หลักเกณฑ์และวิธีการเยียวยาให้แก่ข้าราชการทหารผู้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน (กระทรวงกลาโหม)
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Saturday, 21 January 2017 20:18
- Hits: 1282
หลักเกณฑ์และวิธีการเยียวยาให้แก่ข้าราชการทหารผู้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน (กระทรวงกลาโหม)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการเยียวยาให้แก่ข้าราชการทหารผู้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน ตามที่กระทรวงกลาโหม (กห.) เสนอ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 ทั้งนี้ เป็นไปตามมติคณะกรรมการข้าราชการทหาร ครั้งที่ 11/59 เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2559
สาระสำคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการเยียวยาให้แก่ข้าราชการทหารผู้ได้รับผลกระทบจากความเหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน สรุปได้ดังนี้
1. ข้าราชการทหารผู้รับเงินเดือนระดับ ป.1 ป.2 ป.3 น.1 น.2 น.3 น.4 น.5 น.6 และ น.7 หากได้รับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือนเกินกว่าชั้นสูงสุดของระดับตามบัญชีอัตราเงินเดือนแนบท้ายกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการทหาร ให้ได้รับเงินเดือนตามบัญชีการเยียวยาอัตราเงินเดือนข้าราชการทหาร
2. ข้าราชการทหารผู้รับเงินเดือนระดับ ป.1 ป.2 ป.3 น.1 น.2 น.3 น.4 น.5 น.6 และ น.7 ที่รับเงินเดือนเต็มขั้นตามบัญชีอัตราเงินเดือนแนบท้ายกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการทหาร และได้รับเงินค่าตอบแทนร้อยละ 2 หรือร้อยละ 4 หรือร้อยละ 6 ตามผลการพิจารณาบำเหน็จประจำปี ให้นำเงินตอบแทนนั้นมาแปลงเป็นขั้นเงินเดือนตามบัญชีการเยียวยาอัตราเงินเดือนข้าราชการทหาร ในขั้น 0.5 ขั้น หรือ 1 ขั้น หรือ 1.5 ขั้น แล้วแต่กรณี
3. ข้าราชการทหารผู้ซึ่งได้รับเงินเดือนตามบัญชีการเยียวยาอัตราเงินเดือนข้าราชการทหาร เมื่อได้รับเงินเดือนจนถึงชั้นสูงสุดของระดับแล้ว ให้ได้รับค่าตอบแทนพิเศษตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายค่าตอบแทนพิเศษของข้าราชารและลูกจ้างประจำผู้ได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างถึงขั้นสูงหรือใกล้ถึงขั้นสูงของอันดับหรือตำแหน่ง
4. ข้าราชการทหารผู้ได้รับเงินเดือนตามบัญชีการเยียวยาอัตราเงินเดือนข้าราชการทหารที่ได้รับ การแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอัตราสูงขึ้น และหรือได้รับยศสูงขึ้นให้ได้รับเงินเดือนตามบัญชีอัตราเงินเดือนแนบท้ายกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการทหารหรือให้ได้รับเงินเดือนตามบัญชีการเยียวยาอัตราเงินเดือนข้าราชการทหารในชั้นที่เทียบได้ตามที่ กห. กำหนด
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 มกราคม 2560