WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8595 ข่าวสดรายวัน


เตือนอีก กินแซนดวิชก็ผิด 
กกต.เฮ-คสช.ให้ทำงานต่อ บุกจับ'สิงห์ทอง-ทอมดันดี'


จับ'ทอม'จนท.บุกคุมตัวนายพันทิวา ภูมิประเทศ หรือทอม ดันดี ข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช. หลีกเลี่ยงไม่ไปรายงานตัว โดยจับกุมได้ที่ ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ก่อนนำตัวไปที่ มทบ.15 เพชรบุรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.

      เตือนกลุ่มต้าน กิน'แซนด์วิช'ก็ผิด 'ปิดปาก'ก็ไม่ได้ 'สิงห์ทอง'งง ไม่ได้ถูกเรียกพบแต่ทหารบุกคุมจากบ้าน ด้าน'ทอม ดันดี'โดนรวบที่เพชรบุรี หลังไม่ไปรายงานตัว 'วินธัย'แถลง ข่าวลือในโซเชี่ยลมีเดีย ไม่มีเรื่องจริง คสช.ประกาศใช้ พ.ร.บ.ประกอบรธน.อีก 3 ฉบับ ให้กกต.ดำเนินคดีต่อผู้สมัครทุจริต จัดเลือกตั้งท้องถิ่น สมชัยขอบคุณคสช.ให้ทำงานต่อ แซมดินขึ้นศาลคดียึดสนามบิน ชวดประกัน 

คสช.ห่วงสร้างผลกระทบ

      เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าประชุมและติดตามความคืบหน้างานของแต่ละหน่วยงาน และแต่ละด้าน

       พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษกคสช. กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ชี้แจงถึงการทำงานว่าขอให้เข้าใจว่าทุกเรื่องที่ คสช.คิดและพิจารณา เกิดจากการรับฟังมาจากหลายกลุ่มหลายฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ประกอบด้วย ประชาชน ข้าราชการ กลุ่มที่ปรึกษา รวมทั้งสื่อมวลชนและจากข้อร้องเรียนของประชาชน ทั้งหมดถูกรวบรวมมาแล้วนำไปแก้ไข อะไรแก้ไขได้โดยไม่มีผลกระทบหรือเป็นปัญหาก็จะทำทันที บางอย่างเริ่มต้นด้วยการชะลอก็พยายามดำเนินการอยู่ แต่บางอย่างมีเรื่องกฎหมายและระเบียบควบคุมอยู่ หรือเป็นโครงสร้างทั้งระบบ จะรีบดำเนินการโดยไม่ศึกษาผลกระทบก่อนไม่ได้ เพราะแก้หนึ่งเรื่องแต่อาจมีผลกระทบหลายเรื่อง บางเรื่องกระทบถึงโครงสร้างระบบการเงินการคลังของประเทศ รายได้รัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้นและอื่นๆ อีกมาก

โวยขรก.ไม่แก้ไขทำให้วันนี้ยุ่ง

       พ.อ.วินธัยกล่าวว่า ส่วนการแก้โครงสร้างระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ไม่ว่าด้านพลังงาน เงินชดเชยต่างๆ เรื่องภาษี และรายได้เกษตรกร ในระยะแรกพยายามผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชน ระยะต่อไปเมื่อมีรัฐบาล มีคณะรัฐมนตรี จะดำเนินการให้ถูกต้องจนทุกฝ่ายพอใจ จึงขอให้มั่นใจ คสช.บริหารแผนโครงการและงบประมาณภายใต้ความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ จะไม่มีเรื่องทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบการจัดซื้อจัดจ้างในทุกโครงการสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีระบบผูกขาดใดๆ เรื่องการศึกษาหรือบางอย่างอาจทำได้เลย บางอย่างต้องรอให้ระบบกลไกเดิมได้ทำงานเพราะที่ผ่านมาระบบอาจทำงานไม่สมบูรณ์ เนื่องจากเรื่องการเมือง ระบบบริหารราชการ ตัวข้าราชการ และกฎหมายอาจมีปัญหา วันนี้ปัญหาหรือความเดือดร้อนและข้อข้องใจได้รับทราบครบถ้วน เพียงแต่ต้องหาวิธีที่เหมาะสมในการแก้ปัญหา การเร่งรัดมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อประเทศชาติในอนาคต

      พ.อ.วินธัย กล่าวว่า คสช.ต้องการแก้ปัญหาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ขจัดเรื่องผลประโยชน์ ธุรกิจทับซ้อนให้หมดทันที แต่ปัญหาสะสมมานาน มีหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ทำให้ประชาชนสับสนและไม่เข้าใจ ข้าราชการก็ไม่ดีไม่แก้ไข ทำให้ยุ่งยากมาถึงปัจจุบัน ขอให้มั่นใจ คสช.มีความตั้งใจจริง มิได้มุ่งหวังให้เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอย่างที่หลายกลุ่มอ้าง ยืนยันว่าจะไม่เริ่มแก้ไขสิ่งที่ผิด สิ่งที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการเริ่มทำความผิดขึ้นใหม่หรือปล่อยให้ทำผิดเสียเอง ความคาดหวังจากที่ คสช.ดำเนินการมาหรือที่พยายามดำเนินการอยู่ อยากใช้คำว่า "วิน-วิน" ทุกคนได้รับผลประโยชน์ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ โดยงบประมาณของประเทศไม่รั่วไหล

เตือนกลุ่มการเมืองพาดพิงคสช.

      รองโฆษกกองทัพพบก กล่าวว่า คนไทยหลายคนใจร้อนและรักความยุติธรรม หัวหน้า คสช.เข้าใจก็จะดำเนินการให้อยู่อย่างดีที่สุด เราไม่สามารถแก้ปัญหาที่สะสมมาเป็นสิบๆ ปีได้ด้วยเวลาเพียงไม่กี่วัน เว้นแต่เรื่องที่ติดขัดนั้นไม่ขัดกฎหมาย เดิมถูกละเว้น ถูกบิดเบือน เราต้องทำให้กฎกติกาเหล่านั้นทำงานและทำให้ทันสมัยขึ้น 

      "กลุ่มการเมือง พรรคการเมือง แกนนำ คู่ขัดแย้งที่กล่าวถึงในเรื่องเหล่านี้ ขอให้ระมัดระวังการกล่าวถึงคสช.ในลักษณะที่ไม่ไว้วางใจ ไม่เชื่อมั่น เรากำลังทำงานที่ทุกคนทำมาหลายสิบปีไม่สำเร็จ ให้เป็นรูปธรรมให้ได้โดยเร็ว ใครที่มีส่วนร่วมบริหารราชการในอดีต ถือว่าต้องรับผิดชอบทั้งสิ้น" พ.อ.วินธัยกล่าว

ลั่นลือหึ่งใน'เน็ต'ไม่มีเรื่องจริง

       พ.อ.วินธัยกล่าวถึงข่าวลือระบุคสช.พร้อมแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ และในเรื่องต่างๆ อาทิ 1.สภาประชาชน พร้อมปฏิรูปเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยแล้ว 2.ยกเลิกอบจ. 3.คงไว้เทศบาล/อบต. 4.เลือกผู้ว่าฯโดยตรง 5.ให้กำนันผู้ใหญ่ขึ้นตรงกับผู้ว่าฯที่มาจากการเลือกตั้ง 6.ลดบทบาทนักการเมือง 7.เลือกตั้งส.ส. 30 % (จังหวัด 1 คน) คัดสรร 70 % (แต่งตั้ง) 8.ให้ตำรวจขึ้นตรงกับผู้ว่าฯที่มาจากเลือกตั้ง 9.แต่ละจังหวัดแบ่งโซน มีสมาชิกสภาพลวัฒน์ว่า คสช.ยืนยันข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง ขอให้ประชาชนระมัดระวังการรับฟังข่าวสารทางโซเชี่ยลมีเดีย หากมีข้อสงสัย สอบถามได้จากคสช.โดยตรง

       เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าช่วงนี้คสช.จะออกมาแก้ข่าวลือเยอะ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า เราไม่ใช่ฝ่ายการเมือง เราทำทุกอย่างต้องเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว รวมถึงการออกมาแก้ข่าวต้องระวัง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 

ไม่สบายใจถูก'กปปส.'อ้างชื่อ

       ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีกลุ่มกปปส.แสดงความเห็นทางโซเชี่ยลมีเดีย มีเนื้อหากล่าวอ้างถึงคสช.พยายามทำลายระบอบทักษิณอยู่ พ.อ.วินธัยกล่าวว่า คสช.ไม่สบายใจ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิด จึงต้องดูแลผู้ที่เสนอความคิดเห็นทางไอทีอย่างใกล้ชิด และได้ตรวจสอบไอพี แอดเดรส ของผู้สนับสนุน กปปส.ที่ยังแสดงความเห็นทางการเมือง โจมตีฝ่ายตรงข้ามอยู่ ส่วนการแสดงความเห็นใต้ข่าวออนไลน์หรือทีวีนั้น ขึ้นอยู่กับประเด็นที่เสนอว่าสร้างสรรค์หรือไม่ และเชื่อว่าประชาชนใช้วิจารณญาณของตัวเองได้

       น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณะทำงานโฆษกคสช. แถลงว่า ขณะนี้มีสื่อของคสช.ปลอมเกิดขึ้นในโซเชี่ยลมีเดีย จึงอยากขอความร่วมมือจากประชาชนแจ้งข้อมูลข่าวสารและข้อเท็จจริงต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการทำงานของคสช.ในเชิงสร้างสรรค์ ให้แจ้งผ่านช่องทางหลักของคสช.คือคอลเซ็นเตอร์ 7 คู่สาย หมายเลข 09-4128-6273-9 รวมถีงอีเมล์ เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ของคสช. นอกจากนี้ประชาชนยังทำหนังสือร้องเรียนมายังหัวหน้าคสช.ได้โดยตรง ส่งมาที่บก.ทบ.

ลุยตั้งเวทีถกปฏิรูปกับ'ขรก.'

      ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้ตรวจราชการสำนักปลัดสำนักนายกฯ (สปน.) เผยว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รอง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสปน. มอบนโยบายให้เร่งดำเนินการตามนโยบายปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ลงพื้นที่ชี้แจงทำความเข้าใจแนวทาง พร้อมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นการปฏิรูประบบราชการ โดยจัดเวทีทั้งระดับจังหวัดที่มีเฉพาะส่วนราชการ คือ ผู้ว่าฯและหัวหน้าส่วนราชการ และเวทีระดับท้องถิ่นโดยมีประชาชน อบต. อบจ.และเทศบาลร่วมเวทีแลกเปลี่ยนความเห็น มีเป้าหมายเก็บข้อมูลสะท้อนปัญหาและความต้องการของท้องถิ่นนำเสนอส่วนกลาง คือ คสช. เพื่อนำไปจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) และสภาปฏิรูปด้วย 

      นายจิรชัย กล่าวว่า เวทีดังกล่าวจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 มิ.ย.-2 ก.ค.นี้ โดยคณะ ผู้บริหาร สปน.จะลงพื้นที่ 5 จังหวัดประกอบด้วย สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ช่วงแรกประชุมร่วมกับส่วนราชการเพื่อมอบนโยบายธรรมาภิบาล การแก้ปัญหาคอร์รัปชั่น พร้อมตรวจสอบและเร่งรัดการใช้งบประมาณจังหวัดที่ได้รับปีละ 100 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการเบิกจ่ายภาครัฐให้ทันปีงบประมาณ 2557 กำชับการเบิกจ่ายต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ตามนโยบาย คสช.

เผย'ศปป.'ยังไม่พบ'ขัดแย้ง'

      ที่สำนักงาน ก.พ.นนทบุรี นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการประสานงานระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับคสช. ในส่วนของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ว่า ภายในสัปดาห์นี้นัดหารือกับพล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารบก ในฐานะ ผอ.ศปป.เพื่อรับทราบแผนปฏิบัติการที่ ศปป.จะสร้างปรองดอง ซึ่งภารกิจที่ดำเนินการไปแล้วคือสร้างบรรยากาศความสงบสุขด้วยการบังคับใช้กฎหมาย ปราบปรามอบายมุข ยาเสพติดและการพนัน และการสร้างบรรยากาศให้ทุกจังหวัดเข้าใจ คสช.ที่เข้ามาบริหารประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังไม่พบรายงานความขัดแย้ง

      นายวิบูลย์ กล่าวว่า ช่วงปลายเดือนมิ.ย. ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมรัฐมนตรีด้านการลดภัยพิบัติ จะมีรัฐมนตรีและผู้บริหารองค์กรเอกชนทั่วโลกจาก 63 ประเทศเข้าร่วม ซึ่งเป็นผลดีต่อการสร้างบรรยากาศความร่วมมือ และเป็นโอกาสในการทำความเข้าใจกับทั่วโลกกรณีการบริหารจัดการภาครัฐในไทยด้วย

ปลัดกต.เดินสายแจงโลก

       ที่นครย่างกุ้ง ประเทศพม่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการไปร่วมประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอชซีอาร์ ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ในสัปดาห์หน้าว่า จะได้เจอสมาชิกยูเอ็นเอชซีอาร์ทั้งหมด จะใช้โอกาสนี้ชี้แจงสิ่งที่เป็นข้อห่วงกังวลในประเด็นที่ยูเอ็นเอชซีอาร์ไม่รู้ทั้งหมด และพบกับผู้ที่อยู่ในวงการสิทธิมนุษยชนต่างๆ ซึ่งแสดงความเป็นห่วงในเรื่องการควบคุมตัว การเรียกไปรายงานตัว และการจำกัดเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ตนจะชี้แจงว่าสถานการณ์ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจ และปล่อยผู้ถูกเรียกตัวไปแล้ว ส่วนการจำกัดเสรีภาพเป็นเพียงช่วงต้นเพื่อให้เกิดความสงบ ไม่ให้เกิดความรุนแรง มาตรการเหล่านี้ได้รับการผ่อนคลายแล้ว


จับปืน - พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก รักษาราชการผบช.ภ.3 พร้อมนายธงชัย ลืออดุลย์ ผวจ.นครราชสีมา พล.ต.วุฒิ แสงจักร ผบ.มทบ.21 ทภ.2 แถลงผลจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและอาวุธสงครามตามนโยบาย คสช. เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.

     นายสีหศักดิ์กล่าวว่า ตนได้ขอพบกับนางนาวี พิเลย์ ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีความสำคัญรองจากเลขาธิการสหประชาชาติ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน หลังจากข้าหลวงใหญ่ฯเคยออกแถลงการณ์แสดงท่าทีกังวลต่อเหตุรัฐประหารในไทย และในการรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนล่าสุดก็พูดถึงสถานการณ์ในไทย จึงขอพบเพื่อชี้แจง ขณะที่องค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ อาทิ ฮิวแมนไรต์วอตช์ หรือองค์การนิรโทษกรรมสากล ได้ให้คณะทูตถาวรไทยในนิวยอร์กและสถานเอกอัครราชทูตในอังกฤษชี้แจงแล้ว

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต้นเดือนก.ค.นี้ นายสีหศักดิ์จะเดินทางเยือนกัมพูชา เพื่อหารือกับนายฮอร์ นัมฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา และวันที่ 11 ก.ค.นี้ จะเดินทางเยือนจีน หลังนายหวัง ยี่ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนให้เข้าพบ

ลั่นตปท.เข้าใจสถานการณ์ไทย

      ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.ยงยุทธ มัยลาภ คณะทำงานโฆษก คสช. เปิดเผยว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ได้ใช้เวทีประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่นครย่างกุ้ง ประเทศพม่า ชี้แจงทำความเข้าใจสถานการณ์ของไทยกับประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศคู่เจรจา ทั้งสหรัฐ จีน เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ โดยย้ำถึงความจำเป็นที่มิตรประเทศควรอยู่กับไทย ให้กำลังใจ สนับสนุนและมีปฏิสัมพันธ์กับไทย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างมิตร ได้รับการตอบรับที่ดีจากที่ประชุม โดยเฉพาะประเทศสมาชิกอาเซียน รวมทั้งให้กำลังใจในการฟื้นฟูเสถียรภาพ ผลักดันการปฏิรูปเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยตามโรดแม็ปของ คสช.

      นพ.ยงยุทธ กล่าวว่า ทุกประเทศยืนยันการคงไว้ซึ่งปฏิสัมพันธ์กับไทย แม้ประเทศ ตะวันตกบางประเทศจะแจ้งถึงความจำเป็นต้องปรับนโยบายบางส่วนบ้าง ทั้งนี้นาย สีหศักดิ์ได้หารืออย่างไม่เป็นทางการกับหัวหน้าคณะผู้แทนอินเดีย ซึ่งแสดงท่าทีเข้าใจไทยและเห็นว่าเป็นเรื่องที่คนไทยต้องหาทางออกด้วยตนเอง ความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย ยังดำเนินต่อไปตามปกติและจะเชิญผบ.สส.ของไทยไปเยือนอินเดีย 

ชง'บิ๊กตู่'ดินเนอร์ทอล์กสื่อนอก

      นพ.ยงยุทธกล่าวว่า วันนี้ปลัดกระทรวงการต่างประเทศจะใช้เวทีประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ซึ่งมี 26 ประเทศรวมทั้งสหภาพยุโรป เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงภูมิหลังและพัฒนาการของไทยเพิ่มเติม โดยเน้นความสัมพันธ์ของมิตรประเทศที่จะอยู่กับไทยและการให้กำลังใจ 

      พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค คณะทำงานโฆษก คสช. เปิดเผยว่า กรณีสื่อต่างประเทศยังมีทีท่าไม่เข้าใจการทำหน้าที่ของคสช. และต้องสื่อสารทำความเข้าใจให้ตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น จึงเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์จัดดินเนอร์ทอล์ก พบปะพูดคุยกับสื่อต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้นแต่ยังไม่ระบุเวลาและสถานที่พูดคุย

ทหารบุกคุมตัว'สิงห์ทอง'

      เมื่อเวลา 16.30 น. นายสิงห์ทอง บัวชุม สมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยขณะถูกเจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวว่า เมื่อเวลา 15.00 น. มี เจ้าหน้าที่ทหารนับสิบนายพร้อมอาวุธครบมือบุกเข้าค้นบ้านพักส่วนตัวที่หมู่บ้านธารารมณ์ ย่านหัวหมาก โดยไม่แจ้งล่วงหน้า จากนั้นรื้อค้นบ้านโดยละเอียดทั้งภายในและนอกบริเวณบ้าน ซึ่งตนรู้สึกงุนงงและตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก เนื่องจากไม่เคยมีรายชื่ออยู่ในประกาศของ คสช.ที่ถูกเรียกรายงานตัว หรือกระทำการฝ่าฝืนกฎอัยการศึก 

      นายสิงห์ทอง กล่าวอีกว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตนไปยังกองพันทหารช่างที่ 1 รักษาพระองค์ เพื่อรอการสอบสวนจาก เจ้าหน้าที่ ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวขึ้นรถตู้เพื่อย้ายสถานที่คุมตัว นำขบวนโดยรถตำรวจ สน.วังทองหลาง ตามด้วยรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารจำนวนหนึ่ง โดยไม่ได้แจ้งปลายทางให้รับทราบ 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสนทนานั้น นายสิงห์ทองลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่การถูกจู่โจมที่บ้านพักการถูกนำตัวไปกักไว้ ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือแสดงอาการหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่สัญญาณจะตัดไป เมื่อนาย สิงห์ทองเล่าถึงตอนถูกควบคุมตัวขึ้นรถตู้เพื่อย้ายสถานที่ควบคุมตัว 

นำ'บก.ลายจุด'สอบปากคำ

      ผู้สื่อข่าวรายงานจากหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ว่า เวลา 15.50 น. เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) นำตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือบ.ก.ลายจุด แกนนอนกลุ่มวันอาทิตย์สีแดง มายังหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ เพื่อรายงานตัวต่อคสช. และพูดคุยปรับความเข้าใจ พร้อมเเจ้งให้พนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำและทำสำนวนฟ้อง อย่างไรก็ตามหลังสอบปากคำและทำความเข้าใจเสร็จ ทหารนำตัวนายนายสมบัติไปควบคุมต่อที่ค่ายทหารในพื้นที่กทม.จนครบ 7 วันตามพ.ร.บ.กฎอัยการศึก จากนั้นถึงจะส่งตัวไปให้พนักงานสอบสวนนำตัวไปฝากขังที่ศาลทหารกรุงเทพต่อไป 

เรียกรายงานตัวอีก 34 คน

      สำหรับบรรยากาศรายงานตัวที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ตามคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 49/2557 , 52/2557 และ 53/2557 ที่ให้บุคคลรวม 34 คน ประกอบด้วยฉบับที่ 49 นายใจ อึ๊งภากรณ์ นายจักรภพ เพ็ญแข นายพิษณุ พรหมสร นายเนติ วิเชียรแสน นายองอาจ ธนกมลนันท์ นายอำนวย แก้วชมภู นายชูพงศ์ ถี่ถ้วน นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ นายเอกภพ เหลือรา (ตั้ง อาชีวะ) นายมนูญ (เอนก) ชัยชนะ นายเสน่ห์ ถิ่นแสน นายภิเษก สนิทธางกูล นายชูชีพ ชีวะสุทธิ์ นายสันติ วงษ์ไพบูลย์ นางมนัญชยา เกตุแก้ว นางฉัตรวดี อมรพัฒน์ นายจุติเทพ (เลอพงษ์) วิไชยคำมาตย์ และนางณหทัย ตัญญะ

      ฉบับที่ 52 นายพรศักดิ์ ศรีละมุน นายมนัส ไทยล้วน ผู้นำแรงงานที่มีบทบาทในการเลือกสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สป.) และนายจิระประวัติ วศินทรงสุรเดช 

'กี้ร์-สุนัย-สุดา'โดนเรียกซ้ำ

       ฉบับที่ 53 ได้แก่ นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง แกนนำ นปช. นายธนกฤต ชะเอมน้อย หรือวันชนะ เกิดดี แนวร่วม นปช. นายสุนัย จุลพงศธร อดีตส.ส.เพื่อไทย นายอารี ไกรนรา อดีตหัวหน้าการ์ด นปช. นายณัฐ สัตยาภรณ์พิสุทธิ์ นายธีร์ บริรักษ์ นายธันย์วุฒิ ทวีวโรดมกุล นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือทอม ดันดี น.ส.สุดา รังกุพันธุ์ อดีตอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายชัยอนันต์ ไผ่สีทอง หรือ'อุ๊ ไฟเย็น'สมาชิกวงไฟเย็น นายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง คนสนิทของพล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นายพฤทธ์นรินทร์ ธนบริบูรณ์สุข 

       ทั้งนี้ ในคำสั่งฉบับที่ 53 มีรายชื่อบุคคลที่เคยถูกเรียกให้เข้ารายงานตัวแล้วและให้มารายงานตัวอีก อาทิ นายอริสมันต์ นายสุนัย นางสุดา นายพิพัฒน์ชัย นายธนกฤต และนายอารี 

ห้ามผู้รายงานตัวชู 3 นิ้ว

       เวลา 10.00 น. บุคคลตามคำสั่งคสช.ทยอยเข้ารายงานตัว อาทิ นางณหทัย นายมนูญ นายพรศักดิ์ ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบุคคลตามคำสั่งฉบับที่ 50/2557 ซึ่งต้องเข้ารายงานตัวตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถมาได้ เข้ารายงานตัวในวันนี้ 2 คน ได้แก่ นายจำเริญ ชีวินเฉลิมโชติ และนายวสุพล จตุรคเซนทร์เดชา ส่วนนางจรรยา ยิ้มประเสริฐ โพสต์เฟซบุ๊กยืนยันว่าขณะนี้ยังอยู่ที่ประเทศฟินแลนด์ ไม่ได้เข้ารายงานตัวแต่อย่างใด

       ต่อมาเวลา 11.00 น. นายจิระประวัติ วศินทรงสุรเดช มารายงานตัว โดยก่อนเข้าไปในพื้นที่สโมสรทหารบก ได้หยิบบัตรประชาชนขึ้นมาแสดงต่อสื่อมวลชน พร้อมชู 3 นิ้วและพูดว่า "ผมเป็นศิษย์คณะราษฎร์ ขอสละชีพเพื่อชาติ" จากนั้นจึงเดินข้ามถนนไปรายงานตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารกล่าวกับนายจิระประวัติว่าห้ามชู 3 นิ้ว

ชี้"สั่งดึก-สุขภาพ"ปมไม่มาพบ

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นแนวร่วมนปช.ต่างทยอยเข้ารายงานตัว ประกอบด้วย นายพิพัฒน์ชัย นายธนกฤต นายอารี และตัวแทนของนายพงศ์พิเชษฐ์ ที่นำหนังสือยืนยันว่านายพงศ์พิเชษฐ์มีปัญหาด้านสุขภาพมาแสดง ส่วนนายอริสมันต์เข้ารายงานตัวโดยเข้าประตูฝั่ง ถ.ศรีอยุธยา

       เวลา 12.50 น. นายสุชัยวุฒิ ชาวสวนกล้วย ผอ.กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน(กนส.) มายื่นหนังสือถึงหัวหน้าคสช.ว่า พร้อมเข้าร่วมเป็นตัวแทนเสนอแนวทางสร้างความยุติธรรมและปรองดองของคนในชาติ ทั้งนี้ ได้รับการแจ้งจากนายอริสมันต์ว่าพร้อมใช้ความเป็นศิลปิน นักร้องช่วยสร้างความปรองดองและสามัคคีให้เกิดขึ้นตามแนว ทางของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป(ศปป.) ทั้งนี้ได้รับทราบสาเหตุบุคคลที่ไม่สามารถมารายงานตัวได้เนื่องจากมีคำสั่งในช่วงกลางคืนและบางส่วนมีปัญหาด้านสุขภาพ ดังนั้นทาง กลุ่มกสน.ประสานบุคคลที่เหลือมารายงานตัวต่อไป


ยังไม่หมด - พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง รอง ผบช.ภ.1 และพล.ต.ต.วิรุฬ เอี่ยมไพจิตร รอง ผบช.ภ.1 รรท.ผบก.นนทบุรี รุดตรวจสอบอาวุธที่นำมาทิ้งปากซอยศรีตัญญู ถ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ เข้ารายงานตัวในช่วงเช้า ต่อมา เวลา 14.15 น. ก็ได้รับการปล่อยตัว

บุกรวบตัว'ทอม ดันดี'

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวันเดียวกัน ร.ต.ต.ประกอบ รอดรือนาม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครอง ควบคุมตัว นายธานัท ธนวัชรนนท์ หรือนายพันทิวา ภูมิประเทศ หรือ ทอม ดันดี ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต ที่ไม่ไปรายงานตัวตามคำสั่งคสช.ในวันนี้ โดยควบคุมตัวได้ในพื้นที่ต.วังจันทร์ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี จากนั้นนำตัวไปที่มณฑลทหารบกที่ 15 เพชรบุรี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย

เรียกรายงานอีก 18 คน

       เวลา 17.55 น. คสช. มีคำสั่งที่ 57/2557 ให้บุคคลเข้ารายงานตัวเพิ่มเติม 18 คน ประกอบด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายจรัล ดิษฐาอภิชัย นายชินวัฒน์ หาบุญพาด นายวิสา คัญทัพ นางไพจิตร อักษรณรงค์ นางดารุณี กฤตบุญญาลัย พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แกนนำคณะนิติราษฎร์

      นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ นายสงวน พงษ์มณี อดีตส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น นายนิธิวัต วรรณศิริ นายศรันย์ ฉุยฉาย หรืออั้ม เนโกะ นายไตรรงค์ สินสืบผล นายชฤต โยนกนาคพันธุ์ นักแต่งเพลง นายวัฒน์ วรรลยางกูร และนาวาอากาศตรีชนินทร์ คล้ายคลึง เจ้าของนามแฝง ผู้พันสู้ ตัวจริง ในเฟซบุ๊ก

       ทั้งนี้ มีข้อสังเกตว่าหลายคนเคยถูกเรียกมารายงานตัวแล้วหลังวันที่ 22 พ.ค.2557 แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เข้ารายงานตัว อาทิ นาย จารุพงศ์ นายวรเจตน์ นายปวิน นายศรันย์ นายวุฒิพงศ์ หรือโกตี๋

รอบค่ำสั่ง 17 รายเข้าพบ

      เวลา 21.40 น. วันที่ 9 มิ.ย. คสช.มีคำสั่งฉบับที่ 58/2557 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ประกอบด้วย นายชัยวัฒน์ อินทร์ชำนาญ นางศรีศศิร์อร ทรัพย์เงินทอง นายพงศ์ศักดิ์ ศรีบุญเพ็ญ นายเสน่ห์ จงจิตต์ นายจรัล อัมพรกลิ่นแก้ว นายสรานุภล กองทอง น.ส.กชพร แสงชัชวาลย์ นายวสันต์ งาหัตถี นางกรรณิการ์ เทียนเงิน นายชัยพฤกษ์ สมานรักษ์ น.ส.กรกนก ห่อมกระโทก นายไพฑูรย์ สิงหา นางอภิศรา สเวหาด นายณัฐวุฒิ ด้วงนิล นางพัชร์อริญ ตั้งรัตนาพิบูล นายสุริยัน จันทไหว และน.ส.ดวงใจ พวงแก้ว

'อำนวย'จ่อฟันลายจุดคดีคอมพ์

      ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ.ช่วยราชการ บช.น. ดูแลงานความมั่นคง กล่าวถึงการดำเนินคดีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ ว่า ทางกองบังคับปราบปรามการกระทำ ความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ไปร่วมจับกุมและตรวจสอบ อยู่ ซึ่งความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นอาชญากรรมเฉพาะทาง ในส่วนของ บก.ปอท. จึงน่าจะดำเนินการในส่วนนี้ ซึ่งรวมถึงความผิดที่ไม่มารายงาน และ ม.116 กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายแผ่นดินยุยงให้คนมาชุมนุม รวมถึงการให้ที่พักพิงก็สามารถสอบสวนได้หมด ส่วนทหารจะส่งให้ทางตนหรือ ปอท.ก็แล้วแต่ทหาร แต่คาดว่าน่าจะส่ง ปอท. เพราะวันที่จับนายสมบัติก็ไปร่วมด้วย ส่วนคดีอาญาอื่นๆ ก็สามารถรวมได้ด้วย

      พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ทหารไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ไม่มารายงานตัวนั้น บางครั้งก็ไปแจ้งตาม สน. หรือบางครั้งไปแจ้งความที่กองปราบปราม ในส่วนของตนนั้นได้ตั้งทีมมาตรวจสอบคดีนี้ โดยไม่ว่าจะมีการไปแจ้งความ สน.ใดก็ตาม สน.นั้นๆ ต้องส่งเรื่องมาที่ สน.สามเสน เพื่อรวบรวม เพราะที่เกิดเหตุอยู่พื้นที่ สน.สามเสน ซึ่งในส่วนนี้ พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. ก็สามารถดำเนินการได้เช่นกัน เพราะมีอำนาจทั่วประเทศเช่นเดียวกัน สำหรับผู้ขัดคำสั่งไม่มารายงานตัวนั้นก็ต้องดูว่าเพราะเหตุใดจึงมาไม่ได้ อยู่ต่างประเทศ อยู่โรงพยาบาล หรืออื่นๆ ที่สมเหตุผล 

ชี้'ปิดปาก-กินแซนด์วิช'ก็ผิด

      เมื่อถามว่า กรณีภาพถ่ายผู้ชุมนุมคัดค้านเพื่อออกหมายจับ พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. จับกุมได้ทั้งหมดเลย รวม 7 คน ตอนเช้าได้ 2 คนที่สยามพารากอน ตอนบ่ายอีก 5 คน โดยตำรวจกับทหารตามจับกุม

       พล.ต.ต.อำนวย กล่าวด้วยว่า ส่วนการกินแซนด์วิชที่ ม.ธรรมศาสตร์ ซึ่งต้องแยกในส่วนนี้ว่า กฎหมายห้ามชุมนุมทางการเมือง หากไปกินกาแฟคงไม่ใช่ แต่มีเจตนาร่วมกันในการแสดงออกถึงการต่อต้าน เช่น อาจไม่ยกมือ แต่ปิดปากเฉยๆ ทำเหมือนกันหมดเลย สื่อว่าปิดปากก็เป็นการต่อต้านถือเป็นการชุมนุมทางการเมือง ส่วนแซนด์วิชนั้นยังก้ำกึ่งอยู่ แต่ทราบว่ามีการอ่านแถลงการณ์ประกอบด้วย แสดงว่ามีเจตนาร่วมกัน โดยกำลังให้ดูแถลงการณ์ว่าเข้าข่ายต่อต้านหรือไม่ หากอ่านแล้วเป็นการต่อต้านก็จะออกหมายจับ แต่หากไม่เข้าก็จะให้รายชื่อเจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการ การกินแซนด์วิชตอนนี้เริ่มจะเข้าข่ายมีความผิดเหมือนการชู 3 นิ้วแล้ว หากเนื้อหาแถลงการณ์คัดค้าน ขัดขวางก็ถือว่าเข้าแล้ว

ลั่นเป็นปฏิปักษ์คสช.-ทำไม่ได้

      "การแสดงความคิดเห็นที่เป็นปฏิปักษ์กับ คสช. หรือผู้มีอำนาจปกครอง ที่เรียกว่ารัฏฐาธิปัตย์ ก็ทำไม่ได้ทั้งหมด เพราะตอนนี้ใช้กฎหมายพิเศษอยู่ จะอ้างรัฐธรรมนูญไม่ได้ว่าว่าสงบ ปราศจากอาวุธ เพราะตอนนี้พักใช้อยู่ แต่หากมีรัฐธรรมนูญชั่วคราวว่า จะให้สิทธิการชุมนุมหรือไม่ หากให้สิทธิชุมนุมโดยสงบก็สามารถทำได้"พล.ต.ต.อำนวยกล่าว

      พล.ต.ต.อำนวยกล่าวอีกว่า ผู้ชุมนุมก็มี 2 แบบ คือ อินในระบอบประชาธิปไตยและแบบจ้าง ซึ่งจ้างก็มีอยู่อย่างที่แมคโดนัลด์ราชประสงค์ เมื่อวานนี้มีป้าแก่ๆ ใส่รองเท้าเก่าๆ จูงหลานมานั่งกินแมค ซึ่งดูแล้วไม่สมเหตุสมผล

      เมื่อถามว่ากรณีผู้พันสู้โพสต์แล้วยุติไปถือว่าผิดหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวยกล่าวต่อว่า การโพสต์ข้อความนั้นถือว่าผิดแล้ว เป็นการชวนคนให้มาชุมนุมซึ่งผิดกฎหมาย เพราะความผิดเกิดแล้ว โดยในส่วนนี้ ปอท.มีหน้าที่ตรวจสอบเฟซบุ๊กทุกคนที่มีการโพสต์ต่อต้านชวนคนมาชุมนุมหรือหากกดไลก์ก็ถือว่ามีความผิดเช่นกัน เพราะกระจายข่าวโดยคอมพิวเตอร์ แม้จะไม่ได้เป็นผู้เขียนขึ้นเองก็ตาม

สมยศประชุมจัดคืนความสุข

      เวลา 13.30 น. ที่บช.น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผบ.ตร. ดูแลงานด้านความมั่นคง พร้อมด้วย พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.อำนวย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯกทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือเพื่อจัดงานสร้างความสุขคืนสู่ประชาชนตั้งแต่เวลา 15.00 - 20.00 น. ในวันที่ 15 มิ.ย. ที่สวนลุมพินี ตามนโยบายคสช. โดยใน งานจะมีการแสดงดนตรีของศิลปินนักร้อง นักแสดงรับเชิญจำนวนมาก นอกจากนี้ยัง กิจกรรมอื่นๆ ที่ทาง กทม.และตำรวจได้จัดเตรียมไว้ อย่างการดูแลรักษาสุขภาพจากแพทย์ร.พ.ตร. และมีอาหารเครื่องดื่มให้รับประทานฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 12 มิ.ย. เวลา 11.00 น. ที่บช.น.ต่อไป 

     เมื่อถามว่ากังวลถึงผู้ชุมนุมไปแสดงสัญลักษณ์คัดค้านหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เชื่อว่าจะไม่มี เพราะชื่องานก็บอกแล้วคืนความสุขให้ประชาชน

ยันดูแลผู้ชุมนุมแบบละมุนละม่อม

       พล.ต.อ.สมยศ ยังกล่าวถึงการดูแลผู้ชุมนุมคัดค้านว่า มาตรการต่างๆ ที่ใช้ดูแลกลุ่ม ผู้ชุมนุมหรือผู้มีความเห็นต่าง สามารถดำเนินการไปได้ด้วยความเรียบร้อย แม้จะมีผู้ชุมนุมมาแสดงสัญลักษณ์ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนและหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

      "เราปฏิบัติกับผู้ชุมนุมด้วยวิธีการละมุนละม่อม ถึงแม้จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะปฏิบัติหน้าที่การบังคับใช้กฎหมายจากเบาไปหาหนัก และทำความเข้าใจพูดคุย ซึ่งถือว่าได้ประโยชน์มาก เพราะสิ่งที่ผู้ชุมนุมได้รับฟังมาเข้าใจแตกต่างกัน จึงได้ให้ข้อมูลเพื่อที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงทัศนคติได้ต่อไป" รองผบ.ตร. กล่าว

คสช.ประกาศใช้กม.ลูกรธน.

      เมื่อเวลา 15.15 น. คสช.ออกประกาศฉบับที่ 57/2557 เรื่องการกำหนดเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้บางฉบับมีผลบังคับใช้ คือ 1.พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. ให้มีผลใช้ต่อไปจนกว่าจะมีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิก แต่ให้ยกเลิกการเลือกตั้ง ส.ส. และส.ว.ชั่วคราวก่อน ทั้งนี้ ให้กกต.มีอำนาจกำหนดหรือขยายเวลายื่นบัญชีรายรับรายจ่ายของของผู้สมัครส.ว. ได้ตามที่เห็นสมควร 2.ให้พ.ร.บ. พรรคการเมือง พ.ศ.2550 มีผลบังคับใช้ต่อไปจนกว่าจะมีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิก ทั้งนี้ ห้ามไม่ให้พรรคการเมืองจัดประชุมหรือดำเนินกิจการใดๆ ทางการเมือง ระงับการจัดตั้งหรือจดทะเบียนพรรค รวมทั้งระงับการจัดสรรเงินสนับสนุนแก่พรรคของกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไว้ชั่วคราวด้วย 

      3.ให้พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2552 มีผลบังคับใช้ต่อเนื่องจนกว่าจะมีกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกเลิก 4.คำร้อง สำนวนหรืออรรถคดีที่อยู่ระหว่างดำเนินการของกกต. นายทะเบียนพรรคการเมืองหรือศาลก่อนวันที่ 22 พ.ค. 2557 ให้ยังวินิจฉัยต่อไป 5.ให้ศาลฎีกามีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีการเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ส.ส.หรือ ส.ว. โดยให้เป็นไปตามระเบียบที่ ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกากำหนด โดยใช้ระบบไต่สวนและเป็นไปโดยเร็ว ส่วนที่กกต.ประกาศผลเลือกตั้งแล้ว ถ้ากกต.เห็นควรให้เพิกถอนสิทธิผู้สมัครส.ว.ให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัย

ให้กกต.จัดเลือกตั้งท้องถิ่นต่อ

       คสช.ออกประกาศฉบับที่ 58/2557 เรื่องการพิจารณาและวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเพิกถอนการเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นว่า กรณีประกาศผลเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และศาลอุทธรณ์หรือศาลอุทธรณ์ภาครับคำร้องของกกต. ที่ขอให้วินิจฉัยให้เลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นผู้ใด ให้ศาลอุทธรณ์ยังคงมีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยต่อไป และเมื่อศาลรับคำร้องแล้ว สมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นผู้นั้นจะปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ได้จนกว่าศาลจะมีคำสั่งยกคำร้อง แต่หากมีคำสั่งให้เลือกตั้งใหม่ หรือเพิกถอนสิทธิผู้ใด ให้ถือว่าสมาชิกภาพสิ้นสุดลง และกรณีสมาชิกสภาท้องถิ่นและ ผู้บริหารท้องถิ่นผู้ใดปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ได้ ไม่ให้นับบุคคลดังกล่าวเข้าในจำนวนรวมของสมาชิกเท่าที่มีอยู่ของสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น

       นอกจากนี้ คสช. ให้ยกเลิกข้อความใน ข้อ 1 แห่งประกาศคณะปฏิรูปการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ฉบับที่ 32 ลงวันที่ 30 ก.ย. 2549 เรื่องอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นของกกต. โดยให้ใช้ข้อความต่อไปนี้แทน "ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือ ผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่นใดตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 กกต.ต้องประกาศผลการเลือกตั้งให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งต้องไม่เกิน 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง"

สมชัยขอบคุณคสช.ให้ทำงานต่อ

      ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง กล่าวว่า สาเหตุที่คสช.ยังคงให้กกต.ฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น ตนเห็นว่ากกต.มีงานสำคัญ 3 เรื่องใหญ่ 2 เรื่องเป็นเรื่องกฎหมาย เช่น การจัดเลือกตั้งท้องถิ่น การดำเนินคดีเลือกตั้งที่เป็นคดีอาญา การตัดสิทธิ การยุบพรรคก็ยังมีอยู่ ดังนั้นกกต.ต้องเดินหน้าทำงานต่อไป สอดคล้องกับที่หัวหน้าคสช.ให้องค์กรอิสระทำหน้าที่ต่อไปเต็มที่ ประเด็นสุดท้ายสังคมคาดหวัง ซึ่งกกต.ต้องมีส่วนสำคัญปฏิรูปการเลือกตั้ง โดยประธานมอบให้กกต.ทุกคนศึกษาการปฏิรูปตามที่หน้าที่เกี่ยวข้อง 

      ที่สำนักงาน กกต. นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการกกต. เผยว่า ในการประชุมกกต. วันที่ 10 มิ.ย. จะพิจารณากรณีคสช.มีประกาศฉบับที่ 57/2557 ให้พ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.และการได้มาซึ่งส.ว. พ.ร.บ.พรรคการเมือง และพ.ร.บ.การออกเสียงประชามติ กลับมามีผลบังคับใช้ต่อเนื่องต่อไป เพื่อหาแนวทางปฏิบัติงานว่าจะดำเนินการอย่างไรได้บ้าง 

องค์กรอิสระยังอยู่ครบ

       นายรักษเกชา แฉ่ฉาย รองเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยว่า ตามที่คสช.ประกาศให้องค์กรอิสระปฏิบัติหน้าที่กันตามปกติ แม้ไม่มีรัฐธรรมนูญปี 2550 แต่ตัวพ.ร.บ.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังมีผลบังคับใช้ โดยผู้ตรวจการแผ่นดินได้อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.นี้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ก็มีหลายคำร้องที่ยื่นขอให้ผู้ตรวจฯพิจารณาเกี่ยวกับความชอบธรรมของรัฐธรรมนูญ พอไม่มีรัฐธรรมนูญ เรื่องต่างๆ เหล่านี้จึงต้องยุติการพิจารณาไป เพราะคำร้องเหล่านี้จะผูกพันกับตัวรัฐธรรมนูญซึ่งถูกยกเลิกไปแล้ว อย่างไรก็ตามผู้ตรวจฯไม่ต้องปรับตัวมากนักเพราะนโยบายขององค์กรคือการบริการประชาชน งานส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวกับการเมือง จึงเป็นเหตุผลที่คสช.ให้ผู้ตรวจฯปฏิบัติหน้าที่คอยช่วยเหลือคสช.ทำงาน

       นายแท้จริง ศิริพานิช กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวว่า พ.ร.บ.คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ยังมีผลใช้บังคับอยู่ โดยกสม.อาศัยอำนาจตามพ.ร.บ.นี้คอยตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นจากทุกภาคส่วน เพราะการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนนั้นสอดคล้องกับนโยบายตามที่หัวหน้าคสช.เน้นย้ำว่าให้คำนึงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่มีรัฐธรรมนูญปี 2550 กสม.ก็ต้องยุติการพิจารณาบางเรื่องเพราะรัฐธรรมนูญเดิมให้อำนาจ กสม.สั่งฟ้องต่อศาลในการละเมิดสิทธิกรณีต่างๆ แต่เมื่อไม่รัฐธรรมนูญแล้ว กสม.ก็ไม่มีอำนาจในส่วนนี้ ไม่สามารถสั่งฟ้องได้ ซึ่งกสม.พิจารณาว่าเรื่องใดที่ต้องสั่งฟ้องก็ต้องยุติเรื่องนั้นไปก่อน แต่ที่ผ่านมาเรื่องที่กสม.สั่งฟ้องต่อศาลก็มีจำนวนน้อย จึงไม่ส่งผลกระทบมากนัก

       "การที่กสม.ยังคงหน้าที่ต่อนั้นเพราะการทำงานไม่ได้ยึดโยงเฉพาะแต่ตัวรัฐธรรมนูญ หรือพ.ร.บ.กสม.เท่านั้น แต่ยังยึดโยงกับสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการป้องกันการละเมิดสิทธิ ซึ่งต้องดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง" นายแท้จริงกล่าว

วอยซ์ทวรอคสช.ไฟเขียวออนแอร์

      วันที่ 9 มิ.ย. พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กสท.เห็นชอบที่จะเสนอการจัดส่งเอกสารตามที่ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด หรือช่องวอยซ์ทีวี และบริษัท กรีน อินเทลลิเจ้นท์ จำกัด หรือช่องทีนิวส์ ให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามที่ 2 บริษัทได้ขอความอนุเคราะห์ กสท.พิจารณาอนุญาตให้ทั้ง 2 บริษัท สามารถกลับมาออกอากาศได้ แต่สิทธิ์ดังกล่าวไม่ได้อยู่กับอำนาจของกสท. 

     พ.อ.นที กล่าวต่อว่า อำนาจที่จะทำให้ทั้ง 2 ช่องออกอากาศได้อยู่ที่คสช. หลังถูกระงับการออกอากาศมาจากประกาศ คสช. ฉบับที่ 15 โดยทางกสท.จะนำเอกสารที่ 2 บริษัทได้ยื่นเรื่องยินยอมที่จะปรับตัว ปรับเปลี่ยนผังรายการและเนื้อหารายการ ให้เป็นไปตามกรอบกฎหมายและประกาศคสช. ตลอดจนเงื่อนไขการเป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการตามที่กสท.กำหนด เพื่อให้กลับมาออกอากาศได้ ไปยื่นให้กับคสช. ซึ่งสุดท้ายแล้วต้องรอประกาศของคสช.ว่าจะให้ออกอากาศได้ ส่วนอีก 12 ช่องที่ถูกระงับออกอากาศ หากต้องการออกอากาศก็ต้องมาดำเนินการตามขั้นตอนของกสท. และตามประกาศของคสช.สำหรับช่องที่ได้รับอนุญาตให้ออกอากาศแล้วแต่หากละเมิด หรือกระทำผิดอีกจะสั่งปิดทันที และจะเพิกถอนใบอนุญาต โดยไม่มีการเตือนหรืออุทธรณ์

     วันเดียวกันช่องบูลสกายทีวีได้เข้ายื่นหนังสือต่อกสท.เพื่อขอออกอากาศอีกครั้ง โดยมี น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสท. รับเรื่อง และกล่าวว่า จะนำเรื่องดังกล่าวให้ทาง บอร์ดกสท.พิจารณาต่อ แต่อำนาจสูงสุดยังเป็นของคสช.

      ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณะทำงานโฆษกคสช. แถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย. ได้นำตราสัญลักษณ์คสช.บนโทรทัศน์ทุกรายการออกไปแล้ว เนื่องจากสถานการณ์คลี่คลายมากขึ้นและเพื่อให้บรรยากาศได้ผ่อนคลาย แต่ยังคงใช้สัญลักษณ์ดังกล่าวเฉพาะช่วงถ่ายทอดโทรทัศน์รายการเฉพาะกิจของคสช.ที่มีสถานีกองทัพบกช่อง 5 เป็นแม่ข่ายเท่านั้น ส่วนโทรทัศน์และวิทยุที่ให้ยุติการออกอากาศชั่วคราวนั้น เป็นหน้าที่ของ กสทช.จะพิจารณาว่าจะให้ออกอากาศได้เมื่อใด สำหรับวิทยุชุมชนที่ไม่มีใบอนุญาตออกอากาศ ให้ไปทำเรื่องใบอนุญาตให้เรียบร้อย สำหรับ 14 สถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่ถูกระงับการออกอากาศ เบื้องต้นให้ปรับผังรายการเพื่อให้ กสทช.ตรวจสอบดูว่ายังมีเนื้อหาสร้างความขัดแย้งหรือไม่

นัดถกสอบทรัพย์สิน'ปู-4 รมต.'

      วันที่ 9 มิ.ย. รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ในสัปดาห์หน้าคณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรีที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ รวม 5 ราย ได้แก่ 1.น.ส.ยิ่งลักษณ์ 2.นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรอง นายกฯ และ รมว.พาณิชย์ 3.นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ 4.นายยรรยง พวงราช อดีต รมช.พาณิชย์ และ 5.นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ จะประชุมนัดแรกเพื่อกำหนดกรอบการทำงาน โดยจะเน้นตรวจสอบบัญชีในเชิงลึกว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการดังกล่าวหรือไม่ ทั้งนี้ อนุกรรมการดังกล่าวมีนายณรงค์ รัฐอมฤต กรรมการป.ป.ช.เป็นประธาน และ นายวรวิทย์ สุขบุญ รองเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ช. เป็นหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบ

เคลียร์'หอการค้าตปท.'เร่งฟื้นศก. '7 องค์กรธรกิจ'ชง 4 ข้อ คสช.เตือนโซเชียลฯลือมั่ว สูตรการเมือง-ส.ส.สรรหา รวบทอมดันดี-กี้ร์มอบตัว คุก1เดือนอจ.มธ.หมิ่นศาล


สมานฉันท์ - นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าฯพระนครศรีอยุธยา พร้อมข้าราชการ ทหาร ตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่น ประชาชน และกลุ่มมวลชนต่างๆ ร่วมกันจัดกิจกรรมคืนความสุขให้ประเทศไทย คนอยุธยารักกัน ปรองดองสมานฉันท์ เพื่อการปฏิรูป ที่หอประชุมภายในสนามกีฬาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน

 

     'คสช.'เล็งใช้สนธิสัญญาข้ามแดนขอตัวผู้กระทำความผิดในคดีหมิ่นสถาบัน '7 องค์กรเอกชน'ร่วมประชุมฟื้นฟูเศรษฐกิจ ได้ข้อสรุป 4 ข้อเสนอ'คสช.'กทม.ปิ๊งไอเดียจัดประกวดโชว์ลูกคอเพลงปลุกใจ มทภ.1 เตรียมจัดแถวกวาดล้างรถตู้ วิน จยย. แท็กซี่ ขูดรีดค่าโดยสารโหด 'อริสมันต์'เข้ารายงานตัวพร้อมชูปรองดอง

@ "ชู 3 นิ้ว"ก่อนเข้ารายงานตัว

      เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่หอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการรายงานตัวของบุคคลที่มีชื่อในคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้มารายงานตัวในวันที่ 9 มิถุนายน มีจำนวน 3 ฉบับ รวมจำนวน 34 คน ประกอบด้วย คำสั่งฉบับที่ 49/2527 จำนวน 18 คน อาทิ นายใจลส์ ใจ อึ้งภากรณ์, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายเนติ วิเชียรแสน, นายเอกภพ เหลือรา (ตั้ง อาชีวะ) คำสั่งฉบับที่ 52/2557 มี 3 คน ประกอบด้วย นายพรศักดิ์ ศรีละมุล, นายมนัส ไทยล้วน, นายจิระประวัติ วศินทรงสุรเดช และคำสั่งฉบับที่ 53/2557 จำนวน 13 คน อาทิ นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช., นายสุนัย จุลพงศธร อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย, นายอารี ไกรนรา อดีตเลขานุการ รมว.มหาดไทย และอดีตหัวหน้าการ์ด นปช. และนายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ อดีตโฆษกกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายการเมือง 

ทั้งนี้ มีบุคคลที่มีรายชื่อต่างทยอยเข้ารายงานตัวตั้งแต่เวลา 10.00 น. ประกอบด้วย ตามคำสั่งฉบับที่ 49 ได้แก่ นางณหทัย ตัญญะ, นายมนูญ (เอนก) ชัยชนะ ขณะที่นางจรรยา ยิ้มประเสริฐ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าติดภารกิจอยู่ที่ประเทศฟินแลนด์ไม่สามารถเดินทางมารายงานตัวได้ ส่วนนายพรศักดิ์ ศรีละมุล แกนนำ นปช. เดินทางเข้ารายงานตัวตามคำสั่งฉบับที่ 52

เวลา 11.00 น. นายจิระประวัติ วศินทรงสุรเดช นักวิชาการกลุ่มคนเสื้อแดง บุคคลตามคำสั่งฉบับที่ 52 ได้เดินทางมารายงานตัว แต่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในสโมสรทหารบก นายจิระประวัติเดินตรงเข้ามาหากลุ่มผู้สื่อข่าวฝั่งตรงข้ามถนน หยิบบัตรประจำตัวประชาชนของตนเองขึ้นมาแสดง พร้อมชู 3 นิ้ว แล้วพูดว่า "ผมเป็นศิษย์คณะราษฎร์ ขอสละชีพเพื่อชาติ" จากนั้นจึงเดินข้ามถนนไปรายงานตัว ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารที่ยืนบริเวณดังกล่าวบอกกับนายจิระประวัติ ว่า "ห้ามชู 3 นิ้วนะครับ" 

ส่วนบุคคลตามคำสั่งฉบับที่ 50/2557 ที่มีรายชื่อของนายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือเสี่ย ป.เป็ด อดีตผู้ต้องหาคดียาเสพติดรายใหญ่ รวมอยู่ด้วย กำหนดต้องเข้ารายงานตัวตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ได้เข้ารายงานตัวเพิ่มอีก 2 คน ได้แก่ นายจำเริญ ชีวินเฉลิมโชติ และนายวสุพล จตุรคเชนทร์เดชา

@ 'อริสมันต์'มาพร้อมผู้ติดตาม 

      เวลา 11.20 น. นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ บุคคลที่มีรายชื่อตามคำสั่งฉบับที่ 53/2557 เดินเข้ารายงานตัว และถูกปล่อยตัวในช่วงบ่าย โดยมีนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ นปช.เดินทางมาด้วย และกล่าวว่า นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง นายธนกฤต ชะเอมน้อย นายอารี ไกรนรา และตัวแทนของนายพงศ์พิเชษฐ์ สุขจินดาทอง จะเดินทางมารายงานตัวตามคำสั่ง คสช. โดยส่วนของนายพงศ์พิเชษฐ์ ตัวแทนจะนำหนังสือยืนยันปัญหาสุขภาพมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ จากนั้น ในเวลา 12.10 น. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ได้เดินทางเข้ามารายงานตัวแล้ว พร้อมผู้ติดตาม 2 คน เดินเข้าประตูฝั่งถนนศรีอยุธยา

      นายสุชัยวุฒิ ชาวสวนกล้วย ผู้อำนวยการกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน (กนส.) ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึงการนำตัวนายอริสมันต์เข้ารายงานตัว กล่าวว่า ตามที่กลุ่ม กนส.ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของตัวแทนเสนอแนวทางสร้างความยุติธรรมและปรองดองของคนในชาติ และขอพิจารณาประกาศผู้ที่ยังไม่ได้รายงานตัวให้มารายงานตัวอีกครั้ง พร้อมกันนี้ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ที่แสดงเจตนารมณ์ต้องการให้เกิดความปรองดองในบ้านเมือง โดยได้รับการแจ้งจากนายอริสมันต์ว่า พร้อมที่จะใช้ความเป็นศิลปินนักร้องช่วยในการสร้างความปรองดองและความสามัคคีให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองตามแนวทางของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์ฯ โดยจะขอร่วมทำงานด้านเพลงให้ พร้อมชี้แจงสาเหตุบุคคลที่ไม่มารายงานตัวได้ เนื่องจากมีคำสั่งในช่วงกลางคืน และบางส่วนมีปัญหาด้านสุขภาพ ซึ่งทางกลุ่ม กนส.จะประสานบุคคลที่เหลือมารายงานตัวต่อไป

@ คำสั่งที่ 57 เรียกตัวซ้ำ-เพิ่มอีก

       เมื่อเวลา 17.45 น. มีคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 57/2557 เรียกให้บุคคลรายงานตัวเพิ่มเติม ที่ห้องจามจุรี สโมสรทหารบก เทเวศร์ ในวันอังคารที่ 10 มิถุนายน เวลา 10.00-12.00 น. ดังรายชื่อต่อไปนี้ 1.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ 2.นายจรัล ดิษฐาอภิชัย 3.นายชินวัฒน์ หาบุญพาด, 4.นายวิสา คัญทัพ 5.นางไพจิตร อักษรณรงค์, 6.นางดารุณี กฤตบุญญาลัย 7.พ.ต.ต.เสงี่ยม สำราญรัตน์ 8.นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ 9.นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ 10.นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ 11.นายสงวน พงษ์มณี 12.นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 13.นายนิธิวัต วรรณศิริ 14.นายศรัณย์ ฉุยฉาย 15.นายไตรรงค์ สินสืบผล 16.นายชฤต โยนกนาคพันธุ์ 17.นายวัฒน์ วรรลยางกูร 18.นาวาอากาศตรี ชนินทร์ คล้ายคลึง 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายชื่อบุคคลในคำสั่งที่ 57 พบว่า บุคคลส่วนหนึ่งเคยถูกคำสั่งเรียกเข้ารายงานตัวไปก่อนหน้านี้ อาทิ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) และอดีต รมว.มหาดไทย, นายชินวัฒน์ หาบุญพาด อดีต ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พท., นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ อดีตแกนนำกลุ่มแดงสยาม, นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิจัยจากสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์, นายวรเจตน์ ภาคีรัตน์ อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และนายศรัณย์ ฉุยฉาย หรืออั้ม เนโกะ นักศึกษา มธ.

@ คสช.เรียกรายงานอีก17คน 

       เมื่อเวลา 21.35 น. คสช.ออกคำสั่ง ที่ 58/2557 ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม ในวันที่ 10 มิถุนายน ดังนี้ 1.นายชัยวัฒน์ อินทร์ชำนาญ 2.นางศรีศศิร์อร ทรัพย์เงินทอง 3.นายพงศ์ศักดิ์ ศรีบุญเพ็ง 4.นายเสน่ห์ จงจิตต์ 5.นายจรัล อัมพรกลิ่นแก้ว 6.นายสรานุภล กองทอง 7.น.ส.กชพร แสงชัชวาลย์ 8.นายวสันต์ งาหัตถี 9.นางกรรณิการ์ เทียนเงิน 10.นายชัยพฤกษ์ สมานรักษ์ 11.น.ส.กรกนก ห่อมกระโทก 12.นายไพฑูรย์ สิงหา 13.นางอภิศรา สเวหาด 14.นายณัฐวุฒิ ด้วงนิล 15.นางพัชร์อริญ ตั้งรัตนาพิบูล 16.นายสุริยัน จันทไหว และ 17.น.ส.ดวงใจ พวงแก้ว

@ 'อ๋อย'โพสต์เฟซบุ๊กบอกสบายดี

      ผู้สื่อข่าวรายงาน นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีต รมว.กระทรวงศึกษาธิการ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาฝ่าฝืนกฎอัยการศึก และยุยง ปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116 และศาลทหารได้ให้ประกันตัวชั่วคราว ได้โพสต์เฟซบุ๊ก Chaturon Chaisang ข้อความว่า "วันเสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา กลับไปเยี่ยมบ้านมาครับ ตอนนี้กำลังเคลียร์เรื่องใกล้ตัวเล็กๆ น้อยๆ นัดหมอบ้าง ช่างตัดผมบ้าง และเดี๋ยวคงรับนัดเพื่อนๆ ที่จะเลี้ยงข้าวครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ห่วงใยและให้กำลังใจ ผมสุขภาพดีทั้งกายใจ มีเพลียเล็กน้อย เดี๋ยวคงดีขึ้นอีกครับ" 

@ ออกประกาศยังคงพ.ร.บ.เลือกตั้ง

       ก่อนหน้านี้ มีประกาศของ คสช.ฉบับที่ 57/2557 เรื่อง ให้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญบางฉบับ มีผลบังคับใช้ต่อไป จากที่มีประกาศ ฉบับที่ 11/2557 ลงวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เรื่องการสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยนั้น แต่ที่โดยประกาศดังกล่าวกำหนดให้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบางหมวดยังคงมีผลใช้บังคับได้ต่อไป และประกาศ คสช. ให้องค์กรอิสระ และองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญฯ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเช่นกัน

       ทั้งนี้ ประกาศของ คสช.ฉบับที่ 24/2557 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2557 เรื่อง ให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญมีผลบังคับใช้ต่อไปก็มิได้ยกเลิก หรือสั่งให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับใดสิ้นสุดลง นอกจากกำหนดให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 5 ฉบับ มีผลบังคับใช้ต่อไป อาทิ ให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2550 มีผลบังคับใช้ต่อเนื่องต่อไป แต่ให้งดเว้นการเลือกตั้ง ส.ส. การเลือกตั้ง และการสรรหา ส.ว.ไว้เป็นการชั่วคราวก่อน 

       รวมทั้ง ให้ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2550 มีผลบังคับใช้ต่อเนื่องต่อไป แต่ห้ามมิให้พรรคการเมืองที่มีอยู่ดำเนินการประชุม หรือดำเนินกิจการใดๆ ทางการเมือง และการจัดตั้ง หรือจดทะเบียนพรรคการเมือง ให้ระงับชั่วคราว เป็นต้น 

      สำหรับ ประกาศ คสช.ฉบับที่ 58/2557 เป็นเรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เพื่อให้การพิจารณาและวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น และผู้บริหารท้องถิ่นของศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค ดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง

@ กกต.นัดถกหลังได้คืน3พ.ร.บ. 

      นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดเผยในระหว่างแถลงข่าวว่า การประชุมของ กกต.ในวันที่ 10 มิถุนายน จะมีวาระการพิจารณากรณี คสช.ได้มีประกาศฉบับที่ 57/2557 ให้ พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง พรรคการเมือง และการออกเสียงประชามติ กลับมามีผลบังคับใช้ต่อเนื่องต่อไป เพื่อหาแนวทางในการปฏิบัติงานต่อไปว่าจะสามารถดำเนินการอย่างไรได้บ้าง

@ 'สมคิด'ทำความเข้าใจกับทหาร

      นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ รักษาการอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับ พ.อ.นฤดล ท้าวฤทธิ์ ผู้บังคับการกรมปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ (ผบ.ป.1 รอ) ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลความสงบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยมีนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล และนายพรชัย ตระกูลวรานนท์ รองอธิการบดี มธ.เข้าร่วม ว่า เป็นการพูดคุยภายในใช้เวลาประมาณ 15 นาที เป็นการทำความรู้จัก เนื่องจากทางทหารเห็นว่า มธ.อยู่ในเขตพื้นที่ที่ต้องดูแล หากมีเรื่องที่ต้องจำเป็นประสานขอความร่วมมือมายังมหาวิทยาลัย จะได้ดำเนินการอย่างสะดวก เบื้องต้น ได้แลกเบอร์โทรศัพท์ติดต่อไว้

      พ.อ.นฤดล ได้ย้ำว่าการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ทำการรัฐประหาร เนื่องจากสถานการณ์มีความจำเป็น และไม่ได้มีความมักใหญ่ใฝ่สูง อยากให้ประเทศชาติเกิดความสงบเรียบร้อย ทุกภาคส่วนต้องหันหน้าเข้าหากัน ในส่วนของ มธ.ยินดีให้ความร่วมมือ ขณะเดียวกันก็ได้อธิบายให้ทางทหารฟัง กรณีนักศึกษาของ มธ.เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารเป็นการแสดงความคิดเห็นส่วนตัว เป็นเพียงนักศึกษาส่วนหนึ่งเท่านั้น มหาวิทยาลัยไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมาได้ทำความเข้าใจกับนักศึกษาและบุคลากร หากจะแสดงความคิดเห็นอะไรต่อสาธารณะขอให้คิดให้ดี

       ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีทหารเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยภายในมหาวิทยาลัยหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่มีและคงเป็นไปไม่ได้ ขณะนี้มหาวิทยาลัยมีการดูแลรักษาความปลอดภัยตามปกติ ไม่ได้มีการเพิ่มการดูแลอะไรเป็นพิเศษ การเข้ามาพูดคุยของทหารครั้งนี้ เป็นเพียงการมาทำความรู้จัก ไม่ได้เข้ามาควบคุมอะไร 

       นายพรชัย กล่าวว่า มหาวิทยาลัยยังเปิดประตูทุกฝั่งให้บุคลากรและนักศึกษาเดินเข้าออกได้ตามปกติ ไม่ได้มีการปิด ส่วนที่มีการปิดประตูใหญ่ฝั่งท่าพระอาทิตย์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน เพราะเป็นช่วงเสาร์อาทิตย์ เกรงว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจึงปิดแค่บางส่วน 

@ 'อำนวย'แจงจับกุมพวกฝ่าฝืน

       ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รอง ผบช.ศ.ช่วยราชการ บช.น. ดูแลงานความมั่นคง กล่าวกรณีการดำเนินคดีนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด ที่ถูกทหารควบคุมตัวว่า ทางกองบังคับปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ร่วมจับกุมและตรวจสอบอยู่ ในความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เป็นอาชญากรรมเฉพาะทาง ส่วนของ บก.ปอท.น่าจะดำเนินการส่วนนี้ รวมถึงความผิดที่ไม่มารายงานตัว และมาตรา 116 กระทำความผิดเกี่ยวกับยุยงให้คนมาชุมนุม รวมถึงการให้ที่พักพิงก็สามารถสอบสวนได้หมด ส่วนทหารจะส่งให้ บช.น.หรือ ปอท.ดำเนินคดีก็แล้วแต่ทหาร คาดว่าน่าจะส่ง ปอท. เพราะวันที่จับนายสมบัติ ปอท.ไปร่วมด้วย 

@ ตรวจสอบเจตนากินแซนด์วิช

      ผู้สื่อข่าวถาม กรณีภาพถ่ายกลุ่มต้านรัฐประหารมีการขอออกหมายจับภายหลังหรือยัง พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน จับได้หมดเลย 7 คน ตอนเช้าได้ 2 คน ที่สยามพารากอน ตอนบ่ายอีก 5 คน มีขึ้นรถไฟฟ้าไป ตำรวจกับทหารก็ตามจับกุม อีกส่วนหนึ่งคือ การกินแซนด์วิช ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต้องแยกในส่วนนี้ว่ากฎหมายห้ามชุมนุมทางการเมือง หากไปกินกาแฟคงไม่ใช่ แต่มีเจตนาร่วมกันในการแสดงออกถึงการต่อต้าน เช่น อาจไม่ยกมือ แต่ปิดปากเฉยๆ ทำเหมือนกันหมดเลย สื่อว่าปิดปากก็เป็นการต่อต้านถือเป็นการชุมนุมทางการเมือง ส่วนแซนด์วิชนั้นยังก้ำกึ่งอยู่ ทราบว่ามีการอ่านแถลงการณ์ประกอบด้วย แสดงว่ามีเจตนาร่วมกัน กำลังให้ดูแถลงการณ์ว่าเข้าข่ายต่อต้านหรือไม่ หากอ่านแล้วเป็นการต่อต้านจะออกหมายจับ แต่หากไม่เข้าข่ายจะให้รายชื่อเจ้าหน้าที่ทหารดำเนินการ การกินแซนด์วิชตอนนี้เริ่มเข้าข่ายมีความผิดเหมือนการชู 3 นิ้วแล้ว หากเนื้อหาแถลงการณ์คัดค้านขัดขวาง คสช.ถือว่าเข้าแล้ว

       "ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายรูปแบบหรือใบปลิวก็ออกมา มีการจับได้ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง อย่างผู้พันสู้ (น.ต.ชนินทร์ คล้ายคลึง นายทหารสัญญาบัตร ที่ถูกปลดออกจากราชการ) มีการโพสต์ไว้แล้วว่าจะหยุดการชุมนุมทางการเมือง การแสดงความคิดเห็นที่เป็นปฏิปักษ์กับ คสช. หรือผู้มีอำนาจปกครอง ที่เรียกว่ารัฏฐาธิปัตย์ ก็ทำไม่ได้ทั้งหมด เพราะตอนนี้ใช้กฎหมายพิเศษอยู่ และจะอ้างรัฐธรรมนูญไม่ได้ว่าสงบ ปราศจากอาวุธ เพราะตอนนี้พักใช้อยู่" พล.ต.ต.อำนวยกล่าว และว่า ผู้ชุมนุมมี 2 แบบ คือ รู้สึกร่วมในระบอบประชาธิปไตยและแบบจ้าง โดยแบบจ้างมาอย่างที่ร้านแมคโดนัลด์ สาขาราชประสงค์ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน มีป้าแก่ๆ ใส่รองเท้าเก่าๆ จูงหลานมานั่งกิน ดูแล้วไม่สมเหตุสมผล

      ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณี 'ผู้พันสู้'มีการโพสต์แล้วยุติไปถือว่าผิดหรือไม่ พล.ต.ต.อำนวยกล่าวว่า การโพสต์ข้อความถือว่าผิดแล้ว ชวนคนให้มาชุมนุมผิดกฎหมาย ความผิดเกิดแล้ว ในส่วนนี้ ปอท.มีหน้าที่ตรวจสอบเฟซบุ๊กทุกคนที่มีการโพสต์ต่อต้านชวนคนมาชุมนุมหรือหากกดไลค์ถือว่ามีความผิดเช่นกัน แม้จะไม่ได้เป็นผู้เขียนขึ้นเองก็ตาม

@ แจงยิบ'ตร.-ทหาร'ร่วมกันทำงาน

       ด้าน พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. กล่าวว่า การแบ่งหน้าที่ทำงานของทหารและตำรวจ บก.ป. แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ 1.ทหารเข้าจับกุมกรณีผู้ชุมนุมแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านตามสถานที่ต่างๆ ทหารจะเป็นผู้จับกุม นำตัวไปฝากควบคุมที่ สน.ต่างๆ หรือที่ บก.ป. และ 2.กรณีทหารแจ้งความดำเนินคดี หากมีบุคคลโพสต์ข้อความลงโซเชียลเน็ตเวิร์กต่างๆ ลักษณะหมิ่น หรือมีการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช. หรือขึ้นเวที หรือกระทำการเพื่อยุยงให้ประชาชนกระด้างกระเดื่อง ตำรวจ บก.ป.จะเป็นผู้จับกุม ส่วนเหตุที่เกิดขึ้นตามต่างจังหวัด ตำรวจท้องที่นั้นมีอำนาจจับกุมได้ โดยทหารสามารถประสานให้เข้าจับกุมได้ ส่วนของการดำเนินคดี ทหารจะแค่สอบปากคำเบื้องต้น แต่ตำรวจจะทำสำนวนและสรุปสำนวนสั่งฟ้องแล้วส่งต่อไปยังศาลทหาร

@ สอบ'สมบัติ'ก่อนคุมตัวครบ 7 วัน 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารจากกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ (ร.21 รอ.) ได้นำตัวนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด มายังห้องจามจุรี หอประชุมกองทัพบกเทเวศร์ เพื่อรายงานตัว และพูดคุยปรับทัศนคติ ทำความเข้าใจ พร้อมแจ้งให้พนักงานสอบสวนเข้าสอบปากคำและทำสำนวนฟ้อง อย่างไรก็ตาม ภายหลังสอบปากคำและทำความเข้าใจเสร็จ ทางทหารได้นำตัวนายนายสมบัติไปควบคุมต่อที่ค่ายทหารในพื้นที่ กทม. จนครบ 7 วันตาม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก จากนั้นถึงจะส่งตัวไปให้พนักงานสอบสวนนำตัวไปฝากขังที่ศาลทหารกรุงเทพต่อไป 

@'ปนัดดา'ให้เร่งแจงปรองดอง

      นายจิรชัย มูลทองโร่ย ผู้ตรวจการสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กล่าวว่า ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้เร่งดำเนินการตามนโยบายปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป ลงพื้นที่ชี้แจงแนวทางการปรองดองสมานฉันท์สลายสีเสื้อ พร้อมเปิดเวทีรับฟังแนวทางการปฏิรูประบบราชการ ทั้งระดับจังหวัดและในส่วนท้องถิ่นที่มีประชาชน อบจ. เทศบาล และ อบต. ร่วมเวทีพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเก็บข้อมูลสะท้อนปัญหาและความต้องการของท้องถิ่นนำเสนอส่วนกลางให้ คสช. นำไปจัดตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และสภาปฏิรูปต่อไป จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 มิถุนายน- 2 กรกฎาคม โดยคณะผู้บริหาร สปน.จะลงพื้นที่ 5 จังหวัด ประกอบด้วย สงขลา สตูล ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ช่วงแรกจะประชุมกับส่วนราชการเพื่อมอบนโยบายธรรมาภิบาล และการแก้ไขการทุจริตคอร์รัปชั่น พร้อมตรวจสอบและเร่งรัดการใช้งบประมาณจังหวัดที่แต่ละจังหวัดได้รับปีละ 100 ล้านบาท เป็นการกระตุ้นการเบิกจ่ายภาครัฐให้ทันปีงบประมาณ 2557 

       นายจิรชัย กล่าวว่า การเปิดเวทีร่วมกับ อบจ. เทศบาล อบต. และประชาชน จะเป็นการให้ข้อมูลและเปิดเวทีให้สะท้อนความต้องการหรือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ หรือแนวทางปฏิรูปโดยเฉพาะระบบราชการควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง โอกาสนี้จะเป็นการสนับสนุนโครงการพระราชดำริตามแนวนโยบายของ คสช.ระดับพื้นที่ โดยเฉพาะโครงการปิดทองหลังพระ เช่น ที่ จ.สงขลา จะมีการขยายโครงการ 1 ไร่ 1 แสนบาท

@ ปลัดมท.พร้อมถกดันปรองดอง

     ที่สำนักงาน ก.พ. นนทบุรี นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงการประสานงานระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับ คสช. ในส่วนของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) ว่า สัปดาห์นี้มีนัดหารือกับ พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ ผู้ช่วย เสธ.ทบ. ในฐานะผู้อำนวยการ ศปป. เพื่อรับทราบแผนปฏิบัติการ ภารกิจสร้างความปรองดอง กระทรวงได้ดำเนินการไปแล้ว คือ การร่วมปราบปรามอบายมุข ยาเสพติดและการพนัน และสร้างความเข้าใจให้ผู้คนเข้าใจบรรยากาศที่ คสช.จะเข้ามาบริหารประเทศ โดยให้ทุกจังหวัดเกิดความเข้าใจ 

      นายวิบูลย์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบความขัดแย้งหรือสิ่งผิดปกติจากศูนย์เฉพาะกิจประจำจังหวัดที่กระทรวงตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนภารกิจของ ศปป. ทั้งเรื่องการเมืองและความขัดแย้งในพื้นที่ รวมถึงรวบรวมปัญหาสะท้อนให้ผู้บริหารประเทศแก้ไข โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือมีภาพความขัดแย้งและผู้นำมวลชน ได้พยายามทำความเข้าใจแล้ว 

@ คสช.แถลงโต้ข่าวลือ

      เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พ.อ.วินธัย สุวารี ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้แถลงข่าวประจำวัน พร้อมคณะ ประกอบด้วย ร.ต.อ.นพ.ยงยุทธ ไมยราพ น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต และ พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค

      พ.อ.วินธัย กล่าวกรณีข่าวลือที่มีการรายงานว่า คสช.พร้อมแต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้นบริหารแล้ว ดังนี้ 1.สภาประชาชนที่พร้อมปฏิรูปเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศไทยแล้ว. 2.ยกเลิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 3.คงไว้เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 4.เลือกผู้ว่าราชการโดยตรง 5.ให้กำนันผู้ใหญ่บ้านขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากการเลือกตั้ง 6.ลดบทบาทนักการเมือง 7.เลือกตั้ง ส.ส. 30% (จังหวัดละ 1 คน) และคัดสรร 70% (แต่งตั้ง) 8.ให้ตำรวจขึ้นตรงกับผู้ว่าราชการจังหวัดที่มาจากเลือกตั้ง 9.แต่ละจังหวัดแบ่งโซนมีสมาชิก สภาพลวัฒน์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ไม่เป็นความจริง ขอให้ระมัดระวังการรับฟังข่าวสารทางโซเชียลมีเดีย มีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้จาก คสช.

       น.ส.ปถมาภรณ์ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ทีมโฆษก คสช. กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีสื่อปลอมของ คสช.เกิดขึ้นในโซเชียลมีเดีย จึงขอความร่วมมือจากประชาชนให้ติดตามช่องทาง คสช.อย่างเป็นทางการเท่านั้น หรือติดต่อทางคอลเซ็นเตอร์ 7 คู่สาย 09-4128-6273 ถึง 9 รวมถึงอีเมล์ [email protected] เฟซบุ๊ก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ และทวิตเตอร์ @army_news หรือทำหนังสือร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ ได้โดยตรง ที่กองบัญชาการกองทัพบก ถนนราชดำเนินนอก

      น.ส.ปถมาภรณ์ กล่าวว่า การเผยแพร่ของโทรทัศน์ตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา ไม่มีโลโก้ของ คสช.อีกแล้ว เนื่องจากสถานการณ์คลี่คลายลง และต้องการสร้างความรู้สึกผ่อนคลายแก่ประชาชน แต่จะยังมีอยู่ในการถ่ายทอดโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยเท่านั้น

@ คสช.เตือนให้ความเห็นการเมือง

       พ.อ.วินธัย ยังกล่าวว่า เพื่อบรรยากาศของการสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นโดยเร็ว คสช.จึงได้ดำเนินการตรวจสอบไอพี แอดเดรส ของผู้สนับสนุน กปปส.ที่ใช้ชื่อว่า'เสธ.สีน้ำเงิน'ที่ยังมีการแสดงความเห็นทางการเมือง โจมตีฝ่ายตรงข้ามอยู่ โดยเฉพาะมีการระบุว่า คสช.ทำลายระบอบทักษิณ ซึ่ง คสช.มีความไม่สบายใจว่าจะสร้างความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน เพื่อทำความเข้าใจและให้ร่วมสร้างบรรยากาศความปรองดองความสมานฉันท์จึงจะต้องดูแลผู้ที่เสนอความคิดเห็นทางไอทีอย่างใกล้ชิด 

       พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยังคงแถลงข่าวแสดงความเห็นทางการเมืองต่อเนื่องนั้น คสช.จะขอความร่วมมือให้ดูถึงความเหมาะสม เพราะเชื่อว่าทางพรรคการเมืองจะเข้าใจว่าอะไรคือความเหมาะสมในขณะนี้และควรทำอย่างไร 

@ ชงจัดดินเนอร์ทอล์กแจงสื่อนอก 

     พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค คณะทำงานโฆษก คสช. เปิดเผยว่า เนื่องจากการสื่อสารทำความเข้าใจให้ตรงประเด็นกับสื่อต่างประเทศมากยิ่งขึ้น จึงเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. เตรียมจัดดินเนอร์ทอล์กกับสื่อต่างประเทศ เพื่อทำความเข้าใจให้มากขึ้น แต่ยังไม่ระบุเวลาและสถานที่

@ หน.คสช.ฟังข้อเสนอทุกฝ่าย

       ก่อนหน้านี้ในช่วงเช้า พ.อ.วินธัยมีการแถลงถึงคำชี้แจงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.ว่า ขอให้เข้าใจว่าทุกเรื่องที่ คสช.ได้คิดและพิจารณาเกิดจากการรับฟังหลายกลุ่ม ทั้งภาครัฐ เอกชน ประกอบด้วยประชาชน ข้าราชการ กลุ่มที่ปรึกษา รวมทั้งสื่อมวลชน และจากข้อร้องเรียนของประชาชน      ทั้งหมดถูกรวบรวมนำไปดำเนินการแก้ไข ที่ไม่มีผลกระทบหรือเป็นปัญหาจะดำเนินการเลย บางอย่างเริ่มต้นด้วยการชะลอก็พยายามดำเนินการอยู่แล้ว แต่บางอย่างที่มีเรื่องของกฎหมายและระเบียบควบคุมอยู่ หรือเป็นเรื่องของโครงสร้างทั้งระบบ จะรีบดำเนินการโดยไม่ศึกษาผลกระทบก่อนไม่ได้ เพราะแก้หนึ่งเรื่องอาจมีผลกระทบไปหลายเรื่อง บางเรื่องอาจมีผลกระทบไปถึงโครงสร้างระบบการเงินการคลังของประเทศ รายได้ของรัฐ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ผู้ลงทุน ผู้ถือหุ้น และอีกมากมาย

@ ขอให้มั่นใจว่าถูกต้องเป็นธรรม

       พ.อ.วินธัยกล่าวว่า สำหรับการแก้โครงสร้างระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลัง ไม่ว่าจะเป็นด้านพลังงาน เงินชดเชยต่างๆ เรื่องภาษี และรายได้เกษตรกร ในระยะแรกพยายามผ่อนคลายความเดือดร้อนของประชาชนเป็นลำดับแรก ระยะต่อไปเมื่อมีรัฐบาลจะดำเนินการให้ถูกต้อง ขอให้มั่นใจ คสช.บริหารแผนโครงการและงบประมาณภายใต้ความถูกต้อง โปร่งใส เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ จะไม่มีเรื่องทุจริตหรือผลประโยชน์ทับซ้อน ระบบการจัดซื้อจัดจ้างในทุกโครงการสามารถเข้าแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม ไม่มีระบบผูกขาดใดๆ

      พ.อ.วินธัย กล่าวอีกว่า คสช.ต้องการแก้ปัญหาให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม ขจัดเรื่องผลประโยชน์ ธุรกิจทับซ้อนให้หมดไปทันที แต่เนื่องจากปัญหาสะสมมานาน มีเรื่องราวหลายอย่างที่ข้อมูลไม่ตรงกับความจริง ทำให้ประชาชนสับสนและไม่เข้าใจ ทำให้เกิดความยุ่งยากมาจนถึงปัจจุบัน

@ คสช.เล็งใช้สนธิสัญญาข้ามแดน

      พ.อ.วินธัยกล่าวถึงการยกเลิกเคอร์ฟิวว่าจะมีการพิจารณาเป็นจุดๆ ไป เพราะขณะนี้ยังมีการตรวจสอบพบอาวุธสงครามเป็นระยะๆ อยากสื่อสารว่ายังไม่ปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ยังมีบางกลุ่มมีอาวุธสงคราม เชื่ออีกไม่นาน ทุกอย่างสงบจะมีการผ่อนปรนมากขึ้นตามลำดับ อย่างกรุงเทพฯ และ จ.เชียงใหม่ คิดว่าอีกไม่นานจะยกเลิก 

       พ.อ.วินธัย กล่าวว่า การดำเนินการกับผู้ที่เคลื่อนไหวต่อต้าน คสช.ในต่างประเทศ อย่าง น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส นายจักรภพ เพ็ญแข และนายสุนัย จุลพงศธร ตอนนี้กำลังพิจารณาใช้สนธิสัญญาผู้ร้ายข้ามแดน กรณีของ น.ส.ฉัตรวดีที่โพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นสถาบัน จะทำเรื่องขอให้ทางสหราชอาณาจักรส่งตัวมา กำลังให้ฝ่ายกฎหมาย คสช.และคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอยู่ 

@ 7 องค์กรเอกชนถกฟื้นฟูศก.

     นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานหอการค้าและสภาหอการค้าไทย เปิดเผยก่อนเข้าประชุม 7 องค์กรเอกชนว่า เป็นการประชุมของ 7 องค์กรเอกชน ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สมาคมธนาคารไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจทั้งระยะสั้น กลาง และยาว ที่เอกชนสามารถดำเนินการให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ด้วย จะมีการลงรายละเอียดการป้องกันคอร์รัปชั่นด้วย คาดว่าจะเสนอต่อ คสช.ในสัปดาห์นี้ 

      นายกลินท์ สารสิน กรรมการเลขาธิการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย กล่าวด้วยว่า การหารือครั้งนี้อยู่ภายใต้ 7 กรอบเดิม ส่วนที่มีการเสนอเพิ่มเข้ามานอกเหนือ 7 กรอบ คือ การเสนอตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างภาครัฐ นำโดย คสช. กับภาคเอกชน ลักษณะเดียวกับคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.)

@ เร่งด่วน4ข้อสร้างความเชื่อมั่น

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น นายกลินท์ได้เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้สรุปข้อเสนอที่มีความเร่งด่วนและการสร้างความเชื่อมั่นกับประเทศในระยะยาว จาก 7 ข้อ เหลือ 4 ข้อ โดยประเด็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 1-2 เดือน จำนวน 3 ข้อ และประเด็นที่มีความจำเป็นในระยะกลางและระยะยาว 1 ข้อ ประเด็นที่มีความเร่งด่วนได้แก่ 1.เร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน สร้างความมั่นใจให้นักลงทุนต่างประเทศ โดยในวันที่ 10 มิถุนายนนี้สภาหอการค้าฯได้เชิญหอการค้าต่างประเทศและนักธุรกิจต่างประเทศเข้าหารือ และเปิดโอกาสให้นักลงทุนเล่าความคิดเห็นที่มีต่อประเทศไทย จากนั้นสภาหอจะชี้แจงนักลงทุนอีกครั้ง

2.ลดความเหลื่อมล้ำสร้างความปรองดองในสังคม ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน ในด้านของสภาหอการค้าฯจะใช้กลไกหอการค้าทั่วประเทศรวมทั้งให้สภาอุตสาหกรรมที่มีสาขาทั่วประเทศ ช่วยคิดวิธีลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมทั้งชี้แจงทำความเข้าใจและสร้างความปรองดอง 3.สร้างความโปร่งใส ไร้คอร์รัปชั่นซึ่งองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นมีข้อเสนอ 8 ข้อ เช่น การปรับปรุงระเบียบราชการ การเพิ่มความโปร่งใส ขณะที่ประเด็นที่มีความจำเป็นในระยะกลางและระยะยาว มี 1 ประเด็นคือ 1.การวางรากฐานเศรษฐกิจให้มีความน่าเชื่อถือและน่าลงทุนในระยะยาว เช่น การปรับปรุงการขอใบอนุญาตให้มีความรวดเร็วมากขึ้น การจัดวางผังเมือง การเพิ่มความรวดเร็วของศุลกากรเป็นต้น

โดยในที่ประชุม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไม่ได้ให้นโยบายต่อ 7 องค์กร เพียงแต่ให้ความคิดเห็นว่าทั้ง 7 องค์กรเป็นหน่วยงานที่น่าเชื่อถือและขอให้แต่ละหน่วยงานเสนอความเห็นได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้สรุป 

@ ส.อ.ท.เตรียมจัด"ไทยแลนด์ แบค"

      นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากมาตรการ 3 ด้านเร่งด่วน และ 1 ด้านระยะยาวนั้น ในส่วนของ ส.อ.ท.จะดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์ อาทิ มาตรการเรียกความเชื่อมั่น ล่าสุด ส.อ.ท.ได้หารือร่วมกับเจเอฟซีซีที หอการค้านานาชาติที่มีตัวแทนนักลงทุนจาก 29 ประเทศเข้าร่วม สอบถามถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทย ได้รับคำตอบว่ายังเชื่อมั่น ดังนั้น เพื่อดำเนินการในภาพรวมปลายเดือนมิถุนายนนี้ ส.อ.ท.จะจัดงานประชุมภาย ใต้ชื่อ "ไทยแลนด์ แบค" โดยจะเชิญซีอีโอจากบริษัทใหญ่ทั่วโลกเข้าร่วม อาทิ ค่ายรถยนต์ชั้นนำทั้งเอเชียและยุโรป

      "ข้อเสนอของเอกชนและแผนการทำงานทั้งหมดจะเสนอ คสช.พิจารณา การประชุมคาดว่าจะอยู่ในรูป กรอ.ตามที่เอกชนเสนอเพิ่มเติม เพราะจะทำให้การทำงานมีความคล่องตัวมากกว่า" นายสุพันธุ์กล่าว

@ วธ.ชง7โครงการชูปรองดอง

      นายปรีชา กันธิยะ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เปิดเผยภายหลังประชุมผู้บริหาร วธ.ว่า ได้ปรับแผนงานโครงการและงบประมาณประจำปี 2557 เพื่อดำเนินงานโครงการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาสังคมวัฒนธรรม คืนความสุขให้สังคมไทย โดยจัดทำโรดแมปด้วยมิติทางวัฒนธรรม วงเงิน 109 ล้านบาท ขับเคลื่อนแผนงาน 3 แผน รวมทั้งหมด 7 โครงการ ได้แก่ แผนงานสร้างความสุข จำนวน 2 โครงการ วงเงิน 51 ล้านบาท, แผนงานสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ 3 โครงการ 

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!