ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 15 May 2016 20:44
- Hits: 1375
ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
เรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา)
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา
2. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กค. เสนอว่า
1. กระทรวงศึกษาธิการได้จัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรี (20 กรกฎาคม 2553) และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา พ.ศ. 2553 ลงวันที่ 23 สิงหาคม 2553 (ปรับปรุงเป็นระเบียบฯ พ.ศ. 2554 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2544) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนและจัดสรรสำหรับการส่งเสริมการผลิต การวิจัย การพัฒนา และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาซึ่งกองทุนฯ ได้รับงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2554 ในวงเงิน 5 ล้านบาท เป็นทุนเริ่มต้นเพื่อดำเนินการจัดตั้ง และอีก 19 ล้านบาท ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สนับสนุนงบประมาณสมทบเข้ากองทุนฯ ในปีงบประมาณ 2553 – 2559 จำนวน 208.4 ล้านบาท ปัจจุบันมียอดเงินกองทุนฯ รวมจำนวนประมาณ 232.4 ล้านบาท ทั้งนี้ ปัจจุบันกองทุนฯ ยังไม่ได้เปิดรับเงินบริจาคแต่อย่างใด
2. กค. พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อเป็นการจูงใจให้มีการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษา เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการศึกษาและการเรียนรู้ของคนไทยให้ทั่วถึง เท่าเทียม และมีคุณภาพทั่วประเทศตามนโยบายของรัฐบาล สมควรยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีการศึกษา ทั้งนี้ คาดว่ามาตรการนี้จะมีผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษีประมาณ 200 ล้านบาทต่อปี แต่จะมีส่วนช่วยลดภาระงบประมาณภาครัฐในการส่งเสริมสนับสนุนการผลิต การวิจัย การพัฒนา และการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาได้อีกทางหนึ่งด้วย
สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้ให้กับบุคคลธรรมดาและบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคเงินหรือทรัพย์สินให้แก่กองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ดังนี้
1. บุคคลธรรมดา ให้ยกเว้นสำหรับการบริจาคเงินเท่าจำนวนเงินที่บริจาคแต่เมื่อรวมกับเงินบริจาค ตามมาตรา 47 (7) แต่ประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมินหลังหักค่าใช้จ่ายและหักค่าลดหย่อนนั้น
2. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ให้ยกเว้นสำหรับเงินได้เท่าจำนวนเงินหรือราคาทรัพย์สินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายเพื่อการกุศลสาธารณะหรือเพื่อการสาธารณประโยชน์ตามมาตรา 65 ตรี (3) แห่งประมวลรัษฎากรแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 2 ของกำไรสุทธิ
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 พฤษภาคม 2559