มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 12 ธันวาคม 2560
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 17 December 2017 22:47
- Hits: 9767
มติคณะรัฐมนตรี แต่งตั้ง 12 ธันวาคม 2560
1. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงสาธารณสุข)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางภัทร์อนงค์ จองศิริเลิศ เภสัชกรเชี่ยวชาญ (ด้านเภสัชกรรม) กลุ่มงานเทคนิคบริการ สำนักบริหารการสาธารณสุข สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่ง นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ (ด้านอาหารและยา) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2560 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
2. เรื่อง รัฐบาลสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทย (กระทรวงการต่างประเทศ)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ กรณีรัฐบาลสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์มีความประสงค์ขอแต่งตั้ง นางลัยลา อะห์มัด บะฮาอุดดีน (Mrs. Laila Ahmed Bahaa-Eldin) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทย โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายฮาซิม อัสสัยยิด บะดะวีย์ อัฏฏอฮิรีย์ (Mr. Hazem Elsayed Badawy Eltahry) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
3. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพลังงาน)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพลังงานเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 2 ราย ดังนี้
1. นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ รองอธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
2. นายหร่อหยา จันทรัตนา รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
4. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงอุตสาหกรรม)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 7 ราย ดังนี้
1. นายวิษณุ ทับเที่ยง รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
2. นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ดำรงตำแหน่ง เลขาธิการคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย
3. นายพรเทพ การศัพท์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
4. นางอนงค์ ไพจิตรประภากรณ์ รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
5. นางเบญจมาพร เอกฉัตร์ รองเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
6. นายวีรศักดิ์ ศุภประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
7. นายจุลพงษ์ ทวีศรี รองอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ดำรงตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
5. เรื่อง แต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงเกษตรและสหกรณ์)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 6 ราย ดังนี้
1. นายณรงค์ อ่อนสอาด ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายลักษณ์ วจนานวัช)]
3. นายธีระ วงษ์เจริญ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร)]
4. นายอภินันท์ ซื่อธานุวงศ์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
5. นายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายลักษณ์ วจนานวัช)]
6. นางกุลรัศมิ์ อนันต์พงษ์สุข ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ [รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร)]
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
6. เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง จำนวน 2 ราย ดังนี้
1. พลเอก ธนา วิทยวิโรจน์ ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
2. พลเอก ณัฐติพล กนกโชติ ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
7. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (กรณีพ้นตำแหน่งเนื่องจากอายุครบ 70 ปีบริบูรณ์)
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่างลงและที่จะว่าง ดังนี้
1. ศาสตราจารย์ตีรณ พงศ์มฆพัฒน์ ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
2. รองศาสตราจารย์ชโยดม สรรพศรี ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินในคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
8. เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลังเสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ จำนวน 7 คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิชุดเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2560 ดังนี้
1. นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม
2. รองศาสตราจารย์กุลภัทรา สิโรดม
3. นายอนุชิต อนุชิตานุกูล
4. นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล
5. นายอภิชาติ ชินวรรโณ
6. รองศาสตราจารย์กำจร ตติยกวี
7. พลเอก วุฒินันท์ ลีลายุทธ
9. เรื่อง แต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอแต่งตั้ง นายเลิศวิโรจน์ โกวัฒนะ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการบริหารสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
10.เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอแต่งตั้ง นางสาวพจนี อรรถโรจน์ภิญโญ ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันการบินพลเรือน แทน นายกุศล แย้มสอาด กรรมการเดิมที่ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
11.เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแบบผังภูมิ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการแบบผังภูมิชุดใหม่ จำนวน 12 คน ดังนี้
1. ผู้ทรงคุณวุฒิภาคราชการ
1.1 นายมงคล รักษาพัชรวงศ์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์
1.2 นายพิศิษฐ์ แสง-ชูโต สาขาอุตสาหกรรม
1.3 นายกำพล วรดิษฐ์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์
1.4 นางสาวอรพินท์ เจียรถาวรสาขาวิทยาศาสตร์
1.5 นายชำนาญ ปัญญาใสสาขาวิทยาศาสตร์
1.6 นางสาวนุชนาถ เกษมพิบูลย์ไชย สาขานิติศาสตร์
1.7 นายวิมาน กฤตพลวิมาน สาขานิติศาสตร์
1.8 นายเศรษฐบุตร อิทธิธรรมวินิจ สาขานิติศาสตร์
2. ผู้ทรงคุณวุฒิภาคเอกชน
2.1 นายนันทชัย ทองแป้น สาขาวิศวกรรมศาสตร์
2.2 นายวันชัย รัตนวงษ์ สาขาวิศวกรรมศาสตร์
2.3 นายจิรศักดิ์ รอดจันทร์สาขานิติศาสตร์
2.4 นายปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง สาขานิติศาสตร์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
12.เรื่อง มอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ดังนี้
1. นายลักษณ์ วจนานวัช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
13.เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์)
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
14.เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในกรณีที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไม่อาจปฏิบัติราชการได้ จำนวน 2 ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้ครอบคลุมถึงกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมด้วย ดังนี้
1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว)
2. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
15.เรื่อง ขอแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (กระทรวงกลาโหม)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง ดังนี้
1. พลเอก กิติกร ธรรมนิกาย ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม
2. พลเอก พลภัทร วรรณภักตร์ ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
16.เรื่อง แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอแต่งตั้ง นายนิวัติ สุธีมีชัยกุล เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
17.เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 333/2560 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
ตามที่ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่159/2557 ลงวันที่21 ตุลาคม 2557 เพื่อให้การดำเนินงานของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี เป็นไปอย่างมีระเบียบแบบแผน ตลอดจนการประสานงานในด้านนิติบัญญัติให้ดำเนินการไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการสนับสนุนการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีในการเสนอร่างกฎหมายและดำเนินการอื่นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนิติบัญญัติ ส่งผลให้การบริหารราชการแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเรียบร้อย และต่อมาได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 257/2557 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2557 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 314/2559 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2559 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 273/2560 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2560 นั้น
เนื่องจากได้มีประกาศพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2560 จึงสมควรปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการดังกล่าวเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินการตามความในมาตรา 184 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) และ (9) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ประกอบกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 และมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2560 จึงให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 159/2557 ลงวันที่ 21 ตุลาคม 2557 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 257/2557 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2557 คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 314/2559 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2559 และคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 273/2560 ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2560 และให้แต่งตั้งคณะกรรมการ ในการบริหารราชการแผ่นดินที่เกี่ยวกับกิจการของสภาขึ้นคณะหนึ่ง เรียกว่า คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (ปนช.) โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
1. องค์ประกอบ
1.1 คณะที่ปรึกษา
(1) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัยที่ปรึกษา/กรรมการ
(2) นายพีระศักดิ์ พอจิตที่ปรึกษา/กรรมการ
(3) นายเจตน์ ศิรธรานนท์ที่ปรึกษา/กรรมการ
(4) นายสมชาย แสวงการที่ปรึกษา/กรรมการ
(5) นางโฉมศรี อารยะศิริที่ปรึกษา/กรรมการ
(6) พลเอก เยาวดนัย ภู่เจริญยศที่ปรึกษา/กรรมการ
(7) นางฐะปาณีย์ อาจารวงศ์ที่ปรึกษา/กรรมการ
1.2 คณะกรรมการ
(1) นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานกรรมการ
(2) นายสุรชัย ภู่ประเสริฐรองประธานกรรมการ คนที่หนึ่ง
(3) พลเอก สกล ชื่นตระกูลรองประธานกรรมการ คนที่สอง
(4) นายกิตติ วะสีนนท์ กรรมการ
(5) พลเรือเอก จักรชัย ภู่เจริญยศกรรมการ
(6) ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษธำรง ทัศนาญชลีกรรมการ
(7) รองศาสตราจารย์ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ กรรมการ
(8) พลเอก โปฎก บุนนาคกรรมการ
(9) พันตำรวจโท พงษ์ชัย วราชิตกรรมการ
(10) นายมหรรณพ เดชวิทักษ์กรรมการ
(11) นายวิทวัส บุญญสถิตย์กรรมการ
(12) นายสมพล พันธุ์มณีกรรมการ
(13) นางเสาวณี สุวรรณชีพกรรมการ
(14) พลอากาศเอก อาคม กาญจนหิรัญกรรมการ
(15) พลโท อำพน ชูประทุมกรรมการ
(16) นางนันทวรรณ ชื่นศิริกรรมการและเลขานุการที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำด้านยุทธศาสตร์ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
1.3 ผู้แทนจากส่วนราชการ
(1) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกากรรมการ
(2) ผู้แทนสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกรรมการ
1.4 ฝ่ายเลขานุการ
(1) ผู้อำนวยการกองประสานงานการเมืองกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
(2) ผู้อำนวยการกลุ่มประสานงานการเมือง 1กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ กองประสานงานการเมือง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
(3) เจ้าหน้าที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ ที่ได้รับมอบหมาย จำนวน 2 คน
2. อำนาจหน้าที่
2.1 พิจารณาดำเนินการในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับการบริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเป็นไปด้วยความราบรื่นและเหมาะสม
2.2 ประสานงานกับสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อให้มีความเข้าใจที่สอดคล้องกันในเรื่องหรือญัตติใด ๆ ในที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ การเสนอร่างกฎหมายและดำเนินการอื่น ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านนิติบัญญัติให้ดำเนินการอย่างราบรื่น
2.3 พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทางการทำงานและมีมติเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบหรือเห็นชอบแล้วแต่กรณี ทั้งนี้ มติของคณะกรรมการต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลหรือของนายกรัฐมนตรีหรือมติคณะรัฐมนตรี
2.4 เชิญส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง และจัดส่งเอกสารข้อมูลให้แก่คณะกรรมการ
2.5 ให้ประธานกรรมการมีอำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือปฏิบัติงานในเรื่องต่าง ๆ ของคณะกรรมการได้ตามความจำเป็น
2.6 ปฏิบัติงานอื่น ๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย
ทั้งนี้ ให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทำหน้าที่เลขานุการของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ สำหรับการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมให้เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติมและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานให้เบิกจ่ายตามระเบียบทางราชการโดยให้เบิกจ่ายจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 7 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป
18.เรื่อง คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 334/2560 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค
คณะรัฐมนตรีรับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 334/2560 เรื่อง มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีได้มีคำสั่งที่ 312/2559 เรื่อง มอบหมายให้รองนายก รัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2559 นั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และมาตรา 38 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2550 และข้อ 13 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค พ.ศ. 2547 นายกรัฐมนตรีจึงให้ยกเลิกคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 312/2559 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2559 และมีคำสั่งมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค ดังต่อไปนี้
1. พื้นที่
1.1 รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) กำกับและติดตาม
การปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่ 1 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสระบุรี
เขตตรวจราชการที่ 2 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดชัยนาท จังหวัดลพบุรี จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดอ่างทอง
เขตตรวจราชการที่ 4 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม จังหวัดราชบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี
เขตตรวจราชการที่ 5 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม
1.2 รองนายกรัฐมนตรี (พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง) กำกับและติดตาม การปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่ 10 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย จังหวัดหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานี
เขตตรวจราชการที่ 11 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร จังหวัดสกลนคร
เขตตรวจราชการที่ 12 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม จังหวัดร้อยเอ็ด
1.3 รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่ 3 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดสระแก้ว
เขตตรวจราชการที่ 9 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดจันทบุรี จังหวัดชลบุรี จังหวัดตราด จังหวัดระยอง
1.4 รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่ 15 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดลำปาง จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลำพูน
เขตตรวจราชการที่ 16 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา จังหวัดแพร่
เขตตรวจราชการที่ 17 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดตาก จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดสุโขทัย จังหวัดอุตรดิตถ์
เขตตรวจราชการที่ 18 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ จังหวัดพิจิตร จังหวัดอุทัยธานี
1.5 รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) กำกับและติดตาม การปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่6 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขตตรวจราชการที่ 7 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดระนอง
1.6 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่8 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล
1.7 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) กำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในพื้นที่ ดังนี้
เขตตรวจราชการที่ 13 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดอำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี
เขตตรวจราชการที่ 14 ของสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสุรินทร์
2. การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคตามคำสั่งนี้ หมายถึง การตรวจราชการ การขอให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรายงานเหตุการณ์และผลการปฏิบัติงานตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ยุทธศาสตร์ของชาติ ยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด การประสานราชการ เพื่อให้เกิดการบูรณาการยุทธศาสตร์กลุ่มจังหวัด และยุทธศาสตร์จังหวัด ไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม การเร่งรัด การติดตามผล การให้คำแนะนำช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ และการประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ รวมถึงการตรวจสอบความถูกต้องในการดำเนินโครงการและการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐ โดยให้คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด มีส่วนร่วมในการตรวจสอบด้วย
3. ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีรายงานปัญหาอุปสรรค แนวทางการแก้ไข ตลอดจนข้อเสนอแนะต่าง ๆ อันเนื่องจากการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในเขตตรวจราชการหรือพื้นที่ในความรับผิดชอบต่อนายกรัฐมนตรี
4. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจัดให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำเขตตรวจราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นฝ่ายเลขานุการของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีติดภารกิจจำเป็นเร่งด่วน สามารถมอบหมายให้ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีประจำเขตตรวจราชการปฏิบัติหน้าที่แทนแล้วรายงานผลการปฏิบัติงานให้ทราบต่อไป
5. ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดผู้ตรวจราชการกระทรวง และหัวหน้าส่วนราชการ ในจังหวัดที่เกี่ยวข้องเสนอข้อมูล อำนวยความสะดวก และให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งนี้ด้วย
6. ให้เบิกค่าใช้จ่ายในการกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีจากงบประมาณของสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี หมวดเงินอุดหนุนทั่วไป โครงการเพิ่มขีดสมรรถนะในการกำกับและติดตาม การปฏิบัติราชการในภูมิภาคของรองนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ ตั้งแต่ วันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 ธันวาคม 2560