- Details
- Category: การเมือง
- Published: Thursday, 05 February 2015 12:42
- Hits: 4010
มือโพสต์แถลงการณ์เก๊ โดนรวบตัว ตร.บุกหิ้วจากเพชรบูรณ์ นักดนตรีหนุ่มเสื้อแดง อ้างคนส่งให้-ปัดต้นตอ 'เฟซ-ทวีต'ต่อ 5 พันราย 'บิ๊กตู่'เร่งผลงาน 5 สาย 'ป้อม'ชงเซ็นเซอร์'สื่อ'
'บิ๊กตู่'จี้จับให้ถึงต้นตอ หลังเจ้าหน้าที่บุกรวบหนุ่มเพชรบูรณ์นักดนตรี อดีต นปช. โพสต์แถลงการณ์เก๊
@ 'บิ๊กตู่'ถกแม่น้ำ 5 สายครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่สโมสรทหารบก วิภาวดี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เชิญตัวแทน 5 ฝ่าย ประกอบด้วย คณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อติดตามความคืบหน้า ปัญหาในการทำงานและการขับเคลื่อนงานของแม่น้ำ 5 สาย รวมถึงการจัดระเบียบการดำเนินงานตามโรดแมปที่ คสช.วางไว้ โดยก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางเป็นประธานการประชุม ได้แวะรับประทานอาหารกลางวันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่บ้านพักของ พล.อ.ประวิตร ที่ทำการมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเดินทางเข้าไปที่สโมสรทหารบก ส่วนการรักษาความปลอดภัยบริเวณสโมสรทหารบกนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 จำนวน 1 กองร้อย และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการควบคุมฝูงชน กระจายกำลังรักษาความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบอย่างเข้มงวด
@ จี้สอบต้นตอโพสต์ผิดม.112
พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเตรียมแถลงข่าวจับกุมตัวผู้ต้องหาที่กระทำผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 โดยจับกุมได้ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นคนที่เกี่ยวข้อง มีการโพสต์ข้อความ ต้องดูรายละเอียดกัน อยากชี้แจงว่าทั้งหมดคือสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำอยู่ให้เกิดความชอบธรรมด้วยหลักฐาน จะกล่าวอ้างลอยๆ ไม่ได้ จะต้องติดตามทุกคดีไม่ว่าจะในหรือต่างประเทศ จับได้หรือไม่ได้ก็ต้องรู้ว่าอยู่ตรงไหน ถ้าอยู่ในต่างประเทศจะทำอย่างไร เขาจะส่งตัวให้หรือเปล่า เพราะไม่สามารถไปจับกุมตัวยังต่างประเทศได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการรายงานหรือไม่ว่าต้นตอของการปล่อยข่าวแถลงการณ์สำนักพระราชวังเก๊นั้นมาจากต่างประเทศหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการสอบต่อ วันนี้ต้องเอาตัวผู้ต้องหามาก่อน จากนั้นก็จะต้องสอบต่อว่าที่โพสต์ข้อความมานั้น โพสต์เพราะอะไร เป็นอย่างไร เรื่องนี้เคยชี้แจงแล้วว่าได้จับกุมมาหลายราย ก็จะอ้างว่าไม่รู้เรื่อง โพสต์ต่อมาจากคนนั้นคนนี้ ไม่มีใครยอมรับสักคน ซึ่งเรื่องแบบนี้สถาบันพระมหากษัตริย์ก็ทรงเมตตาคนเหล่านี้ แต่คนเหล่านี้กลับไม่เข้าใจ
@ เล็งใช้กม.ความมั่นคงไซเบอร์
เมื่อถามว่า รัฐบาลจะทำอย่างกับผู้ร้ายปากแข็งที่ไม่ยอมรับผิด พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า จะทำอย่างไร ก็ต้องใช้กฎหมายดำเนินการ โดยการสอบด้วยหลักฐานและพยานต่างๆ ถ้าผิดก็ต้องดำเนินคดีจำคุกกี่ปีก็ว่ากันไปตามขั้นตอน ในวันข้างหน้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก็จะพระราชทานอภัยโทษ ก็เป็นแบบนี้ คนถึงไม่ค่อยกลัวกัน ทั้งๆ ที่พระองค์ทรงมีเมตตา
เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวจะสามารถใช้กฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์จัดการได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการพูดคุยกัน แต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้ง 8 ฉบับของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จำเป็นต้องออกให้ทันเวลา ให้ทันการเปิดใช้ 4 จีในประเทศ รวมถึงการประมูลคลื่นความถี่และโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสาร มีทั้งของรัฐบาลและเอกชนเข้ามาลงทุน ต้องดูแลทั้งระบบ ทั้งการบริหารจัดการ หน้าที่ของ กสทช. งบประมาณจากการประมูลคลื่นความถี่ รัฐบาลจะได้ประโยชน์อย่างไร จะนำไปใช้พัฒนาเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างไร
@ ชี้มองเสรีภาพอย่างเดียวไม่ได้
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวหากมองในแง่ของเสรีภาพอย่างเดียวคงไม่ได้ ดังนั้นการที่รัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงหรือทำอย่างใดอย่างหนึ่งหากไม่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายก็ไม่สามารถเข้าไปได้ ต้องดูเรื่องของจุดประสงค์ด้วยว่ารัฐต้องการเข้าถึงข้อมูลด้วยเหตุผลอะไร และหากเข้าไปดูข้อมูล เพราะมีการทุจริตผิดกฎหมายจะทำได้หรือไม่ นอกจากนี้ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติจะทำอย่างไร
"ถ้าบอกว่าอะไรก็อิสระเสรีทั้งหมด แต่ปัญหาต่างๆ ทำให้เกิดความรุนแรง เราต้องช่วยกันดู ต้องช่วยผมคิดว่าจะทำอย่างไร ตอบให้ผมด้วย ร่างกฎหมายให้ผมหน่อยสิ ว่าสื่อเสรีภาพจะทำอย่างไรถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ มีการปลุกปั่น ปลุกระดมมวลชนหาทางออกให้ผมหน่อย ถ้าบอกว่าตีกันเหมือนเดิม รับได้ก็รับ ถ้าไม่มีอะไรผิดถูกใครจะอยากไปดู" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ ชมแม่น้ำ 5 สายงานก้าวหน้า
ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์แถลงผลการประชุมแม่น้ำ 5 สาย โดยใช้เวลาการประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมงว่า ขอชื่นชมทั้ง 5 คณะ มีข้อเสนอแนะ ข้อสังเกตมามากมาย ตนเป็นหัวหน้า คสช. มีความสบายใจที่มีความก้าวหน้าอย่างนี้ เพียงแต่มาจัดลำดับความเร่งด่วนว่า อะไรทำให้เร็ว และอะไรจะขับเคลื่อนไปพร้อมกับรัฐบาล วันนี้ต้องไปด้วยกัน ไม่มีขัดแย้งกันอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เปิดเผยข้อเสนอและข้อสังเกตของ คสช.และรัฐบาลได้หรือไม่ว่าเรื่องอะไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ สิ่งสำคัญคือได้ย้ำหลักการเดิมของ คสช.ว่า จะไม่ไปสร้างความขัดแย้งเพิ่มเติม และทำอย่างไรจะทำให้เกิดบรรยากาศเอื้อต่อการปฏิรูปได้ ฉะนั้นอะไรยังไม่ได้ข้อยุติควรต้องหารือเพิ่มเติม สื่อคงต้องช่วย ประชาชนก็อย่าเพิ่งไปเดือดร้อน รวมทั้งนักการเมือง อดีตนักการเมืองอย่าเพิ่งไปเดือดร้อน ว่ากฎหมายนี้จะออกมาอย่างโน้นอย่างนี้ อย่าเพิ่งไปวิเคราะห์วิจารณ์เพราะยังไม่จบขั้นตอนกระบวนการ ยังเป็นแนวความคิด ฉะนั้นสิ่งที่ต้องชื่นชมคือ การที่ไม่ปิดกั้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ไม่ปิดกั้นแนวความคิดของกลุ่มต่างๆ ในการปฏิรูป เพียงแต่หาหนทางเจอกันได้อย่างไร
@ ห่วงเวลามีจำกัดอีกแค่ 1 ปี
เมื่อถามว่ามีข้อห่วงใยอะไรจากแม่น้ำ 5 สายหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นห่วงว่าเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด ที่เป็นห่วงคืออะไรจะจบสิ้นใน 1 ปี ต้องทำให้เสร็จ อะไรเป็นเรื่องการปฏิรูป และจะปฏิรูปต่อกันไปอย่างไร ในฐานะหัวหน้า คสช.คงชี้นำไม่ได้เพราะเป็นเรื่องของการร่างรัฐธรรมนูญและการบังคับใช้ข้อกฎหมาย "พวกเราไม่ค่อยถนัดเรื่องของข้อกฎหมาย ทั้งหมดไม่สามารถจะทำให้ดีขึ้นในเวลาสั้นๆ ได้ คือ 1 ปียากที่สุด เช่นการสร้างความเข้มแข็งภาคเศรษฐกิจ ต้องดูตั้งแต่ต้นทางการผลิต ความทันสมัย เทคโนโลยี การสร้างตลาด การใช้ในประเทศ และเรื่องสินค้าเกษตรเราก็ไม่อยากใช้เงินมากมายไปอุดหนุน ตนได้อธิบายให้ สนช. สปช.เข้าใจว่า วันนี้รัฐบาลทำอะไรไปแล้วบ้างใน 9 ยุทธศาสตร์ และมีการติดตามผลงานอย่างไร เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
@ ยันเลือกตั้งตามโรดแมปปีཷ
สำหรับ เรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญคณะกรรมาธิการยกร่างฯจะส่งร่างได้ภายในเดือนเมษายนหรือไม่นั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ได้ๆ ก็เป็นไปตามกำหนด เผลอๆ อาจจะเร็วด้วย เพราะเขาพยายามจะทำให้เร็วเพื่อจะมีเวลาซักค้านกัน ปรับปรุงแก้ไข
เมื่อถามว่าสรุปว่าวันนี้จะสามารถเดินและจบได้ตามโรดแมปที่วางไว้ได้หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า "จบไม่จบถามผมอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องไปถามคนมีส่วนร่วมข้างนอกด้วย ว่าวันนี้ทางฝ่ายการเมืองผู้เห็นต่างว่าอย่างไร เขาทำวันนี้เข้าใจหรือเปล่า ว่าประเทศชาติเราเจออะไรกันอยู่ ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าทุกคนก็มีส่วนในการทำให้เกิดความขัดแย้ง จะด้วยถูกหรือผิด อะไรตนไม่รู้ ต้องพิสูจน์กันด้วยกระบวนการยุติธรรม และต้องยอมรับในกระบวนการยุติธรรม อย่างน้อยต้องรับบ้าง ถ้าไม่รับเลยแล้วจะไปต่ออย่างไร ไปหาความชอบธรรมกันอีก ผมก็ทำให้เกิดความชอบธรรมไม่ได้ไปไล่ล่าทั้งที่หลายฝ่ายบอกว่า ผมต้องทำให้เต็มที่ แต่ถ้าทำเต็มที่แล้วจะสำเร็จหรือไม่ จะเกิดความขัดแย้งหรือไม่ก็ไม่ได้ ก็ต้องให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไป"
เมื่อถามว่า กำหนดการเลือกตั้งจะเป็นปีཷ หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า กำหนดการเลือกตั้งก็ต้องเป็นอย่างนั้น เป็นไปตามกำหนดการ แต่ก็มีเรื่องของกฎหมายลูกคงใช้เวลาไม่นาน รวมถึงการเตรียมการเลือกตั้ง ก็มีกลไกอยู่ ใครจะเป็นหัวหน้าก็แล้วแต่ว่ามา การเลือกตั้งก็ต้องมีเจ้าหน้าที่ มีส่วนราชการทำอยู่แล้ว เพียงแต่มีใครจะเป็นหัวเท่านั้น
@ 'บิ๊กป๊อก'เผยสนช.จี้รบ.ส่งกม.
พล.อ.อนุพงษ์กล่าวภายหลังการประชุมแม่น้ำ 5 สายว่า ครม.ได้นำกรอบของรัฐธรรมนูญที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญได้ร่างมาให้ความเห็น ว่ามีความคิดเห็นอย่างไร ทาง ครม.เห็นดีในกรอบที่ร่างมา แต่มีบางเรื่องห่วงว่าต้องออกรายละเอียดที่ดี เพราะไม่เช่นนั้นรัฐบาลในอนาคตจะทำงานยาก บางอย่างอาจทำให้เรื่องบางเรื่องที่รัฐบาลจำเป็นต้องขับเคลื่อนเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริงนั้นทำไม่ได้ ต้องดูรายละเอียดกันอีกที ขณะนี้ยังเป็นเพียงกรอบความคิดอยู่ นอกจากนี้มีการคุยกันเรื่องกฎหมายว่าไปช้าอยู่ที่ไหน พบว่าไปช้าอยู่ที่กฤษฎีกาก็มี ที่กระทรวงก็มี เขาก็เร่งให้มีกฎหมายไปเข้าสภา
เมื่อถามว่ามีกรณีที่เมื่อ สนช.มีมติในบางเรื่องมาเช่นเรื่องพลังงาน สนช.ได้ส่งไปยังรัฐบาลแต่ทางรัฐบาลก็ไม่ได้เห็นตามด้วย พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ถ้าใช้คำว่ามติอาจจะไม่ตรง ขอใช้คำว่า เขาให้ข้อยุติของเขามาเป็นข้อเสนอว่าในเรื่องนั้นๆ ควรทำอย่างไร แต่คงไม่ใช่จะมาสั่งฝ่ายบริหารให้ทำ
@ 'บิ๊กตู่'ติงสปช.อย่ากดดันกันเอง
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการประชุมร่วมกันระหว่างแม่น้ำ 5 สาย ที่มี พล.อ.ประยุทธ์เป็นประธานการประชุมนั้น บรรยากาศการหารือตลอด 3 ชั่วโมงเป็นไปด้วยความราบรื่น โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้แต่ละฝ่ายรายงานผลการทำงานฝ่ายละประมาณ 30 นาที เริ่มจาก สนช. นายพรเพชร พิชิตชลชัย ประธาน สนช. ได้รายงานความคืบหน้าการพิจารณากฎหมาย นายกฯกำชับ สนช.ว่ายังออกกฎหมายช้าอยู่ ต้องเร่ง อย่าให้ติดขัด กฎหมายใดพิจารณาเองได้ก็ดำเนินการทันที โดยเฉพาะกฎหมายนำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำ การปฏิรูป และภาษีมรดก ไม่ต้องรอคณะรัฐมนตรีหรือกฤษฎีกา จากนี้ไป สนช.ต้องเร่งพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับ คสช.และรัฐบาล เพราะพิจารณาแล้วเสร็จส่วนใหญ่เป็นกฎหมายค้างมาจากรัฐบาลชุดที่ผ่านมาและกระทรวงต่างๆ จากนั้นนายกฯได้พูดถึงการทำงานของ สปช. ว่าต้องช่วยกันผลักดัน อย่าเอามติมากดดัน ตนตั้ง สปช.ขึ้นมาช่วย ต้องมีมติไปในทางเดียวกัน เรื่องปฏิรูปต้องเป็นเรื่องเร่งด่วนและจำเป็นเท่านั้น เพื่อเป็นไปตามโรดแมป
@ ย้ำกมธ.ยกร่างรธน.อย่าให้มีปัญหา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ส่วน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญนั้น นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่าง รธน. ได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าการยกร่างบทบัญญัติรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราว่าได้พิจารณาไปแล้ว 133 มาตรา ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นฉบับที่กินได้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ก็ขอให้ทาง กมธ.ยกร่างฯ ทำงานด้วยความรอบคอบ อย่าให้มีปัญหาภายหลัง ขอให้ระมัดระวังการพิจารณาเกี่ยวกับหน่วยงานที่เพิ่มเติมขึ้นมาใหม่ ว่าต้องคิดให้รอบคอบ เนื่องจากจะมีเรื่องงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ได้เสนอให้ กมธ.ยกร่างฯ เน้นการร่างบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งให้ครอบคลุมและรอบคอบ
ส่วนนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.คนที่ 1 ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า สนช.อยากเข้ามามีส่วนร่วมในการร่างรัฐธรรมนูญมากกว่านี้ ทำให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษา คสช. กล่าวเสริมว่า สนช. สปช. และ กมธ.ยกร่างฯจำเป็นต้องคุยนอกรอบให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้ภาพที่ออกมามีความขัดแย้ง ส่วน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษา คสช. ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับการร่างรัฐธรรมนูญว่าขณะนี้ยังมีหลายประเด็นที่ต้องปรับแก้ โดยเฉพาะบางส่วนให้อำนาจประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากเกินไปก็อาจจะทำให้เป็นอุปสรรคในการบริหารงานของรัฐบาลได้
@ สั่งแม่น้ำ 5 สายคุยกันมากขึ้น
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ได้ขอให้แม่น้ำทั้ง 5 สายนึกถึงอดีตก่อนการยึดอำนาจ ปัจจุบันกำลังทำงานปฏิรูปเพื่อให้นำไปสู่การปฏิรูปประเทศในอนาคต และขอให้แม่น้ำทั้ง 5 สายทำความเข้าใจกันและทำงานประสานกันมากกว่าที่ผ่านมา เพราะขณะนี้เวลาได้กระชั้นชิดเข้ามาแล้ว ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังได้พูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฉพาะเหตุการณ์ระเบิดที่สยามพารากอน ที่สามารถจับคนร้ายได้แล้ว จะมีการแถลงข่าวในเร็วๆ นี้ สถานการณ์เช่นนี้คล้ายๆ ปี 2553 ที่มักจะมีเรื่องแบบนี้ขึ้น ส่วนประเด็นการยกเลิกกฎอัยการศึกและการทำประชามติที่ประชุมไม่ได้มีการพูดถึง
@ 'วิษณุ'แจงกม.ทยอยเข้าสนช.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในที่ประชุมความเข้มข้นอยู่ที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ตนก็รายงานว่ารัฐมนตรีมีความเห็นว่าอย่างไร นำสิ่งที่รัฐมนตรีพูดมาบอก ไม่ได้เป็นมติ ครม. ส่วนกรรมาธิการจะทำหรือจะแก้ไขหรือไม่ก็เรื่องของเขา
นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลส่งกฎหมายไปแล้ว 82 ฉบับนับตั้งแต่มี สนช. มาถึงวันนี้จะเริ่มหยุดเอาไว้เพื่อทยอยเข้าไปทีเดียว ตอนนี้มีกฎหมายชุดใหญ่อยู่ในมือของคณะกรรมการกฤษฎีกา 10 ฉบับ เป็นพวงเดียวกัน ยังมีร่างกฎหมายที่คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจเสร็จแล้ว และยังอยู่ที่กระทรวงต่างๆ เพื่อจะถามกระทรวงว่าจะเอากฎหมายฉบับนี้หรือไม่ จำนวน 30 ฉบับ ดังนั้นในช่วง 1-2 วันนี้ กระทรวงต่างๆ ก็จะทยอยตอบมา จากนั้นจะเข้าสู่ สนช.อีกประมาณ 30 ฉบับ
@ จี้เร่งผลงานภายใน 3 เดือน
เมื่อถามว่า ดูเหมือนว่าในส่วนของ สปช.นั้นนายกฯก็เร่งให้เห็นผลงานภายใน 3 เดือน นายวิษณุกล่าวว่า ก็มีการพูดถึงในส่วนนี้ว่าช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม จะต้องมีชุดผลงานตามนโยบายรัฐบาลให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมาเป็นการสะสางงานเก่า หลายเรื่องตรงกับนโยบายรัฐบาล และจากนี้ไปจะเริ่มทำงานใหม่ที่เป็นนโยบายของรัฐบาล
เมื่อถามว่า อะไรบ้าง สปช.ทำเสร็จแล้วให้ส่งกลับมาที่รัฐบาล นายวิษณุกล่าวว่า รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าให้สนใจว่าให้ทำอย่างไร ให้เสนอแนะนำแนวทางแก้ปัญหามาด้วย เรื่องที่จะแก้ปัญหาด้วยวิธีการบริหาร รัฐบาลทุบโต๊ะแล้วทำได้เลยก็ให้บอกมาจะได้สั่งให้ดำเนินการ ส่วนเรื่องใดต้องมีกฎหมายมารองรับก็ให้ร่างกฎหมายมาให้เสร็จ สปช.ก็รับปากว่าจะดำเนินการให้ นอกจากนั้นได้ฝากให้คณะทำงาน 18 คณะของ สปช.คิดเรื่องที่จะปฏิรูปคณะละชุด ภายในระยะเวลา 3 เดือนจะได้ 18 เรื่อง แต่ทาง สปช.ตอบกลับมาว่ากำลังดำเนินการ 36 เรื่อง คณะละ 2 เรื่อง ซึ่งภายใน 3 เดือนจะออกมาเป็นรูปธรรม โดยรัฐบาลพอใจกับคำตอบ
@ แจงข้อเสนอสปช.ทำหรือไม่ก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามกรณี สปช.มีความเห็นไม่ตรงกับ ครม.เรื่องการให้สัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ได้เคลียร์ใจในที่ประชุมหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่มีอะไรต้องเคลียร์ใจ เพราะเรื่องนี้เกิดจากรัฐบาลขอให้ สปช.ให้ความเห็น ประธาน สปช.ชี้แจงว่าหน้าที่ของ สปช.คือให้คำแนะนำตามที่มีการร้องขอและคิดเรื่องการปฏิรูป ส่วนการพิจารณาเรื่องสัมปทานไม่ใช่โครงการที่อยู่ในการปฏิรูป
เมื่อ สปช.พิจารณาแล้วโหวตถึง 2 ครั้งก็ได้ส่งเรื่องกลับมาให้ ครม. จะทำหรือไม่ก็อยู่ที่ ครม.จะพิจารณา ไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่ได้ทำตามข้อเสนอของ สปช. หรือแม้แต่มีการเสนอปฏิรูป 11 ด้านมายังรัฐบาล รัฐบาลจะเดินตามหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลตัดสินใจเพราะเป็นผู้บริหารราชการแผ่นดิน และเป็นผู้รับผิดชอบ หากดำเนินการผิด สปช.จะไม่ถูกฟ้องตามที่มีการเสนอเด็ดขาด ยกตัวอย่างเรื่องการจัดทำประชามติเขียนอยู่ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับว่าทำประชามติได้ สุดท้ายจะทำหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาล ขนาดมีการโหวตออกมาแล้วยังไม่สามารถหยุดบังคับรัฐบาลได้
@ ชี้ทำประชามติไม่เลิกอัยการศึก
เมื่อถามว่าจะรู้ได้เมื่อใดว่าจะต้องทำประชามติ นายวิษณุกล่าวว่า เมื่อถึงจุดหนึ่งที่คิดว่าต้องถามใจประชาชน ก็ต้องตัดสินใจ ขอให้เขียนมาให้เสร็จก่อนแล้วจะบอก ใกล้เดือนเมษายน รัฐธรรมนูญจะออกก็น่าจะรู้ ต้องให้เวลาหากจะดำเนินการก็ต้องไปแก้รัฐธรรมนูญว่าให้ทำได้ แต่คงไม่ถึงเดือนกรกฎาคมอย่างที่ตั้งข้อสังเกต อย่างไรก็ตามในช่วงของการจัดทำประชามติจะไม่มีการยกเลิกกฎอัยการศึก เพราะคนละประเด็นกัน ไม่เหมือนกันเลือกตั้งต้องหาเสียง
@ 'บิ๊กตู่'ห่วงขัดแย้งหลังรธน.ใหม่
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ แถลงภายหลังการประชุมแม่น้ำ 5 สายว่า ในที่ประชุมมีคนตั้งข้อสังเกตในการรับฟังความเห็นจากประชาชนต่อการปฏิรูป บางคนก็ถามแบบละเอียดเกี่ยวกับถ้อยคำในร่างรัฐธรรมนูญ เช่น ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ ความแตกต่างทางเชื้อชาติ ศาสนา หรือเพศ เป็นธรรมดาสำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากทุกฝ่าย โดย กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญได้รายงานต่อที่ประชุมว่า ได้พิจารณากฎหมายไปกี่มาตราแล้ว ส่วนประเด็นใดที่ยังมีความเห็นขัดแย้ง เช่น การลดฐานะ และผนึกกำลังของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และผู้ตรวจการแผ่นดิน เราก็ต้องรับฟัง และจะนำไปพิจารณาในตอนที่ต้องทบทวนร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ อีกทั้งนายกรัฐมนตรีเป็นห่วงในเรื่องความขัดแย้ง โดยเฉพาะภายหลังที่ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่ามีมาตรการใดจะไม่ให้คนกลับมาตีกันอีกครั้ง
นายบวรศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องของ สปช. ในที่ประชุมได้ตกลงกันแล้วว่าจะดำเนินการให้เป็นไปตามโรดแมปมองไปถึง 20 ปีข้างหน้าว่า จะปฏิรูปอย่างไรให้ประเทศไทยมั่นคง ประชาชนมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน ขณะนี้สามารถแบ่งประเด็นการปฏิรูปได้เป็น 36 เรื่องใหญ่ 7 วาระ คณะรัฐมนตรีได้เสนอ สปช.ว่า หากมีเรื่องใดสามารถเริ่มดำเนินการปฏิรูปได้ในช่วง สปช.ไม่ต้องพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ สามารถส่งให้ ครม.ดำเนินการได้
@ ชงเซ็นเซอร์สื่อช่วงไม่สงบ
รายงานข่าวจากที่ประชุมร่วมแม่น้ำ 5 สายแจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดูกฎหมายให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งกฎหมายตามนโยบายรัฐบาลโดยให้ดูตัวอย่างจากมาเลเซียและสิงคโปร์ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่ พล.อ.ประวิตรเสนอต่อคณะ กมธ.ยกร่างฯ ขอให้ไปแก้ไขเรื่องการเซ็นเซอร์สื่อ เดิม กมธ.ยกร่างฯได้ยึดตามแนวทางรัฐธรรมนูญ 2550 ให้รัฐบาลสามารถเซ็นเซอร์ข่าวสารได้ในภาวะสงคราม และตัดถ้อยคำในภาวะการรบออก พล.อ.ประวิตรยังได้ยกเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาเป็นตัวอย่าง โดยขอให้ กมธ.ยกร่างฯเพิ่มถ้อยคำเหตุการณ์ความไม่สงบเข้าไปด้วย โดยให้รัฐบาลสามารถเซ็นเซอร์ได้ เพราะไม่เช่นนั้นหากมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารออกไป อาจทำให้สถานการณ์หรือเหตุการณ์ทวีความยุ่งยากยิ่งขึ้น ขณะที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวเสริมด้วยว่า อยากให้ไปดูว่าจะสามารถยกเว้นการเซ็นเซอร์สื่อในภาวะเหตุการณ์ความไม่สงบได้หรือไม่ กมธ.ยกร่างฯบางส่วนได้ดูข้อกฎหมายแล้วพบว่า หากรัฐบาลประกาศกฎอัยการศึก ทหารสามารถสั่งห้ามจำหน่ายจ่ายแจกเผยแพร่สื่อได้อยู่แล้ว อีกทั้งในพื้นที่ที่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบก็มีการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.2551 เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจขอความร่วมมือในเรื่องนี้ได้เช่นกัน แต่เรื่องนี้ก็จะถูกสังคมและสื่อมองได้ว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิเสรีภาพได้
@ สปช.แจงไม่ได้บังคับครม.
นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ สปช.ในฐานะประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง สปช. กล่าวว่า ผู้ร่วมประชุมมีการอภิปรายกันอย่างมากในส่วนของ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ สำหรับการอภิปรายในส่วนของ สปช. นายกรัฐมนตรีได้หารือเกี่ยวกับข้อเสนอแนะของ สปช. โดยเฉพาะมติของ สปช. ที่เสนอมายัง ครม. ใลักษณะที่บังคับให้ปฏิบัติตาม นายกรัฐมนตรีได้อธิบายต่อที่ประชุมว่า มติของ สปช.เป็นข้อเสนอแนะต่อ ครม. ไม่ใช่มติที่มีอำนาจให้ ครม.ต้องปฏิบัติตาม ไม่อยากให้เกิดความขัดแย้งในกรณีดังกล่าว กรณีสัมปทานปิโตรเลียม ครั้งที่ 21 มติของ สปช.เสนอต่อรัฐบาล คือข้อเสนอแนะ ไม่ใช่บังคับให้รัฐบาลต้องทำตาม
@ 'เทียนฉาย'ตั้งวิปประสาน
นายวันชัย สอนศิริ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) แถลงผลการประชุมวิป สปช.ว่า นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช. เป็นประธานการประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานของประธาน สปช. ประกอบด้วยตัวแทน สปช. สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คณะรัฐมนตรี และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะประชุมร่วมกันเพื่อให้การทำงาน การประสาน รวมถึงการหารือใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อให้การทำงานของแม่น้ำ 5 สาย รวดเร็วมากขึ้น จะประชุมวันพุธในสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน จะประชุมครั้งแรกในวันที่ 11 กุมภาพันธ์นี้ที่รัฐสภา
ปปช.ถอด 269 ส.ส.กลางก.พ.
นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่า คณะทำงานในคดีถอดถอนอดีต ส.ส. 269 ราย จากกรณีแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มาของ ส.ว.ไม่ชอบ ได้รวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานครบถ้วนแล้ว จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มความผิด คาดว่าคณะทำงานจะสามารถสรุปคดีเข้าที่ประชุมกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาได้ภายในกลางเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากนั้นจึงจะส่งเรื่องให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติดำเนินการต่อไปทั้ง 3 กลุ่มความผิด ส่วนกรณีการดำเนินคดีอาญา กับ ส.ส.ที่เสียบบัตรแทนกันนั้น คาดว่าจะสรุปเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ในช่วงเดียวกัน เพื่อให้ ป.ป.ช.พิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป ทั้งนี้ในกรณีดังกล่าวจะมี ส.ส.ถูกดำเนินการทั้งในส่วนของการถอดถอนและดำเนินคดีอาญาด้วย
@ 'เต้น'โพสต์ชี้'สังคมอนุรักษนิยม'
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. เรียกประชุมแม่น้ำ 5 สายคาดว่าเพื่อกระชับความเข้าใจและตรวจการบ้านตามโรดแมป ได้ยินคนบน "เรือแป๊ะ" พูดกันว่ารัฐธรรมนูญร่างแรกผ่านไปแล้ว 50% เปรียบเป็นฟุตบอลพอหมดครึ่งแรกก็จะมีการวิเคราะห์เกมที่ผ่านมาและคาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้นในครึ่งหลัง ผมขอร่วมแสดงทรรศนะ ถ้าปลายทางของรัฐธรรมนูญนี้คือการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องบอกว่ามองเกมครึ่งแรกแล้วน่าเป็นห่วง เพราะยิ่งเดินอำนาจอธิปไตยของประชาชนก็ดูจะอ่อนแอลง สิ่งบ่งชี้บางประการ เช่น มีคน 7 คนมาเป็นกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ มีสมัชชาคุณธรรมคอยให้ข้อมูลชี้นำสังคมว่าใครบ้างมีหรือไม่มีคุณธรรม มี ส.ว.สรรหาเต็มสภาและทำท่าว่าอำนาจจะมหาศาล มีมาตรา 7 ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาดกรณีพิพาทเมื่อถึงทางตัน ฯลฯ จบแบบนี้ผมเห็นว่าเราจะเข้าสู่ 'สังคมอนุรักษนิยม' ภายใต้อำนาจ 'รัฐราชการ' ซึ่งจะสวนทางกับหลักการพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยที่อำนาจอธิปไตยของประชาชนต้องเป็นอำนาจสูงสุด ไม่ได้มีปัญหากับระบบราชการ แต่การมีข้าราชการจัดการเลือกตั้ง คุมแต่งตั้งโยกย้าย ชี้ขาดจริยธรรม กำกับนโยบายฝ่ายการเมืองตั้งแต่ช่วงหาเสียง ผมยังมองไม่ออกว่ารัฐบาลเลือกตั้งจะใช้อำนาจบริหารอย่างไร นี่คือความห่วงใยเผื่อแป๊ะในฐานะผู้จัดการทีมที่เชื่อกันว่าทุกคนต้องตามใจจะรับไว้พิจารณาแก้เกมในครึ่งหลัง แต่ถ้าแป๊ะและคณะเห็นว่ามาถูกทางจะเดินต่อไปเช่นนี้ ก็แล้วแต่แป๊ะ"
@ บุกจับหนุ่มแชร์แถลงการณ์เก๊
เมื่อเวลา 02.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองเพชรบูรณ์และเจ้าหน้าที่ทหารกองพลทหารม้าที่ 1 สนธิกำลังเข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 129 ถนนสามัคคีชัย ต.ในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ เนื่องจากมีพยานหลักฐานพาดพิงว่าสถานที่ดังกล่าวมีแชร์หรือแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอม ระหว่างการเข้าตรวจค้นพบนายกฤษณ์ หรือ เน็ท บุตรดีจีน อายุ 26 ปี กำลังนั่งใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดคอมพิวเตอร์ดังกล่าวพร้อมแท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ ฮาร์ดดิสก์ ซีดีเพลงปลุกระดมเกี่ยวกับเสื้อแดงและหนังสือยมทูตแห่งค่ายนาซี รวม 12 รายการ ก่อนควบคุมตัวไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ กทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวยังเข้าตรวจสอบเครือข่ายต้องสงสัยอีก 2 ราย หนึ่งในจำนวนนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล แต่ไม่พบหลักฐานแต่อย่างใด สำหรับนายกฤษณ์เป็นหนึ่งในแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเพชรบูรณ์ กลุ่มนี้มีนายสิทธิชัย ต๊ะอาจ เป็นประธานกลุ่ม
@ ชี้ไม่ใช่กลุ่มใหม่-เจอ 2 ข้อหาหนัก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวถึงการติดตามตัวผู้จัดทำและเผยแพร่แถลงการณ์สำนักพระราชวังปลอมว่า พบว่ามีการส่งมาก่อนเวลา 21.00 น. วันที่ 2 กุมภาพันธ์มาจากในประเทศไทย ต้นทางอยู่ต่างจังหวัด เจ้าหน้าที่ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายผู้ต้องหาหมิ่นสถาบัน ที่โดนจับกุมดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้ กลุ่มดังกล่าวไม่ใช่คนกลุ่มใหม่ แต่เป็นพวกที่มีแนวคิดต่อต้านสถาบันเบื้องสูงอยู่ คาดว่า ภายใน 1-2 วันนี้จะมีความชัดเจนมากขึ้น
ต่อมา พล.ต.ท.ประวุฒิ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ เป็นหนุ่มชาว จ.เพชรบูรณ์ มีอาชีพเป็นนักดนตรี เจ้าหน้าที่คุมตัวสอบสวนอยู่ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ เบื้องต้นเตรียมดำเนินคดี 2 ข้อหา ประกอบด้วย ข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดความ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
@ ผบ.ตร.สอบปากคำผู้ต้องหา
ต่อมา ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เจ้าหน้าที่ทหารจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ 4 นายได้ควบคุมตัวนายกฤษณ์ บุตรดีจีน อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 ถนนสามัคคีชัย ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ผู้ต้องหากระทำความผิดปลอมแปลงเอกสารแถลงการณ์สำนักพระราชวังสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันเบื้องสูง โดยจับกุมตามอำนาจกฎอัยการศึกได้ที่ บ้านพัก จ.เพชรบูรณ์ มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำ ที่ห้องกระจก ชั้น 2 อาคาร 1 ตร. โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รอง ผบ.ตร. ฝ่ายความมั่นคง และ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ศิริพงศ์ ติมุลา ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบก.ปอท.) ร่วมกันสอบปากคำเนื่องจากเป็นคดีที่มีความละเอียดอ่อน โดยใช้เวลาสอบปากคำผู้ต้องหาประมาณ 15 นาที ก่อนส่งตัวคืนให้เจ้าหน้าที่ทหารนำกลับไปควบคุมไว้ตามอำนาจกฎอัยการศึกไม่เกิน 7 วัน
@ อ้างรับข้อมูลมาจากเพื่อน
พล.ต.อ.สมยศกล่าวหลังสอบปากคำว่า ผู้ต้องหากระทำผิดด้วยการโพสต์ข้อความที่ไม่บังควรผ่านอินเตอร์เน็ต เจ้าหน้าที่ทหารจึงควบคุมตัวมาให้ตำรวจสอบถามรายละเอียด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน ผู้ต้องหารับว่าเกี่ยวข้องในการนำข้อความดังกล่าวมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กของตนอีกต่อหนึ่ง รับข้อมูลมาจากเพื่อน จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การว่าในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของตัวเองมีสมาชิกอยู่ประมาณ 4,000-5,000 คน มีเจตนาเพื่อให้สมาชิกรับทราบข้อความนั้น ตรงกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ว่ามีช่องทางอื่นอีกหรือไม่ แต่เท่าที่ให้การทราบว่าเป็นสมาชิกกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. และยังเคลื่อนไหวแสดงความเห็นภายในกลุ่มสมาชิกด้วยกันอยู่ตลอด โดยการสอบปากคำในครั้งนี้ถือเป็นขั้นตอนในการแจ้งข้อกล่าวหา
@ ตร.เร่งแกะรอยหาต้นตอ
ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะโฆษก ตร. กล่าวว่า ผู้ต้องหากระทำผิดข้อหาหมิ่นสถาบันตามกฎหมายอาญามาตรา 112 และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ นำข้อมูลอันเป็นเท็จมาเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ผ่านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ชื่อ "Ness oishii" พบว่าข้อความดังกล่าวถูกโพสต์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ เวลา 21.33 น. และนายกฤษณ์ ได้นำข้อความมาโพสต์ต่อในเวลาใกล้เคียงกับข้อความแรกอย่างมาก เชื่อว่านายกฤษณ์เป็นต้นตอ เป็นผู้โพสต์ข้อความเป็นคนที่ 2 หรือ 3 รองจากผู้สร้างเอกสารดังกล่าว ขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งแกะรอยบุคคลดังกล่าวเชื่อว่าขณะนี้ยังอยู่ในประเทศไทย และน่าเชื่อว่าทำในประเทศไทย พร้อม