WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ขอความเห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์ด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศของเอเปค ปี 2559 ถึง 2563

ขอความเห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์ด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศของเอเปค ปี 2559 ถึง 2563

 

     คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ทก.) เสนอ ดังนี้

     1. เห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์ด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศของเอเปค ปี 2559 ถึง 2563 ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย ให้ ทก. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง

     2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองแผนยุทธศาสตร์ด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศของเอเปค ปี 2559 ถึง 2563

สาระสำคัญของเรื่อง

      ร่างแผนยุทธศาสตร์ของคณะทำงานเอเปคด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศ ปี 2559 ถึง 2563 เป็นเอกสารที่รัฐมนตรีที่กำกับดูแลด้านโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศของเขตเศรษฐกิจเอเปคจะให้การรับรองในระหว่างการประชุมเพื่อแสดงเจตนารมณ์ในการขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) โดยสาระสำคัญของร่างแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์หลัก ดังนี้

      1. การพัฒนาและการเร่งสร้างนวัตกรรม มีเป้าหมายในการกระตุ้นให้เกิดการใช้ประโยชน์จากไอซีทีเชิงนวัตกรรมและสร้างสรรค์ โดยมีแผนการดำเนินงาน ได้แก่

      1.1 การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านความเชื่อมโยงในภูมิภาคเอเปค การวิเคราะห์ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมเพื่อส่งเสริมการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐาน การผลักดันให้เกิดการใช้บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลให้กับประชาชน

      1.2 การพัฒนาความรู้ความเข้าใจร่วมกันของกฎระเบียบและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศด้านนโยบาย การศึกษาข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคและแนวโน้มด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

      1.3 การแสวงหาโอกาสเชิงกลยุทธ์ในการใช้เทคโนโลยีไอซีทีระหว่างสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค

      1.4 การสนับสนุนการเป็นผู้นำทางความคิดเกี่ยวกับไอซีทีโดยผ่านกลไกหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างผู้นำด้านไอซีทีจากหน่วยงานภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และนักวิชาการในการแลกเปลี่ยนความรู้

       2. การส่งเสริมสภาวะแวดล้อมด้านไอซีทีที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ มีเป้าหมายมุ่งเน้นการส่งเสริมความเชื่อมั่นในการใช้ไอซีทีสำหรับภาคธุรกิจและการค้า โดยมีแผนการดำเนินงาน ดังนี้

      2.1 การสนับสนุนและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ

      2.2 การสร้างความตระหนักด้านความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

      2.3 การพัฒนาศักยภาพและทักษะให้กับบุคลากรไอซีทีและผู้บริโภคด้านความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ

      2.4 การสนับสนุนความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจเอเปค

      3. การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค มีเป้าหมายมุ่งเน้นความสอดคล้องด้านกฎระเบียบและด้านเทคนิค โดยมีแผนการดำเนินงาน ได้แก่

     3.1 การส่งเสริมการเปิดเสรีการค้าโดยการพัฒนามาตรฐานข้อมูลในระดับสากล

     3.2 การส่งเสริมความเชื่อมโยงระดับสถาบัน โดยการสร้างสภาวะแวดล้อมที่มีกฎระเบียบเอื้อต่อการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ การส่งเสริมการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาชิกเขตเศรษฐกิจ การพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อและการสื่อสารระหว่างอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ ทางอินเทอร์เน็ต (Internet of Things) เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ

    3.3 การส่งเสริมความเชื่อมโยงระดับประชาชนโดยการพัฒนาทักษะด้านไอซีทีเพื่อเพิ่มโอกาสในการเคลื่อนย้ายบุคลากรวิชาชีพด้านไอซีที การพัฒนาไอซีทีให้รองรับความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการลดอัตราค่าบริการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ระหว่างเขตเศรษฐกิจเอเปค

    4. การสร้างความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลให้มีความเข้มแข็ง มีเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีแผนการดำเนินงาน ได้แก่

    4.1 การส่งเสริมการบูรณาการการทำงานร่วมกับคณะทำงานเอเปคสาขาอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการเป็นผู้นำทางความคิดและการให้คำปรึกษา การร่วมกันจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับไอซีที

    4.2 การส่งเสริมความร่วมมืออย่างกว้างขวางกับภาคอุตสาหกรรม องค์กรพหุภาคี หน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ต เพื่อร่วมกันพัฒนา ดำเนินการ และส่งเสริมแนวคิดริเริ่มด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ การสร้างความรับผิดชอบต่อสังคม การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

   5. ร่างแผนยุทธศาสตร์ด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศของเอเปค ปี 2559 ถึง 2563 เป็นเอกสารที่นำเสนอและให้การรับรองโดยที่ประชุม APEC TELMIN ครั้งที่ 10 ไม่มีการลงนาม เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินความร่วมมือด้านโทรคมนาคมและสารสนเทศของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปค และหลักการพื้นฐานของเอเปคจะเป็นไปโดยความสมัครใจและไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย ดังนั้น ร่างเอกสารดังกล่าวจึงไม่น่าจะเข้าข่ายเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557

   ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 มีนาคม 2558

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!