ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีในการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกความตกลงว่าด้วยมาตรการของรัฐเจ้าของท่าเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงผิดกฎหมาย
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 01 May 2016 15:11
- Hits: 3101
ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีในการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกความตกลงว่าด้วยมาตรการของรัฐเจ้าของท่าเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงผิดกฎหมาย
เรื่อง ขอความเห็นชอบคณะรัฐมนตรีในการเข้าร่วมเป็นภาคีสมาชิกความตกลงว่าด้วยมาตรการของรัฐเจ้าของท่าเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุมขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบการเข้าเป็นภาคีตามความตกลงว่าด้วยมาตรการรัฐเจ้าของท่าเพื่อป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations : FAO)
2. มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พิจารณาดำเนินการภาคยานุวัติความตกลงฉบับนี้
3. มอบหมายกรมประมงเป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก (Contact point) ในการประสานการปฏิบัติตามมาตรา 16 ของความตกลงฉบับนี้
สาระสำคัญของเรื่อง
กษ. รายงานว่า
1. การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงผิดกฎหมาย เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย และเป็นที่ยอมรับจากนานาชาติ โดยมีองค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กรที่ประเทศไทยจำเป็นต้องเป็นภาคีและให้สัตยาบัน เพื่อแสดงเจตจำนงในการให้ความร่วมมือในการอนุรักษ์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างยั่งยืน
2. ความตกลงนี้จะไม่กระทบต่อสิทธิเขตอำนาจ และหน้าที่ของภาคีทั้งหลาย ที่มีตามบทบัญญัติของกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้งกำหนดให้แต่ละภาคีจัดตั้งกลไกด้านการสื่อสารสำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารทางอิเล็กทรอนิกส์โดยตรง และจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการติดต่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารตามบทบัญญัติของความตกลงนี้แต่ละภาคีจะต้องให้ FAO ทราบถึงการแต่งตั้งดังกล่าวด้วย โดยจะมีผลใช้บังคับภายใน 30 วัน เมื่อมีประเทศเข้าเป็นภาคีครบจำนวน 25 ประเทศ ซึ่งขณะนี้มีประเทศเข้าเป็นภาคีแล้วจำนวน 24 ประเทศ หากประเทศไทยเข้าเป็นภาคีจะเป็นประเทศที่จะทำให้ความตกลงฉบับนี้มีผลบังคับใช้ทันที และเกิดผลดีกับประเทศไทยในการแสดงเจตจำนงที่จะแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายอย่างชัดแจ้ง
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 26 เมษายน 2559