ขออนุมัติร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 18 June 2017 22:02
- Hits: 10696
ขออนุมัติร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูต
เรื่อง ขออนุมัติร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถาน ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐคาซัคสถานว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามใน ร่างความตกลงฯ
3. มอบหมายให้ กต. จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนาม
4. อนุมัติในหลักการให้ กต. มีหนังสือแจ้งสาธารณรัฐคาซัคสถานเพื่อให้ความตกลงฯ มีผลบังคับต่อไป
5. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างความตกลงฯ โดยไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ให้ กต. และคณะผู้แทนไทยที่เข้าร่วมประชุมดังกล่าวสามารถดำเนินการได้ โดยนำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ผู้ที่ได้รับสิทธิ พลเมืองที่ถือหนังสือเดินทางการทูตและหนังสือเดินทางพิเศษ/หนังสือเดินทางราชการ จะได้รับการยกเว้นการตรวจตราสำหรับการเดินทางเข้า พำนัก ออกหรือผ่านดินแดนของคู่ภาคีเป็นระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน แต่หากบุคคลนั้นได้รับมอบหมายให้เป็นสมาชิกในคณะผู้แทนทางทูต สถานทำการกงสุล หรือผู้แทนในองค์การระหว่างประเทศที่มีหน้าที่ในดินแดนของรัฐแต่ละคู่ภาคี รวมถึงสมาชิกในครอบครัวที่อาศัยอยู่รวมกันกับบุคคลเหล่านั้น จะได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับการเดินทางเข้า ออก หรือพำนักในดินแดนของ คู่ภาคีเป็นระยะเวลาไม่เกิน 90 วัน (สามารถขยายระยะเวลาได้)
2. เงื่อนไข ต้องไม่มีส่วนร่วมในการทำงาน การทำธุรกิจ และการทำกิจกรรมอื่นที่มีค่าตอบแทนภายในดินแดนของคู่ภาคี และต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐผู้รับในระหว่างการพำนักในดินแดนนั้น
3. การระงับข้อพิพาท โดยการปรึกษาหารือและการเจรจาระหว่างคู่ภาคี
4. การบังคับใช้ เมื่อผ่านไป 30 วัน นับจากวันที่ได้รับการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรครั้งสุดท้าย จากภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผ่านช่องทางการทูต และไม่มีกำหนดเวลา จนกว่าจะได้รับการบอกเลิก (เป็นหนังสือ) ผ่านช่องทางการทุตล่วงหน้า 6 เดือน
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 13 มิถุนายน 2560