ขออนุมัติจัดทำ และลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต

Details: Category: มติ ครม.; Published: Sunday, 03 September 2017 18:41; Hits: 2205

ขออนุมัติจัดทำ และลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต

เรื่อง ขออนุมัติจัดทำและลงนามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบต่อร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเอลซัลวาดอร์ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการ (Agreement between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of El Salvador on Visa Exemption for Holders of Diplomatic and Official Passports)

2. อนุมัติให้รัฐมนตรีช่วยว่ากระทรวงการต่างประเทศลงนามในความตกลงตามข้อ 1 ระหว่างการเดินทางไปเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของกรอบเวทีความร่วมมือระหว่างอาเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ 8 (8th Foreign Ministers’ Meeting of the Forum for East Asia-Latin America Cooperation: FEALACFMM 8)

3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม (ตามข้อ 2)

4. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างความตกลงดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของไทย ให้ กต. สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง

สาระสำคัญของร่างความความตกลงฯ มีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างสองประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างพลเมืองของสองประเทศด้วยการตกลงกันอย่างฉันมิตรบนพื้นฐานของหลักแห่งความเสมอภาคและหลักการต่างตอบแทน

ทั้งนี้ ความตกลงดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่รัฐของทั้งสองประเทศสามารถเดินทางเพื่อติดต่อประสานงานระหว่างกันได้สะดวกมากขึ้น โดยผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของทั้งสองประเทศจะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้าไปยัง ออกจาก ผ่าน และพำนักในดินแดนของอีกฝ่าย ในกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน นับจากวันที่เดินทางเข้า โดยความตกลงฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้โดยไม่มีกำหนดระยะเวลา จนกว่าจะบอกเลิกโดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษร และในกรณีที่มีข้อพิพาทใด ๆ เกิดขึ้นจากการดำเนินการหรือใช้ความตกลงนี้จะได้รับการระงับอย่างฉันมิตรด้วยการเจรจาและการปรึกษาหารือระหว่างภาคีคู่สัญญา

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 29 สิงหาคม 2560