WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทอื่นลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี

GOV8 copyขอความเห็นชอบให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทอื่นลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี

 

          เรื่อง ขอความเห็นชอบให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐประเภทอื่นลาเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 4 กรกฎาคม2560 โดยไม่ถือเป็นวันลา

        คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) เสนอ ดังนี้

        1. ให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ รวมทั้งลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของหน่วยงานรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจที่เข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 4 กรกฎาคม 2560 ลาอุปสมบทได้ไม่เกิน 15 วัน โดยนับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 13-21 มกราคม 2561 โดยไม่ถือเป็นวันลาเสมือนการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ

        2. ให้ข้าราชการทุกประเภท พนักงานราชการ รวมทั้งลูกจ้างประจำ ลูกจ้างชั่วคราวของส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ที่ไม่เคยลาอุปสมบทระหว่างรับราชการ หากได้ลาอุปสมบทเพื่อถวาย พระกุศลฯ ตามมติคณะรัฐมนตรีในครั้งนี้แล้ว ไม่มีผลกระทบถึงสิทธิในการลาอุปสมบทในอนาคต ซึ่งเป็นการใช้สิทธิลาอุปสมบทครั้งแรกตั้งแต่เริ่มรับราชการ ตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 โดยยังคงได้สิทธิการลาอุปสมบท และยังคงได้สิทธิในการรับเงินเดือนตามปกติตามพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

        3. การใช้สิทธิตามมติคณะรัฐมนตรี ผู้ลาอุปสมบทจะต้องเข้าร่วมอุปสมบทในโครงการที่ส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชนร่วมกับคณะสงฆ์จัดขึ้นเป็นโครงการอย่างชัดเจน และมีการจัดอบรมตามหลักสูตรสำหรับผู้บวชระยะสั้นที่คณะสงฆ์กำหนด ภายในระยะเวลาที่กำหนดของโครงการ หากอุปสมบทเป็นเอกเทศโดยไม่เข้าร่วมโครงการตามที่กำหนด จะไม่ได้รับสิทธิในการลาตามมติคณะรัฐมนตรี

สาระสำคัญของเรื่อง

สปน. รายงานว่า

                1. นายกรัฐมนตรีมีหนังสือเรียนผู้อำนวยการกองงานในพระองค์สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ขอให้นำความขึ้นกราบทูลทราบฝ่าพระบาทว่า รัฐบาลเห็นควรดำเนินโครงการ/กิจกรรมเพื่อถวายพระกุศลเนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ประกอบด้วย การเชิญชวนประชาชนทุกภาคส่วนร่วมกันจัดกิจกรรมถวายพระกุศล เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 เช่น การทำบุญตักบาตร รักษาศีล การเจริญพระพุทธมนต์ การบรรพชาอุปสมบท เป็นต้น ซึ่งสำนักนายกรัฐมนตรี โดย สปน. จะจัดโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศล เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา ในวันที่ 4 กากฎาคม 2560 ด้วย การนี้ความทราบ ฝ่าพระบาทแล้ว

                2. สปน. ได้แต่งตั้งคณะทำงานดำเนินโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 4 กรกฎาคม 2560 โดยมี ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะทำงานและมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นองค์ประกอบ โดยคณะทำงานดังกล่าวได้ประชุมพิจารณาโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศล เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2560 มีมติเห็นชอบให้จัดทำโครงการบรรพชาอุปสมบทถวายพระกุศลสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา 4 กรกฎาคม 2560 ในระหว่างวันที่ 13-21 มกราคม 2561 ณ วัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย และสหพันธรัฐเนปาล มีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน 61 คน

ประกอบด้วย ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ จำนวน 37 คน มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จ พระศรีนครินทราบรมราชชนนี จำนวน 3 คน สปน. จำนวน 15 คน กระทรวงการต่างประเทศ 2 คน กรมการศาสนา จำนวน 2 คน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวน 2 คน รวมทั้งสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทานพระวโรกาสให้คณะทำงานและผู้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว เข้าเฝ้าเพื่อรับผ้าไตรพระราชทานและกราบทูลลาอุปสมบท ในวันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2560 ณ ห้องประชุม 1 ศูนย์ประชุมสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

          ทั้งนี้ การให้ได้รับสิทธิในการเข้าร่วมอุปสมบทเป็นกรณีพิเศษ โดยไม่ถือเป็นวันลา เสมือนเป็นการปฏิบัติราชการและได้รับเงินเดือนตามปกติ และการกำหนดให้การบรรพชาอุปสมบทครั้งนี้ ไม่เป็นเหตุให้เสียสิทธิในการลาอุปสมบทตามปกติในอนาคต ซึ่งเป็นการใช้สิทธิการลาอุปสมบทครั้งแรก เป็นอำนาจของคณะรัฐมนตรีตามนัยแห่งพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่น ๆ ในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555

        ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 3 มกราคม 2561

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!