WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

  วันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8798 ข่าวสดรายวัน


ป๋าปลื้มยึดอำนาจ หนุน'ลุงตู่'
ลั่นทหารออกมาแล้วถอยไม่ได้ วิษณุชี้กมธ.แค่โยนหินถามทาง กสทช.ถกเฟซบุ๊กบี้โพสต์หมิ่นฯ


ให้พร"ตู่" - พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ มอบของที่ระลึก ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ระหว่างนำคณะรัฐมนตรี เข้าขอพรเนื่อง ในวันขึ้นปีใหม่ ที่บ้าน สี่เสาเทเวศร์ เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.

      'ป๋า'ขอบคุณ'ลุงตู่'ยึดอำนาจปกครองทำชาติบ้านเมืองสงบ แสดงให้เห็นทหารพร้อมดูแลบ้านเมือง ชี้ออกมาแล้วถอยไม่ได้ ด้าน"บิ๊กตู่"ขอยึดป๋าเป็นแนวทางทำงาน วิษณุปัดวิจารณ์ร่างรธน. ให้รอตกผลึกก่อน ชี้กมธ.แค่โยนหินถามทาง ขอสังคมช่วยให้ความเห็น ชพน.เรียกร้องเงื่อนไขนายกฯ คนนอกต้องระบุให้ชัด สปช.ลั่นรื้อโครงสร้างตร.

'บิ๊กตู่'นำทีมอวยพรป๋าเปรม

       เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่บ้านพัก สี่เสาเทเวศร์ เวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และข้าราชการทุกสังกัดเข้าขอรับพรปีใหม่ จากพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ

     พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาส ปีใหม่ 2558 ตนและคณะรัฐมนตรีถือโอกาสอำนวยพรแก่ท่านและแสดงมุติตาจิตด้วยความเคารพยิ่ง และตระหนักดีว่า พล.อ.เปรมเป็นผู้มีคุณูปการต่อประเทศชาติ ซึ่งเกียรติประวัติอันดีงามและผลงานของท่านถือเป็นเป็นแบบอย่าง และเป็นแนวทางที่พวกตนจะยึดถือเป็นแนวทางในการบริหารงานราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีความรักสามัคคี เพื่อนำพาประเทศชาติให้มีความก้าวหน้าและมั่นคงอย่างยั่งยืน 

ป๋าขอบคุณนายกฯลุงตู่ยึดอำนาจ

      ด้านพล.อ.เปรม กล่าวอวยพรต่อนายกฯและครม.ว่า นายกฯลุงตู่ ตนพูดตามที่คนชอบเรียกนายกฯว่านายกฯลุงตู่ ดูเป็นกันเองดี ขอฝากขอบคุณไปยังผู้ที่ไม่ได้มา ถ้าพวกเราจำเหตุการณ์ในวันที่ 22 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ คงจะภูมิใจ และคนในชาติก็จะภูมิใจมากที่นายกฯลุงตู่เข้ายึดอำนาจการปกครองมาจากรัฐบาล ถือเป็นการกระทำให้ชาติบ้านเมืองสงบเรียบร้อย วันนั้นแสดงให้เห็นว่าทหารและกองทัพรวมทั้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และพล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร เมื่อถึงคราวที่จำเป็นเราก็ต้องออกไปทำและออกไปดูแลชาติบ้านเมือง พวกเราคงจะภูมิใจที่ได้กระทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นในวันที่ 22 พ.ค. ถือเป็นการกระทำที่ยิ่งใหญ่ เป็นการตอบแทนบุญคุณชาติบ้านเมือง แสดงความจงรักภักดีที่ยิ่งใหญ่มาก คิดว่าคนไทยส่วนใหญ่เขาจะเห็นด้วยและพอใจ ภูมิใจในการกระทำของนายกฯลุงตู่ 

      พล.อ.เปรม กล่าวว่า แม้ว่านายยงยุทธ ยุทธวงศ์ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล นายวิษณุ เครืองาม ไม่ได้เป็นทหารแต่ก็เป็นพวกเดียวกัน พระสยามเทวาธิราชคงจะมองเห็นว่านายกฯ ลุงตู่ได้ช่วยชาติ นำความสงบมาให้แก่คนไทยทั้งปวง เราได้กระทำไปแล้วและเราก็จะทำต่อไป บอกให้พวกเราทราบว่าโอกาสนี้เป็นโอกาสสำคัญ เป็นโอกาสที่พวกเราจะแสดงให้เห็นว่าเมื่อถึงคราวที่ชาติมีความคับขัน ไม่ปรองดองกัน พวกเราจะเข้ามาช่วยดูแล นั่นคือหน้าที่ของเราที่เข้ามาดูแลชาติบ้านเมือง ตามที่เราได้ปฏิญาณตนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่าเราจะทำอะไรให้แก่ชาติบ้านเมืองบ้าง

ชี้ออกมาแล้วถอยไม่ได้

     พล.อ.เปรม กล่าวว่า อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะกล่าวกับนายกฯลุงตู่ว่า โอกาสนี้เป็นโอกาสที่เสี่ยงที่สุดและสำคัญที่สุด ที่พวกเราแสดงให้เห็นว่าเมื่อใดบ้านเมืองเกิดวิกฤตเมื่อนั้นทหารจะเข้าไปดูแลชาติบ้านเมือง และเราจะดูแลให้ดีที่สุดเท่าที่จะดีได้ เพื่อความสงบของชาติบ้านเมือง ตอนนี้นายกฯลุงตู่ ที่เป็นทั้งรัฐบาลและคสช.กำลังทำอยู่ ตนอยากให้คนไทยมองเรื่องนี้ว่า เป็นหน้าที่ของเราและให้ความร่วมมือกับนายกฯ 

       "ผมได้พูดกับนายกฯลุงตู่เป็นการส่วนตัวว่า เราออกมาแล้วคงจะถอยไม่ได้ จะต้องเดินหน้าไปอย่างองอาจและกล้าหาญ เดินหน้าไปอย่างสุภาพบุรุษ และเดินไปข้างหน้าอย่างที่เป็นคนไทยโดยสายเลือด และต้องเดินหน้าไปเพื่อลูกหลานของเรา" พล.อ.เปรมกล่าว 

อวยพรให้ประสบความสำเร็จ

      พล.อ.เปรม กล่าวอีกว่า ในวาระปีใหม่ขออวยพรให้นายกฯลุงตู่และคณะรัฐบาลประสบความสำเร็จในสิ่งที่ต้องการจะทำ เพื่อตอบแทนบุญคุณของชาติ และถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และขอให้สิ่งต่างๆที่พวกเราเสียสละ แม้แต่ชีวิตเพื่อชาติบ้านเมือง ขอให้ทำสำเร็จ มีความปลอดภัย และได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ดังนั้น ขอให้กำลังใจและหวังว่า ทุกคนคงพร้อมเพรียงกันเพื่อทำงานให้ชาตินี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขอให้ความมุ่งมั่นต่างๆ จงสำเร็จแก่คณะรัฐบาล และคสช. พร้อมกันนี้ขอให้บารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้คุ้มครองพวกเรา ให้มีแต่ความสุขความเจริญ มีความก้าวหน้าจนประสบความสำเร็จ ต่อความเสียสละเพื่อชาติบ้านเมืองในครั้งนี้ด้วย

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการเข้าอวยพรครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์นำแจกันและกระเช้าดอกไม้มอบให้พล.อ.เปรม โดยที่พล.อ.เปรมได้มอบหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดรุ่นบ้านเกิด 2557 เป็นของที่ระลึกให้คณะที่เข้าร่วมอวยพรด้วย

ขอกล้วยไม้ประดับทำเนียบ

       ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะผบ.ทบ. นำคณะ พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผบ.ทร. พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ พล.อ.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.สส. พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ปลัดฯ กลาโหม พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. และรองผบ.ตร. เข้าเยี่ยมคารวะนายกฯ อวยพรและขอพรเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2558 โดยก่อนหน้านี้ เวลา 13.45 น. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานป.ป.ช. พล.ต.อ.สถาพร หลาวทอง กรรมการป.ป.ช. เข้าอวยพรปีใหม่พล.อ. ประยุทธ์ที่ทำเนียบเช่นกัน 

       วันเดียวกัน ที่ตึกบัญชาการ 1 คนงานสวนกล้วยไม้จาก จ.นครปฐม กว่า 10 คน นำดอกกล้วยไม้หลากหลายสีและหลากหลายสายพันธุ์มาตกแต่งถนนด้านหน้าและสองข้างบันไดทางขึ้นตึกอย่างสวยงาม โดยมี ม.ล. ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มาตรวจดูความเรียบร้อย พร้อมเผยว่า เป็นช่วงเทศกาลปีใหม่อยากสร้างบรรยากาศวันประชุม ครม.วันที่ 30 ธ.ค. และตนเคยเป็นผู้ว่าฯ นครปฐม จึงขอความอนุเคราะห์เจ้าของสวนนำกล้วยไม้มาตกแต่งโดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์มีแนวคิดอยากให้กล้วยไม้ไทยเป็นที่รู้จักในหมู่คนไทยและชาวต่างประเทศ 

พม.แจงเด้งผอ.กองตีปี๊บ

      นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงปัญหาการใช้งบประชาสัมพันธ์โครงการ 20 ของขวัญ พม.มอบสู่ประชาชน จำนวน 50 ล้านบาท ว่า ยืนยันว่างบดังกล่าวไม่ได้ใช้เพื่อการประชาสัมพันธ์เพียงอย่างเดียว มีเนื้องานในส่วนของการดำเนินการขับเคลื่อนในกลุ่มเป้าหมาย ที่กระทรวงเป็นผู้รับผิดชอบด้วย แต่เวลาดำเนินโครงการที่เร่งรัดอาจทำให้เกิดข้อบกพร่องในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ โดยนายสุภวัฒน์ หนูพริก ผอ.กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ไม่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบพัสดุ และจัดประกาศราคาโครงการ 50 ล้านบาท โดยยังไม่ได้รับอนุมัติให้ดำเนินตามกระบวนการพัสดุ ฉะนั้นจึงถือว่ากระบวนการทั้งหมดยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ และถือว่ายังไม่ได้รับอนุมัติหรือเห็นชอบจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น 

    นายวิเชียร กล่าวว่า เพื่อแสดงว่า พม.พร้อมให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง วันนี้จะย้ายนาย สุภวัฒน์ ไปช่วยราชการที่สำนักตรวจและประเมินผล ให้หัวหน้ากลุ่มชำนาญการพิเศษรักษาการแทน และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีรองปลัดฯ เป็นประธาน ส่วนตัวโครงการวันนี้มีการพิจารณาสั่งยกเลิก เพื่อทบทวนเนื้อหาและปรับปรุงใหม่ให้สอดคล้องกับเป้าหมาย 

มท.เตรียมรับอปท.รายงานตัว

       นายวัลลภ พริ้งพงษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กล่าวกรณี พล.อ. ประยุทธ์ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เรื่อง "การได้มาซึ่งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นการชั่วคราว ว่า ประกาศดังกล่าวน่าจะทำให้สถานการณ์ในองค์การปกครองท้องถิ่นดีขึ้น เพราะได้ผู้บริหารและสภาที่มาจากประชาชนโดยแท้จริง ทำให้ไปสอดคล้องกับการบริหารในระบอบประชาธิป ไตย 

      นายวัลลภ กล่าวอีกว่า ในส่วนขององค์กรปกครองท้องถิ่นทั่วประเทศก็พอใจประกาศ คำสั่งดังกล่าว ทั้งนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย สั่งการให้ทุกจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เพื่อรองรับการเข้ารายงานตัวของสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นที่ครบวาระก่อนวันที่ 1 ม.ค.58 ในช่วงวันที่ 1-11 ม.ค.58 นี้อีกด้วย

วิษณุชี้กมธ.แค่โยนหินถามทาง

       ที่หอประชุมกองทัพบก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นนายกฯ จากคนนอก ว่า เป็นเพียง ข้อเสนอเท่านั้น ไม่อยากจะพูดอะไรขอให้ได้ข้อยุติก่อนดีกว่า มีข้อเสนอเป็น 20-30 เรื่อง ถ้าจะคอมเมนต์กันรายประเด็นรายวันคงไม่ได้ หากพูดไปก็จะกลายเป็นท่าทีรัฐบาลไป คงไม่เหมาะ ให้เขาดำเนินการให้ตกผลึกกันก่อน ยังเร็วไปที่จะพูด ได้พูดคุยกับกมธ.บางคนเขาก็บอกว่ามีการค้านกันอยู่ ตนคิดว่าเขายังโยนหินถามทาง ก็อย่าไปรับก้อนหินเลย วันนี้เขาก็โยนไป คนอื่นก็ตอบกลับมา เขาก็เอากลับไปคิดนะ มัวแต่ไปแหย่กันโต้กันไปตอบกันมาเดี๋ยวก็จะขัดแย้งกันเปล่าๆ

     นายวิษณุ ยังกล่าวถึงการเสนอรูปแบบวุฒิสภาของกมธ. ว่า ยังจับประเด็นไม่ได้ว่าสุดท้ายกมธ. จะเอาตามที่เสนอออกมาในขณะนี้หรือไม่ แต่คิดว่ายังไม่ตกผลึก อยากให้สังคมวิจารณ์เรื่องนี้ให้มากๆ เชื่อว่าทุกคนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม แต่เราอาจมีความรู้สึกคนละแบบ และมองว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ได้เป็นความแตกแยก เพราะเป็นการทำโดยกมธ. ซึ่งกมธ.มีหน้าที่ร่างรัฐธรรมนูญ เราคงพอใจที่จะฟังเขาเสนอและพอใจที่จะตอกมากกว่าให้เขาปิดประชุมตีหมี 

ชพน.ชี้เงื่อนไขคนนอกต้องชัด

      นายชลิตรัตน์ จันทรุเบกษา โฆษกพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงท่าทีของพรรคต่อประเด็นที่มานายกฯ ในร่างรัฐธรรมนูญขณะนี้ว่า โดยเจตนารมณ์การเลือกตั้งในระบอบประชาธิป ไตยควรที่จะกำหนดให้ตำแหน่งนายกฯยึดโยงกับประชาชน และมาจากการเลือกตั้งส.ส. เพราะจะมีความชอบธรรมและการยอมรับ รวมทั้งเข้าใจปัญหาพื้นฐานของประชาชน แต่กรณีบ้านเมืองไม่ได้อยู่ในภาวะปกติและมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดช่องทางให้คนนอกที่ไม่ได้อยู่ในระบบเลือกตั้งเข้ามารับตำแหน่ง นายกฯ เพื่อคลี่คลายวิกฤตการณ์ พรรคชาติพัฒนาเห็นว่าเป็นเรื่องที่สมควรพิจารณา 

    "แต่ต้องกำหนดเงื่อนไขสถานการณ์วิกฤตการณ์ ระยะเวลาปฏิบัติหน้าที่ และอำนาจให้ชัดเจน รวมทั้งกระบวนการการเข้าสู่อำนาจจะต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาด้วยเสียงสนับสนุนที่มากเพียงพอ" โฆษกพรรคชาติพัฒนากล่าว

สปช.แถลงแนวทางทำงานปี"58

      ที่รัฐสภา ทีมโฆษกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ประกอบด้วย นายอลงกรณ์ พลบุตร นายวันชัย สอนศิริ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล สมาชิก สปช.ร่วมแถลงภารกิจของ สปช.ในปี 2558 โดยนายอลงกรณ์กล่าวว่า สปช.กำหนดภารกิจสำคัญ 2 เรื่อง คือ 1.ภารกิจด้านการจัดทำและเห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับถาวร ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับปฏิรูปประเทศ 2. ภารกิจด้านการปฏิรูปประเทศ โดยปีหน้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะสำคัญ เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและระบบและการขับเคลื่อนบริหารจัดการประเทศตามแนวทางการปฏิรูปใน 4 ด้าน คือ ภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและภาคการเมือง 

     นายอลงกรณ์ กล่าวว่า โดยช่วงเดือนแรกภายใต้นโยบายของนายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธาน สปช.กำหนดให้ สปช.จัดทำวิสัยทัศน์และออกแบบอนาคตประเทศไทยให้เสร็จภายในเดือนม.ค.2558 เพื่อเป็นกรอบพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศ เป็นกรอบวิสัยทัศน์ของ กมธ.ทั้ง 18 คณะ เพื่อนำมารวมกันเป็นพิมพ์เขียวปฏิรูปประเทศไทยให้แล้วเสร็จภายในปีหน้า

ยันรื้อโครงสร้างตำรวจ

      นายวันชัย กล่าวว่า ขอเน้นย้ำว่าการปฏิรูปและการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในภาครัฐตั้ง แต่ปีหน้าเป็นต้นไปกระทั่งมีรัฐธรรมนูญ ประชาชนจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและเห็นการปฏิรูปที่สำคัญ คือการกระจายอำนาจรัฐ การเช็กบิล การตรวจสอบ การบริหารราชการแผ่นดินที่โปร่งใส รวมทั้งการงบประมาณ และจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญของตำรวจ หรือการปฏิรูปโครงสร้างตำรวจ ไม่เกิน 3 เดือนจากนี้จะเห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของตำรวจ รวมทั้งกระบวนการด้านการยุติธรรม ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่และสำคัญ 

     ด้านนายกอบศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับการปฏิรูปภาคเอกชนมี 4 เรื่อง คือ 1.การปฏิรูปเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ ที่ผ่านมายุทธ ศาสตร์การพัฒนาประเทศยังไม่ชัดเจน ดังนั้นจะขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของประเทศให้ชัดเจนเพื่อประโยชน์ของภาคเอกชน 2.การยกระดับของภาคเอกชนไปสู่ภาคการผลิต ทั้งภาคการเกษตร การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การพาณิชย์บริการและโครง สร้างพื้นฐาน 3.การแข่งขันในภาคเศรษฐกิจ ที่ต้องเข้มงวดและยึดโยงกฎหมายให้มากขึ้นโดยเฉพาะกฎหมายการแข่งขัน และ 4.บทบาทของเอกชนที่จะช่วยพัฒนาประเทศ ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของประเทศ

"บิ๊กต๊อก"ถกต้านทุจริต

     ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการอำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ นัดแรก มีเรื่องพิจารณาที่สำคัญคือข้อเสนอเชิงนโยบายในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริต และการติดตามคดีสำคัญเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ประชาชนสนใจ 15 คดี อาทิ คดีจำนำข้าวของรัฐบาลน.ส. ยิ่งลักษณ์ คดีทุจริตในโครงการไทยเข้มแข็ง และคดีทุจริตก่อสร้างโรงพักทดแทน ส่วนคดีทุจริตค่าโฆษณาระหว่างบริษัทไร่ส้มกับ บมจ.อสมท โดยผู้แทนสำนักงานอัยการสูงสุดชี้แจงว่า จะยื่นฟ้องคดีภายในม.ค.-ก.พ.2558 

     พล.อ.ไพบูลย์ ยังสั่งการให้ ศอตช.เผยแพร่ความคืบหน้าคดีสำคัญผ่านเว็บไซต์ เพื่อให้เห็นความคืบหน้าในการปราบปรามการทุจริต 

ปปท.จ่อสอบ"กรมพละ"

      นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. กล่าวว่า ส่วนคดีสนามฟุตซอลที่เหลืออีก 17 จังหวัด 373 โรงเรียน เกี่ยวข้องกับครู 3,721 คน ป.ป.ท.จะส่งสำนวนให้ป.ป.ช.ภายในสัปดาห์หน้า และจะเสนอให้ ครม.พิจารณาแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อปิดช่องไม่ให้นักการเมืองใช้การขอแปรญัตติงบฯหรือการขอใช้งบเร่งด่วน รวมถึงจะขอให้ผู้แปรญัตติมีส่วนรับผิดชอบกรณีมีการนำงบไปใช้ไม่ถูกต้อง 

     เลขาธิการ ป.ป.ท.กล่าวว่า ป.ป.ท.ยังได้ตรวจสอบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายและนันทนาการของกรมพละศึกษา พบการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกายแพงกว่าความเป็นจริงและซ้ำซ้อน จากการสุ่มตรวจในพื้นที่ จ.นคร ปฐม อุบลราชธานี และนนทบุรี พบการจัดซื้อเครื่องเล่นเด็กชุดป้อมปืนใหญ่สไลเดอร์ ราคาตามสัญญาชุดละ 980,000 บาท ติดตั้งอยู่ที่โรงเรียนบางเลน แต่เมื่อตรวจสอบเปรียบเทียบกับโรงเรียนวัดบึงลาดสวาย และโรงเรียนบ้านไผ่คอกวัว ใน อ.บางเลน จัดซื้อมาเพียงราคาชุดละ 85,000 บาท ซึ่งจะเร่งขยายผลตรวจสอบให้ครอบคลุมและนำข้อเท็จจริงมารายงานต่อที่ประชุม ศอตช.ในเดือนม.ค.58 ต่อไป

"วิชา"ลั่นสอบพยานเสร็จแล้ว

     นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. กล่าวถึงความคืบหน้าการประชุมคณะทำงานร่วม ระหว่างป.ป.ช.กับอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อพิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ในคดีรับจำนำข้าว ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่า กรณีที่ระบุว่า อสส.ขอให้ป.ป.ช.สอบพยานเพิ่มเติม 2 ปากนั้น ความจริงแล้ว อสส.ขอให้ป.ป.ช. สอบพยานเพิ่มเติมเพียง 1 ปาก คือนายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการทีดีอาร์ไอ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.นายนิพนธ์ได้มาให้การต่อป.ป.ช.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตนจะนำข้อมูลที่ได้รับจากนายนิพนธ์ไปใช้เป็นข้อมูลแถลงเปิดคดีถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์ในโครงการรับจำนำข้าว ต่อที่ประชุม สนช.ในวันที่ 9 ม.ค.2558 ด้วย หลังจากที่ป.ป.ช.ได้สอบปากคำนายนิพนธ์แล้ว เชื่อว่า อสส.ไม่ควรมีปัญหาเรื่องการส่งฟ้องคดีดังกล่าว 

     นายวิชา กล่าวอีกว่า ส่วนคดีระบายข้าวแบบจีทูจีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และพวกนั้น คณะอนุกรรมการไต่สวนสอบข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว จะส่งเรื่องให้ที่ประชุมป.ป.ช.ลงมติได้ในช่วงต้นปีหน้า โดยจะเร่งชี้มูลความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ 6 คน และเอกชน 15 คนให้ได้ก่อน นอกจากนี้ที่ประชุมป.ป.ช.ยังมีความเห็นให้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังให้เรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว 5-6 แสนล้านบาทกับ ผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้โครงการเสียหาย โดยให้รอดูผลสอบในสำนวนโครงการจำนำข้าวของน.ส.ยิ่งลักษณ์ และคดีการทุจริตซื้อขายข้าว จีทูจีของนายบุญทรง ที่ป.ป.ช.จะส่งไปให้ เพื่อประกอบการพิจารณาว่าจะเรียกค่าเสียหายในโครงการจากใครบ้าง 

เผยร้องทุกข์ต่อคสช.แสนเรื่อง

     วันที่ 29 ธ.ค. ที่ศูนย์บริการประชาชน ฝั่งสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.) ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงสรุปยอดรวมเรื่องราวร้องทุกข์ของประชาชน ตามแนวทางของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และรัฐบาลที่ต้องการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2557- 26 ธ.ค.2557 มีเรื่องร้องเรียน 111,399 เรื่อง โดยแก้ไขปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำเร็จแล้ว ร้อยละ 90.20 อยู่ระหว่างดำเนินการ ร้อยละ 9.08 ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของกลุ่มมวลชนที่ต้องใช้เวลาในการแก้ปัญหา อาทิ ที่ดินทำกิน บุกรุกที่ป่าสงวน ปัญหาหนี้สินทั้งในและนอกระบบ การจัดระเบียบสังคม และการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ 

    ม.ล.ปนัดดา กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ร้องเรียนจำนวนมากคือการรำคาญสถานท่องเที่ยวยามวิกาลที่เปิดเกินเวลาและอยู่ใกล้สถาบันการศึกษา ปัญหาหนี้สินนอกระบบ ยาเสพติด บ่อนการพนัน ระบบไฟฟ้า ผลกระทบจากนโยบายและโครงสร้างของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐทุจริต บริการขนส่งทางบกและบริการสาธารณะ

     ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีการปรับปรุงการทำงานโดยให้เจ้าหน้าที่ทุกกระทรวง มาประจำที่ศูนย์ในลักษณะบูรณาการการทำงานร่วมกันแบบเบ็ดเสร็จในจุดบริการเดียว ทำให้การทำงานรวดเร็วขึ้น รัฐบาลพอใจการทำงานของศูนย์ และได้รายงานผลการทำงานต่อ นายกฯแล้ว อย่างไรก็ตามปีหน้า จะเพิ่มช่องทางรับเรื่องผ่านแอพพิเคชั่น รวมทั้งประสานไปยังกลุ่มสถานทูตไทยในอาเซียน เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคม รวมทั้งจะมอบรางวัลให้กับ ผู้ปฏิบัติงานให้เป็นขวัญกำลังใจ และได้รับความร่วมมือจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะตั้งศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ในส่วนภูมิภาค

กสทช.ถกลุยปิดเว็บหมิ่นสถาบัน

     เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. เผยหลังประชุมร่วมกันระหว่างสำนักงาน กสทช. ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการอินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) ผู้แทนเฟซบุ๊ก ประเทศไทย และพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผบช.สันติบาล เพื่อหาแนวทางป้องกันรวมถึงดำเนินการกับผู้โพสต์ข้อความหรือเนื้อหา ที่เป็นการหมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่า กสทช.พยายามดำเนินการเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมาได้มีการกระทำเกิดขึ้นอย่างเพิ่มขึ้น จึงต้องมีการหารือร่วมกันในครั้งนี้ ซึ่งทางเฟซบุ๊กแจ้งมาว่ายินดีทำงานร่วมกับกสทช. โดยหลังปีใหม่จะเชิญมาหารือเป็นทางการอีกครั้ง

     เลขาฯ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช.สั่งการให้ไอเอสพีทุกรายตรวจสอบและปิดหน้าเพจที่มีเนื้อหาเป็นภัยต่อความมั่นคง หรือมีเนื้อหาที่หมิ่นสถาบัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ทันที โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากสำนักงาน กสทช. ในกรณีที่มีข้อสงสัยในเนื้อหาว่าเข้าข่ายที่ต้องปิดหรือไม่ ให้ติดต่อยังผู้ประสานงาน 5 คนที่เป็นคณะทำงานพิเศษของสำนักงาน กสทช. จากนั้นคณะทำงานพิเศษของกสทช.จะส่งต่อเข้าไปยังโปรแกรมของคสช. และจะดำเนินการปิดหน้าเพจนั้นทันทีภายใน 30 วินาที 

      นายฐากร กล่าวว่า การดำเนินการเรื่องนี้ กสทช. ดำเนินการในภาพใหญ่ทั้งหมดในการใช้งานอินเตอร์เน็ตและโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ไม่ได้เจาะจงเฉพาะเฟซบุ๊ก โดยจะทำหนังสืออย่างเป็นทางการถึง โชเชี่ยลเน็ตเวิร์ก ทั้งเฟซบุ๊ก ไลน์ และยูทูบ ในต่างประเทศ เพื่อขอความร่วมมือและทำงานคู่ขนานในการป้องกันโดยไม่ต้องใช้คำสั่งของศาล ในส่วนของการดำเนินคดีหลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจสันติบาลที่จะดำเนินการร่วมกันหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเด็ดขาดต่อไป

      "กสทช. ตระหนักว่าอาจมีประชาชนบางส่วนที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ โพสต์ข้อความหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นเนื้อหาที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคง หรือหมิ่นสถาบัน จะขอให้ประชาชนระมัดระวังตรวจสอบเนื้อหาข้อความก่อนโพสต์หรือแชร์เนื้อหาข้อความใดๆ และหากพบเห็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาที่ผิดกฎหมายเป็นภัยต่อความมั่นคง ขอให้แจ้งมายังกสทช. ที่อีเมล์ [email protected] ทันที" นายฐากรกล่าว

     พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า สันติบาลพร้อมในการหาตัวผู้กระทำความผิด และพร้อมดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา 112 โดยเด็ดขาดทันที ที่ผ่านมาได้ดำเนินการจับกุมไปแล้วสำหรับ ผู้กระทำผิดที่อยู่ในประเทศ แต่หากอยู่ต่างประเทศจะเฝ้าระวัง ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 20 ราย

โวยมหาดไทยเอาผิดพยาน"ปปช."

      เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. นายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการ ป.ป.ช. เผยว่า กรณี ป.ป.ช.มีมติให้กันผู้ถูกกล่าวหาคดีทุจริตการสอบคัดเลือกข้าราชการเพื่อเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรนายอำเภอ ปีงบประมาณ 2552 จำนวน 20 คน ไว้เป็นพยานโดยไม่ดำเนินคดีอาญาและวินัยแก่บุคคลดังกล่าว แต่บุคคล ดังกล่าวอาจถูกกรมการปกครองดำเนินการทางวินัยนั้น กระทรวงมหาดไทยมีหนังสือหารือมาที่ ป.ป.ช. ซึ่งป.ป.ช.ก็เห็นว่าหากดำเนินการทางวินัยกับผู้ถูกกล่าวหาที่ป.ป.ช.กันไว้เป็นพยานแล้ว จะทำให้มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตตามกฎหมายของ ป.ป.ช. เสื่อมประสิทธิภาพ และแสดงให้เห็นว่าไม่ได้รับความร่วมมือจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานได้มีหนังสือตอบไปยังกระทรวงมหาดไทยแล้ว 

     นายวิชัย กล่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.จะใช้มาตรการทุกอย่างเพื่อคุ้มครองข้าราชการที่ให้เบาะแสหรือข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตแก่คณะกรรมการ ป.ป.ช.และขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.ได้เข้าพบและหารือเรื่องดังกล่าวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯแล้ว 

      นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นถือว่า พ.ร.บ. ป.ป.ช.ฉบับแก้ไข ปี 2554 มีปัญหา คือหน่วยงานรัฐไม่ให้ความร่วมมือกับเรา ผู้ถูกกล่าวหาที่ ป.ป.ช.กันไว้เป็นพยานถูกเพิกถอนสิทธิในการสมัครสอบนายอำเภอที่เปิดสอบเมื่อเร็วๆ นี้ เพราะถือว่ามีส่วนในการกระทำความผิดด้วย เรื่องนี้เราปล่อยไว้ไม่ได้เพราะทำให้คนดีท้อถอย ป.ป.ช.จึงมีมติให้ทำหนังสือชี้แจงไปยังนายกฯ ให้นายกฯสั่งการไปยังกระทรวงมหาดไทยเพื่อหามาตรการคุ้มครองพยานทั้ง 20 คน

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!