WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซียว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทย

GVOขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซียว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทย

 

         เรื่อง ขออนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซียว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและมาเลเซีย

       คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอ ดังนี้

      1. อนุมัติร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซีย ว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและมาเลเซีย

     2. อนุมัติให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้แทนรัฐบาลไทยลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ

     ทั้งนี้ ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างบันทึกความเข้าใจฯ เพิ่มเติมจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไปแล้ว หากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้ สมช. สามารถดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558

 

สาระสำคัญของเรื่อง

     ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซียว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างไทยและมาเลเซีย มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งมาเลเซีย โดยมีองค์ประกอบของคณะกรรมการร่วมฯ ของทั้งสองฝ่าย ดังนี้ ฝ่ายไทย รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ รองปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ฝ่ายมาเลเซีย เช่น รองเลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศ รองเลขาธิการกระทรวงกลาโหม รองเลขาธิการกระทรวงกิจการภายใน เป็นต้น

    และมีประเด็นความร่วมมือ ได้แก่ การบริหารจัดการความมั่นคงชายแดน การก่อการร้ายสากล และแนวคิดสุดโต่ง ภัยคุกคามความมั่นคงข้ามแดนและข้ามชาติ และสาขาความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง กับประเด็นความมั่นคงอื่น ๆ ตามที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกัน ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจฯ ฉบับนี้ไม่ก่อให้เกิดพันธกรณีตามกฎหมายภายในหรือกฎหมายระหว่างประเทศ ตลอดจนขั้นตอนทางกฎหมาย และจะไม่ถือว่ามีผลในการกำหนดหรือสร้างข้อผูกพันทางกฎหมายหรือข้อบังคับทั้งทางตรงและทางอ้อม และมีผลทันทีหลังจากการลงนาม

        ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 กันยายน 2560

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!