ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 9 ฉบับ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 28 May 2017 14:40
- Hits: 1400
ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 9 ฉบับ
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ รวม 9 ฉบับ ประกอบด้วย
1) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี พ.ศ. ....
2) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดบึงกาฬ พ.ศ. ....
3) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พ.ศ. ....
4) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดปราจีนบุรี พ.ศ. ....
5) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดภูเก็ต พ.ศ. ....
6) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดระนอง พ.ศ. ....
7) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดศรีสะเกษ พ.ศ. ....
8) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดสงขลา พ.ศ. ....
9) ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดหนองบัวลำภู พ.ศ. ....
ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
สาระสำคัญ ร่างพระราชกฤษฎีกา รวม 9 ฉบับ เป็นการกำหนดเขตพื้นที่สำหรับการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (14 กรกฎาคม 2558) เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ซึ่งกำหนดเขตพื้นที่สำหรับการอนุญาตให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน โดยกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการขึ้นใหม่ในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดระนอง จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดหนองบัวลำภู และกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการเพิ่มเติมในท้องที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดภูเก็ตและจังหวัดสงขลา ทั้งนี้ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน และเพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชนในท้องที่เป็นไปอย่างเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพในการควบคุมดูแลมากยิ่งขึ้น
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 พฤษภาคม 2560