การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ปี 2559
- Details
- Category: มติ ครม.
- Published: Sunday, 28 February 2016 15:30
- Hits: 5553
การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ปี 2559
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ ดังนี้
1. รับทราบขั้นตอนการนำเข้าแรงงานเวียดนาม
2. เห็นชอบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ปี 2559 ได้ดังนี้
1) เห็นชอบการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลังวันที่ 31 มีนาคม 2559 การรายงานตัวเพื่อขออนุญาตทำงาน โดยบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่เคยทำงานอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย 2 กลุ่ม [กลุ่มที่ถือบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรชมพู) และกลุ่มที่มีเอกสารที่ประเทศต้นทางออกให้] กำหนดให้สิ้นสุดการทำงานในวันเดียวกัน คือวันที่ 31 มีนาคม 2561 ทั้งนี้ไม่รวมแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่เข้ามาทำงานอย่างถูกกฎหมายซึ่งได้จดทะเบียนในช่วงเวลาที่ผ่านมาทั้ง 2 ระยะ
2) เห็นชอบในหลักการให้แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่ได้รับการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อรอการส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรในทุกประเภทกิจการทำงานได้ครั้งละไม่เกิน 2 ปี และจะต่ออายุการทำงานอีกได้ครั้งละ 2 ปี ไม่เกิน 4 ครั้ง รวมแล้วไม่เกิน 8 ปี โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง ซึ่งการต่ออายุแต่ละครั้งให้เป็นตามเงื่อนไขที่กรมการจัดหางานกำหนด
3) เห็นชอบการกำหนดคำนิยามกิจการแปรรูปสัตว์น้ำเพิ่มเติม โดยกำหนดคำนิยามของการแปรรูปสัตว์น้ำให้รวมถึงการคัดแยกปลา และสัตว์น้ำอื่น ๆ
4) เห็นชอบการออกกฎกระทรวงกำหนดรูปแบบใบอนุญาตทำงาน โดยให้ รง. ปรับปรุงกฎกระทรวงเพื่อกำหนดรูปแบบใบอนุญาตทำงานให้มีลักษณะและข้อความสอดคล้องตรงกับที่ระบุไว้ด้านหลังบัตรชมพู โดยให้มีผลย้อนหลังครอบคลุมในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบการดำเนินการกับกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา หลังวันที่ 31 มีนาคม 2559 ซึ่งได้จัดทำทะเบียนประวัติ และขออนุญาตทำงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน – 29 กรกฎาคม 2559
สาระสำคัญของเรื่อง
รง. รายงานว่า
1. สหภาพยุโรปมีข้อแนะนำให้ขยายระยะเวลาการทำงานของแรงงานต่างด้าวในกิจการประมงทะเล และกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ ต่อเนื่องเป็นเวลา 4 ปี โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศ และต่ออายุการทำงานได้อีก 4 ปี และ รง. ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการ รวมถึงได้รับข้อร้องเรียนว่ามีการขาดแคลนแรงงานคัดเลือกปลาในแต่ละท้องที่เป็นจำนวนมาก ซึ่งแรงงานเหล่านี้มีความสำคัญต่อธุรกิจประมง เนื่องจากเป็นจุดแรกที่จะคัดแยกปลาให้เหมาะสมแก่ตลาดแต่ละประเทศ จึงให้ รง. กำหนดคำนิยามของกิจการแปรรูปสัตว์น้ำให้ครอบคลุมการคัดแยกปลาหรือสัตว์ทะเลอื่น ๆ ซึ่งปัจจุบันมีหน่วยงานรับผิดชอบงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลายหน่วยงาน ไม่ได้ดำเนินการร่วมกันในภาพรวม ไม่มีหน่วยงานรับผิดชอบที่ชัดเจน การจัดระบบแรงงานต่างด้าวไม่สามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์เบ็ดเสร็จ ข้อมูลแรงงานต่างด้าวไม่สมบูรณ์ มีกฎหมายที่เกี่ยวข้องหลายฉบับซึ่งมีหน่วยงานรับผิดชอบ
2. แรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา ที่มารายงานตัวเพื่อขอรับบัตรชมพู ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2558 จะสิ้นสุดการผ่อนผันให้อยู่ในราชอาณาจักร และสิ้นสุดการได้รับอนุญาตให้ทำงานในวันที่ 31 มีนาคม 2559 จำเป็นต้องมีแนวทางการดำเนินการมารองรับในวันที่ 1 เมษายน 2559 เพื่อมิให้การจ้างงานสิ้นสุดลงซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่าง ๆ
3. แนวทางการนำเข้าแรงงานเวียดนาม คือให้นายจ้างยื่นความต้องการนำเข้าแรงงานกับบริษัทจัดหางานเวียดนามโดยตรง หรือกรณีนายจ้างไม่สะดวกที่จะติดต่อกับบริษัทจัดหางานเวียดนามก็สามารถเลือกใช้บริการบริษัทจัดหางานไทยที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายได้
4. การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว ปี 2559
4.1 การบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวหลังวันที่ 31 มีนาคม 2559
4.2 กำหนดระยะเวลาให้แรงงานต่างด้าวทำงานได้ครั้งละไม่เกิน 2 ปี และต่ออายุการทำงานอีกได้ครั้งละ 2 ปี ไม่เกิน 4 ครั้ง รวมแล้วไม่เกิน 8 ปี โดยไม่ต้องเดินทางกลับประเทศต้นทาง
5. การกำหนดคำนิยามกิจการแปรรูปสัตว์น้ำเพิ่มเติม โดยให้การคัดเลือก คัดแยก ปลา / หรือสัตว์ทะเลอื่น ๆ เช่น กุ้ง ปู ปลาหมึก หอย ฯลฯ รวมอยู่ ในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ เพื่อให้การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวในกิจการแปรรูปสัตว์น้ำครอบคลุมการทำงานของแรงงานต่างด่าวที่มีลักษณะใกล้เคียงกัน
6. การออกกฎกระทรวงกำหนดรูปแบบใบอนุญาตทำงาน โดยให้ รง. ปรับปรุงกฎกระทรวงเพื่อกำหนดรูปแบบใบอนุญาตทำงาน ให้มีลักษณะและข้อความสอดคล้องตรงกับที่ระบุไว้ด้านหลังบัตรชมพู โดยให้มีผลย้อนหลังครอบคลุมในวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ความเห็นชอบการดำเนินการกับกลุ่มแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ลาว และกัมพูชา หลังวันที่ 31 มีนาคม 2559 ซึ่งได้จัดทำทะเบียนประวิติ และขออนุญาตทำงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน-29กรกฎาคม 2559
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2559