายฐากรเปิดเผยว่า เป็นการพูดคุยและฟังการชี้แจงเท่านั้น แต่ยังไม่ได้มีคำสั่งปิดช่องแต่อย่างใด เพราะการจะสั่งปิดช่องทีวีนั้นจะต้องลงมติของบอร์ด และผ่านการเซ็นคำสั่งจากตนก่อน และในวันที่ 24 มี.ค.จะมีการประชุม และหารือกันอีกครั้งกับช่องทีวีเสื้อแดง ซึ่งหากเนื้อหารายการยังรุนแรงอาจจะต้องสั่งระงับบางรายการที่เนื้อหารุนแรง
วันเดียวกัน เอเอฟพีรายงานกรณีน.ส. ณัฏฐธิดา โดยตั้งข้อสังเกตว่า แม้ในช่วงที่น.ส.ณัฏฐธิดาหายตัวไปรัฐบาลทหารของไทยจะปฏิเสธว่าไม่ได้คุมตัวไว้ แต่สุดท้ายแล้วภาพที่ออกมาหลังการปรากฏตัวของน.ส.ณัฏฐธิดาซึ่งชูสัญลักษณ์สามนิ้วให้สื่อ กลับกลายเป็นภาพที่น.ส.ณัฏฐธิดาถูกเจ้าหน้าที่ทหารพาตัวมามอบให้ตำรวจ
จำคุก5เดือน"มหาหิน-ยุทธนา"
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 17 มี.ค. ที่ห้องพิจารณา 902 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลออกนั่งบัลลังก์ไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล หมายเลขดำ ล. 1/2558 ที่นายประยุทธ ศิริล้น ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการประจำศาลอาญา ผู้กล่าวหานายมหาหิน ขุนทอง และนายยุทธนา เย็นภิญโญ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-2 ตามลำดับ ฐานละเมิดอำนาจศาล
คำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2558 เวลากลางคืน นายมหาหิน ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ได้ขี่ จยย. ยี่ห้อยามาฮ่า ทะเบียน วงต 967 กทม. โดยมีนายยุทธนา ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 นั่งซ้อนท้ายมาตามถนนรัชดาภิเษก จนมาถึงบริเวณประตูทางออกของศาลอาญา นายมหาหินได้ชะลอความเร็ว ก่อนที่นายยุทธนาจะขว้างระเบิดสังหารชนิดอาร์จีดี-5 (RGD-5) รหัส 57 ใส่บริเวณลานจอดรถศาลอาญาได้รับความเสียหาย ก่อนหลบหนีไปและถูกเจ้าหน้าที่ช่วยกันจับกุมตัวได้ บริเวณสำนักงานอัยการสูงสุด ชั้นสอบสวนผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองให้การรับสารภาพ เหตุเกิดที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งสอง ซึ่งสวมชุดนักโทษสีน้ำตาลเข้ม สวมกุญแจมือ และตีตรวน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ซึ่งอยู่ระหว่างการฝากขังของศาลทหารกรุงเทพ ตามกฎอัยการศึก จากนั้นศาลได้ไต่สวนนายสุนันท์ นาคะ นิติกรชำนาญการพิเศษ ผู้รับมอบอำนาจ และเจ้าหน้าที่ รปภ.ของศาลอาญา ที่เข้าเวรขณะเกิดเหตุอีก 2 นาย เข้าเบิกความต่อศาล ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดจนแล้วเสร็จ
ต่อมาเวลา 12.15 น. ศาลได้อ่านคำสั่ง โดยพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหานั่งรถ จยย.ยามาฮ่า ทะเบียน วงต 967 มาก่อเหตุ และถูกจับกุมได้ทันทีบริเวณสำนักงานอัยการสูงสุด แม้คดีนี้จะไม่มีประจักษ์พยานมาเบิกความ แต่ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน อีกทั้งพยาน 3 ปากที่เข้าเบิกความก็ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองที่จะเบิกความปรักปรำใส่ร้ายให้ต้องรับโทษ จึงเชื่อว่าผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองต้องเป็นคนร้าย ที่ขว้างระเบิดเข้ามาที่บริเวณลานจอดรถของศาลอาญาจริง อันเป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่และผู้พิพากษา รวมทั้งสร้างความตระหนกตกใจให้กับประชาชน พยานหลักฐานฝ่ายผู้กล่าวหามีน้ำหนักมั่นคงว่า ผู้ถูกกล่าวหาทั้งสองกระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล สร้างความเดือดร้อนวุ่นวายภายในบริเวณศาลจริง ตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1), 33 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15, 180 จำคุกผู้ถูกกล่าวหาคนละ 5 เดือนโดยไม่รอลงอาญา