หลักเกณฑ์การประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจ
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Saturday, 12 March 2016 23:44
- Hits: 4412
หลักเกณฑ์การประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจ
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบหลักเกณฑ์การประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจเพื่อให้คณะรัฐมนตรีใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณาลดหย่อนค่ารายปีให้แก่รัฐวิสาหกิจ
2. ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
3. ในกรณีที่รัฐวิสาหกิจมีเหตุผลความจำเป็นที่จะขอลดหย่อนค่ารายปี โดยอาศัยอำนาจตามนัยมาตรา 31 วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 เนื่องจากประสบปัญหาทางการเงินหรือการดำเนินกิจการ เมื่อกระทรวงเจ้าสังกัดของรัฐวิสาหกิจนั้นเสนอเรื่องไปยังสำนักเลขาธิการ คณะรัฐมนตรีให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งเรื่องดังกล่าวให้กระทรวงการคลังรับไปพิจาณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจนได้ข้อยุติก่อน และให้กระทรวงการคลังนำผลการพิจารณาดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 30 วัน
สาระสำคัญของเรื่อง
กค.รายงานว่า
เพื่อลดประเด็นปัญหาข้อโต้แย้งของรัฐวิสาหกิจที่ต้องเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน รวมทั้งเพื่อยุติประเด็นปัญหาการขอลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจที่ยังคงค้างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้ กค. จึงเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์การประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจเพื่อใช้เป็นเกณฑ์ประกอบการพิจารณาลดหย่อนค่ารายปีให้แก่รัฐวิสาหกิจ ในช่วงระยะเวลาก่อนที่กฎหมายว่าด้วยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจะถูกนำมาใช้บังคับแทนกฎหมายว่าด้วยภาษีโรงเรือนและที่ดิน ดังนี้
1. ให้ มท.ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินค่ารายปีเครื่องจักรเป็นส่วนควบ ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ ให้ชัดเจน ดังนี้
1.1 ให้ใช้อัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยของปีก่อนหน้าการประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินปีภาษีปัจจุบันเป็นเกณฑ์คำนวณผลตอบแทนของเครื่องจักเพื่อกำหนดเป็นค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินกรณีของรัฐวิสาหกิจ เนื่องจาก กค. มีระเบียบ กค. ที่กำหนดให้รัฐวิสาหกิจต้องฝากเงินกับธนาคารที่เป็นรัฐวิสาหกิจเท่านั้น
1.2 ให้นำค่ารายปีของเครื่องจักรที่หักค่าเสื่อมราคาและได้คำนวณผลตอบแทนของเครื่องจักร ตาม 1.1 มารวมกับค่ารายปีของโรงเรือนเพื่อใช้เป็นฐานในการคำนวณการลดค่ารายปีของโรงเรือนที่มีเครื่องจักรเป็นส่วนควบที่สำคัญลงเหลือ 1 ใน 3 ตามมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ
2. ให้ มท.ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การประเมินค่ารายปีทรัพย์สินประเภทโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นกับที่ดิน ซึ่งใช้ต่อเนื่องกับโรงเรียน หรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่นนั้น เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการปฏิบัติให้ชัดเจนในแต่ละกรณีปัญหาของรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
2.1 กรณีทรัพย์สินที่เจ้าของซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจดำเนินกิจการเอง
(1) ให้ประเมินค่ารายปีทรัพย์สินนั้นโดยใช้วิธีเทียบเคียงตามบัญชีราคาค่าเช่ามาตรฐานกลางเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่อเดือน
(2) หากเจ้าของซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจนำทรัพย์สินบางส่วนไปใช้หาผลประโยชน์ และมีรายได้ ให้ประเมินค่ารายปีจากรายได้ที่ได้รับจริงจากการนำทรัพย์สินนั้นไปใช้หาประโยชน์ โดยต้องมีเอกสารหลักฐานประกอบเพื่อแสดงจำนวนเงินรายได้ ที่ได้รับรับจากการดำเนินการดังกล่าว
2.2 กรณีทรัพย์สินที่เจ้าของซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจนำทรัพย์สินของตนไปให้เช่าและมีรายได้หรือผลตอบแทนจากการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สินที่ให้เช่านั้น ตามสัญญาที่ได้ตกลงร่วมกันเป็นรายปีที่ชัดเจน ให้ประเมินค่ารายปีทรัพย์สินที่ให้เช่าดังกล่าวจากรายได้หรือผลตอบแทนตามสัญญาเช่าที่รัฐวิสาหกิจและผู้เช่าได้ตกลงร่วมกัน
2.3 กรณีที่ผู้เช่าเป็นเจ้าของทรัพย์สินประเภทโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น (ผู้เช่าเป็นเจ้าของโรงเรือน และเช่าเฉพาะที่ดินจากรัฐวิสาหกิจ) ให้ประเมินค่ารายปีทรัพย์สินดังกล่าวโดยใช้บัญชีกำหนดราคาค่าเช่ามาตรฐานกลางเฉลี่ยต่อตารางเมตรต่อเดือน
3. ให้รัฐวิสาหกิจที่เสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาลดหย่อนค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดิน โดยอาศัยอำนาจตามนัยมาตรา 31 วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ และเรื่องของรัฐวิสาหกิจที่ยังคงค้างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้ยอมรับผลการประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินหาก อปท.ได้ประเมินค่ารายปีภาษีโรงเรือนและที่ดินของรัฐวิสาหกิจตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ตามมาตราแห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน ฯ และตามหลักเกณฑ์ที่ กค. เสนอ ในข้อ 1 และข้อ 2 ข้างต้นแล้ว เว้นแต่รัฐวิสาหกิจที่เสนอเรื่องขอลดหย่อนค่ารายปี โดยอาศัยอำนาจตามนัยมาตรา 31 วรรคสามแห่งพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินฯ ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา จะเป็นผู้รับภาระค่าภาษีโรงเรือนและที่ดินทั้งหมด และรัฐวิสาหกิจนั้นมีเหตุผลและความจำเป็นที่จะขอให้มีการบรรเทาภาระค่ารายปี เนื่องจากรัฐวิสาหกิจประสบปัญหาทางการเงินหรือการดำเนินการ ทั้งนี้ ค่ารายปีที่จะลดหย่อนให้แก่รัฐวิสาหกิจนั้น ๆ ต้องคำนึงถึงรายได้ของท้องถิ่นและความเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีทั่วไปรายอื่น ๆ ในท้องถิ่นนั้น เป็นองค์ประกอบในการพิจารณาด้วย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 8 มีนาคม 2559