การจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างปี พ.ศ. 2559-2562
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 12 June 2016 18:34
- Hits: 4305
การจัดทำแผนปฏิบัติการว่าด้วยโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างปี พ.ศ. 2559-2562
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการว่าด้วยโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างปี พ.ศ. 2559-2562
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยในแผนปฏิบัติการว่าด้วยโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างปี พ.ศ. 2559-2562
3. มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) จัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเป็นผู้ลงนามในแผนปฏิบัติการว่าด้วยโครงการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างปี พ.ศ. 2559-2562
4. หากมีความจำเป็นสามารถปรับปรุงถ้อยคำของแผนปฏิบัติการฯ ได้เท่าที่ไม่ขัดกับหลักการและสาระสำคัญที่จะได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีหรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
สาระสำคัญของเรื่อง
ร่างแผนปฏิบัติการฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างไทยกับอินเดียให้ขยายผลยิ่งขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นลักษณะแผนงานที่กำหนดรายละเอียดโครงการหรือกิจกรรมด้านวัฒนธรรมที่จะดำเนินการร่วมกันอย่างต่อเนื่องในระยะเวลา 4 ปี ครอบคลุมกิจกรรมการแลกเปลี่ยนการเยือนและจัดกิจกรรมทางด้านวัฒนธรรมระหว่างกัน มุ่งเน้นการส่งเสริมความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองฝ่ายมีความสนใจร่วมกันและมีศักยภาพ และคล้ายคลึงกับแผนปฏิบัติการฯ ฉบับที่ผ่านมา อาทิ ด้านโบราณคดี การอนุรักษ์โบราณสถาน ศิลปวัตถุและศาสนสถาน การจัดนิทรรศการด้านพุทธศาสนา โดยแต่ละฝ่ายจะจัดนิทรรศการ จำนวน 1 ครั้ง การแลกเปลี่ยนการจัดการแสดงของคณะนาฏศิลป์ และศิลปะการแสดงพื้นบ้าน รวมทั้งความร่วมมือในสาขาทัศนศิลป์ จดหมายเหตุ หอสมุด สื่อสิ่งพิมพ์ หัตถกรรมพื้นบ้าน ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนบุคลากรที่มีชื่อเสียง จำนวนไม่เกิน 3 คน และการแปลงานวรรณกรรม เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างให้ประชาชนทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งด้านวัฒนธรรม และเป็นประโยชน์ต่อการขยายผลทางการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยวระหว่างสองฝ่ายต่อไป
แผนปฏิบัติการนี้มีข้อกำหนดที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายตกลงร่วมกันซึ่งประกอบด้วย ข้อกำหนดทั่วไป เช่น ภาคีคู่สัญญาจะมีสิทธิแลกเปลี่ยนกันใช้วัสดุอุปกรณ์ในสาขาสารสนเทศ วิทยุ และโทรทัศน์ในรายการของตนและภาคีผู้รับจะต้องไม่มอบรายการดังกล่าวให้แก่ฝ่ายที่สาม ภาคีผู้ส่งจะต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับสิทธิของผู้เขียนและศิลปิน รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และข้อกำหนดด้านการเงิน เช่น ในเรื่องการแลกเปลี่ยนนิทรรศการ ได้กำหนดให้ภาคีผู้ส่งจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งอุปกรณ์การจัดนิทรรศการจนถึงเมืองของประเทศผู้รับ และภาคีผู้รับจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งอุปกรณ์การจัดนิทรรศการไปยังสถานที่อื่น ๆ ภายในประเทศผู้รับ รวมทั้ง ภาคีผู้รับจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการติดตั้งนิทรรศการ การรักษาความปลอดภัยของอุปกรณ์การจัดนิทรรศการและการเผยแพร่ รวมถึงการจัดเตรียมแคตตาล็อก แผ่นพับ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการประกันภัยตลอดระยะเวลาการจัดนิทรรศการในดินแดนตน เป็นต้น ทั้งนี้ แผนปฏิบัติการดังกล่าว จะมีผลใช้บังคับนับแต่วันที่ลงนาม และจะมีผลใช้บังคับจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 และอาจต่ออายุอีกเป็นเวลา 3 ปี ก่อนที่แผนปฏิบัติการฯ จะหมดอายุ ทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาร่วมและประเมินแผนปฏิบัติการนี้ก่อนการต่ออายุหรือสิ้นสุดแผนปฏิบัติการ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 มิถุนายน 2559