WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

รายงานผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และข้อเสนอแผนงานโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

GOVPolicyรายงานผลการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และข้อเสนอแผนงานโครงการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

       คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เสนอ ดังนี้

               1. รับทราบผลการประชุม กนช. ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2560

               2. รับทราบและเห็นชอบการกำหนดพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งอย่างเป็นระบบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Area-Based) จำนวน 8 พื้นที่ ครอบคลุม 18 จังหวัด ประกอบด้วย

               1) ลุ่มน้ำเลยตอนล่าง

               2) ลุ่มน้ำห้วยหลวง

               3) ลุ่มน้ำแม่น้ำสงคราม

               4) ลุ่มน้ำพุง-น้ำก่ำ

               5) ลุ่มน้ำชีตอนบน

               6) ลุ่มแม่น้ำชีตอนกลาง

               7) ลุ่มน้ำมูลตอนบน

               8) ลุ่มน้ำมูลตอนล่าง เพื่อให้มีความชัดเจนในการบูรณาการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง

               3. เห็นชอบให้กรมชลประทาน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมทรัพยากรน้ำเสนอโครงการที่มีความพร้อมเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 เพิ่มเติม รวม 348 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 8,820 ล้านบาท มีพื้นที่ได้รับประโยชน์รวม 549,700 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น 107 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือใน 8 พื้นที่ โดยมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ กนช. รวบรวม พิจารณา และวิเคราะห์ความเหมาะสมของโครงการและงบประมาณเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณต่อไป

               4. เห็นชอบให้ฝ่ายเลขานุการ กนช. รวบรวมแผนงานโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาอุทกภัยและภัยแล้งในระยะยาว (ปี 2563-2569) ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยแผนงานดังกล่าวจะต้องสามารถแก้ไขปัญหาเชิงพื้นที่ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของพื้นที่เสี่ยงรุนแรง และร้อยละ 50 ของพื้นที่ทั้งหมด

               5. รับทราบแนวทางแก้ไขปัญหาสิ่งกีดขวางทางน้ำตามที่ฝ่ายเลขานุการ กนช. เสนอ และ ให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดการดำเนินการแก้ไข จัดการสิ่งกีดขวางทางน้ำ หรือกำหนดมาตรการรองรับกรณีเกิดอุทกภัย หากสิ่งกีดขวางดังกล่าวยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยกำหนดให้การแก้ไขสิ่งกีดขวางลำน้ำทั้งหมดต้องแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2560 สำหรับสิ่งกีดขวางทางน้ำ จำนวน 12 แห่ง ที่ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบ กรมทรัพยากรน้ำ จะได้ประสานกับทางจังหวัดเพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขต่อไป

                ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 22 สิงหาคม 2560

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!