ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดทำกรอบความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของไทยไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

Details: Category: มติ ครม.; Published: Saturday, 16 September 2017 20:08; Hits: 2583

ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดทำกรอบความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมของไทยไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดทำกรอบความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดศ.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดทำกรอบความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทยไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ระหว่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งราชอาณาจักรไทยและสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (Memorandum of Understanding between the Ministry of Digital Economy and Society of Thailand and the International Telecommunication Union to Establish a Framework of Cooperation on the Digital Thailand)

2. เห็นชอบว่าในกรณีที่มีผู้ลงนามฝ่ายสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union : ITU) เป็นเลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ผู้ลงนามฝ่ายไทยจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและในกรณีที่ผู้ลงนามฝ่ายสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศเป็นผู้แทนเลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ผู้ลงนามฝ่ายไทยจะเป็นปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

สาระสำคัญของร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันที่ไม่มีผลผูกพันทางกฎหมายเพื่อสร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ขอบเขตความร่วมมือ ประกอบด้วย

1) ส่งเสริมเยาวชนและอาสาสมัครไทยในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

2) พัฒนาศักยภาพของบุคลากรและพัฒนาศูนย์ความเป็นเลิศด้านดิจิทัล ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยที่เกี่ยวกับ ICT รวมทั้ง การวิจัยประยุกต์ในเรื่องอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) วิทยาการหุ่นยนต์และการฝึกอบรมเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities)

3) สร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยทางไซเบอร์และการป้องกันโครงสร้างพื้นฐานข้อมูลสารสนเทศที่มีความสำคัญยิ่ง รวมถึงสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และการคุ้มครองเด็กในโลกออนไลน์ และ

4) ส่งเสริมผู้ประกอบการตั้งต้นในอุตสาหกรรมดิจิทัล และผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ให้สามารถเข้าสู่ระบบตลาดโลกได้

ทั้งนี้ บันทึกความเข้าใจดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้นับจากวันที่ลงนามเป็นต้นไป และเนื้อหาในบันทึกความเข้าใจนี้มีผลบังคับใช้จนกว่าจะมีการขอสิ้นสุดบันทึกความเข้าใจ

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 12 กันยายน 2560