- Details
- Category: การเมือง
- Published: Monday, 02 June 2014 11:30
- Hits: 4794
วันที่ 02 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8587 ข่าวสดรายวัน
โพสต์-หลังเก็บตัว ปูเปิดใจ คสช.จัดหนัก-ม็อบหด กลุ่มย่อยโผล่-ชู 3 นิ้ว กรุงป่วนสั่งปิดห้างดัง เรียกรายงานตัวอีก 38 อ.สุธาชัย-จิตรา คชเดช'ปลัดบัวแก้ว'โต้มะกัน
ปูขอบคุณ - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ โพสต์รูปในเฟซบุ๊กคู่น้องไปป์ บุตรชาย พร้อมข้อความขอบคุณประชาชนทุกคนที่เป็นกำลังใจ เป็นการสื่อสารต่อสาธารณะครั้งแรกหลังเหตุการณ์รัฐประหาร เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. |
ชูสามนิ้ว - กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งรวมตัวหน้าห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 แยกอโศกฯ กทม. พร้อมชู 3 นิ้วและปิดปาก เป็นสัญลักษณ์คัดค้านการรัฐประหาร ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลังเข้ม เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. |
คสช.ยันไม่ปิดสื่อสาร"ไลน์"
วันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานจากหอประชุมกองทัพบก เทเวศร์ สถานที่เข้ารายงานตัวของบุคคลที่มีรายชื่อตามคำสั่งเรียกของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า วันที่ 1 มิ.ย. คสช.ไม่ได้ออกประกาศเรียกให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม บรรยากาศยังคงเป็นไปด้วยความเรียบร้อย การจราจรโดยรอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์สัญจรได้ตามปกติ แต่มาตรการรักษาความปลอดภัยยังคงเป็นไปอย่างเข้มงวด เจ้าหน้าที่ทหารตรวจตรารถที่จะผ่านเข้า-ออก บริเวณด้านหน้าและบริเวณโดยรอบเข้มงวด และไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปยังพื้นที่ภายในหอประชุมด้วย
พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษก คสช.ชี้แจงต่อสื่อมวลชน ยืนยันว่า คสช.ไม่มีนโยบาย ขัดขวางหรือตรวจสอบระบบการสื่อสารทางโปรแกรมไลน์ ที่ผ่านมาได้รับทราบข้อมูลจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ว่า จะพยายามเฝ้าดูกรณีมี ผู้ไม่หวังดีใช้การสื่อสารทางสังคมออนไลน์ปลุกระดม ชักชวนให้ฝ่าฝืนประกาศ คสช.และกระทำผิดกฎหมาย ถ้าจำเป็นจริงสิ่งที่ทำได้คืออาจเข้าไปตรวจสอบเฉพาะเป็นรายบุคคลที่มีหลักฐานแน่ชัดเท่านั้น ซึ่งจะไม่มีผลกระทบใดๆ กับผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ทั่วไปอย่างแน่นอน ขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลและสบายใจได้ ทาง คสช.ยังคงยึดหลักกฎหมายและเคารพหลักสิทธิมนุษยชน พึงระวังต่อการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลผู้อื่น การบังคับใช้กฎหมายเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อให้กระทบกับประชาชนน้อยที่สุด
วอนนานาชาติหนุนคสช.
พ.อ.วินธัย กล่าวถึงกรณี คสช.มีคำสั่งปรับย้ายเอกอัคราชทูตไทยประจำกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ มาปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศให้เหตุผลเพื่อความเหมาะสมและด้วยเป็นการปรับย้ายนอกกระทรวง จึงต้องมีคำสั่งจากทาง คสช.
รองโฆษก คสช.กล่าวถึงกรณีสื่อต่างประเทศรายงานว่า นายชัก ฮาเกล รมว.กลาโหมสหรัฐ แถลงต่อที่ประชุมความมั่นคงระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก "แชงกรี-ลา ฟอรั่ม" เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ปล่อยตัวบุคคลที่ถูกคุมขังด้วยจุดประสงค์ทางการเมือง ให้เร็วที่สุด พร้อมกับยุติมาตรการปิดกั้นสื่อและเร่งคืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนผ่านการเลือกตั้งว่า ต้องขอขอบคุณในความเป็นห่วง ด้วยสภาพความขัดแย้งที่มีมากว่า 9 ปี สร้างความเสียหายให้ประเทศอย่างมาก คสช.จึงมุ่งหวังที่จะรักษาความสงบเรียบร้อยสร้างความปรองดองให้คนในชาติ จึงต้องอาศัยมาตรการบางอย่างที่จำเป็นมาสนับสนุน ในทุกๆ มาตรการสามารถอธิบายได้ด้วยหลักเหตุผลความจำเป็น ที่ผ่านมาดำเนินการใดๆ ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะได้คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนมาโดยตลอด จึงอยากให้นานาประเทศได้เข้าใจและช่วยสนับสนุน คสช.ในการแก้ปัญหาให้กับประเทศด้วย
สอบปมพุทธอิสระออกช่อง 5
พ.อ.วินธัย กล่าวกรณีการเผยแพร่ภาพพุทธอิสระกำลังเทศนาออกทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 5 ผ่านทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ว่า ภาพที่ปรากฏนั้น คสช.และกองทัพบกขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ช่วงที่ผ่านมาทางททบ.5 ไม่ได้นำเสนอเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำให้ประชาชนเกิดความสับสน ทางคสช.และกองทัพบกได้สั่งให้ฝ่ายกฎหมายเข้ามาดูแลเรื่องนี้แล้วและตรวจสอบหาต้นตอของผู้ที่นำภาพมาเผยแพร่ เพื่อนำตัวมาดำเนินการเอาผิดทางกฎหมายต่อไป
พ.อ.วินธัย กล่าวว่า สำหรับการประชุม ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจนั้น ก็เพื่อทบทวนการปฏิบัติงานหารือปรับปรุงการทำงาน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศชาติและประชาชน ขณะนี้ยังไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไร ไม่ว่าจะเป็น ปตท. หรือองค์กรไหนก็ตาม
อ้อนมะกัน-ออสเตรเลียเข้าใจ
พ.อ.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีออสเตรเลียประกาศลดระดับความร่วมมือทางการทหารกับไทยว่า คสช.ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากกระทรวงการต่างประเทศแล้ว รวมถึงมีการห้ามผู้นำทางทหารของกองทัพไทยเข้าประเทศออสเตรเลียด้วย ซึ่งทางกองทัพของไทยเข้าใจและพยายามใช้ทุกช่องทางที่มีอธิบายกับทุกประเทศให้เข้าใจและพยายามหาทางผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ เราไม่ได้ตกใจแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ที่ผ่านมา ไทย สหรัฐ และออสเตรเลียมีความร่วมมือทางทหารค่อนข้างมาก แต่ต้องเข้าใจว่าการทหารของสองประเทศผูกพันกับรัฐสภาของเขา เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นทางรัฐสภาก็ต้องประชุมทบทวนความช่วยเหลือต่างๆ
พ.อ.วีรชน กล่าวว่า ความสัมพันธ์ทางทหารของไทยและสหรัฐมีมายาวนาน 185 ปี และไทยกับออสเตรเลียยาวนานกว่า 60 ปี กองทัพหวังว่าต่างประเทศจะเข้าใจและทบทวนมาตรการต่างๆ ต่อไป แม้ว่าความร่วมมืออื่นๆ จะลดลงตาม ส่วนประเทศในอาเซียนก็มีความเข้าใจและมีการออกแถลงการณ์แสดงความเป็นห่วง แต่กฎกติกาของอาเซียนนั้นจะไม่แทรกแซงกิจการภายในของประเทศใดประเทศหนึ่ง
'บิ๊กตู่'ติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด
พ.อ.วีรชน กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพล.อ. ประยุทธ์ ในฐานะหัวหน้า คสช. จะใช้ทำเนียบรัฐบาลในการทำงานว่า ขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่มีนโยบายใช้ทำเนียบเป็นสถานที่ทำงาน และยังคงใช้สถานที่ของกองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน เป็นศูนย์กลางในการทำงาน และเชิญผู้แทนของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาในบก.ทบ. ในส่วนของหน่วยงานที่ใช้สถานที่ทำเนียบทำงานก็ยังคงเป็นหน่วยงานเดิมที่อยู่ในทำเนียบ เช่น สำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น
ส่วนที่มีกลุ่มต่อต้านรัฐประหารออกมาเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่ของกทม.วันที่ 1 มิ.ย. พ.อ.วีรชนกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารมีแผนรับมือตามสถานการณ์ ส่วนแผนจะเป็นอย่างไรขอให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติในพื้นที่เป็นผู้ประเมินสถานการณ์ โดยใช้ขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่จะพยายามหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง
'ปู'เฟซขอบคุณที่ห่วงใย
เวลา 10.15 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊ก Yingluck Shinawatra พร้อมภาพถ่ายคู่กับ "น้องไปป์"ด.ช.ศุภเสกข์ อมรฉัตร เป็นภาพตอนออกจากบ้านพักหลังถูกเชิญไปรายงานตัวตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. โดยไปรับน้องไปป์ที่โรงเรียนเพื่อกลับบ้านพัก โดยกิจกรรมของน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ทำตามเงื่อนไขของ คสช.คืออยู่กับน้องไปป์ในบ้านพัก และทำกิจกรรมร่วมกันบ้าง เช่น รับประทานอาหาร หรือซื้อสินค้าบริเวณใกล้บ้านพัก
น.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์ข้อความระบุ สัปดาห์ที่ผ่านมานับเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเรา มีหลายคนแสดงความห่วงใยและถามไถ่ถึงสารทุกข์สุกดิบ ขอบคุณในความห่วงใยของพ่อแม่พี่น้องทุกคนที่ส่งผ่านมาทั้งผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ก และผ่านสื่ออื่นๆ อย่างต่อเนื่อง จึงขอใช้โอกาสนี้ขอบคุณอีกครั้งสำหรับทุกกำลังใจที่มีให้มาโดยตลอด และขอเป็นกำลังให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน
แฟนคลับร้องไห้สงสารปู
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.เชียงใหม่ว่า กรณีน.ส.ยิ่งลักษณ์โพสต์เฟซบุ๊กและมีประชาชนแห่กดไลก์ พ่อค้าแม่ค้าชาวเชียงใหม่ที่มาตั้งแผงขายของบนถนนคนเดินมีการบอกต่อๆ กันทั้งคนที่มารับประทานอาหาร ร้านกาแฟ ต่างพากันเปิดเฟซบุ๊กดูข้อความ รวมทั้งดูข่าวทีวี และวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองสงสารและเป็นกำลังใจให้กับน.ส.ยิ่งลักษณ์ บางคนอ่านข้อความแล้วก็น้ำตาไหล
ส่วนความคืบหน้าการยึดไม้ต้องสงสัยข้างบ้านนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ ภายในหมู่บ้าน กรีนวัลเล่ย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นั้น วันเดียวกันมีเจ้าหน้าที่ของดวงตราและผู้ทำบัญชีไม้จากจ.ตาก เดินทางมาตรวจสอบไม้อีกครั้ง ซึ่งหลักฐานต่างๆ เริ่มกระจ่างมากขึ้น โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากพบว่าไม้ดังกล่าวทำผิดและเป็นการสวมบางส่วนก็จะดำเนินคดีกับเจ้าของไม้และเจ้าของที่ดินด้วย เพราะถือว่ามีส่วนรู้เห็นร่วมกันกระทำความผิด
นินจาโผล่เชียงใหม่-ชูป้ายต้าน
ส่วนบรรยากาศการเคลื่อนไหวต่อต้าน รัฐประหารที่จ.เชียงใหม่ เวลา 09.30 น. บริเวณศาลากลางจังหวัด มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและ อส.จังหวัด ประมาณ 150 นาย แต่ยังไม่มีม็อบต้านมาอย่างที่มีกระแสข่าว ส่วนบริเวณรอบคูเมืองมีทหารตั้งเต็นท์ตามจุดต่างๆ เช่นเดียวกับบริเวณข่วงประตูท่าแพที่มีทหารเฝ้าคอยสังเกตการณ์ แต่ยังคงมีพ่อค้าแม่ค้าพากันมาตั้งแผงขายของต่อเนื่องไปยังถนนราชดำเนิน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นวันถนนคนเดินวันอาทิตย์ สวนที่ร้านแมคฯ ที่บริเวณขนส่งอาเขตและตามสาขาต่างๆ ในเชียงใหม่ ตามห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง และสถานที่สาธารณะ มีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจท้องที่ไปประจำจุดดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มต้านรัฐประหารใช้วิธีแฝงตัวไปชูป้ายกระดาษแบบนินจา คือ เคลื่อนที่เร็ว เลิกเร็ว ตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยที่ห้างสรรพสินค้าเมยา ถ.ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีกลุ่มนิสิตนักศึกษา 4-5 คนชูป้ายต่อต้านรัฐประหารและสลายตัวอย่างรวดเร็ว และยังแฝงตัวในจุดถนนคนเดิน เดินปะปนกับคนที่มาเที่ยวถนนคนเดินและชูป้ายข้อความไม่เอารัฐประหารก่อนสลายตัวปะปนกับนักท่องเที่ยว
ชูสามนิ้ว-ฉีดสเปรย์
นอกจากนี้ กลุ่มต่อต้านยังใช้วิธีชูสามนิ้ว มือปิดปาก เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะและการจับกุมซึ่งกำลังแพร่หลาย โดยจะเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงตามห้างหรือที่สาธารณะ บางครั้งก็พ่นสเปรย์ ล่าสุดบริเวณถนนเลียบคันคลองชลประทาน ด้านหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มีบุคคลนำสเปรย์สีขาวพ่นลงบนถนน เขียนเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษว่า NO COUP ภาษาไทยเขียนว่า "ปล้นประชาธิปไตย" เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตรวจสอบ และทำความสะอาดทันที
ลำปางเข้มศาลากลาง
จ.ลำปาง พล.ต.อุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผบ.มทบ.32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ในฐานะ ผบ.คสช.มทบ.ที่ 32 พร้อมคณะ ออกตรวจพื้นที่พร้อมมอบน้ำดื่มให้เจ้าหน้าที่ ที่ปฏิบัติงานตามจุดตรวจต่างๆ ซึ่งมีการตั้งจุดตรวจเข้มทั้งหมดรวม 5 จุด อาทิ ที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง ถ.วชิราวุธดำเนิน ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจ และ อส.กว่า 100 นาย ปิดทางเข้า-ออกศาลากลางจังหวัดให้เหลือเพียงประตูเดียว และยังไปที่จุดตรวจบริเวณทางเข้า-ออก กฟผ.แม่เมาะ ซึ่งถือว่าเป็นจุดสำคัญและเสี่ยงภัยอีกแห่งหนึ่ง รวมถึงจุดเข้า-ออกตัวเมืองลำปาง บรรยากาศทั่วไปของจ.ลำปางในวันนี้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ไม่มีกลุ่มต้านมารวมตัวทำกิจกรรม
ชูสามนิ้ว - กลุ่มผู้ชุมนุมจำนวนหนึ่งรวมตัวหน้าห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 แยกอโศกฯ กทม. พร้อมชู 3 นิ้วและปิดปาก เป็นสัญลักษณ์คัดค้านการรัฐประหาร ท่ามกลางเจ้าหน้าที่ทหารตรึงกำลังเข้ม เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.
น่านวางกำลังคลุม 15 อำเภอ
พล.ต.วิจักข์ สิริบรรสพ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกน่าน ในฐานะผู้บังคับการกองกำลังรักษาความสงบจังหวัดทหารบกน่าน และนายอุกริช พึ่งโสภา ผู้ว่าฯ น่าน พร้อม ผู้บังคับบัญชาหน่วยทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กระจายกำลังลงพื้นที่ตรวจด่าน 27 แห่ง ครอบคลุมทั้ง 15 อำเภอทั่วทั้งจังหวัดน่าน แต่ละด่านมีกำลังพลทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ที่รักษาความสงบเรียบร้อยของแต่ละพื้นที่ เพื่อเร่งสร้างความเข้าใจกับแกนนำและมวลชนที่อาจร่วมมาแสดงออกซึ่งการต่อต้านรัฐประหาร โดยเน้นย้ำว่าหากฝ่าฝืนคำสั่งคสช.ก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
พะเยาเฝ้าศูนย์ราชการ
จ.พะเยา มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร ตำรวจ ตชด. และ อส. รวมกำลังทั้งหมดกว่า 400 นาย เฝ้าระวังบริเวณทางเข้า-ออกทุกจุดของศูนย์ราชการ ป้องกันการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐประหาร พล.ต.ต.ภาณุ บุรณศิริ ผบก.ภ.จว.พะเยา กล่าวว่า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่นำกำลังตำรวจ 324 นาย รักษาความสงบและความปลอดภัยในบริเวณศูนย์ราชการจังหวัดพะเยา เนื่องจากรับการแจ้งว่าอาจจะมีกลุ่มออกมาเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐประหาร
นายนิมิต วันไชยธนวงศ์ รองผู้ว่าฯ พะเยา กล่าวว่าภาพรวมคิดว่าไม่มีปัญหา นับแต่ประกาศกฎอัยการศึกก็ยังไม่พบมีกลุ่มใดออกมาเคลื่อนไหว สำหรับกิจกรรมไทยแลนด์ โอเพ่นเดย์ ที่นัดหมายกันวันที่ 1 มิ.ย. ครั้งนี้ จังหวัดไม่ได้ประมาท ตรวจสอบข่าวตลอดเวลา พร้อมทั้งเชิญนายอำเภอทุกพื้นที่เข้าประชุมให้ชี้แจงไปถึงผู้นำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ทุกแห่ง ให้แจ้งประชาชนทุกกลุ่มได้ทราบถึงข้อห้ามและระเบียบกฎหมายในช่วงที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึกอย่างเคร่งครัด
รอง ผวจ.พะเยา กล่าวว่า จากที่ได้ข่าวมาหากมีการเคลื่อนไหวจะไม่ใช่การต่อต้านรัฐประหาร แต่เป็นการเคลื่อนไหวของกลุ่มเกษตรกรอาจเป็นกลุ่มผู้ปลูกข้าวโพด อ.ปง และ อ.ดอกคำใต้ ที่ยังไม่ได้รับเงินชดเชยจะออกมาเคลื่อนไหวเพื่อขอให้ทหารช่วยเหลือ เหมือนกรณีชาวนาที่ไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าว ได้ประสานงานไปยังนายอำเภอทั้งสองแห่งให้แจ้งเกษตรกรให้ส่งตัวแทนมาเพื่อยื่นหนังสือต่อผบ.จทบ.พะเยา ตามขั้นตอน ทางจังหวัดจะช่วยเหลือด้านการประสานงานให้ อย่ารวมตัวกันเคลื่อนไหวในขณะที่ยังมีข้อห้าม
แม่ฮ่องสอนตื่นทหาร
จ.แม่ฮ่องสอน เวลา 07.00 น. ทหารจากกองพันทหารราบที่ 7 กรมทหารราบที่ 7 (ร.7 พัน.5) 80 นาย พร้อมตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน ชุดควบคุมฝูงชน และกองร้อยอาสารักษาดินแดนที่ 1 รวมกว่า 150 นาย พร้อมอาวุธครบมือวางกำลังบริเวณศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนและทางแยกสำคัญๆ ในตัวเมือง ท่าอากาศยานแม่ฮ่องสอน อนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชา สร้างความแปลกใจให้ประชาชนที่เห็นกำลังทหารพร้อมอาวุธครบมือเคลื่อนไหวในตัวเมือง และมีการตรวจเข้มต่อยานพาหนะที่ผ่านไปมา โดยเฉพาะรถตู้
พ.อ.อำนาจ ศรีมาก ผบ.ฉก.ร.7 และหัวหน้าหน่วยรักษาความสงบจังหวัดแม่ฮ่องสอน สั่งสกัดกั้นการจัดกิจกรรมของ กลุ่มนปช.ที่ต่อต้าน คสช. โดยเน้นการวางกำลังพร้อมอาวุธไปที่พื้นที่เพ่งเล็ง นอกจากศาลากลางจังหวัด ยังมีพื้นที่ อ.เมือง อนุสาวรีย์พระยาสิงหนาทราชา บริเวณตลาดนัดวันอาทิตย์ หน้าศาลากลาง อ.ปาย หน้าอำเภอ หน้าตลาดแสงทอง อ.แม่สะเรียง หน้าอำเภอและหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ หลังมีการวางกำลังเข้มงวดไม่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่อต้าน
นปช.กาฬสินธุ์ช่วยทหาร
จ.เชียงราย พล.ต.พัฒนา มาตร์มงคล ผบ.จทบ.ชร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย พร้อมกำลังทหาร ตำรวจ ออกตรวจตราตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ได้จับกุมวัยรุ่นที่ฝ่าฝืนกฎอัยการศึกออกเคหสถานช่วงเวลา 00.01-04.00 น. ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นชายที่ออกมาเที่ยวดื่มสุรา 50 ราย ควบคุมตัวไปในค่ายเม็งรายมหาราชกักตัวไว้ 24 ช.ม.
จ.กาฬสินธุ์ พ.อ.กุศล สิงห์สาย รองผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 พ.อ.จุมพล จุมพลภักดี ผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 6 พล.ต.ต.มนธน ทิพย์จันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมอดีตแกนนำ นปช.หลายคน ที่ประกาศตัวเข้าร่วมพัฒนาจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมด้วยแม่บ้านตำรวจ เดินหน้าแจกแผ่นพับคู่มือปฏิบัติของ คสช.ตามคำสั่งของพล.ต.นิตินัย ภีมะโยธิน ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าที่ 3 หลังมีข่าวลือปลุกปั่นประชาชน ตามสี่แยกสำคัญในเขตเทศบาลและเดินเท้าอธิบายถึงแนวทางการทำงานของ คสช.
โคราชคุมเข้มสถานที่สำคัญ
จ.นครราชสีมา เวลา 08.00 น. พ.ต.อ.สนธยา แต่แดงเพชร ผกก.สภ.เมือง นครราชสีมา พร้อมตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบสนธิกำลังผลัดเปลี่ยนเวรยามเฝ้าระวัง รวมทั้งจัดชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็วออกตรวจสอบตามสถานที่เป้าหมายที่เป็นเชิงสัญลักษณ์ทางการเมือง ทั้งที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์โคราช สร้างความแตกตื่นให้ประชาชนที่พบเห็น
ช่วงสาย เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงที่รับผิดชอบภารกิจมวลชนสัมพันธ์ เดินทางไปบ้านพักของแกนนำคนเสื้อแดง และ กปปส.โคราช ที่ไม่มีรายชื่อให้ไปรายงานตัวแต่พบข้อมูลการเคลื่อนไหวเชิงใต้ดิน จึงไปพูดคุย สอบถามเหตุผล พร้อมร้องขอให้ยุติการเคลื่อนไหว และจะเชิญไปร่วมกิจกรรมปรองดองสมานฉันท์ ในเร็วๆ นี้
พล.ต.ต.พงษ์เดช พรหมมิจิตร ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา สั่งการทางวิทยุสื่อสารศูนย์ไชยณรงค์ สั่งตั้งจุดตรวจร่วม 24 ชั่วโมง ตามเส้นทางหลัก 6 จุด พร้อมเฝ้าดูแลรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ แหล่งสาธารณูปโภค
ตั้งเป้าอุดรฯโมเดล
ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ค่ายสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.อ.ชินกาจ รัตนจิตติ โฆษกกองทัพภาคที่ 2 เผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ประสานงานให้ ทุกจังหวัดในอีสานจัดกิจกรรมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ตามนโยบาย คสช.ในการเดินหน้าขับเคลื่อนศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูปประเทศ โดยจัดกำลังทหารหน่วยต่างๆ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายพลเรือน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นลงพื้นที่ทำความเข้าใจเพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติทางการเมือง เริ่มตั้งแต่ระดับครอบครัว หมู่บ้าน ชุมชน ตำบล อำเภอ ไปจนถึงระดับจังหวัด
โฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า กองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้เลือกปฏิบัติเฉพาะกลุ่มการเมืองใดแต่จะเน้นไปที่หมู่บ้านหรือชุมชนที่มีความแตกแยกทางการเมืองเป็นหลัก เพื่อสลายเสื้อทุกสีที่มีความแตกแยก ส่วนพื้นที่ จ.อุดรธานี ซึ่งมีความแตกแยกอย่างรุนแรงนั้น ถือว่าเป็นภารกิจที่เร่งด่วนที่ทางกองทัพภาคที่ 2 ต้องดำเนินการทำความเข้าใจให้เร็วที่สุดเพื่อให้เป็นอุดรธานีโมเดล ก่อนขยายไปสู่จังหวัดอื่นๆ ต่อไป
นครพนมตรึงศาลากลาง
จ.นครพนม ตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่มีทหาร จทบ.นครพนม ตำรวจ อส. ตชด. จำนวน 500 นาย นำแผงเหล็กและเชือกมากั้นปิดล้อมสถานที่ราชการ ตามถนนสายหลักที่จะมุ่งหน้าผ่านศาลากลางจังหวัด เช่น ถนนอภิบาลบัญชา ถนนราชทัณฑ์ และถนนสุนทรวิจิตร เลียบริมฝั่งแม่น้ำโขง และตรอกซอยที่จะทะลุผ่านถนนดังกล่าว เนื่องจากเป็นสถานที่เชิงสัญลักษณ์ที่ผู้ชุมนุมมักใช้แสดงออกความเห็นต่างทางการเมือง อีกทั้งยังเคยเป็นพื้นที่ชุมนุมของ นปช. และคนเสื้อแดง หลังมีข่าวว่าจะมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งมาชูป้ายต่อต้าน คสช. ทั้งนี้มีทหาร ตำรวจ อส. และ ตชด.ตรึงกำลังไว้แต่ละจุดกว่า 20 นาย ผู้ใช้ยานพาหนะต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางสายรองแทน
แดง-พท.อุบลฯไม่ขอเอี่ยว
จ.อุบลราชธานี มีการวางกำลังผสมทหารจากกรมทหารราบที่ 6 ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ ตำรวจ และ อส.ประมาณ 300 นาย บนถนนแจ้งสนิทฝั่งขาเข้าอำเภอเมืองอุบลราชธานี ที่ตั้งของศาลปกครองและศาลากลางจังหวัด 5 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้มวลชนออกมาต้าน คสช. และตั้งแต่เช้าจนถึงปัจจุบันหน่วยงานด้านความมั่นคงรายงานไม่พบความเคลื่อนไหวทั้งแบบเปิดเผยและใต้ดินแต่อย่างใด ขณะที่อดีตแกนนำเสื้อแดงและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ประกาศไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหวทางการเมืองในระยะนี้
ผู้การอ่างทองนำกำลังคุมเอง
เวลา 09.00 น. ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง พล.ต.ต.สมศักดิ์ โอภาสเจริญกิจ ผบก.อ่างทอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย พร้อมรถบัญชาการพร้อมเครื่องเสียง รถฉีดน้ำ รถอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน และรถควบคุมผู้ต้องหา เตรียมพร้อมดูแลความสงบเรียบร้อยบริเวณสถานที่ราชการ หลังมีกระแสข่าวกลุ่มมวลชนต่อต้านรัฐประหารเตรียมชุมนุมบริเวณหน้าศาลากลางทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วและสั่งให้ตั้งจุดตรวจทั่วจังหวัดอ่างทองเพื่อเป็นการป้องปรามไม่ให้มีการทำผิดกฎหมายและประกาศ คสช.โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดเนื่องจากเกรงว่าจะมีมือที่อาศัยช่วงเวลานี้ก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์
เข้มทั่วเมืองบุรีรัมย์
ทหารจากจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ และกองพันทหารราบที่ 4 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23 พัน. 4) ค่ายสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ร่วมกับตำรวจสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ กระจายกำลังออกตั้งจุดตรวจสกัดตามถนนสายหลักที่จะเข้าออกตัวเมือง พร้อมจัดกำลังชุดปราบจลาจลร่วมกับตำรวจ ทหาร เฝ้าตรึงกำลังประตูเข้า-ออก รอบอาคารศูนย์ราชการ และศาลากลางจังหวัดหลังเก่า ที่เคยเป็นจุดที่กลุ่มมวลชนชุมนุมแสดงพลังอย่างเข้มงวดด้วย กำลังทหารส่วนหนึ่งเฝ้าระวังจุดสำคัญต่างๆ อาทิ สถานีขนส่งผู้โดยสาร สถานีรถไฟ และโรงไฟฟ้าแรงสูง รวมทั้งหมด 8 จุด
พล.ต.เสริมศักดิ์ นิยะโมสถ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกบุรีรัมย์ พร้อม พ.ต.อ.ภัทร จันทบาล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ออกตรวจความเรียบร้อยตามจุดตรวจต่างๆ กำชับเน้นตรวจรถที่มีการบรรทุกคนจำนวนมากเป็นพิเศษ
จ.ราชบุรี จังหวัดทหารบกราชบุรี ร่วมกับตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี กองร้อย อส.ราชบุรี สนธิกำลังรักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญหลายจุดในพื้นที่ศูนย์ราชการ เจ้าหน้าที่หลายร้อยนายปิดถนนและประตู 4 ด้านทางเข้าศูนย์ราชการ ศาลากลางจังหวัดราชบุรี ถนนหน้าอำเภอ ถนนหลังศาลากลาง ถนนยุติธรรม พร้อมตั้งจุดสกัด ฝ้าระวังทุกเส้นทาง และทางเข้าตัวเมืองราชบุรี
ร้อยเอ็ดไร้เงากลุ่มต้าน
จ.ร้อยเอ็ด ทหารจากค่ายประเสริฐสงคราม จังหวัดทหารบกร้อยเอ็ด และค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กองพลทหารราบที่ 6 และกำลังตำรวจจากตำรวจภูธรจังหวัดร้อยเอ็ดหลายอำเภอกว่า 500 นาย คุมเข้มสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ดหน้าบึงพลาญชัย ใจกลางเมืองร้อยเอ็ดตามสี่แยกและจุดสำคัญต่างๆ ภายในตัวเมือง สี่แยกสี่มุมเมือง และถนนเลี่ยงเมือง ตั้งแต่เวลา 06.00 น. หลังมีกระแสข่าวว่ากลุ่มเสื้อแดง เสื้อขาว และประชาชนผู้รักประชาธิปไตยในร้อยเอ็ดและจังหวัดใกล้เคียงจะมารวมตัวกันที่บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ฯ เพื่อต้านการรัฐประหาร แต่ไม่มีกลุ่มต้านออกมาเคลื่อนไหว
ตร.-ทหารตรึงแยกราชประสงค์
ส่วนบรรยากาศการเคลื่อนไหวต่อต้านในพื้นที่ในกรุงเทพฯ เวลา 09.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณแยกราชประสงค์ จุดที่กลุ่มต่อต้านรัฐประหารนัดรวมตัวกัน ตามที่นายสมบัติ บุญงามอนงค์ บ.ก.ลายจุด โพสต์เชิญชวนในเฟซบุ๊ก มีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจสนธิกำลังกันตั้งจุดตรวจ 4 จุด คือ แยกเฉลิมเผ่า แยกชิดลม หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริ และหน้าโรงเรียนสอนภาษาเอยูเอ รวมทั้งปิดการสัญจรบนสกายวอล์ก ในส่วนของรถไฟฟ้าบีทีเอสจะงดจอดที่สถานีเพลินจิต ชิดลม และราชดำริ จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ขณะที่การจราจรทางรถยนต์สามารถสัญจรได้ตามปกติทั้งรถส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง ไม่มีการปิดถนน ยกเว้นบนสกายวอล์ก อย่างไรก็ตามห้างสรรพสินค้าอัมรินทร์ พลาซ่า สั่งปิดในวันนี้ ส่วนห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลื่อนเปิดให้บริการไปในเวลา 14.00 น.
ช่วงสายลดกำลังจนท.
เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. เดินทางมายังพื้นที่แยก ราชประสงค์เพื่อตรวจตราความเรียบร้อย จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ได้ปรับยุทธวิธีการดูแลความเรียบร้อยบริเวณแยกราชประสงค์ แยกเฉลิมเผ่า แยกชิดลมและราชดำริ ให้เหลือกำลังทหาร 4 กองร้อย จากเดิม 9 กองร้อย ตำรวจเหลือ 3 กองร้อย จากเดิม 4 กองร้อย เนื่องจากผบ.เหตุการณ์ฝ่ายทหารประเมินสถานการณ์ขณะนี้ว่าน่าจะคลี่คลาย ไม่น่าจะมีการชุมนุมในบริเวณนี้
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า จากเดิมจะปิดการจราจร 4 จุด ได้ผ่อนปรนให้รถที่ไม่มีผู้ชุมนุมผ่านได้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ในส่วนของประชาชนที่จะเดินผ่านเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมแฝงตัวมา และหากบุคคลใดแสดงสัญลักษณ์ต้านรัฐประหาร เจ้าหน้าที่จะจับกุมทันที ส่วนรถไฟฟ้าบีทีเอสจะยังงดจอดใน 3 สถานี ได้แก่ สถานีเพลินจิต ชิดลม และราชดำริ ตามเดิมจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า แม้สถานการณ์จะคลี่คลายแต่เจ้าหน้าที่ยังคงไม่วางใจจะยังคงเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจนอกเครื่องแบบไว้ ส่วนอื่นๆ จะเข้าไปอยู่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ขอยืนยันการตั้งจุดตรวจตามแยกต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าและลดความสูญเสีย นอกจากนี้ยังได้ประสานไปยังผู้บริหารร้านแมคโดนัลด์ เพื่อขอทราบจำนวนสาขาในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อที่จะส่งเจ้าหน้าที่ไปสังเกตการณ์ด้วย ขณะที่ห้างสรรพสินค้าต่างๆ ที่ปิดบริการในวันนี้ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ไม่ได้สั่งให้ปิดแต่อย่างใด แต่ผู้ประกอบการปิดเองเพื่อป้องกันปัญหา
จับสาวใหญ่ใส่หน้ากาก
เวลา 10.40 น. มีหญิงอายุประมาณ 50 ปี ใส่หน้ากากมีข้อความว่า people มายืนอยู่บริเวณแยกราชประสงค์หน้าห้างเกษร พลาซ่า แสดงสัญลักษณ์ชูสองนิ้ว โดยยืนอยู่ 5 นาที จึงถอดหน้ากากแล้วเดินกลับไปทางถ.ราชดำริ มุ่งหน้าแยกประตูน้ำ แต่ก่อนจะเดินถึงแยกประตูน้ำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าควบคุมตัวไว้ ขณะที่หญิงคนดังกล่าวไม่ยอมให้จับกุมระบุว่าเป็นเพียงประชาชน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ไป
ส่วนบรรยากาศที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ปิดการจราจรโดยรอบตั้งแต่เวลา 08.00 น. จากนั้นเวลา 11.15 น. เปิดการจราจรทั้งหมดแล้ว มีเพียง ถ.ดินสอ จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมุ่งหน้าสะพานวันชาติ ยังปิดการจราจร ถ.ราชดำเนินกลาง จากแยกป้อมมหากาฬมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีการตั้งจุดคัดกรองรถ สามารถผ่านได้ 1 ช่องทางเท่านั้น
ชุลมุน-กลางเทอร์มินอล 21
เวลา 11.40 น. ที่ทางเชื่อมบีทีเอสอโศกและห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 หลังมีกระแสจะมีคนมารวมตัวกันทำกิจกรรมต้านรัฐประหาร มีสื่อมวลชนทั้งสื่อไทยและสื่อต่างชาติมารอทำข่าวจำนวนมาก แต่ยังไม่ปรากฏว่ามีประชาชนมาแสดงออกแต่อย่างใด และยังไม่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือทหารมาประจำจุดดังกล่าวเช่นกัน
ต่อมาเวลา 12.00 น. ประชาชนจำนวนหนึ่งรวมตัวกันแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ โดยชู 3 นิ้ว ครอบหัวด้วยถุงกระดาษเขียนข้อความต้านรัฐประหาร และชูนกกระดาษสีขาวสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ หนึ่งในนั้นมีชายอายุประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีฟ้า ชูแผ่นป้ายทำจากกระดาษหนังสือพิมพ์ ระบุข้อความ freedom พร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง freedom และ democracy ติดต่อกันหลายครั้ง
ต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งเดินออกมาจากห้างเข้าจับกุมชายคนดังกล่าวทำให้เกิดความชุลมุนวุ่นวายขึ้น มวลชนพากันร้องกดดันให้ตำรวจปล่อยตัว จนขบวนร่นเข้าไปในห้าง สร้างความโกลาหลและผู้คนที่มาใช้บริการในห้างตื่นตระหนก มีร้านค้าได้รับความเสียหายเล็กน้อย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปล่อยตัวชายคนดังกล่าวไปท่ามกลางเสียงด่าทอของประชาชนว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ
ทหารคุม-สั่งปิดหาง
จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจจำนวนประมาณ 1 กองร้อย นำรถฮัมวี่ติดอาวุธและรถกระบะเข้ามาจอดและวางกำลังอยู่ที่ปากซอยสุขุมวิท 21 หน้าห้างสรรพสินค้าบริเวณชั้น G ขณะที่บนทางเชื่อมรถไฟฟ้า บีทีเอส ชั้น M ยังมีประชาชนบางส่วนแสดงออกโดยการชูมือ 3 นิ้ว
เวลา 12.40 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยพ.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา รักษาการผบช.น. เข้ามาตรวจสอบเหตุและประกาศปิดทำการห้างสรรพสินค้า ขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้อง ประชาชนทั่วไป รวมทั้งผู้สื่อข่าวทยอยเดินทางออกจากพื้นที่ และห้างจะปิดทำการในเวลา 13.00 น. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวปิดทางเข้าออกห้าง ขณะที่มีประชาชนกลุ่มหนึ่งตะโกนว่าเลือกตั้ง เลือกตั้ง เลือกตั้ง
เวลา 13.10 น. เจ้าหน้าที่ทหารใช้รถฮัมวี่เปิดเพลงปลุกใจสร้างความสามัคคี แต่ถูกมวลชนตะโกนไล่และกดดันจนต้องขับรถถอยร่นออกจากหน้าห้างเทอร์มินอล 21 ไปจอดอยู่หน้ารร.เดอะเวสทิน แกรนด์ ส่วนผู้สื่อข่าวและมวลชนจำนวนหนึ่งยังคงยืนออกันอยู่ที่ริมฟุตปาธและเกาะกลางถนนสุขุมวิท ทำให้การจราจรติดขัดพอสมควร
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ทหารนำกำลังปิดทางเชื่อมบีทีเอส อโศก หมดทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่ห้างเทอร์มินอล 21 หลังกลุ่มต้านออกไปจากบริเวณห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ทหาร-ตำรวจยังคงตรึงกำลังไว้ด้านหน้าห้างและบนสกายวอล์ก จนแน่ใจไม่มีกลุ่มต่อต้านจึงถอดกำลังออกจากห้าง และบริเวณถ.สุขุมวิท 21 รวมถึงสกายวอล์ก และเวลา 15.30 น.จึงเปิดให้ประชาชนสัญจรได้ตามปกติ เช่นเดียวกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่เปิดให้บริการในสถานีอโศกได้ตามเดิม ซึ่งก่อนหน้านี้ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ปิดให้บริการ ขณะที่ห้างสรรพสินค้าเทอร์มินอล 21 ยังคงปิดบริการ
ชู 3 นิ้วหน้าหอศิลป์
เวลา 14.10 น. ริมถนนใกล้โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากผู้เห็นเหตุการณ์ว่ามีผู้หญิงอายุ 30-40 ปี เข้าใจว่าเป็นกลุ่มต้านรัฐประหาร ถูกชาย 1 คนรวบตัวขึ้นรถแท็กซี่สีชมพู ทะเบียนเลขท้าย 422 โดยมีชายสวมเสื้อสีดำ 1 คน นั่งเบาะหลังดึงขาหญิงคนดังกล่าวขึ้นรถ คนขับติดเครื่องรออยู่ ชายที่ลงมาดึงตัวบอกว่าจะพาไปสน. แต่หญิงคนดังกล่าวขัดขืนและขอดูบัตรเจ้าหน้าที่ แต่ชายดังกล่าวไม่ยอมก่อนพาตัวขึ้นรถและขับออกไปอย่างรวดเร็วท่ามกลางความตกใจของผู้เห็นเหตุการณ์ มีผู้เก็บกระเป๋าของหญิงคนดังกล่าวที่ตกในที่เกิดเหตุไว้ได้ ตรวจสอบภายพบบัตรประชาชน 2 ใบ ระบุชื่อ น.ส.ไพลิน พ่วงศิริ อยู่เขตสวนหลวง และน.ส.สุนันทา พ่วงศิริ อยู่ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
เวลา 15.30 น. บริเวณทางเดินสกายวอล์กสนามกีฬาแห่งชาติ หน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร สี่แยกปทุมวัน ประชาชนกว่าร้อยคนรวมกลุ่มกันทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหารโดยการชู 3 นิ้ว เป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ เสรีภาพ และภราดรภาพ พร้อมตะโกนเรียกร้องประชา ธิปไตยและการเลือกตั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 1 กองร้อยตั้งแถวควบคุมความสงบเรียบร้อยอยู่บริเวณลานด้านหน้าหอศิลปฯ
ทหารเข้าคุม-เจอโห่
ต่อมามีกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร 4 คันรถหกล้อ เข้ามาเพิ่มกำลัง ทำให้ประชาชนตัดสินใจสลายตัว นัดหมายกันว่าจะเดินทางไปรวมตัวกันที่ลานโพธิ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ช่วงเย็นวันเดียวกัน
จากการสอบถามประชาชนที่มาร่วมกิจกรรมทราบว่า ยังมีคนอีกจำนวนมากมาร่วมต่อต้านรัฐประหาร แต่กิจกรรมเป็นไปในลักษณะมาเร็ว ทำเร็ว สลายตัวเร็ว เพราะเกรงเจ้าหน้าที่จะเข้าปฏิบัติการ ประชาชนหลายคนจึงปะปนอยู่ในที่สาธารณะ บนถนนและในห้างสรรพสินค้า แต่เมื่อได้ยินเสียงโห่ร้องก็จะมารวมกลุ่มกันแสดงสัญลักษณ์เพียงไม่นานและรีบสลายตัว หรือเปลี่ยนสถานที่
เวลา 15.55 น. เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องขยายเสียงประกาศเตือนให้ประชาชนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่หน้าหอศิลปฯ รวมทั้งบนสกายวอล์ก โดยให้ถอยร่นไปชุมนุมที่ฝั่งตรงข้าม (มาบุญครอง) โดยอ้างเป็นคนไทยด้วยกันขอให้เห็นแก่ความสงบของบ้านเมือง ยืนยันไม่ได้ท้าทายแต่เป็นการขอร้อง แต่ประชาชนจำนวนหนึ่งโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ
เวลา 16.00 น. บนสกายวอล์ก มีชายอายุ 30-40 ปี สวมเสื้อกล้ามสีส้ม โพกผ้าขนหนู สีขาวบนหัว อ้างเป็นหมอและเดินเข้ามาถ่ายรูปผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมาทำกิจกรรมต่อต้านรัฐประหาร ทำให้ฝ่ายหญิงไม่พอใจ เดินตามด่าทอและอ้างว่าชายคนดังกล่าวจะถ่ายรูปพวกตนไปให้กองทัพ จนเกิดการกระทบกระทั่งกันเล็กน้อยแต่ไม่มีความรุนแรง
ยืนอ่านหนังสือประท้วงอีก
เวลา 17.00 น. วันที่ 1 มิ.ย. บรรยากาศบริเวณลานสกายวอล์กบีทีเอสช่องนนทรี ใกล้แยกสาทร-นราธิวาส แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ มีกลุ่มประชาชนไม่เกิน 5 คน สอบถามทราบว่ารวมตัวกันเพื่อต่อต้านรัฐประหารและเรียกร้องให้เกิดการเลือกตั้ง โดยกิจกรรมดังกล่าวดำเนินการตามกลุ่ม สันติวิธีอิสระที่เคยมาจัดกิจกรรมอ่านต้านรัฐประหารที่บริเวณนี้ เห็นว่ากิจกรรมนี้เป็นการแสดงออกอย่างสงบ จึงเดินทางมาและพบกับผู้ที่มาร่วมกิจกรรมนี้เหมือนกัน โดยไม่ได้นัดกันหรือรู้จักกันมาก่อน กลุ่มต้านได้สลายตัวไปในเวลา 18.30 น.
ทั้งนี้ ช่วงเย็นบริเวณแยกราชประสงค์ ทหารและตำรวจถอนกำลังออกหมดแล้ว รวมถึงบริเวณสกายวอล์ก และเปิดให้ประชาชนใช้สัญจรตามปกติโดยไม่มีความวุ่นวายใดๆ ด้านบริเวณหอศิลป์ที่มีการปิดการเดินทางบนสกายวอล์ก ตลอดจนด้านหน้าหอศิลป์ฯ ก็เปิดให้ประชาชนใช้การได้ตามปกติ ไม่มีทหารมาประจำจุดเหมือนเมื่อช่วงเช้า
ตร.เร่งคดีหมิ่น-บึ้ม
เวลา 10.30 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รรท.ผบ.ตร.) พร้อม พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. ประชุมเร่งรัดคดีเกี่ยวกับความรุนแรง การใช้ระเบิด อาวุธสงคราม คดีความรุนแรง อื่นๆ และคดีหมิ่นสถาบัน ที่ห้องประชุม 2 อาคาร 1 ตร.
เวลา 12.00 น. พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวว่า ได้เข้ารับฟังรายงานความคืบหน้าของคดีต่างๆ กำชับให้ทุกคนปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา มีข้อมูลพยานหลักฐานทางคดีอย่างไรขอให้ดำเนินการไปตามนั้น ถ้ามีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรก็จะมีการหารือใหม่ เราต้องพยายามชี้แจงในทุกเรื่องให้ประชาชนได้รับทราบได้ บางคดีต้องดูพยานหลักฐานว่าติดขัดอะไร ต้องสามารถตอบคำถามต่อประชาชนได้
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า ได้รับทราบถึงความคืบหน้าคดีที่รับผิดชอบ คดีหมิ่นสถาบัน มี ผู้ต้องหาที่สำคัญที่ถูกออกหมายจับแล้วคือ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ โกตี๋ และนายเอกภพ เหลือรา หรือ ตั้ง อาชีวะ รวมถึงคนที่อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนคดีคือ น.ส.ฉัตรวดี อมรพัฒน์ หรือ โรส ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเร่งรัดสืบสวนสอบสวน ในส่วนของผู้ต้องหาที่มีหมายจับต้องเร่งจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว
ออกหมายจับยิงถล่มเวทีกปปส.
พล.ต.อ.เอก กล่าวว่า กลุ่มคดีอุกฉกรรจ์ที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามและวัตถุระเบิดจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เริ่มจากคดีเหตุยิงนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง เหตุการณ์ปะทะที่ดินแดง รวมไปถึงคดีระเบิดเวทีการชุมนุมของ กปปส.ที่ จ.ตราด คนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มเวที กปปส. ล่าสุดสามารถระบุตัวผู้ร่วมกระทำความผิดได้ทั้งหมด 9 คน อยู่ระหว่างดำเนินการออกหมายจับเพื่อจับกุมมาดำเนินคดี ตนจะเร่งรัดอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทุกคดีคลี่คลายโดยเร็ว
เมื่อถามว่าในส่วนของคดีหมิ่นสถาบัน พอจะทราบที่อยู่ของผู้กระทำความผิดหรือไม่ พล.ต.อ.เอกกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบพิสูจน์ทราบ และอาจมีการหารือกับฝ่ายความมั่นคงหรือในส่วนที่เกี่ยวข้องถึงการนำตัวมาดำเนินคดี ส่วนข่าวลือที่ว่าโกตี๋และตั้ง อาชีวะ หนีออกนอกประเทศไปแล้วนั้นต้องตรวจสอบก่อน หากชัดเจนก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ต้องขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนสอบสวนในเรื่องดังกล่าวก่อน
ค้นอาวุธบ่อพลอย
เวลา 11.00 น. ที่บ้านไม่มีเลขที่ บ้านตางาม ต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ จ.ตราด ของนาง ชวลักษณ์ ชาญชัยภูมิ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลของ อบต.บ่อพลอย อ.บ่อไร่ น.อ.สุบรร ดีนอก หน.ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 1 (บ่อไร่) จ.ตราด พร้อมกำลังทหารกว่า 50 นายเข้าตรวจค้น หลังจากนายสมศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมาและยอมรับว่าเก็บอาวุธสงครามบางส่วนไว้ที่บ้านหลังดังกล่าว
การตรวจค้นพบอาวุธสงครามและเสื้อผ้าชุดฝึกจำนวนมาก ประกอบด้วย ระเบิดแสวงเครื่อง 3 ลูก ระเบิดปิงปองกว่า 100 ลูก และชุดฝึกทหาร 10 ชุด มีผ้าพันคอ ผ้าโพกหัวสีแดง รวมทั้งปืนบีบีกัน 1 กระบอก รวมทั้งมีภาพของนางชวลักษณ์ ที่ถ่ายร่วมกับนาย อริสมันต์ พงศ์เรืองรอง จำนวนหนึ่ง พร้อมเอกสารหนังสือไพร่จำนวนหนึ่ง ระหว่างเข้าตรวจค้นนางชวลักษณ์ไม่อยู่บ้าน
น.อ.สุบรร กล่าวว่า ทหารได้จับนาย สมศักดิ์ เครือข่ายของนายณรงค์ กระจ่างกลาง ที่ยิงทหารพรานเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีอาวุธสงครามจำนวนหนึ่งที่บ้านหลังดังกล่าวจึงได้ติดตามมาดำเนินค้นหาและได้อาวุธสงครามดังกล่าว เชื่อว่ายังมีอาวุธสงครามอีกจำนวนหนึ่งที่ยังซุกซ่อนอยู่ จะตรวจค้นต่อไป
63 ประเทศเตือนมาไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานะล่าสุดของนานาชาติที่ออกประกาศเตือนระมัดระวังการเดินทางมายังไทยสืบเนื่องจากความไม่สงบทางการเมือง และการยึดอำนาจของกองทัพไทยว่า มีจำนวนทั้งหมด 63 แห่งแล้ว ได้แก่ แคนาดา เม็กซิโก บราซิล ชิลี อังกฤษ ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ เบลเยียม สวีเดน เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก ลิทัวเนีย นอร์เวย์ โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก โรมาเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย สโลวัก ลักเซมเบิร์ก ตุรกี อินเดีย คูเวต กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เคนยา ไนจีเรีย อิสราเอล คาซัคสถาน มัลดีฟส์ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน มาเก๊า อินโดนีเซีย บรูไน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
ขณะที่นานาชาติที่ระบุให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง ล่าสุด มี 19 แห่ง ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สเปน อิตาลี ฟินแลนด์ รัสเซีย กรีซ ฮังการี มอลตา อิหร่าน ฮ่องกง เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม โครเอเชีย และไซปรัส
เรียกรายงานตัวเพิ่มอีก 38 คน
เมื่อเวลา 22.00 น. คสช.เรียกให้มารายงานตัวเพิ่มเติมที่สโมสร ทบ. เทเวศร์ รวม 38 คน ดังนี้ คำสั่งที่ 42/2557 ให้มารายงานตัววันที่ 2 มิ.ย. 1.นายคารม พลพรกลาง 2.นาย เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ
คำสั่งที่ 43/2557 ให้มารายงานตัววันที่ 2 มิ.ย. 1.พ.ต.อ.นริศ แสวงจิตร 2.นางหน่อย แดงเป้า 3.น.ส.การิน ประจันทร์ 4.นาย สิทธย กิตติธเนศวร 5.นายประภัสร์ จงสงวน 6.นายจักรพันธุ์ ยมจินดา 7.นายบัญญัติ เย็นใจเฉื่อย 8.นายณรงค์ศักดิ์ พลายอร่าม
คำสั่งที่ 44/2557 ให้มารายงานตัววันที่ 3 มิ.ย. 1.นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ 2.นายเก่งกิจ กิติเรียงลาภ 3.นายรัชพงศ์ โอชาพงศ์ 4.นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย 5.น.ส.อุลัยรัตน์ ชูด้วง 6.นายอัมรินทร์ ใสรัมย์ 7.นายนิพนธ์ ผดุงศิลป์ไพโรจน์ 8.นายปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ 9.นายกิตติศักดิ์ สุจิตตารมย์ 10.น.ส.จิตรา คชเดช 11.นางสลิลทิพย์ ณ พัทลุง 12.นาย สุวัฒน์หล่ำบุตร 13.นายเสรีภาพ สุนทรชัยภัค 14.นายพฤธ์นรินทร์ ธนบริบูรณ์สุข 15.นาย สราวุฒิ ภูธรโยธิน 16.นายวันชัย จงจรูญหิรัณย์ 17.นายธนพร ศรียากูล 18.นายพฤกษ์ พฤกษ์สุนันท์ 19.นายพิพัฒน์ พรรหณสุวรรณ์ 20.นางยุพิณ กองจันดี 21.นายเฉลียว จันเขียด 22.นายสิรภพ กรณ์อรุษ 23.นายเอกราช เนตรดี 24.นายปัญญา สุรกำจรโรจน์ 25.นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ 26.นายธนัท ศรีนิธิโฆษิต 27.น.อ.สุรพล นะวะมวัฒน์ 28.นายคฑาวุธ บูรณ์พิทักษ์
เอพีรายงานอ่านหนังสือประท้วง
วันที่ 1 มิ.ย. สำนักข่าวเอพี สหรัฐ รายงานสถานการณ์ทางการเมืองในไทยว่ากลุ่มต่อต้านรัฐประหารจัดกิจกรรมอ่านหนังสือในที่สาธารณะอีกครั้ง หลังสัปดาห์ก่อนมีผู้ประท้วงราว 1,000 คน รวมตัวอ่านหนังสือในที่สาธารณะ หนังสือที่นำมาอ่านหลักๆ คือ เรื่อง 1984 ของนักเขียน จอร์จ ออร์เวล มีเนื้อหาถึงสังคมที่อยู่ภายใต้การควบคุมอย่างสมบูรณ์โดยรัฐบาล หรือ พี่ใหญ่ ขณะที่ผู้ประท้วงบางส่วนชูป้าย 'ไม่เอาเผด็จการ''สนับสนุนประชาธิปไตย'และ 'ต่อต้านรัฐประหาร'บางคนใส่หน้ากากรูปนักเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อดัง บางคนใช้เทปสีดำปิดปากตัวเอง
เอพีรายงานว่า ถือเป็นการประท้วงเงียบ จากที่คสช.ไม่ให้แสดงความคิดเห็นและประกาศปราบปรามกลุ่มต่อต้านรัฐประหารอย่างเคร่งครัด นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษชนคนหนึ่งกล่าวว่า "ประชาชนโกรธแค้นการรัฐประหารแต่ไม่กล้าแสดงออก เราต้องการหาทางแสดงความรู้สึกต่อต้านของพวกเรา ผ่านวิธีที่หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และการอ่านหนังสือก็เป็นวิธีหนึ่ง"
เอพีระบุว่า วันที่ 1 มิ.ย. ทหารหลายพันนายถูกส่งไปประจำการหลายแห่งทั่วกรุงเทพฯ เพื่อยับยั้งการประท้วงต้านรัฐประหารของหลายกลุ่ม กลุ่มสิทธิมนุษยชนยังกลัวว่าการปิดหูปิดตาประชาชนอาจทวีความรุนแรงขึ้นอีก นอกจากเฟซบุ๊กหลายคนยังกลัวแอพพลิเคชั่น การสนทนาในโทรศัพท์มือถืออื่นๆ ขณะที่ร้านหนังสือคิโนะคุนิยะ นำหนังสือการเมืองหลายเล่มออกจากชั้น
บัวแก้วโต้สหรัฐ-ปชต.ไทยไม่ถอย
วันที่ 1 มิ.ย. เว็บไซต์เดอะสเตรตส์ไทม์ของสิงคโปร์รายงานว่า นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทย กล่าวระหว่างร่วมประชุมความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย หรือแชงกรี-ลา ไดอาล็อก ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า ประเทศไทยยังไม่ถอยจากวิถีประชาธิปไตย โดยกำลังปฏิรูปทางการเมืองและกำลังพยายามทำความเข้าใจระบบเศรษฐกิจและชาติพันธมิตรสำคัญ พร้อมระบุว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เริ่มปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขังและผ่อนปรนมาตรการห้ามแสดงความคิดเห็นในไทยแล้ว
"ไทยจะไม่หายไปจากเวทีโลก เพราะเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ และไทยจะยังคงมีปฏิสัมพันธ์กับประชาคมโลกต่อไป และหวังว่าชาติพันธมิตรจะพิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย" นายสีหศักดิ์กล่าว
ปลัดกระทรวงต่างประเทศกล่าวว่า "เรายังคงยึดมั่นกับวิถีแห่งประชาธิปไตยและต้องการที่รวมกันเป็นหนึ่ง โดยหากพิจารณาสถานการณ์ในไทยก่อนการเข้ายึดอำนาจของคสช. เราไม่มีประชาธิปไตยมีแต่การเมืองที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความรุนแรง สังคมไทยขณะนั้นมุ่งสู่ความแตกแยก และรัฐบาลไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ถ้าเรายังคงมุ่งหน้าไปในทิศทางดังกล่าว เสถียรภาพของไทยและภูมิภาคจะยิ่งสั่นคลอน"
การให้สัมภาษณ์ของปลัดต่างประเทศ ถือเป็นการตอบโต้คำเตือนจากนายชัก เฮเกล รมว.กลาโหมสหรัฐ ที่ระบุเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ไทยกำลังถอยจากวิถีประชาธิปไตยและเรียกร้องให้กองทัพไทยปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขัง ยุติการห้ามแสดงความคิดเห็น และคืนอำนาจให้กับประชาชนชาวไทยอย่างเร็วที่สุดผ่านทางการเลือกตั้งที่เสรีเท่าเทียม พร้อมเผยกระทรวงกลาโหมสหรัฐระงับความช่วยเหลือทางการทหารและยกเลิกการเดินทางเยือนไทยของ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทางการ จนกว่าไทยจะกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย
วันที่ 01 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20:47 น. ข่าวสดออนไลน์ 3 นิ้วสื่อเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. กลุ่มเคลื่อนไหวไม่เอารัฐประหารเริ่มใช้กลยุทธวิธีชูสามนิ้วและมือปิดปากในการแสดงออกตามสถานที่ต่างๆในกรุงเทพฯ และจ.เชียงใหม่ โดยสัญลักษณ์ของ 3 นิ้วดังกล่าว สื่อถึงความหมายของการเรียกร้องเสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ นอกจากนี้ การชู 3 นิ้วยังเป็นสัญลักษณ์ที่ปรากฏในภาพยนตร์เรื่องดังของฮอลลีวุ้ด Hunger Games สื่อนัยยะ 'อารยะขัดขืน'เพื่อการต่อต้านความไม่ชอบธรรมและการกดขี่ข่มเหง
สำหรับคำขวัญ 'เสรีภาพ เสมอภาค และภราดรภาพ'เป็นคำขวัญประจำชาติของฝรั่งเศสที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่า Liberté, Égalité, Fraternité (ลิเบอร์เต, เอกาลิเต, ฟราเตอนิเต) หรือตรงกับภาษาอังกฤษว่า 'Freedom, equality, brotherhood' เกิดขึ้นในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศส
เสรีภาพ คือการเน้นในเสรีภาพของบุคคล หรือ ปัจเจกชนนิยม และได้ขยายไปในเรื่องเสรีภาพในด้านความคิด ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาหาความรู้ การพิมพ์และเผยแพร่ข่าวสาร รวมทั้งเสรีภาพในทางการเมือง
เสมอภาค คือ ความเท่าเทียมกันตามกฎหมายของปัจเจกชน ความเสมอภาคขึ้นอยู่กับหลักความเที่ยงธรรม ความเท่าเทียมกันในเรื่องสิทธิและหน้าที่ เช่น ความเท่าเทียมในด้านการเสียภาษี การรับใช้ชาติโดยการเป็นทหาร และสิทธิในการออกเสียงเลือกตั้ง
ภราดรภาพ คือ ความเป็นพี่เป็นน้องกัน มนุษย์ทุกคนจะต้องมีความเท่าเทียมกันและปฏิบัติต่อกันดุจพี่น้อง ความเป็นพี่เป็นน้องเป็นสิ่งที่ธรรมชาติมอบให้มนุษย์ ไม่เน้นสีผิวหรือเผ่าพันธุ์
|