รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย-ออสเตรเลีย
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 28 February 2016 15:37
- Hits: 5497
รายงานผลการเจรจาการบินระหว่างไทย-ออสเตรเลีย
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการของบันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-ออสเตรเลียและร่างหนังสือแลกเปลี่ยนทางการทูตของไทยและออสเตรเลีย
2. มอบให้กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ดำเนินการแลกเปลื่ยนหนังสือทางการทูตยืนยันการมีผลใช้บังคับของบันทึกความเข้าใจดังกล่าวต่อไป โดยให้ กต. สามารถปรับถ้อยคำตามความเหมาะสมที่ไม่กระทบกับสาระสำคัญ
บันทึกความเข้าใจระหว่างไทย-ออสเตรเลียที่ คค. เสนอในครั้งนี้ลงนามเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2551 เป็นการปรับปรุงสิทธิการบินเพื่อให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายมีความยืดหยุ่นในการวางแผนการให้บริการ และเป็นการส่งเสริมการเดินทางระหว่างทั้งสองประเทศและเครือข่ายการบินให้ขยายตัวเพิ่มมากขึ้น โดยบันทึกความเข้าใจดังกล่าวมีสาระสำคัญ ดังนี้
สาระสำคัญ / รายละเอียดของบันทึกความเข้าใจ
ความจุความถี่และสิทธิรับขนการจราจร
- จากเดิมสัมประสิทธิ์เท่ากับ 35 หน่วยความจุโบอิ้ง 747-400/สัปดาห์ เพิ่มสัมประสิทธิ์เป็น 40 หน่วยความจุโบอิ้ง 747-400/สัปดาห์ มีผลใช้บังคับในทันที และเป็น 45 หน่วยความจุโบอิ้ง 747-400/สัปดาห์ ในเดือนมีนาคม 2552
- ขอเพิ่มสัมประสิทธิ์ของอากาศยานแบบแอร์บัส 380 เท่ากับ 1.5 หน่วยความจุโบอิ้ง 747-400/สัปดาห์ และแบบ B787-900 เท่ากับ 0.95 หน่วยความจุโบอิ้ง 747-400/สัปดาห์
สิทธิความจุเที่ยวบินเฉพาะสินค้า
- จากเดิมกำหนดให้สายการบินของแต่ละฝ่ายมีสิทธิทำการบินเที่ยวบินขนส่งสินค้าได้ฝ่ายละ 7 เที่ยว/สัปดาห์ ปรับเป็นให้สายการบินแต่ละฝ่ายบริการเที่ยวบินขนส่งเฉพาะสินค้าได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องความจุความถี่ หรือแบบอากาศยาน
สิทธิรับขนการเจรจาพักค้างของตนเอง
- จากเดิมจำกัดเวลาของการขนส่งจราจรพักค้างไม่เกิน 72 ชั่วโมง ปรับเพิ่มเป็นสายการบินที่กำหนดของแต่ละฝ่ายใช้สิทธิรับขนการจราจรและพักค้างของตนเองได้ทุกคู่เมืองในอาณาเขตของอีกฝ่ายหนึ่งโดยไม่มีข้อจำกัด
การใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกัน
- ปรับเพิ่มสิทธิสำหรับการใช้ชื่อเที่ยวบินร่วมกันกับสายการบินของประเทศที่สาม มีผลใช้บังคับในทันที เป็น 35 เที่ยว/สัปดาห์ และเพิ่มเป็น 40 เที่ยว/สัปดาห์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2552
อื่นๆ
- เพิ่มเรื่องการเช่าอากาศยาน และการเปลี่ยนแบบอากาศยาน โดยการเปลี่ยนแบบอากาศยานจะต้องเป็นไปตามหลักการของหนึ่งต่อหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่ลักษณะดาวกระจาย
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559