ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏานว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน การจ้างแรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 26 February 2017 16:30
- Hits: 4506
ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏานว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน การจ้างแรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
เรื่อง ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏานว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน การจ้างแรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรภูฏานว่าด้วยความร่วมมือด้านแรงงาน การจ้างแรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้แทนฝ่ายไทยในการลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นผู้ลงนามในเอกสารดังกล่าว
4. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้ รง. ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
สาระสำคัญ
ร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการเกี่ยวกับความร่วมมือด้านแรงงาน การจ้างแรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ร่วมกัน โดยการแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับระบบ โครงการ การศึกษา ความเชี่ยวชาญ งานวิจัยในด้านต่าง ๆ รวมถึงการเปรียบเทียบกฎหมายด้านแรงงาน การจ้างแรงงาน การบริหารจัดการแรงงาน การเพิ่มผลิตภาพแรงงาน และแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเพื่อการป้องกันการจ้างแรงงานผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์เพื่อการจ้างแรงงาน เป็นต้น พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีกระบวนการจัดส่งและรับคนงานอย่างโปร่งใส และมีประสิทธิภาพระหว่างสองประเทศซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างราชอาณาจักรไทยและราชอาณาจักรภูฏานในภาพรวมด้วย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560