การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 1
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Saturday, 30 September 2017 19:12
- Hits: 2675
การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 1
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 1
2. เห็นชอบต่อท่าทีของไทยสำหรับใช้ในการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะฯ สมัยที่ 1
ทั้งนี้ ในกรณีมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงแก้ไขท่าทีของไทยดังกล่าว ที่คณะรัฐมนตรีได้เคยอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไปแล้ว หากไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีเคยอนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไปแล้ว ให้สามารถดำเนินการได้โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
สาระสำคัญของเรื่อง
องค์ประกอบคณะผู้แทนไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะว่าด้วยปรอท สมัยที่ 1 รวมทั้งสิ้น 37 คน ประกอบด้วย
(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยฯ
(2) ประธานอนุกรรมการอนุสัญญามินามาตะฯ
(3) ผู้แทน ทส.
(4) ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม
(5) ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข
(6) ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ
(7) ผู้แทนกระทรวงการคลัง และ
(8) ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้อนุมัติองค์ประกอบคณะผู้แทนไทยแล้วเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2560
กรอบท่าทีของไทยสำหรับการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะฯ สมัยที่ 1 มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. สนับสนุนการดำเนินงานให้เป็นไปตามหลักการและจุดมุ่งหมายของอนุสัญญามินามาตะฯ ในการปกป้องสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อมจากการปลดปล่อยสู่บรรยากาศและการปล่อยสู่ดินหรือน้ำของปรอทและสารประกอบปรอทจากกิจกรรมของมนุษย์ให้สอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
2. คำนึงถึงสภาพการณ์ต่าง ๆ และความต้องการจำเพาะของประเทศกำลังพัฒนา โดยเฉพาะความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มขีดความสามารถในระดับประเทศ และความร่วมมือในระดับภูมิภาคด้านการจัดการสารเคมีอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจร โดยผ่านการให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคและทางด้านการเงิน การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคีต่าง ๆ เพื่อปฏิบัติตามพันธกรณีของอนุสัญญามินามาตะฯ
3. คำนึงถึงหลักการความรับผิดชอบร่วมกันในระดับที่แตกต่างกันตามขีดความสามารถและสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ
4. สนับสนุนความร่วมมือและการบูรณาการร่วมกันในการดำเนินงานตามพันธกรณี ข้อตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องที่ประเทศไทยเป็นภาคีและข้อตกลงที่สอดคล้องกับศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศ
5. สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ทั้งนี้ หากมีข้อเจรจาใดที่นอกเหนือจากท่าทีการเจรจานี้ และไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อประเทศไทย ให้เป็นดุลยพินิจของหัวหน้าคณะผู้แทนไทย
นอกจากนี้ การประชุมรัฐภาคีอนุสัญญามินามาตะฯ สมัยที่ 1 ยังจะพิจารณาทางเลือกในการจัดตั้งสำนักเลขาธิการถาวรของอนุสัญญามินามาตะฯ และคัดเลือกคณะกรรมการบังคับใช้และปฏิบัติตาม รวมทั้งการพิจารณาสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักเลขาธิการอนุสัญญามินามาตะฯ ในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ด้านยุทธศาสตร์ ด้านเทคนิควิชาการและวิทยาศาสตร์ ด้านกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย และการกำกับดูแล ความช่วยเหลือด้านเทคนิควิชาการ ทรัพยากรและกลไกการเงิน ด้านการประเมินผลและการรายงานผล และประเด็น อื่น ๆ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 19 กันยายน 2560